ทันทีที่เสิ่นชิงเวยพูดจบ บัณฑิตและขุนนางทุกคนก็ต่างพากันขยับหนีทันที นึกว่าจะมาดูเรื่องสนุกกลายเป็นต้องเสียเงิน สุดท้ายเสิ่นชิงเวยก็ได้มาสามพันตำลึงเบาๆ อีกทั้งยังกระตุกหยกห้อยเอวจ้าวเหวินและปิ่นหยกผีเสื้อของหลิวเสี่ยวเหยียนมาได้อีกด้วย
ไม่ทันพ้นประตูบ้านก็ได้ยินเสียงโหยหวนของป้าฝางดังมาจากนั้นก็ได้ยินเสียงพ่อบ้านเผยเอ่ยเสียวเข้มเพื่อจงใจให้นางได้ยิน
"โบยให้ครบร้อยไม้ เอาไปทิ้งสุสานไร้ญาตบังอาจคิดไม่ชื่อกับท่านแม่ทัพ"
เสิ่นชิงเวยต้องหาทางไปจากที่นี่ ผู้ชายคนนี้ใจแคบ ไม่ฟังเหตุผล หาทางกลับบ้านก่อนค่อยว่ากัน
เมื่อมาถึงบ้านน้องชายกับน้องสาวก็นั่งหลับรอนางทั้งคืนแต่เหตุใดมานั่งอยู่หน้าประตูบ้าน ในบ้านผู้คนพลุกพล่านนัก ทันทีทีที่เห็นนางก็วิ่งมากอด
เสิ่นชิงเวยกำลังปลอบใจน้องๆ ชายวัยกลางคนก็เดินมาหานางก่อนจะเอ่ย
"แม่นนางเสิ่น ข้าคือเถ้าแก่พ่านแม่นางเสิ่นจำข้าได้หรือไม่"
เสิ่นชิงเวยมองหน้าบุรุษตรงหน้า พยายามเค้นความทรงจำของร่างเดิมก็จำบุคคลคนนี้ได้ เขาเป็นเถ้าแก่ซื้อขายบ้านหรือเช่าบ้านในเมืองหลวง สมัยก่อนบิดาของร่างเดิมเคยคบค้าสมาคมกับเขาอยู่พอสมควร แต่สนิทถึงขั้นไหนนั้นนางไม่อาจรู้
"ท่านลุงพ่าน บังเอิญจังได้เจอท่านวันนี้ อาของข้านำไปจำนองท่านไว้หรือเจ้าคะ"
"เอ้อ นายท่านรองติดการพนันเขาไม่เพียงจำนำบ้านหลังนี้ ได้ข่าวว่าให้คนวาดรูปของท่านให้กับขุนนางเฒ่าคนหนึ่งในเมืองหลวงเพื่อต้องการขายท่านไปเป็นอนุ รวมถึงน้องสาวท่านด้วยได้ยินมาว่าเพียงแค่เห็นรูปวาดของท่านพวกเขาจ่ายถึงห้าพันตำลึงสำหรับท่านสองคนพี่น้อง ส่วนน้องชายท่านพวกเขาจ่ายอีกสองพันเพื่อส่งไปแคว้นลู่ ที่นั่นได้ยินว่าองค์ชายรองชอบบุรุษหนุ่มหน้าตาดี ข้าเองก็แค่คนกลางในการซื้อขายบ้าน แม่นางเสิ่นใต้เท้าเสิ่นชวนเคยช่วยข้าหลายครั้ง วันนี้บอกกล่าวท่านเพื่อให้ระวังตัว หากหาทางออกจากเมืองหลวงได้จงอย่ากลับมา"
พ่านจื่อส่งตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงให้แก่นาง ก่อนจะบอกว่าเขาเตรียมรถม้าไว้ให้นางแล้ว ให้รีบออกเดินทาง บ่ายวันนี้ใต้เท้าเหลียนจะส่งคนมารับนางกับน้องสาว เสิ่นชิงเวยเกลียดอารองของร่างเดิมนัก นางรับเอาตั๋วเงินมาก่อนจะกล่าวขอบคุณ เสิ่นชิงเวยเก็บของใช้บางอย่าง ป้ายฐานะรวมถึงป้ายวิญญาณบิดามารดา จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดบุรุษก่อนจะจับน้องทั้งสองคนเปลี่ยนเป็นชุดบุรุษ ตั๋วเงินถูกเย็บใส่ในชอบชายเสื้อกับกางเกง นางเหลือเงินติดตัวเพียงห้าพวงกับตั๋วเงินห้าตำลึงสองใบ
เมื่อถึงเวลาก็ออกทางหลังจวน ยามอู่แล้วสามพี่น้องพากันเดินเลาะชายแม่น้ำหลังเมืองหลวงไปยังรถม้าที่พ่านจื่อจอดรอ ทั้งสามนั่งพักอยู่ที่ร้านน้ำชาเก่าๆของสองตายายคู่หนึ่ง ได้ยินเสียงพวกเขาคุยกัน
"ได้ข่าวว่าเมื่อคืนมีสตรีคิดปีนเตียงท่านแม่ทัพ ป้าฝางหญิงชราที่ส่งนางไปขึ้นเตียงถูกโบยจนตาย"
"วันนี้มีประชุมเช้า แต่ท่านแม่ทัพให้คนไปสืบแล้ว สตรีนางนั้นจะถูกโยนไปเป็นนางบำเรอกองทัพหรือถูกแส้ฟาดจนตายกันแน่"
"เฮ้อ หากเป็นข้าคงยอมตายดีกว่า เป็นนางบำเรอกองทัพยิ่งกว่าตกนรกเสียอีก วันหนึ่งต้องหลับนอนกับทหารกลัดมันเหล่านั้น นางโลมในหอโคมเขียวยังดีกว่าเสียอีก"
