ตบไม่ได้หากลงไม้ลงมือไป ถึงเวลา ตอนที่ฝ่าบาทเข้าร่วมงานแต่งงานของอ๋องหลีแล้วทรงทอดพระเนตรเห็นละก็...แต่ถ้าไม่ตบ ความโมโหภายในใจของนางก็ไม่สามารถหายไปได้โมโหจะตายอยู่แล้ว!“คุณหนูสาม พระชายาอ๋องเฉินมาแล้ว ตอนนี้อยู่กับฮูหยินอัน” เวลานี้ เด็กรับใช้คนหนึ่งเดินเข้ามารายงานฉู่เจียวเจียวเลิกคิ้วทีหนึ่ง ยกมือขึ้นอย่างสง่างาม“น้องสาวคนนี้ของข้ากลับมาแล้ว ไปกันเถอะ”สาวใช้ประคองนางพลางเดินออกไป พลางถอนหายใจอย่างไม่ตั้งใจ“เฮ้อ ชีวิตของคนเราช่างไม่แน่นอนเสียจริง พวกเราสองพี่น้องเป็นลูกอนุ แต่กลับได้เป็นถึงพระชายา นี่เกรงว่าจะเป็นเพราะเกิดมาพร้อมกับบุญวาสนา”ฉู่ซวง “!”คำพูดประโยคนี้เห็นได้ชัดว่าพูดให้นางฟัง!หานมู่ซีเป็นผู้ชายที่เธอชอบมาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ว่าตอนนี้เขายังไม่ประสบความสำเร็จ แต่เป็นเพราะมีบิดาคอยสนับสนุน ไม่ช้าก็เร็วพี่มู่ซีจะต้องทำให้คนต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่ฉู่เจียวเจียวนังแพศยา ยังไม่ทันเป็นพระชายาอ๋องหลี ก็โอ้อวดแสนยานุภาพต่อหน้าของนางเสียแล้วฉู่ซวงหรี่ดวงตา มองภาพเบื้องหลังของฉู่เจียวเจียวที่เดินออกไป สายตาฉายแววความโหดร้ายเป็นอย่างยิ่งออกมาแวบหนึ่งอยากจะให้
นางอันพูดได้อย่างสมเหตุสมผลฉู่เชียนหลีกลับยิ้ม “ใช่ ท่านแม่พูดถูกต้อง ระหว่างพี่น้องควรจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่ปัญหาคือเป็นข้าที่ต้องคอยช่วยเหลือพี่สามตลอด เหมือนว่าพี่สามจะไม่ได้ช่วยเหลืออะไรข้าสักเท่าไหร่เลยกระมัง?”เอ่อ...คำพูดประโยคนี้ทำให้นางอันฉู่เจียวเจียวต่างก็อึ้งไป“ตอนนั้น เดิมทีคนที่ควรจะแต่งงานกับอ๋องเฉินก็คือพี่สาม แต่พี่สามกลับหลอกลวงให้ข้าดื่มน้ำชาที่ใส่ยาลงไป ทำให้ข้ากับอ๋องเฉิน...”ฉู่เจียวเจียวสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเรื่องนี้เป็นฝีมือของนางจริง ๆ ...เนื่องจาก นางรู้ว่าในใจของอ๋องเฉินมีเซียวจือฮว่าเพียงคนเดียวเท่านั้น นางแต่งไปมีแต่จะเป็นแม่ม่ายเท่านั้นนางชื่นชอบอ๋องหลีนางไม่อยากแต่งงานกับอ๋องเฉิน โดดเดี่ยวไปจนตายเพื่อความสุขของตนเอง นางจึงผลักฉู่เชียนหลีออกไป แต่ไฉนจะรู้เลยว่าหลังจากฉู่เชียนหลีที่ไม่มีผู้ใดสนใจมาสามเดือน คิดไม่ถึงว่าจะได้รับความโปรดปรานนางเหลือบตาทันที จับมือของฉู่เชียนหลีอย่างสนิทสนม“โอ๊ย น้องหญิงที่รักของข้า เจ้าเข้าใจข้าผิดแล้ว ข้าจะทำร้ายเจ้าได้อย่างไรกันล่ะ? จะต้องเป็นฝีมือของสองพี่น้องฉู่หงหลวนกับฉู่ซวง!”ฉู่หงหลวนก
