Home / รักโบราณ / ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว / ตอนที่8 ต่างก็แอบชำเลืองมอง

Share

ตอนที่8 ต่างก็แอบชำเลืองมอง

last update Huling Na-update: 2025-04-05 00:04:18

กระโปรงปักลายดอกโบตั๋นพลิ้วไหวไปตามจังหวะเยื้องย่าง ทุกกิริยางดงามอ่อนช้อยดังเทพธิดาจันทราสมกับชื่อของนางอย่างแท้จริง

แม้ตามธรรมเนียมสตรีไม่ควรออกมาอวดโฉมให้บุรุษมากมายขนาดนี้พบเห็นก็ตาม แต่ตระกูลเยี่ยนให้บุตรสาวฝึกขี่ม้ายิงธนูอยู่เป็นประจำ ทำให้บางครั้งทหารผู้โชคดีจะได้พบคุณหนูเล็กที่ลานฝึกยุทธ

ทหารองครักษ์ทั้งหลายเมื่อเห็นบุตรสาวผู้งามเลิศล้ำของท่านแม่ทัพใหญ่พาร่างอรชรเดินเข้ามา ต่างก็แอบชำเลืองมองอย่างอดมิได้

ยามนางใช้นิ้วงามดุจลำเทียนขึ้นลูบปิ่นปักผม จนทำให้แขนเสื้อกว้างไหลลงจนแลเห็นแขนขาวเรียวเล็ก เท่านี้ก็เพียงพอให้พวกเขาลืมหายใจ แต่ละคนต่างตะลึงงันจนร่างกายแข็งค้างราวกับรูปปั้นหิน แต่ถึงกระนั้นทหารทั้งหลายต่างไม่กล้าทำกิริยารุ่มร่ามใดมากไปกว่านี้ด้วยรู้ฐานะของตนเป็นอย่างดี

เยี่ยนหยางจงปรายสายตาตามเหล่าบุรุษที่กำลังใจลอย จึงพบกับตัวต้นเหตุที่มาแทรกแซงการฝึก รองแม่ทัพหนุ่มกระแอมดัง ๆ หนึ่งทีเพื่อเรียกสติของผู้ใต้บังคับบัญชากลับมา

“เก็บลูกตาของเจ้าไว้มองภรรยาในอนาคตจะดีกว่า มีสมาธิกันหน่อย มิเช่นนั้นข้าจะส่งพวกเจ้ากลับไปชายแดน” รองแม่ทัพหนุ่มสะบัดแส้หนังลงกับพื้น เสียงเส้นสายสีดำหวีดกรีดอากาศดังพรึบ องครักษ์ทั้งหมดหันขวับกลับมาฝึกตนต่ออย่างขะมักเขม้น ไม่กล้ามองธิดาของท่านแม่ทัพใหญ่อีกแม้แต่แวบเดียว

ผู้เป็นพี่ใหญ่หันไปยิ้มให้น้องสาวคนสวยอย่างอ่อนโยน ท่าทีดุดันเมื่อครู่หายไปสิ้น เหลือเพียงคราบคุณชายที่แสนใจดีและสุภาพ

“ฉีเอ๋อร์ร์มาหาพี่ถึงนี่มีอะไรหรือ” ริมฝีปากของเขาเหยียดออกเผยให้เห็นฟันขาวสะอาด มือแกร่งสะบัดเพียงเล็กน้อยแส้ก็กลับม้วนเก็บเข้าที่ตรงข้างเอวสอบ นัยน์ตาเหยี่ยวที่คมปลาบเมื่อครู่ บัดนี้เหลือเพียงประกายฉายแววรักใคร่เอ็นดู

“พี่ใหญ่ ข้าอยากฝึกยิงธนู” หญิงสาวยังคงมีใบหน้าที่หม่นหมอง

“ได้สิ” ผู้เป็นพี่ชายรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ แต่เขาไม่ใช่คนช่างพูดจึงทำแค่เพียงเดินนำน้องสาวมาอีกด้านหนึ่ง พอถึงที่หมายชายหนุ่มก็ผายมือออกอย่างเชื้อเชิญ “ตามสบายฉีเอ๋อร์ร์ของพี่ เจ้าอยากยิงเท่าไรก็ได้”

“ขอบคุณพี่ใหญ่” นางยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม แล้วเดินไปเลือกคันธนูสำหรับฝึกขึ้นมา หญิงสาวดึงสายที่ถูกขึงตึงสองสามที ลองยกขึ้นลงเพื่อประมาณน้ำหนัก จนพบกับอันที่เหมาะมือ เมื่อนั้นจึงค่อยๆ เยื้องกรายไปยังหน้าเป้าวงกลมขนาดใหญ่ที่อยู่ไกลลิบ

เยี่ยนเยว่ฉีตั้งสมาธิเดินกำลังภายในถ่ายทอดพลัง ลูกเกาทัณฑ์ถูกอาบไว้ด้วยกระแสลมปราณ นัยน์ตาดอกท้อวาวโรจน์ขึ้นหลายส่วน ท่าทางเข้มแข็งจริงจังแลคล้ายกับนักรบสาว นางสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดแล้วกลั้นไว้ชั่วครู่ เมื่อมั่นใจจึงปล่อยลูกศรอันแหลมคมพุ่งตรงออกไป

ปึก! ลูกเกาทัณฑ์ทรงพลังเข้ากลางเป้าสีแดงพอดิบพอดี

“คุณหนูเก่งจังเลยเจ้าค่ะ” ซูจิ้งสาวใช้คนสนิทปรบมือเสียงดังเอ่ยปากชื่นชมนายหญิงไม่หยุด

เยี่ยนเยว่ฉีเผยอรอยยิ้มผ่อนคลายขึ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก้าวเข้ามา รองแม่ทัพหนุ่มเห็นเช่นนั้นก็เบาใจ นางคงอยากหาที่ระบายอารมณ์อัดอั้นอะไรสักอย่าง ท่าทางของเยี่ยนจิ้นหลิงเองก็แปลก ซ้ำเขายังรีบออกจากจวนไปโดยไม่บอกไม่กล่าว

หวังว่าจะไม่เกิดอะไรที่ไม่ดีขึ้นนะ

เยี่ยนหยางจงเฝ้ามองน้องสาวยิงลูกเกาทัณฑ์ดอกแล้วดอกเล่า นัยน์ตาสีนิลดุจราตรีมีประกายวาบขึ้นมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะปกป้องนางอย่างแน่นอน

