ทันใดนั้น นางเหมือนกับว่าเข้าใจอะไรบางอย่างเมื่อเชื่อมเข้ากับความผิดปกติของเฟิงเย่เสวียนในคืนนี้...เขารู้โฉมหน้าที่แท้จริงของนางแล้ว ตอนที่กำลังโต้เถียงกับเซียวจือฮว่าเมื่อตอนกลางวัน นางกับจิ่งอี้ไปแล้ว เขาอาจจะโมโหเพราะเรื่องนี้แต่นางกับจิ่งอี้บริสุทธิ์ใจต่อกัน ไม่ได้ทำเรื่องที่ขัดต่อกฎระเบียบเลยแม้แต่น้อย เขาปรักปรำนางโดยไม่ถามเหตุผล เข้าใจนางผิด ถึงขนาดไม่ให้แม้กระทั่งโอกาสนางที่จะอธิบายที่แท้...เขาไม่เชื่อใจนางเลยสักนิดเหนื่อยมากเหนื่อยมากจริง ๆฉู่เชียนหลีค่อย ๆ ย่อตัวลงไป นั่งลงบนขั้นบันได เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมากมายหลังจากที่ข้ามมิติมา ทั้งเสียใจ ทั้งดีใจ ทั้งตื่นเต้น ทั้งมีความสุข...นางกับเขาผ่านเรื่องราวมากมายมาด้วยกัน แต่ไม่มีแม้กระทั่งความเชื่อใจที่พื้นฐานที่สุด ชีวิตแบบนี้ยังจะมีความหมายอะไรอีก?ไม่สู้รีบปล่อยมือ ต่างคนต่างจะได้สมหวังเฟิงเย่เสวียน คำที่นายเคยพูดว่าต่อให้ต้องทรยศคนทั้งโลก ก็จะไม่ทรยศฉันทั้งหมดเป็นคำหลอกลวง นายไม่เชื่อฉัน ฉันก็ย่อมไม่รักนายคนที่พูดว่าจะปกป้องฉันคือนาย คนที่ทำร้ายฉันก็คือนายแต่...ในขณะที่ฉู่เชียนหลีกำลังคิดเรื่อง
ฉู่เชียนหลีจับจุดอ่อนของรัชทายาทได้ไม่ง่าย ย่อมไม่มีทางรามือ เมตตาศัตรู ก็คือการขุดหลุมฝังตัวเองนางสางปอยผมที่อยู่ข้างหู กล่าวพร้อมรอยยิ้มจอมปลอม“คำพูดประโยคนี้ของพี่ใหญ่หมายความว่าอย่างไร? เหตุใดข้าจึงไม่เข้าใจ?”แสร้งโง่ไปเสียเลย “ได้ข่าวว่ารัชทายาทประสบกับการลอบสังหาร อ๋องเฉินอำมหิตจริง ๆ ข้ากำลังกังวลว่าควรจะทำอย่างไรดี เหตุจึงกลายเป็นข้าต้องปล่อยรัชทายาทไปสักครั้ง? ข้ายังอยากจะขอร้องรัชทายาทให้โปรดเห็นใจ แล้วปล่อยอ๋องเฉินไป”ดวงตาหงส์ของฉู่หงหลวนหรี่ลงเล็กน้อย มองสำรวจคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างลึกซึ้งยัยเด็กคนนี้ ตอนอยู่จวนอัครมหาเสนาบดีฉู่แกล้งบ้าแสร้งโง่มาสิบห้าปี เสแสร้งได้เหมือนจริง ๆ ปิดบังทุกคนได้ แต่ความเป็นจริงกลับมีจิตใจล้ำลึกที่สุด กลับกลอกที่สุดคนหนึ่งแต่ฉู่เชียนหลีเป็นพระชายาอ๋องเฉินของฉู่เชียนหลีไป ส่วนนางก็มุ่งหน้าสู่ตำแหน่งฮองเฮาของนางระหว่างนางกับฉู่เชียนหลีไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกัน“น้องสาว เจ้าเป็นคนฉลาด ฉลาดกว่าฉู่ซวงกับฉู่เจียวเจียว” นางค่อย ๆ เดินมาหานาง ที่ข้างหูของนาง กระซิบพร้อมรอยยิ้มล้ำลึก“แต่ว่าคนที่ฉลาดขนาดนี้ กลับไม่รู้แม้กระทั่งว่าแม่แท้ ๆ ข