ฉู่เชียนหลีลุกขึ้นยืน กล่าวเสียงเย็นเยือก“ข้าได้ช่วยพี่สามไปรอบหนึ่งแล้ว ตอนนี้ พี่สามติดค้างข้าหนึ่งครั้ง เมื่อใดที่พี่สามช่วยข้า ข้าค่อยช่วยพี่สามต่อ”ให้อ๋องหลีไปลาดตระเวนทางใต้กับอ๋องเฉิน นางได้ระมัดระวังอย่างยิ่งแล้วจะให้อ๋องหลีเข้าหกกรมอีก?ทำไม?เมื่อคำพูดประโยคนี้หลุดออกไป คนอื่นจะมองนางเช่นไร? ยังคิดว่านางเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง จะสอดมือเรื่องของผู้สืบทอดราชบัลลังก์ มีความทะเยอทะยานที่จะควบคุมสถานการณ์แต่ว่า นางสามารถใช้ประโยชน์จากความมุ่งหวังให้สำเร็จผลโดยเร็วโดยไม่สนวิธีใดๆสองคนแม่ลูกฉู่เชียนหลีกุมตำหนิบนใบหน้า ค่อย ๆ เหลือบตาตา“ถ้าหาก...ตำหนิบนใบหน้าของข้าสามารถเลือนหายไปได้ละก็ อ๋องเฉินก็จะยิ่งโปรดปรานข้ายิ่งกว่าเดิม ถึงเวลา ข้าก็จะทุ่มเทแรงกายแรงใจช่วยพี่สามมากกว่าเดิม”พูดจบ หันหลังกลับแล้วเดินจากไปแต่ดวงตาของฉู่เจียวเจียวกลับมีความตื่นเต้นพลุ่งพล่านออกมา“ท่านแม่...”กำลังจะอ้าปากพูด นางอันก็ส่งสายตาห้ามปรามนางเอาไว้ฉู่เจียวเจียวสังเกตถึงอะไรบางอย่าง ก็รีบหุบปากทันที มองแผ่นหลังของฉู่เชียนหลีที่พึ่งเดินออกไปจากประตูอย่างระแวงเมื่อหันหลังให้ทั้
อยู่ดี ๆ เซียวจือฮว่าก็เชิญนางไปหา?ใช้หัวแม่โป้งเท้าคิด ก็รู้ว่านั่นจะต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอกเสียจากฉู่เชียนหลีจะว่างจนไม่มีงานทำ ถึงจะวิ่งเข้าหาปลายกระบอกปืน จึงปฏิเสธไปโดยไม่ต้องคิด“ข้ายังมีธุระอีก ไม่ไป หากนางมีธุระก็ส่งคนมาแจ้งก็พอ”นางกับเซียวจือฮว่าไม่มีอะไรต้องคุยกันมีอะไรต้องคุย?ศัตรูหัวใจ?แย่งผู้ชาย?เป่าอวี้ตะลึงงันไป “พระชายา...”นับตั้งแต่พระชายารองเซียวเข้ามาที่จวนอ๋องเฉิน มีผู้ใดไม่เคารพ ไม่ประจบสอพลอ ยังไม่เคยมีใครปฏิเสธคำเชิญของพระชายารองเซียวมาก่อน พระชายาเป็นคนแรกแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรมาก พระชายาก็ได้เดินจากไปแล้วเรือนหมิงเยว่เพล้ง!ถ้วยชาถูกปาลงไปบนพื้นอย่างแรง แตกกระจายเต็มพื้น น้ำชาและใบชาสาดกระเซ็นเต็มพื้น มือทั้งสองข้างของเซียวจือฮว่ายันโต๊ะทำงานเอาไว้ โมโหจนถึงขีดสุดนางยังไม่ได้สูญเสียความโปรดปรานเลยนะ!คิดไม่ถึงว่าฉู่เชียนหลีจะหยิ่งยโสขนาดนี้ไม่ได้ท้อง และไม่ได้คลอดลูกให้เลยแม้แต่คนเดียว คิดไม่ถึงว่าจะชูคอขนาดนี้!เรือนข้างภายในเรือนที่สะอาดสดชื่น ใต้ต้นไห่ถัง มีเก้าอี้โยกที่ทำจากไม้หนานตัวหนึ่ง ฉู่เชียนหลีนอนอยู่ด้านบนอย่างเกียจค
