หลังจากองครักษ์จื่ออวี๋รับคำสั่งไปตรวจสอบ ไม่นานก็กลับมาหลังจากพวกเขาเอนตัวไปพูดสองสามประโยคที่ข้างพระกัณฑ์ของฮ่องเต้ ก็หายตัวไปจากที่เดิมราวกับสายลมฮ่องเต้มีพระพักตร์ปกติ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ พิเศษพระสนมซูและท่านอ๋องสามไม่รู้ว่าผลเป็นอย่างไร จึงลอบกังวลจนเหงื่อเย็นไหลโดยเฉพาะท่านอ๋องสาม หัวใ
แม้ว่าเขาจะไม่พูด ทว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์กลับมองเข้าใจสายตาของอ๋องอี๋หยางคงประมาณว่า : ศีรษะเสด็จพ่อของพวกเจ้ามีหญ้าเขียวขึ้นอยู่ กำลังอารมณ์ไม่ดี พวกเจ้าสองคนก็ไม่ต้องแสดงความรักกันที่นี่แล้ว...”ฉินเหยี่ยนเย่ว์อยากจะตำหนินัก ทว่าในสถานการณ์เช่นนี้กลับไม่กล้า ได้แต่ก้มหน้าเป็นนกกระจอกเทศแต่โดยดีหลังจ
ฮ่องเต้มิพอใจการมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นของอ๋องอี๋หยางเป็นอย่างมากเจ้าเจ็ดเจ้าสารเลวคนนั้นถึงกับเอาเรื่องที่พระสนมผิงลักลอบคบชู้กับเจ้าสามมาพูดต่อหน้าธารกำนัล พระพักตร์ของพระองค์ถูกทำลายจนหมดสิ้นแล้วเจ้าเจ็ดเป็นการปกป้องครอบครัวก็ช่างเถิด กระทั่งอ๋องอี๋หยางก็ยังตามมาดูเป็นเรื่องตลกด้วยแต่ละ
“เจ้ารู้ผิดหรือไม่?” ฮ่องเต้ตรัสถามเสียงเย็นชาพระสนมผิงสะดุ้งตกใจ ในใจก็ยิ่งรู้สึกกระวนกระวายมากขึ้นฮ่องเต้เรียกนางมาโดยไม่มีเหตุผล ประโยคแรกที่มาถึงตำหนักไท่อี๋แห่งนี้ก็คือถามคำถามนี้ จะต้องมีเรื่องผิดปกติแน่นอนนางคล้ายกับตกลงไปในหุบเขาน้ำแข็ง เย็นยะเยือกไปทั่วทั้งร่าง“หม่อมฉันโง่เขลา ขอฝ่าบาทช
“เจ้าเจ็ด เจ้าขัดแย้งกับลั่วเอ๋อร์ครั้งแล้วครั้งเล่า ในใจเจ้าคิดอะไรกันแน่?” พระสนมซูชี้ที่ตงฟางหลีด้วยความโกรธ “อาภรณ์ของสนมผิงจะปักชื่อของลั่วเอ๋อร์ได้อย่างไร? เจ้าอย่ารังแกคนให้มากเกินไปนะ”ตงฟางหลีพูดเสียงราบเรียบ “พระสนมซูจะรีบร้อนไปไย อาภรณ์ตัวนั้นก็อยู่ตรงนี้ มิสู้คลี่ออกดูสักหน่อย ดูให้เห็นด
เมื่อเทียบสองอย่างเข้าด้วยกัน ชื่อก็ปรากฎขึ้นมาทันทีหลังจากเห็นสองชื่อนี้ นอกจากฉินเหยี่ยนเย่ว์และตงฟางหลีแล้ว ทุกคนล้วนตกตะลึงกันหมดตัวอักษรสองตัวนั้นซุกซ่อนไว้อย่างลึกล้ำมาก หากมิใช้วิธีนี้ดู ก็คงมองไม่ออกแน่นี่ยังบ่งบอกเป็นนัยได้ว่า ระหว่างพี่สามและพระสนมผิง มีเรื่องปิดบังจริง ๆ “ระหว่างที่เป
สายพระเนตรของฮ่องเต้กวาดไปทางเจ้าสามและพระสนมซู ท้ายที่สุดก็หยุดอยู่ที่พระสนมผิงพระสนมผิงคุกเข่าอยู่ที่พื้น เหงื่อบนหน้าผากไหลโซมลงมาไม่ขาดสายดวงตาที่เป็นเอกลักษณ์คู่นั้น ฉายถึงความหวาดกลัวฮ่องเต้หลุบพระเนตรลงเห็นปฏิกิริยาของพระสนมผิงกับเจ้าสาม พระองค์ก็ทรงคาดเดาได้แล้วว่าระหว่างสองคนนี้ต้องไม่บ
อาภรณ์เปียกชุ่มอยู่นานแล้ว เหงื่อเย็นยังคงหลั่งไหลไม่หยุด ดวงตาถูกหยาดเหงื่อบดบังท่ามกลางสายหมอกที่ปกคลุม เขามองเห็นเพียงริมฝีปากของพระสนมซูกำลังอ้าหุบ กลับฟังเนื้อหาได้ไม่ชัด เสียงรอบด้านราวกับดังมาจากสถานที่ที่ไกลออกไป มีเพียงเสียงหึ่ง ๆ ดังก้องอยู่ในสมองเขา ราวกับถูกอะไรบางอย่างกดทับเอาไว้“ลั
เรื่องที่ซูเตี่ยนฉิงแต่งเข้ามาแล้วเจ้าเจ็ดก็จะสละฐานะอ๋องนี้ เห็นได้ชัดเจนว่า สามีภรรยาคู่นี้เคยมีการหารือกันมาก่อนล่วงหน้าแล้วเขามีสีหน้าคาดไม่ถึงสามีภรรยาคู่นี้ คนหนึ่งคิดจะหย่าไปแบบง่าย ๆ ส่วนอีกคนก็สละฐานะอ๋องได้แบบง่าย ๆกล้าหาญกันจริง ๆ!“ตงฟางจ้งหัว” ลู่จิ้นเห็นท่าทีจากไปด้วยความเศร้าโศกเสี
