แชร์

บทที่ 65

ผู้เขียน: อันชิงซิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-26 13:59:11
องค์รัชทายาทอายุสิบเจ็ด อายุน้อยกว่าจิ้นอ๋องเพียงสามปีเท่านั้น

เพียงแต่องค์รัชทายาทดูแล้วมีกลิ่นอายของความเป็นบัณฑิตค่อนข้างมาก ถึงแม้ว่าจะมีรูปโฉมคล้ายคลึงกับจิ้นอ๋อง ทว่าโครงหน้ากับปลายจมูกของเขาไม่ดุดันเหมือนจิ้นอ๋อง ริมฝีปากก็อวบอิ่มเล็กน้อย มองดูเย็นชาน้อยลง และมีความอ่อนโยนสดใสมากขึ้น

ฮ่องเต้ปรายตามองเขาแวบหนึ่ง พลางขมวดคิ้ว “เจ้าจะไปทำอันใด? อยู่เฝ้าพระศพที่นี่ เจ้าเป็นถึงองค์รัชทายาท เดิมทีก็ควรจะทำให้ดีกว่าบรรดาพี่ชายของเจ้าอยู่แล้ว ทำตนให้เป็นแบบอย่าง”

องค์รัชทายาทเกาะติดจิ้นอ๋องถึงเพียงนี้เชียวหรือ?

“โจวเจ๋ออยากไปก็ไป กลับมาค่อยมาเฝ้า” จิ้นอ๋องกลับเอามือมาจับบนแขนของโจวเจ๋อไว้ “ไป”

ดูราวกับว่าเขาเพิ่งจะลุกขึ้นและยังยืนไม่ค่อยมั่นคง องค์รัชทายาทจึงรีบประคองให้ดีในทันที

“เสด็จพ่อ เมื่อลูกกลับมาจะมาเฝ้าพระศพต่อพ่ะย่ะคะ”

ฮ่องเต้แค่นเสียงออกมา จากนั้นกล่าวเสียงดังไปทางเหล่าองค์ชาย “เช่นนั้นเจ้ารองก็ไปด้วยกันเถิด”

นัยน์ตาขององค์ชายรองฉายแววแห่งความปิติ รับคำอย่างรวดเร็วแล้วมาด้วยกัน

“เสด็จพ่อ กระหม่อมประคองพระองค์นะพ่ะย่ะค่ะ” เขาเดินเข้ามา พลางประคองฮ่องเต้อย่างรวดเร็ว

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 66

    ไม่ได้ขาดสมดุลแต่อย่างใด“คงเป็นเพราะลมพัดกระมัง?”ฮ่องเต้เอ่ยจบก็ยังตกตะลึงเอง เพราะเขาไม่รู้สึกถึงลมอะไรเลยจิ้นอ๋องมององค์รัชทายาทวางป้ายวิญญาณกลับเข้าที่อีกครั้งด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย “รอดูไปก็พอ”ในสายตาของผู้คนมากมายขนาดนี้ มาดูกันว่าป้ายวิญญาณจะล้มได้อย่างไร“ในเมื่อข้ามาแล้ว เช่นนั้นก็จุดธูปเถิด” ฮ่องเต้รู้สึกว่าการยืนอยู่เฉย ๆ มันแปลกไปหน่อย จื้อเซินรีบเดินเข้ามาจุดธูปอย่างรวดเร็วองค์รัชทายาทกับองค์ชายรองถือธูปไว้ เมื่อจะส่งให้จิ้นอ๋อง จิ้นอ๋องก็โบกมือและไม่รับ “ของข้านั้นไม่ต้องหรอก”จื้อเซินรู้สึกแปลกเล็กน้อย เหตุใดถึงไม่ต้องเล่า?ฮ่องเต้พาองค์รัชทายาทกับองค์ชายรองไปคุกเข่าจุดธูป และเมื่อปักธูปลงบนกระถางธูป หลายคนก็จ้องไปที่ป้ายวิญญาณอย่างไม่ละสายตาผ่านไปนานมาก ป้ายวิญญาณนั้นก็ยังคงไม่ขยับ และมั่นคงมากฮ่องเต้มองไปทางจื้อเซิน“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?​” ไหนบอกว่าประคองไม่ขึ้นอย่างไรเล่า?จื้อเซินก็แปลกใจเช่นเดียวกันซือเจินกับเจี้ยชือมองหน้ากัน ขณะเดียวกันศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสองก็เกาศีรษะที่ทั้งกลมและเป็นประกายอย่างไม่เข้าใจ“เอ๊ะ..”“พวกเจ้าล้อข้าเล่นหรือ?” ฮ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 67

