แชร์

บทที่ 4 ข้าไม่อยากนอนกับท่าน (1/2)

ผู้เขียน: เทียนสื่อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-07 19:02:13

เสียงบานประตูแง้มออกแผ่วเบาท่ามกลางหมอกแห่งรัตติกาล เฉิงซินนอนหลับอยู่บนเตียงสะดุ้งตัวโยน พลางดีดกายลุกขึ้น รวบเอาผ้าแพรผืนบางขึ้นมาหุ้มเรือนกายของตนเอาไว้ด้วยท่าทีระแวดระวัง

"ผู้ใด!?"

"..."

เสียงฝีเท้าย่างกรายเข้ามาเชื่องช้า ไม่หนักไม่เบาจนเกินไป เฉิงซินพยายามเงี่ยหูฟัง คราก่อนที่นางได้เดินชมตลาดกับรองแม่ทัพเสวียนเฉิงฮุยบังเอิญเขาได้มอบมีดพกติดกายเล่มหนึ่งเอาไว้เพื่อให้เฉิงซินใช้ป้องกันตัวยามจำเป็น นางจึงลอบหยิบของมีคมขนาดเล็กชิ้นนั้นขึ้นมาด้วยฝ่ามือสั่นเทา

คงไม่ใช่เว่ยจวินอี้กระมัง เขาไม่เคยโผล่หัวมานานแล้ว

เฉิงซินลอบกลืนน้ำลายลงคอ ฝ่ามือกระชับมีดสั้นลายวิจิตรสีงาช้างภายในมือของตนแน่นขึ้น เหงื่อเย็นแตกพลั่ก นางพยายามครุ่นคิดถึงวิธีเอาตัวรอด

หรือร้องตะโกนออกไปเลย แต่หากโจรมันโกรธเล่าแล้ววิ่งเข้ามาจ้วงแทง กระนั้นคงไม่ตายอีกหนหรอกหรือ

ขณะที่เฉิงซินพยายามครุ่นคิด เงาสูงหม่นทะมึนก็มาหยุดยืนบริเวณข้างเตียงเสียแล้ว เฉิงซินเบิกตากว้างตะลึงลาน อาการลุกลี้ลุกลนจนทำอะไรไม่ถูก เงาด้านนอกแหวกผ้าแพรผืนบางออกเชื่องช้า ทันทีที่ผ้าถูกเปิดออก เฉิงซินพลันหลับดวงตาปี๋และจ้วงแทงมีดสั้นออกไปเบื้องหน้าสะเปะสะปะ ฝ่ามือของเธอถูกคว้าหมับเข้าอย่างจัง เฉิงซินถูกดึงลอยหวือนอนแผ่หลาลงบนที่นอน

นางตกใจรนจนเสียอาการ มือที่ยังคงถืออาวุธถูกล็อกติดกับฟูกนอน ปากที่กำลังอ้าเผยอเพื่อร้องตะโกนโดนตะปบเอาไว้เต็มเปา ด้วยความสลัวของแสงเทียนจึงทำให้นางมองผู้มาเยือนไม่ถนัดตานัก ทว่ากลิ่นกายที่ลอยเข้ามาแตะโพรงจมูกกลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด

"กำลังทำสิ่งใด จะฆ่าสามีตัวเองหรืออย่างไร อีกอย่างหลับหูหลับตากวาดแทงมั่วซั่วเช่นนี้หากเป็นโจรเจ้าคงได้ตายไปก่อนแล้วกระมัง" เงากำยำกล่าวเสียงเข้ม เฉิงซินรู้ได้ทันทีว่าคือผู้ใด นางจึงหยุดดิ้นทันควัน

เมื่อรับรู้ถึงอาการสงบนิ่งของอีกฝ่ายแล้ว เขาจึงลดมือลงเชื่องช้า ทว่ามืออีกด้านยังคงกดข้อมือเฉิงซินเอาไว้อย่างเหนียวแน่น

"เว่ยจวินอี้ ท่านมาได้อย่างไร"

"นี่ห้องของข้า ข้าจะกลับมาพักผ่อน มีตรงใดแปลกนักหรือ" เว่ยจวินอี้กล่าวอย่างไม่อนาทรร้อนใจ

ทว่าเฉิงซินกลับถลึงดวงตามองเขาด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ "แต่ท่านไม่ได้กลับมานานแล้ว อีกอย่างข้าไม่อยากนอนร่วมห้องกับท่าน"

"หากไม่อยากร่วมห้องกับสามีตน เช่นนั้นเจ้าอยากร่วมห้องกับร้องแม่ทัพเสวียนหรืออย่างไร"

"เหลวไหล!" เฉิงซินเริ่มมีไฟโทสะปะทุก่อขึ้น

เหตุใดแม่ทัพเว่ยผู้นี้ต้องกล่าวดูแคลนนางเช่นนี้ด้วยเล่า นางและรองแม่ทัพเสวียนเป็นสหายกันมาตั้งแต่เยาว์วัย เฉิงซินไม่เคยคิดกับเสวียนเฉิงฮุยเกินคำว่าสหายแม้แต่น้อย ทว่าวันนี้กลับถูกวาจาจาบจ้วงของแม่ทัพหยามหยันเสียจนหน้าชา

"แล้ววันนี้เจ้าไปที่ใดมา ไปกับผู้ใดเช่นนั้นหรือ เดี๋ยวนี้ออกไปนอกจวนกลับไม่เคยบอกให้ข้าทราบ" เว่ยจวินอี้กล่าวเสียงเข้ม

"แล้วอย่างไร วัน ๆ ท่านก็ไม่ได้สนใจข้า ท่านดีกว่าข้าอย่างไร อย่าคิดว่าข้าไม่เห็นว่าท่านเองก็ลอบไปหาคุณหนูช่ายจี้ถง"

เว่ยจวินอี้ถูกตอกกลับเสียจนหน้าแทบหงาย เขาได้พบกับช่ายจี้ถงเมื่อวันก่อนจริง ทว่านั่นเป็นเพียงการพูดคุยราชการกับบิดาของนางเท่านั้น นางเป็นเพียงบุตรสาวที่ติดตามบิดามาร่วมด้วย เขาก็มิได้ขัดแต่อย่างใด คาดไม่ถึงว่าเฉิงซินกลับพบเข้า หรือว่านางกำลังคิดจับตามองเขาอยู่กันแน่

