“เจ้าฟังข้าพูดก่อน” ท่านยายพูด “เรื่องนั้นมีลับลมคมในอยู่มาก ตอนที่พวกเขาถูกพบ ทั้งแม่เจ้าและบุรุษผู้นั้นต่างหลับใหลไปทั้งคู่ พ่อเจ้าเองก็มิเชื่อเช่นกัน หลังจากสั่งให้สืบสวนก็สืบไม่พบเบาะแสที่มีประโยชน์เลย พ่อเจ้ายังนับว่าเป็นลูกผู้ชาย เขาเชื่อในตัวแม่เจ้า เรื่องราวนั้นจึงละไว้ก่อน”“แม่เจ้ากลับป่วย
เฟิ่งเฉิงขมวดคิ้ว เขาคว้าตัวบุคคลนั้นออกมาด้วยความรวดเร็วผู้ที่ซ่อนตัวอยู่หลังม่าน ก็คือสาวใช้ขั้นสองสาวใช้คนนั้นคุกเข่าลง ตัวสั่นเทา “บ่าวคารวะฮูหยินผู้เฒ่า คารวะนายท่าน คารวะฮูหยิน”“จินชุ่ย?” หลินซู่ซู่ขมวดคิ้ว “เจ้ามาทำอะไรด้านหลังนี่รึ?”“ฮูหยิน บ่าว บ่าวทำงานเสร็จแล้ว จึงมาที่นี่เพื่อดูว่าจะ
ใบหน้าของจินชุ่ยซีดเผือด มีเหงื่อเย็นผุดขึ้นบนหน้าผากภายใต้ความทรมานอันแสนสาหัส ดูเหมือนเวลาจะเดินช้าลงเรื่อย ๆนางกลิ้งดิ้นเร้าไปมาบนพื้นเหมือนปลาหมูเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด และหายใจหอบหนัก“ยังมิพูดอีกหรือ?” ในกระแสเสียงของฉินเหยี่ยนเย่ว์เย็นชาราวกับธารเหลืองใต้พิภพ“ถูกใส่ร้าย บ่าวถูกใส่ร้าย” จินช
สิ่งที่ซ่อนอยู่ในแจกันเล็กคือห่อผงสีขาวไร้สีไร้กลิ่นฉินเหยี่ยนเย่ว์รับมาดมกลิ่นแล้วขมวดคิ้ว “ยานี้มีชื่อว่าชุนหรง”นางเคยเห็นในตำราที่เรือนนวลคุณสมบัติเด่นที่สุดของยาตัวนี้คือ เมื่อส่องกับแสงจะสะท้อนประกายสีชมพู สว่างราวกับดอกท้อ ราวกับฤดูใบไม้ผลิที่มาถึง จึงขนานนามว่าชุนหรง“ยาพิษนี้มีผลกระทบอย่า
เฟิ่งเฉิงตระหนักได้ในทันทีเขาพยักหน้า มองฉินเหยี่ยนเย่ว์ด้วยสายตาที่มีความเคารพมากขึ้น “พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ชื่อของเหยี่ยนเย่ว์ยังเป็นนักพรตเต๋าเทียนหลิงที่ตั้งให้ นักพรตเต๋าเทียนหลิงเองก็มีความเมตตาอย่างยิ่งยวดต่อสกุลเฟิ่ง หากได้รับการสอนสั่งจากนักพรตเต๋าเทียนหลิง เช่นนั้นเหลียนเอ๋อร์จะต้องไม่เป็น
ต้าหวงเป็นที่รู้จักในนามยาแม่ทัพ มีฤทธิ์ขับถ่ายดีเยี่ยมหลีเอ๋อร์หมดสติมาสิบวันแล้ว ซ้ำยังท้องว่างด้วย หากใช้ยาแรงเช่นต้าหวงอีก อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้“ท่านน้า เชื่อข้าสิ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวต่อ “ต้าหวงมีฤทธิ์เย็น ช่วยถอนพิษร้อนได้ มีฤทธิ์ขับถ่ายที่ดี สามารถส่งเสริมการล้างพิษของญาติผู้พี่ได
“คนโง่” ฉินเหยี่ยนเย่ว์โน้มตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา ขยับตัวหาตำแหน่งที่สบายฮูหยินรองมิใช่จีอู๋เยียน จะไม่มีเรื่องน่ากลัวขนาดนี้เกิดขึ้นอีกพอนึกถึงจีอู๋เยียน แววตาของนางก็เป็นประกายวาววับ “หม่อมฉันพาเฟ่ยชุ่ยกับจีอู๋เยียนกลับไปเป็นเช่นไรเพคะ?”ถึงอย่างไรก็ตาม เขาปลอมตัวเป็นสาวใช้ในจวนอยู่แล้ว แล
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาช่ำชอง และมีลูกเล่นมากมายขนาดนี้!ครั้นฉินเหยี่ยนเย่ว์คิดว่าตงฟางหลีเคยเกลือกกลิ้งไปมาท่ามกลางหมู่บุปผานับพัน คิดว่าเขาอาจเคยมีสตรีมากหน้าหลายตา หัวใจของนางก็อึดอัด จึงผลักเขาออกไปอย่างแรงและหันหลังให้เขา“เหยี่ยนเย่ว์?” พอตงฟางหลีสะกิดไหล่นาง ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็ปัดมือเขาออกไป“ท่
เหนื่อยมาก เหนื่อยจนเกียจคร้านจะขยับนิ้วด้วยซ้ำ ทว่า คุ้มค่ามาก!“ตงฟางหลี หม่อมฉันเหนื่อยนิดหน่อย ไปพักผ่อนก่อนนะเพคะ” หลังจากที่นางรู้สึกโล่งใจแล้ว สายที่ตึงนั้นก็ผ่อนคลายลงนางลุกขึ้นยืนลุกขึ้นได้ไม่นาน คนก็ล้มตัวโยนลงไปอีกครั้ง“ระวังตัวด้วย” ตงฟางหลีกอดนางอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรเพคะ” ฉินเหยี่ย