    อวิ๋นป๋อถูกเสียงดังปลุกจนตื่น หลังจากตื่นขึ้นมาเขาก็ตอบรับไปด้วยพลางสวมเสื้อผ้าไปด้วย ก่อนจะไปเปิดประตูแต่ในช่วงที่เปิดประตูมาเห็นชิ่งหมัวมัวในขณะนั้น จู่ ๆ เขาก็นึกอะไรออก และตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง“เป็นอย่างไรบ้าง?”ชิ่งหมัวมัวถามจบก็มองดูเขา อวิ๋นป๋อดู ๆ ไปแล้ว เหมือนไม่ได้อ่อนแรงขนาดนั้นอวิ๋นป๋อสติกลับคืนมา “เมื่อคืนข้านอนหลับสบายเหลือเกิน”“จริงหรือ?”“จริงสิ” อวิ๋นป๋อพยักหน้าเล็กน้อย และตอนนี้เขาตอบสนองกลับมาแล้ว ชิ่งหมัวมัวก็แค่ตั้งใจเข้ามาดูว่าเขาหลับสบายดีหรือไม่โดยเฉพาะชิ่งหมัวมัวตบหน้าขาไปหนึ่งทีการกระทำแบบสามัญชนเช่นนี้ เมื่อก่อนนางอยู่ในวังคงไม่ทำเป็นแน่ แต่อยู่ในจวนอ๋องมานานหลายปีขนาดนี้ นางก็ผ่อนคลายลงไม่น้อย“ไอ้หยา! คุณหนูรองลู่ช่างสุดยอดจริงๆ!”เมื่อพูดคำนี้จบ นางก็ยื่นมือออกไป “เจ้าเอาถุงหอมนั่นคืนข้ามา”เวลานี้อวิ๋นป๋อเข้าใจอะไรได้แล้ว จึงจับปากกระเป๋าแน่น “ไม่ใช่มอบให้ข้าหรือ?”ดูเหมือนว่าจะเป็นผลมาจากถุงหอมนั่นจริงๆ!เมื่อวานเขาก็ไม่ได้ดู หรือว่าในนั้นจะบรรจุยาระงับประสาทอะไรไว้?“เอามา! มอบให้อะไรกัน เจ้าฝันไปเถอะ นั่นเป็นสิ่งที่คุณหนูรองลู่มอบให้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 68

    หลังจากกลับมาถึงเมืองหลวง อู๋ซื่อก็วิ่งไปหลายโรงหมอและเชิญท่านหมออยู่หลายคน แต่ใครก็หมดหนทาง ตอนนี้ความหวังสุดท้ายจึงตกมาอยู่ที่ตัวท่านหมอฝู่แล้ว“ท่านหมอฝู่มาแล้วเจ้าค่ะ!”เด็กรับใช้วิ่งเข้ามา รายงานด้วยความดีใจหลินหรงรีบลุกขึ้นยืน และไปต้อนรับท่านหมอฝู่ด้วยตนเองท่านหมอฝู่พาผู้ช่วยบดยาเข้ามาด้วย และเมื่อเห็นหลินหรง เขาก็ตกตะลึงเล็กน้อย “ใต้เท้าหลินหรือ?”“ท่านหมอฝู่ยังจำข้าได้อยู่อีกหรือขอรับ?”หลินหรงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะเขาจากเมืองหลวงมาสิบปีแล้ว และเมื่อสิบปีก่อนท่านหมอฝู่ต้องลาออกจากในวังพอดี ความจริงพวกเขาก็เคยเจอกันไม่กี่ครั้ง คิดไม่ถึงว่าท่านหมอฝู่จะยังจำเขาได้“ปีนั้นฮ่องเต้เคยชื่นชมใต้เท้าหลิน ทรงตรัสว่าใต้เท้าหลินเป็นคนซื่อตรง และตัดสินคดีราวกับเทพพระเจ้า ดังนั้นหมอชราเช่นข้าจึงรู้สึกประทับใจมาก”หลินหรงยกกำปั้นขึ้นและโค้งคำนับไปทางพระราชวัง“ข้าไม่สมควรได้รับการชื่นชมจากฮ่องเต้หรอกขอรับ”เดิมทีคิดว่าการกลับมาเมืองหลวงครั้งนี้จะมีโอกาสได้พบไท่ช่างหวงอีกครั้ง คิดไม่ถึงว่าไท่ช่างหวงจะกลับคืนสู่สวรรค์เสียแล้ว“ไปเถิด ไปดูบุตรสาวของท่านก่อน” ท่านหมอฝู่เอ่ยหลิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 69