เสียงออกคำสั่ง ให้ทุกคนไปตามหาตัวของพระชายาคนใช้ องครักษ์ องครักษ์ลับ...เคลื่อนทัพเต็มอัตรา ตอนที่กำลังจะทำการค้นหาครั้งใหญ่ ด้านนอกจวน ก็มีร่างบางเดินเข้ามาช้า ๆ “พระชายา? !”“เป็นพระชายา!”ทุกคนต่างดีใจ มีทั้งเข้ามาต้อนรับ มีทั้งไปรายงาน คนใช้วิ่งเข้าไปที่เรือนหานเฟิง“ท่านอ๋อง พระชายากลับมาแล้ว!”บนเตียง เมื่อชายหนุ่มได้ยินดังนั้น ก็รีบสลัดผ้าห่มลุกขึ้นนั่งทันทีหานอิ๋งเป็นห่วง “นายท่าน ยา...”“ทิ้งไป!”“แต่ว่า...”ไม่ทันพูดมาก เฟิงเย่เสวียนแย่งชามยาในมือของนาง รีบเดินไปที่หน้าต่าง นำทั้งหมดเทลงในกระถางต้นไม้ โยนชามทิ้งทันที แล้วเดินไปทางประตูอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นร่างที่คุ้นเคยของหญิงสาว ดวงตาก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที“เชียนหลี!”หานอิ๋งเห็นดังนั้น สีหน้าจึงอึมครึมเล็กน้อย ดูไม่ดีเท่าไหร่เพื่อพระชายา นายท่านยอมไม่กินแม้กระทั่งยา วัตถุดิบยาหายากราคาสูงลิ่ว อีกทั้งสามารถระงับมารของเขาได้ หรือว่าสุขภาพของตนเองไม่สำคัญเท่ากับฉู่เชียนหลีด้านนอกฉู่เชียนหลีเดินเข้ามากวาดสายตามองการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่‘การเคลื่อนทัพเต็มอัตรา’ เดินเข้าไปในห้องด้วยสีหน้าสงบ “ตามหาข้าทำไม
“เชียนหลี…”“ข้าไม่ได้โกรธ” ฉู่เชียนหลีขัดคำพูดของเขา การแสดงออกบนใบหน้าเรียบเฉย “เป็นข้าเองที่ไม่ได้อธิบายให้ชัดเจนจึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด อย่าว่าแต่ท่านเลย เปลี่ยนเป็นผู้ชายคนอื่นเจอเรื่องเช่นนี้ ก็ต้องคิดมากเช่นกัน”เมื่อคืนเขาเค้นถามเหมือนบ้าไปแล้ว นางไม่อยากสืบสาวราวเรื่องแล้วเรื่องที่มันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะ“เจ้าโกรธ!”สายตาเฟิงเย่เสวียนจ้องดวงตาของนาง ราวกับสามารถมองทะลุอารมณ์ที่แท้จริงในใจของนางผ่านดวงตา“โกรธที่ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้ โกรธที่ข้ามักจะทำร้ายเจ้าเช่นนี้เสมอ โกรธที่เวลาข้าไม่พอใจ ก็จะบีบคั้นเจ้า”เขารู้ เมื่อก่อนเขาก็มักจะเป็นเช่นนี้ ทุกครั้งคนที่ถูกทำร้ายก็คือนางเขาสำนึกผิดแล้วเขาจะปรับปรุงตัว“ครั้งหน้าข้าจะไม่ทำเช่นนี้อีกแล้ว ต่อไปเจอปัญหาอะไร พวกเรานั่งคุยกันอย่างสงบจิตสงบใจดีๆ จะไม่ทะเลาะกันอีก ไม่เป็นขัดแย้งกันอีก ดีหรือไม่?” เขานั่งยองลง เงยหน้ามองนาง น้ำเสียงระมัดระวัง เหมือนกำลังปลอบใจเด็กที่กำลังโกรธฉู่เชียนหลีมองเขาอย่างลึกซึ้ง เหมือนมีอะไรไหลเวียนอยู่ในแววตา…เพียงแต่แค่พริบตาเดียว สีหน้านิ่งสงบ หลุบตาลง“นี่เป็นนิสัยของท่าน ทุ
