ซูเตี่ยนฉิงหาได้หยุดฝีเท้าตัวเองไม่ ก่อนจะรับจ้ำก้าวเข้าไปในเรือนรับรองในทันที เมื่อแผนการของตงฟางอิงประสบความสำเร็จแล้วนั้น เขาพลันแลบลิ้นปลิ้นตาออกมา ด้วยใบหน้าน้อย ๆ ที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ“นางให้เจ้ามาหรือ?” น้ำเสียงของตงฟางหลีเอ่ยออกมาด้วยความเย็นชา พร้อมทั้งกลิ่นอายรังสีฆ่าฟันที่แผ่กระจาย
“แย่แล้ว ไม่ดีแล้ว เกิดเรื่องขึ้นกับท่านอ๋องสิบ” นางกำนัลผู้หนึ่งพลางร่ำไห้กรีดร้องออกมา “หมอหลวง รีบไปตามหมอหลวงมาเร็วเข้า”ผู้คนที่อยู่ภายในห้องโถงต่างก็ตกใจไปในทันที ไม่นานนักทุกคนจึงพากันมารวมตัวกัน นางกำนัลขันทีต่างก็รีบเร่งเข้าไปแจ้งแก่ฮองเฮาในทันใดในยามนี้ บรรยากาศภายในห้องโถวพลันเริ่มเกิดค
“พวกเจ้าเห็นอ๋องสิบกินสิ่งใดลงไปหรือไม่?” ฮองเฮาเอ่ยถามทุกคนด้วยน้ำเสียงเย็นชาหลังจากที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถูกปลุกด้วยเสียงวุ่นวาย นางยังคงมีท่าทีสับสนเล็กน้อย เมื่อนางรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนั้น เหงื่อเย็น ๆ พลันไหลออกมาทั่วตัวในทันทีเมื่อได้ยินคำถามของฮองเฮานั้น นางพลันมีใบหน้าลำบากใจยิ่งนักอ๋องสิบคือตง
“หม่อมฉันร่างกายอ่อนแอเพคะ หากมิได้ทานอาหารหม่อมฉันจักเป็นลมหมดสติ เกรงว่าอาการป่วยของหม่อมฉันจักส่งผลต่อทุกคน ดังนั้นหม่อมฉันจึงได้เตรียมของว่างมาด้วย” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวออกมาหาได้มีท่าทีหยิ่งทระนงตนไม่ “ทว่า หม่อมฉันมิได้วางยาอ๋องสิบเพคะ”“ยังเล่นลิ้นอยู่อีก” ใบหน้าของฮองเฮาพลันฉายแววเย็นชาออกมา
“ เจ้า เจ้า ฉินเหยี่ยนเย่ว์ เจ้ายังเห็นเราอยู่ในสายหรือไม่” ฮองเฮาพลันโกรธโมโหจนตัวสั่นแม่นมทั้งสองเป็นนางกำนัลรับใช้ส่วนตัวของนาง หากว่าพวกนางถูกทุบตีนั้น นี่มิใช่ว่าเป็นการตบหน้านางโดยตรงหรอกหรือ “เสด็จแม่ ใจเย็นๆ ก่อนเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางยกมือโค้งคำนับ “แม่นมสองคนนี้ช่างหยาบคายและไร้มารยา
ฮองเฮาที่ผ่านคลื่นลมมามากมายนั้น ไม่นานนักพระนางพลันสงบจิตสงบใจได้อย่างรวดเร็ว นางรู้แล้วว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์กำลังช่วยนางหาทางลงให้กับเรื่องนี้อยู่ มามาสองคนมิอาจซ่อนพิษหรือทำการหลอกลวงได้อีกต่อไป ทั้งยังมีผู้คนมากมายที่เห็นภาพสถานการณ์ตรงหน้า การจะนำนางลงจากตำแหน่งฮองเฮานั้น หากนางก้าวพลาดพลั้งเพีย
ฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นความโกรธเคืองในสายตาของฮองเฮา นางมิกล้าเอ่ยอันใดออกมา หากแต่เดินก้าวออกไปข้างหน้า "ฮองเฮาเพคะ ได้โปรดอนุญาตให้หม่อมฉันเข้าไปดูอ๋องสิบด้วยเถิดเพคะ"“หากอ๋องสิบตกตายขึ้นมาจริง ๆ เสด็จแม่ย่อมต้องเดือดร้อนมิใช่หรือ? ตราบใดที่ท่านยอมให้หม่อมฉันเข้าไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างใน ท่านสามา
ฮองเฮายังคงเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของนางนางเห็นด้วยตาตัวเองว่าหลังจากฉินเหยี่ยนเย่ว์ทำบางอย่างกับเจ้าสิบแล้ว เจ้าสิบก็คายอัลมอนด์ออกมาอัลมอนด์ลูกใหญ่ติดอยู่ในลำคอของเจ้าสิบ แน่นอนว่ามันทำให้หายใจไม่ออกเป็นแน่หลังจากพ่นอัลมอนด์ออกมา ลมหายใจของเจ้าสิบก็มั่นคงขึ้น และใบหน้าที่ม่วงเขียวของเขาก็ค่อยๆ กลับ
ก่อนหน้านี้ก็พูดเพื่อฉินเหยี่ยนเย่ว์ แล้วก็ยังมาขัดขวางการลงโทษตู้เหิงของนาง!“แม้แต่เจ้าก็ทำให้ข้าโกรธ!”“ท่านแม่” ซูจื่อเห็นว่าตู้เหิงจากไปแล้ว สีหน้าพลันทะมึนลง “เรื่องในวันนี้ ลูกไม่รู้ว่าท่านได้รับยาเสน่ห์มาจากผู้ใด แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเหตุใดถึงต้องจับตามองพระชายาอ๋องเจ็ดด้วยเช่นกัน แต่ท่านฟังที
