เรื่องที่เสียวเป่าเป็นบุตรชายของฉู่อี้หานห้ามให้ผู้อื่นรู้เด็ดขาด มิเช่นนั้นจะเกิดหายนะที่ไม่คาดฝัน ด้วยเหตุนี้ซูเนี่ยนจึงสวมหน้ากากหนังมนุษย์ที่ทำขึ้นพิเศษให้กับเสียวเป่าซูเนี่ยนมองเสียวเป่านิ่งๆ มือของนางเอื้อมไปบีบแก้มของเสียวเป่าโดยสัญชาตญาณ“ท่านแม่” เสียวเป่าน้อยใจ“อะแฮ่ม เอ่ออะไรนะ ลูก ตอนนี้เจ้าเริ่มโตแล้ว ใส่หน้ากากนี้ไม่ได้แล้ว แม่เลยทำอันใหม่ให้ อันนี้ระบายอากาศได้ดีกว่า ไม่อึดอัดเลย” ซูเนี่ยนหยิบหน้ากากหนังมนุษย์ชิ้นใหม่ออกมา“ท่านแม่ เมื่อใดเสียวเป่าถึงจะไม่ต้องใส่หน้ากากหรือ” สีหน้าของเสียวเป่าหมองหม่น วันนี้เขาได้อ่านตำราที่เสี่ยวฮุยหามาให้ จึงรู้ความหมายของคำว่าลูกนอกคอก แต่ทว่าเขามีรูปลักษณ์เหมือนคนคนนั้นจริงๆ นะ“เสียวเป่า แม่สัญญา รอให้แม่ช่วยท่านลุงของเจ้าออกมาได้ก่อน เราจะออกจากเมืองหลวงพร้อมกันทันที ดีไหมจ๊ะ” ซูเนี่ยนสวมกอดเสียวเป่าด้วยความรู้สึกผิดเรื่องอื่นนางสามารถทดแทนได้ แต่ความรักจากบิดา นางไม่สามารถทดแทนได้จริงๆ“ก็ได้ เช่นนั้นเราสัญญากันแล้วนะ เสียวเป่าจะเชื่อฟังท่านแม่ เสียวเป่าจะเอาเพียงท่านแม่”บนใบหน้าของเสียวเป่าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม มองจนซูเ
“ท่านอ๋อง หากข้าช่วยองค์หญิงใหญ่จิ้งคังได้ และสามารถช่วยให้เด็กในท้องของนางคลอดออกมาอย่างปลอดภัย จะสามารถยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้าได้หรือไม่” ซูเนี่ยนมองฉู่อี้หานไม่ละสายตา“หากข้าไม่สามารถช่วยได้ค่อยลงทัณฑ์ข้าตอนนั้นก็ยังไม่สาย แต่หากเสียเวลาต่อไป อาจช่วยองค์หญิงใหญ่ไว้ไม่ได้นะเพคะ”“เจ้ารู้วิชาแพทย์นั้นหรือ เหตุใดข้าจึงไม่รู้” ฉู่อี้หานไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด“ท่านอ๋องทรงอย่าลืมสิเพคะ ว่าท่านตาของข้าทำงานอะไร” ซูเนี่ยนมั่นใจเจ้าของร่างเดิมกำเนิดมาในตระกูลลู่ และตระกูลลู่เป็นตระกูลเลื่องชื่อในด้านการแพทย์ของเมืองหลวง ชื่อเสียงสูงส่งนัก แต่ทว่าตอนนั้นมารดาของซูเนี่ยนต้องทะเลาะกับครอบครัวเพราะต้องการสมรสกับซูกั๋วกง และไม่เคยไปมาหาสู่กันอีกนับแต่นั้นมาทว่าในความทรงจำของซูเนี่ยนจำได้ว่า จู่ๆ ตระกูลลู่ก็ประกาศเลิกกิจการด้านการแพทย์ในวันฝังมารดา และค่อยๆ หายไปในสายตาของผู้คน ทำให้รู้ว่ามารดายังมีตำแหน่งอยู่ในใจคนตระกูลลู่อยู่“ได้ หากเจ้าช่วยนางไว้ไม่ได้ ข้าจะทำให้เจ้าต้องชดใช้”สีหน้าของฉู่อี้หานมืดครึ้ม สายตากวาดมองไปยังเสียวเป่า เมื่อเห็นดวงตาคู่โตของเสียวเป่ากำลังมอ
