“นี่ไม่เหมือนกับการขูดกระดูกรักษาอาการบาดเจ็บ การรักษาแบบนี้เจ็บปวดกว่าการขูดกระดูกเป็นพันเท่าร้อยเท่า” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว“ไยเจ้าจึงพูดจาไร้สาระมากมายถึงเพียงนี้?” ตงฟางหลีกล่าวเสียงเย็นเขาเป็นถึงท่านอ๋องที่สง่าผ่าเผย จะให้ยัดผ้าเช็ดหน้าเข้าปากเพียงเพราะกลัวเจ็บได้อย่างไร?หากพวกลู่ซิวรู้เข้า จะ
ความเจ็บปวดกำลังขยายตัว และกระจายออกไปอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความเจ็บปวดอันรุนแรงนี้ ถึงแม้ว่าตงฟางหลีจะมีสติเรือนรางก็มิอาจต้านทานการโจมตีที่ทรงพลังได้เป็นความเจ็บปวดทิ่มแทงหัวใจอย่างที่เขามิเคยได้รับมาก่อน ไม่ว่าความมุ่งมั่นของเขาจะแข็งแกร่งถึงเพียงใดก็มิอาจแบกรับความเจ็บปวดนี้ได้เหงื่อเย็นไหลซึมอ
ตงฟางหลีตกอยู่ในสภาวะสติสัมปชัญญะเลือนราง ในระหว่างที่กำลังมึนงงพลันรู้สึกถึงของเหลวอุ่น ๆ หยดลงบนใบหน้าก่อนที่เขาจะรู้สึกถึงสัมผัสอันอบอุ่นบางอย่างใกล้เข้ามาสัมผัสนั้น คล้ายเคียงกับจุมพิตเพียงผิวเผินของครั้งก่อนหน้ามาก แฝงด้วยรสชาติอันอ่อนหวาน เติมเต็มภายในลำคอ ราวกับทุ่งดอกไม้บานในฤดูใบไม้ผลิ ดั
ก่อนจะตามมาด้วย ร่างกายอันอบอุ่น วาจาอ่อนหวาน และริมฝีปากที่อ่อนโยน...เด็กน้อยอ่อนโยนคนนั้นพยายามออกแรงลากเขาที่กำลังตกอยู่ในความเป็นความตายเท่า ๆ กันจนถึงริมฝั่งทะเลสาบจนสุดแรง แล้วใช้น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยขึ้นที่ข้าง ๆ หูของเขาว่า “มิต้องกลัวไป ไม่เป็นอะไรแล้ว ทนอีกสักหน่อย จะต้องมีคนมาช่วยอย่างแน่น
“ระวัง” ตงฟางหลีเข้าไปประคองฉินเหยี่ยนเย่ว์โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวเขาเคลื่อนไหวลำบาก จึงทำได้แค่เพียงโอบกอดนางเข้ามาหลังจากที่โอบนางเข้ามาแล้ว ราวกับว่าเขาเพิ่งจะรู้สึกตัว ผลักนางไปอีกด้านด้วยความรังเกลียด ก่อนจะหันหน้าไปอีกด้าน “หมอหลวงหลิน”หมอหลวงหลินรีบร้อนเข้ามาจับชีพจรให้“ท่านอ๋อง ลมหายใจของพร
แมงป่องงามขยายตัวใหญ่ขึ้นกว่าตอนแรกเริ่มเป็นเท่าตัว และกำลังแหวกว่ายในน้ำมันหอมอย่างมีความสุขเขามองตามหมอหลวงหลินอยู่พักใหญ่ ๆ ก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างมึนงง “ท่านกำลังมองอะไรอยู่หรือ?”หมอหลวงหลินที่กำลังอยู่ในภวังค์ ถูกตู้เหิงตะโกนถามก็สะดุ้งตกใจ “ใต้เท้าตู้ อย่าจู่ ๆ ก็เอ่ยออกมาเช่นนี้สิ ข้าตกใจหมด”
จวนท่านอ๋องเจ็ดตำหนักหมิงอวี้ เรือนนวลยามที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตื่นขึ้นมา ก็พลันเห็นตงฟางหลีนอนหลับตาเอนหลังพิงอยู่บนเก้าอี้เอนตัวงามแสงสว่างที่ส่องประกายออกมา ใบหน้าของเขารูปงามราวดั่งหยก เพียงแค่นอนเอนตัวธรรม ท่วงท่ากลับมิต่างกับภูเขาหยก งดงามเสียจนทำให้ผู้คนนึกอิจฉาออกมาเสียได้เมื่อเปรียบเทียบกั
“เจ้าจำมิได้หรือ?” ตงฟางหลีพลางหัวเราะเยาะออกมา “ผู้ที่ตั้งชื่อให้เจ้าก็คือท่านราชครูผู้นั้นอย่างไรล่ะ บรรพบุรุษเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ของราชวงศ์ตงลู่มายาวนาน”ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันขมวดคิ้วเป็นปมไปในทันทีชื่อของนางเป็นคุณปู่ของนางที่เป็นคนตั้งให้ เนื่องจากชื่อนี้คำว่าเหยี่ยนเยว์กับอาว