Share

บทที่ 130

Author: สกุลหยางมีบุตรสาว
วันรุ่งขึ้น

ฉู่เชียนหลีตื่นเช้ามาก หลังจากกินอาหารเช้าก็ออกจากจวน

โดยทั่วไปแล้ว เพื่อความปลอดภัยและความเข้มงวดของจวนอ๋อง ทุกคนที่ออกจากจวนจำเป็นต้องได้รับป้ายอนุญาตผ่านทาง หรือไปรายงานท่านอ๋อง แต่เหมือนว่าพระชายาจะได้รับความโปรดปรานแล้ว ชั่วขณะทหารยามที่เฝ้าประตูจึงไม่มีใครขวาง

เมืองหลวง ท้องฟ้าสดใส กำลังอยู่ในช่วงคึกคัก

และที่ใดมีคน ที่นั่นก็มีคนสอดรู้เรื่องชาวบ้าน ชาวบ้านไม่น้อยที่กำลังสัญจรไปมาพลางยุ่งอยู่กับงานของตนเอง พลางสนทนาไปด้วย เนื้อหาคร่าวๆ คือ

“อ๋องเฉินกำจัดโจรภูเขาไปแล้ว ร้ายกาจมาก ได้ยินมาว่าแม้แต่แม่ทัพหลี่ก็เอาโจรภูเขาพวกนี้ไม่ลง”

“ท่านอ๋องเฉินสร้างผลงานอีกแล้ว ความสามารถของเขาเหนือคน มีความกล้ามีกลอุบาย พวกเราเลื่อมใสจากใจ…”

“ข้าจะเล่าให้เจ้าฟัง ตอนปราบโจร เกิดไฟไหม้ใหญ่มาก อ๋องเฉินหนึ่งคนหนึ่งม้าหนึ่งกระบี่ เหยียบไฟกลับออกมาจากกองเพลิง ผาวสีหมึกปลิวว่อน ใบหน้าเยือกเย็นมีเสน่ห์ ราวกับเทพลงมาเยือน…”

“สวรรค์!”

การบรรยายภาพเหตุการณ์นี้ ทำเอาหญิงสาวกลุ่มหนึ่งใช้มือปิดแก้มกรี๊ดเสียงหลง ในดวงตาเต็มไปด้วยความรักและความปรารถนา

ฉู่เชียนหลีเดินผ่านจากด้านข้าง เพียงแค่
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 131

    นางเดินเข้าไปนั่งลง “วันนี้ข้ามาเพื่อจะบอกพวกเจ้าว่า ข้าตั้งใจจะดำเนินกิจการโรงหมอแห่งนี้ พวกเจ้าจำเป็นต้องช่วยข้าจึงจะทำได้”ข้อหนึ่ง นางจะพัฒนากิจการของตนเอง สร้างรากฐานในต่างโลกข้อสอง นางไม่มีทางเลี้ยงคนกลุ่มหนึ่งที่กินฟรีดื่มฟรีโดยไม่ทำอะไรทุกคนเห็นด้วย โรงหมอช่วยชีวิตคนเป็นการทำความดี เป็นเรื่องที่สมควรทำ“คุณหนูต้องการอะไรพูดมาได้เลย พวกเราพร้อมรับคำสั่ง” จิ่งอี้กล่าวไม่ว่าจะต้องการตำราแพทย์อันล้ำเลิศ หรือวรยุทธ์ระดับแนวหน้า หรือร้านค้าชั้นสูงใจกลางเมืองหลวง ยาดีในหล้า ขอแค่คุณหนูต้องการ พวกเขาจะมอบให้ทั้งหมดฉู่เชียนหลีพยักหน้า หลังจากนั้นชี้ไปที่คนคนหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ พลางกล่าว“เจ้ารับผิดชอบจัดระเบียบยาสมุนไพร แยกพวกมันให้เป็นประเภท”ผู้ชายผอมที่ถูกชี้ตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เขา? จัดระเบียบยาสมุนไพร? เขาเป็นถึงมือสังหารอันดับหนึ่งในยุทธภพเลยนะ!มือที่ถือกระบี่ฆ่าคนจะไปหยิบพู่กัน?“เจ้ารับผิดชอบแนวหลัง หุงข้าว”ผู้ชายอ้วนที่ถูกชี้ก็ตะลึงงันเช่นกันคุณหนู ท่านพูดจริงหรือ? ข้าเป็นถึงมือพิษยามรัตติกาลที่มีชื่อเสียงในยุทธภพ สิ่งของที่ใช้ลงมือล้วนเป็นพิษที่ร้ายแรงที่สุด…”