อากาศสงบนิ่ง และเงียบสงัดทุกคนในห้องต่างกลั้นหายใจและตั้งสมาธิลู่จิ้นถือหูฟังแพทย์ ตรวจการเต้นของหัวใจของพระสนมอวิ๋นอย่างถี่ถ้วนจังหวะหัวใจเต้นแทบจะไม่มีเลยสีหน้าของเขาเคร่งขรึม และฟังอย่างอดทนเวลาผ่านไปทีละเล็กน้อย ยังคงไม่มีการเต้นของหัวใจ“เฮ้อ” ลู่จิ้นถอนหายใจและวางหูฟังแพทย์ลง “บางที เป็นข
เริ่มแรกเดิมทีนางก็เคยสงสัยว่ายาลูกกลอนหมดอายุแล้ว ทว่าหลังจากคิดให้ดีว่า ด้วยนิสัยที่ระมัดระวังของปู่แล้ว ย่อมไม่ทำเรื่องเช่นนั้น“ศิษย์พี่ ท่านลองคิดดูดี ๆ เกี่ยวกับยาลูกกลอนนี้ ท่านลืมอะไรไปหรือไม่?”ลู่จิ้นบีบคางพลางครุ่นคิดยาลูกกลอนนี้ เขาเคยเห็นเพียงครั้งเดียวครั้งนั้นก็เป็นผู้ป่วยระยะสุดท้า
“มองผิดแล้วกระมัง” ตงฟางหลีอดไม่ได้ที่จะมองรูปลักษณ์ของพระสนมอวิ๋น ก่อนที่เขาจะหันหลังให้กับเตียง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“หม่อมฉันได้กลิ่นจริง ๆ นะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พึมพำนางตรวจทั่วทั้งร่างกายของพระสนมอวิ๋นแล้ว และรู้สึกว่ามีบางจุดต่างออกไปทว่าหลังจากตรวจอย่างละเอียดแล้ว กลับไม่พบสิ่งใดที่ต่า
“ตงฟางหลี” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สาวเท้าเดินไปหยุดข้างกายเขา พลางจับมือเขาแน่น “หม่อมฉัน...”นางมีคำพูดมากมายที่ต้องการพูด ครั้นเห็นความเศร้าโศกในแววตารวมถึงใบหน้าซีดขาวของเขา สุดท้ายก็ต้องกลืนคำพูดกลับเข้าไปพระสนมอวิ๋นจากไปแล้ว ตงฟางหลีน่าจะโทษนางกระมัง“ขอโทษ” นางสูดจมูก“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษ” ตงฟางหล
ความรู้สึกต่าง ๆ นานา พวยพุ่งขึ้นมาในใจ จนทำให้ฮ่องเต้นัยน์ตาแดงก่ำร่างกายของเขา เปี่ยมล้นไปด้วยความเศร้า ความเจ็บปวด และความเสียใจ...แตกต่างไปจากความจริงจังในยามปกติ เขาในยามนี้ อ่อนแอจนดูเปราะบาง“เสด็จพ่อ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นปฏิกิริยาของฮ่องเต้ผิดแปลกไป จึงหมายจะก้าวเข้าไปห้ามปราม“ออกไป”“เสด็
ผ่านไปเพียงไม่นาน ฮ่องเต้ก็อุ้มโถยาโถหนึ่งเดินเข้ามา“หาเจอแล้ว” เขาหยิบยาเม็ดที่บรรจุด้วยขี้ผึ้งออกมาจากโถยาหนึ่งเม็ด หลังจากเปิดขี้ผึ้งหนา ๆ ออกหนึ่งชั้นแล้ว ภายในยังห่อด้วยหีบห่อไว้อีกหนึ่งชั้นหีบห่อชั้นนั้น ก็คือลูกบอลพลาสติกที่อยู่ด้านนอกยาลูกกลอนน้ำผึ้งเม็ดใหญ่ครั้นเปิดลูกบอลพลาสติกออก ด้าน
ฮ่องเต้ยืนอยู่ห่างจากเจ้าสิ่งนั้นไม่ไกลมากเขามองสิ่งประหลาดชิ้นนั้นขยายตัวด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หลังจากที่มันเจอกับเปลวไฟ พลันเผาไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านในทันทีกลิ่นหอมประหลาดสายหนึ่งฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้อง“ระบายอากาศเร็วเข้า” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตะโกนร้องหนึ่งคำ ฮ่องเต้รีบเปิดหน้าต
นางกำชับทุกคนให้เปลี่ยนอาภรณ์ให้เรียบร้อยแสงเทียนทั้งหมดกระจุกตัวกันอยู่ในจุด ๆ เดียวเมื่อแสงยังสว่างไม่มากพอ ฮ่องเต้จึงมีรับสั่งให้องครักษ์จื่ออวี๋นำไข่มุกราตรีในคลังเก็บสมบัติมาแสงสว่างของไข่มุกราตรีสะท้อนอยู่ภายในห้องจนดูคล้ายกับตอนกลางวันฉินเหยี่ยนเย่ว์มิสนใจพูดขอบคุณ หลังจากแบ่งงานกันอย่างช