    หลินหรงเป็นคนที่สังเกตสีหน้าและคำพูดได้ดี เมื่อเห็นท่าทางของท่านหมอฝู่ เขาก็รู้สึกผิดปกติในทันที“ท่านหมอฝู่ บุตรสาวข้าป่วยเป็นอะไรหรือ?”ท่านหมอฝู่ลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยังตัดสินใจเอ่ยตามจริง“บุตรสาวท่านอายุสิบสี่ปีหรือ?”“ใช่เจ้าค่ะ” อู๋ซื่อพยักหน้าอย่างตึงเครียด ทำไมหรือ ตัวเลขอายุนี่หรือว่ามีปัญหาอะไร?“เพียงแต่ตอนนี้นางร่างกายอ่อนแอลง ลมหายใจก็ด้วย และชีพจรก็ราวกับหญิงชราอายุหกสิบ ”เพราะมือคู่นั้นของหลินเยียนหราน ก็คือมือของหญิงชราอย่างไรเล่า“ท่านว่าอย่างไรนะเจ้าคะ?”อู๋ซื่อถูกกระทบกระเทือนอย่างหนัก จนเกือบทรุดลงไปนั่งกับพื้น แต่หลินหรงก็รีบเข้ามาพยุงนางไว้ “ท่านหมอฝู่ นี่มันหมายความว่าเช่นไรหรือ?”ท่านหมอฝู่ขมวดคิ้วแน่น “ก็คือนางแก่ตัวอย่างรวดเร็ว ชีพจรเห็นได้ชัดว่าร่างกายของนางในตอนนี้ดูเหมือนหญิงชราที่อ่อนแอ และแทบจะไม่มีชีวิตชีวาอะไรเลย”เด็กที่เพิ่งจะอายุสิบสี่ปี เดิมทีชีพจรควรเต้นถี่ เพราะการเต้นของหัวใจกับการไหลเวียนเลือดล้วนมีพลังชีวิตในตัวมันเอง อีกอย่าง ผิวหนังกับเลือดเมื่อกดลงไปมันก็จะมีความยืดหยุ่นที่แตกต่างกัน เพียงแต่ผลลัพธ์ที่เขาเพิ่งตรวจสอบ ร่างกายข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 70

    ท่านหมอฝู่มองไปทางอู๋ซื่อ “คุณหนูรองลู่เคยบอกอะไรกับท่านหรือ?”“คุณหนูรองลู่?”“ก็แม่นางที่ให้ท่านมาหาข้าคนนั้นอย่างไรเล่า ท่านไม่ได้บอกว่าท่านไปส่งนางมาหรือ?”นั่นก็คือคุณหนูรองลู่หรือ?อู๋ซื่อรีบเล่าทุกสิ่งที่ลู่เจาหลิงบอกกับนางอีกรอบหนึ่งนางมองท่านหมอฝู่อย่างตึงเครียด “คุณหนูรองลู่ท่านนั้นก็คือท่านหมอหรือเจ้าคะ? และนางก็เป็นลูกศิษย์ของท่านหมอฝู่ด้วย?” รับหมอหญิงไว้สักคน ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่แปลกมากนักแต่ท่านหมอฝู่ได้ยินคำพูดของนาง เคราก็กระตุก รีบโบกมือ“นี่จะเป็นไปได้อย่างไร ข้าเป็นอาจารย์ให้นางไม่ได้หรอก!”คุณหนูรองลู่ดูเหมือนจะไม่ได้เอ่ยอะไร แต่ก็อาจเป็นเพราะนางไม่ได้เห็นหลินเยียนหรานด้วยตาตนเอง?ท่านหมอฝู่คิดเรื่องนี้อยู่ในใจ แต่ก็ไม่กล้าคิดเองเออเอง ให้อู่ซื่อไปหาลู่เจาหลิงเองเขาเปิดตำรับยาให้หลินเยียนหราน และให้คนไปจัดเตรียมยา ส่วนตนเองก็ฝังเข็มให้หลินเยียนหรานเพียงแต่การฝังเข็มนี้ต้องทำติดต่อกันสามวันเมื่อออกมาจากจวนตระกูลหลิน ท่านหมอฝู่ก็อดใจไม่ไหว จึงไปจวนตระกูลลู่อีกครั้งเหล่าหูพ่อบ้านจวนตระกูลลู่สองวันมานี้ใกล้จะเป็นบ้าแล้วเขาพาบุตรชายตามหาหมอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 71

    เมื่อพ่อบ้านเห็นชิงอินนำท่านหมอฝู่ไปหอทิงหน่วน ก็โมโหจนกระทืบเท้าลู่เจาหลิงได้นอนพักผ่อนเต็มที่สองสามวัน ในที่สุดจิตใจก็ฟื้นฟูขึ้นมาบ้างแล้วชิงเป่ากำลังพูดคุยกับนาง“เมื่อคืนไม่รู้ว่าลู่ฮูหยินเกิดบ้าอะไร ถึงได้ส่งเด็กรับใช้สองคนเข้ามา บอกว่าอยากนวดให้คุณหนู แถมยังส่งพวกดอกไม้หอมจำนวนหนึ่ง และอยากจะปรนนิบัติคุณหนูแช่น้ำ บอกว่านั้นคือสิ่งที่เมื่อก่อนองค์หญิงในวังเคยประทานให้ ซึ่งคุณหนูยังไม่เคยได้สัมผัสเลย”นางกับชิงอินปฏิเสธคนมาสองครั้งแล้วก่อนหน้านี้ลู่ฮูหยินมีท่าทีที่ไม่ดีต่อลู่เจาหลิงขนาดนั้น จู่ ๆ มาทำดีกันนาง จะอย่างไรก็ดูแปลกยิ่งนักอีกทั้งลู่เจาหลิงนอนอยู่ตลอด เดิมทีก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาเพื่ออาบน้ำได้โดยเฉพาะ“มีเจตนาแอบแฝง” ลู่เจาหลิงเอ่ย“ใช่เจ้าค่ะ”“คุณหนู ท่านหมอฝู่มาเจ้าค่ะ”ลู่เจาหลิงได้ยินว่าท่านหมอฝู่มา ดวงตาก็เป็นประกายเล็กน้อย “เชิญเจ้าค่ะ”ท่านหมอฝู่เข้ามา และครั้งแรกที่เห็นลู่เจาหลิง ก็ส่งเสียงเอ๊ะออกมา “คุณหนูรองดูเหมือนจะกะปรี้กะเปร่าขึ้นมากแล้ว”เห็นได้อย่างชัดเจนมากเดิมทีใบหน้าเล็กที่ขาวซีดของลู่เจาหลิงในที่สุดก็มีเลือดฝาดขึ้นมาบ้างแล้ว“ขอบคุณสำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 72