หมอหลวงหูตกใจจนเหงื่อชุ่มตัว ทว่าองค์หญิงใหญ่กลับค่อยๆ ลืมตาขึ้นนางได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่นี้หมดแล้ว ไม่คิดว่าหมัวมัวข้างกายตนจะหักหลังตนเช่นนี้“องค์หญิงใหญ่ ข้ารู้ว่าท่านเกลียดชังข้า ทว่ามีเพียงท่านเชื่อฟังข้าดีๆ ท่านกับทารถในครรภ์ถึงจะปลอดภัย รอให้ท่านให้กำเนิดบุตรโดยปลอดภัยแล้วค่อยมาคิดบัญชีกับข้า” ซูเนี่ยนกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง และไม่หยุดหยิบยาจากกล่องยา สุดท้ายหยิบใบมีดเล็กออกมาสองสามเล่ม“ได้” องค์หญิงใหญ่สับสน นางเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องอยู่แล้ว ดังนั้น เรื่องราวเป็นมาอย่างไร นางพอจะเดาออกเกิดเรื่องใหญ่กับนางปานนี้ ทว่าราชบุตรเขยกับไม่ปรากฏตัวสักที ต้องเป็นเพราะสตรีในจวนนั่นยื้อเวลาเขาไว้เป็นแน่นางต้องให้กำเนิดบุตรออกมาให้ได้ และจะต้องจับตัวคนที่ทำร้ายนางให้ได้“องค์หญิงใหญ่ ประเดี๋ยวข้าจะผ่าเปิดท้องของท่าน แล้วนำเด็กออกมานะเพคะ ข้ารู้ดีว่ามันน่ากลัว แต่ทว่าจำเป็นต้องทำเช่นนี้จริงๆ” ซูเนี่ยนกล่าวจบพลันหยิบยาสลบออกมาใช้ให้กับองค์หญิงใหญ่“หมอหลวงหู ท่านมาเป็นผู้ช่วยข้าที ประเดี๋ยวหากข้าต้องการอะไร ท่านก็หยิบสิ่งนั้นให้ข้า”“หมอตำแย เจ้าเตรียมสำลีสะอาดกับผ้าห่มไว้ แล้วต้มน
ซูเนี่ยนมีคำตอบอยู่ในใจ ไม่กังวลถึงแม้ฉู่อี้หานจะอยู่ด้วย นางกระแอมเบาๆ“เอ่อคือ…จะให้รับท่านเป็นศิษย์ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่ข้าเป็นพระชายา มีหลายสิ่งที่ไม่สะดวกนัก เรื่องนี้คงต้องขออนุญาตจากท่านอ๋อง หากท่านอ๋องตกลง ข้าก็ตกลง”หมอหลวงหูได้ยินดังนั้นพลันรู้สึกมีหวัง แล้วหันไปมองฉู่อี้หานด้วยแววตาคาดหวัง เขาต้องนับซูเนี่ยนเป็นอาจารย์ให้ได้ เพราะเขามีความรู้สึกลึกๆ ว่าต่อจากนี้ ซูเนี่ยนจะต้องสร้างตำนานใหม่ให้กับวงการแพทย์อย่างแน่นอนฉู่อี้หานเม้มริมฝีปาก ซูเนี่ยนแสดงความปรารถนาดี และจงใจเปิดบัญชีออมใจนี้ให้กับเขา การที่มีหมอหลวงหูเป็นผู้ช่วย เป็นเรื่องดีมากสำหรับอ๋องหลี“ข้าอนุญาต แต่เรื่องนี้ห้ามแพร่งพรายออกไป เจ้ามีอะไรก็มาหาพระชายาที่จวนอ๋องเป็นพอ” ฉู่อี้หานพยักหน้า“ไอ้หยา ท่านอาจารย์ผู้สูงส่งได้โปรดรับการคำนับจากศิษย์ผู้นี้ด้วยเถิด” หมอหลวงหูประสานมือ แล้วทำความเคารพให้กับซูเนี่ยน แม้นอายุของเขาจะมาก แต่ทว่ามารยาทห้ามเสื่อม“เอาล่ะๆ” ซูเนี่ยนรับการคำนับ แล้วหันกลับไปหยิบยาจากกล่องยามาเม็ดหนึ่ง เดินไปข้างโต๊ะพร้อมเขียนสูตรลงบนกระดาษหมอหลวงหูตื่นเต้น“นี่คือยาชากับสูตรปรุงยาช