เว่ยจวินอี้กระแอม พยายามรักษาอาการเยือกนิ่ง กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย

"เจ้ารู้ได้อย่างไร"

"เหอะ! ไม่เพียงข้าที่รู้ ผู้อื่นเขาก็เล่าลือกันทั่ว"

อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังนิ่งงัน เฉิงซินจึงยันกายขึ้น และผลักอกเว่ยจวินอี้ออกให้พ้นทาง ข้อมือที่ถูกพันธนาการเมื่อสักครู่หลุดออกแล้ว นางจึงหมุนไปมาเพื่อคลายความเจ็บปวด

"ในเมื่อเจ้าของมาทวงพื้นที่ข้าก็ไม่อยากอยู่ เช่นนั้นก็เชิญท่านนอนให้สบายใจ"

เฉิงซินตั้งท่าลงจากเตียง ทว่ากลับถูกสายตาดุดันตรึงเอาไว้เสียจนร่างกายชาหนึบ นางไม่กล้ากระดิกแม้แต่ปลายนิ้ว

"ปะ...ไปนอนตรงนั้น"

เฉิงซินชี้ไปยังเตียงไม้ขัดขนาดพอดีตัว ทว่าเล็กกว่าเตียงนอนอยู่มาก หากไปนอนตรงนั้นคงเมื่อยอยู่ไม่น้อย แต่กระนั้นนางก็ไม่อยากร่วมเตียงกับคนเลือดเย็นเช่นเว่ยจวินอี้ สู้ไปนอนหลังขดหลังแข็งยังดีเสียกว่าร่วมเรียงเคียงหมอนคนไร้หัวใจ

"ไม่ต้องไป" เว่ยจวินอี้กล่าวน้ำเสียงกระด้าง

"เอ๊ะ ท่านนี่อย่างไร ข้าจะไปไม่ให้ไป ทีข้าจะอยู่ก็ไม่เคยรั้งสักครา"

เฉิงซินหน้างอ นางไม่อาจเดาใจคนผู้นี้ได้เลย ทว่านางยังคงหวาดกลัวเขานัก เพียงแต่ข่มอาการเอาไว้เท่านั้น มีผู้ใดบ้างที่ไม่เกรงกลัวผู้ที่เคยสังหารตนมาก่อน สาบานได้เลยว่าการรอดกลับมาและได้รับความทรงจำติดมาด้วย ทำให้นางต้องมองโลกใบนี้ใหม่เสียแล้ว และนางไม่มีวันญาติดีกับแม่ทัพเว่ยผู้นี้อย่างแน่นอน รอเพียงวันจะได้หย่าขาดและออกจากจวนแม่ทัพแห่งนี้ในเร็ววัน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านแม่ทัพได้โปรดหย่ากับข้าเถิด   บทที่ 4 ข้าไม่อยากนอนกับท่าน (2/2)

    เฉิงซินเตรียมหอบผ้าผ่อนออกไปอีกหน ทว่าอีกฝ่ายยังคงกล่าวเสียงขรึม "ข้าบอกว่าอย่างไร ไม่ฟังแล้วหรือ นี่คงเป็นเหตุผลที่เจ้าอยากหย่ากับข้าใช่หรือไม่""ห้ะ!"เฉิงซินงุนงง เขาต้องการพูดเรื่องใดกับนางกันแน่ เดี๋ยวเรื่องไป เดี๋ยวเรื่องหย่า ทำให้นางรู้สึกสับสนมึนงงไปหมด"นอนตรงนี้ หากไม่เชื่อฟัง ข้าจะผูกเจ้าติดกับเสาเตียงเอาไว้จนเช้า และจะขังไว้ในจวน จะได้ไม่ต้องเที่ยวร่อนไปหาชายอื่นทั้งที่ตนแต่งงานมีสามีแล้ว""นี่ท่าน! เว่ยจวินอี้ ทีตัวเองไปพบหญิงอื่นได้ ทว่าข้าไม่อาจไปพบสหายของตนได้เช่นนั้นหรือ ไร้คุณธรรม แล้งน้ำใจเกินไปแล้ว""ข้าไม่ได้ไปพบนาง" เว่ยจวินอี้เหลียวหน้ามองเฉิงซินเขม็งเฉิงซินผงะ ทว่านางยังคงกระแอมออกมาเพื่อกลบอาการหวาดผวาของตน"เหอะ! ท่านแม่ทัพ ผู้ใดก็ทราบดี ว่าข้าไปแย่งคนรักของผู้อื่น มาบัดนี้ข้าจะคืนความอิสระให้ท่าน ท่านก็ไม่ต้องการ ตกลงแล้วท่านจะเอาอย่างไรกันแน่ หรือยังกลั่นแกล้งข้าไม่เพียงพอ"เฉิงซินกัดฟันกรอด นางพยายามต่อสู้กับสายตาดุดันนั้นอย่างไม่ลดละเช่นเดียวกัน"นอน!""ข้าไม่อยากนอนกับท่าน!"เว่ยจวินอี้กลับไม่เชื่อฟังเสียงร้องทัดทานของเฉิงซิน เขากระทำตามอำเภอใจของตน ฝ่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-07
  • ท่านแม่ทัพได้โปรดหย่ากับข้าเถิด   บทที่ 5 เหตุบังเอิญ (1/2)