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 132

    เฟิงเย่เสวียน!มีอาหารหลากหลายถูกวางอยู่บนโต๊ะ เป็นมื้อเบาที่อุดมไปด้วยสารอาหาร แต่เย็นหมดแล้ว เฟิงเย่เสวียนนั่งอยู่ข้างโต๊ะ กลิ่นอายรอบตัวเงียบและเยือกเย็นเป็นพิเศษเมื่อเห็นฉู่เชียนหลีกลับมา เขาเงยหน้าขึ้นมอง ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ“เยว่เอ๋อร์บอกว่าเจ้าออกไปทั้งวัน หายไปไหนมา?”เสียงทุ้มมาก ราวกับกำลังข่มอารมณ์เยว่เอ๋อร์ยืนอยู่ข้างๆ อย่างกระสับกระส่าย ก้มศีรษะ สองมือบีบชายเสื้อ กลัวเล็กน้อยท่านอ๋องรออยู่ที่นี่สองชั่วยามกว่าแล้ว อาหารบนโต๊ะก็อุ่นไปแล้วสี่รอบ…ฉู่เชียนหลีก้าวเท้าเข้าไปในห้อง ถอดผ้าคลุมหน้าออกอย่างไม่ใส่ใจ โยนไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง “ไม่ได้ทำอะไร”พูดพลาง เดินไปที่หน้าชั้นวางของ ล้างหน้าแล้วเช็ดให้สะอาดเดินไปที่หน้ากระจกสัมฤทธิ์ ลูบๆ มองๆ อยู่หน้ากระจกสัมฤทธิ์สายตาของเฟิงเย่เสวียนจับจ้องไปที่นางตลอด ขยับไปตามการเดินของนางเขารอนางนานเช่นนี้ นางกลับมาก็เฉยเมยเช่นนี้เลย?มีไฟที่ไร้ชื่อสายหนึ่งผุดขึ้นในใจ แต่ก็สูดลมเข้าลึกๆ อย่างมีสติ ข่มเอาไว้ จึงจะกล่าว“ในเมื่อไม่สบาย ก็อยู่ในจวนดีๆ รอรอบเดือนผ่านไปก่อนแล้วค่อยออกไป”ฉู่เชียนหลีกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 133

    ใบหน้าเล็กของเยว่เอ๋อร์ตกใจจนซีดขาวเล็กน้อย ร่างกายสั่นเทาเมื่อวานยังดีๆ อยู่เลย เหตุใดวันนี้จึงทะเลาะกันเช่นนี้?คำพูดฉู่เชียนหลีออกจากปาก อารมณ์ก็ขึ้นเช่นกัน เห็นใบหน้าของเฟิงเย่เสวียน ก็นึกถึงคำพูดของหานเฟิง นึกถึงแผนการของเขา นึกถึงเด็กหนุ่มผู้บริสุทธิ์ที่ถูกไฟคลอกตายที่ค่ายโจร…“เฟิงเย่เสวียน เป็นเจ้าที่อยากรอข้า แต่สุดท้ายกลับมาโยนความผิดให้ข้า โทษที่ข้ากลับมาช้า?”“ทำไม?”“ตามที่เจ้าพูด เจ้าเตะข้าคืนที่เจ้าแต่งอนุภรรยา หรือนี่ไม่ใช่ความผิดของเจ้า แต่เป็นข้าที่ทำตัวต่ำ จงใจเอาร่างกายของตัวเองไปวางไว้ที่ใต้เท้าเจ้า?”สีหน้าของเฟิงเย่เสวียนดูย่ำแย่เป็นพิเศษขึ้นมาทันที“ตกลงเจ้าเป็นอะไรกันแน่?”ตอนอยู่ภูเขากว่างหนิงยังดีๆ อยู่เลย“ฉู่เชียนหลี หรือเจ้าลืมคำพูดที่พวกเราเคยคุยกันและเคยทำในถ้ำไปแล้ว…”“พอที!” ฉู่เชียนหลีพูดขัดเสียงดัง “เรื่องที่ผ่านไปแล้วไม่ต้องพูดถึงอีก ข้าง่วงแล้ว”นางยกเท้าจะเดิน กลับถูกเฟิงเย่เสวียนดึงกลับมา“วันนี้ต้องพูดให้รู้เรื่อง!”“ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้า”“ฉู่เชียนหลี!”“ปล่อยข้า!”“ตกลงข้าทำอะไรผิด!”ระหว่างที่ทั้งสองโต้เถียง หนังสือเล็กๆ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 134