“ท่านแม่ เสียวเป่าติด รีบเอาเสียวเป่าออกไป”“เหอะๆ เอ่อ…ขายหน้าต่อหน้าท่านอ๋องแล้ว”ซูเนี่ยนเดินจากข้างหลังฉู่อี้หานไปตรงหน้ารูนั่น จากนั้นออกแรงดึงเสียวเป่าออกมาอย่างสุดฤทธิ์ เห็นฉู่อี้หานจ้องที่รูใหญ่นั่น แล้วหันไปมองเสี่ยวฮุยที่เหม่ออยู่ซูเนี่ยนคิดในใจว่าแย่แล้ว จึงส่งสายตาให้กับเสี่ยวฮุย“เหตุใดข้าถึงรู้สึกคุ้นหน้าหนูสีเทาตัวนี้นัก” ฉู่อี้หานค่อยๆ กวาดสายตาไปที่ซูเนี่ยนกับเสียวเป่าเหมือนมีอะไรบางอย่าง“จี๊ดๆ” ฉู่อี้หานกล่าวจบ เสี่ยวฮุยตัวสั่นทันที จากนั้นวิ่งหนีไปด้วยความเร็วสุดขีดของตน“มั่วหลิง จับหนูสีเทานั่นไว้ซะ” ฉู่อี้หานสั่งการ“พ่ะย่ะค่ะ”ซูเนี่ยน “…”เสียวเป่า “เสี่ยวฮุย ตามเวรตามกรรมเถิดนะ”“เชอะ” เสียวเป่าเห็นว่าฉู่อี้หานกำลังจ้องตนอยู่ จึงสะบัดหน้าไปด้านข้าง ทว่าสายตายังคงแอบมองฉู่อี้หานอยู่บ่อยๆซูเนี่ยนเม้มริมฝีปาก แล้วกอดเสียวเป่าแน่น“คือว่า…ฮ่าๆ ท่านอ๋อง ข้าจะชดใช้ค่าเสียหายของห้องตำรานี้ให้” เมื่อเห็นฉู่อี้หานยังคงจ้องรูนั่นอยู่ ซูเนี่ยนจึงลองคำนวณดู น่าจะเสียเงินไม่มากนัก“พระชายาจะเอาเงินมาจากไหน” ฉู่อี้หานกล่าว หลายปีมานี้ ไม่มีเขาสั่งให้คนดูแลควา
มั่วเอ๋อร์เอ่ยอย่างรีบร้อน บนใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย“เป็นไปได้อย่างไร ซูเนี่ยนคนไร้ประโยชน์นั่นจะรู้วิชาแพทย์ได้อย่างไร” ซูเยียนหรันไม่เชื่อ หลายปีมานี้ซูเนี่ยนอยู่ภายใต้การยกยอชมเชยของท่านแม่ นางเป็นคนไร้ประโยชน์ที่ทำอะไรไม่เป็นคนหนึ่ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงวิชาแพทย์เลย“หลิวหมัวมัวล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง” ซูเยียนหรันฟื้นคืนความใจเย็น“ได้ยินว่าถูกท่านอ๋องจับตัวไปคุมขังที่คุกจวนอ๋องเจ้าค่ะ”“หลิวหมัวมัวเชื่อใจได้หรือไม่”“คุณหนูวางใจได้ ครอบครัวของหลิวหมัวมัวยังอยู่ในมือของฮูหยิน นางไม่กล้าพูดจาเหลวไหลหรอกเจ้าค่ะ”“ข้าเชื่อเพียงคำพูดของคนตายเท่านั้น” ซูเยียนหรันกล่าวอย่างดุร้าย“มั่วเอ๋อร์ หาวิธีส่งจดหมายไปให้ไท่จื่อ บอกให้ท่านคิดหาวิธีจัดการหลิวหมัวมัวนี้ซะ”“เจ้าค่ะคุณหนู” มั่วเอ๋อร์รับคำ แล้วเดินออกไปซูเยียนหรันเม้มปาก ถึงแม้นางจะเข้ามาในจวนอ๋องหลีเพราะคำสั่งของไทเฮา แต่ทว่านางก็เป็นคนขององค์รัชทายาท และมีความสัมพันธ์เป็นสามีภรรยากันตั้งนานแล้วด้วยเมื่อสามปีก่อน ก็เป็นเพราะการช่วยเหลือของไท่จื่อ นางถึงได้สร้างตัวปลอมขึ้นมา ทำให้อ๋องหลีเชื่อว่านางเป็นคนถอนพิษ จากนั้นค่อยใส่ร้า
“เจ้าว่าอย่างไรนะ” ฉู่อี้หานหยุดเก้าอี้ล้อเอาไว้เขาไม่เคยสังเกตรูปลักษณ์หน้าตาของเจ้าก้อนน้อยนั่นดีๆ เลย เพราะส่วนใหญ่ดูคล้ายซูเนี่ยนมากกว่า แต่ทว่าทุกครั้งที่เห็นเด็กนั่น ในใจเขามักจะมีความรู้สึกแปลกๆ ฉุดวาบขึ้น“ส่งคนไปเฝ้าสังเกตเรือนลั่วสุ่ยต่อไปพร้อมสืบเรื่องเมื่อสามปีก่อนไปด้วย แล้วก็เรื่องบ่าวรับใช้นั่นด้วย” ฉู่อี้หานขมวดคิ้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“พ่ะย่ะค่ะ”ฉู่อี้หานเปลี่ยนชุดมงคลเป็นชุดคลุมดำขนนุ่ม