    เสียงเล่าลือว่าแม่ทัพเว่ยเข้าหอกับฮูหยินดังกระฉ่อนไปทั้งจวน บรรดาบ่าวเหล่านั้นล้วนดีอกดีใจกันทั้งสิ้น เดิมทีพวกนางรังเกียจฮูหยินผู้นี้ยิ่งกว่าอะไรดี ทว่าเมื่อได้ใกล้ชิดกับนางแล้ว เฉิงซินหาใช่คนเช่นนั้น นางทั้งร่าเริง สนุกสนาน ซ้ำยังเป็นกันเอง คงมีเพียงพวกสมองเพี้ยนกระมังคอยต่อว่านางสาดเสียเทเสียไม่ลืมหูลืมตา"แม่ทัพ วันนี้ท่านจะเข้าวังหรือไม่ขอรับ" โจวหมิงกล่าวถาม เขาลอบมองดูท่าทางอิดโรยของเว่ยจวินอี้ ซ้ำยังนวดแขนของตนไปมาราวกับว่าจับดาบจับกระบี่ฝึกซ้อมอย่างหนัก"วันนี้ไม่เข้า อ้อ...ช่วงสายใต้เท้าช่ายจะเข้ามาคุยราชการที่จวน เจ้าช่วยไปกำชับห้องอาหารและเตรียมห้องรับรองไว้ด้วย""ขอรับ"โจวหมิงลอบกลืนน้ำลาย ทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เอ่ยถามอีกหน "แม่ทัพท่านเมื่อยหรือ""เล็กน้อย" เว่ยจวินอี้ช้อนดวงตาขึ้นเชื่องช้า "ทำไมหรือ" คิ้วเข้มขมวดบาง"เมื่อคืนท่าน...""เหลวไหล เจ้ากำลังคิดสิ่งใด เรื่องที่ข้าบอกไปเมื่อครู่จำได้หรือไม่เล่า""ขะ...ขอรับ ข้าจำได้แล้ว" กล่าวจบโจวหมิงจึงตะบึงกายถลันออกจากห้องเดี๋ยวนั้น เกรงว่าหากถามมากกว่านี้คงได้แผลขึ้นมาสักรอยเป็นแน่เว่ยจวินอี้มองตามแผ่นหลังลูกน้องขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-09
  • ท่านแม่ทัพได้โปรดหย่ากับข้าเถิด   บทที่ 5 เหตุบังเอิญ (2/2)

    ศาลาริมสระน้ำ บรรยากาศล้วนร่มรื่น การรับประทานอาหารและหารือเรื่องราชกิจมาถึง เฉิงซินได้นั่งร่วมวงบนโต๊ะอาหาร เว่ยจวินอี้สังเกตเห็นความผิดปกติบนนิ้วของนางพลางนิ่วหน้านางเป็นอันใด ทำตัวเซ่อจนได้เรื่องอีกแล้วหรือ"ท่านพี่ปลานี้เนื้อนุ่มนัก ท่านทานมากหน่อยนะเจ้าคะ" เสียงใสเอ่ยตัดบทภวังค์เว่ยจวินอี้เขาจึงผินหน้ามองคุณหนูช่ายพลางคลี่ยิ้มอ่อนช่ายจี้ถงคีบเนื้อปลาสีขาวนวลลงไปยังถ้วยของเว่ยจวินอี้ นางคลี่ยิ้มละไม ส่วนเฉิงซินก็หาได้สนใจพวกเขาทั้งสอง นางยังคงก้มหน้าก้มตาทานอาหารของตนต่อไป ทว่าแม่ทัพเว่ยกลับลอบมองท่าทีเย็นชาของเฉิงซินอย่างหงุดหงิดใจ นางแทบไม่สนใจเขาเลย เอาแต่ละเลียดชิมอาหารเบื้องหน้าช่างเห็นแก่กินยิ่งนัก"ท่านแม่ทัพ จวนของท่านตอนนี้ที่ตบแต่งเข้ามามีเพียงฮูหยินใช่หรือไม่" ใต้เท้าช่ายเอ่ยเฉิงซินผู้ลอบฟังอย่างเงียบ ๆ ชะงักตะเกียบลงทว่าหาได้เล็กรอดไปจากสายตาของแม่ทัพ เว่ยจวินอี้จับสังเกตอาการผิดแผกของนางได้ เขาจึงแสร้งยิ้มขัน "ตามที่ท่านเห็นอย่างไรเล่าใต้เท้า"ใต้เท้าช่ายมองไปยังบุตรีของตนซึ่งกำลังแสดงอาการกระมิดกระเมี้ยนอยู่ไม่น้อย ภายในใจของเฉิงซินตะโกนร่ำร้องเสียจนแทบกระดอนออก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-13
  • ท่านแม่ทัพได้โปรดหย่ากับข้าเถิด   บทที่ 6 แม่ทัพใจมาร (1/2)

    เสียงบ่าวของช่ายจี้ถงร้องเอะอะโวยวายให้อลหม่าน ผู้ที่นั่งสนทนากันอยู่บนศาลาริมน้ำตกใจยืนขึ้นฉับ เว่ยจวินอี้มองเฉิงซินที่กำลังหน้าถอดสีอยู่ริมแม่น้ำ เขาพ่นลมหายใจออกมาหนึ่งคำรบ"ไอหยา...ทำอย่างไรดี ช่ายเอ๋อร์ว่ายน้ำไม่เป็น" ใต้เท้าช่ายวิ่งรี่ไปยังพื้นที่เกิดเหตุดุ่ม ๆ ด้วยร่างกายที่ท้วมใหญ่ ทำให้ฝีเท้าของเขาช่างอืดอาดราวเต่ากำลังไต่ขึ้นเขาก็ไม่ปานเว่ยจวินอี้จึงสาวเท้าฉับลงจากเรือนพลางกระโจนลงไปยังแม่น้ำด้วยความรวดเร็ว บ่าวไพร่ต่างวิ่งเข้ามามุงดู โจวหมิงเบิกตาโพลง"ท่านแม่ทัพ!"ต่างคนต่างร้อนใจกันเสียยกใหญ่ กล่าวซุบซิบนินทา เสียงแตกจากกันออกเป็นสองฝั่ง เฉิงซินได้ยินชัดถนัดหู แม้น้ำเสียงจะเบาเพียงใดก็ตามนางไม่ได้ทำ!ฮูหยินผลักนางหรือจะใช่หรือ เจ้าไม่ได้เห็นนี่ นางอาจผลัดตกลงไปเองก็ได้แต่คุณหนูช่ายกับฮูหยินเดินเคียงกัน เหตุใดอีกฝ่ายไม่ช่วยดึงก่อนเล่าอุบัติติเหตุผู้ใดจะทันได้ระวังเล่าเสียงซุบซิบดังให้ระงม เว่ยจวินอี้ช่วยช่ายจี้ถงขึ้นมาจากน้ำได้สำเร็จ นางทั้งไอทั้งสำลักไม่หยุดหย่อน เมื่อบ่าวไพร่ดูจะหลงลืมหน้าที่ตนมากไปเสียแล้ว เว่ยจวินอี้จึงตวาดขึ้น"พวกเจ้าไม่มีงานทำเช่นนั้นหรือ ว่าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15
  • ท่านแม่ทัพได้โปรดหย่ากับข้าเถิด   บทที่ 6 แม่ทัพใจมาร (2/2)