    วันรุ่งขึ้นวันนี้ฉู่เชียนหลีอยากออกจากจวน แต่กลับถูกขวางเอาไว้“พระชายา ไม่ได้รับอนุญาตจากท่านอ๋อง ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้าออกจวนขอรับ” ทหารยามที่เฝ้าประตูยื่นมือออกมาขวางคนไว้ฉู่เชียนหลีหัวเราะทำไม?คิดจะขังนาง?นางไม่ใช่นกในกรงเสียหน่อย และยิ่งไม่ใช่สัตว์ ไม่มีอิสระกระทั่งออกจากจวน? “แล้วถ้าข้าจะออกไปให้ได้ล่ะ” นางกล่าวถามกลับทหารยามก้มศีรษะ “พระชายาโปรดอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลยขอรับ”“ทำไมถึงเป็นข้าที่ทำให้พวกเจ้าลำบากใจ? เห็นได้ชัดว่าท่านอ๋องทำให้พวกเจ้าลำบากใจ” ฉู่เชียนหลีพูดจบ ก้าวเท้าเดินออกไปข้างนอก“พระชายา…”“ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครกล้าขวางข้า?”กวาดสายตามองอย่างเย็นชา ราวกับลูกธนูที่แหลมคม ทำให้มือที่ยื่นออกไปของทหารยามทั้งสองคนหยุดชะงัก ไม่กล้าก้าวออกไปข้างหน้าแม้แต่ครึ่งก้าวทันทีปัจจุบัน พระชายาได้รับความโปรดปราน สถานะไม่เหมือนเมื่อก่อนพวกเขาไม่กล้าละเลยสิ้นเสียงฉู่เชียนหลี นางก้าวเขาข้ามธรณีประตูไปอย่างลำพองทหารยามหมดหนทาง “รีบไปรายงานท่านอ๋อง”ออกจากจวนฉู่เชียนหลีไปบ้านหลังหนึ่งที่เรียบง่ายและเปลี่ยว เพื่อเยี่ยมผู้ชายที่ได้รับบาดเจ็บที่ขาคนนั้น

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 135

    ฉู่เชียนหลีเบิกตาเล็กน้อย“ก็เพราะข้าไม่ยอมไปงานเลี้ยงฉลองครบรอบแต่งงานห้าสิบปี เจ้าก็เลยส่งคนไปตีขาของเขาหักทั้งสองข้าง…”ความตะลึงงันปรากฏขึ้นในแววตาของนาง มองดูผู้ชายตรงหน้า ราวกับเป็นปีศาจอสุรกายนั่นไม่ใช่สัตว์เดรัจฉานนั่นเป็นมนุษย์เป็นๆ ที่มีชีวิตนะ! “เฟิงเย่เสวียน คนคนนั้นเป็นมนุษย์! หรือว่าในสายตาของเจ้า ชีวิตมนุษย์ไร้ค่าเหมือนต้นหญ้า บอกฆ่าก็ฆ่าเลย บอกตายก็ตายเลย!”มนุษย์ทุกคนล้วนเป็นไข่มุกในฝ่ามือของบิดามารดา มีเลือดมีเนื้อ ไม่ใช่สุนัขหรือแมว!ผู้ชายคนนี้ ควบคู่กับเด็กหนุ่มที่ถูกเผาตายในค่ายโจร และรวมถึงความเฉยเมยไม่แยแสของเขา ฉู่เชียนหลีในฐานะที่เป็นหมอแทบเป็นบ้าแล้ว“เจ้ามันคนบ้า! เจ้ายัดเยียดสุขโกรธของตัวเองลงบนตัวคนอื่น ดึงดันทำตามใจตัวเอง วิธีการโหดเหี้ยม เจ้าไม่ใช่คน!”ใช้อำนาจบาตรใหญ่รังแกคนแตกต่างอะไรกับพวกขุนนางโกงกินเอาผลประโยชน์ส่วนรวมไปเป็นของตัวเอง?เฟิงเย่เสวียนเปิดริมฝีปากบาง เสียงสายหนึ่งดังอยู่ในลำคอเหอะ!ในที่สุดนางก็พูดความในใจออกมาแล้วในสายตาของนาง เขามันน่ารังเกียจ ไร้ยางอายและอัปลักษณ์เช่นนี้นี่เอง!“ต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับคนบ้าที่โหดเห

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 136

    เฟิงเย่เสวียนกดนางไว้ด้วยมือข้างเดียวโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง มืออีกข้างที่ว่างโอบเอวบางของนาง มือลูบไปที่หน้าท้อง จับผ้าคาดเอว พลันกระชาก“ปล่อยข้า!”“ข้าไม่เอา!”ฉู่เชียนหลีดิ้นรนอย่างสุดชีวิต นางไม่มีทางมีความสัมพันธ์กับผู้ชายที่ตัวเองไม่ได้ชอบเฟิงเย่เสวียนเหลือบมองนางจากเบื้องสูง “ผู้หญิงเป็นคนปากไม่ตรงกับใจเสมอ บอกว่าไม่เอา ก็คือจะเอา”ฉู่เชียนหลีโมโหจนดวงตาแดงก่ำ“เจ้าไปหาเซียวจือฮว่า อย่าทำข้า!”นางเกลียดนางโมโหนางไม่อยากกลายเป็นของเล่นของผู้ชาย“เหตุใดจึงทำหน้าเหมือนถูกขืนใจ?” เฟิงเย่เสวียนจับเสื้อผ้าบนไหล่ของนาง พลันดึงลงข้างล่าง “ตอนอยู่ในถ้ำภูเขากว่างหนิง เจ้าตอบสนองข้าอยู่นะ!”“เฟิงเย่เสวียน!”อย่าพูดถึงเรื่องของภูเขากว่างหนิง!นึกถึงกระโดดหน้าผา นึกถึงถ้ำ นึกถึงการจงใจวางแผนของเขา และความซาบซึ้งที่นางไม่รู้อะไรเลย คิดเพียงอยากตบตนเองให้ตายในฝ่ามือเดียวนางโง่เขลายิ่งนัก!นางกลับเชื่อว่าหมาป่าที่กินเนื้อมนุษย์มีความรู้สึก!“ปล่อยข้า! หากเจ้ากล้าแตะต้องข้าแม้แต่ปลายนิ้ว ข้าฆ่าเจ้าแน่!” นางออกแรงทั้งหมดในร่างกาย ดิ้นรนจนเส้นเลือดปูดขึ้นที่หน้าผาก เบ้าตายิ่งแดงก่

