หลังจากที่ฮ่องเต้เดินเข้ามาแล้วนั้น พระองค์ก็นั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมทั้งสายลมสายหนึ่งที่พัดผ่านส่งกลิ่นเลือดจางๆ เข้ามา จากนั้นประตูห้องจึงปิดลงฉินเหยี่ยนเย่ว์ตัวสั่นเทาเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองโดยไม่รู้ตัว กลับพบว่าด้านหลังนางหาได้มีผู้ใดไม่“ว่ามา” ฮ่องเต้กล่
ฮ่องเต้เคยชินกับพบเจอสถานการณ์ใหญ่ ๆ จึงรู้สึกประหลาดใจอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะกลับมาดั่งเช่นปกติ พยักพระพักตร์แล้วทรงตรัสขึ้น “อาการป่วยนี้มีมาหลายปีแล้ว กินยาก็ไม่ดีขึ้น ครั้นอายุมากขึ้น มีเวลานอนกลับน้อยลงเรื่อย ๆ”“เหตุใดพระองค์ไม่ลองเสวยสิ่งนี้เล่าเพคะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยื่นขวดยา “แหวนวงนี้มีความอัศจ
“เหยี่ยนเย่ว์ แหวนที่นักพรตเต๋าเทียนหลิงทิ้งไว้ให้เจ้านั้นต้องใช้ให้ดี และอย่าลืมเก็บไว้เป็นความลับ” ฮ่องเต้ทรงตรัส“ลูกจะจดจำไว้เพคะ”“ไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องลูกศิษย์ของนักพรตเต๋าเทียนหลิงปรากฏตัวแล้ว กลัวเพียงแต่จะมีคนที่ตาไร้แววมาหาถึงประตูเรือนน่ะสิ เราจะให้องครักษ์จื่ออวี๋สองคนแก่เจ้าแล้วกัน”
นางรู้สึกว่าเรื่องราวจะไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่น“ฮ่องเต้เพคะ พระองค์ว่า...” ฮองเฮาทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก“โอ้ เราคิดว่าสิ่งที่เจ้าเจ็ดพูดนั้นมีเหตุผลทีเดียว เหยี่ยนเย่ว์เป็นศิษย์ของนักพรตเต๋าเทียนหลิงจริง ๆ และการเปลี่ยนแปลงของเหยี่ยนเย่ว์ก็เป็นความกรุณาจากนักพรตเต๋าเทียนหลิงเช่นกัน” ฮ
“และข้าก็ไม่ใช่สัตว์ประหลาดด้วย” บรรพบุรุษเฒ่าสกุลลู่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก “ไยคนหนุ่มสาวในยุคนี้ถึงได้ไม่มีมารยาทเพียงนี้กัน?”มุมปากของฉินเหยี่ยนเย่ว์กระตุกอย่างแรงนางไม่ได้พูดอะไรเลยด้วยซ้ำ ทว่าชายชราผู้นี้ก็สามารถคาดเดาความคิดในใจของนางได้อย่างแม่นยำทักษะแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะมีได้ฮ่องเต้
เสียงของฉินเหยี่ยนเย่ว์สั่นเทา “ท่านผู้เฒ่า ท่านบอกข้าได้หรือไม่ ตัวอักษรเหล่านี้ท่านเห็นจากที่ใดหรือเจ้าคะ? และผู้ใดเคยพูดถึงเรื่องหมู่โลหิตกัน?”ผู้เฒ่าไม่พอใจยิ่งนัก “เจ้าเรียกว่าท่านผู้เฒ่าหรือ? ไร้มารยาท เจ้าต้องเรียกข้าว่าศิษย์พี่สิ”หน้าผากของฉินเหยี่ยนเย่ว์กระตุกศิษย์พี่?ศิษย์พี่สูงอายุปาน
ฮองเฮาไม่เคยคิดเลยว่าบรรพบุรุษเฒ่าสกุลลู่ซึ่งเกษียณอายุไปนานแล้วจะก้าวเข้ามาแทรกแซงการที่ผู้เฒ่ายอมรับสถานะศิษย์น้องของฉินเหยี่ยนเย่ว์ ก็เท่ากับว่าผู้เฒ่ายอมรับสถานะศิษย์นักพรตเต๋าเทียนหลิงของฉินเหยี่ยนเย่ว์เช่นกันนางจัดการสิ่งต่าง ๆ มามากมายเพียงนี้แล้ว ยังคว้าน้ำเหลวอีกจนได้“ฮ่องเต้เพคะ” เมื่อฮ
มู่เหยี่ยเองก็เติบโตจากเด็กสาวตัวน้อยไปสู่ผู้ใหญ่แล้วด้วยทว่า ความโหดเหี้ยมและความกระหายเลือดของนางกลับไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยสักนิด“เจ้าคิดว่าควรลงโทษอย่างไร?” ฮ่องเต้ทรงตรัสถามฉินเหยี่ยนเย่ว์ฉินเหยี่ยนเย่ว์คารวะอย่างนบนอบ “ทูลฮ่องเต้ มีเหตุถึงจะมีผลเพคะ มู่เหยี่ยควรได้รับการลงโทษที่หนักกว่าลูกถึงจ
“ข้าอยากให้นางตาย”“อ๊าก ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไปตายซะ”ดวงตาทั้งสองข้างของนางเป็นสีแดงโลหิต ใบหน้าดุร้าย มองบุคลิกที่มีเสน่ห์ในอดีตไม่ออกเลยสักนิดหมิ่นจูจ้องมองฉินเสวี่ยเย่ว์ที่โฉมหน้าเปลี่ยนไป พลางส่ายหัวเล็กน้อยฉินเสวี่ยเย่ว์ผู้นี้ ราวกับถูกแกะสลักจากแม่พิมพ์เดียวกันกับหมิ่นอวี้ไร้วิสัยทัศน์เช่นเดียว