    เผิงหลิน "ฮูหยิน เหตุใดท่านไม่บอกท่านแม่ทัพตามตรงเล่าเจ้าคะ""เจ้าคิดว่าข้าบอกไปแล้วเขาจะเชื่อข้าหรือ ช่างเถอะอย่าใส่ใจเลย รีบเก็บข้าวของให้เรียบร้อยก็แล้วกัน"หลี่อ้ายซีและเผิงหลินเหลียวมองกัน แววตาของนางรู้สึกเวทนานายหญิงของตนจับใจ ตั้งแต่ได้ติดตามข้างกายเฉิงซิน นางช่างอ่อนโยน และน้ำใจงาม แม้จะดูแก่นแก้วไปบ้างในบางเรื่อง ทว่ากลับทำให้จวนแม่ทัพที่ดูตึงเครียดมาก่อนมีสีสันขึ้นมามากนัก"ฮูหยินเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วหรือไม่เจ้าคะ อีกเดี๋ยวต้องเตรียมตัวที่ลานรับโทษ" บ่าวสตรีร่างท้วมเดินเข้ามาเร่งเร้าพวกนางดูเหมือนนางจะเป็นผู้รับหน้าที่ดูแลเรื่องการลงโทษเรื่องในจวนแม่ทัพแห่งนี้ เผิงหลินมองอีกฝ่ายเขม็ง กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ "เจ้าไม่เห็นหรือ ว่าพวกข้าเร่งมืออยู่ อีกอย่างแม่ทัพบอกว่าสองชั่วยามไม่ใช่รึ จะเร่งร้อนให้ได้อะไร ไต่สวนยังไม่รู้ความก็คิดจะลงทัณฑ์กันเสียแล้ว""ข้าเพียงทำตามหน้าที่เท่านั้น เชิญฮูหยินเตรียมตัวให้พร้อม"เฉิงซินพยักหน้าด้วยความเข้าใจ นางยืดกายขึ้น กล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม"พวกเจ้าไม่ต้องเป็นกังวล เพียงยี่สิบไม้เท่านั้น ไม่คณามือข้าหรอก""ฮูหยิน" หลี่อ้ายซีช้อนดวงตาข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15
  • ท่านแม่ทัพได้โปรดหย่ากับข้าเถิด   บทที่ 7 ลงทัณฑ์ (1/2)

    ลานลงทัณฑ์หน้าหอกักตน เฉิงซินนั่งคุกเข่าเพื่อรอรับการโบยอยู่ตรงนั้น นางไม่ขยับไปไหน จริง ๆ ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วยามด้วยซ้ำ ทว่านางกลับถูกลากตัวมาก่อนราวกับว่านางจะติดปีกบินหนี ซ้ำยังต้องนั่งคุกเข่าตากแดดตากลม เหงื่อชื้นไหลท่วมกาย ใบหน้าของนางเริ่มซีดขาวลงทุกขณะ เฉิงซินไม่ได้สังเกตว่ามีสตรีนางหนึ่งลอบเข้ามาใกล้บ่าวผู้รับผิดชอบการลงทัณฑ์ซุนฮ่าวเดินเข้ามาเบื้องหลัง พลางลากหญิงร่างท้วมไปยังที่ลับตาซุนฮ่าว "มัวรีรอสิ่งใดเล่า เหตุใดไม่โบยนางเสีย"ของที่ว่าลืมของนาง แท้จริงแล้วแอบย้อนเข้ามาในจวนอีกครา คำกล่าวเมื่อสักครู่ทำให้บ่าวผู้ลงทัณฑ์ดูลังเลอยู่ไม่น้อย ซุนฮ่าวเห็นท่าทีกระยึกกระยักเช่นนั้นจึงยกถุงเงินขึ้นยัดใส่มืออวบอั๋น นางนึกลังเล ทว่าซุนฮ่าวกลับกล่าวกรอกหู"เจ้าไม่รู้หรือว่าคุณหนูจี้ถงเป็นคนโปรดของท่านแม่ทัพ เจ้าไม่ทำตามคำสั่งแม่ทัพ เช่นนี้…ผู้ที่จะถูกลงทัณฑ์คงต้องเปลี่ยนเป็นเจ้าแล้วกระมัง""แต่…ท่านแม่ทัพเอ่ยว่าภายในสองชั่วยาม นี่ยังไม่ถึง" นางกล่าวด้วยความประหม่า"แท้จริงแม่ทัพอยากลงทัณฑ์นางใจแทบขาด ดูสิเหลือเวลาไม่มากแล้ว เจ้าทำตามคำสั่งแม่ทัพ มีแต่จะได้กับได้ เชื่อข้า"เมื่อถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-16
  • ท่านแม่ทัพได้โปรดหย่ากับข้าเถิด   บทที่ 7 ลงทัณฑ์ (2/2)

    สติของเฉิงซินเริ่มพร่าเลือนลงทุกขณะ นางมองเห็นเพียงภาพของบ่าวทั้งสองกำลังกอดกันร่ำไห้โยเย ตั้งแต่ได้เข้ามาที่จวนแม่ทัพเว่ย คงมีเพียงบ่าวสองคนนี้ที่ดูแลและเอาใจใส่นางอย่างดีที่สุด นี่คงเป็นทัณฑ์สวรรค์ที่ย้ำเตือนความผิดพลาดของเฉิงซินกระมัง ก่อนสติจะดับวูบลงในแส้ที่สิบ เฉิงซินคล้ายได้ยินเสียงกีบม้าห้อตะบึงเข้ามาไม่ไกลนัก เสียงใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ และหยุดลงที่เบื้องหน้าของนางในที่สุด ทว่าเฉิงซินมองเห็นเพียงกีบเท้าที่ดีดย้ำอยู่เท่านั้น"พวกเจ้ากำลังทำสิ่งใด!" เสียงทุ้มตวาดลั่นเขาหรือ เขาจริง ๆ น่ะหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร เฉิงซิน เจ้าคงใกล้สิ้นใจจนสติเลอะเลือนสินะยามนี้ในหูของเฉิงซินรู้สึกอื้ออึงไปเสียหมด นางแทบจับใจความสิ่งใดไม่ได้แล้ว สติที่พยายามประคองเอาไว้จึงดับวูบลง"ฮูหยิน!"หลี่อ้ายซี และ เผิงหลิน ต่างทิ้งข้าวของ วิ่งรี่เข้ามาอย่างลนลาน พลางคุกเข่าร่ำไห้เผิงหลิน "ท่านแม่ทัพ ช่วยฮูหยินด้วยเจ้าค่ะ ฮรึก ฮืออออ..."หลี่อ้ายซี "ยังไม่ถึงสองชั่วยามด้วยซ้ำ แต่นาง นาง..."ทั้งสองกล่าวอู้อี้ไม่เป็นศัพท์ เว่ยจวินอี้เหลียวมองไปยังสตรีถือแส้ร่างท้วม นางรีบลดกายและหมอบลง ความขลาดกลัวประดังประเดเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-16
  • ท่านแม่ทัพได้โปรดหย่ากับข้าเถิด   บทที่ 8 หนาวกายไหนเลยจะสู้หนาวใจ (1/2)