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 137

    ในเมื่อเรื่องของผู้ชายคนนั้นกับโจรภูเขามีเลศนัย เหตุใดเฟิงเย่เสวียนจึงไม่บอกนาง?ปล่อยให้นางเข้าใจผิด?เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของนางทั้งหมด เขาก็มีส่วนผิดเช่นกัน ใครใช้ให้เขามีปากแต่ไม่พูด?“อืม!”รอหานเฟิงพูดจบ นางตอบรับอย่างเฉยเมย ก็จะไปทันทีหานเฟิง “?”ความเข้าใจผิดได้คลี่คลายแล้ว ควรจะดีกันเหมือนก่อนหน้านี้ไม่ใช่หรือ?“พระชายา…”“มีอะไรอีก? ขยันเรียกเช่นนี้ จะให้ข้าป้อนข้าวเจ้าหรือ?” ฉู่เชียนหลีตำหนิเขา“ข้าน้อยไม่กล้าขอรับ!” หานเฟิงตระหนกตกใจ“ฮึ!”นายกับบ่าวคู่นี้เหมือนกันไม่มีผิด ทำหน้าเย็นชา ให้ตายก็ไม่ยอมอธิบายแม้แต่ครึ่งคำ เหมือนกับว่าพูดให้ชัดเจน ก็จะเป็นการเอาชีวิตของพวกเขาต้องมีสะดุดสักวัน!ฉู่เชียนหลีสะบัดแขนเสื้อเดินจากไปหานเฟิงมองแผ่นหลังที่เดินจากไปของนาง จิกผมอย่างทุกข์ระทมเล็กน้อยทั้งๆ ที่ไม่เป็นอะไรแล้ว เหตุใดจึงยังโกรธ?ทั้งๆ ที่ตอนอยู่ภูเขากว่างหนิงยังดีกันอยู่เลยหัวใจของผู้หญิง เข็มใต้มหาสมุทร เข้าใจยากยิ่งนัก…สวรรค์โปรดคุ้มครอง ต่อไปเขาจะไม่ทุกข์เพราะความรักเด็ดขาดหานเฟิงเก็บตำลึงเงิน เตรียมไปรายงานข่าวที่ห้องหนังสือ เด็กรับใช้ที่เฝ้าประ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 138

    ฉู่เชียนหลีตะลึงงันก่อน จากนั้นรีบลุกขึ้น“เร็ว!”เยว่เอ๋อร์ปลื้มปีติ รีบเปิดประตู ต้อนรับท่านอ๋องเข้ามาฉู่เชียนหลี “รีบไปเอากลอนประตูมา ขัดประตูให้เรียบร้อย!”เยว่เอ๋อร์ “?”ฉู่เชียนหลีวิ่งไปปิดประตูด้วยความเร็วราวกับจะไปเกิดใหม่ แต่ช้าไปหนึ่งก้าว ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งได้ยื่นเข้ามาแล้ว และผลักประตูเปิดอย่างแรงสีหน้าของเฟิงเย่เสวียนบูดบึ้งเป็นพิเศษนางไม่อยากเจอเขาถึงขนาดนี้เลยหรือ…มองไปทางฉู่เชียนหลีที่ยังหอบกลอนประตูไว้ในอ้อมแขนด้วยสีหน้าบูดบึ้ง รู้สึกเพียงขมับเต้นตุบๆ “เปลี่ยนเป็นผู้ชายอารมณ์ร้ายคนอื่น ภรรยานิสัยเช่นนี้ ถูกลากไปปรนนิบัติด้วยกระบองนานแล้ว”ฉู่เชียนหลีเชิดคาง“เช่นนั้นเจ้าก็มอบหนังสือหย่าให้ข้าสิ แค่พูดจะมีประโยชน์อะไร”เยว่เอ๋อร์ถลนตา “?!”โตจนป่านนี้แล้ว ยังไม่เคยเห็นใครใจกล้ายั่วยุท่านอ๋องเช่นนี้… เฟิงเย่เสวียนยิ้มอย่างเย็นชา “ข้าก็อยากหย่าเจ้าเช่นกัน มีพระชายาที่โง่เขลาเช่นนี้ ดึงระดับของข้าให้ต่ำลงจริงๆ”ฉู่เชียนหลีชะงักกะทันหัน “...”นางรู้ว่าเขากำลังหมายถึงอะไร…เชี่ย!เรื่องของภูเขากว่างหนิง นางไม่รู้เสียหน่อยเรื่องที่ผู้ชายคนเมื่อคืนเป็นส