ฮ่องเต้ไตร่ตรองครู่หนึ่ง “หากได้ดื่มชานมอีกสักแก้ว เราก็อนุญาต”“เสวยรสหวานมากเกินไปแล้วเพคะ วันนี้เสวยอีกไม่ได้แล้ว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยขึ้น“เรากับขุนนางเฮ่อที่รักมีเรื่องต้องหารือกัน ขุนนางเฮ่อที่รักไม่มีเวลาพูดคุยกับเจ้าหรอก” ฮ่องเต้เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจใบหน้าของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันมืดมนการใช
“ใช้สุรากลบความเศร้า มิสู้เริ่มเปลี่ยนความขมขื่นให้กลายเป็นความหวานเสียดีกว่า”ตงฟางเจวี๋ยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเขาลังเลอยู่นาน และในที่สุดก็หยิบชานมแก้วนั้นมา แล้วจิบเบา ๆ หลังจากดื่มฟองนมชั้นบนสุด ดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยในรสชาติหวานแฝงรสชาติเค็มเล็กน้อย เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม รสชาติอร่อยเข
“ท่านพูดอะไรนะ?” มือของตงฟางหลีที่ถือแก้วสุราค้างเติ่งอยู่กลางอากาศแก้วสุราลื่นลงมาครั้นเห็นว่าแก้วกำลังจะตกลงบนโต๊ะ เขาก็รีบคว้าไว้และมีสีหน้าตกใจ “เสด็จพ่อ จะให้ซูเตี่ยนฉิงแต่งงานกับท่านหรือ?”บนใบหน้าของตงฟางเจวี๋ยไม่ได้แสดงออกอะไรเป็นพิเศษ“อืม หลังนางจากไป ข้าก็เหมือนศพเดินได้ จะแต่งงานกับใคร
เป็นเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าตงฟางหลีรู้สึกว่าตงฟางเจวี๋ยผิดปกติทีเดียวเมื่อก่อนพี่รองดื่มสุราน้อยมาก ยกแก้วก็ดื่มจนหมดเหมือนเช่นนี้ หาได้ยากมาก ๆ“พี่รอง ข้าจำได้ว่าเหยี่ยนเย่ว์เคยบอกว่าท่านไม่สามารถดื่มเหล้าได้” เขาจะแย่งแก้วสุราของตงฟางเจวี๋ยมา“วันนี้เจ้าให้ข้าดื่มสักหน่อยเถอะ” ตงฟางเจวี๋หลบนิ้วม
สีหน้าของฮ่องเต้ยังคงมืดทะมึนนักลูกหลานเชื้อพระวงศ์ ไหนเลยจะไม่มีสามภรรยาสี่อนุชายา ถือเป็นความสุขของผู้คนทั่วไป?แม้แต่เจ้าห้าซึ่งกลัวภรรยาที่สุดก็ยังมีเรือนอนุชายาถึงสองเรือนเจ้าเจ็ดอยากจะแต่งภรรยาเพียงคนเดียวจริง ๆ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในราชวงศ์“เจ้าเจ็ด เจ้าจะขัดราชโองการหรือ?”“ล
“จริงแท้แน่นอน”“หลายปีมานี้ ซูเตี่ยนฉิงโกหกเจ้ามาตลอดหรือ?” แม้แต่ฮ่องเต้เองก็รู้สึกว่าเรื่องนี้น่าประหลาดใจ และอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแทรกขึ้นมาในวังนั้นคนอื่นมีอำนาจก็ประจบสอพลอ สูญสิ้นอำนาจก็ไม่แยแส หลังจากพระสนมอวิ๋นประสบกับความลำบาก อ๋องเจ็ดก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก และยังเกือบจะเสียชีวิตอยู่ในทะเ
ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่ง “เมื่อก่อนมิใช่ว่าเจ้าอยากแต่งงานกับนางมากหรือ?”ในฐานะพระโอรสลำดับที่เจ็ด การที่จะมีสตรีโปรดปรานหลายคนถือเป็นเรื่องปกติมาก ๆแต่งงานกับคนนี้แล้ว แต่งงานกับคนนั้นต่อ ก็เป็นเรื่องปกติเช่นกันแม้ว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์จะริษยา ก็ไม่ควรให้นางทำตามอำเภอใจหากต่อไปสามารถส
เมื่อหายโกรธแล้วอย่าลืมคืนตำแหน่งให้เหยี่ยนเย่ว์กลับมา...ฮ่องเต้มองท่าทีของตงฟางหลี ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “มองไม่ออกเลยว่าเจ้ายังมีความรักหวานซึ้งด้วย รอนางให้กำเนิดท่านอ๋องน้อยก่อน เราถึงจะคืนตำแหน่งพระชายาเอกให้นาง”สีหน้าของตงฟางหลีไม่น่ามอง “นี่คงต้องใช้เวลานานทีเดียว”“ทำไม เจ้าไม่ไหว หรือศิษย์น