พอได้ออกกำลังระบายอารมณ์ ดูเหมือนอาการซึมเซาของเยี่ยนเยว่ฉีจะดีขึ้นมาก แต่แล้วก็บ่นกระปอดกระแปดขึ้นมาเมื่อเกิดรู้สึกปวดแขน เยี่ยนหยางจงเห็นดังนั้นก็ใช้มือขยี้ผมน้องสาว พลางกลั้วหัวเราะกับความอ่อนหัดซ้ำยังอ่อนซ้อมของนาง

“ใครใช้ให้เจ้าขี้เกียจฝึก”

“มันเป็นกิจของผู้ชาย เยว่ฉีไม่ได้ชอบเสียหน่อย”

“เจ้าเพียงคร้านเกินไป”

“พี่ใหญ่จะแข่งปักผ้ากับข้าหรือไม่เล่า”

“นั่นมันงานของผู้หญิง”

“ก็ใช่น่ะสิเจ้าคะ เยว่ฉีเป็นสตรีย่อมต้องฝึกงานบ้านงานเรือน เรื่องขี่ม้า ยิงธนูยอดพธูที่ไหนเขาทำกัน”

“มีวิชาติดกาย…”

ดี...กว่า...ไม่มี...” เยี่ยนเยว่ฉีทำเสียงยานล้อเลียนแทรกขึ้น

“ถูกต้อง” เยี่ยนหยางจงกลั้วหัวเราะ น้องสาวของเขาช่างขี้เล่น

“คอยดูเถิด ข้าขอแช่งให้พี่ใหญ่ต้องแต่งงานกับสตรีที่ทำอะไรพวกนี้ไม่เป็นสักอย่าง”

“ไม่มีทาง ฮูหยินของข้าต้องสวยและเก่ง พาไปขี่ม้าล่าสัตว์เป็นเพื่อนได้ ที่สำคัญรสมือของนางต้องดี พี่ไม่มีทางเลือกสตรีแบบเจ้าว่ามาเด็ดขาด”

“มิน่า อายุก็ปาเข้าไปยี่สิบสามยังหาภรรยาไม่ได้สักที ท่านเลือกมากถึงเพียงนี้ระวังไว้เถิดจะได้สตรีแบบที่เยว่ฉีว่า”

“ปากคอเราะร้าย พี่จะบอกท่านแม่ กุลสตรีอะไรกัน นี่มันภาพลวงตาชัด ๆ”

“หึ! ตกลงพวกท่านอยากให้ข้าเป็นอย่างไรกันแน่ กุลสตรีหรือหญิงที่เด็ดเดี่ยวมั่นใจไม่กลัวผู้ใด”

“ข้ารู้ว่าเจ้าดูสถานการณ์เป็นย่อมรู้จักเอาตัวรอด ใช่หรือไม่เล่า แม่จิ้งจอกน้อยของพี่” เยี่ยนหยางจงกระเซ้า น้องรองของเขาตัวติดกับเยี่ยนเยว่ฉีมาก ย่อมต้องสอนเล่ห์กลให้นางไปไม่น้อย

“จะถือว่าพี่ใหญ่กำลังชมเยว่ฉีอยู่ก็แล้วกัน” นางเอียงศีรษะจนปิ่นลายดอกโบตั๋นสั่นไหว พยายามทำหน้าตาไร้เดียงสาใส่พี่ชายคนโต

“ย่อมเป็นเช่นนั้น น้องสาวของพี่ต้องไม่ถูกผู้ใดรังแก หากออกเรือนไปก็ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว อนุหน้าไหนจะหาญกล้ามาเหยียบหัว เจ้าต้องจัดการสตรีเหล่านั้นจนหมอบกระแตอย่างแน่นอน”

“ท่านพี่กล่าวหนักไปแล้ว ข้าก็ไม่มีทางยิงธนูใส่พวกนางแน่”

“อืม...แต่เจ้าอาจจะทำอะไรที่ร้ายกาจมากกว่านั้น” เยี่ยนหยางจงหัวเราะเสียงดังสนั่น คิดภาพน้องสาวตัวเองกำลังทรมานผู้อื่น

เยี่ยนเยว่ฉีป้องปากหัวเราะน้อย ๆ ริมฝีปากสีแดงระเรื่อขยับขึ้นลงดูน่าหลงใหล เหล่าทหารที่ได้ยินจังหวะเสนาะหูพากันหันมามองนางอีกครา เทพธิดาช่างอยู่แสนไกล แต่เสียงใสราวกับระฆังแก้วของนางนั้นช่วยปลอบประโลมหัวใจที่แห้งแล้งให้กลับมามีชีวิตชีวา

เยี่ยนหยางจงกัดฟันจนเส้นเลือดที่ขมับปูดโปน ผู้ใต้บังคับบัญชาพวกนี้ท่าทางจะใช้การไม่ได้ หากข้าศึกส่งสาวงามมาหลอกล่อดูท่าคงต้องปราชัย สงสัยต้องฝึกพิเศษกันเสียแล้ว

รองแม้ทัพหนุ่มคำรามกึกก้องก่อนจะรีบเข้าไปบอกบทลงโทษ เมื่อเหล่าองครักษ์ทั้งหลายได้ฟังสีหน้าก็พลันซีดเผือด

ส่วนเยี่ยนเยว่ฉีไม่คิดอยู่รอดูความครื้นเครง พาร่างในอาภรณ์สีฟ้าจากไปทางเรือนพักอย่างอารมณ์ดี

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่9 พานพบสตรี...ผู้นำความยุ่งยากมาให้

    ปลายเหมันตฤดูอากาศอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ ดอกเหมยงดงามหลากสีในอุทยานหลวงบานสะพรั่ง แต่ยังคงเห็นน้ำแข็งจับค้างบนกิ่งก้านเปล่งประกายระยิบระยับช่วงนี้ของปีวังหลวงจะมักจัดงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาเยือน ฮ่องเต้จะใช้โอกาสนี้ทรงมอบรางวัลแด่ขุนนางที่มีความดีความชอบ ส่วนขุนนางคนใดมีบุตรสาวโฉมงามแรกรุ่น ก็ล้วนพากันมาแสดงความสามารถต่อหน้าพระพักตร์ด้วยหวังว่าพวกนางจะถูกตาต้องใจฮ่องเต้ แล้วได้รับโอกาสแต่งตั้งเป็นพระสนม ในภายภาคหน้าหากนางโชคดีได้รับความโปรดปรานจากโอรสสวรรค์จนให้กำเนิดองค์ชาย ตระกูลของพวกเขาย่อมจะได้รับความมั่งคั่งและมั่นคงไปตลอดชีวิตแต่หลายปีที่ผ่านมาไม่รู้ว่าฮ่องเต้มู่เหวินหลงทรงคิดอะไรอยู่ นอกจากจะไม่รับพระสนมเพิ่มแล้วกลับพระราชทานสมรสให้หนุ่มสาวไปหลายคู่ ทั้งขุนนาง ทายาทตระกูลใหญ่ กระทั่งเชื้อพระวงศ์ก็ไม่ได้รับการยกเว้นส่วนเชื้อพระวงศ์ที่ได้รับเกียรตินี้สองปีซ้อนคงไม่พ้นฉินอ๋อง ที่ได้ชายารองโฉมงามถึงสามนางเฉิงจื่อหรู บุตรสาวเสนาบดีกรมพระคลัง ลู่เหมยหลงและลู่เหมยหลิน บุตรสาวฝาแฝดของเจ้ากรมอาญาอย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทำร้ายจิตใจบรรดาคุณชายทั้งหลายอย่างมาก เพราะโฉมง

    Huling Na-update : 2025-04-05
  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่10 ลองสู้ดูสักตั้ง

    “อะแฮ่ม!” มู่เลี่ยงหรงกระแอม พร้อมก้าวเดินออกมาจากข้างต้นหลิว“ว้าย...” นางตกใจหันมาทันทีภาพที่เยี่ยนเย่วฉีเห็นคือบุรุษลึกลับในชุดคลุมสีดำหรูหรา เขาดูสูงส่งและเย็นชา ทว่าทันทีที่สบตาก็รู้สึกว่าหัวใจของตนเต้นระรัว สีแดงค่อย ๆ ไล่ฉาบไปบนใบหน้านวล นางรู้สึกขวยอายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ขออภัยด้วยที่ทำให้คุณหนูท่านนี้ตกใจ” มู่เลี่ยงหรงยืนเอามือไพล่หลังไว้ ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ดวงตาเข้มลึกจ้องมองสตรีเบื้องหน้า ริมฝีปากบางเหยียดตรง“มิได้ ผู้น้อยต่างหากต้องขออภัยใต้เท้า เสียมารยาทแล้ว เป็นเพราะผู้น้อยไม่ทราบว่าท่านยืนพักผ่อนอยู่ตรงนี้” นางยอบกายลงขอขมาด้วยท่วงท่าอันอ่อนช้อย“ไม่เป็นไร เราเองก็ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว” มู่เลี่ยงหรงส่งยิ้มเย็นยะเยือก สีหน้าบ่งบอกว่าเขาได้ยินทุกอย่าง “คุณหนูท่านนี้คงลืมกระมังว่าเวลานี้เจ้ากำลังยืนอยู่ที่ใด”ชายหนุ่มดูน่ากลัวขึ้นอีกหลายส่วน เมื่อรอยยิ้มในตอนแรกหายไป“ใต้เท้าพูดเรื่องอันใด ผู้น้อยไม่เข้าใจเจ้าค่ะ” เยี่ยนเยว่ฉีปรายตาขึ้นสบกับบุรุษที่ยืนอยู่เบื้องหน้า คิ้วงามขมวดเล็กน้อย ในเมื่อไม่ได้ทำสิ่งใดผิดไยเขาต้องทำราวกับนางกระทำเรื่องไม่สมควร“ข้

    Huling Na-update : 2025-04-05
  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่11 คิดในใจ

    ‘ข้าจะได้รู้เสียทีว่าท่านเป็นใคร’ เยี่ยนเยว่ฉีลอบคิดในใจเช่นกัน“นามข้าคือ มู่-เลี่ยง-หรง” เขาบอกนางช้า ๆ ชัด ๆ ทุกคำพูด แอบซ่อนความขบขันยามเห็นใบหน้าคนงามกำลังซีดเผือด‘นางคงพอรู้เลา ๆ อยู่บ้างกระมัง’“ทะ...ท่านคงมิใช่ฉินอ๋อง” นางถามขอความมั่นใจด้วยเสียงอันสั่น ในใจก็ได้แต่ภาวนา เพราะหากเป็นท่านอ๋องผู้ได้ชื่อว่าเข้มงวดเป็นที่สุดผู้นั้น แผนสาวงามอาจจะไม่ได้ผล ยิ่งเขาเข้าใจผิดเช่นนี้นางอาจจะไม่รอดชีวิตแล้ว“คุณหนูเยี่ยน เจ้าเข้าใจถูกต้องแล้ว” มู่เลี่ยงหรงดูเหมือนขุนเขาตระหง่านขึ้นมาทันที รัศมีสูงศักดิ์ยิ่งเจิดจ้าจนหญิงสาวหายใจแทบไม่ออกท่านอ๋องสังเกตอากัปกิริยาของหญิงสาวอยู่ครู่หนึ่ง บัดนี้ใบหน้านางซีดลงกว่าเดิม น้ำตาไหลอาบแก้มสีชมพู นางสะอื้นฮักอยู่เงียบ ๆ ราวกับกำลังยอมรับชะตากรรม แต่เขาไม่อยากให้ว่าที่หวางเฟยของตนเองเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน‘ข้าคงแกล้งนางหนักเกินไปเสียแล้ว’“คุณหนูเยี่ยนลุกขึ้นเถิด ข้าจะละเว้นบุตรสาวท่านไคกั๋วกงสักครั้ง แต่จะคาดโทษเอาไว้ก่อน อย่าลืมว่าเจ้าต้องตอบแทนความเมตตาของข้าด้วย” น่าสนุก ท่านอ๋องหนุ่มปั้นหน้าเคร่งขรึมเก็บซ่อนอาการยินดี“ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ” นา

    Huling Na-update : 2025-04-05
  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่12 เริ่มงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยแผนการ 1