Latest chapter

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1156

    ฉู่เชียนหลีจากไปห้าที่หก เจียงเป่ยประกาศหนังสือสงครามต่อเจียงหนาน เนื้อหามีอยู่ว่า คืนองค์หญิงเฟิงเจิ้งลู่ฉินภายในสามวัน ไม่คืนยกทัพบุกโจมตีเหตุผลเห็นสมควรอย่างยิ่งขอลูกสาวของตัวเองคืนหลังจากฉู่เชียนหลีรู้ อารมณ์สับสนอย่างบอกไม่ถูก เพราะนางรู้ว่าเฟิงเจิ้งหลีไม่ได้รักเฟิงเจิ้งลู่ฉิน เขาแค่ต้องการใช้ข้ออ้างขอลูกสาวคืน เพื่อบุกโจมตีเจียงหนาน“พระชายา ทำอย่างไรดี?”อวิ๋นอิงถามพื้นห้องถูกปูด้วยพรมหนาๆ เด็กทั้งสามคนวิ่งเล่นบนนั้น สะดุดล้ม ชนกัน กระแทกกัน ถูกพรมปกป้องอย่างดี ไม่ได้รับบาดเจ็บหลายวันที่อยู่ด้วยกัน เด็กทั้งสามคนคุ้นเคยกันแล้ว และเล่นด้วยกันอย่างมีความสุขเจ้าไล่ข้า ข้าไล่เจ้าคลานไป คลานมาเจ้าแย่งขวดนมของข้า ข้าหยิกหน้าของเจ้า พูดอีอาๆ แม้ไม่มีใครฟังเข้าใจฉู่เชียนหลีนั่งอยู่ที่ข้างโต๊ะ มองไปทางลู่ฉินลู่ฉินคลอดก่อนกำหนด รูปร่างผอมและยังมีโรคหัวใจ เหมือนกับตุ๊กตาที่อ่อนแอตัวหนึ่งเฟิงเจิ้งหลีไม่รักนาง ฉู่เจียวเจียวไม่ชอบนาง ถ้าหากนางกลับเจียงเป่ย ยังไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไร…ขณะที่นางกำลังกังวล ลู่ฉินที่กำลังคลานเล่นเหมือนรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง คลานไปที่ตรงหน้า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1155

    เฟิงเจิ้งหลีมาถึงตำหนักของไท่ซ่างหวงเหมือนไท่ซ่างหวงคาดการณ์ไว้นานแล้ว กำลังนั่งพิงบนหัวเตียงรอเขา สายตาของสองพ่อลูกบรรจบกันกลางอากาศเกิดความเงียบขึ้นชั่วพริบตาผ่านไปครู้หนึ่ง เฟิงเจิ้งหลีเดินเข้าไปอย่างเหนื่อยล้า “เหตุใดไม่ไป?”เขาทิ้งร่างกายที่หนักอึ้งนั่งลงไป ระหว่างคิ้วเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แม้แต่เสียงพูดก็แหบ โดยรวมแล้วดูโทรมมากราวกับบาดเจ็บสาหัสสำหรับเขานั่น ถูกคนที่ชอบและเชื่อใจที่สุดหักหลังและทิ้ง ก็คือการทำร้าย ทิ้ง…เขาเกลียดคำนี้ที่สุดในชีวิตไท่ซ่างหวงมองดูลูกชายที่คล้ายเขาห้าส่วนตรงหน้า และคล้ายมารดาของเขาห้าส่วน พริบตาเดียว ลูกชายก็โตเช่นนี้แล้ว และเขาก็ขาดความรักมากมายเหลือเกินในดวงตาที่ขุ่นมัว เผยให้เห็นความรู้สึกผิดหลายส่วน“ถ้าหากข้าไปแล้ว เจ้าจะไม่เหลือญาติแม้แต่คนเดียว”“!”ร่างกายเฟิงเจิ้งหลีสั่นสะท้าน แผ่นหลังแข็งฉับพลันญาติ…ตั้งแต่เล็กจนโต นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านพ่อใช้คำนี้เรียกความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา“หลีเอ๋อร์ ข้ารู้ หลายปีมานี้ พ่อติดค้างเจ้าเยอะมาก พ่อให้ความสำคัญกับบ้านเมืองจนมองข้ามเจ้า ในใจพ่อรู้สึกผิดนัก” ไท่ซ่างหวงกล่าวอย่า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1154