เสิ่นชิงเวยที่กำลังยกน้ำชาขึ้นดื่มถึงกับสำลักจนน้องสาวต้องลูบหลังให้นาง เสิ่นชิงเวยยิ้มให้น้องสาวก่อนจะจ่ายเงินแล้วพากันออกไป เสิ่นชิงเวยเดินไปหาคนรับเขียนคำร้องก่อนจะจ่ายเงินแล้วเขียนข้อความส่งให้กับคนรับส่งข่าวสาร นางไม่อยากให้ลุงพ่านเดือดร้อน
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็เอาดินมาทาหน้าตนเองกับน้องๆ เสื้อผ้าทาด้วยดินสกปรกมอมแมม จากนั้นก็ไปรวมกับบรรดาขอทานที่กำลังจะถูกผลักให้ออกนอกเมืองหลวง ไม่นานนางกับน้องก็มาอยู่ตรงกลางกลุ่มผู้อพยพ เสียงร่ำไห้ระงม ชาวบ้านเหล่านี้หนีภัยพิบัติมา แต่กลับถูกผลักดันให้ออกจากเมืองหลวง ต้องไปอดอยากฮ่องเต้ทำอะไรกัน คนเหล่านี้มิใช่ราษฎรต้าหลี่หรอกหรือ
"ฮือๆๆ ใต้เท้าท่านนี้ ข้าไม่มีบ้านให้กลับแล้วอย่าไล่พวกเราไปเลย"
"ฮือ นั่นสิใต้เท้าอย่าไล่พวกเราไปเลยนะขอรับ พวกข้าหนีมาเพราะสงครามตอนนี้ไม่มีที่ทำกินแล้ว"
เหล่าผู้อพยพต่างร้องขอแต่ทหารยามกลับเงื้อทวงเตรียมจ้วงแทงคนที่มาเกาะขอเขา แต่กลับถูกขวางไว้จากทหารด้วยกัน
ทหารพากันผลักดันเหล่าผู้ลี้ภัยออกไป เสิ่นชิงเวยจับมือน้องๆแน่น ขอเพียงพ้นประตูเมืองได้นางก็จะเป็นอิสระ นางไม่รู้เลยว่าตอนนี้คนที่นางต้องการหนีมากที่สุดกำลังให้คนไปสืบเรื่องของนางแล้ว
"พี่ใหญ่ท่านหายไปทั้งคืนเลย เหนื่อยมากไหมเจ้าคะ"
"อืมไม่เหนื่อย ว่าแต่คนมากมายมาทำอันใดกัน"
"พวกเขามายึดบ้าน บอกว่าท่านพ่อติหนี้ ไล่พวกเราออกมาอยู่ข้างนอกเจ้าค่ะ"
"อยู่ที่นี่เดี๋ยวพี่มา"
เมื่อไปสอบถามจึงรู้ว่าอาของพวกนางเสิ่นชิวติดหนี้พนันเอาบ้านหลังนี้ไปจำนอง เสิ่นชิงเวยจึงขอเวลาพวกเขาสามวันเพื่อย้ายออก ขอเวลาหาบ้านเช่าให้ได้ก่อน จากนั้นก็เดินมาหาน้องชายน้องสาวยิ้มให้
"เราจะย้ายไปที่อื่น คืนนี้ไปนอนโรงเตี้ยมกันพี่ขอเวลาพวกเขาเก็บเสื้อผ้าของใช้"
เด็กทั้งสองพยักหน้าเสิ่นชิงเวยก็ลูบศรีษะพวกเขา พี่สาวเจ้าจากไปแล้วต่อไปนี้ ข้าจะดูแลพวกเจ้าแทนนางเอง
จวนเผยเผยซ่างกวนนั่งอยู่กลางห้องโถงใหญ่ เผยฮูหยินนั่งร้องไห้คร่ำครวญเพราะคนสนิทถูกโบยจนตาย เผยปินนกอดฮูหยินตนเองจ้องหน้าบุตรชายก่อนจะเอ่ยขึ้น"กวนเอ๋อร์ เจ้าทำอันใดป้าฝางเป็นคนเก่าคนแก่ของมารดาเจ้าเหตุใดต้องลงโทษเพียงนั้น เจ้าจะฆ่าก็ควรเป็นสตรีไร้ยางอายนั่น"เผยซ่างกวนมองหน้าบิดาสลับกับเผยฮูหยินก่อนจะยิ้มเหยียดหันไปทางบิดาเอ่ยออกมา"มารดาข้าหลับอยู่ที่วัดไท้ส่วย ตรงหน้าคือฮูหยินของท่าน อีกอย่างป้าฝางทำอะไรเผยฮูหยินมิทราบแจ้งแก่ใจตนเองจริงๆหรือ ท่านพ่อบางทีท่านอาจกล่าวถูกดูเหมือนว่าข้าจะฆ่าผิดคน"ไอเย็นแผ่ออกมาจากร่างสูงที่ยืนขึ้นเต็มตัว เผยจงหยวนรีบเดินไปหามารดาทันที พี่ใหญ่นับวันยิ่งน่ากลัว เขากอดแขนมารดาเอาไว้ เผยฮูหยินลูบหลังบุตรชายก่อนจะเอ่ย"กวนเอ๋อร์ แม่รู้ว่าแม่ไม่อาจแทนที่มารดาเจ้าได้ แต่อย่าทำเช่นนี้เลยดูสิหยวนเอ๋อร์กลัวจนลนลานแล้ว โถลูกแม่พี่เจ้าแค่กำลังโมโห หาที่ระบายอารมณ์เท่านั้นไม่ได้ตั้งใจทำให้เจ้ากลัวหรอก"เผยปินปาถ้วยชาลงพื้นก่อนจะตวาดเสียงเข้ม"เป็นแม่ทัพแล้วอย่างไร ข้าเป็นบิดาเจ้ามิใช่ทหารใต้อาณัติเจ้า นางเป็นท่านแม่เจ้าควรให้เกียรตินาง""นางเป็นภรรยาท่าน ไปปลอบประ
นอกเมืองหลวงเสิ่นชิงเวยที่ออกจากประตูเมืองได้สักพักแล้ว จนห่างจากเมืองหลวงถึงสิบลี้แล้ว(5กิโลเมตร) จากนั้นก็รอจนทหารยามเผลอจึงจุงน้องๆออกมาจากกลุ่มผู้ลี้ภัย ทหารเหล่านี้ไม่ใช่คนดี เห็นได้ชัดบางคนก็ลวนลามหญิงสาว ไม่มีใครกล้าทำอะไรพวกมัน เสิ่นชิงเวยแม้ไม่พอใจแต่นางไม่อาจช่วยคนอื่นจนตัวเองเดือดร้อน เพิ่งมาได้สองวันต้องยอมมองดูความอยุติธรรมตรงหน้า"พี่ พวกเขาจะตามจับเราไหม""ชู่ จุ๊ๆๆ อย่าเสียงดัง เห็นเหวข้างล่างไหม พี่จะใช้เชือกมัดเอวพวกเจ้าแล้วหย่อนลงไปห้ามร้องห้ามโวยวายไม่งั้นพวกนั้นได้ยินจะฆ่าเรา""พี่ใหญ่ ข้าไม่ร้องข้าอดทนได้"เสิ่นชิงชิวเอ่ยกับพี่สาว เสิ่นชิงเวยมัดเอวเสิ่นชิงผิงคนแรก ก่อนจะค่อยๆหย่อนน้องสาวลงไปที่เหวด้านล่าง ลึกประมาณสิบจั้ง(250เมตร) จากนั้นก็บอกให้แกะเชือกก่อนจะหย่อนน้องชายตามลงไป เมื่อน้องๆลงแล้วนางก็หย่อนตัวเองตามไป จากนั้นก็จุดไฟเผาเชือกให้ไฟค่อยๆลามเผาไหมจนหมดทั้งสามคนหลบอยู่ใต้ชะง้อนหินของหน้าผา หินขนาดกล้างเกือบสองจั้งที่ยื่นออกมาทำให้สามพี่น้องหลบอยู่ใต้นั้นได้พอดี เสียงหญิงสาวผู้อพยพร้องโหยหวนมาทางด้านบนพวกเขา ทหารกำลังย่ำยีเหล่าหญิงสาวไม่ถึงอึดใจเลือดก็
สามพี่น้องนอนในถ้ำด้านนอกฝนหยุดแล้ว โชคดีที่ด้านในมีบ่อน้ำพุร้อน จึงทำให้อุ่นอยู่เสมอ เสิ่นชิงเวยที่วางซาลาเปาไว้ข้างบ่อน้ำทั้งคืนก็ลุกมาปลุกน้องชายกับน้องสาวให้ตื่นเพราะเช้าแล้ว"น้องรอง น้องเล็กตื่นเถอะ เดินทางตอนเช้าจะได้ไม่ร้อน""พี่ใหญ่ เหตุใดเราต้องออกจากเมืองหลวงขอรับ""ท่านอาขายพี่กับพี่รองเจ้าให้กับขุนนางเกษียณคนหนึ่งไปเป็นอนุ หากไม่หนีจะทำเช่นไร รีบล้างหน้าล้างตาเถอะ ที่นี่ถึงจะอยู่ในป่าแต่ห่างจากเมืองหลวงเพียงสามสิบลี้ พวกเรายังไม่ปลอดภัย"สองพี่น้องพยักหน้าก่อนจะไปล้างหน้าเสิ่นชิงเวยบอกน้องๆว่านางจะไปหาผลไม้และหาแหล่งน้ำ เพราะน้ำใกล้จะหมดแล้ว สัญชาตญาณเอาตัวรอดจากชาติที่แล้วทำให้ตามหาไม่ยาก ไม่นานก็เจอไก่ป่าสองตัว กำลังจะจัดการก็เห็นว่ามีไก่ป่าจากอีกด้านเกือบยี่สิบตัว ถ้าเช่นนั้นที่นี่เป็นรังของพวกมันหรือเสิ่นชิงเวยค่อยๆคลานเบาๆไปยังฝูงไก่ที่จิกหาหนอนอยู่ ไม่นานก็เจอรังของพวกมัน มีไข่กว่าสามสิบฟอง เสิ่นชิงเวยเก็บทีละฟองอย่างทะนุถนอม ไม่รู้ว่าต้องเดินอีกนานไหมมีเสบียงดีกว่าไม่มี เงินที่ปล้นเขามาได้ยังไม่ถึงเวลาใช้ไม่อยากเสียเวลามานั่งเชือดไก่จึงเอาแต่ไข่แล้วจากไป เจอเถาวั
ฝนตกลงมาสามวันทำให้ติดอยู่ที่นั่น หลังจากฝนหยุดก็พากันเดินทางต่อ ครึ่งเดือนต่อมาก็ออกจากป่ามาถึงหมู่บ้านริมน้ำ เสิ่นชิงเวยพาน้องๆไปหาที่พัก เดินทางมาอีกครึ่งเดือนก็ถึงเมืองเหอเมื่อหาโรงเตี้ยมได้พอเข้าที่พักก็สั่งอาหารกับน้ำอุ่นให้น้องๆได้อาบน้ำ ระหว่างทางแวะหมู่บ้านที่ผ่านทางขอซื้อเสื้อผ้ากับชาวบ้าน ตอนนี้เสิ่นชิงเวยกับน้องๆจึงเหมือนชาวบ้านมาจับจ่ายข้าวของเพราะใกล้เทศกาลปีใหม่แล้ว"อยู่ในนี้นะ พี่จะไปดูว่ามีรถม้ารับจ้างหรือไม่ ที่นี่อยู่ไกลจากเมืองหลวงน่าจะห้าร้อยลี้แล้ว ถ้าเราจ้างรถม้าไปที่เมืองเป่าซานน่าจะไม่เกินสิบวันก็ถึง แต่ถ้าเป็นเกวียนวัวคงจะนาน"เด็กๆพยักหน้า เสิ่นชิงเวยไม่อยากเอาน้องๆมาเสี่ยง การเช่ารถม้ามีแต่ผู้หญิงกับเด็กคนเราใช่ว่าจะซื่อสัตย์ต่ออาชีพ ตัดสินใจไปร้านมืดนำป้ายหยกออกมาก่อนจะเดินเข้าไป"คุณชายท่านนี้มีทราบว่าต้องการให้ข้าน้อยรับใช้อันใดหรือขอรับ""เอ่อ เถ้าแก่เบาๆหน่อย คือว่าเจ้านายของข้าบังเอิญเสียในบ่อนพนันไปพอควรจึงอยากถอนทุนคืน ไม่ทราบว่าท่านรับจำนำหรือไม่""จำนำแล้วจะมาไถ่คืนหรือไม่""ต้องไถ่คืนสิ แต่ท่านอย่ากล่าวดังไปนะขอรับ หยกห้อยเอวนี่ราคาสูงนักว่ากัน
