หน้าหลัก / แฟนตาซี / ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1 / บทที่ 31 การเรียนไม่คณามือตัวบัดซบอย่างเขาหรอก 1

แชร์

บทที่ 31 การเรียนไม่คณามือตัวบัดซบอย่างเขาหรอก 1

ผู้แต่ง: ลูกแกะขนปุย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-17 12:01:02

ชินอ๋องตัวป่วนของราชอาณาจักรซีเว่ยนั่งร่วมโต๊ะอาหารกับศิษย์ใหม่ของเป่ยจงที่มีเพียงสามคนช่างเงียบเหงานักต่างกับหมู่ตึกอื่นที่สมาชิกแน่นขนัด บางโต๊ะแทบจะนั่งตักกันทานข้าว ส่วนเป่ยจงนอนบนโต๊ะทานข้าว ก็ยังมีที่เหลือเฟือ บ่งบอกถึงจำนวนศิษย์ที่น้อยมาก

เยี่ยหยางมองหน้าหง๋อย ๆ ของอวี้หย่าอวิ๋นตั้งแต่ตอนทานอาหารค่ำ จนถึงตอนนี้เหมือนลูกหมาถูกทิ้งเรียกความเอ็นดูต่อเด็กชาย เขาเดินตามรวมกับศิษย์พี่ของเป่ยจงกลับหมู่ตึก

“นี่คือหมู่ตึกเป่ยจง บ้านหลังใหม่ของพวกเจ้า ข้าเจินหยุนฟาน หัวหน้าหมู่ตึกเป่ยจงเป็นตัวแทนศิษย์พี่พวกเจ้าเอ่ยต้อนรับ” เด็กหนุ่มย่างเข้าวัยหนุ่มสวมเสื้อผาวสีขาว ด้านในเป็นชุดสีน้ำเงินเข้มดูสง่าไขว้ทับกัน ผูกรัดด้วยผ้าคาดเอวสีน้ำเงินสลับขาวปิดทับด้วยเข็มขัดเงินอีกชั้นหนึ่ง ที่เอวห้อยหยกขาวสลักรูปอสรพิษพันรอบตัวเต่าบรรพกาลแสดงสัญญาลักษณ์หัวหน้าศิษย์หมู่เป่ยจง 

“ข้ามู่หรงลู่เฉิน”

“ข้ารู้จักท่าน องค์รัชทายาทแห่งราชอาณาจักรซีเว่ย” เจินหยุนฟานกล่าว และเดินนำศิษย์ใหม่ทั้งสาม

“ศิษย์พี่เจินไม่ต้องมากพิธีรีตองให้มากความ ข้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1   บทที่ 32 การเรียนไม่คณามือตัวบัดซบอย่างเขาหรอก 2

    “เจ้าไม่ใช่สตรี แต่เป็นบุรุษใส่ชุดหญิงสาวซะมากกว่า” เจินหยุนฟานยังคงโต้ตอบอย่างไม่กลัวคลื่นอารมณ์หญิงสาวที่กำลังเดินตรงมา“นี่เจ้า!!!” ศิษย์พี่เจินยังคงยืนนิ่งอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว “หึ...แล้วจะได้เห็นดี ข้าฉู่ซูเซียว ยินดีที่ได้พบศิษย์น้อง”“ศิษย์น้องเยี่ยหยาง ลู่เฉิน และ อวี้หย่าอวิ๋น ยินดีที่ได้รู้จักศิษย์พี่หญิงฉู่เช่นกัน” เยี่ยหยางแนะนำตัวพร้อมเพื่อนร่วมชั้น ส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจไปเป็นทัพหน้ามารยาทของเยี่ยหยางเรียกสีหน้าพอใจของฉู๋ซูเซียว เขาเคารพนางสมเป็นศิษย์น้องหน้าใหม่ นางส่งรอยยิ้มให้ทั้งสาม แล้วหันกลับไปแยกเขี้ยวของเธอให้เจินหยุนฟานซึ่งหาสนใจท่าทีของนางไม่“ศิษย์น้องทั้งสามพักผ่อนเถอะ พวกเจ้าเลือกห้องว่างตามชอบได้เลย ข้าไม่รบกวนแล้วขอตัว” เจินหยุนฟานพูดจบก็เดินกลับห้องพักตัวเอง“อ๊ะ!” อวี้หย่าอวิ๋นอุทาน เขาลอบสังเกตว่ามีใครเห็นท่าทางที่ผิดปกติไปของตนหรือไม่ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเห็นก็รีบบอกแยกทางกับทุกคน “พี่หยาง คุณชายลู่ น้องชายขอตัวไปนอนก่อนนะขอรับ วันนี้เหนื่อยมาก ๆ เลย&r

  • ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1   บทที่ 33 การเรียนไม่คณามือตัวบัดซบอย่างเขาหรอก 3

    ตารางเรียนถูกจัดขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ต้องเข้าเรียนสี่วันทั้งเช้าบ่ายเย็น มีสอนตั้งแต่วิชาลมปราณขั้นพื้นฐานจนถึงขั้นเซียน วิชาบังคับขี่กระบี่ วิชาปรุงโอสถ วิชาอสูรลมปราณ วิชาหมัดหมวย วิชาฝึกกระบี่ วิชาสรรพาวุธ วิชาการเมืองการปกครอง วิชาประวัติศาสตร์บรรพกาล วิชาปรัชญาสวรรค์ วิชาจรรยาบรรณผู้ฝึกตนและอีกมากมาย ซึ่งวิชาเหล่านี้จะถูกคัดเลือกให้เหมาะสมกับระดับความรู้ความสามารถของศิษย์ที่ศึกษา เยี่ยหยางมองดูวิชาที่ตัวเองต้องเรียนวิชาปราณยุทธพื้นฐาน...คราวนี้ยากที่จะเอาตัวรอด ไม่มีปราณให้เบ่งออกมาสักนิดวิชาปรุงโอสถต้องอาศัยลมปราณเหมือนกัน...หวังว่าความรู้ระดับผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงของศาสตร์ปรุงยาจะช่วยได้ล่ะมั้ง?วิชาฝึกบังคับกระบี่...ใช้คาถาแปลงร่างเปลี่ยนรูปไม้กวาดเป็นกระบี่ ต่างแค่หน้าตาแต่ก็ยังเป็นไม้กวาดน่าจะใช้ได้ แค่ต้องยืนบนไม้กวาดแทน ไม่น่ายากวิชาอสูรลมปราณ...ดูแล้วน่าจะเป็นวิชาฝึกสัตว์ประหลาด อย่างนี้ฉงฉงก็เข้าข่าย หน้าตาอัปลักษณ์อยู่ไม่น้อย น่าใช้แทนกันได้วิชาปรัชญาสวรรค์...ปรัชญาชีวิตยังไม่ค่อยมี ยังต้องศึกษาของสวรรค์ที่ไหนก็ไม่รู้

  • ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1   บทที่ 34 นี่...นี่เจ้าไร้ลมปราณอย่างงั้นรึ!!! 1

    จ้าวถิงเซียวสอนการสังเกตดู การดมกลิ่น การชิมรสชาติที่แตกต่าง ลักษณะของสมุนไพรประเภทต่างที่เป็นพื้นฐานในการเลือกวัตถุดิบปรุงโอสถ ทั้งสี กลิ่น อายุ และคุณภาพจากตัวอย่างสมุนไพรที่เขานำมาให้ดูในวันนี้เขายังไม่สอนการปรุงโอสถใด ๆ จนกว่าจะถึงเวลาที่ศิษย์จะมีความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรเพียงพอ รวมทั้งความสามารถในการควบคุมไฟในการหลอมโอสถที่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการปรุงโอสถยิ่งกว่าสมุนไพร เพราะต่อให้สมุนไพรดีแค่ไหน ถ้าควบคุมไฟในการสกัดหลอมไม่เป็น พวกมันก็กลายเป็นได้แค่ขี้เถ้ากองขยะกองหนึ่งศิษย์ทุกคนต่างไม่กล้าจะไม่สนใจ อีกทั้งสุดจะเกรงใจไม่กล้าขัดที่จะถาม แม้ว่าจะไม่เข้าใจในเนื้อหาวิชาบ้างก็ตามด้วยความหวาดหวั่น นั่งฟังหัวผงก ๆ เรียนอย่างจริงจังตั้งใจอย่างยิ่งยวดเนื่องจากมีตัวอย่างเชือดไก่ให้ลิงดูในปีที่แล้ว ๆ มาเป็นตัวอย่างนับร้อย ๆ ตัวอย่างเช่นมีศิษย์ผู้หนึ่งที่มั่นใจในพรสวรรค์ของตัวเอง และคิดว่าตระกูลตนเองใหญ่มีชื่อเสียงเป็นปรมาจารย์ในเรื่องของโอสถตั้งแต่บรรพบุรุษอยู่ในยุทธภพเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ผู้คนต่างยำเกรงอยู่หลายส่วนทำให้ศิษย์ผู้นั้น

  • ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1   บทที่ 35 นี่...นี่เจ้าไร้ลมปราณอย่างงั้นรึ!!! 2

