ลู่จิ้นเอนลำตัวครึ่งหนึ่งของร่างกายออกมาจากด้านในรถม้า และทักทายฉินเหยี่ยนเย่ว์จากไกล ๆเขาอาจรู้สึกว่ารถม้าช้าเกินไป ยังไม่ทันที่รถจะหยุด คนก็กระโดดลงจากรถม้าเสียแล้วเขาอ้าแขนกว้าง และวิ่งไปหานางอย่างมีความสุข“ศิษย์น้องหญิง ข้ามาแล้ว”ฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นแล้วตกตะลึงชายชราอายุร้อยกว่าปี สวมเสื้อผ้
ฮ่องเต้กล้าที่จะมอบราชโองการเปล่าให้แก่ลู่จิ้น มองจากอีกด้านหนึ่งก็บ่งบอกชัดเจนว่า ตราบใดที่ไม่ข้ามเส้นต่ำสุด ลู่จิ้นสามารถตัดสินใจด้วยตนเองได้เลยนี่องอาจห้าวหาญกว่าราชโองการธรรมดาทั่วไปมากลู่จิ้นชะงักงันไปชั่วขณะ และในที่สุดก็กลับมามีสติสัมปชัญญะ “ความหมายของเจ้าคือ ราชโองการเปล่านี้ของจ้งหัว พวก
หน้าต่างเปิดอยู่จากมุมมองของฉินเหยี่ยนเย่ว์ นางสามารถมองเห็นเงาขององค์ชายหกผ่านหน้าต่างได้อย่างพอเหมาะพอเจาะนางเห็นองค์ชายหกไออย่างรุนแรงจึงเลิกคิ้วขึ้นปฏิกิริยาไข้หวัดธรรมดาไม่ควรโขลกไอเช่นนี้มีความเป็นไปได้มากว่าพี่หกจะติดเชื้อวัณโรค“ไม่แปลกใจเลยที่ท่านยืนกรานจะพาหม่อมฉันมาดูที่นี่” ฉินเหยี่ย
เจ้าของเสียงแหบพร่านี้ เป็นผู้หญิงร่างใหญ่…และแข็งแกร่งหากบอกว่ามู่เยี่ยสืบทอดสายเลือดจากเป่ยลู่ จึงมีรูปร่างสูงใหญ่ทว่าหญิงสาวตรงหน้า รูปร่างเตี้ยกว่ามู่เยี่ยครึ่งศีรษะ ร่างกายกลับกว้างกว่ามู่เยี่ยเกือบสองเท่านางยืนอยู่ตรงนั้นราวเนินเขา ครั้นเอื้อนเอ่ยวาจาพื้นดินก็สั่นสะเทือนสามครั้งนางมีดวงตาเ
หนาว!น้ำเย็นจัดที่ไหลเข้าจมูกและลำคอนั้น ทำเอาไม่สามารถหายใจได้ในทันทีฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกได้ว่า ศีรษะของนางกำลังถูกใครบางคนกดเอาไว้ทำให้มิอาจลุกออกมาจากน้ำเย็นได้ในระหว่างที่นางกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่นั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายผ่านคลื่นน้ำที่กระจายไปมาได้ใน
“เฮ้อ พูดถึงโจโฉโจโฉก็มาหา” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เย็นชาท่านอ๋องสามในความทรงจำของเจ้าของเดิมนั้น เป็นบุรุษเจ้าชู้โดยแท้ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงลุกขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้า พร้อมทั้งเป่าผมให้แห้งอย่างลวก ๆเดิมทีร่างกายนี้ยังอ่อนแอมากนัก แม้ว่าจักจะอาบน้ำต้มยาเพื่อขับไล่ความหนาวเย็นออกไปแล้วก
“ยังมิเหมาะที่จะด่วนสรุปในตอนนี้?” นัยน์ตาของท่านอ๋องสามพลันฉายแววเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมองฉินเหยี่ยนเย่ว์ด้วยหางตา “มีคนเห็นว่าเจ้าเตะเสวี่ยเอ๋อร์ลงไป เจ้ายังกล้าที่จะปฏิเสธอีกหรือ?”“หม่อมฉันมิเคยคิดที่จะปฏิเสธเพคะ”ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางยืนตัวตรง ทั้งน้ำเสียงและนัยน์ตาที่สื่อออกมาหาได้มีท่าที
สีหน้าของท่านอ๋องสามพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาเองก็คร้านที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป จึงได้ก้าวเดินออกไปด้วยท่าทีฉุนเฉียวในทันที ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่หลับตาลง ก่อนจะแหงนหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าพร้อมทั้งถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกลมหายใจที่ถูกปล่อยออกมานั้น พลันกลายเป็นไอหมอกสีขาวขุ่นในทันที พลางจางหายไปในอากาศอย