เขากลมกลืนกับท้องฟ้ายามค่ำคืนเป็นหนึ่งเดียว แผนหลังดูโดดเดี่ยวมากมั่วอีเจ็บปวดใจ มีเพียงอยู่กับพระชายาเท่านั้น ท่านอ๋องถึงจะมีชีวิตชีวาบ้าง พระชายามีคารมคมคายไม่เกรงกลัวท่านอ๋อง สามารถทำให้ท่านอ๋องหน้าบูดบึ้งทุกครั้ง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้วก็คุณชายเจ้าก้อนน้อย หากตัดเรื่องสถานะออก เขาเป็นเด็กที่น่ารักน่าชังคนหนึ่งจริงๆ ช่วงหลายปีมานี้ จวนอ๋องช่างเงียบเหงาเกินไปแล้วเมื่อมีแผนอยู่ในใจ มั่วอีจึงเข็นฉู่อี้หานตรงไปยังเรือนลั่วสุ่ยไม่หยุดพัก“เจ้าพาข้ามาที่นี่ทำไมกัน” ฉู่อี้หานเหลือบมองมั่วอี“กลับ…”ยังไม่ทันกล่าวจบ ก็มีเสียงหัวเราะดังลอดออกมาจากเรือนลั่วสุ่ยเสียงชัดเจนไ
“ท่านอ๋อง เสร็จแล้ว คีบผักจิ้มเครื่องปรุงนี้ ทานคู่กันนะเพคะ” เฟิ่งเอ๋อร์กล่าวหลังจากแสดงให้ฉู่อี้หานดู“อืม” ฉู่อี้หานปฏิบัติตามที่เฟิ่งเอ๋อร์กล่าว เขาคีบผักแล้วจิ้มที่เครื่องปรุงรสหลังจากที่คีบผักเข้าปากแล้ว ดวงตาของฉู่อี้หานพลันเป็นประกาย ผักนี้ช่างเลิศรสยิ่ง“ลวกผักในหม้อนี้” หลังจากที่ทานผักในถ้วยหมดแล้ว ฉู่อี้หานก็มองไปยังหม้อเผ็ดอีกฝั่งหนึ่ง“ท่านอ๋อง ฝั่งนี้เป็นหม้อเผ็ด หากท่านทานแล้วท้องเสียขึ้นมา อย่ามาโทษหม้อไฟนี้นะเพคะ” ซูเนี่ยนตักเตือนฉู่อี้หานทานเผ็ดไม่ได้ หากท้องเสียขึ้นมาแล้วมากล่าวหานาง นางไม่ยอมแน่“หม้อไฟ? ที่แท้ก็เรียกว่าหม้อไฟนี่เอง” ฉู่อี้หานพยักหน้า แล้วส่งสัญญาณให้เฟิ่งเอ๋อร์ลวกผักต่อไปมั่วอียืนมองจนน้ำลายไหล นานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นท่านอ๋องทานมากเพียงนี้ ของที่เรียกว่าหม้อไฟนี้ต้องรสชาติดีเยี่ยมมากแน่นอนเฟิ่งเอ๋อร์ลวกผักเพิ่มอีกมากมาย เสียวเป่ากับฉู่อี้หานทานอย่างรวดเร็ว แต่ไม่มูมมาม พวกเขาทานไปเยอะมาก เมื่อรู้สึกแน่นท้องแล้วจึงจะวางตะเกียบเสียวเป่าวางตะเกียบลง แล้วยกแก้วที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมาดื่มไปอึกหนึ่ง สีหน้าดูอิ่มเอมใจถึงที่สุด“เจ้าดื่มน้ำอะไร
ซูเนี่ยนกรอกตาบน ครั้งแรกเลยที่ได้เห็นคนระลึกความหลังกันแบบนี้กลิ่นยาสมุนไพรลอยมา ขอบตาแดงๆ ของฉู่อี้หานค่อยๆ จางหายไป กลับมาสดใสอีกครั้ง เมื่อเห็นซูเนี่ยนมองค้อนเขาทีหนึ่ง เขาก็กลับมามีสติอีกครั้งมีพวกเราอยู่ก็มีความหวังอย่างนั้นเหรอ?ประโยคนี้ตอนนั้นดูเหมือนเสด็จแม่ของเขาก็เคยพูดไว้ เหตุใดซูเนี่ยนถึงได้พูดประโยคเดียวกัน?