    เลี่ยงหรงเร่งฝีเท้าเพื่อไปให้ถึงงานเลี้ยงโดยเร็วที่สุด เขาต้องการพบอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายก่อนที่ฮ่องเต้จะเสด็จมาถึง พอขันทีน้อยผู้ทำหน้าที่นำทางในงานเห็นพระอนุชาก็รีบกุลีกุจอเชิญผู้สูงศักดิ์ไปยังที่นั่งในกระโจมทันทีด้วยบรรดาศักดิ์ชินอ๋อง[1] ที่นั่งของมู่เลี่ยงหรงจึงถูกจัดให้อยู่ลำดับแรกในหมู่เชื้อพระวงศ์ฝ่ายชายถัดจากที่ประทับของฮ่องเต้ ทำให้เห็นได้ชัดว่าพระองค์ทรงใส่พระทัยพระอนุชาคนโปรดเป็นอย่างยิ่งเริ่มตั้งแต่ มู่เลี่ยงหรงอายุสิบสองชันษาก็แสดงให้เห็นชัดถึงความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊ เริ่มอุทิศแรงกายแรงใจแบ่งเบาราชกิจ อ๋องน้อยมีวิริยะอุตสาหะเป็นอย่างมากจนเป็นที่รู้กันถึงความซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา เพียงไม่นานผลงานก็ประจักษ์ไร้ข้อกังขา บรรดาขุนนางทั้งหลายต่างยกย่องเชิดชูอย่างไม่มีข้อโต้แย้งเวลาผ่านไปไวราวกับติดปีก ท่านอ๋องน้อยเติบใหญ่เป็นบุรุษองอาจ ฮ่องเต้ทรงไว้วางพระทัยจึงแต่งตั้งมู่เลี่ยงหรงเป็นฉินอ๋อง พร้อมให้ดำรงตำแหน่งผู้แทนพระองค์อยู่มิได้ขาด ส่วนหน้าที่หลักคือการตรวจสอบเชื้อพระวงศ์และขุนนางในราชสำนักนับได้ว่าอยู่ใต้ผู้หนึ่ง แต่อยู่เหนือคนนับพันด้วยบุคลิกจริงจังเคร่งขรึม กอปรกับควา

    Huling Na-update : 2025-04-07
  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่13 เริ่มงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยแผนการ 2

    “กระหม่อมยินดีรับใช้ท่านอ๋อง เพื่อฝ่าบาทและบ้านเมือง ซือเซินจะรีบไปดำเนินการตามที่ท่านอ๋องรับสั่งทันทีพ่ะย่ะค่ะ”“ดีมากซือเซิน ในราชสำนักมีไม่กี่คนที่เราไว้ใจ และหนึ่งในนั้นก็คือเจ้า”“นั่นเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว ข้าออกจะรู้ใจท่านอ๋อง” ถางซือเซินยิ้มกว้าง‘เชอะ! เอาความดีใส่ตัวได้ในที่สุด สมเป็นขุนนางเสียจริง’ อ๋องหนุ่มลอบด่าพระสหายในใจอย่างอดมิได้มู่เลี่ยงหรงวางใจคลายโทสะ ปรับสีหน้าเป็นนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาหยักมุมปากขึ้นเล็กน้อย บรรยากาศระหว่างคนทั้งสองกลับมาสมานฉันท์ดุจเดิมอีกครั้ง“อ่อ เรายังมีอีกเรื่องหนึ่งให้เจ้าไปจัดการ จงส่งจดหมายไปให้เยี่ยนเยว่ฉี บอกกับนางว่า หากอยากได้ขลุ่ยหยกคืน จงไปที่อุทยานตะวันออก”“แต่ว่างานเลี้ยงใกล้จะเริ่มแล้ว”“ก่อนที่นางจะขึ้นแสดง เรามีเรื่องที่ต้องตรวจสอบด้วยตนเอง เจ้าไปจัดการให้เรียบร้อยก็พอ”“ท่านอ๋องโปรดวางใจ ซือเซินจะไปจัดการเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”ทั้งสองเดินกลับเข้าไปนั่งประจำที่ของตนเองในกระโจมจัดงานอย่างไม่รีบไม่ร้อน ต่างคนต่างรู้สึกยินดีที่แผนการทั้งหลายเป็นไปตามที่ต้องการแต่นาทีนี้คงไม่มีใครมีความสุขเท่าอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย นอกจาก

    Huling Na-update : 2025-04-07
  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่14. ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ามาเอาขลุ่ยคืน

    เยี่ยนเยว่ฉีมองไปรอบถ้ำใต้น้ำตกจำลองซึ่งถูกสร้างขึ้นอย่างสวยงาม มีทางเดินทอดยาวสู่พื้นหินที่ยกสูงขึ้นเสมือนเป็นเกาะกลางน้ำ ด้านบนมีตั่งหินและโต๊ะสำหรับวางขนมกับน้ำชา นี่คงเป็นสถานที่สำหรับนั่งพักผ่อนขณะเดินเล่นภายในสวนเสียงน้ำตกจากภายนอกไม่ได้ดังรบกวนอย่างที่คิด ถ้าสังเกตให้ดี ถ้ำนี้ถูกออกแบบมาให้ระบายอากาศและยังมีช่องรับแสงสว่างอีกด้วยดวงอาทิตย์สาดส่องลำแสงอันอบอุ่นเข้ามาภายในถ้ำ ต้องกระทบผิวน้ำปรากฏเป็นเงาระยิบระยับงดงามพลิ้วไหวมู่เลี่ยงหรงยืนหันหลัง ในมือถือขลุ่ยหยกของนางเอาไว้เนื่องจากเยี่ยนเยว่ฉีมีพี่ชายรูปงามราวเทพเซียนอย่างเยี่ยนจิ้นหลิง มาตรฐานบุรุษในใจของนางจึงสูงตามไปด้วย ในระหว่างที่ย่างเท้าไปตามทางเดินหินหญิงสาวจึงอดลอบพิจารณาบุรุษเบื้องหน้าไม่ได้ฉินอ๋องสูงส่งสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาเหมือนถูกสลักมาอย่างละเอียดลออ ถึงแม้จะดูเย็นชาอยู่บ้าง แต่กลับทำให้โฉมสะคราญประหม่าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับเขาเพียงลำพังหัวใจดวงน้อยพลันเต้นระรัวยิ่งเดินเข้าไปใกล้ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำมากขึ้นเท่าใด มือของนางก็เย็นเฉียบขึ้นทุกขณะหญิงสาวทั้งตื่นเต้นระคนหวาดหวั่นในหัวใจ

