ฉินเหยี่ยนเย่ว์สอดมือเข้าไว้ในแขนเสื้อยืนอยู่ที่เดิม เส้นผมปลิวสยายไปตามสายลมซูเตี่ยนฉิงมาถึงตรงหน้าแล้ว นางยังคงวางสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีความคิดจะเคลื่อนไหวแต่อย่างใดตงฟางหลีเป็นกังวลจนเหงื่อชุ่มฝ่ามือเรี่ยวแรงฝ่ามือนี้ของซูเตี่ยนฉิงไม่น้อยทีเดียว หากสัมผัสโดนตัวยัยหนู ถึงยัยหนูจะไม่ตายแต่ก็จะได้ร
ผ่านการทรมานครั้งนี้ไป เกรงว่าซูเตี่ยนฉิงจะไม่หลงกลอีกแล้ว“แบะ” ในขณะที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำลังเสียดายอย่างไร้ที่สิ้นสุดนั้น ลูกแกะตัวหนึ่งก็ได้วิ่งมาจากที่ไกล ๆลูกแกะได้วิ่งผ่านหน้าซูเตี่ยนฉิงไป จากนั้นก็ฉวยโอกาสดีดขาหลังออกไปกีบเท้าแกะกวาดโดนซูเตี่ยนฉิง ซูเตี่ยนฉิงที่ยังยืนไม่มั่นคงถูกลูกแกะรบกวนเ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองซูเตี่ยนฉิงดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดด้วยสายตาเย็นชา ก่อนหลุบตาลงปลาทรายแดงครีบทองทั่วไปมีพิษไม่มากต่อให้ถูกกัด อย่างมากสุดก็เป็นผื่นแดง ร่างกายชาไปสักพัก ไม่มีอันตรายร้ายแรงใด ๆ ทว่า นี่จำกัดเฉพาะปลาทรายแดงครีบทองทั่วไปเท่านั้นปลาทรายแดงครีบทองมีนิสัยพิเศษ เมื่อถึงฤดูหนาวก็จะจำศีลพ
“ไม่เป็นอะไรเพคะ นางสัมผัสไม่โดนหม่อมฉันเลยด้วยซ้ำ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เหลือบตามองใบหน้าหล่อเหลาของเขา “พี่เจ็ด ท่านเคยเห็นกรรมตามสนองหรือไม่?”“หืม?”“หม่อมฉันคิดว่า วันนี้หม่อมฉันได้เห็นกรรมตามสนองกับตาตนเองแล้วเพคะ”เจตนาเดิมของนางคือทำให้ซูเตี่ยนฉิงตกลงไปในทะเลสาบเพื่อคลายร้อน ลิ้มลองรสชาติของการถูก
ตู้เหิงยิ้มแห้ง ๆ มือก็กำลังตบหัวสุนัข “สุนัขกับพี่ใหญ่เฮยตั้นก็อยากกลับแล้ว พวกเราอย่าได้ยืนนิ่งอยู่ที่นี่อีกเลยพ่ะย่ะค่ะ”เขากล่าว ก่อนลดเสียงลงต่ำ “เถี่ยตั้น รีบเห่าสักสองครั้งเร็วเข้า พวกเราต้องปกป้องความรักของท่านอ๋องกับพระชายา ปกป้องเจ้าลูกลิงน้อยของจวนพวกเราเอาไว้ให้ได้”แม้ว่าเสียงของตู้เหิง
“ฉือเอ๋อ ข้าต้องกลับวังแล้ว ออกจากวังหลวงครั้งหน้าเกรงว่าคงจะอีกนาน เจ้าก็อยู่ในเมืองเหวินจิงอย่างสบายใจเถิด มีเรื่องอะไรข้าจะขอให้พระชายาอ๋องเจ็ดไปบอก”“พี่...” หลิวฉือแสบจมูกเดิมทีพวกเขาทำได้เพียงพบหน้า และพูดคุยกันเท่านั้นหากเป็นเพราะในลานด้านหลังเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น ความสนใจของทุกคนจึงมุ่งไปที่พ
“...” มุปากฉินเหยี่ยนเย่ว์กระตุกน้อย ๆ แล้วที่บอกว่าชอบนางเล่า?นางเห็นเพียงความรังเกียจในสายตาของเฮยตั้นเท่านั้นเจ้าแมวนิสัยไม่ดี!พระสนมเหยาคล้ายกับคาดไม่ถึงว่าเฮยตั้นจะกลับมา สีหน้าจึงดูกระอักกระอ่วนเล็กน้อย “เหยี่ยนเย่ว์ เจ้าได้ล่วงเกินมันไปหรือไม่?” “ไม่นี่เพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ผิดหวังเล็กน้อ
ตงฟางหลีเกิดความหึงหวงอยู่บ้างหลังจากเขาดึงตัวเฮยตึ้นขึ้นมาด้วยใบหน้าเย็นชาก็โยนใส่ในอ้อมแขนของตู้เหิง“อย่า...เฮยตั้นจะโกรธเอาได้นะเพคะ”“ข้าก็โกรธได้เช่นกัน” ตงฟางหลีดึงตัวนางกลับมา ก่อนโอบกอดนางขึ้นรถม้าไป “ยัยหนู เจ้าไม่ปลอบใจข้าสักหน่อยหรือ? ในใจของเจ้า ข้าคงสู้แมวไม่ได้ใช่หรือไม่?”“”พูดจาเหล