เพลงเซียวเซียงเยียนอวี่ที่ซูเนี่ยนเล่นใรงานชมดอกท้อ ความจริงแล้วเป็นบทเพลงที่เสด็จแม่ของเขาเคยบรรเลงร่วมกับลู่เจียว พวกเขาทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก วิธีการดีดพิณก็เหมือนกันในหลายจุดซูเนี่ยนไม่เพียงสามารถดีดพิณได้ วิธีการดีดยังได้รับการสืบทอดมาจากลู่เจียว ครั้งก่อนเขาได้ยินแล้วตอนอยู่อีกเรือน แถมยังส่งมั่วอีไปแอบดูมาแล้วด้วยเขาอยากฟังอีกสักครั้งจัง"ท่านอ๋อง รบกวนหลีกทางหน่อย" ซูเนี่ยนโบกมือไล่ฉู่อี้หานอย่างรำคาญแม่นมไป๋ที่อยู่ด้านหลังรีบเข็นฉู่อี้หานออกไปด้านข้างทันทีไทฮองไทเฮาเม้มปาก มองดูซูเนี่ยนที่ดึงมือของตัวเองไป ความจริงนางค่อนข้างตื่นเต้น เพราะว่านางไม่อยากกินยา และไม่อยากฝังเข็มซูเนี่ยนจับชีพจรให้ไทฮองไทเฮาอย่างละเอียด ทั้งยังตรวจดู
"หึ" แววตาของฉู่อี้หานค่อนข้างร้อนแรง ซูเนี่ยนรู้สึกตกใจจนต้องชักมือกลับไป"ข้าเห็นเจ้าเปลือยหมดแล้ว เจ้าเองก็เห็นข้าเปลือยหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ข้ายังไม่เอาเรื่องที่เจ้ามองข้าเลยนะ" น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นอีกครั้ง สายตาของฉู่อี้หานจับจ้องไปที่ใบหน้าเล็กๆ ขาวสะอาดของซูเนี่ยน"หุบปากนะ!" ซูเนี่ยนหน้าดำ นางเห็นเขาเปลือยตั้งแต่เมื่อไรกัน?"ท่านอ๋อง พระชายา ไทฮองไทเฮาตื่นแล้วเพคะ" ในขณะที่ซูเนี่ยนกำลังจะพูดอะไร แม่นมไป๋ก็เดินเข้ามาหาทั้งสองคนด้วยความดีใจ"ตื่นแล้ว? ไปดูสิ" ซูเนี่ยนพยักหน้า ดูจากเวลา ตอนนี้ไทฮองไทเฮาก็ควรจะตื่นแล้วซูเนี่ยนเดินอยู่ด้านหน้า ฉู่อี้หานเข็นเก้าอี้ล้อตามมาอยู่ด้านหลัง พวกเขาเดินอย่างรีบร้อนเข้าไปในตำหนักของไทฮองไทเฮาตอนนี้ไทฮองไทเฮากำลังนั่งเอนหลังกินข้าวต้มเปล่าด้วยการดูแลของนางกำนัลอยู่บนศรีษะของนางไม่มีเครื่องประดับผมใดๆ สีหน้าขาวซีด ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่ใบหน้าเล็กมาก เห็นได้ชัดว่าในตอนสาวๆ ก็เป็นหญิงงามคนหนึ่ง"ไทฮองไทเฮา ท่านอ๋องหลีกับพระชายาหลีมาแล้วเพคะ" แม่นมไป๋พูดรายงานอย่างนอบน้อม"ไม่กินแล้ว" ไทฮองไทเฮาโบกมือให้กับนางกำนัล ข้าวต้ม
มั่วอีค้อมตัวเล็กน้อย เหตุใดใบหน้าของท่านอ๋องถึงมีรอยช้ำได้นะ?ไม่ต้องถามก็รู้ได้ว่าพระชายาคงเป็นคนต่อยแน่ หรือว่าท่านอ๋องทำเรื่องอะไรไม่ดีกับพระชายาอีกแล้วเหรอ?มั่วอีคิดอย่างใจลอย เมื่อสายตาเย็นเยียบของฉู่อี้หานมองมา มั่วอีจึงต้องเร่งมือขึ้นอีกเขาเข็นฉู่อี้หานออกจากบ่อน้ำร้อน อ๋องคังกำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่ที่หน้าประตูเมื่อเห็นหน้าของฉู่อี้หานเขาก็ดีใจ แต่เมื่อเห็นรอยช้ำบนใบหน้าเขาก็ต้องยืนอึ้งอยู่อย่างนั้นใครกันที่ไม่กลัวตายแอบลอบทำร้ายเสด็จพี่! ใครกันที่บังอาจขนาดนี้ เขาจะต้องไปพบสักหน่อยแล้ว"ฮ่าๆๆ เสด็จพี่ มะ มุมปากท่าน" อ๋องคังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ใบหน้าเย็นชา มีแผลมาประดับไว้ ช่างดูมีสีสันเหลือเกินแค่รู้สึกตลกไปสักหน่อย"มั่วอี พาท่านอ๋องคังไปประลองดาบที่เรือนหน่อยสิ ไม่ต้องรุนแรงมากล่ะ อย่าได้รบกวนไทฮองไทเฮา ข้าอยากจะรู้ว่าหลายปีนี้ท่านอ๋องคังมีฝีมือดีขึ้นบ้างไหม" ฉู่อี้หานหรี่ตาลง มองไปที่อ๋องคังอย่างน่ากลัว เขาอยากจะยกมุมปากขึ้นเหลือเกิน แต่ก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา ฉับพลันความโกรธก็ฉายขึ้นมาในแววตายัยซูเนี่ยนนั่น ไม่ออมมือเลยสักนิด"เอ่อ ฮ่าๆๆ" เดิมทีอ๋องคังก
ท่าทางการต่อสู้ของซูเนี่ยนแปลกประหลาด หลังจากที่ฉู่อี้หานแกล้งนางไปสักพักก็ไม่กล้าที่จะดูถูกฝีมือนางอีกแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยทำตามกติกาเลยหลังจากที่ซูเนี่ยนทุบตีจนพอใจก็รู้สึกโล่งที่ได้ระบายความแค้น ไม่อยากที่จะมองฉู่อี้หานอีก คิดที่จะออกไปจากสระน้ำทันทีแต่นางไม่ทันสังเกตว่าผ้าม่านที่นางใช้พันร่างกายตรงหน้าอกไว้ค่อยๆ ร่วงหล่นลงจากการที่นางขยับร่างกายมากเกินไปผ้าม่านนั้นได้ล่วงลงในจังหวะเดียวกันกับที่ซูเนี่ยนหมุนตัวเดิมทีฉู่อี้หานที่คิดจะคว้าตัวนางไว้ก็ต้องนิ่งอึ้งไปกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้าซูเนี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะ นางรีบหันไปมองฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่อย่างตกใจในหัวสมองของฉู่อี้หานตอนนี้ถูกเจ้าลูกกลมๆ เด้งๆ สองลูกทำเอาเบลอไปหมด ในหัวสมองมีแต่สองคำนี้วนเวียนอยู่ใหญ่...มาก..."อ๊า!"ซูเนี่ยนกรี๊ดออกมาเสียงดัง รีบเอาผ้าม่านกลับมาพันไว้ทันที นางไม่อาจอดกลั้นความโกรธในใจได้อีกต่อไปเตะขาออกไปอย่างแรง จนฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่ต้องล้มลงไปในน้ำ"ข้าจะตีท่านให้ตาย ข้าจะทำให้ท่านจมน้ำตายไปเลย! ลามก! สารเลว!"เสียงตะโกนอย่างโกรธจัดของซูเนี่ยนดังขึ้นไม่หยุด นางกำนัลสองคนที่เฝ
เมื่อซูเนี่ยนมองไปในดวงตาของเขา ก็พบว่าดวงตาของเขายิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าก็ดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ นางจึงล้มเลิกความคิดที่จะกลั่นแกล้งฉู่อี้หานไปนางอย่าได้ไปหาเรื่องคนโหดร้ายอย่างเขาเลย"หากข้าบอกว่าได้ล่ะ" เขากอดร่างกายของซูเนี่ยนที่พยายามดิ้นแน่นขึ้น ฉู่อี้หานพูดออกมาเบาๆ พร้อมกับมองใบหน้าขาวละเอียดของซูเนี่ยนไปด้วยความสวยของซูเนี่ยนดูไกลๆ ก็น่าประทับใจแล้ว ดูใกล้ๆ ยิ่งราวกับรูปสลักของนางฟ้าบนสวรรค์ ตอนนั้นความสวยของลู่เจียวเป็นที่พูดถึงกันในเมืองหลวงเท่าไร ซูเนี่ยนก็ยิ่งเป็นมากกว่านั้นอีกเพียงแต่เมื่อก่อนซูเนี่ยนเป็นคนอ่อนแอเอาแต่เก็บตัว คนอื่นก็เลยละเลยความสวยของนาง แต่ในตอนนี้ซูเนี่ยนเปล่งประกายความมั่นใจและสงบเยือกเย็นออกมาจากภายใน