    Huling Na-update : 2025-04-07
  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่15 สู่อ้อมแขน

    ครั้นมู่เลี่ยงหรงสังเกตเห็นสตรีตรงหน้าเกิดอาการผิดปกติเขาจึงหยุดเป่าขลุ่ยทันที ร่างสูงปราดเข้าไปรับร่างบางสู่อ้อมแขนได้ทันท่วงทีเขาไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุใดหญิงสาวถึงได้หมดเรี่ยวแรง จึงได้แต่ประคองนางไว้ในอ้อมแขน แล้วใช้อีกมือหนึ่งลูบแก้มนวลอย่างห่วงใยร่างงามนุ่มนิ่มหอมกรุ่นอ่อนระทวยพิงอกแกร่ง ใบหน้านางแดงเรื่อจนถึงใบหู เสียงหายใจหอบกระชั้นดังชัดเจน นัยน์ตาฉ่ำปรือ ริมฝีปากสีแดงสดเผยอออกเล็กน้อยราวกับกำลังเชื้อเชิญให้เขาเข้าครอบครองผ่านไปครู่หนึ่งนางยังคงเหมือนคนไร้สติสิ้นเรี่ยวแรง ชายหนุ่มจึงตวัดแขนอุ้มร่างขึ้นแนบกาย เขาพาหญิงสาวไปยังตั่งหินแล้วนั่งลง ส่งผลให้ยามนี้เยี่ยนเยว่ฉีนั่งอยู่บนตักแกร่ง มู่เลี่ยงหรงจดจ้องโฉมสะคราญในอ้อมแขนอย่างไม่วางตา กิริยาช่างยั่วยวนชวนให้เขาตกตะลึง ต้องลอบกลืนน้ำลายด้วยรู้สึกว่าคอนั้นแห้งผาก‘นางกำลังเชิญชวนข้าอยู่อย่างนั้นหรือ’เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยินดีอยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างเต็มใจ เขาก็ไม่สามารถควบคุมตนเองได้อีก ความสุขุมเยือกเย็นที่เคยมีพลันสลายไปจนสิ้น ในที่สุดเขาจรดริมฝีปากแนบปากอันอวบอิ่มลิ้นร้อนตวัดไล้เลียกลีบปากสีกุหลาบอย่างแผ่วเบา จากนั

    Huling Na-update : 2025-04-07
  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่16    ‘นางชอบข้างั้นรึ’

    ครั้นนึกถึงยามพบกันที่ใต้ต้นหลิว บุตรสาวท่านกั๋วกงก็ไม่มีท่าทีอยากจะกระโจนสู่อ้อมอกของเขาเสียหน่อย แต่ก็เป็นไปได้ว่าเยี่ยนเยว่ฉีอาจจะเขินอายเมื่อมีคนอื่นอยู่ด้วย หรือไม่นางอาจจะประทับใจบทเพลงรักนกยวนยางกระมังเพราะเมื่อครู่เขาเองก็พยายามส่งกระแสความรู้สึกอันท่วมท้นไปถึงนาง ‘นางชอบข้างั้นรึ’เขาคิดเข้าข้างตัวเอง ยิ่งหวนนึกถึงสายตาหวานหยาดเยิ้มที่นางส่งให้ที่ใต้ต้นหลิวจึงทำให้รู้สึกมั่นใจขึ้นหลายส่วนหากนางพึงใจในตัวเขาเช่นกัน การแต่งงานย่อมเกิดจากความเต็มใจ เท่ากับไม่ต้องบังคับขู่เข็นใครทั้งสิ้น รอยยิ้มอย่างหาได้ยากจึงปรากฏบนใบหน้าของฉินอ๋อง“เสี่ยวเยว่...เจ้าชอบเพลงรักของเรามากหรือ” มู่เลี่ยงหรงกระซิบถามนางพร้อมเรียกขานด้วยชื่อ แอบหวังว่านางจะมีใจให้ดั่งที่เขาคิด“ทะ...ท่านอ๋องเล่นได้ดีจนหม่อมฉันตกใจ ไม่คิดว่าคนที่เพิ่งจับขลุ่ยพลิ้วพรายครั้งแรกจะเป่าเป็นเพลงที่...ที่…” เยี่ยนเยว่ฉีนิ่งเงียบ นางไม่กล้าบอกชายหนุ่มว่าพอได้ฟังเพลงของเขาก็เกิดความรู้สึกหวามไหวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก จนปล่อยตัวปล่อยใจให้ท่านอ๋องเชยชิมริมฝีปากและต้องตกอยู่ในอ้อมกอดของบุรุษตัวโตอย่างเช่นในยามนี้นางไม

    Huling Na-update : 2025-04-07

Pinakabagong kabanata

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่50. หากจะลงโทษนาง

    “เยี่ยนเยว่ฉีอย่ามาเฉไฉ! คอยดูให้ดีเถิดว่าเราจะลงโทษเจ้าอย่างไร” มู่เลี่ยงหรงตีหน้าเคร่งขรึมเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริง เขาไม่มีทางยอมรับว่าทำเรื่องไร้มารยาทเป็นอันขาดเฟิงหลี่จื้อได้ยินดังนั้นก็ตกใจ ไม่คิดว่าฉินอ๋องจะบันดาลโทสะถึงขั้นจะลงไม้ลงมือกับหญิงสาว อย่างไรเสียก็เป็นชายชาตินักรบและตนเองก็คือต้นเหตุในเรื่องนี้ เขาจึงหวังไกล่เกลี่ยเพื่อไม่ให้ท่านอ๋องทำร้ายสตรีที่ตนมีใจ“เรียนท่านอ๋อง หากจะลงโทษนาง กระหม่อมยินดีจะเป็นผู้รับโทษแทน” แทนที่สถานการณ์จะดีขึ้น แต่คำพูดประโยคนี้กลับเหมือนดั่งการน้ำมันราดลงบนกองไฟ ยามนี้ฉินอ๋องอยากจะสับเขาเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วโยนลงแม่น้ำเสียให้รู้แล้วรู้รอดมู่เลี่ยงหรงหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับบุรุษผู้บังอาจแตะต้องสตรีของตนอีกครั้ง น้ำแข็งเริ่มจับตัวหนาขึ้นในแววตา อากาศเย็นสบายกลายเป็นหนาวจับจิตจนเฟิงหลี่จื้อขนลุกขึ้นมาจริง ๆ“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า ทางที่ดีสงบปากสงบคำเอาไว้ดีกว่า”“ทั้งหมดเป็นความผิดของกระหม่อมที่ละเลยเรื่องชายหญิงไม่ควรชิดใกล้”“เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ เปิ่นหวางจะให้โอกาสเจ้ากลับไปอย่างไม่บุบสลาย” มู่เลี่ยงหรงไม่ได้สนใจเหตุผล