    คืนแรกที่ออกจากเมืองหลวงฉู่เชียนหลีนอนไม่หลับ…เมืองหลวงอันไกลโพ้นที่อยู่อีกฟากของแม่น้ำอูหลาน วังหลวงจุดเทียนสว่างไสวในยามค่ำคืนที่มืดมิด เหล่านางกำนัลถือโคมไฟ ก้มหน้าเดินผ่านยังเงียบๆ ไม่มีใครกล้าพูดมากตำหนักเจาหยางทุกที่มืดมิด ไร้ผู้คน และไม่มีเทียนแม้แต่เล่มเดียว เหมือนกับถูกความมืดกลืนกิน เงียบราวกับดินแดนไร้ผู้คนแต่ท่ามกลางความมืดนั่น กลับมีเสียงหายใจเย็นๆ สายหนึ่งเบาจนแทบไม่ได้ยิน เฟิงเจิ้งหลีนั่งอยู่บนบันได ร่างกายของเขากลมกลืนกับความมืดจนมองเห็นแทบไม่ชัด ดวงตาคู่นั้นฉายแสงในความมืด ราวกับจมอยู่ในเหวลึกอันไร้ที่สิ้นสุดในอดีตที่นี่เคยมีเสียงหัวเราะของเด็กๆ เคยมีรอยยิ้มของนาง ท่าทางที่อ่อนโยนของนาง และเสียงอันนุ่มนวลที่พูดคุยกับเขา ภาพเหล่านั้นเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดยังคงอยู่ในสมองของเขา ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาชัดเจนมากตราตรึงมากนางเคยพูด อยู่ข้างกายเขา รู้สึกสบายใจมากนางเคยพูด จื่อเยี่ยชอบเขา นางก็จะดีกับเขานางเคยพูด…คำพูดไพเราะนางเป็นคนพูด เรื่องใจร้ายก็นางเป็นคนทำล้วนเป็นนาง!ฉู่เชียนหลี!โกหกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเชื่อครั้งแล้วครั้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1153

    “คุณหนูอย่าคิดมาก แม้องค์หญิงแคว้นหนานยวนท่านนี้น่ารังเกียจไปบ้าง แต่นางทำงานเสร็จ ก็น่าจะกลับแคว้นแล้ว ก็แค่เจอกันชั่วคราว ทำอะไรไม่ได้หรอก” จิ่งอี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมฉู่เชียนหลีไม่ได้คิดมากอย่างไรก็ตามผู้ชายอย่างเฟิงเย่เสวียนที่อายุยังน้อย รูปร่างหน้าตาโดดเด่น มีฐานะมีอิทธิพล สมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง มีผู้หญิงมากมายชอบก็เป็นเรื่องปกติถ้านางจะถือสา คนมากมายเช่นนั้น จะถือสาไหวได้อย่างไร?นางนึกถึงเรื่องของกู่แพทย์ มองจิ่งอี้อย่างจริงจัง เห็นสีหน้าของเขาค่อนข้างซีดเหมือนคนป่วย ก็รู้แล้วว่าเขากำลังใช้ร่างกายตัวเองเลี้ยงกู้แพทย์“เลี้ยงรอดหรือไม่?” นางถามเบาๆมีการบันทึกในตำราโบราณ กู่แพทย์ชนิดนี้อ่อนแอเลี้ยงยาก เผลอไม่ระวังนิดเดียวก็จะตาย สิ่งที่ทำมาก่อนหน้านี้ก็เปล่าประโยชน์จิ่งอี้หลุบตา เสียงเบามาก“เลี้ยงแล้วสามสิบกว่าตัว ในที่สุดก็เลี้ยงรอดสองตัว…”กู่แพทย์สองตัวนี้ ตอนนี้ถูกเขาเก็บไว้ในหน้าอก พกติดตัวไปทุกที่ ต่อให้เป็นเวลานอน ก็จะนำออกมาดูเป็นระยะกลัวว่าพลั้งเผลอนิดเดียว พวกมันก็จะตายฉู่เชียนหลีเหลือบมอง “อวิ๋นอิงรู้หรือไม่?”“นางไม่รู้ขอรับ คุณหนู อย่าพูดถ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1152