เสิ่นชิงเวยลักลอบออกจากโรงเตี้ยมไปที่บ่อนพนันหลังโรงรับจำนำ ก่อนจะเอาเสื้อที่ชุบน้ำมันเตรียมไว้ ค่อยๆจุดไฟทีละจุดไฟเริ่มลามนักพนันและคนงานรีบวิ่งดับไป เสิ่นชิงเวยคว้าตั๋วเงินมาได้อีกยี่สิบกว่าใบ รีบกลับไปยังโรงเตี้ยม ปลุกน้องๆให้ตื่นเพราะไปกำลังลามไปทั่วบ่อนและโรงรับจำนำผู้คนแตกตื่นเสิ่นชิงเวยซ่อนตั๋วเงินทั้งหมดไว้ในรองเท้าที่ ร่างนี้เป็นคนตัวเล็กเมื่อสวมรองเท้าจึงทำให้สูงขึ้น คนจึงเชื่อว่านางเป็นบุรุษ ยามเฉินเจ้าหน้าที่ตรวจค้นทุกห้องเพื่อหาขโมยมีข้าวของถูกขโมยออกมาจากโรงรับจำนำกับบ่อนพนันมากมายค้นจนมาถึงห้องของนางเสิ่นชิงเวยแสร้งไอรุนแรง เลือดที่นางลงทุนกรีดฝ่ามือตนเอง ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่กล้าเข้ามา เสิ่นชิงเวยเอามือปิดปากพร้อมไอรุนแรง"แค่กๆๆ ท่านเจ้าหน้าที่ เชิญขอรับ""เจ้าเป็นอะไร แล้วน้องชายเจ้าสองคนนี้ด้วยป่วยเช่นกันหรือเปล่า""แค่กๆๆ เดิมข้าจะเข้าสอบ แต่เพราะป่วยร้ายแรง แค่กๆๆ ทางสำนักบัณฑิตจึงไล่กลับ เกรงว่าข้าจะแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นขอรับ แค่กๆๆๆ"มือปราบละเว้นห้องของพวกนางไม่ตรวจค้นเพราะเกรงกลัว เห็นนางไอจนเลือดยิ่งปอดแหกหนักกว่าเดิม เมื่อทุกคนไปแล้ว สามพี่น้องก็ประคองพี่สาวใน
ได้ยินชาวบ้านที่เมืองเหลิงซานคุยกันนางจึงถามข้อมูลมา ที่หยางไหวมีแค่สี่ร้อยหลังคาเรือน ไม่เล็กจนเกินไป ไม่ใหญ่จนพลุกพล่านน่ารำคาญ ก่อนจะเอ่ยกับชายวัยกลางคนมีสายตาไม่น่าไว้วางใจ นางกำลังแพ้ท้องยังไม่สามรถกระทืบใครได้เต็มที่จึงอยากไปให้พ้นๆก่อน"ขอบคุณท่านลุงเจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ ใต้เท้าข้ากับน้องผ่านได้หรือยังเจ้าคะ""ผ่านได้แล้ว เอ่อเดินทางระวังด้วยนะแม่นางกำลังตั้งครรภ์บางคนนะชอบรุ่มร่ามกับสตรีมีครรภ์เหมือนเป็นโรคจิต"เจ้าหน้าที่ยอมให้ผ่าน แต่ประโยคหลังเขาเดินมากระซิบกับนางเป้นการเตือน เสิ่นชิงเวยเอ่ยขอบคุณ ดูท่าไอ้แก่โรคจิตนี่ชอบหลับนอนกับผู้หญิงท้อง เสิ่นชิงเวยยอมรับว่าร่างเดิมที่นางครองอยู่นี้นับว่าสวยเชียวหล่ะ ถ้าอยู่ในยุคปัจจุบันเป็นนางเอกหรือนางแบบโฆษณาสบายเลยไม่แปลกที่ไอ้นี่จะหื่น"นั่งดีๆนะพี่จะไปหาโรงเตี้ยมพักก่อน""พี่ใหญ่ข้าง่วงแล้ว""ได้ๆ เดี๋ยวไปดูตรอกข้าหน้ากัน"เห็นไอ้แก่นั่นส่งสัญญาณให้คนของมันแล้วว่าให้ตามรถม้านางมา หึ นี่ใครย่ะ ควบรถม้าเข้าเมืองก็หาจังหวะซัดเข็มเงินที่ชุบยาสลบเอาไว้ใส่พวกมันทันที รถม้าไปไกลแล้ว แต่คนของตาแก่นั่นค่อยๆล้มลงๆทีละคน เข็มเ