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่49 ไม่ได้ทำผิดอันใด

    “กระหม่อมคงรับไม่ไหว ท่านอ๋องไม่ได้ทำผิดอันใดไม่ต้องกล่าวเช่นนั้นกับซือเซิน” อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายตกใจ ด้วยสถานะสูงส่ง ฉินอ๋องไม่มีความจำเป็นจะต้องลดตัวลงมากล่าวคำขออภัยเขา“ข้าไม่ได้ตั้งใจ”“ซือเซินรู้...” อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายเงยหน้าขึ้น ส่งยิ้มเพื่อคลายความกังวลใจให้สหายสูงศักดิ์หลังจากปรับอารมณ์ความรู้สึกกับถางซือเซินเรียบร้อยแล้ว มู่เลี่ยงหรงจึงหันกลับไปยังโต๊ะของตระกูลเยี่ยนอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่เห็นเงาร่างของเยี่ยนเยว่ฉีกับเฟิงหลี่จื้อเสียแล้ว แม้สังเกตดี ๆ เยี่ยนจิ้นหลิงจะหายไปด้วยก็ตามความกระวนกระวายแทรกซึมเข้ามาอย่างเฉียบพลัน เขาไม่อาจวางใจอะไรได้ทั้งสิ้น ด้วยรอยยิ้มงดงามเป็นธรรมชาติที่นางมอบให้ชายคนนั้นเป็นแบบที่ไม่เคยมีให้กับตนเองไฟริษยายังคงตอกย้ำในจิตใจ อ๋องหนุ่มรีบลุกขึ้นแล้วสาวเท้าออกไปเพื่อตามหาคู่หมั้นในทันทีเยี่ยนจิ้นหลิงเดินนำน้องสาวกับเฟิงหลี่จื้อไปบนดาดฟ้า เขาชวนทั้งสองพูดคุยตลอดทาง ในที่สุดก็พามาหยุดยืนอยู่บริเวณด้านหลังของเรือ แต่แล้วบุรุษผมสีเงินก็อ้างว่าลืมวางพัดไม้หอมไว้บนโต๊ะ จึงขอตัวกลับไปเอา แล้วบอกให้คนทั้งสองรอเขาอยู่ที่นี่ก่อนเมื่อกุนซือหนุ่มเดินจากไป

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่48 มีโทสะ

    มู่เลี่ยงหรงคิดว่า ยิ่งอยู่ตรงนี้ก็ยิ่งมีโทสะ การจากไปตั้งหลักน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด ท่านอ๋องหนุ่มจึงพยายามเก็บงำอาการ ก่อนจะเดินนำถางซือเซียนกับอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายไปทางห้องโถงอย่างมิรั้งรอ เพราะไม่ต้องการเห็นภาพบาดตานี้อีกแม้แต่ชั่วเค่อเยี่ยนจิ้นหลิงอัศจรรย์ใจไม่น้อยที่ฉินอ๋องเก็บกักอารมณ์ได้ดีเยี่ยม แต่สายตากรุ่นโกรธนั่นไม่อาจเล็ดลอดสายตาจิ้งจอกไปได้‘ตีเหล็กก็ต้องตีตอนร้อนสิ ถึงจะได้ผลลัพธ์ชั้นดี ฉินอ๋องท่านคิดว่าแค่นี้จะหนีพ้นหรือ นี่มันบนเรือนะ’“เอาล่ะ ได้เวลาอาหารค่ำแล้ว พวกเราไปกินข้าวกันก่อนดีกว่า” เยี่ยนจิ้นหลิงเอ่ยชวน“ดีเหมือนกัน น้องสาวก็รู้สึกหิวแล้ว”“หลี่จื้อ เจ้ามาร่วมโต๊ะกับพวกข้าสิ ท่านแม่ทัพเฟิงคงไม่ว่ากระไรหรอก” เยี่ยนจิ้นหลิงเอ่ยชวน“หากไม่รังเกียจ หลี่จื้อขอรบกวนแล้ว”จิ้งจอกเงินปรายยิ้มเล็กน้อย ก็เดินนำสหายเก่ากับน้องสาวแสนสวยไปยังห้องโถงใหญ่เพื่อร่วมรับประทานอาหารตลอดเส้นทางเฟิงหลี่จื้อคอยปรายตามองเยี่ยนเยว่ฉีอยู่บ่อยครั้งเนื่องจากไม่ใช่งานเลี้ยง ที่นั่งจึงถูกจัดวางไว้สำหรับแต่ละครอบครัวเป็นสัดส่วน ขณะที่ฮ่องเต้กับฮองเฮานั้นทรงประทับอยู่ในห้องแยกที่มีม่า