เจ้าของเสียงแหบพร่านี้ เป็นผู้หญิงร่างใหญ่…และแข็งแกร่งหากบอกว่ามู่เยี่ยสืบทอดสายเลือดจากเป่ยลู่ จึงมีรูปร่างสูงใหญ่ทว่าหญิงสาวตรงหน้า รูปร่างเตี้ยกว่ามู่เยี่ยครึ่งศีรษะ ร่างกายกลับกว้างกว่ามู่เยี่ยเกือบสองเท่านางยืนอยู่ตรงนั้นราวเนินเขา ครั้นเอื้อนเอ่ยวาจาพื้นดินก็สั่นสะเทือนสามครั้งนางมีดวงตาเ
หน้าต่างเปิดอยู่จากมุมมองของฉินเหยี่ยนเย่ว์ นางสามารถมองเห็นเงาขององค์ชายหกผ่านหน้าต่างได้อย่างพอเหมาะพอเจาะนางเห็นองค์ชายหกไออย่างรุนแรงจึงเลิกคิ้วขึ้นปฏิกิริยาไข้หวัดธรรมดาไม่ควรโขลกไอเช่นนี้มีความเป็นไปได้มากว่าพี่หกจะติดเชื้อวัณโรค“ไม่แปลกใจเลยที่ท่านยืนกรานจะพาหม่อมฉันมาดูที่นี่” ฉินเหยี่ย
ฮ่องเต้กล้าที่จะมอบราชโองการเปล่าให้แก่ลู่จิ้น มองจากอีกด้านหนึ่งก็บ่งบอกชัดเจนว่า ตราบใดที่ไม่ข้ามเส้นต่ำสุด ลู่จิ้นสามารถตัดสินใจด้วยตนเองได้เลยนี่องอาจห้าวหาญกว่าราชโองการธรรมดาทั่วไปมากลู่จิ้นชะงักงันไปชั่วขณะ และในที่สุดก็กลับมามีสติสัมปชัญญะ “ความหมายของเจ้าคือ ราชโองการเปล่านี้ของจ้งหัว พวก
ลู่จิ้นเอนลำตัวครึ่งหนึ่งของร่างกายออกมาจากด้านในรถม้า และทักทายฉินเหยี่ยนเย่ว์จากไกล ๆเขาอาจรู้สึกว่ารถม้าช้าเกินไป ยังไม่ทันที่รถจะหยุด คนก็กระโดดลงจากรถม้าเสียแล้วเขาอ้าแขนกว้าง และวิ่งไปหานางอย่างมีความสุข“ศิษย์น้องหญิง ข้ามาแล้ว”ฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นแล้วตกตะลึงชายชราอายุร้อยกว่าปี สวมเสื้อผ้
ม้วนกระดาษนั้นออกสีเหลือง และด้ามไม้ก็มีจุดกระด่างกระดำกลิ่นเหม็นเน่าบนร่างของจีอู๋เยียนไม่ใช่ว่ามาจากม้วนกระดาษนี้บนกระดาษม้วนนี้มีกลิ่นไม้อ่อน ๆ คิดว่าถูกเก็บไว้ในกล่องก่อนที่จีอู๋เยียนจะหยิบมาทว่าถึงจะเก็บอยู่ในกล่องแต่ก็ยังกระด่างกระดำจนกลายเป็นเช่นนี้ ระยะเวลาของกระดาษม้วนนี้ก็น่าจะนานมากแล
แววตาของตงฟางหลีเป็นประกายเขาได้ระบุตัวผู้ต้องสงสัยไว้นานแล้ว ก็แค่ยังไม่พบหลักฐานเท่านั้นเองยิ่งไปกว่านั้น ตัวตนของผู้ต้องสงสัยยังไม่ธรมดาสามัญอีกด้วยหากไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด เขาย่อมไม่สามารถบุ่มบ่ามได้ตงฟางหลีคว้ามือนางไว้หลังจากที่อยู่ท่ามกลางลมหนาวมาเป็นเวลานาน นิ้วของฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็เย็นย
“คนที่เก่งกาจมักมีปัญหาทางใจอยู่บ้าง เช่น จีอู๋เยียน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เข้าใจในเรื่องนี้มากไป๋หลินยวนเองก็เช่นเดียวกัน“ถ้ามีโอกาสข้าจะให้เจ้าได้พบพวกเขา” ตงฟางหลีกล่าว“ช่างเถิด” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ปวดหัวมาก จีอู๋เยียนและไป๋หลินยวนเป็นคนวิปริตสองคนก็รับมือพอแล้ว นางไม่อยากรู้จักคนที่เป็นภาวะโพรงสมองคั่ง
โรควัณโรคนี้ เส้นทางหลักของการแพร่เชื้อคือการติดเชื้อทางละอองฝอยหากน้ำลายที่หมิ่นจูไอจนกระเซ็นออกมามีเชื้อแบคทีเรียวัณโรค ครั้นองค์ชายหกปรากฏตัวในห้องของหมิ่นจูบ่อยครั้ง โอกาสที่เขาจะติดเชื้อค่อนข้างสูงในยุคนี้การป่วยเป็นโรคเช่นนี้ ถือเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาให้หายได้หมิ่นจูรักองค์ชายหกจริง ๆ หากอ
เขาชอบสิ่งนั้นมาก จึงเล่นกับมันอยู่ตลอดเวลาครั้นได้ยินคำพูดของฉินเหยี่ยนเย่ว์ ถึงรู้สึกว่าการกระทำนี้ออกจะตระหนี่ไปบ้าง จึงรีบส่งหน้าหากอนามัยที่เหลือกลับคืน “พระชายาอ๋องเจ็ด คืนให้ท่าน...”“ท่านเก็บไว้เถิด” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว “ข้าแนะนำว่า ขอเพียงเข้าใกล้ฮูหยินจู ต้องสวมหน้ากากอนามัย เข้าใกล้ครั้