    ท่านหมอฝู่เริ่มเล่าเรื่องตระกูลหลินกับนางขึ้นมา“ตระกูลหลินถือว่าเป็นตระกูลขุนนาง หลินหรงเป็นรุ่นหลังที่โดดเด่นที่สุดของครอบครัวสายหลัก ตอนที่เขาหนุ่ม ๆ ได้ถูกไท่ซ่างหวงในตอนนั้นส่งไปยังเมืองจิงจ้าว เมื่อครั้งเป็นเจ้าเมืองก็ตัดสินคดีได้เฉียบขาด อีกทั้งเที่ยงธรรมไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น จนมีชื่อเสียงอย่างมากในปีนั้นขอรับ”ชิงอินเอ่ย “ใต้เท้าหลิน หลินหรง บ่าวก็จำได้เหมือนกันเจ้าค่ะ”ท่านหมอฝู่พยักหน้าเล็กน้อย และเอ่ยอีกว่า “ภายหลังเพราะคดีเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับใครบางคน ส่วนรายละเอียดของเหตุการณ์พวกเราไม่ทราบและไม่ให้พูดมากด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากครั้งนั้นหลินหรงก็ถูกลดตำแหน่งและส่งไปยังเขตยากจนในพื้นที่ห่างไกล โดยรับตำแหน่งเป็นผู้ว่าการเขต”ถูกลดตำแหน่งแล้วหรือ“หลังจากอู๋ซื่อฮูหยินของหลินหรงมาหาข้า ฝู่ซุ่นก็ไปสืบมาว่าหลินหรงสร้างผลงานมากมายเมื่ออยู่ต่างแดนในช่วงสิบปีมานี้ แถมยังปราบโจรด้วย ครั้งนี้กลับเมืองหลวงมาเพื่อรายงานผลการปฏิบัติงาน และบอกว่าหากไม่มีอะไรผิดพลาด อาจจะได้อยู่ในเมืองหลวงต่อ”“อีกอย่างอู๋ซื่อท่านนั้น บ้านเดิมของนางเป็นคนรวยในเมืองหลวงและมีเงินทองมาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 73

    ลู่เจาอวิ๋นได้ยินฮูหยินลู่เอ่ยถึงแผนการนี้ขึ้นมาก็ตื่นเต้นแล้ว“ท่านแม่ ข้าคิดว่าได้นะเจ้าคะ”ฮูหยินลู่ยังคงลังเลอยู่เล็กน้อย “ข้าคิดว่านางค่อนข้างชั่วร้าย เพิ่งกลับเมืองหลวงก็ปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าจิ้นอ๋องแล้ว และท่านหมอฝู่ปฏิบัติต่อนางดียิ่งนัก หากปล่อยให้นางออกไปอีก ยังไม่รู้เลยว่านางจะมีตัวช่วยเพิ่มมาอีกเท่าใด”ความหมายของสาวใช้ก็คือออกไปด้านนอก จะอย่างไรก็สามารถหาโอกาสให้ลู่เจาหลิงถอดรองเท้าและตรวจสอบปานได้อีกอย่าง เสิ่นเซียงจวิ้นบุตรสาวของอัครมหาเสนาบดีเสิ่นต้องรู้เรื่องพระราชทานสมรสแล้วเป็นแน่ และนางอาจจะไม่ยอมปล่อยลู่เจาหลิงไปง่าย ๆ ด้วยลู่เจาอวิ๋นยิ้มและคล้องแขนนางไว้ “ท่านแม่ ท่านคิดดูนะเจ้าคะ ว่าพวกข้าไปทำอะไร?”“คัดพระคัมภีร์”“ถูกต้องเจ้าค่ะ พวกข้าไปคัดพระคัมภีร์กันหมด ถึงเวลานั้นท่านหญิงฉางหนิงคงจะนำพระคัมภีร์เหล่านั้นถือเข้าวัง บางทีฮ่องเต้ ไทเฮา และฮองเฮาล้วนได้เห็น นี่จึงเป็นโอกาสที่ข้าจะได้ปรากฏตัว แต่น้องรองเติบโตมาจากบ้านนอกนะเจ้าคะ”ไม่นานฮูหยินลู่ก็เข้าใจความหมายของนาง“จริงด้วย ท่านย่ากับลุงสามของเจ้าพวกเขาไม่ได้ให้นังเด็กนั่นร่ำเรียน นางก็แค่เคยเรียนอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 100