    เป็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดปีใบหน้างดงาม การแต่งกายดูขี้เล่นแต่ยังคงสูงศักดิ์ มัดมวยผมและถักเปียหางม้า ซึ่งบ่งบอกว่านางยังไม่แต่งงาน กระโดดออกมาปรากฏตัว ท่าทางที่สดใสร่าเริงนั่น ทำให้ดูเข้าถึงได้ง่ายมากฉู่เชียนหลีเหลือบมอง“เจ้าคือ…”“ข้าชื่อจวินลั่วยวน เป็นองค์หญิงแคว้นหนานยวน”นางแนะนำตัวเอง เสียงนั่นเหมือนนกขมิ้นที่บินออกจากหุบเขา สดใสไพเราะ“อ๋องเฉินกับฮ่องเต้ตงหลิงสู้กัน เสด็จพ่อให้ข้ามาช่วยอ๋องเฉินที่เจียงหนาน ก็เพราะข้าแทรกแซง ฮ่องเต้ตงหลิงจึงให้ความสำคัญกับศึกเมืองเทียนสู่เป็นพิเศษ และลงสนามรบด้วยตัวเอง”ไม่เช่นนั้น ยังไม่สามารถล่อฮ่องเต้ตงหลิงออกมาได้ล่อเสือออกจากถ้ำ พระชายาอ๋องเฉินจึงสามารถกลับมาอย่างปลอดภัยพูดถึงก็ล้วนเป็นผลงานของนางฉู่เชียนหลีเข้าใจแล้วองค์หญิงของแคว้นหนานยวนท่านนี้ ได้ยินมานานแล้วว่าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของฮ่องเต้หนานยวน เป็นแก้วตาดวงใจที่เหมือนไข่มุกงามบนฝ่ามือ ถูกเอาใจใส่อย่างดีตั้งแต่เด็ก“รบกวนองค์หญิงแล้ว” นางพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ถือเป็นมารยาทจวินลั่วยวนประหลาดใจเล็กน้อย “?”แค่นี้?ไม่มีแล้ว?พูดแค่สี่คำก็แสดงความขอบค

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1151

    เด็กน้อยที่ดูกลัวๆ ในตอนแรก เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เหมือนกับเจอที่พึ่งพิง เบ้าตาแดงก่ำ มุดเข้าไปในอ้อมแขนของนาง“อุแว้!”ร้องไห้เสียงดังนางกลัวมากแม่ของนางไม่อยู่ นางถูกคนรับใช้โยนไปโยนมา กินไม่อิ่ม นอนไม่หลับ และยังไม่กล้าร้องไห้ เพราะไม่มีใครกล่อมนางอย่างอ่อนโยนและอดทนเหมือนท่านแม่ในที่สุดก็ได้กลิ่นที่คุ้นเคยแล้วไม่สามารถควบคุมความน้อยใจที่กดเอาไว้ได้อีกต่อไป ปล่อยโฮร้องไห้“ฮือๆ…”สองมือจับเสื้อฉู่เชียนหลี มุดเข้าไปในอกของนางก็ร้องไห้อวิ๋นอิงยกมือขวาขึ้น รีบรับรองทันที “พระชายาวางใจได้ ตอนที่ท่านไม่อยู่ พวกเราดูแลลู่ฉินอย่างดี ไม่มีใครรังแกนางแน่นอน นางน่าจะคิดถึงท่านมาก จึงร้องไห้เช่นนี้”“ท่านไม่รู้หรอก แม้ลู่ฉินยังเล็ก แต่นางรู้ว่าใครเป็นใคร นางจะเอาท่านคนเดียว พึ่งพาท่าน คิดถึงท่าน”หัวใจฉู่เชียนหลีละลายตั้งแต่เด็กคนนี้เกิดมา นางเลี้ยงเองกับมือมาโดยตลอด และความเชื่อใจและการพึ่งพาที่เด็กมีต่อนาง ก็คือการตอบแทนที่ดีที่สุด“ไม่ร้องนะ”นางเช็ดน้ำตาเบาๆ “แม่กลับมาแล้ว ต่อไปจะไม่ไปอีกแล้ว”ในเมื่อเฟิงเจิ้งหลีกับฉู่เจียวเจียวไม่เอาเด็กคนนี้ นางเลี้ยงเอง“แม่…”เสียง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1150

    ท้ายที่สุดเฟิงเจิ้งหลีก็ไม่ได้ลงมือกองทัพทั้งสองฝ่ายประจันหน้ากันในระยะไกลทั้งเช่นนี้เฟิงเย่เสวียนกอดฉู่เชียนหลีไว้ จับเชือกบังเหียนม้าแน่น ขี่ม้าจากไปเฟิงเจิ้งหลียืนอยู่ที่ข้างแม่น้ำ ร่างกายที่บอบบางถูกลมเย็นพัดจนเสื้อคลุมพลิ้วไหว สีหน้าซีดเผือด แววตาอ่อนล้า มุมปากยังมีคราบเลือด ยืนมองนิ่งๆ ทั้งเช่นนี้…มอง…รอหลังจากขบวนของอ๋องเฉินหายลับตา เขายังคงยืนอยู่ข้างแม่น้ำ เนิ่นนานก็ไม่ขยับสองเท้าหนักเหมือนถูกถ่วงด้วยตะกั่ว สายตามองตรงไปข้างหน้ากลิ่นอายรอบตัวขรึมมาก สีหน้าแยกไม่ออกว่าดีใจหรือโกรธชั่วขณะ ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากหรือเข้าไป…เจียงหนาน เมืองน้ำ[1]  อากาศเย็นสบาย สภาพแวดล้อมดีมากขบวนตรงไปที่ทำเนียบ“ท่านอ๋องกลับมาแล้ว!”“พระชายา?!”เมื่อคนที่เข้ามาต้อนรับเห็นฉู่เชียนหลี แต่ละคนเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อน แต่หลังจากนั้นก็ดีใจ“พระชายากลับมาแล้ว!”“พระชายากลับมาแล้ว!”เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจดังก้องไปทั่วท้องฟ้า จากหนึ่งเป็นสิบ จากสิบเป็นร้อย ข่าวแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วอวิ๋นอิง จิ่งอี้ เฟิ่งหราน คนมากมายรีบมาไม่เจอครึ่งปี มิตรภาพยังคงอยู่“พระชายา ในที่สุ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1149