    เสียงร้องตะโกนของเยี่ยหยางดังขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทำเอาคนทั้งกลุ่มสะดุ้งเฮือกหันหรี่มองไปรอบ ๆ เขากลัวอาจารย์ไม่รับรู้สถานการณ์ให้คล้อยตาม เจ้าตัวจึงร่ายคาถาสาดน้ำใส่หน้าคนเป็นอาจารย์ไปโครมใหญ่และร่ายมนตร์ให้ตัวแห้งในพริบตาไม่เหลือหลักฐานเอาความผิดใด ๆ“ไหน ๆ ที่ไหนไฟไหม้” อาจารย์ผู้อยู่ในห้วงนิทราสะดุ้งตื่นหาเพลิงที่ไร้ควัน“ท่านคืออาจารย์หวังหลี่ฉินใช่หรือไม่ พวกข้าเป็นศิษย์ใหม่ที่จะมาเรียนวิชาปราณยุทธขั้นพื้นฐานขอรับ” เยี่ยหยางตีหน้าซื่อเหมือนเหตุการณ์ที่ตัวเองตะโกนแหกปากดังลั่นไม่เคยเกิดขึ้น“อะแฮ่ม...ใช่ ข้าหวังหลี่ฉิน อาจารย์สอนวิชาปราณยุทธขั้นพื้นฐาน” ผู้เป็นอาจารย์กระแอมกระไอปรับบุคลิกให้ดูเป็นอาจารย์ที่น่าเชื่อถือ“พวกเจ้าเป็นศิษย์เพิ่งเข้ามาใหม่สินะ ไหนมีกี่คนกัน ข้าไม่มีลูกศิษย์ให้สอนหลายสิบปีแล้ว พวกเจ้าเป็นศิษย์รุ่นแรกในรอบหลายสิบปีเชียว”“ท่านอาจารย์จะสอนไหวมั้ยเนี่ย” อวี้หย่าอวิ๋นหวาดหวั่นกับประสบการณ์สอนของอาจารย์ผู้นี้“พวกเจ้าคิดไงกันถึงมาเรียนกับข้า ศิษย์ส่ว

  • ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1   บทที่ 36 นี่...นี่เจ้าไร้ลมปราณอย่างงั้นรึ!!! 3

    “ซึ่งปราณยุทธจะถูกปลุกให้ตื่นครั้งแรกตอนอายุหกขวบ ซึ่งเป็นช่วงอายุที่เหมาะสมที่สุด เรียกว่า ปลุกวิถียุทธ โดยผู้คนส่วนใหญ่มักจะให้ลูกหลานปลุกพลังลมปราณในวัยนี้ และการเรียนรู้เหมาะสำหรับการเริ่มต้นฝึกปราณยุทธ เมื่อปราณยุทธถูกปลุก แต่คนก็จะมีพลังลมปราณเริ่มต้นไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับธรรมชาติที่เลี้ยงดูเติบโตและพรสวรรค์ที่ฟ้าดินบรรดาให้มา”“ประเภทของปราณยุทธแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ อยู่สามประเภทใหญ่ คือ ปราณยุทธสัตว์ ปราณยุทธที่สามารถแสดงทักษะของสัตว์นั้น ๆ ปราณยุทธอาวุธเป็นปราณยุทธสามารถใช้อาวุธนั้น สามารถพัฒนา ดัดแปลงตามที่อาวุธชนิดนั้นจะทำได้ ปราณยุทธร่างกายจะเป็นปราณที่แสดงความสามารถของร่างกายส่วนด้านเป็นพิเศษออกมา”“และระดับลมปราณ แต่ละระดับมีสิบระดับ สิบขั้น ตั้งแต่ขั้นสูงที่สุดที่เป็นลมปราณของเหล่าเทพเซียนจนถึงมนุษย์เดินดิน คือเซียนยุทธ มหาปราชญ์ยุทธ จักรพรรดิยุทธ ราชันยุทธ จ้าวยุทธ อัคราจารย์ยุทธ ปรมาจารย์ยุทธ อาจารย์ยุทธ ผู้เชี่ยวชาญยุทธ หลอมกายา ก่อตั้งรากฐานยุทธ และระดับก่อกำเนิดการเรียกตนว่าผู้ฝึกตนต้องมีลมปราณอย่างน้อยระ

  • ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1   บทที่ 37 นี่...นี่เจ้าไร้ลมปราณอย่างงั้นรึ!!! 4