    ลู่เจาอวิ๋นถูกพวกนางเยาะเย้ยจนหน้าแดง เบ้าตาก็เริ่มแดงแล้วฐานะของคนเหล่านี้ล้วนสูงกว่านาง และดูถูกนางมาโดยตลอด ถ้าหากไม่ใช่เพราะนางเอาอกเอาใจท่านหญิงฉางหนิงกับเหอเหลียนซิน พวกนางล้วนไม่พอใจนางทั้งๆ ที่นางงดงามกว่าพวกนาง ความสามารถก็เหนือกว่าพวกนาง ชื่อเสียงก็ดีกว่าพวกนาง พวกนางกลับไม่ยอมดีกับนางล้วนเป็นผู้หญิงขึ้ริษยา!แต่ลู่เจาอวิ๋นก็ตีหน้าเศร้าเก่งต่อหน้าคนนอกนางสูดจมูกดังฟืด การแสดงออกบนใบหน้าทั้งน้อยใจและรู้สึกผิด โค้งคำนับพวกนางทีหนึ่ง“เจาอวิ๋นขออภัยทุกท่าน ณ ที่นี้ เพราะน้องหญิงคนนี้ของข้าเพิ่งกลับจากบ้านนอกจริงๆ ท่านพ่อท่านแม่อยากให้นางได้พบกับคุณหนูทุกท่านด้วยความรักและความตั้งใจ เพื่อที่นางจะได้เรียนรู้เรื่องมารยาทและทางโลกบ้าง ข้าจึงพานางมาด้วย”“แต่ข้าก็กลัวดูแลไม่ทั่วถึง จนปล่อยนางไปล่วงเกินทุกท่าน ดังนั้นจึงพาเจาหัวมาด้วยอีกคน ข้าคิดไม่ถึงว่านิสัยของนางจะเถื่อนเช่นนี้ กลับไปข้าจะรายงานท่านพ่อท่านแม่ ให้ท่านพ่อท่านแม่สั่งสอนให้ดีแน่นอน เจาอวิ๋นขอโทษทุกท่านอีกครั้ง”นางลดตัวเช่นนี้ และยังพูดได้ค่อนข้างจริงใจ ประกอบกับไม่ได้ล่วงเกินพวกนาง ต่อไปยังไม่รู้ว่าเหอเหลี

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 99

    เหอเหลียนซินเคยเจอสตรีที่ใจกล้าเช่นนี้และยังอวดดีกว่านางเสียเมื่อไร?ในสมองนางเต็มไปด้วยคำพูดเมื่อครู่ของนางนางถูกฮ่องเต้รับแล้วสกุลเหอสูงส่งกว่าราชวงศ์เหอเหลียนซินรู้แล้ว ถ้าหากคำพูดสองประโยคนี้ถูกเผยแพร่ออกไป นางเสียหน้าไม่ว่า พ่อนางต้องลงโทษนางคุกเข่าในศาลบรรพชนแน่!นางโมโหจนร่างกายสั่น พลันเลือดพลุ่งพล่าน ภาพตรงหน้ามืดดับ เป็นลมไปแล้ว“พี่เหอ!”เดิมทีลู่เจาอวิ๋นก็ควงแขนของนางไว้ จึงรีบพยุงนางขึ้นอย่างตื่นตระหนกเด็กรับใช้ทั้งสองของสกุลเหอเพิ่งหายตาลาย ก็มองเห็นคุณหนูของพวกนางเป็นลม จึงรีบเข้าไปพยุงเหอเหลียนซินโดยไม่มีเวลาสนใจลู่เจาหลิงแล้วกู้ฉิงเบิกตากว้าง ฝ่ามือมีเหงื่อเล็กน้อย นางมองไปทางลู่เจาหลิงมีคนตะโกนสิ่งที่นางคิดในใจออกมา…“นางยั่วคุณหนูเหอโมโหจนเป็นลมไปแล้ว!”ลู่เจาหลิงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนางถอนใจเบาๆ กล่าวชัดถ้อยชัดคำ “โทษข้าไม่ได้นะ คุณหนูเหอท่านนี้มีไฟในตับ ความชื้นหนัก มีอาการคลุ้มคลั่งเล็กน้อย วู่วามได้ง่าย อีกทั้งวันนี้หน้าผากนางหมองคล้ำ เห็นได้ชัดว่าตอนออกจากบ้านไปติดไออัปมงคลมา เดิมทีวันนี้ก็จะดวงซวยอยู่แล้ว”ปากที่เพิ่งหุบลงของทุกคน อ้ากว้า

