“จริงแท้แน่นอน”“หลายปีมานี้ ซูเตี่ยนฉิงโกหกเจ้ามาตลอดหรือ?” แม้แต่ฮ่องเต้เองก็รู้สึกว่าเรื่องนี้น่าประหลาดใจ และอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแทรกขึ้นมาในวังนั้นคนอื่นมีอำนาจก็ประจบสอพลอ สูญสิ้นอำนาจก็ไม่แยแส หลังจากพระสนมอวิ๋นประสบกับความลำบาก อ๋องเจ็ดก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก และยังเกือบจะเสียชีวิตอยู่ในทะเ
สีหน้าของฮ่องเต้ยังคงมืดทะมึนนักลูกหลานเชื้อพระวงศ์ ไหนเลยจะไม่มีสามภรรยาสี่อนุชายา ถือเป็นความสุขของผู้คนทั่วไป?แม้แต่เจ้าห้าซึ่งกลัวภรรยาที่สุดก็ยังมีเรือนอนุชายาถึงสองเรือนเจ้าเจ็ดอยากจะแต่งภรรยาเพียงคนเดียวจริง ๆ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในราชวงศ์“เจ้าเจ็ด เจ้าจะขัดราชโองการหรือ?”“ล
เป็นเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าตงฟางหลีรู้สึกว่าตงฟางเจวี๋ยผิดปกติทีเดียวเมื่อก่อนพี่รองดื่มสุราน้อยมาก ยกแก้วก็ดื่มจนหมดเหมือนเช่นนี้ หาได้ยากมาก ๆ“พี่รอง ข้าจำได้ว่าเหยี่ยนเย่ว์เคยบอกว่าท่านไม่สามารถดื่มเหล้าได้” เขาจะแย่งแก้วสุราของตงฟางเจวี๋ยมา“วันนี้เจ้าให้ข้าดื่มสักหน่อยเถอะ” ตงฟางเจวี๋หลบนิ้วม
หนาว!น้ำเย็นจัดที่ไหลเข้าจมูกและลำคอนั้น ทำเอาไม่สามารถหายใจได้ในทันทีฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกได้ว่า ศีรษะของนางกำลังถูกใครบางคนกดเอาไว้ทำให้มิอาจลุกออกมาจากน้ำเย็นได้ในระหว่างที่นางกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่นั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายผ่านคลื่นน้ำที่กระจายไปมาได้ใน
“เฮ้อ พูดถึงโจโฉโจโฉก็มาหา” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เย็นชาท่านอ๋องสามในความทรงจำของเจ้าของเดิมนั้น เป็นบุรุษเจ้าชู้โดยแท้ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงลุกขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้า พร้อมทั้งเป่าผมให้แห้งอย่างลวก ๆเดิมทีร่างกายนี้ยังอ่อนแอมากนัก แม้ว่าจักจะอาบน้ำต้มยาเพื่อขับไล่ความหนาวเย็นออกไปแล้วก
“ยังมิเหมาะที่จะด่วนสรุปในตอนนี้?” นัยน์ตาของท่านอ๋องสามพลันฉายแววเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมองฉินเหยี่ยนเย่ว์ด้วยหางตา “มีคนเห็นว่าเจ้าเตะเสวี่ยเอ๋อร์ลงไป เจ้ายังกล้าที่จะปฏิเสธอีกหรือ?”“หม่อมฉันมิเคยคิดที่จะปฏิเสธเพคะ”ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางยืนตัวตรง ทั้งน้ำเสียงและนัยน์ตาที่สื่อออกมาหาได้มีท่าที
สีหน้าของท่านอ๋องสามพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาเองก็คร้านที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป จึงได้ก้าวเดินออกไปด้วยท่าทีฉุนเฉียวในทันที ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่หลับตาลง ก่อนจะแหงนหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าพร้อมทั้งถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกลมหายใจที่ถูกปล่อยออกมานั้น พลันกลายเป็นไอหมอกสีขาวขุ่นในทันที พลางจางหายไปในอากาศอย
ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันขมวดคิ้วลงเล็กน้อย ก่อนจะดึงสติของตนเองกลับคืนมา นอนคว่ำตัวลงพร้อมทั้งห่มผ้าคลุมตัว แสร้งว่าตนเองกำลังหลับอยู่ ตั้งสติกลับคืนมา พร้อมด้วยประตูห้อง ที่ถูกคนผู้หนึ่งเตะออกพลันพัดพาลมหนาวให้เข้ามาในทันที ทำให้ห้องที่เย็นอยู่แล้วนั้น ทำเอาอุณหภูมิลดลงไปอีกสองสามองศา“นางช่างโชคดีเสี