ก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดให้กับใบหน้าที่น่าหลงไหลนี้ เพียงแค่ไม่นานก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนริมฝีปากของซูเนี่ยนกระตุก ทำไมนางถึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้กำลังหยอกล้อฉู่อี้หาน แต่เป็นฉู่อี้หานที่กำลังหยอกล้อนางกันนะเมื่อมองฉู่อี้หานใกล้ๆ ก็ทำให้ซูเนี่ยนอดที่จะพิจรณาใบหน้าของคนเย็นชาอย่างเขาไม่ได้ โดยเฉพาะตอนที่เขาจ้องหน้าของนาง ราวกับว่านางเ
ใครให้ฉู่อี้หานดึงเสื้อของนางล่ะ เช่นนั้นนางก็จะทำกับเขาแบบเดียวกัน ดึงเสื้อของนาง นางก็จะให้เขารับรู้ความรู้สึกของการโดนดึงเสื้อบ้าง!ในตอนที่เสื้อถูกดึงออก นอกจากแผ่นหลังที่แข็งแรงและผิวขาวเนียนที่ซูเนี่ยนเห็นแล้ว ก็ยังมีรอยแผลเป็นริ้วๆ ตรงด้านหลังด้วยมีทั้งแผลจากมีดและดาบ รอยโดนลวก...เยอะจนนับไม่ไหว แต่แผลพวกนั้นไม่เพียงไม่ได้ทำให้ฉู่อี้หานน่าเกลียด กลับยังเพิ่มเสน่ห์แบบดิบๆ ให้เขาอีกด้วยฉู่อี้หานเพิ่งพบว่าเขาดูถูกฝีมือของซูเนี่ยนไป ใบหน้าปรากฎเป็นรอยยิ้มอันตรายแววตามีความสนุก ไม่เลว กล้าดึงเสื้อของเขา กล้าไม่เบา แต่ในเมื่อกล้าดึงเสื้อของเขา เช่นนั้นก็ต้องรับผลที่ตามมาด้วยซูเนี่ยนเก็บความได้ใจของตัวเองไป นางสัมผัสได้ถึงความอันตราย หลังจากโยนเสื้อทิ้งไปซูเนี่ยนก็เตรียมหันหลังจะหนี แต่ฉู่อี้หานก็ตามติดนางไม่ปล่อยอีกทั้งฉู่อี้หานยังไม่อยากที่จะเล่นเกมไล่จับอีกต่อไป เขารวบรวมกำลังภายในที่ฝ่ามือ กระแทกน้ำจนสาดกระเซ็นตัวของซูเนี่ยนกระเด็นลอยไปในอากาศ จากนั้นก็จะร่วงลงมาอย่างแรงหากว่าร่วงลงไปแบบนี้ นางคงไม่พ้นตายก็พิการแน่"ฉู่อี้หาน..."ซูเนี่ยนตะโกนออกมาอย่างดัง ใบหน้าเล
คลื่นน้ำนั้นพุ่งกระแทกมาทางซูเนี่ยนอย่างแรงซูเนี่ยนตกใจมาก รีบยื่นมือออกไปคว้าเสื้อเอาไว้ทันทีแต่แรงกระแทกจากคลื่นน้ำนั้นรุนแรง ทำให้ซูเนี่ยนคว้าไว้ได้เพียงแค่เสื้อชั้นในเท่านั้นหมุนตัวหลบการโจมตีจากคลื่นน้ำ ซูเนี่ยนอาศัยจังหวะระหว่างนั้นใช้เสื้อชั้นในห่อร่างกายของตัวเองไว้ แต่เนื่องจากรีบร้อนทำให้เสื้อชั้นในสามารถปกปิดไว้ได้เพียงส่วนสำคัญเท่านั้น ร่างกายส่วนอื่นยังเปิดเผยอยู่อย่างเห็นได้ชัดฉู่อี้หานหรี่ดวงตาทั้งสองข้างมองไปยังเรือนร่างเล็กที่ๆ ที่กำลังหันหลังว่ายหนีตัวเองอย่างรวดเร็วอยู่คิดหนี? ต้องดูด้วยว่าเขายินยอมหรือไม่!เดิมทีเขาก็ไม่วางใจทางด้านไทฮองไทเฮาอยู่แล้ว ดังนั้นเลยส่งสิบแปดองค์รักษ์มาคอยแอบคุ้มกันอีกที คิดไม่ถึงว่าจะมีแอบเข้ามาถึงบ่อน้ำร้อนนี้ได้ แถมยังถูกเขาจับได้พอดี เขาไม่มีทางปล่อยนางไปแน่!ฉู่อี้หานรีบคว้าเอาเสื้อที่อยู่ริมสระน้ำมาสวม จากนั้นก็ยื่นมือคว้าไปทางซูเนี่ยนซูเนี่ยนรับรู้ได้ถึงพลังรุนแรงของฝ่ามือจากด้านหลัง ก็ตกใจรีบหลบทันทีไอน้ำขุ่นมัวล้อมรอบทั้งสองคนเอาไว้ เนื่องจากควันจากไอน้ำหนาเกินไป อีกทั้งซูเนี่ยนก็หัวเหอยุ่งเหยิง ทำให้มองเห็นหน้าไม