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 98

    เดิมทีพ่อก็เป็นรองเสนาบดีกรมกลาโหม ได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้ ประกอบกับมีการแต่งงานนี้ เป็นการรวมกันของผู้มีอิทธิพลชัดๆในมุมมองของเหอเหลียนซิน แม้แต่ท่านหญิงฉางหนิงก็ต้องให้เกียรตินางสามส่วน นับประสาอะไรกับกู้ฉิงที่อยู่ตรงหน้า?“คุณหนูเหอ เกิดอะไรขึ้น?” มีคนก้าวออกมาอยากเป็นคนกลาง “เมื่อครู่ท่านหญิงกลับไปเปลี่ยนชุดที่ห้องแล้ว ถ้าหากนางออกมาพบว่าวุ่นวายเช่นนี้…”เมื่อได้ยินอีกฝ่ายยกเอาท่านหญิงฉางหนิงมาพูด ในที่สุดเหอเหลียนซินก็ไม่ได้หาเรื่องกู้ฉิงอีกนางถลึงตาใส่ลู่เจาหัวแวบหนึ่ง ปล่อยนางไปก่อนชั่วคราว อย่างไรเสียคนที่นางรังเกียจที่สุดในตอนนี้คือลู่เจาหลิง!นางเรียกเด็กรับใช้ทั้งสองของตัวเอง “พวกเจ้าไป ให้นางมาคุกเข่าขอโทษข้า!”“เจ้าค่ะ!”เด็กรับใช้ทั้งสองของนางพุ่งพรวดเข้าไปหาลู่เจาหลิงทันทีลู่เจาหัวอุทานอย่างขี้ขลาดทีหนึ่ง และกล่าวเบาๆ ด้วยความเป็นห่วง “พี่หญิงรอง ท่านรีบหนีไป”ลู่เจาอวิ๋นรีบคว้ามือของเหอเหลียนซิน แสร้งห้ามปราม “พี่เหอ ท่านอย่าไปถือสานางเลย…” แต่ก็ไม่เห็นนางไปห้ามเด็กรับใช้สองคนนั้นแม้คนอื่นก็ไม่ชอบพฤติกรรมที่อวดดีของเหอเหลียนซิน แต่พวกนางไม่รู้จักลู่

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 97

    พวกลู่เจาหลิงไม่ถือว่ามาเร็วตอนนี้ในสวนมีคนไม่น้อยแล้วช่วงนี้เป็นปลายฤดูใบไม้ผลิ ไม่ร้อน เย็นสบาย สวนของจวนท่านหญิงปลูกดอกไม้มากมาย บานสะพรั่งสีสันงดงามแต่ตอนนี้ บนพุ่มดอกไม้ถูกประดับด้วยดอกผ้าไหมที่ผูกจากผ้าขาว  และต้นไม้ที่อยู่ข้างๆ มีผ้าโปร่งสีขาวห้อยอยู่ ลอยไปตามสายลมเบาๆสีขาวเหล่านี้ บดบังความงามของดอกไม้ที่บานสะพรั่งเหล่านี้ นี่น่าจะเป็นเจตนาของท่านหญิงฉางหนิง อย่างไรเสีย ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ตรงพื้นที่โล่งกลางสวน มีโต๊ะยาวหลายตัวแบ่งตั้งเป็นสองฝั่ง บนโต๊ะมีพู่กัน น้ำหมึก และกระดาษวางอยู่ถัดจากต้นกล้วยหลายพุ่ม มีศาลาหนึ่งหลัง บนโต๊ะในศาลามีน้ำชาและผลไม้วางอยู่พื้นที่นี้มีเงาจากภูเขาจำลองและต้นไม้ที่อยู่ข้างหน้าสะท้อนลงมาพอดี แต่ยังพอมีช่องว่างให้แสงแดดเล็ดลอดเข้ามาอยู่บ้าง แสงสว่างเพียงพอ และไม่เย็นเกินไปข้างภูเขาจำลองมีถนนเล็กๆ หนึ่งเส้น เดินไปมีบ่อน้ำเล็กๆ ตอนนี้บนผิวของบ่อน้ำมีใบบัวที่เพิ่งงอกออกมาอยู่บ้าง แต่ยังไม่มีกิ่งก้านของดอกยื่นโผล่พ้นผิวน้ำเหล่าคุณหนูที่มาถึงก่อน จับกลุ่มกันตรงนี้สามตรงนั้นสอง มีคนกำลังชมดอกไม้ มีคนกำลังดื่มชา มีคนกำลังอ่านหนังส