ศาลาว่าการตำบลหยางไหว"ใต้เท้าเจ้าคะ ข้าอยากได้ทะเบียนบ้านเจ้าค่ะ พอดีข้ากับน้องย้ายมาจากเป่าซาน สามีตายในสนามรบแม่สามีรังเกียจ มิหนำซ้ำสามีมาจากไปตอนที่ข้ากำลังตั้งครรภ์ ข้าไร้ซึ่งทางไปได้แต่หอบลูกในท้องมาอาศัยที่นี่ เห็นเขาบอกกันว่านายอำเภอกู้เป็นคนมีจิตใจเมตากรุณายิ่งนัก มิทราบว่าท่านใช่ใต้เท้ากู้หรือไม่เจ้าคะ"เสิ่นชิงเวยรู้ฐานะของเขาจากป้ายห้อยเอว แต่นางเพียงแค่ทำเป็นไม่รู้จึงยกยอเขาอีกสักหน่อยเท่านั้น กู้เหยียนยิ้มแก้มปริ อืมก็เขาน่ะสิจะใครล่ะ นานๆจะมีคนตาถึงเห็นว่าเขาเป็นคนจิตใจงดงามสักทีชาวบ้านเห็นเขาต้องหลีกให้ไกล เพราะพวกเขาไม่ยอมจ่ายภาษี พอเขาทวงก็ร้องไห้ฟูมฟายราชสำนักเล่นงานหมายหัวเขามาแล้ว หากเขายังใจดีอยู่หมวกขุนนางก็ไม่อาจรักษาได้แล้ว แต่ว่าอย่างไรเล่า ผลผลิตชาวบ้านก็ใช่จะดีนัก จากนั้นเขาหันมาสนใจสตรีรู้ความตรงหน้าก่อนจะเอ่ย"อืม เพิ่งย้ายมาหรือแจ้งชื่อเสียงมาเถอะข้าจะจัดการเรื่องทะเบียนบ้านให้ ว่าแต่เจ้ามีที่อยู่แล้วหรือ""ใต้เท้า อย่าว่าข้าเอ่อใช้งานท่านเลย ข้าเป็นสตรีมีน้องยังเล็กท่านช่วยดูที่หมู่บ้านให้หน่อยได้ไหมเจ้าคะ ว่ามีบ้านหลังไหนที่ไม่ต้องซ่อมแซมมากนัก ข้า
ยามซื่อสามพี่น้องพากันมาถึงที่จวนของนายอำเภอเรียบร้อยแล้ว พวกนางกินมื้อเช้าเรียบร้อยแล้วได้แต่นั่งรอจนกระทั่งกู้เหยียนเดินออกมา เห็นเป็นเสิ่ยชิงเวยนั่งรออยู่มีเด้กสาวอายุไม่น่าจะเกินสิบเอ็ดสิบสองกับเด็กผู้ชายประมาณเก้าขวบสิบขวบนั่งอยู่ข้างๆ เสิ่นชิงเวยลุกคำนับเขาทันที ในมือเด็กทั้งสามีเพียงห่อผ้าคนละห่อ"อืม ไปกันเถอะ หมู่บ้านที่เจ้าจะไปอยู่นั้นเงียบสงบผู้คนจิตใจดีข้าให้คนไปคุยกับผู้นำหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว เขาว่ามีหลังหนึ่งที่ไม่ต้องซ่อมแซมเข้าอยู่ได้เลยเป็นบ้านอิฐมุงกระเบื้องอย่างดี ราคาสามสิบตำลึงประมาณเจ็ดหมู่ไม่แพงเพราะติดตีนเขา""ห่างไกลจากหมู่บ้านเกือบสามลี้ ส่วนอีกหลังราคาประมาแปดสิบตำลึงอยู่ในหมู่บ้าน เจ้ากำลังตั้งครรภ์แม่นางเสิ่นหากเจ้ามีเงินไม่พอสามรถหยิบยืมทางการได้ มีเงินให้ชาวบ้านไดกู้ไปใช้จ่ายก่อนแล้วส่งคืนทีหลังดอกเบี้ยไม่แพงมากนัก""มีเรื่องดีๆเช่นนี้ด้วยหรือเจ้าคะ คนที่คิดวิธีนี้เก่งยิ่งนักนอกจากจะช่วยชาวบ้านให้ไม่ลำบากยังไม่ให้ต้องขายบุตรหลานให้เศรษฐีหรือจวนขุนนางอีกด้วย""อืมจะว่าเก่งก็เก่งจริงๆนั่นแหละ แม่ทัพเผยเป็นแม่ทัพที่ทั้งบู๊ทั้งบุ๋นในคนเดียวกัน"เสิ่นชิงเวยเ
เมื่อองค์ชายใหญ่ที่กำลังจะถึงตัวนาง เสิ่นชิงเวยยึดไหล่สามีก่อนจะเงื้อเท้าขึ้นสูง ใช้ส้นเท้าฟาดลงที่บ่าหนาของเขาจนจ้าวเหวินทรุดลงไป องครักษ์กรูกันเข้ามาจับตัวเขากดเอาไว้ เสิ่นชิงเวยมองหน้าคนที่วันแรกที่นางมาอยู่ที่นี่ก็จะตบนางเจอกันครั้งที่สองก็ยังจะตบนาง ไม่เลิกล้มความตั้งใจคิดทำร้ายนางกับลูกในท้อง นี่ใครกันฉันเจ้าแม่สายลับ ฉายารัตติกาลแห่งยมโลกเชียวนะ ไม่ติดว่าอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ล่ะก็ นางจะกระทืบให้กระอักเลือดเลยเชียว"นางแพศยาเจ้ากล้าทำร้ายองค์ชายหรือ""องค์ชายหรือ เจ้าคู่ควรหรือ ฝ่าบาททรงมีพระทัยเมตตา แต่เจ้าเล่าโหดร้ายทารุณ สตรีวัยกำดัดไม่ถูกเจ้าข่มเหงก็ถูกส่งไปขาย ที่นายึดเอามาเป็นของตนเอง เลี้ยงดูโจรให้ปล้นฆ่าราษฎร อยากเป็นฮ่องเต้แต่กลับไม่ใยดีไพร่ฟ้า ข้าสงสัยจริงๆ นะองค์ชายใหญ่ ว่าเหตุใดเจ้ากลับไม่มีนิสัยคล้ายฝ่าบาทสักนิด หรือว่าในตัวเจ้าไม่มีสายพระโลหิตของฝ่าบาท ลองไปตำหนักเย็นถามมารดาเจ้าดีกว่าไหม ว่าตกลงเจ้าเป็นลูกผู้ใดกัน"ทันทีที่เสิ่นชิงเวยพูดจบขุนนางก็อื้ออึงทั้งท้องพระโรง นางกล้าสงสัยในสายพระโลหิตเชียวหรือ แม้แต่ฮ่องเต้ยังสะอึก นางช่าง เฮ้อมิน่าซ่างกวนถึงได้รักนาง ช่า