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่47 จะดีหรือ

    แม้คุณหนูถางผู้นั้นจะไม่มีวาสนาต่อฉินอ๋องก็ตาม แต่สตรีนางใดเล่าจะทนเห็นสตรีอื่นคอยเดินตามบุรุษของตนราวกับเงาได้ แต่เมื่อพี่ชายคนโปรดยืนยันว่าจะเป็นคนจัดการหญิงน่าตายผู้นั้นด้วยตนเอง นางก็จะไม่ก้าวก่ายเยี่ยนเยว่ฉีจึงตัดสินใจวกกลับมาสนทนาต่อด้วยเรื่องที่ยังค้างคา“แล้วน้องจะรู้หัวใจของฉินอ๋องได้อย่างไร” “เรื่องนั้นง่ายมาก เพียงต้องเกาให้ถูกที่คัน” บุรุษผมสีเงินเผยแววตาเจ้าเล่ห์แสนกล“ขอจิ้งจอกสีเงินแห่งแคว้นชี้แนะข้าน้อยด้วย” เยี่ยนเยว่ฉียิ้มตอบจนตาหยีเยี่ยนจิ้นหลิงขยับเข้าไปใกลแล้วกระซิบกระซาบสองสามประโยค นางทำตาโต ตกใจไม่น้อย“จะดีหรือพี่รอง”“ย่อมดี เขาทำให้เจ้าสำลักน้ำส้มเกือบร้อยไหได้แล้วกระมัง แล้วทำไมจะเอาคืนบ้างมิได้”“ข้ากลัวท่านอ๋องจะมีโทสะน่ะสิ เขาอาจหาทางลงโทษผู้อื่นอย่างหนักก็ได้”“ถ้ากลัวก็ไม่ต้อง แต่หากอยากรู้เจ้าก็ต้องเสี่ยง” เยี่ยนจิ้นหลิงโบกพัดในมือ “เจ้าควรจะหวั่นใจว่า ฉินอ๋องจะไร้โทสะเสียมากกว่า เพราะหากเป็นเช่นนั้น เจ้าคงรู้ตัวกระมังว่าน้ำหนักของเจ้าในใจของเขามัน...เบาเพียงใด”“ฉีเอ๋อร์ต้องการรู้ว่าตนเองอยู่ส่วนไหนในใจเขา ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไรก็ตาม”“หืม...ตก

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่46 เหลวไหล

    “ย่อมไม่ใช่เช่นนั้น แต่หากเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับคำทำนาย รวมไปถึงคำเตือนเล็ก ๆ น้อย ๆ คนในตระกูลล้วนต้องให้ความสำคัญกับคำพูดของพี่รอง มิเช่นนั้นอาจจะต้องเสียใจในภายหลัง”“เหลวไหล!”“ท่านอ๋องโปรดอย่าดูเบา พี่ชายของหม่อมฉันไม่เคยผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียว”“หึ! งั้นข้าขอถาม เคยมีคนไม่เชื่อเขาบ้างหรือไม่”“ย่อมมีอยู่แล้วเพคะ”“แล้วคนเหล่านั้นเป็นอย่างไร”“บ้างก็ประสบปัญหาหนัก พิกลพิการ แต่ส่วนใหญ่ล้วนตายไปหมดแล้ว”“...” มู่เลี่ยงหรงถึงกับสะอึก“เชื่อหม่อมฉันเถิดเพคะ พวกเรามิบังอาจลบลู่ฝ่าบาทกับท่านอ๋องอย่างแน่นอน” เยี่ยนเยว่ฉีอ้อนวอนด้วยท่าทางของสตรีอ่อนแอน่าสงสาร“ได้! ในเมื่อพูดมาขนาดนี้แล้ว เราจะเชื่อคำเจ้าก็แล้วกัน” พอเห็นนางทำหน้าเศร้าจิตใจของเขาก็ไหววูบ ไม่อาจถือโทษนางได้อีก มิหนำซ้ำยังอยากจะโอบกอดปลอบประโลมยิ่งนัก“หากท่านอ๋องเมตตา ได้โปรดรอเยว่ฉีนะเพคะ” นัยน์ตาหวานล้ำกับน้ำเสียงอันออดอ้อนของนางทำให้มู่เลี่ยงหรงหูแดงซ่าน เลือดในกายของเขากำลังเดือดพล่าน ต้องควบคุมสติระงับไม่ให้รีบร้อนครอบครองริมฝีปากสีกลีบกุหลาบอันแสนจะยั่วยวนเสียตอนนี้“อย่าปล่อยให้เรารอนานเกินไปเล่าพระจันทร์ดวงน้อย”

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่45

    ส่วนจ้าวจวิ้นอ๋องก็ดูพึงใจในตัวถางซือเซียนเป็นอย่างมาก ดรุณีน้อยเองก็มีท่าทีเขินอายเมื่อชายหนุ่มส่งสายตาลึกซึ้งไปให้ บุตรสาวแม่ทัพใหญ่จึงรู้สึกแปลกใจ ตกลงแล้วสตรีผู้นั้นชอบพอผู้ใดกันแน่ แต่หากนางหมายจะเปลี่ยนกิ่งไม้สูง นั่นย่อมเป็นผลดีกับตนเองมิใช่หรือการสนทนาผ่านไปสักครู่หนึ่ง มู่เลี่ยงหรงเริ่มรำคาญจ้าวกุ้ยอินเป็นกำลัง และเหมือนเยี่ยนเยว่ฉีจะไม่ได้รู้สึกอยากกินน้ำส้มยามท่านหญิงพูดคุยกับเขา ดูท่าคู่หมั้นคนงามจะรู้จักการมองสีหน้าผู้คนอยู่บ้าง ในเมื่อไม่มีประโยชน์ตนก็คร้านที่จะสนทนากับสองพี่น้องตระกูลจ้าวต่อไป“แดดเริ่มแรงแล้ว เปิ่นหวางคงต้องขอตัวพาคู่หมั้นกับเซียนเอ๋อร์กลับไปพักผ่อน เกรงว่าพวกนางจะไม่สบายได้”“ก็ให้พวกนางกลับไปเองสิ อินอินไม่ได้เจอเลี่ยงหรงเกอเกอตั้งนาน มีเรื่องอยากจะพูดคุยอีกมากมาย”“เปิ่นหวางต้องไปหารือเรื่องงานราชการกับพระเชษฐาอีก”“แต่ว่า...” จ้าวกุ้ยอินพยายามคัดค้าน“เปิ่นหวางขอตัว” ใบหน้าหล่อเหลาราวรูปสลักดูเย็นชาห่างเหินอย่างยิ่ง มู่เลี่ยงหรงพยักหน้าให้จ้าวจวิ้นอ๋องเล็กน้อย จากนั้นจึงสาวเท้าเดินจากไปทันที ถางซือเซียนกับเยี่ยนเยว่ฉีจึงรีบยอบกายเป็นเชิงอำลาจวิ้นอ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่44 อย่าทำเป็นเล่นไป