    "ท่านแม่ทัพให้ข้านำยามาให้ฮูหยิน"เฉิงซินแหงนหน้าขึ้นมองผู้มาเยือน เป็นโจวหมิงนั่นเอง"ข้าไม่เอา เชิญเอายาของแม่ทัพกลับไปเถิด" เฉิงซินปฏิเสธเสียงแข็งแม่ทัพใจดำคิดตบหัวแล้วลูบหลังข้าหรือ"ฮูหยิน อย่าทำให้ข้าต้องลำบากใจเลยขอรับ" โจวหมิงกล่าวอย่างสิ้นหวังนายของเขาดันกำชับเสียด้วยว่านางต้องรับยานี้เอาไว้ ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงต้องโดนลงโทษเป็นแน่ คิดแล้วก็ให้หวาดผวาอยู่ไม่น้อย เหตุไฉนเรื่องแง่งอนของสามีภรรยาจึงต้องตกเป็นหน้าที่ของเขาด้วยเล่า สามีอยากตามง้อภรรยาของตนทว่ากลับให้เขาเป็นฝ่ายออกหน้าแทนเสียได้"โจวหมิง ท่านกลับไปเถิดฮูหยินของข้าดีขึ้นมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ยาของท่านแม่ทัพ ขอบคุณท่านมาก" เผิงหลินกล่าวเชิญอีกฝ่าย น้ำเสียงคล้ายขอบคุณยิ่ง ทว่าสิ่งที่แฝงเอาไว้ในแววตากลับบ่งบอกโจวหมิงว่า ท่านไสหัวกลับไปเสียโจวหมิงมองห่อยาและมองเฉิงซิน สลับซ้ายขวากับบ่าวของนาง เขาทอดถอนใจ พลางเหลียวหลังเพื่อเดินจากไปด้วยความเหนื่อยอ่อน ก่อนจะพ้นธรณีประตู เฉิงซินจึงกล่าวเสียงดังไล่หลังเพื่อกำชับอีกหน"เจ้าบอกแม่ทัพด้วยไม่ต้องส่งสิ่งใดมาอีก ข้าไม่ขาดแคลน อยู่ในหอกักตนช่างสบายใจยิ่งนัก อีกไม่นานข้าจะไปห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17

บทล่าสุด

  • ท่านแม่ทัพได้โปรดหย่ากับข้าเถิด   บทที่ 20 ดวงจันทร์ที่ส่องสว่าง (ตอนพิเศษ)

    โคมไฟดวงกลมห้อยระย้าสีแดงสาดสะท้อนประดับประดาเต็มรายทางและบ้านเรือน บรรยากาศดูละเมียดละไมอบอุ่น บุหลันสีนวลตาเปล่งลำแสง รอบด้านโอบล้อมด้วยดวงดาวพราวระยับ วันนี้เป็นเทศกาลไหว้พระจันทร์ ท้องถนนเบื้องหน้าจึงแลดูครึกครื้นเป็นพิเศษ หนึ่งสตรีร่างบางทว่าโอบประคองท้องกลมสวยเดินเคียงคู่บุรุษร่างสูง ราวกับภาพบนผนังลายวิจิตรเลิศตา"ท่านพี่ ดูนั่นสิเจ้าคะ"เว่ยจวินอี้ทอดสายตามองตามปลายนิ้วเรียวที่ชี้ไปยังขนมไหว้พระจันทร์ลวดลายดอกไม้งามตา เขาคลี่ยิ้มอ่อนอย่างนึกเอ็นดู ตอนนี้มือทั้งสองของเขาแทบไม่เหลือที่ว่างให้สามารถหอบหิ้วสิ่งใดได้แล้ว"เจ้าอยากกินหรือ ที่ซื้อไปนี่เจ้าว่าจะทานหมดหรือไม่" เสียงทุ้มเอ่ยอบอุ่นเฉิงซินยู่หน้าเล็กน้อย "ข้าไม่ได้หิวเสียหน่อย เป็นเจ้าตัวเล็กต่างหากเล่าเจ้าคะที่กำลังหิวอยู่" เฉิงซินลูบไล้ไปยังท้องของตนซึ่งยื่นออกมากลมดิก พลางแหงนหน้ามองแล้วฉีกยิ้มกว้างให้ผู้เป็นสามี"ก็ได้ เช่นนั้นเจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้เล่า อย่าเที่ยวเดินสุ่มสี่สุ่มห้า"เฉิงซินฉีกยิ้มกว้างดีใจ "เจ้าค่ะท่านพี่"เว่ยจวินอี้เดินเข้าไปยังร้านที่มีผู้คนต่อแถวกันให้เนืองแน่น แม้เขาจะมียศถาบรรดาศักดิ์แต่ก็มิได้ใช้

  • ท่านแม่ทัพได้โปรดหย่ากับข้าเถิด   บทที่ 19 ลิขิตแห่งสวรรค์ (จบ)