จ้าวเหวินเงื้อมือสุดปลายแขนเพื่อฟาดลงไปยังใบหน้าของเสิ่นชิงเวย แต่เผยซ่างกวนไวกว่าเขาจับข้อมือของจ้าวเหวินพร้อมกับออกแรงบีบจนเกิดเสียงกระดูกลั่นดังกร๊อบ"องค์ชาย ต่อหน้าพระพักตร์ทรงตบตีคน หรือว่าไม่ทรงเห็นฝ่าบาทอยู่ในสายตาหรือพ่ะย่ะค่ะ พระชายาของกระหม่อมนางตั้งครรภ์อยู่ จะทรงทำอันใด ที่ส่งคนไปหวังทำร้ายให้นางแท้งบุตร ระหว่างเราสองคนยังไม่ได้คิดบัญชีกันเลยนะพ่ะย่ะค่ะ"เผยซ่างกวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงคกคามน่ากลัว ขุนนางที่เข้าข้างองค์ชายใหญ่ตอนนี้ใจคอไม่ดีเสียแล้ว อะไรนะ ส่งคนไปลอบสังหารภรรยาคนอื่น นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองเสียแล้ว พวกเขาแค่ไม่ชอบจ้านอ๋องที่มีอำนาจอีกทั้งฝ่าบาทไว้วางพระทัย แต่ถึงขนาดฆ่าคนวางเพลิงพวกเขารับโทษจากความโกรธแม่ทัพใหญ่แห่งต้าหลี่ไม่ไหวแน่ๆ ก่อนจะได้ยิน ฮ่องเต้ตรัสเสียงดังทำให้ทุกคนหยุดมือ"ซ่างกวน...ปล่อยเขาซะ องค์ชายใหญ่เจ้าช่างใจกล้ามากนัก ต่อหน้าข้ายังกำเริบเพียงนี้ เป็นจ้านอ๋องที่ข่มเหงเจ้าจริงๆหรือเป็นเจ้าที่ข่มเหงผู้อื่นกันแน่ เรื่องที่เจ้าส่งคนไปนั่นจริงเท็จข้าจะสืบเอง ไสหัวไปซะ""สะ เสด็จพ่อ ลูกๆ คือว่าลูก"จ้าวเหวินเซถลาทั
ปลายยามเฉินบรรยากาศในวังหลวงนั้นอึมครึมจนน่ากลัว ฮ่องเต้ยังไม่ออกว่าราชการให้คนมาแจ้งว่ายามซื่อจึงจะออกมา ขุนนางที่มารอต่างก็งงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ปกติฝ่าบาทไม่เคยเลื่อนเวลาประชุมจ้าวเหวินที่ตอนนี้กำลังรอให้ถึงเวลาเขาจะเปิดโปงความโหดร้ายของเผยซ่างกวนต่อหน้าฝ่าบาทและขุนนางในราชสำนัก เมื่อได้ตรากองทัพมาแล้วยังจะมีใครคุมอำนาจอีก ที่เขาต้องการหลิวเสี่ยวเหยียนก็เพราะปู่ของนางมีกองกำลังถึงสามแสนนาย แม้จะเล็กกว่าของเผยซ่างกวนแล้วอย่างไรขอแค่คุมเมืองหลวงได้ยังจะมีใครกล้าเสียงดังใส่เขาอีกแต่ไอ้แก่นั่นก็ท่าเยอะจนน่ารำคาญ กลับรักใคร่แต่หลานสาวบุตรสาวอนุอย่างหลิวเย่ฉาง ตอนนี้เขารอเสิ่นหลิวส่งข่าวมา แต่กลับเงียบเชียบไร้วี่แวว"เสิ่นหลิวล่ะ ส่งสารมาหรือยัง""ทูลองค์ชายใหญ่ ยังเลยพ่ะย่ะค่ะ""เหตุใดเงียบเชียบนัก คงไม่เกิดเรื่องหรอกนะ"จ้าวเหวินรู้สึกใจคอไม่ดี เขาจะเข้าประชุมวันนี้เพื่อใส่ร้ายเผยซ่างกวน รอเพียงเวลาเท่านั้น ไม่นานองครักษ์ของเขาก็มารายงานว่าถึงเวลาประชุมแล้ว จ้าวเหวินตรงมายังท้องพระโรง ในนั้นมีขุนนางอยู่เขาเดินเข้าไปอย่างองอาจ ไม่นานฮ่องเต้ก็มาถึง ฉลองพระองค์สีทองนั่งเด่นเป็น
มีเสียงฝีเท้าเดินมาจากด้านใน สตรีรูปร่างอ้อนแอ้นมือถือกระบี่เล่มยาวที่เปื้อนเลือด ปลายกระบี่มีเลือดหยดตามทางเดินที่เคลื่อนผ่าน ส่วนอีกคนเป็นบุรุษรูปงามมากนัก เขาเดินออกมาพร้อมกับสตรีนางนั้น เสิ่นหลิวเห็นใบหน้าชัดเจนก็เอ่ยเรียกทันที"เจ้าไม่ใช่เจ้าใหญ่ เจ้าคือ เจ้าคือ""อารองไม่เจอกันนานนะขอรับ ข้าเอง เสิ่น ชิง ชิว"เสิ่นชิงชิวเน้นชื่อตัวเองทีละคำ น้ำเสียงที่เปล่งออกมาคือเสียงของบุรุษที่เหี้ยมโหด หัวหน้ากองโจรถึงกับผงะ นี่เขาถูกหลอกหรือ ก่อนจะคว้าดาบเดินมาหาเสิ่นชิงชิว เขาเงื้อกระบี่ในมือเพื่อจะจ้วงแทง