ตอนที่เซียวจือฮว่าเดินเข้ามา ก็เห็นร่างของทั้งสองคนใกล้ชิดกัน อยู่ภายในเรือนเล็กตั้งแต่อยู่ไกล ๆ “เจ้ากล้าหลอกข้า!”“ผู้ใดใช้ให้ท่านไม่ลองชิมดูก่อน ยังกินคำโตขนาดนั้น เป็นเพราะท่านละโมบ สมน้ำหน้า”“นี่เป็นเพราะข้าเชื่อใจเจ้า!”“ข้าพูดอะไรท่านก็เชื่อแบบนั้น ถ้าอย่างนั้นข้าพูดว่าท่านเป็นคนโง่...”“ฉู่เชียนหลี!”ส้มเปรี้ยวจนเข็ดฟันถ้าหากไม่ใช่เพราะเห็นว่าฉู่เชียนหลีกินอย่างเอร็ดอร่อย เขาก็คงจะไม่กินคำใหญ่ขนาดนั้น ผู้หญิงยังกินด้วยท่าทางเอร็ดอร่อยมาก เพื่อหลอกลวงเขาช่างเลวเสียเหลือเกิน!ภาพที่ทั้งสองคนกำลังทะเลาะกันได้สะท้อนเข้าไปในดวงตาของเซียวจือฮว่า ทำให้มือทั้งสองข้างที่เก็บอยู่ภายในแขนเสื้อกำแน่น แน่นขึ้นอีก เล็บจิกบนฝ่ามือลึก จนเลือดไหลออกมา ก็ราวกับว่ายังไม่รู้สึกเจ็บปวดท่านอ๋องไม่เคยโปรดปรานเช่นนี้มาก่อน!สิบปีมานี้ ถึงแม้ว่าท่านอ๋องจะดูแลนาง เข้าข้างนาง แต่กับปฏิบัติต่อนางอย่างเคารพ และมีมารยาท แม้แต่รอยยิ้มก็น้อยมากที่จะเผยให้นางได้เห็นดูสิด้านในศาลา ชายหนุ่มยกมุมริมฝีปากขึ้น กำลังจักจี้ฉู่เชียนหลี ความอ่อนโยนกับรักใคร่นัยน์ตาคู่นั้น คือสิ่งที่นางไม่เคยได้รับมา
ภายในห้องเยว่เอ๋อร์ยืนอยู่หน้าประตู มองออกไปทางด้านนอกอยู่ครู่ใหญ่ เห็นท่านอ๋องกับพระชายารองเซียวออกไปพร้อมกัน ถึงได้ปิดประตูลง สาวเท้าไปที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง“พระชายา ท่านอ๋องกับพระชายารองเซียวไปแล้ว ท่าน...”นางอ้าปาก ก็หยุดพูด“ท่านไม่ใส่ใจจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?”ความดีกับความโปรดปรานที่ท่านอ๋องมีต่อพระชายา นางเห็นทั้งหมด ใต้หล้ามีสตรีนางใดบางที่จะไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแค่ตัวจนถึงขนาดนำสามีของตนมอบให้ผู้อื่นด้วยความเต็มใจ“ใส่ใจอะไร?”ฉู่เชียนหลีจ้องมองปานอันอัปลักษณ์บนใบหน้าของตนเอง ในกระจก กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ“ตอนนั้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะข้าโดนวางยา... เฟิงเย่เสวียนก็คงไม่มีทางแต่งงานกับข้า เซียวจือฮว่าจะได้เป็นพระชายาอ๋องเฉิน เป็นสตรีเพียงนางเดียวที่อยู่ข้างกายของเขา เดิมทีก็คือข้าที่พยายามแทรกตัวเข้ามา”ทันทีที่เยว่เอ๋อร์ได้ยินคำพูดประโยคนี้ ก็กระทืบเท้า“พระชายา ใช่เหตุผลนี้เสียที่ไหนกัน? ในความรัก ไม่มีใครมาก่อนหลัง มีเพียงแค่ชื่นชอบ ที่เห็นบ่อยที่สุดก็คือผู้ที่มาทีหลังมักเหนือกว่า”มีบุรุษสักกี่คนที่ชื่นชอบสตรีเพียงนางเดียวตั้งแต่แรกจนสุดท้าย?บุรุษคนไหนบ้างไม่ได้ของใ