    บรรยากาศภายในห้องสงบเงียบ แสงจากเชิงเทียนกลางโต๊ะกำลังส่องสว่างริบหรี่ เฉิงซินกำลังใจจดใจจ่ออยู่กับบาดแผลบนต้นแขนของเว่ยจวินอี้ ส่วนเขาก็เอาแต่นั่งจ้องคนที่กำลังดูแลบาดแผลให้ตนอย่างขะมักเขม้น ด้วยดวงตาเป็นประกาย"เหตุใดเจ้าจึงอยากหย่ากับข้าเช่นนั้นหรือ" เว่ยจวินอี้กล่าวทำลายความเงียบสงัดเฉิงซินชะงักมือลงชั่วครู่ นางไม่ได้แหงนหน้ามองเขา เพียงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเบาหวิว "ท่านเองก็น่าจะรู้ไม่ใช่หรือ"เว่ยจวินอี้ขมวดคิ้ว "รู้? ข้ารู้เรื่องใดเล่า หลังจากวันแต่งงานได้เพียงคืนเดียว ยามเช้าเจ้าก็เดินดุ่ม ๆ เข้ามาจ้องจะหย่ากับข้าให้ได้"การดูแลรักษาบาดแผลสิ้นสุดลง เฉิงซินเก็บข้าวของเรียบร้อย นางไม่ได้ตอบอีกฝ่ายเดี๋ยวนั้น เว้นระยะเล็กน้อย แล้วจึงช้อนดวงตาขึ้นสบประสานกับดวงตาคมกริบที่ไม่คิดละสายตาออกจากตน"แม่ทัพเว่ย...""ท่านพี่"เฉิงซินนิ่งเงียบ เว่ยจวินอี้จึงกล่าวอีกครั้ง "เรียกว่าท่านพี่""เอ่อ...ท่านพี่"เว่ยจวินอี้ยกโค้งมุมปากอย่างพึงพอใจ "ว่าอย่างไรเล่า""ที่ข้าอยากหย่ากับท่าน เดิมทีท่านก็ไม่เคยมีใจให้แก่ข้า""เจ้ารู้ได้อย่างไร" เว่ยจวินอี้เลิกคิ้ว นัยน์ตาพยายามกวาดมองใบหน้าเกลี้ยงเกลาราว

  • ท่านแม่ทัพได้โปรดหย่ากับข้าเถิด   บทที่ 18 มือสังหารในวันนั้นนี่มันเรื่องไม่เป็นเรื่องโดยแท้ (2/2)

    ไม่รู้เช่นกันว่าค่ำคืนนี้นางนึกอุตริใดจึงพกมีดสั้นเอาไว้ เมื่อเห็นว่ามันหายไปจากเอวของตนและด้วยความเป็นกังวลจะเกิดอันตรายต่อแม่ทัพ นางจึงมุ่งหน้าตามอีกฝ่ายมา แม้ระหว่างทางอาจไขว้เขวเส้นทางไปบ้าง ทว่าโชคยังดีที่การเดาสุ่มของนางก็นำพาตนมาจนถึงที่แห่งนี้เสวียนเฉิงฮุย "เฉิงซิน"เฉิงซินช้อนดวงตามองคนตรงข้ามที่ยืนนิ่งเป็นหินผาไปเสียแล้ว รองแม่ทัพเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "มิใช่ว่าเจ้าเคยบอกข้าว่าอยากหย่ากับเขา แต่เขาไม่ยอมเช่นนั้นหรือ ข้ากำลังช่วยเจ้าให้สมปรารถนา ทว่าเจ้าก็ยังวิ่งรี่กลับมาหาเขาตามเดิม ข้าไม่เข้าใจ""เฉิงฮุย นี่มันวิธีการใดของท่าน ข้าอยากหย่า แต่ท่านก็ไม่ต้องทำถึงเพียงนี้หรือไม่" เฉิงซินกล่าวตำหนิ"ข้าล้วนทำเพื่อเจ้า""ท่านไม่ต้องพูดแล้ว ข้าขอร้องพวกท่านทั้งสอง ถึงอย่างไรท่านก็คือสหายของข้า ส่วนท่าน..." เฉิงซินแหงนหน้ามองผู้ที่ยืนนิ่งเงียบ เว่ยจวินอี้จึงจดจ้องดวงตาของนางตอบอย่างรอถ้อยคำเฉิงซินพ่นลมหายใจอ่อน "แม้ข้าอยากหย่ากับท่าน ทว่าในใจลึก ๆ ข้าไม่เคยลืมท่านได้เลย ข้าเพียงต้องการหลุดพ้นจากวงโคจรแห่งความเจ็บปวด..."เว่ยจวินอี้นิ่วหน้า "ข้าทำให้เจ้าเจ็บปวดถึงเพียงนั้นเช

  • ท่านแม่ทัพได้โปรดหย่ากับข้าเถิด   บทที่ 18 มือสังหารในวันนั้นนี่มันเรื่องไม่เป็นเรื่องโดยแท้ (1/2)

    ภายในป่าอันเงียบสงัดมีเพียงเสียงหรีดหริ่งเรไร ดังสะท้อนก้องไปทั่วบริเวณ เว่ยจวินอี้ไล่ตามชายชุดดำจนลึกเข้ามาถึงป่าไผ่สูงชะลูด เขายืนเยือกนิ่งอยู่กลางวงล้อมของบรรดาไผ่ต้นยาว เสียงเอี๊ยดอ๊าดเสียดสีของลำต้นโงนเงนไปมาตามแรงลม เสริมความวังเวงให้น่าหดหู่มากยิ่งขึ้น เว่ยจวินอี้หอบหายใจเข้าออกถี่กระชั้น บ่งบอกถึงระยะทางที่เขาใช้แรงกายวิ่งออกมาไกลลิบ เส้นผมซึ่งถูกปล่อยสยายลงกลางหลัง และแขนเสื้อสีขาวกว้างปลิวล้อสายลมยามราตรีขับเน้นความหล่อเหลาทว่าน่าเกรงขามอยู่ในที เขาพยายามเงี่ยหูฟังเสียงการเคลื่อนไหวอย่างใจจดใจจ่อ"มัวหลบซ่อนราวสุนัขหดหัว ไม่อายบ้างหรืออย่างไร ออกมาเสีย!"เวลาผ่านไปชั่วครู่ เสียงฝีเท้าจึงค่อย ๆ ย่างกรายเนิบนาบมาจากมุมอับสายตาอันมืดมิดด้านหนึ่ง ชายร่างสูงสวมอาภรณ์ทะมัดทะแมงสีดำเข้ม ปกปิดหน้าครึ่งใบ ในมือถือมีดสั้นเล่มหนึ่ง เว่ยจวินอี้เขม้นมองของสิ่งนั้นอย่างสนใจใคร่รู้"เจ้าเป็นใคร ต้องการอะไรจากข้าเช่นนั้นหรือ ไฉนจึงตามระรานไม่เลิก"เว่ยจวินอี้ได้ยินเสียงแค่นหัวเราะจากลำคอของอีกฝ่าย "เรื่องนั้นสำคัญด้วยเช่นนั้นหรือ""หึ" เว่ยจวินอี้แค่นยิ้ม "ต่อให้เจ้าไม่บอกคิดว่าข้าไม่รู้เช่