เป็นเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าตงฟางหลีรู้สึกว่าตงฟางเจวี๋ยผิดปกติทีเดียวเมื่อก่อนพี่รองดื่มสุราน้อยมาก ยกแก้วก็ดื่มจนหมดเหมือนเช่นนี้ หาได้ยากมาก ๆ“พี่รอง ข้าจำได้ว่าเหยี่ยนเย่ว์เคยบอกว่าท่านไม่สามารถดื่มเหล้าได้” เขาจะแย่งแก้วสุราของตงฟางเจวี๋ยมา“วันนี้เจ้าให้ข้าดื่มสักหน่อยเถอะ” ตงฟางเจวี๋หลบนิ้วม
สีหน้าของฮ่องเต้ยังคงมืดทะมึนนักลูกหลานเชื้อพระวงศ์ ไหนเลยจะไม่มีสามภรรยาสี่อนุชายา ถือเป็นความสุขของผู้คนทั่วไป?แม้แต่เจ้าห้าซึ่งกลัวภรรยาที่สุดก็ยังมีเรือนอนุชายาถึงสองเรือนเจ้าเจ็ดอยากจะแต่งภรรยาเพียงคนเดียวจริง ๆ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในราชวงศ์“เจ้าเจ็ด เจ้าจะขัดราชโองการหรือ?”“ล
“จริงแท้แน่นอน”“หลายปีมานี้ ซูเตี่ยนฉิงโกหกเจ้ามาตลอดหรือ?” แม้แต่ฮ่องเต้เองก็รู้สึกว่าเรื่องนี้น่าประหลาดใจ และอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแทรกขึ้นมาในวังนั้นคนอื่นมีอำนาจก็ประจบสอพลอ สูญสิ้นอำนาจก็ไม่แยแส หลังจากพระสนมอวิ๋นประสบกับความลำบาก อ๋องเจ็ดก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก และยังเกือบจะเสียชีวิตอยู่ในทะเ
ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่ง “เมื่อก่อนมิใช่ว่าเจ้าอยากแต่งงานกับนางมากหรือ?”ในฐานะพระโอรสลำดับที่เจ็ด การที่จะมีสตรีโปรดปรานหลายคนถือเป็นเรื่องปกติมาก ๆแต่งงานกับคนนี้แล้ว แต่งงานกับคนนั้นต่อ ก็เป็นเรื่องปกติเช่นกันแม้ว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์จะริษยา ก็ไม่ควรให้นางทำตามอำเภอใจหากต่อไปสามารถส
เมื่อหายโกรธแล้วอย่าลืมคืนตำแหน่งให้เหยี่ยนเย่ว์กลับมา...ฮ่องเต้มองท่าทีของตงฟางหลี ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “มองไม่ออกเลยว่าเจ้ายังมีความรักหวานซึ้งด้วย รอนางให้กำเนิดท่านอ๋องน้อยก่อน เราถึงจะคืนตำแหน่งพระชายาเอกให้นาง”สีหน้าของตงฟางหลีไม่น่ามอง “นี่คงต้องใช้เวลานานทีเดียว”“ทำไม เจ้าไม่ไหว หรือศิษย์น
ครั้นได้ยินคำว่า “แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์” สองคำนี้จากปากของฮ่องเต้สีหน้าของตงฟางหลีพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาความหมายของการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์คือ หนานลู่จะส่งองค์หญิงมาแต่งงานที่ตงลู่ฮ่องเต้เรียกเขาและพี่รองมาเข้าพบโดยเฉพาะ ซึ่งความหมายก็ชัดเจนมากองค์หญิงหนานลู่อาจจะแต่งงานกับเขา หรืออาจจะแต่งงานกับ
“เชื่อฟังนะเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยขึ้น“ภรรยาเจ้าเจ็ด อย่ากระซิบกระซาบกับเจ้าเจ็ดอีกเลย เจ้ากลับมาพอดี รีบไปเตรียมขนมให้เราที” ฮ่องเต้เอ่ยขึ้น “เราอยากกิน ไม่ใช่สิ เป็นเสด็จอาของเจ้าต่างหากที่อยากกินอันนั้นน่ะ...”“ขนมที่เรียกว่ามูสอะไรสักอย่างอันนั้นน่ะ ขันทีหลาน เจ้าไปกับพระชายาอ๋องเจ็ดเสีย เป็น
มีโต๊ะไม้จันทน์สีแดงแปดเซียนฝังทองวางอยู่กลางห้องโถงใหญ่บนโต๊ะแปดเซียนวางเตากระต่ายทองขนาดเล็ก และมีหม้อทองแดงวางอยู่บนเตาน้ำแกงในหม้อทองแดงกำลังเดือดปุด ๆ และทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมเข้มข้นของอาหารในที่นั่งตรงกลาง ฮ่องเต้ถือแก้วสุราและดื่มกับอ๋องอี๋หยางที่นั่งตรงข้ามอย่างมีความสุขในที่นั่งทั
“อืม” ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้ว่าเรื่องนี้มิอาจเร่งรีบได้พระชายาเฉียนไหว้วานให้มนุษย์เงาไปสืบสวนลู่จิ้นและตงฟางหลีเองก็กำลังสืบสวนเช่นกัน ช้าเร็วจะได้รู้ผล“เช่นนั้น ศิษย์พี่รู้หรือไม่ ท่านปู่...ไม่สิ อาจารย์มีภรรยาหรือไม่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถามอีกครั้งเนื่องจากเป็นศิษย์คนสุดท้ายของท่านปู่ เรื่องนี้ลู่จิ