“หม่อนฉันพบเรื่องที่ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว บางที หม่อมฉันอาจจะเปิดได้เพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวพระสนมอวิ๋นไม่อยากจะเชื่อเท่าใดนัก “เจ้าเปิดมันได้รึ?”“หม่อมฉันมิกล้าแน่ใจ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจ ข้อความเหล่านี้บนกล่อง นางเคยเห็นมาหลายครั้งมากแล้วผู้คนที่นี่อ่านไม่ออก ทว่านางกลับคุ้นตามากตัวอักษร
พระสนมอวิ๋นไม่พอใจ “เจ้าพูดถึงเรื่องอะไร? ท่านพ่อของข้าอายุยังไม่ถึงช่วงหกสิบปีเลย แน่นอนสิว่ายังมีชีวิตอยู่”“ยังมีชีวิตอยู่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์คิดว่าพ่อของพระสนมอวิ๋นมอบแหวนให้กับพระสนมอวิ๋น เป็นการมอบให้ก่อนที่จะเสียชีวิตเสียอีก“เป็นไปมิได้หรือ?” พระสนมอวิ๋นขมวดคิ้ว“ขออภัยเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์รีบ
เมื่อฉินเหยี่ยนเย่ว์ยังอยากจะถามคำถามเพิ่มเติมอีกมากมาย ป้าฉาก็เดินเข้ามาพร้อมสำหรับอาหารพอดี“ถึงเวลาทานอาหารแล้ว ป้าฉามีฝีมือยอดเยี่ยม ลองชิมดูสิ?” พระสนมอวิ๋นเปลี่ยนเรื่องอย่างแนบเนียนฉินเหยี่ยนเย่ว์มีหลายสิ่งที่อยากจะถาม ทว่าพระสนมอวิ๋นกลับส่งสัญญาณโดยนัยให้หยุดเท่านี้นางไม่ไล่บี้ถามอีก หลังจา
ป้าฉายืนขึ้นจุดธูปหอมเตาทำความร้อนในห้องเงียบสงบ“อาการป่วยของพระสนมอวิ๋นนี้ก็แปลก หากมิทานสิ่งใดจะมิเป็นไร ทว่าทานสิ่งใดไปแล้ว ท้องจะรู้สึกเหมือนถูกเข็มทิ่มแทง เจ็บปวดจนทนไม่ไหว หลังจากทานอาหารแล้ว เวลาไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา นางก็จะมีอาการปวดท้องยากจะทานทน จำต้องนอนราบพักบนเตียงเป็นเวลานานถึงจะรู้สึกดี
ตำหนักซีอวิ๋นตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของวังหลัง จะมีน้อยคนที่มาเยี่ยมเยียน บ่าวรับใช้จึงมีเพียงป้าฉาคนเดียวต่างจากความครึกครื้นของตำหนักหมิงอวี้ ที่นี่เงียบสงบมากจนทำให้นางจิตใจวุ่นวายไปบ้างนางคุ้นเคยกับการมีตงฟางหลีอยู่ข้างกาย และคุ้นเคยกับเรื่องตลกของพวกตู้เหิง ในยามที่มีนางอยู่เพียงคนเดียวจึงรู้สึกสั
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้ยินน้ำเสียงที่เย็นชา ทว่างดงาม และน่าดึงดูดนี้ จึงชะงักไปน้ำเสียงของตงฟางหลีไม่ว่าจะได้ยินกี่ครั้งล้วนแล้วแต่ไพเราะ“ชดเชยอะไรหรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถามน้ำเสียงของตงฟางหลีดูไม่พอใจเล็กน้อย เหมือนเด็กที่ไม่ได้กินขนม แค่นหัวเราะหึหึสองเสียง “พระชายาคิดว่าควรชดเชยอะไรล่ะ?”มุมริมฝีปา
“บังอาจ เจ้าจะทำอะไรข้า?” แม้ปากของตงฟางหลีจะดุ ทว่าร่างกายกลับไม่ขยับ รอให้เข็มเงินของนางแทงลงมาแต่โดยดี“ท่านนี่โง่งมจริงเชียว ไม่สบายแล้วเหตุใดถึงไม่บอกหม่อมฉันตรง ๆ เล่า?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์หยิบเข็มเงินแทงเข้าไปในจุดฝังเข็มบนหัวของเขา“ข้าสบายดี...”“ยังอวดเก่งอีก!”หลังจากที่แทงเข็มเงินสองสามเล่มข
ตงฟางหลีหลับลึกมาก จูบของนางมิได้อ่อนโยนเลย ทว่าเขาก็ยังคงไม่ตื่นฉินเหยี่ยนเย่ว์แตะแก้มของเขาเห็นได้ชัดว่าคนหน้าตาดีมาก เนื่องจากนอนไม่หลับและปวดหัวถึงได้ซีดเซียวลงความซีดเซียวนี้ ไม่ได้ทำให้ความหล่อเหลาของเขาลดลงเลย กลับทำให้เขาสุภาพและสง่างามยิ่งขึ้น“ตงฟางหลี” หลังจากที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์จูบเขา ป