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 96

    ลู่เจาหลิงไม่ทน หันไปพูดกับลู่เจาอวิ๋นอย่างเย็นชา “ลู่เจาอวิ๋น ถ้าไม่เข้าไปข้าจะไปแล้วนะ”“มาแล้ว” เดิมทีลู่เจาอวิ๋นก็ค่อยสังเกตการเคลื่อนไหวที่ประตูอยู่แล้ว เมื่อเห็นพวกนางสองคนถูกเด็กรับใช้ขวางไว้ นางยิ้มในใจ แต่เมื่อได้ยินว่าลู่เจาหลิงจะไปนางก็รีบมาทันที จะปล่อยให้ลู่เจาหลิงไปได้อย่างไร?“พี่เหอ นี่คือเจาหลิงน้องรองของข้า”นางควงแขนของเหอเหลียนซินไว้ พลางหันไปกล่าวกับลู่เจาหลิง “น้องรอง รีบเรียกพี่เหอเร็ว”เหอเหลียนซินมองไปทางลู่เจาหลิง สายตาเย็นชาเล็กน้อย“ข้าไม่กล้าให้ว่าที่พระชายาจิ้นอ๋องเรียกพี่หรอก”จิ้นอ๋องกลับเมืองหลวง ได้รับพระราชทานสมรส อีกฝ่ายเป็นเด็กบ้านนอกที่ถูกรับกลับมาจากชนบทข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงแล้วทุกคนต่างตกใจมาก ไม่มีใครอยากเชื่อ ขณะเดียวกันก็อยากรู้มาก คุณหนูรองกู้เป็นคนอย่างไร โชคอะไรหล่นทับกันแน่ จึงได้รับความสนใจจากจิ้นอ๋องเหอเหลียนซินก็อยากรู้มากเช่นกันและตอนนี้นางได้เจอลู่เจาหลิงแล้ว หน้าตาเหมือนนางจิ้งจอกอย่างที่คิด เอาเป็นว่านางเห็นแล้วก็รังเกียจเลยลู่เจาเหลียงย่อมมองเจตนาร้ายที่เหอเหลียนซินมีต่อตัวเองออกนางก็ตอบกลับไปอย่างเร

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 95

    ชิวจวี๋ประคองลู่เจาอวิ๋นลงรถม้า ไม่ได้สนใจลู่เจาหัวกับลู่เจาหลิงอีกเลยหลังจากลู่เจาหัวลงรถม้า นางคิดแล้วคิดอีก ยื่นมือไปหาลู่เจาหลิง “พี่หญิงรอง ข้าประคองท่าน”“ไม่ต้อง”ลู่เจาหลิงกลับเลี่ยงผ่านมือของนาง ลงจากรถม้าเองลู่เจาหัวทำท่าเสียใจเล็กน้อย หลุบตาปกปิดสายตา“เจาอวิ๋น”มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากข้างหน้า แค่ฟังจากเสียงก็เต็มไปด้วยความมั่นใจลู่เจาอวิ๋นประหลาดใจมาก รีบเดินเข้าไปหา“พี่เหอ!”ลู่เจาหัวเห็นผู้มา สีหน้ากลับเปลี่ยนไป ร่างกายสั่นเล็กน้อย นางลืมไปได้อย่างไร ในโอกาสเช่นนี้ เหอเหลียนซินก็มาเช่นกันลู่เจาหลิงเหลือบมองนางแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไรนางมองไปทางผู้มาเห็นรถม้าของอีกฝ่ายก่อน รถม้าคันนั้นดูหรูหรากว่าของสกุลลู่มาก สตรีที่กำลังทักทายลู่เจาอวิ๋นอย่างอย่างสนิทสนม อายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปด ใบหน้าทรงไข่ห่าน คางแหลม หน้าตาค่อนข้างงามเพราะอยู่ระหว่างการไว้ทุกข์ การแต่งกายของนางก็เรียบๆ เช่นกัน สีขาวทั้งชุด มีเพียงปิ่นหยกกับดอกไม้ผ้าเล็กๆ ที่ประณีตไม่กี่ชิ้น สง่างามดั่งดอกบัวที่บริสุทธิ์นางพาเด็กรับใช้มาด้วยสองคน เสื้อของเด็กรับใช้เป็นสีขาวมีกิ่งดอกไม้สีน้ำตาลเล

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 94

    นางข่มความโกรธ “น้องหญิงรองหยุดได้แล้ว นี่เป็นถุงหอมที่ผู้อื่นมอบให้ข้า มันมีค่ามาก เครื่องหอมที่อยู่ข้างในก็หาซื้อตามข้างนอกไม่ได้”เครื่องหอมที่อยู่ข้างใน ท่านหญิงฉางหนิงเป็นคนให้นาง เป็นของขวัญที่ทูตต่างแดนนำมาถวายให้ท่านหญิงและองค์หญิงต่างๆ ในวังลู่เจาอวิ๋นได้เครื่องหอมมาแค่นี้ นางก็ภาคภูมิใจมาก ปกติแทบไม่เอาออกมาใช้ ในโอกาสอย่างวันนี้จึงจะยอมนำออกมาใช้ ลู่เจาหลิงกลับให้นางทิ้ง?“กลิ่นเหม็นมาก”ลู่เจาอวิ๋นอดกลั้นความโกรธ และยังคงฝืนยิ้ม คิดใจปลอบนาง “คนทั่วไปอาจจะไม่ชินกับกลิ่นเช่นนี้จริงๆ แต่นี่เป็นเครื่องบรรณาการจากทูตต่างแดน เป็นเครื่องหอมที่มีราคาแพงและหรูหรามาก น้องหญิงรอง ในเมื่อเจ้ามาถึงเมืองหลวงแล้ว เจ้าต้องพยายามปรับรสนิยมให้สูงขึ้น จะชอบแต่พวกเครื่องหอมคุณภาพต่ำไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะถูกหัวเราะเยาะ”“ไร้สาระ”พลันลู่เจาหลิงยื่นมือออกไป กระชากถุงหอมบนกายนางลงมาฉับพลัน เลิกม่านรถก็โยนมันไปที่ข้างคนขับ“ไว้ตรงนั้นก่อน อีกเดี๋ยวเจ้าจะห้อยค่อยห้อย”นางทนไม่ไหวแน่ ถ้าต้องทนดมอยู่ในรถม้าที่แคบเล็กเช่นนี้ตลอดอีกทั้งเกรงว่าส่วนผสมของเครื่องหอมเหล่านี้ค่อนข้างแปลก มีผงกระดู