เขตชานเมืองเมืองเหวินจิงในจวนหลังใหญ่อันเงียบสงบ มีลานเรือนที่ลึกมาก ๆ อยู่เมื่อข้ามทะเลสาบเทียมซึ่งมีใบบัวเหี่ยวเฉากระจายไปทั่ว รวมถึงป่าไผ่ สามารถเห็นศาลาสีแดงเล็กที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางต้นหลิวได้รำไรในศาลาเล็ก ๆฉินเสวี่ยเย่ว์ที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง และแทบจะสติฟั่นเฟือนอยู่รอมร่อคว้าตุ๊กตาที่ทำจากผ้าขา
จีอู๋เยียนท่าทีเคร่งขรึมเขายืนอยู่ตรงนั้น เหลือบตาหงส์ขึ้นเล็กน้อย ราวกับรอให้นางพูดต่อไปฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดจบแล้ว และกำลังรอคำตอบของเขา “ท่านเข้าใจใช่หรือไม่?”“หมดแล้ว?” จีอู๋เยียนถามหลังจากรอสักพัก“หมดแล้ว”“แค่นั้นหรือ?” จีอู๋เยียนมองนางราวกับมองคนโง่เขลา “ท่านคงมิได้กำลังเล่นตลกอยู่กระมัง?”เ
จีอู๋เยียนเหลือบมองลู่จิ้นที่ร้องเอะอะไม่หยุดทว่าไม่ได้สนใจเลยสักนิดเขามองฉินเหยี่ยนเย่ว์ด้วยสีหน้าเย็นชา ไอสังหารเยียบเย็น “ฉินเหยี่ยนเย่ว์ ความอดทนของข้ามีจำกัด แนะนำท่านอย่าได้ผลัดวันอีก”ลู่จิ้นถูกเมิน ทั่วทั้งใบหน้าล้วนเป็นสีทะมึน“จอมปีศาจ เจ้าหาเรื่องอยู่ใช่หรือไม่?”“เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้
“เป็นไปได้หรือไม่ว่า คนที่ใช้วิธีการโหดร้ายเช่นนี้ทำร้ายเจ้าคือฉินเสวี่ยเย่ว์?” ตงฟางหลีถามคนที่เกลียดยัยหนูเข้ากระดูกไม่ได้มีมากมาย และฉินเสวี่ยเย่ว์ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในนั้นจุดหนึ่งที่สำคัญที่สุด คือฉินเสวี่ยเย่ว์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหมิ่นจูที่ผิดแผกคนนั้นและในการสืบสวนของเขา หมิ่นจูเองก็มีควา
“เป็นผู้ใด?” ตงฟางหลีถามฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจลึก ๆ มือกำแขนเสื้อแน่นบนจดหมายที่นกกางเขนเงาส่งมา เป็นเรื่องที่นางไหว้วานให้พระชายาอ๋องเฉียนสืบสวนจริง ๆบนจดหมายไม่ได้มีเพียงข้อมูลที่เกี่ยวกับงูเพลิงแดงเท่านั้น พอเหมาะพอเจาะกับที่ยังมีข่าวของงูสวรรค์สีดำสนิทอีกด้วย!งูสวรรค์สีดำสนิทและงูเพลิงแดงสี
“พิษร้ายแรง?” ตงฟางหลีขมวดคิ้ว “เมื่อครู่ท่านมิใช่บอกว่าไม่รู้เรื่องพิษหรืออย่างไร?”“ข้าคร้านจะบอกเจ้าเท่านั้นเอง” ลู่จิ้นกลอกตาใส่ตงฟางหลี“ศิษย์น้องหญิง เจ้าอย่ากังวลเลย สิ่งนั้นถูกข้าจับไว้ได้แล้ว อยู่ตรงนี้” เขาโบกขวดกระเบื้องในมือไปมา“เหตุใดงูสวรรค์ถึงได้ปรากฏตัวที่นี่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สับสน
มือของฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกลงบนหัวของเฮยตั้นพลางถอนหายใจลึก“หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ พวกท่านไม่ต้องกังวล”“จะไม่เป็นไรได้อย่างไร? เมื่อครู่ข้าตกใจแทบตาย” ตงฟางหลียังคงหวาดผวาอยู่ในใจ“หม่อมฉันไม่เป็นไรจริง ๆ ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยกมือขึ้น สัมผัสแก้มซีดขาวของตงฟางหลีท่าทีของชายผู้นี้ผิดปกติแม้ว่าใบหน้าของเขา
ความโกรธของตงฟางหลียิ่งมากขึ้นเขาระงับอารมณ์หุนหันพลันแล่นที่จะทุบหัวของลู่จิ้นสักหมัด ถามด้วยเสียงทุ้มลึก “เหยียนเย่ว์ อาการเป็นอย่างไรบ้าง?"“ยังไหว”“ยังไหว หมายความว่าอย่างไร?” ตงฟางหลียังคงหวาดกลัวกับเหตุการณ์น่าหวาดผวาเมื่อครู่นั้น ครั้นได้ยินคำตอบส่งเดชของลู่จิ้น จึงอดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียง“ค