  • ท่านแม่ทัพได้โปรดหย่ากับข้าเถิด   บทที่ 17 โอกาสแห่งแสงสว่างอีกครา

    ซุนอี้เหวินยื่นช้อนจ่อไปยังริมฝีปากเว่ยจวินอี้ นางรู้สึกประหม่าจิตใจเต้นอึกทึก ดวงตาที่ไม่มีผ้าคาดปกปิดมานานเพียงนี้ราวกับว่าเขากำลังจดจ้องมาที่นางโดยไม่ละสายตา กลิ่นขมของยาโชยปะทะโพรงจมูกของเขา เว่ยจวินอี้รู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องกลืนของเหลวรสย่ำแย่นี้แล้วจริง ๆ"ข้าไม่กินยาแล้วได้หรือไม่"ซุนอี้เหวินไม่ได้คะยั้นคะยอใด นางวางถ้วยลงและยื่นมือไปยังข้อมือของเว่ยจวินอี้ เขารู้เจตนาของนางดีว่าต้องการทำสิ่งใด เว่ยจวินอี้ยังคงนั่งสงบนิ่งเพื่อให้อีกฝ่ายตรวจวัดชีพจรของตนอย่างใจเย็น ซุนอี้เหวินขมวดคิ้ว หัวใจของนางเริ่มเต้นดังโครมคราม เหงื่อเย็นผุดพราวราวพบเจอเรื่องน่าประหวั่นเข้าให้เสียแล้ว ก่อนจะทันได้ผละออก จู่ ๆ ข้อมือของนางก็ตึงวืด กายลอยหวือนั่งแหมะลงบนตักแกร่ง ใบหน้าที่ถูกปกปิดด้วยผ้าแพรผืนบางถูกดึงลงแทบลืมหายใจ ซุนอี้เหวินเบิกตากว้างตะลึงลาน ส่วนผู้กระทำการอุกอาจกลับยิ้มลอยหน้าลอยตาไม่อนาทรร้อนใจใด"ซุนอี้เหวิน อา...ไม่ใช่กระมัง เฉิงซิน… หากเจ้าเป็นห่วงข้าก็ควรบอกเป็นห่วง ไฉนต้องทำถึงเพียงนี้กันเล่า"ผู้ที่ถูกจับได้ถึงกับใจเต้นกระหน่ำเรือนกายแข็งดั่งรูปสลักหินผาอยู่เช่นนั้น ริมฝีปากซึ่งไม

  • ท่านแม่ทัพได้โปรดหย่ากับข้าเถิด   บทที่ 16 เป็นเพียงแค่นิทานเท่านั้น (2/2)

    "หลายวันนี้ลำบากท่านแล้ว อากาศเช่นนี้ท่านชอบหรือไม่"ซุนอี้เหวินพยักหน้า"ข้าขอถามท่านหมอหนึ่งสิ่งได้หรือไม่"นางแหงนหน้าขึ้นมองคนตัวสูง ครุ่นคิด แล้วจึงพยักหน้าเป็นการตกลง"ท่านมีสามีแล้วหรือไม่"ดั่งอสนีบาตฟาดกลางกระหม่อม ซุนอี้เหวินยืนตัวแข็งทื่อหยุดฝีเท้าลงเดี๋ยวนั้น'สามีหรือ เกรงว่าสามีของนางคงไม่ยอมรับนางเป็นภรรยากระมัง'ซุนอี้เหวินจึงตัดสินใจยกฝ่ามืออีกฝ่ายขึ้นและเขียนบางสิ่ง'เหตุใดท่านจึงต้องการรู้เล่า'เว่ยจวินอี้คลี่ยิ้มบาง "ท่านไม่สะดวกใจก็ไม่เป็นไร เช่นนั้นข้าจะเล่านิทานให้ท่านฟัง"ซุนอี้เหวินกะพริบดวงตางุนงง"ครั้งหนึ่งมีนายทหารและคุณหนูตระกูลใหญ่อยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยา ทั้งสองดูเหมือนรักใคร่กันดี แต่ที่จริงแล้วคุณหนูผู้นี้ต้องการหย่ากับเขายิ่งนัก ทั้ง ๆ ที่นางก็ชมชอบเขา ทว่าสาเหตุที่นางต้องการหย่านายทหารผู้นั้นก็สุดจะรู้ วันหนึ่งเขาต้องออกไปรบรายังชายแดน เมื่อกลับมาก็พบว่าตนดั่งผู้พิกลพิการ ดวงตามืดบอดไม่อาจมองเห็นใบหน้าอันงดงามของภรรยาตนได้อีกต่อไป เขาไม่อยากให้คุณหนูผู้เป็นภรรยาที่รักต้องลำบากและจมปลักไร้อนาคต จึงตัดสินใจเขียนใบหย่ายื่นให้นาง หลังจากนั้นท่านว่านาง

  • ท่านแม่ทัพได้โปรดหย่ากับข้าเถิด   บทที่ 16 เป็นเพียงแค่นิทานเท่านั้น (1/2)