ฉู่เชียนหลีมองดูภาพระเนระนาดภายในห้องโดยไม่ได้พูดอะไรผ่านไปสักพักนางหมุนกายหยิบของบางอย่างออกจากแขนเสื้อ แล้วส่งให้เฟิงเย่เสวียน“นี่คือ…”“หลักฐานการจ่ายเงินของจวนรัชทายาท” วางไว้ในมือของเขา “รัชทายาทติดสินบนใต้เท้าเว่ย ซื้อยาพิษ วางยาพระชายารองเว่ย เขากำกับแสดงละครลอบสังหารตัวเอง”หลักฐานการจ่ายเงินนี่ก็คือหลักฐานขอแค่ส่งมันให้ฮ่องเต้ ความจริงกระจ่าง และยังสามารถโจมตีรัชทายาทอย่างหนักรัชทายาทขัดขาอ๋องเฉินทุกที่ทุกเวลา ลงมืออำมหิต ไร้ความปรานี หากนางเป็นอ๋องเฉิน จะ ‘คืน’ ทั้งหมดนี้กลับไปให้รัชทายาทอย่างไม่เกรงใจเฟิงเย่เสวียนถือหลักฐานการจ่ายเงินที่บางเบาไว้ กางนิ้วมือออก มองเห็นชื่อเฉียนจวง ตัวเลขจำนวนเงิน และวันที่ออกตั๋วกับรายละเอียดอื่นๆ อย่างชัดเจนหลักฐานการจ่ายเงินใบนี้สามารถล้มรัชทายาทได้จริง นางสืบมาถึงตรงนี้ เก่งเกินคาดแล้วทันใดนั้น เสียงของฉู่เชียนหลีดังขึ้น“ข้าคิดว่าจะกลับไปอยู่บ้านแม่สักพัก”ร่างกายของเฟิงเย่เสวียนสั่นสะท้าน เงยหน้าอย่างตะลึงงัน มองดูนาง หลักฐานการจ่ายเงินระหว่างนิ้วหลุดออกจากมือด้วยความตกใจ ร่วงลงสู่พื้นอย่างเงียบๆนาง…สีหน้าปกติ น
ผู้ชายกลุ่มหนึ่งโผล่ศีรษะออกมา เบียดกันไปเบียดกันมา ท่าทางที่จุ้นเรื่องชาวบ้านแลดูผู้หญิงยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีกแค่ก!จิ่งอี้กำหมัดกระแอมเสียงเบากะทันหัน เตือนให้คนกลุ่มนี้รีบแยกย้าย ส่วนเขายกเท้าเดินเข้าไปในลานเรือน ไปหยุดอยู่ข้างกายฉู่เชียนหลี กล่าวเสียงเบา“คุณหนู นัดพระชายารองฉู่ออกมาแล้วขอรับ”ฉู่เชียนหลีลืมตา “เร็วขนาดนี้เลย?”นางลุกขึ้นนั่ง นวดกลางหว่างคิ้วอย่างเหนื่อยล้าเบาๆ ตากแดดเป็นเวลานาน คิดเรื่องราวมากมาย ทำให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะตั้งสติครู่หนึ่ง จึงจะลุกขึ้นยืน “จิ่งอี้ ตามข้าออกไปข้างนอกหน่อย เยว่เอ๋อร์ เจ้ากับเจ้าดำอยู่ที่นี่ ข้าจะรีบไปรีบกลับ”เพิ่งก้าวเท้าออกไป ผู้ชายกลุ่มหนึ่งก็วิ่งเข้ามารุมล้อมเยว่เอ๋อร์“เจ้าเป็นสาวใช้ข้างกายคุณหนูใช่หรือไม่? ซื่อสัตย์หรือไม่?”“เมื่อก่อนความเป็นอยู่ของคุณหนูในจวนอัครมหาเสนาบดีฉู่แย่มาก ทุกคนล้วนรังแกนาง เจ้าไม่ได้ติดตามคุณหนูอย่างจริงใจใช่หรือไม่ เจ้าคิดไม่ซื่อกับคุณหนูใช่หรือไม่? ไม่พูดข้าจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้!”“จับเจ้าขายให้กับหอนางโลม!!”ชายฉกรรจ์แต่ละคนแยกเขี้ยวกำหมัด พูดจาดุร้าย ทำเอาเยว่เอ๋อร์ตกใจจนหน้าซีดแล้วซีดอี