บุรุษผู้นั้น ไม่เพียงแต่พบสถานที่แห่งนี้ แต่ยังพบตำแหน่งของห้องลับอีกด้วยหากว่าเขาทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้แล้ว นั่นหมายความว่าเขาได้ค้นพบการมีอยู่ของห้องลับห้องนี้อย่างแน่นอนต่อจากนี้ นางเพียงแค่ต้องส่งข่าวว่าตนเองอยู่ด้านล่างไปหาเขาเท่านั้นทั้งนางและเซียวเซี่ยงหว่านจะต้องรอดออกไปแน่นอน!ฉินเหย
ภายในใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกลิงโลดยิ่งนักหากการพบเจอเหรียญทองแดงหนึ่งเหรียญเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญนั้นแล้วการที่เจอเหรียญทองแดงสี่เหรียญในคราเดียวเล่า ย่อมมิใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอนมีคนอยู่ข้างบน!มีคนโยนเหรียญทองแดงลงมาจากช่องระบายอากาศทั้งสี่ช่องการปรากฏตัวที่นี่ในยามนี้ ทั้งยังพยา
เขาต้องหาตัวพวกนางเจอให้เร็วที่สุด!“ท่านอ๋อง” หลังจากเฟยอิ่งค้นหาไปแล้วหนึ่งรอบ “หาอะไรไม่เจอเลยพ่ะย่ะค่ะ นี่ออกจะแปลกเกินไปแล้ว ตามหลักแล้วไม่ว่าจะเป็นกลไกหรือว่าห้องลับ ล้วนจะต้องเหลือร่องรอยไว้บ้าง”“ตามผนังในห้องนี้ล้วนเป็นกำแพงตัน ไม่มีกลไก แล้วก็ไม่มีช่องกั้น ด้านล่างของห้องนี้ก็คือทะเลสาบ แล
นกการเขนเงาเป็นนกที่เงามีโดยเฉพาะ เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างเงาด้วยกันพวกมันอยู่ไปทั่วทุกหนแห่ง และสามารถส่งข่าวสารไปทั่วทุกที่นกกางเขนเงาทุกตัวล้วนได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด และระหว่างพวกมันเองจะมีรูปแบบวิธีการแยกแยะตัวตนหนึ่งชุดไม่เพียงเท่านี้ ช่องทางการสื่อสารข้อมูลระหว่างเงาจะมีระบบรหัสที
ความเป็นไปได้มากที่สุด คือพี่ใหญ่ใช้ประโยชน์จากทาสเป่ยลู่คนนั้น ทำเรื่องที่มิอาจเปิดเผยได้เหล่านั้นอยู่ที่นี่หากเป็นเหตุผลเช่นนี้ เบาะแสทุกอย่างล้วนราบรื่นแล้วตงฟางหลีเดินอ้อมห้องอีกหนึ่งรอบใช้มือสัมผัสและเคาะสิ่งของที่น่าสงสัยทั้งหมดเบา ๆ ไปหนึ่งรอบน่าเสียดาย ที่หาร่องรอยของห้องลับไม่เจอ“จางฉู
ตงฟางหลีพยุงตัวกับราวบันได ใบหน้าหล่อเหลานั้นซีดเผือดหากเป็นน้ำพุจริง ๆ ไม่เพียงแต่รสนิยมเลวร้าย มิหนำซ้ำยังส่งกลิ่นเหม็นจนทำให้คนเดือดดาลจางฉู่ส่ายหน้า “มิทราบได้พ่ะย่ะค่ะ แทนที่จะบอกว่าเป็นน้ำพุ มิสู้บอกว่า พวกมันดูเหมือนเสาค้ำยันศาลามากกว่า ที่แห่งนี้เป็นที่ที่เฉียนอ๋องสร้างขึ้นกับมือเพื่ออนุภร
ในแววตาเขาไร้คลื่นลม และน้ำเสียงก็ราบเรียบมากเช่นกันเฟยอิ่งลอบขมวดคิ้วแน่นเขารู้จักจางฉู่มาแต่ไหนแต่ไร จางฉู่มีนิสัยเย็นชา กระทำการสุขุมหนักแน่น ไตร่ตรองพิจารณารอบด้าน มิใช่คนที่มุทะลุบุ่มบ่ามพรรค์นั้นหากแต่พฤตกรรมครานี้ ผิดแปลกไปอย่างแท้จริงแปลกไปจนมิคล้ายกับเป็นจางฉู่ตัวจริงเฟยอิ่งยิ่งคิดก็ยิ
ตงฟางหลีเดิมทีก็มีโรครักความสะอาดอยู่แล้ว ทนรับกลิ่นแปลกประหลาดเช่นนี้ไม่ได้ที่สุดยามที่กลิ่นเหม็นเน่าสายนั้นถาโถมเข้ามา เขาถึงกับอดถอยหลังไปหลายก้าวไม่ได้ ภายในกระเพาะประหนึ่งพลิกแม่น้ำล้มมหาสมุทรก็มิปานเขารีบล้วงหาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดจมูก สะกดความรู้สึกขยะแขยงลงไปเฟยอิ่งเองก็ถูกความรู้สึกน่ารัง
“เหตุผลที่คุณหนูเซียวหย่ากับพี่ใหญ่ เป็นเพราะว่าพี่ใหญ่สังหารลูกของพวกเขาเองกับมือ” ตงฟางหลีพูดต่อไป “ที่นางมิสามารถตั้งครรภ์มาโดยตลอด ก็เป็นการขัดขวางของพี่ใหญ่เช่นกัน”“พี่ใหญ่คิดว่าการตายของทาสเป่ยลู่เกี่ยวข้องกับคุณหนูเซียว จึงเอาโทสะมาระบายใส่คุณหนูเซียว คุณหนูเซียวที่ลุ่มหลงในความรักอย่างลึกซึ