เยว่เอ๋อร์ยกน้ำชาร้อนที่เพิ่งชงเสร็จมาสองถ้วย ยกให้แต่ละคนเซียวจือฮว่า ทันทีที่เปิดฝาออก ตาเหลือบมองแวบหนึ่ง ขมวดคิ้วกล่าว “พี่หญิง ท่านอ๋องไม่ชอบชาดำของเมืองฉีเหมิน เขาค่อนข้างชื่นชอบชาจวินซานอิ๋นเจินมาตั้งแต่เด็ก ภายในห้องหนังสือมีแอบไว้หลายกล่อง”นางวางถ้วยชาลง กล่าวพร้อมรอยยิ้ม“ชาจวินซานอิ๋นเจิน มาชงกับน้ำค้างในตอนเช้า น้ำแรกเป็นน้ำล้างชา ครั้งที่สองใช้ได้ ครั้งที่สามจึงจะออกรสชาติ ทั้งขมทั้งหอม กลิ่นหอมลอยไปไกลหลายเมตร เป็นยอดชาของในบรรดาชา เติบโตขึ้นจากน้ำที่สะอาด”คำพูดประโยคนี้ เผิน ๆ กำลังชมกลิ่นหอมของใบชา แต่อันที่จริงแล้วนางกำลังพูดถึงความเข้าใจในความชื่นชอบของท่านอ๋องข้อนี้ ไม่ใช่ว่าฉู่เชียนหลีไม่รู้ฉู่เชียนหลียกถ้วยชาขึ้น เป่าริมถ้วย“มีให้ดื่มก็พอแล้ว จะต้องไปสนใจมากมายขนาดนั้นทำไมกัน?”ทันทีที่เป่าอวี้ที่อยู่ด้านหลังของเซียวจือฮว่าได้ยินคำพูดประโยคนี้ ก็มองด้วยสายตาเหยียดหยามช่างพูดจาหยาบคายบ้านนอกเสียจริง !วัฒนธรรมของใบชามีมากมายนายหญิงเป็นยอดฝีมือนักชงชา เพียงแค่ดมใบชาแต่ละชนิด ก็รู้ถึงคุณภาพดีหรือไม่ดีของใบชาทันที หลายปีมานี้ ชาที่ส่งไปยังเรือนหานเฟิ
เซียวจือฮว่าตะลึงงันทันที “อะ อะไรนะ”“ดูเหมือนไม่ได้จ่าย” ฉู่เชียนหลีมองดูปฏิกิริยานี้ของนาง พลางใคร่ครวญเสียงเบา “บ่าวไพร่ทำงานยังมีเบี้ยเดือน พ่อครัว ช่างปัก ทำงานอะไรไม่ใช้เงินบ้าง? นี่เฟิงเย่เสวียนหาแม่นมที่ไม่ต้องจ่ายเงินมาหรือ? ใช้ชีวิตเป็นจริงๆ…”เสียงพึมพำดังเข้าไปในหูเซียวจือฮว่า ทำให้สีหน้าของนางประเดี๋ยวเขียวประเดี๋ยวขาว แลดูแปลกประหลาดมากปรนนิบัติท่านอ๋อง ยังขอเบี้ยเดือนอีก?ปรนนิบัติท่านอ๋องเป็นเรื่องที่นางสมควรทำไม่ใช่หรือ?ฉู่เชียนหลีต้องอิจฉานางแน่นอน!เซียวจือฮว่าเผยอริมฝีปาก กล่าวโอ้อวด “พี่หญิงไม่ต้องกังวล ข้าจะบอกความชอบของท่านอ๋องให้ท่าน ต่อไปท่านก็สามารถปรนนิบัติท่านอ๋องได้อย่างถี่ถ้วนแล้ว…”“เหตุใดข้าต้องปรนนิบัติเขา?” ฉู่เชียนหลีทำหน้าประหลาดใจ“ท่านเป็นพระชายาอ๋องเฉิน ไม่ควรปรนนิบัติเขาหรือ?”“บ่าวไพร่ตั้งมากมายในจวนมีไว้ประดับหรือ?”“...”ฉู่เชียนหลีรู้สึกว่าความคิดของเซียวจือฮว่ามีปัญหา “กว่าที่ท่านพ่อท่านแม่จะเลี้ยงข้าโตจนป่านนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่าย ข้าได้เป็นพระชายา เจ้าคนนายคน มาเพื่อเสพสุข ไม่ได้มาเพื่อเป็นคนรับใช้”“...”เซียวจือฮว่ารู้สึก