แต่กลับช้ากว่าเสิ่นชิงชิวที่วาดเท้าหมุนออกก่อนจะจับข้อมือของฝ่าหม่าจนหัก กระบี่หลุดออกจากมือทันที"เจ้าๆ เด็กๆไปเอาบุตรชายนางมา วันนี้ข้าจะฆ่าหลานชายเจ้าต่อหน้าเจ้าซะ"โม่จิ่วหัวเราะออกมาเสียงดัง จนกลุ่มโจรต้องหันไปมอง"ฮ่าๆๆๆ เจ้านี่นะอยากฆ่าข้าหรือ มีปัญญาแค่ไหนกันล่ะ เผยจ้าวหยวนคนนั้นคือใครหรือ ทำไมข้ารู้สึกว่าเป็นตัวเองนะ" น้ำเสียงยียวนเต็มที่จนฝ่าหม่ารู้สึกไม่ดี"เจ้าๆๆๆ เจ้าเป็นใครมาจากไหนกัน"ข้าคือโม่จิ่ว ส่วนที่ว่าข้ามาได้อย่างไร มิใช่เจ้าเอาข้าใส่
ตำหนักองค์ชายใหญ่หลิวเสวียนเยี่ยนที่ตอนนี้เพิ่งจะปรนนิบัติจ้าวเหวินเรียบร้อยก็ให้สาวใช้ยกน้ำ นางแต่งเป็นสนมของเขา และเขาโปรดปรานนางมากที่สุด แต่เพราะตอนที่เผยซ่างกวนขอพระราชโองการถอนหมั้นกับนาง ทำให้นางไม่อาจได้ตำแหน่งพระชายา ยิ่งจ้าวเหวินโปรดปรานนางมากเท่าใดก็ยิ่งถูกพระชายาเอกและชายารองรังแกยามที่เขาไม่อยู่ ในอ่างอาบน้ำ รอยถูกกรีดที่แผ่นหลังมีเลือดซึมออกมา จ้าวเหวินไม่รู้เขาต้องการนางและนางก็ตอบสนอง ยามนี้เขาอาบน้ำร่วมกับนางจึงได้เห็น"อาเยี่ยน ใครทำอันใดเจ้ากัน""ไม่มี ไม่มีเพคะ ฮึกๆ""พระชายาหรือ เดี๋ยวนี้นางช่างกล้ามากยิ่งนัก หึรอก่อนเถอะ ตอนนี้ข้ายังต้องอาศัยกำลังบิดานาง หากงานลุล่วงคนแรกที่ข้าจะสังหารก็คือนางสารเลว เหวินจิ่นคนนี้""องค์ชาย อย่าทรงห่วงหม่อมฉันเลยเพคะ เพื่อพระองค์ อาเยี่ยนทนได้" "เด็กดี ที่ผ่านมาลำบากเจ้าแล้ว ข้าจะให้เผยซ่างกวนชดใช้ ป่านนี้ลูกกับเมียของมันคงอยู่ที่รังโจรแล้ว กลับเมืองหลวงมาแล้วอย่างไร ลูกเมียตายไปอยากเห็นหน้ามันนัก"ทั้งสองกอดตระกองในอ่างน้ำก่อนจะเริ่มบทรัก แต่ยังไม่ทันได้สอดใส่ให้สุขสมเสียงกรี๊ดก็ดังมาจากด้านหน้าของต
ยามเว่ยรถม้าพร้อมออกเดินทางไปจวนเจ้าเมือง ซู่ซู่กับเสิ่นชิงเวยนอนอยู่ในรถที่บุนวมหนาเอาไว้ ทั้งคู่ตั้งครรภ์จำต้องระวัง องครักษ์ถูกเพิ่มขึ้นมาจากเพียงห้าสิบคนตอนนี้มีกว่าสามร้อยคนเพราะคนของชินอ๋องได้รับสัญญาณให้มาสมทบ จ้าวเหมิ่นเป็นห่วงเสิ่นชิงผิง เขากอดนางแน่น "พี่ต้องกลับเมืองหลวงพร้อมพี่ซ่างกวน ไปจัดการคนเลวที่ทำร้ายพี่สาวเจ้า ผิงผิงแม้ว่าเจ้าจะมีฝีมือแต่มิอาจสู้กับคนเหล่านั้นได้ อยู่ใกล้ๆอาชิวไว้นะ ยามที่พี่ไม่อยู่อย่าใจร้อน รู้ว่าห่วงพี่สาวแต่อย่าเอาตัวเองไปอยู่ในอันตราย""องค์ชายรอง ทรงระวังตัวนะเพคะ องค์ชายใหญ่จิตใจมีแค่ความแค้นหม่อมฉันกลัวว่าเขาจะทำเรื่องเลวร้ายกว่าเดิม""อย่าห่วงเลย พี่ยังรอแต่งงานเข้าหอกับเจ้านะ เด็กดีเสร็จเรื่องวุ่นวายเหล่านี้ เจ้าแต่งงานกับพี่นะ""เพคะ หม่อมฉันจะรอ"จ้าวเหมิ่นหอมหน้าผากเกลี้ยงเกลาของเสิ่นชิงผิง ก่อนจะจุมพิตนางดูดดื่ม เสิ่นชิงผิงยอมให้เขาจูบนางอย่างไม่อิดออด นางรักเขาแล้วนางก็รู้ว่าเขารักนางเพียงใด รถม้าวิ่งไปเรื่อยๆไม่เร็วมากนัก สองข้างข้างทางมีแต่ป่าทุกคนระวังมากนัก รถม้าเลี้ยวเข้าไปยังจวนเจ้าเมืองเรียบร้อยแล้ว