    “ข้าแค่อยากรู้ว่าหากมีคู่แข่งที่เหมาะสม นางจะต่อสู้กับสตรีอื่นเพื่อข้าหรือไม่ก็เท่านั้น” อ๋องหนุ่มแสดงท่าทีมีความสุขกับคู่สนทนา “แต่ที่แน่ ๆ เป็นนางกับพี่ชายสมควรตายผู้นั้นที่เริ่มเรื่องนี้ก่อนต่างหาก ข้าเพียงร่วมสนุกกับพวกเขา ในเมื่อพี่น้องตระกูลเยี่ยนมีเล่ห์เหลี่ยมมากนัก เหตุใดข้าจะหาความครึกครื้นบ้างไม่ได้เล่าเซียนเอ๋อร์”“เลี่ยงหรงเกอเกอ...ท่านอย่าทำเป็นเล่นไป”“นี่เจ้าคิดว่าข้าเพียงเล่นสนุกจริง ๆ อย่างนั้นสิ”“มิได้เพคะ เพียงแต่ผู้อื่นไม่เห็นประโยชน์ที่ท่านจะทำเรื่องให้มันยุ่งยากขึ้นไปอีก”“คู่หมั้นคนงามเอาแต่บอกว่าให้รอ แต่ถ้าหากข้าสร้างแรงกระตุ้นเสียหน่อย อาจจะทำให้นางมีความเคลื่อนไหวบ้าง”“ท่านเคยคิดบ้างหรือไม่ว่านางอาจจะมีเหตุผลก็ได้ ดูท่าทีของนางอย่างไรก็มีใจให้ท่านไม่ผิด เพียงแต่ซือเซียนก็มิอาจเข้าใจสาเหตุนั้นได้เช่นกัน”“ขนาดเจ้ายังไม่มั่นใจ แล้วจะให้ข้าปักใจเชื่อเหตุผลไร้สาระนั่นได้ลงคออย่างนั้นหรือ”“แต่ผู้อื่นก็ไม่เห็นว่าเรื่องที่กำลังทำอยู่นี้น่าสนุกที่ตรงไหน เคลื่อนไหวเช่นนี้ มิสู้อยู่เฉย ๆ ไปเลยดีกว่า”“ผิดแล้วนางฟ้าน้อย หากข้านิ่งเฉยนั่นต่างหากที่ทรยศความรู้สึกตัวเอ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่43 ดูเหมือนเจ้ากำลังหึงข้าอยู่

    ย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิอย่างสมบูรณ์ มองไปทางไหนก็เห็นสีสันของเหล่าต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์แข่งกันผลิบานล่อหลอกหมู่ภมร ตลอดช่วงฤดูนี้เหมาะแก่การท่องเที่ยวและสังสรรค์ จวนต่าง ๆ มักออกเทียบเชิญจัดงานชมดอกโบตั๋น ดอกไม้สวรรค์นี้มีราคาแพงมาก จึงมีมากก็เพียงในอุทยานหลวงกับจวนของเชื้อพระวงศ์เท่านั้นเมื่อถึงช่วงนี้ของทุกปี ฮ่องเต้จะต้องเสด็จไปบวงสรวงบรรพบุรุษยังวัดประจำราชวงศ์ที่เมืองจินเหยียน การเสด็จแปรพระราชฐานในแต่ละครั้งจะมีเหล่าราชนิกุลและขุนนางคนสำคัญร่วมเสด็จไปด้วย ในฐานะแม่ทัพรักษานครทำให้เยี่ยนหยางเจวี๋ย และบุตรชายทั้งสองต้องร่วมเดินทางไปในครั้งนี้ ส่วนเยี่ยนเยว่ฉีได้รับเทียบเชิญในฐานะคู่หมั้นของฉินอ๋องการเสด็จแปรพระราชฐานในครั้งนี้ ฮ่องเต้ทรงมีพระประสงค์จะเสด็จโดยเรือพระที่นั่ง เนื่องจากวัดประจำราชวงศ์มิได้อยู่ไกลห่างมากนัก จึงใช้เวลาไปกลับเพียงสองวันเท่านั้น เมื่อทุกคนมาพร้อมเพรียงกันที่ท่าเรือใหญ่ของวังหลวง ขันทีผู้ทำหน้าที่แบ่งห้องพักต่างรีบกุลีกุจอนำทางผู้ที่ได้รับเทียบเชิญเข้าสู่ห้องพักเยี่ยนเยว่ฉีมองไปรอบ ๆ อย่างสำรวจตรวจตรา นางจำเชื้อพระวงศ์และขุนนางบางคนได้ เนื่องจากเคยได้ร

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่42 รู้หรือไม่

    มู่เลี่ยงหรงไม่เปิดโอกาสให้นางพูด “ขอเราถามเจ้าบ้างเป็นไรว่าต้องการสิ่งใดกันแน่ ยามแสดงออกเจ้าก็ว่าเราเป็นชายฉวยโอกาส พอควบคุมตนเองเอาไว้ได้ เจ้ากลับมองว่าเรากำลังเสแสร้ง”“ท่านอ๋อง เยว่ฉี...”“ที่สำคัญหากเจ้ามาเป็นเราจะรู้สึกเช่นไรถ้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน รู้หรือไม่ ทุกวันนี้ขุนนางพวกนั้นกับผู้คนทั้งหลายยังเย้ยหยันเราอยู่เลย ตอบมาสิ เป็นเจ้าจะใจเย็นและสามารถมานั่งลอยโคมกับสตรีผู้บังอาจคนนั้นได้เฉกเช่นเดียวกับเราหรือไม่...เยี่ยนเยว่ฉี” เขาพยายามข่มโทสะที่มีถามนางด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบที่สุด แต่ดวงตานั้นคมปลาบบาดหัวใจของผู้มองทำให้รู้สึกผิดยิ่งนัก“เยว่ฉีไม่ได้รังเกียจท่านอ๋องสักนิด ไม่ได้ตั้งใจตบท่าน ไม่ได้ต้องการทำให้เสียหน้า เพียงแค่ทุกอย่างประดาประดังเข้ามารวดเร็วจนหวาดหวั่นไปหมด หม่อมฉันเสียใจเพคะที่ทำให้ท่านอ๋องต้องปวดใจ” เยี่ยนเยว่ฉีหยุดดิ้น แล้วปรายสายตาขึ้นสบกับเขาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ หวังว่าคู่หมั้นหนุ่มจะอภัยให้การกระทำเหล่านั้นของนาง “ส่วนเรื่องดวงชะตานั้น เยว่ฉีกับพี่รองไม่ได้โป้ปดแต่อย่างใด ท่านอ๋องเชื่อหม่อมฉันนะเพคะ”เมื่อเห็นแววตากอปรกับน้ำเสียงออดอ้อนนั้น มู่เล

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status