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 93

    ชิงเป่าร้อนใจแล้ว“พวกเราต้องตามคุณหนูไป คุณหนูของพวกเรายังบาดเจ็บอยู่!”ก่อนหน้านี้พวกนางเคยได้ยินท่านหมอฝู่กล่าว คุณหนูได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ที่จริงนับว่าอันตรายถึงชีวิต แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดนางยังสามารถรอดมาได้ชิงเป่าชิงอินก็เป็นคนฝึกยุทธ์เช่นกัน และเคยเห็นบาดแผลของลู่เจาอิง ย่อมรู้ว่าบาดแผลนั่นสาหัสเพียงใด“ข้าอยากพาเจ้าไปด้วยจริงๆ แต่รถม้าไม่พอนั่งแล้ว” ลู่เจาอวิ๋นก็หมดหนทาง นางกล่าวเหมือนเยาะเย้ยตัวเอง “ไม่ใช่ข้าหาเรื่องพวกเจ้า แต่รถม้าจวนเรามันไม่ใหญ่”ชิงเป่ากล่าวทันที “พวกเราเดินไปก็ได้”พวกนางสามารถใช้วิชาตัวเบา“พวกเจ้ามาจากจวนจิ้นอ๋อง น่าจะรู้จักท่านหญิงฉางหนิง ดังนั้นก็น่าจะรู้ว่าจวนท่านหญิงอยู่ที่ไหน ห่างจากที่นี่ไกลมาก ถ้าหากพวกเจ้าเดิน อย่างน้อยก็ต้องเดินครึ่งชั่วยาม”ลู่เจาอวิ๋นกล่าว “ถึงเวลาพวกเจ้ากับน้องหญิงรองไม่ได้เข้าจวนพร้อมกัน ผู้อื่นก็จะหัวเราะเยาะเช่นกัน”เช่นนั้นไม่เท่ากับทำให้ผู้อื่นรู้ว่า รถม้าของสกุลลู่เล็กมาก แม้แต่สาวใช้ก็ไม่พอเบียดหรือ?ชิงอินใจเย็นกว่า คิดวิธีที่เหมาะสมกว่าออก “พวกเราไปเช่ารถม้าไป”“รอพวกเจ้าหารถม้าได้มันก็ไม่ทันแล้ว แต่ว่าถ

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 92

    เที่ยวนี้เขาได้เห็นความสามารถของลู่เจาหลิงอีกครั้งชิงอินกอดกล่องในอ้อมแขนไว้ ยังรู้สึกเหมือนนี่ไม่ใช่เรื่องจริงเล็กน้อย ออกจากจวนเที่ยวเดียว คุณหนูก็หาเงินได้อีกห้าพันตำลึงแล้ว ห้าพันตำลึงเลยนะ!สกุลลู่นำเงินออกมาสามร้อยตำลึง ก็ปวดใจเหมือนถูกเฉือนเนื้อ พวกเขาจะคาดคิดได้อย่างไร คุณหนูอาศัยความสามารถของตัวเอง ก็สามารถหาเงินได้ห้าพันตำลึงแล้วนอกจากนี้ยังมีจี้หยกหนึ่งชิ้นกับโสมหนึ่งต้นด้วย แค่ของเหล่านี้ก็มีค่าหลายร้อยตำลึงตกลงสุกุลลู่รู้หรือไม่ว่าคุณหนูเป็นสมบัติลับอย่างไรครั้งนี้ชิงเป่าไม่ได้ตามออกมาด้วย แต่เฝ้าอยู่ที่หอทิงหน่วน นางดูจากเวลา ได้ไปนำอาหารเย็นกลับมาแล้ว ลู่เจาหลิงกลับมาก็ได้กินข้าวเลย“ชิงเป่าคำนวณเวลาได้พอดีเป๊ะ” นางชมไปประโยคหนึ่ง หลังจากนั้นกล่าว “ให้พวกเจ้าคนละห้าตำลึง กลับไปซื้อของที่ตัวเองชอบกิน”ให้เงินพวกนางอีกแล้ว!ชิงเป่าเบิกตากว้าง มองไปทางชิงอินด้วยสายตาตั้งคำถามชิงอินเงียบ แต่เปิดกล่องเหล่านั้นให้นางดู“คุณหนูเก่งจัง…” แม้แต่เสียงตกใจของชิงเป่าก็ลอยเล็กน้อยลู่เจาหลิงยิ้มแล้วยิ้มอีก “พอแล้ว กินข้าวเถอะ”หลังกินข้าว อาบน้ำเสร็จ นางก็กลับมาท

DMCA.com Protection Status