หมอชราประสานมือลา เขาเขียนใบสั่งยาให้นางพร้อมกับให้กำยานมาหนึ่งถุง บอกว่าให้จุดเพื่อให้ร่างกายสงบ เสิ่นชิงเวยนอนพักเผยซ่างกวนจุดกำยานกำลังจะเดินออกไป เสิ่นชิงเวยก็หายใจแรง พยายามที่จะดับกำยานแท่งนั้น จนกระโถนที่นางอาเจียนหกรดจนเปื้อนไปหมดเคล้ง เคล้ง เคล้ง เผยซ่างกวนรีบวิ่งมาหาเสิ่นชิงเวย เสิ่นชิงชิวได้ยินก็รีบเปิดประตูเข้ามา เผยจ้าวหยวนเห็นมารดาอาการไม่ดีก็ร้องไห้ "ฮือๆๆ เสด็จแม่ ทรงเป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะ ฮือๆๆ""เว่ยเว่ย บอกพี่สิเจ้าเป็นอะไร""ท่านอ๋อง กำยานนั้น มีกลิ่น กลิ่นชะมด ที่ ทำให้ ให้แท้งบุตรได้ ดับ ดับที แฮ่กๆๆๆๆ"เผยซ่างกวนสะบัดมือทีเดียวถาดกำยานก็ตกแตกทันที นี่มันเรื่องอะไรกัน หมอคนนั้น"อาฝู ปิดโรงเตี๊ยมหมอคนนั้นเล่าไปจับมา เว่ยเว่ยคนดีของพี่เจ้าไหวไหม""เพคะ ร่างกายหม่อมฉันหลังจากคลอดหยวนหยวนก็มิค่อยแข็งแรง หากตั้งครรภ์ต้องระวังเรื่องของแสลง เดิมกำยานนี้อีกนานกว่าจะออกฤทธิ์ แต่หม่อมฉันดื่มสมุนไพรที่ช่วยให้อบอุ่นอยู่เสมอ พอมาเจอกลิ่นชะมดจึงออกฤทธิ์เร็ว ท่านอ๋อง""ไม่ต้องเอ่ยแล้วคนดี พี่จะไปดูว่าใครเป็นคนส่งหมอคนนี้มา"หลิวเย่วฉางรีบมาหาเ
หยางเช่อมาหาเพื่อคารวะเผยปิน ได้เวลามื้อค่ำทั้งหมดเหมาห้องเพื่อกินข้าว เสิ่นชิงผิงและเสิ่นชิงชิวได้พบกับพ่อสามีของพี่สาว เมื่อทั้งหมดทักทายกันก็เริ่มทานมื้อค่ำ อาฝูยังคงเฝ้าซู่ซู่ไม่ยอมไปไหน นางแพ้ท้องหนักมาก เผยซ่างกวนให้คนตามหมอของกองทัพมาดู จากนั้นก็สั่งยาให้ จนนางดื่มแล้วหลับไปภายในห้องสามพ่อแม่ลูกนอนกอดกันอย่างอบอุ่น เจ้าตัวเล็กหลับไปแล้ว เผยซ่างกวนอดใจคิดถึงเมียไม่ได้ เขาเริ่มจูบนางก่อนจะปลดอาภรณ์จนเปลือยเปล่าทั้งคู๋"ลูกจะตื่นเอานะเพคะ ท่านอ๋อง อื้อ""น่านะคนงาม พี่จะทำเบาๆคิดถึงเจ้าไม่ไหวแล้ว""อ๊า..ท่านอ๋อง อืม"เผยซ่างกวนดูดดื่มทรวงอกงามอย่างกระหาย กระทั่งเขามอบความรักให้นางเสิ่นชิงเวยต้องกลั้นเสียงครางเอาไว้ ร่างเล็กถูกอุ้มลอยจากเตียงมาห้องเล็กข้างๆ ก่อนที่คนตัวโตจะรักนางหนักหน่วงรุนแรง "อ๊า เว่ยเว่ยของพี่ วิเศษอะไรเยี่ยงนี้กันนะ พี่จะกลั้นไม่ไหวแล้วคนงาม""อย่าครางดังสิเพคะ เดี๋ยวลูกตื่น อ๊า ท่านอ๋องอื้อ เผยซ่างกวนท่านเร่งหน่อยเถอะ จะไม่ไหวแล้ว อื้อ"คนตัวโตก้มลงจูบปิดปากนางก่อนจะสาวเอวหนาขยับเข้าออกมอบความรักให้นางอย่างที่นางร้องขอ ไม่นา
เผยซ่างกวนมาถึงโรงเตี๊ยมก็ตรงไปยังชั้นสองทันที เขาคิดถึงเมียกับลูกไม่ไหวแล้ว เสิ่นชิงเวยเช็ดตัวให้เผยจ้าวหยวนเรียบร้อยแล้ว นางได้ยินเสียงเคาะประตูก็รู้ทันทีว่าเป็นเขา ร่างบางลุกขึ้นมาเปิดประตู สามียืนสง่าอยู่หน้าห้อง ด้านหลังมีบุรุษวัยกลางคนหน้าตานับว่าดูดี เพียงแต่หนวดเครารุงรัง เบ้าตาดำคล้ำ ไม่บอกก็รู้ว่าคือใครเพราะใบหน้านั้นเหมือนกับเผยซ่างกวนเกือบหกส่วน เขาเคยบอกว่าบุตรชายเหมือนกับมารดาของเขา แปลว่าเผยซ่างกวนเหมือนมารดามากกว่าบิดา เสิ่นชิงเวยเอ่ยขึ้นก่อน"ท่านอ๋อง..ทรงเดินทางมาไกลพักผ่อนก่อนเถอะเพคะ แล้วท่านนั้นคือ..""อ้อ..เว่ยเว่ย..นี่คือท่านพ่อของพี่น่ะ"เสิ่นชิงเวยเดินออกมาจากในห้อง ยอบกายคารวะเผยปินก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน"สะใภ้คารวะท่านพ่อเจ้าค่ะ""อืม.. ตามสบายเถอะ เจ้าช่างรูปงามนักมิน่ากวนเอ๋อร์ถึงรีบร้อนมาหาเมีย เอ่อ..ลูกสะใภ้ หลานชายของพ่อเล่า เขาอยู่ที่ไหนหรือ""หยวนหยวนเพิ่งจะหลับไปเจ้าค่ะ เราเร่งเดินทางเพราะเกรงว่าท่านอ๋องจะเป็นกังวล เจ้าตัวน้อยเลยเพลียนิดหน่อย""ลูกยังไม่หายดีหรือเว่ยเว่ย""ดีขึ้นมากแล้วเพคะ เพียงแต่ซู่ซู่แพ้ท้องหนักมาก