เหนื่อยมาก เหนื่อยจนเกียจคร้านจะขยับนิ้วด้วยซ้ำ ทว่า คุ้มค่ามาก!“ตงฟางหลี หม่อมฉันเหนื่อยนิดหน่อย ไปพักผ่อนก่อนนะเพคะ” หลังจากที่นางรู้สึกโล่งใจแล้ว สายที่ตึงนั้นก็ผ่อนคลายลงนางลุกขึ้นยืนลุกขึ้นได้ไม่นาน คนก็ล้มตัวโยนลงไปอีกครั้ง“ระวังตัวด้วย” ตงฟางหลีกอดนางอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรเพคะ” ฉินเหยี่ย
อากาศสงบนิ่ง และเงียบสงัดทุกคนในห้องต่างกลั้นหายใจและตั้งสมาธิลู่จิ้นถือหูฟังแพทย์ ตรวจการเต้นของหัวใจของพระสนมอวิ๋นอย่างถี่ถ้วนจังหวะหัวใจเต้นแทบจะไม่มีเลยสีหน้าของเขาเคร่งขรึม และฟังอย่างอดทนเวลาผ่านไปทีละเล็กน้อย ยังคงไม่มีการเต้นของหัวใจ“เฮ้อ” ลู่จิ้นถอนหายใจและวางหูฟังแพทย์ลง “บางที เป็นข
เริ่มแรกเดิมทีนางก็เคยสงสัยว่ายาลูกกลอนหมดอายุแล้ว ทว่าหลังจากคิดให้ดีว่า ด้วยนิสัยที่ระมัดระวังของปู่แล้ว ย่อมไม่ทำเรื่องเช่นนั้น“ศิษย์พี่ ท่านลองคิดดูดี ๆ เกี่ยวกับยาลูกกลอนนี้ ท่านลืมอะไรไปหรือไม่?”ลู่จิ้นบีบคางพลางครุ่นคิดยาลูกกลอนนี้ เขาเคยเห็นเพียงครั้งเดียวครั้งนั้นก็เป็นผู้ป่วยระยะสุดท้า
“มองผิดแล้วกระมัง” ตงฟางหลีอดไม่ได้ที่จะมองรูปลักษณ์ของพระสนมอวิ๋น ก่อนที่เขาจะหันหลังให้กับเตียง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“หม่อมฉันได้กลิ่นจริง ๆ นะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พึมพำนางตรวจทั่วทั้งร่างกายของพระสนมอวิ๋นแล้ว และรู้สึกว่ามีบางจุดต่างออกไปทว่าหลังจากตรวจอย่างละเอียดแล้ว กลับไม่พบสิ่งใดที่ต่า
“ตงฟางหลี” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สาวเท้าเดินไปหยุดข้างกายเขา พลางจับมือเขาแน่น “หม่อมฉัน...”นางมีคำพูดมากมายที่ต้องการพูด ครั้นเห็นความเศร้าโศกในแววตารวมถึงใบหน้าซีดขาวของเขา สุดท้ายก็ต้องกลืนคำพูดกลับเข้าไปพระสนมอวิ๋นจากไปแล้ว ตงฟางหลีน่าจะโทษนางกระมัง“ขอโทษ” นางสูดจมูก“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษ” ตงฟางหล
ความรู้สึกต่าง ๆ นานา พวยพุ่งขึ้นมาในใจ จนทำให้ฮ่องเต้นัยน์ตาแดงก่ำร่างกายของเขา เปี่ยมล้นไปด้วยความเศร้า ความเจ็บปวด และความเสียใจ...แตกต่างไปจากความจริงจังในยามปกติ เขาในยามนี้ อ่อนแอจนดูเปราะบาง“เสด็จพ่อ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นปฏิกิริยาของฮ่องเต้ผิดแปลกไป จึงหมายจะก้าวเข้าไปห้ามปราม“ออกไป”“เสด็
ผ่านไปเพียงไม่นาน ฮ่องเต้ก็อุ้มโถยาโถหนึ่งเดินเข้ามา“หาเจอแล้ว” เขาหยิบยาเม็ดที่บรรจุด้วยขี้ผึ้งออกมาจากโถยาหนึ่งเม็ด หลังจากเปิดขี้ผึ้งหนา ๆ ออกหนึ่งชั้นแล้ว ภายในยังห่อด้วยหีบห่อไว้อีกหนึ่งชั้นหีบห่อชั้นนั้น ก็คือลูกบอลพลาสติกที่อยู่ด้านนอกยาลูกกลอนน้ำผึ้งเม็ดใหญ่ครั้นเปิดลูกบอลพลาสติกออก ด้าน
ฮ่องเต้ยืนอยู่ห่างจากเจ้าสิ่งนั้นไม่ไกลมากเขามองสิ่งประหลาดชิ้นนั้นขยายตัวด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หลังจากที่มันเจอกับเปลวไฟ พลันเผาไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านในทันทีกลิ่นหอมประหลาดสายหนึ่งฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้อง“ระบายอากาศเร็วเข้า” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตะโกนร้องหนึ่งคำ ฮ่องเต้รีบเปิดหน้าต
นางกำชับทุกคนให้เปลี่ยนอาภรณ์ให้เรียบร้อยแสงเทียนทั้งหมดกระจุกตัวกันอยู่ในจุด ๆ เดียวเมื่อแสงยังสว่างไม่มากพอ ฮ่องเต้จึงมีรับสั่งให้องครักษ์จื่ออวี๋นำไข่มุกราตรีในคลังเก็บสมบัติมาแสงสว่างของไข่มุกราตรีสะท้อนอยู่ภายในห้องจนดูคล้ายกับตอนกลางวันฉินเหยี่ยนเย่ว์มิสนใจพูดขอบคุณ หลังจากแบ่งงานกันอย่างช