ฮูหยินซูถูกตู้เหิงเพิกเฉย เพลิงโทสะที่สะสมมาในวันนี้พวยพุ่งขึ้นมาไม่หยุดซวงเอ๋อร์ได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างใหญ่หลวง มิอาจจบไปเช่นนี้ได้!“เจ้าสุนัขรับใช้ ข้ากำลังพูดกับเจ้าอยู่นะ เจ้าหูหนวกหรือ?”ตู้เหิงรำคาญเป็นอย่างยิ่งฮูหยินซูผู้นี้เกรงว่าจะเสียสติไปแล้วกระมังเมื่อก่อนเขารู้สึกว่าฮูหยินซูเป็นค
หลังจากลู่จิ้นป้อนยาที่มีชื่อว่ามังกรพ่นมุกนี้ให้นาง ก็ได้ทำลายสมดุลนี้ลงครั้นพิษของปลาทรายแดงครีบทองกลายพันธ์ถูกกดลง พิษของยาอีกหนึ่งชนิดก็จะเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันยาพิษบางชนิดมีพิษมากกว่าพิษจากปลาทรายแดงครีบทอง จึงเท่ากับต้องพิษเป็นครั้งที่สองหลังจากสมดุลถูกทำลาย ซูเตี่ยนฉิงย่อมไม่มีชีวิตที่ดีแล้
“เจ้าตาบอดหรือ? มองไม่ออกว่านี่คือตัวหนอนหรือย่างไร? ก็คือตัวหนอนที่กลายเป็นแมลงวันได้อย่างไรเล่า รักษาให้ดี ๆ เถิด” ลู่จิ้นเอ่ยเสียงเย็นซูจิ้นยืนยันคำตอบอยู่ในใจ สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นไม่น่ามองทันทีคนคนหนึ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังจากดื่มยาเข้าไปแล้ว เหตุใดถึงอาเจียนเอาของน่ารังเกียจพรรค์นี้ออกมาได้?
หากมีสุรารสเลิศก็ดียิ่งขึ้นไปอีกฉินเหยี่ยนเย่ว์เองก็คิดจะจากไปโดยไม่สนใจสิ่งใดทว่า...นางเหลือบตามองซูเตี่ยนฉิงที่นอนอยู่บนเตียงปราดหนึ่งจากไปทั้งอย่างนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่สมเหตุสมผลเท่าใดนักจำต้องตอบแทนอะไรบางอย่างกลับไปบ้างถึงจะได้ไม่มาเสียเที่ยว“ศิษย์พี่รอสักครู่นะเจ้าคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูด “
“ผู้ใดให้เจ้าไม่ตั้งใจเรียน ให้เจ้าทำยาคุณภาพต่ำออกมามั่วซั่ว หลายปีนี้เจ้ามัวทำอะไร? สิ่งที่เรียนนั้น เรียนไปที่ตัวสุนัขหมดแล้วหรืออย่างไร?” ลูจิ้นตะคอก“กล้าให้ศิษย์น้องหญิงได้รับความทรมานเช่นนั้น ข้าจะตีเด็กสารเลวอย่างเจ้าให้ตาย”ลู่ซิวถึงได้เข้าใจเป็นท่านบรรพบุรุษรังเกียจยาน้ำคุณภาพต่ำที่เขาทำข
ลู่จิ้นกลับไม่สนใจโดยสิ้นเชิงหัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่นก่อนหน้านี้เขาคิดจะปิดประตูข่มขู่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ให้รักษาฉิงเอ๋อร์ แม้ว่าจะเป็นการไม่เคารพต่อพวกเขาสองคนแต่ก็ไม่มีผู้ใดรู้เห็น ขอเพียงยืนกรานไม่ยอมรับ ก็ไม่มีผู้ใดทำอะไรได้ครั้นลู่จิ้นมาถึง สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปแล้วต่อให้เขามีความกล้ายิ่งใ
ซูจื่ออายุยังน้อย ทนต่อการถูกฟาดได้ครั้นปล่อยให้ลู่จิ้นทุบตีระบายอารมณ์ได้ครู่ใหญ่ ก็เจ็บจนต้องแยกเขี้ยวยิงฟัน หากยืนนิ่งไม่ส่งเสียงใด ๆ ออกมาแม้แต่คำเดียวลู่จิ้นที่ทุบตีจนเหนื่อยแล้วถึงได้ฝืนหยุดตี“ลูกชายของข้า” ฮูหยินซูเห็นท่าทีจมูกช้ำเขียวใบหน้าปูดบวมของซูจื่อ หยาดน้ำตาก็ไหลลงมาเป็นสาย ร้องไห้
นี่สิถึงจะเป็นอาวุธวิเศษในการแสร้งป่วยที่ถูกต้อง“ขอบคุณศิษย์พี่เจ้าค่ะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์รีบกลืนยาเม็ดลงไปทันที“ไม่ต้องเกรงใจ เรื่องของศิษย์น้องหญิงก็คือเรื่องของข้า” รอจนกระทั่งนางกินยา ลู่จิ้นก็จับชีพจรให้นางอีกครั้งเทียบกับชีพจรยุ่งเหยิงเมื่อครู่แล้ว ชีพจรในยามนี้มั่นคงกว่ามาก ศิษย์น้องหญิงก็รู้