    ร่างกายของหวังหลี่ฉินดูเหมือนจะดี แต่มีปัญหาที่เส้นเอ็นบริเวณไหล่ไม่อาจปกปิดจากสายตาเขาได้ ทำให้ตาแก่หวังโคจรลมปราณติดขัด ไม่สามารถเลื่อนระดับสูงขึ้นได้ นอกจากรักษาอาการที่ว่าให้หายก่อนส่วนลู่เฉินและคนอื่น ๆ ไม่มีปัญหาบาดเจ็บภายใน เพียงแค่เส้นลมปราณยังไม่แข็งแรงพอ ยังอ่อนประสบการณ์ เพียงฝึกฝนให้มากหน่อยก็พอ ส่วนรายละเอียดที่มากกว่านั้นเยี่ยหยางเองก็บอกไม่ได้ เพราะเขาไม่ใช่ผู้ฝึกตนเวลาผ่านไปจนถึงเที่ยงวัน เสียงท้องร้องของท่านอ๋องก็ร้องดังไม่เกรงใจผู้คน ทุกคนที่เข้าสมาธิบ่มเพาะลมปราณต้องหยุดลง แล้วหันไปมองคนก่อกวนที่ไม่อาจกล่าวว่าได้ เพราะถึงเวลาอาหารกลางวันของพวกเขาแล้วจริง ๆ“พวกเจ้าตื่นกันสักที เปิ่นหวางหิวจนท้องไส้บิดเป็นเกลียวแล้ว” เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน เหล่าศิษย์ทยอยมารับประทานอาหารที่ห้องโถงเลิศรส อาคารกว้างสำหรับรับประทานอาหารของศิษย์เทียนถูหวู่ มีอาหารขั้นพื้นฐานที่มีคุณค่าอาหารครบถ้วนไม่เสียค่าใช้จ่าย และอาหารที่ปรุงรังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นเลิศที่ต้องจ่ายราคาเพิ่มตามความต้องการให้บริการศิษย์ได้เลือกเสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นท

  • ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1   บทที่ 38 ข้าอยากอัดคน!!! 1

    เยี่ยหยางเดินตรงดิ่งเข้าไปกลางวงของเรื่องราวทันทีอย่างรวดเร็วด้วยคาถาเคลื่อนย้ายฉับพลันในระยะสั้นราวกับหายตัว เข้าไปยืนจังก้าขวางศิษย์สายในคนนั้นที่กำลังลงมือทุบตีทาสผิวเข้ม“จะทำอะไร” เยี่ยหยางจ้องเขม็งไปที่ฝ่ายตรงข้ามท่าทางเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงดูมีพลังอำนาจที่อีกฝ่ายไม่อาจต้านทานได้“แกเป็นใครถอยไปซะ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว เป็นศิษย์สายนอกก็ควรเจียมตัวซะ” ศิษย์ชายที่ลงมือทุบตีทาส มองสำรวจเยี่ยหยางว่ามาจากตระกูลใด ที่มันไม่อาจล่วงเกินได้หรือไม่ แต่…“ที่แท้ก็สวะ”ไต้กู้ซวนมองไปที่เยี่ยหยางอย่างเหยียดหยาม ตัวมันเองก็ถือเป็นอัจฉริยะในหมู่ศิษย์ไม่เกรงกลัวผู้ใดอยู่แล้ว แต่มันก็อยู่เป็นรู้ว่าบางตระกูลก็ไม่ควรไปล่วงเกิน แต่สำหรับเยี่ยหยางมันกับไม่รู้ว่าเขามาจากตระกูลใดดูท่าแล้วคงเป็นตระกูลที่ไม่มีชื่อเสียงตระกูลไหน ปล่อยสวะไร้ค่าให้อับอายในหมู่ผู้ฝึกปราณยุทธ ไม่ก็คงเป็นผู้ฝึกยุทธพเนจรที่พอมีดีที่จะเป็นศิษย์เทียนถูหวู่อยู่บ้าง แต่อย่างว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่อัจฉริยะ แม้แต่ขยะถ้าผ่านการคัดเลือกก็ถือว่าเป็นศิษย์

  • ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1   บทที่ 39 ข้าอยากอัดคน!!! 2