สีหน้าฉู่หงหลวนมืดลง แต่ฉู่เชียนหลีก็ไม่รีบร้อน นางจิบชาชั้นดี เดาะลิ้นแล้วกล่าว“พี่หญิงใหญ่ พรุ่งนี้ก็ถึงขีดจำกัดของสามวันแล้ว ท่านจะบอกตัวตนของข้าเพื่อช่วยรัชทายาท หรือรอให้หลักฐานการจ่ายเงินใบนั้นส่งไปถึงมือฝ่าบาท รัชทายาทถูกปลด ท่านลองพิจารณาดูดีๆ”วางถ้วยชาลงอย่างสบายๆ ลุกขึ้นยืน ตบชายกระโปรงที่ยับเล็กน้อย เดินออกไปอย่างสบายใจฉู่หงหลวนนั่งอยู่ที่เดิม มือขวาพาดโต๊ะ นึกถึงน้ำเสียงที่ข่มขู่เมื่อครู่ของฉู่เชียนหลี แววตายิ่งอยู่ยิ่งเย็นชา ยิ่งอยู่ยิ่งมืดมนผู้หญิงอัปลักษณ์ที่ขี้ขลาดเหมือนหนูในอดีต ตอนนี้มาทำตัวโอ้อวดต่อหน้านางแล้วเป็นแค่ลูกเมียน้อย ท้าทายความน่าเกรงขามของนางที่เป็นบุตรสาวสายตรง มีเช่นนี้ที่ไหนกัน?ฉู่เชียนหลี!ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้าข่มขู่นางฉู่หงหลวน มีเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้นตาย!ฉู่เชียนหลีเดินออกจากโรงน้ำชา จิ่งอี้ที่รออยู่ข้างนอกมาโดยตลอดรีบเดินเข้าไป “คุณหนู”นางพยักหน้าเป็นสัญญาณ พร้อมกับเดินไปยังบนถนน เตรียมกลับโรงหมอจิ่งอี้เดินตามอยู่ข้างๆ นาง อ้าปากแล้วอ้าปากอีก อยากพูดแต่ก็ไม่พูด“เป็นอะไร?”ฉู่เชียนหลีรู้สึกได้โดยไม่ต้องหันไปมองจิ่งอี้เม
วันรุ่งขึ้นวันนี้ เป็นวันสุดท้ายของระยะเวลาสาววัน ภายในห้องทรงอักษร เมื่อฮ่องเต้เลิกประชุมก็มาที่นี่ทันทีเนื่องจากปิดข่าวอย่างดี มีคนรู้เรื่องที่รัชทายาทถูกลอบสังหารน้อยมาก เพียงแค่จัดการเรื่องนี้เหมือนเรื่องครอบครัว“รัชทายาทถึง…”นอกตำหนัก เสียงรายงานของขันทีดังขึ้น หลังจากนั้นสองสามวินาที เฟิงเจิ้งอวี้กุมบาดแผลที่ท้อง ค่อยๆ เดินเข้ามา“เสด็จพ่อ…”เหลือบเห็นอ๋องเฉินที่ยืนอยู่ด้านข้างสายตาทั้งคู่ประสานกันเฟิงเย่เสวียนมองเขา เผยอริมฝีปากบางเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “สามวันแล้ว แผลยังไม่หายดี พี่ใหญ่ ลงมือเหี้ยมจริงๆ”แววตาเฟิงเจิ้งอวี้ขรึมลงคำพูดนี้หมายความว่าอย่างไร?อะไรคือ ‘เขาลงมือเหี้ยมจริงๆ’สามวันนี้ เขาถูกกักตัวอยู่ในวัง ต่อหน้าฮ่องเต้ ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม หรือเฟิงเย่เสวียนสืบพบความจริงแล้ว?เขาครุ่นคิดในใจ สีหน้ากลับปกติ หลังจากคำนับ มีขันทีสองคนประคองไปนั่งลง“เจ้าเจ็ด คนร้ายอยากให้ข้าตาย มีหรือจะไม่ลงมืออย่างเหี้ยม?”“เหอะ” เฟิงเย่เสวียนเพียงแค่ยิ้ม “ดวงตาของโอรสสวรรค์มองเห็นทุกสิ่ง ไม่มีเรื่องอะไรที่เสด็จพ่อมิทรงทราบ”หัวใจเฟิงเจิ้งอวี้หนักอึ้งหรือเฟิงเย่