    เวลาล่วงเลยมาได้หนึ่งสัปดาห์ดวงตาของเว่ยจวินอี้กลับไม่ดีขึ้นเลย นางพร่ำถามเขาเสมอว่ามองเห็นบ้างหรือไม่ เขากลับตอบว่ายังมองไม่เห็น ทั้งที่นางตรวจวัดชีพจรของเขาแล้วดูเหมือนจะกลับมาเป็นปกติเกือบทั้งหมด อย่างน้อย ๆ ก็ต้องมองเห็นบ้างเลือนราง ทว่าคำตอบที่ได้แต่ละวันข้ามองยังไม่เห็นนางก็ทำได้เพียงทอดถอนใจก้มหน้าทำหน้าที่ของตนต่อไปทั้งที่คลางแคลงใจแต่ไม่อาจละทิ้งผู้ป่วย"ท่านแม่ทัพมีเทียบเชิญไปงานวิวาห์คุณหนูจี้ถงขอรับ" โจวหมิงเดินรี่เข้ามา พลางยื่นเทียบงานแต่งให้กับเว่ยจวินอี้ซุนอี้เหวินที่อยู่ตรงนั้นด้วยได้ยินเข้าก็แอบสะดุ้ง พลางแปลกใจพิกล'มิใช่ว่าคุณหนูจี้ถงอยากแต่งงานกับแม่ทัพหรอกหรือ'เว่ยจวินอี้เอ่ยราวกับรู้ใจนาง "จี้ถงจะแต่งงานแล้วหรือ เฮ้อ...นี่สิหนา ผู้ใดเขาจะอยากจมปลักอยู่กับแม่ทัพตาบอดเช่นข้ากันเล่า แม้แต่ฮูหยินของข้ายังหนีไปแล้วเช่นกัน"ซุนอี้เหวินหน้าเผือดสีลง ทว่านางยังคงทำราวกับไม่ได้ยินสิ่งเหล่านั้น ปล่อยผ่านเลยไปเช่นเสียงหวีดหวิวของลมพัด"ท่านจะไปหรือไม่ขอรับ" โจวหมิงเอ่ยถามเขาเหลียวหน้ามองไปตามเสียง เว่ยจวินอี้ฉีกยิ้มดูเบิกบานใจเสียด้วยซ้ำ "ข้าย่อมต้องไปอยู่แล้ว"จู่ ๆ

  • ท่านแม่ทัพได้โปรดหย่ากับข้าเถิด   บทที่ 15 ผ้าคาดดวงตาที่ถูกปลดลง (2/2)

    ด้วยองศาที่ต้องเอียงมองเบื้องหลัง จึงทำให้ใบหน้าของนางแนบชิดเว่ยจวินอี้ยิ่งนัก ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดเข้ามาเสียจนขนอ่อนลุกเกรียว ไม่รู้ว่าซุนอี้เหวินหูฝาดไปเองหรือไม่ นางได้ยินเสียงหัวเราะหึซึ่งอีกฝ่ายมักขบขันตนเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง ส่งผลให้จิตใจของนางกระสับกระส่ายมากยิ่งกว่าเดิมนัก อกด้านซ้ายพลอยกระหน่ำโลดเสียจนแทบหยุดเต้น"แกะไม่ได้หรือ"จู่ ๆ เสียงทุ้มก็ดังขึ้นไม่มีปี่มีขลุ่ย ซุนอี้เหวินสะดุ้งตัวโยน เว่ยจวินอี้รับรู้ถึงแรงกระตุกน้อย ๆ นั้น "ขออภัยท่านหมอ ไฉนขวัญอ่อนเพียงนี้เล่า"'ใครให้อยู่ ๆ อยากพูดก็พูด อยากเงียบก็เงียบเล่า'นางอยากออกจากห้องนี้โดยเร็วเหลือเกิน รู้สึกอึดอัดจนแทบหยุดหายใจลงไปเดี๋ยวนั้น ในที่สุดผ้าที่พยายามยื้อยุดแกะคลายมานานก็ถูกปลดลงเสียที ซุนอี้เหวินระบายลมหายใจโล่งอก นางค่อย ๆ ถอยห่างจากอีกฝ่ายช้า ๆ หัวใจเต้นอึกทึกด้วยความประหม่า'ซุนอี้เหวิน อย่าได้กลัวไป เขายังไม่หายวันหายพรุ่งหรอกน่า'นางพยายามปลอบประโลมตนเองทั้งที่ใบหน้าซีดขาวลงไปกว่าครึ่งแล้ว แม้นางสามารถรักษาคนได้ก็จริง ทว่านางห่างหายเรื่องการรักษามานานมากโข นาน ๆ ทีจะได้ไปหาอาจารย์ คาดไม่ถึงว่าต้องมาคอยดูแ

  • ท่านแม่ทัพได้โปรดหย่ากับข้าเถิด   บทที่ 15 ผ้าคาดดวงตาที่ถูกปลดลง (1/2)

    ม่านหมอกแห่งราตรีกาลคลี่คลุมลงมาบดบังแสงจากดวงตะวัน คืนนี้ช่างหนาวเย็นยิ่งนัก วันนี้ซุนอี้เหวินต้องเตรียมปลดผ้าคาดดวงตาให้กับเว่ยจวินอี้ นางแอบหวั่นใจอยู่บ้าง จุดประสงค์ของนางต้องการรักษาดวงตาแม่ทัพให้หายดีก็จริงอยู่ แต่ทว่าหากดวงตาของเขาหายแล้วนางควรทำเช่นไรต่อไปเล่า เพราะนางก็มีบางสิ่งที่กำลังซ่อนเร้นคนผู้นี้เช่นเดียวกัน หากวันนั้นมาถึงนางคงต้องรีบตะบึงกลับออกไปเดี๋ยวนั้นกระมัง เดินครุ่นคิดไปตลอดทางซุนอี้เหวินพลันมาหยุดยืนที่เบื้องหน้าห้องของเว่ยจวินอี้เมื่อใดก็สุดจะรู้ ฝ่ามือผุดซึมไปด้วยเหงื่อเย็น ข้างในช่างเงียบสงัด หรือว่าแม่ทัพเว่ยนั้นหลับไปแล้ว วันนี้ควรเลื่อนออกไปก่อนดีไหมเล่า ซุนอี้เหวินตัดสินใจหมุนกายตั้งท่าก้าวห่างออกไปราวกับที่แห่งนี้ไม่สมควรรั้งอยู่นาน ทว่าเสียงทุ้มจากด้านในกลับดังแทรกขึ้นเสียก่อน"ท่านหมอ มาแล้วเหตุใดยังยืนอยู่ตรงนั้นเล่า"ซุนอี้เหวินตัวแข็งค้างนางหยุดฝีเท้าลงฉับ พลางกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบากลำบนดั่งผู้ทานอาหารแล้วพบเมนูไม่ถูกปาก แขนขาสั่นเทาโดยไร้สาเหตุ เวลาชั่วประเดี๋ยว คนด้านในคงไม่รู้สึกถึงความเคลื่อนไหว เขาจึงเอ่ยออกมาอีกครา"หรือท่านกริ่งเกรงต่อสถาน

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status