"ทำยังไงดีพระชายายังอยู่ข้างในเลย" นางกำนัลที่เฝ้าอยู่ด้านนอกมีสีหน้ากระวนกระวายทำไมอ๋องหลีถึงมาตอนนี้ล่ะ ก่อนหน้านี้อ๋องหลีก็มาแช่น้ำร้อนของไทฮองไทเฮาเช่นกัน ไม่มีใครเคยขวาง แต่ละคนต่างก็เคยชินแล้ว ก็เลยไม่มีใครรายงานก่อนแต่ว่าวันนี้มันต่างกัน ที่ในบ่อน้ำร้อนยังมีคนอื่นอยู่ด้วย"ไม่ต้องกลัว ด้านในก็ไม่ใช่ใครอื่นสักหน่อย เป็นพระชายาอ๋องหลีนะ ท่านอ๋องกับพระชายาจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่เรื่องดีหรือยังไง" นางกำนัลอีกคนหนึ่งไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาเรื่องนี้จะโทษพวกนางไม่ได้ เป็นท่านอ๋องหลีที่น่ากลัวเกินไป พวกนางเจอทีไรเป็นต้องพูดติดๆ ขัดๆ ตลอด รอตอนที่พวกนางจะพูดจริง ก็สายไปซะแล้ว อ๋องหลีเข้าไปแล้วมั่วอีที่ได้ยินบทสนทนาของนางกำนัลทั้งสองคนก็ตกใจ แต่ตอนนี้ใครก็ไม่สะดวกเข้าไปแล้ว จะขวางท่านอ๋องได้อย่างไร?อีกอย่าง เขาเองก็ไม่อยากขวาง ก็เหมือนกับที่นางกำนัลสองคนนี้พูด ให้ท่านอ๋องกับพระชายาใช้เวลาอยู่ร่วมกันก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอมั่วอีเปลี่ยนทิศทางการเดิน สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีเลสนัย เดินออกไปทางนอกตำหนักฉู่อี้หานเข็นเก้าอี้ล้อไปทางสระน้ำ ที่ปากของหงส์ท
เยือกเย็นมาก สงบมาก ลักษณะเช่นนี้ขนาดลูกคุณหนูตระกูลใหญ่ทั่วไปยังทำไม่ได้เลยอีกทั้งการปฏิบัติตัวกับคนอื่นก็โอบอ้อมอารี มีมารยาท ใส่ใจแต่เรื่องพวกนี้ นางคิดว่าซูเนี่ยนไม่เพียงสามารถเป็นฐานะพระชายาอ๋องหลีได้ แถมยังคู่ควรกับอ๋องหลีอีกด้วยอีกอย่างดูจากท่าทางของอ๋องหลีเมื่อคืนนี้ เกรงว่าเขาก็คงมีใจให้กับซูเนี่ยนเหมือนกันสิ่งที่แม่นมไป๋คิดอยู่ในใจ ซูเนี่ยนไม่ได้รู้เลยสักนิด นางคิดเพียงอยากจะรีบอาบน้ำ ตอนนี้นางเหม็นตัวเองจะตายอยู่แล้วแม่นมไป๋เดินนำซูเนี่ยนมาจนถึงบ่อน้ำร้อนนี่คือบ่อน้ำร้อนที่จักรพรรดิเต๋อคังสร้างให้ไทฮองไทเฮาโดยเฉพาะ ภายในยังใส่สมุนไพรจีนไว้มากมาย มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากซูเนี่ยนเป็นหมอย่อมต้องดมรู้อยู่แล้วภายในบ่อน้ำร้อนมีควันพวยพุ่ง ขมุกขมัว บ่อน้ำร้อนใหญ่มาก มีปุ่มกดรูปหงส์สยายปีกสร้างไว้โดยรอบ แม่นมไป๋กดปุ่มรูปหงส์อันหนึ่ง ก็เห็นว่าน้ำในบ่อถูกเปลี่ยนอย่างรวดเร็วไม่ใช่บ่อสมุนไพรอีกต่อไป แต่กลายเป็นบ่อน้ำนมสีขาวที่มีกลีบดอกท้อลอยอยู่ด้านบนแทนอุณหภูมิน้ำที่อุ่นทำให้กลิ่นหอมจากกลีบดอกท้อลอยโชยขึ้นมาในอากาศ ซูเนี่ยนสูดหายใจเข้าไปลึกๆ รู้สึกว่าหอมมากสมแ