    แสงแห่งรุ่งอรุณยามเช้าริบหรี่เวลาหนึ่งคืนเดียว เร่งเดินทางจากเมืองหลวงไปยังแม่น้ำอูหลาน ในช่วงที่ฟ้าใกล้สว่าง คนทั้งกลุ่มข้ามแม่น้ำเมื่อเดินไปถึงครึ่งทาง จุดที่ไกลออกไป มีขบวนอีกกลุ่มมุ่งหน้ามาอย่างเร่งรีบราวกับกระแสน้ำ สายลมเย็นยามเช้าพัดผ่าน เหมือนกับทัพใหญ่เข้าใกล้ชายแดน บรรยากาศที่กดดันอบอวลกลางอากาศหานเฟิง “นายท่าน อ๋องหลีมาแล้ว…”ขบวนสองกลุ่ม พบกันที่แม่น้ำอูหลานเฟิงเย่เสวียนอยู่บนสะพานเฟิงเจิ้งหลีอยู่บนฝั่งหยาดน้ำฟ้าตก สายน้ำไหลเชี่ยว สาดซัดเข้าฝั่ง หยดน้ำกระเซ็น ในอากาศเต็มไปด้วยความหนาวเย็น สองพี่น้องยืนสบตากันจากระยะที่ห่างกันหลายเมตรอยู่ไกลเกินไป แทบมองไม่เห็นอะไรเลยแต่ก็เหมือนกับว่าพวกเขามองเห็นอีกฝ่ายอย่างชัดเจน ใช้สายตาประลองกันเงียบๆ“ฝ่าบาท” รองแม่ทัพเอ่ยปาก “นี่คือโอกาสดีในการกำจัดอ๋องเฉิน ถือโอกาสตอนที่พวกเขายังอยู่บนสะพาน พวกเราระเบิดสะพาน ให้พวกเขาตกลงไปในน้ำที่ไหลเชี่ยว ไม่ตายก็เหลือแค่ครึ่งชีวิตแน่นอน!”เขาคิดว่า นี่เป็นวิธีที่เหมาะสมมากอ๋องเฉินข้ามสะพานไปครึ่งหนึ่งแล้ว ต่อให้วิ่งไปอีกฝั่งของแม่น้ำ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาครึ่งก้านธูปเวลาครึ่ง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1148

    “เป็นไปได้อย่างไร?”นางกล่าวด้วยความประหลาดใจ “เมื่อห้าวันก่อน ข้าคุยกับเขาแล้ว และจัดการทุกอย่างไว้ให้เขาแล้ว เขาสามารถออกจากวังอย่างราบรื่น นอกเสียจาก…”จู่ๆ นางก็เข้าใจอะไรบางอย่าง เสียงค่อยๆ เบาลงเฟิงเย่เสวียนกล่าวต่อ“เขาไม่อยากไป”ใช่!ไท่ซ่างหวงไม่อยากไปมีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ยังอาลัยอาวรณ์ หรือเพราะสาเหตุอื่น เขาจึงเลือกที่จะอยู่เมืองหลวงแต่ถ้าหากเขาอยู่เมืองหลวง เฟิงเจิ้งหลีต้องหาเรื่องเขาแน่นอนฉู่เชียนหลีเป็นห่วง หลังจากครุ่นคิด ก็เดินออกไปข้างนอกแล้ว“ไม่ได้ ข้าต้องกลับวังหลวง ทิ้งเขาไว้ในเมืองหลวงเพียงลำพังไม่ได้”“ไม่ทันแล้ว”เฟิงเย่เสวียนจับข้อมือของนาง กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “การเคลื่อนไหวเมื่อครู่ทำให้ทุกคนรู้ตัวแล้ว เกรงว่าตอนนี้คนสนิทของเฟิงเย่เสวียนกำลังมา เขาก็อยู่ระหว่างทางกลับเช่นกัน เสียเวลาไม่ได้แล้ว”กำลังหลักของเขาอยู่ที่เจียงหนานไม่เหมาะที่จะอยู่เมืองหลวงนาน ครึ่งปีมานี้ วิธีการของเฟิงเจิ้งหลีเหี้ยมโหด กำจัดพวกต่อต้าน รวบอำนาจเข้าด้วยกัน เมืองหลวงเป็นถิ่นของเขา อยู่ในถิ่นของเขา พวกเขาเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status