    เพียงผู้คนกะพริบตา เยี่ยหยางก็ลงมือทันที โดยไม่ให้สัญญาณหรือให้อีกฝ่ายเตรียมตัวเตรียมใจใด ๆภาพทุกอย่างรอบ ๆ หยุดนิ่งไม่ขยับ ศิษย์สายในทั้งหกคนตาหันไปมองรอบตัวอย่างตื่นตระหนก เห็นประกายวาบผ่านดวงตาของขยะไร้ปราณที่พวกมันว่าเยี่ยหยางแสยะยิ้มกว้างให้ มือยกชี้กิ่งไม้เรียวยาวไปที่ทั้งหกคน พริบตายังไม่ทันให้พวกมันได้กล่าวอ้างใด ๆ ร่างกายร้อนผ่าวไปทั่วร่าง กระดูกเหมือนถูกบดเบียดก่อร่างใหม่ จากยืนสองขากลายเป็นสี่ขาใบหน้าเต็มไปด้วยขน จมูกปากยาวยื่น หางยาว ๆ งอกออกจากบั้นท้าย พวกมันต่างตื่นตระหนก ดวงตาตื่นตะลึงมองไปสหายข้างกายที่กลายเป็นสุนัขไม่ต่างจากมัน“นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น!!!” แต่เสียงที่ออกมากลับไม่ใช่เสียงของมนุษย์ กลายเป็นเสียงเห่าหอนของสุนัขตัวหนึ่ง“พวกเจ้าจงลิ้มลองรสชาติการใช้ชีวิตเยี่ยงสุนัขเจ็ดวันเจ็ดคืน ให้รู้จักจิตสำนึกของการเป็นมนุษย์ที่ดีนั้นเป็นยังไงซะ แต่ไม่ต้องห่วง จะไม่มีใครสงสัยที่พวกแกหายไป จะไม่มีใครตามหา เพียงแค่ข้าดีดนิ้วทุกคนที่แกรู้จักก็จะลืมเลือน ถ้าในเจ็ดวันสำนึกได้ว่ามนุษย์ที่ดีควรเป็นกันอย่างไ

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1   บทที่ 47 กลายเป็นตัวบัดซบของแผ่นดิน!!! 4

    “เจ้าคงหายดีแล้วสินะ ถึงมีเสียงตะโกนใส่ข้า จนน้ำลายเต็มหัวหมดแล้ว สกปรก!” เยี่ยหยางเช็ดหน้าตัวเองรู้สึกมีหยดน้ำหลายหยดพ่นฝอยใส่หน้าอย่างขยะแขยง เขารู้สึกว่าสหายตัวดีของเขาจะแสดงอาการมากไปหน่อย“โทษที แล้วเป็นมายังไง เจ้าถึงมาเป็นอ๋องได้ แล้วเจ้ามาที่นี่ได้ไง” แมคเคนนั่งลงที่โซฟาเหมือนเดิมถาม“ดูความทรงจำข้าเองละกัน ขี้เกียจเล่า เรื่องมันยาว” เยี่ยหยางเรียกความทรงจำของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นใส่ลูกแก้วเมนเมอร์รินคริสตัน“ดีเหมือนกัน เพราะเจ้ามันเล่าเรื่องได้ห่วยแตก”แมคเคนพูดกับตัวเอง ดีที่คนเป็นอ๋องไม่ได้ยิน เพราะกำลังส่งความทรงจำให้ลูกแก้วเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวลูกแก้วเมนเมอร์รินมีขนาดประมาณศีรษะมนุษย์จากลูกแก้วใสไม่สะท้อนสิ่งใด ก็มีควันขาวอยู่เต็มดึงจิตของผู้ที่จ้องมองเผยเหตุการณ์เมื่อสิบปีก่อนที่ระนาบมนตรา.. ..ควันไอจางสีเทาเงินหมุนวนอยู่ในลูกแก้วเมนเมอร์รินฉายภาพชายหนุ่มร่างสูง มีเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเส้นผมสีเงินยวงยาวที่ถูกมัดรวบด้วยริบบิ้นสีน้ำเงินคราม

  • ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1   บทที่ 46 กลายเป็นตัวบัดซบของแผ่นดิน!!! 3

    เยี่ยหยางสาธยายความสง่างามที่ฉงหยิ๋นพร่ำบอกเขาอยู่ทุกวันให้สหายทราบ แต่ประโยคหลังกลับทำให้กิเลนเทพงอนสะบัดคอแทบเคล็ด“ข้าแมคเคน...เรียกแมคก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักเจ้าเปี๊ยก”“ ข้าฉงหยิ๋นกิเลนจากเผ่าสัตว์เทพ เชอะ! เพราะสาวชอบข้าที่ตัวเล็ก ๆ ต่างหาก” เสี่ยวฉงพยักหน้ายื่นขาหน้าทำความรู้จักคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสหายของเยี่ยหยาง ทว่าก็อดบ่นพึมพรำให้สองพ่อมดที่ได้ยินหัวเราะเยี่ยหยางเก็บโต๊ะอาหารที่ทานเสร็จเพียงแค่ดีดนิ้ว เขามองหน้าแมคเคนอย่างจริงจังว่าพร้อมที่พูดคุยเรื่องราวทั้งหมดแล้วฉงฉงรู้ว่ามันไม่ควรยุ่งเกี่ยวก็กลับไปนอนอืดตีพุงของตัวเองที่ที่นอนของมัน ถึงรู้ไปใช่ว่ามันจะยื่นขาหน้าเข้าไปช่วยได้ เรื่องของเยี่ยหยางถ้ามีปัญหายากแก้ไข มันค่อยเข้าไปเล่นด้วยก็ยังไม่สาย ดีไม่ดีตอนนั้นมันอาจได้ค่าแรงนิด ๆ หน่อย ๆ เป็นสินน้ำใจ“แมค เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง? แล้วทำไมถึงได้กลายเป็นทาสไป” เยี่ยหยางเริ่มเปิดบทสนทนาจริงจัง ถามตรงประเด็นไม่อ้อมค้อม “ตอนนี้เจ้าคงให้ข้าดูความทรงจำไม่ได้ ฉะนั้นเล่ามาให้ละเอียด”“มีข่าว

  • ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1   บทที่ 45 กลายเป็นตัวบัดซบของแผ่นดิน!!! 2

    มิตรภาพ…ความจริงใจ…ขอโทษ...แมค ข้าทำให้เจ้าต้องลำบากแล้วเยี่ยหยางรู้สึกผิดมากที่เป็นสาเหตุทำให้สหายมาเอี่ยวเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เขาตัดสินใจทำลงไปในตอนนั้นที่ตัดสินใจช่วยเซเวียร์ แต่พวกตาแก่และสหายสารเลวของเซเวียร์ กลับลากทุก ๆ คนรอบตัวเขาให้เผชิญความยากลำบาก ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วว่าที่ผู้นำตะกูลคลาส์กสามารถเลือกทางสบายได้มากกว่านี้ แต่แมคเคนก็ตัดสินใจกระโจนลงบ่อโคลนมายุ่งเรื่องด้วย“เฮ้อ…”สายตาของแมคมองไปที่เยี่ยหยาง เขารู้ว่าสหายของตัวเองแบกทุกสิ่งอยู่บนบ่า ไม่ต่างจากอัศวินผู้กล้าผู้พิชิตจอมมารอย่างเซเวียร์ และตอนนี้คงกำลังโทษตัวเองอยู่ แต่เขาไม่ต้องการแบบนั้น ทางเดินนี้เป็นเขาที่ต้องการเอง ทางเดินนี้เป็นเขาที่เดินก้าวเข้ามาเอง ทางเดินนี้เป็นเขาที่ต้องการเดินเคียงข้างสหายเอง แล้วทำไมต้องไปคิดมากให้ปวดหัวเวียนศีรษะไปไย“เล่ามา…”“อืม เดี๋ยวข้าเล่าให้ฟัง เอาสเต๊กไหมเพื่อน?”เยี่ยหยางลืมตาขึ้น แววตากลับมาเป็นดังเดิม ชวนคนป่วยกินของดี“สารรูปข้าตอนนี้มีแรงเ

  • ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1   บทที่ 44 กลายเป็นตัวบัดซบของแผ่นดิน!!! 1

    ไฟร้อนลามเลียเนื้อหมัก เริ่มส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายชวนหิวโหย ผักสดหลายชนิดจากกระเป๋าขยายขนาดที่แทบจะเป็นป่ารก มีดหั่นผักลอยขึ้น หั่นผักเป็นชิ้น ๆ ด้วยตัวเองเท่า ๆ กันอย่างสวยงามเยี่ยหยางชี้นิ้วไปที่ชามให้ลอยมาวางด้านหน้าอย่างแผ่วเบาผักที่หั่นเสร็จเหมือนจะรู้หน้าที่ กระโดดจากเขียงหั่น จัดเรียงในชามอย่างงดงาม อีกข้างก็พลิกมือเบา ๆ ชิ้นเนื้อพลิกกลับไปมา เสียงชี่ของน้ำมันในชิ้นเนื้อหยดบนถ่านแข่งกับเสียง…...โครก~~~“หืม?”เสียงกองทัพบุกของท้องฉงฉงเจ้าตัวตะกละ มันทำจมูกฟุดฟิด ๆ เกาะบนบ่าของเยี่ยหยางถูกแล้ว...เกาะบนไหล่ของเยี่ยหยางด้วยร่างกลายจิ๋ว ๆ ที่ใช้หลอกล่อสาวในวันนี้ ในขณะที่ฉงหยิ๋นออกมาจาห้วงมิติด้านนอกเพราะได้กลิ่นของอาหารที่ไปปลุกกิเลนเทพจากฝันหวานทว่าทำไม…เยี่ยหยางขมวดคิ้วมองกิเลนเทพที่ทำตัวไม่สมเผ่าพันธ์ุ ทั้งที่ตอนแรกก็โอดโอยไม่ยอมทำ แต่ว่าตอนนี้ไม่ยอมกลับมาเหมือนเดิม“นี่!!! เสี่ยวฉง เจ้าจะทำตัวเป็นเหมียวน้อยอยู่ทำไมฮะ”‘สาว ๆ ชอบ พวกนางเอ็นดูข้า ถ้าข้าอยู่ในร่า

  • ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1   บทที่ 43 ฮือ ๆ ข้าถูกรังแก… ศักดิ์ศรีของข้าไม่เหลือแล้ว 3

    มันกดพลังของตัวเองจนสุดความสามารถน้อยยิ่งกว่าน้อย น้อยกว่าตอนที่มันถือกำเนิดเสียอีก มันลดขนาดตัวจนเล็กจิ๋วเท่าลูกแมวเหมียวจนมันรู้สึกอยากหาปี๊บมาคลุมตัวสีตัวซีดเผือดเหมือนหนังสัตว์ถูกขัดฟอกสี เพราะมันไม่ใช่อสูรปราณ แต่เป็นสัตว์อสูรเทวะ มันจึงไม่โปร่งแสงฉงหยิ๋นยังไม่ตาย ข้าซีดแบบผีไม่ได้...ฮือ ๆ ข้าถูกรังแก… ศักดิ์ศรีของข้าไม่เหลือแล้วศิษย์สาว ๆ มองฉงหยิ๋นด้วยแววตาวาววับเพราะตอนนี้มันดูน่ารักมาก ยิ่งดวงตากลมโตละห้อยดูน่าสงสาร กลับเรียกคะแนนความนิยมได้อย่างล้นหลามเกินหน้าเกินตาท่านอ๋อง “ว้าว...น่ารักจัง”ฉงหยิ๋นมองตาทุกคนด้วยแววตาที่มีน้ำตาคลอเป้ายกขาหน้าข้างหนึ่งปิดหน้าปิดตาเพราะมันรู้สึกขายหน้าเหลือเกินข้าไม่มีหน้าไปพบผู้ใดแล้ว...แต่ผู้ที่เห็นมันกับคิดว่ามันกำลังเกาศีรษะ ดูแล้วช่างน่ารักน่าชังมากในบรรดาทุกคนที่เรียกสัตว์อสูร เยี่ยหยางเป็นคนสุดท้าย แต่ผลลัพธ์กลับเหนือความคาดหมายในใจของหลายคนโดยเฉพาะเมิ่งฉางอู่ตัวเขาตั้งแต่จำความได้ไม่เคยเห็นอสูรปราณตัวใดที่ทึบแสงและแสดงตัวตนได้เท่าอสูรที่อ

  • ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1   บทที่ 42 ฮือ ๆ ข้าถูกรังแก… ศักดิ์ศรีของข้าไม่เหลือแล้ว 2

    จูเฉิงเยว่แอบสังเกตเยี่ยหยางมาตั้งแต่เช้าในวิชาปรุงโอสถเพื่อหาเรื่อง ทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายมาสายแต่โดนอาจารย์จ้าวที่ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าระเบียบต่อว่าเพียงนิดเดียวทำให้เขาผูกใจเจ็บที่อ๋องไร้ค่าทำเขาขายหน้าผู้คนถึงหลายครั้งต่อหลายครั้ง ถึงแม้ตอนนี้เขาจะฝึกวิชาอยู่แต่สมาธิส่วนหนึ่งก็ถูกแบ่งมาให้เยี่ยหยางเวลาผ่านไปสองชั่วยามศิษย์ใหม่ต่างฝึกขับเคลื่อนลมปราณจนเห็นเป็นรูปเป็นร่างหลายคนแล้ว เมิ่งฉางอู่ก็ให้แต่ละแสดงผลลัพธ์ของการฝึกว่าทุกคนทำได้แค่ไหน เพื่อให้แต่ละคนมีจุดมุ่งหมายลึก ๆ ในใจในการพัฒนาเมื่อเห็นความต่างของฝีมือผู้อื่น เพื่อผลักดันตัวเองไม่ให้ขี้เกียจฝึกฝนเยี่ยหยางดูผลการฝึกของผู้อื่น กลับเริ่มเกิดอาการตึงเครียดเป็นอย่างมากเพราะคนส่วนใหญ่ที่ต่างพยายามมาเกือบสามชั่วยามทำดีที่สุดแค่รูปร่างดูคล้ายสัตว์มีสี่ขา แต่มองไม่ออกว่าเป็นอสูรหรือสัตว์ชนิดใด แถมยังโปร่งแสงแทบจะมองไม่เห็น แน่นอนว่าสัมผัสไม่ได้ เขานี่ว่าพอทุกคนเริ่มฝึกปุ๊บ ก็จะได้เลยแล้วอย่างนี้เขาจะทำยังไง?ของเขาเห็นชัดตำตา สัมผัสลูบคลำได้ตั้งแต่หัวจรดหาง ตัวก็โตเบ่อเริ่อ จะให้

  • ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1   บทที่ 41 ฮือ ๆ ข้าถูกรังแก… ศักดิ์ศรีของข้าไม่เหลือแล้ว 1

    แม้ว่าเมิ่งฉางอู่จะอายุมากกว่าอาจารย์จ้าว และยังห่างกว่าพวกนางมากโข แต่หน้าตาหล่อเหลา เป็นมิตรมากกว่า ทำให้ได้ใจสาว ๆ ไม่มากก็น้อย ยังไม่นับความสุภาพเหมือนบัณฑิตผู้ทรงภูมิเมิ่งฉางอู่กวาดตามองศิษย์หน้าใหม่ และเริ่มสอนวิชาอสูรลมปราณที่วิชานี้เหมาะกับการเรียนนอกห้องหับอย่างพื้นที่กว้างเช่นนี้“ในวิชานี้พวกเจ้าศิษย์ทั้งหลายไม่ต้องจด ไม่ต้องจำ ไม่ต้องอ่านตำรา เพียงแค่ต้องมีพลังลมปราณที่แข็งแกร่งที่มากเพียงพอเรียกลมปราณขับเคลื่อนออกมานอกร่างกาย มาเป็นอสูรที่คอยเป็นคู่คอยสู้เคียงข้างอยู่กับพวกเจ้า...”“พี่ลู่เฉิน...พี่หยางยังไม่มาเลยฮะ”“น้องอวิ๋นเจ้าไม่เห็นข้าได้อย่างไร ข้าเสียใจนะ” เยี่ยหยางส่งเสียงงอนนั่งอยู่ข้างอวี้หย่าอวิ๋นที่หันไปกระซิบถามลู่เฉินที่นั่งข้าง ๆ กัน โดยที่เขาไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย“อ๊ะ...ตกใจหมดเลย โถ่!!! พี่หยาง”เยี่ยหยางใช้คาถาเคลื่อนพริบตาฉับพลันมาอยู่ข้างอวี้หย่าอวิ๋นที่เขาใช้เป็นจุดหมายในการปรากฏตัวจากห้องพักที่เป่ยจง เขาไม่ใช้สองคนนั้นเป็นจุดหมาย เพราะเกรงจะผิดสังเกต...หลอกเด็

  • ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1   บทที่ 40 ข้าอยากอัดคน!!! 3

    ภายในห้องพักหมู่ตึกเป่ยจงของเยี่ยหยาง เขาพยุงแมคเคนที่ไม่ได้สติไปที่ตั่งไม้บุผ้านุ่มไว้สำหรับนั่งเล่น ก่อนจะแกว่งไม้กายสิทธิ์ปรับเปลี่ยนห้องใหม่อีกครั้งสงสัยเขาต้องขยายห้องตัวเองส่วนหนึ่งให้เป็นสถานรักษาพยาบาลพ่อมดแม่มดเหล่าผู้วิเศษอย่างเป็นทางการเลยดีหรือไม่ นี่ก็มีผู้มาใช้บริการต้องสองรายแล้วห้องกว้างถูกปรับเปลี่ยนด้วยเวทมนตร์อีกครั้งตั้งแต่วันแรก ห้องหับถูกขยายกว้างกว่าเดิมสามเท่าตัว ถูกแบ่งกั้นเป็นสัดส่วนแบ่งแยกอย่างชัดเจนขึ้นอีกฝั่งแน่นอนว่าเป็นบริเวณพื้นที่ที่เขาแบ่งยกให้เพื่อนสนิทที่หมดท่าสลบอยู่ส่วนหนึ่ง อีกส่วนเป็นส่วนที่จัดเตรียมไว้สำหรับผู้ป่วยที่เขาจัดเตรียมไว้อย่างจริงจัง โดยมีผู้ใช้บริการมานานอย่างเซฟซาร์จับจองเตียงหยกหิมะไว้มุมหนึ่งเตียงนอนสำหรับผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งวางข้างเตียงที่เซเวียร์นอน เยี่ยหยางโบกมือย้ายแมคเคนลอยขึ้นและวางลงบนเตียงที่เตรียมไว้อย่างแผ่วเบาเยี่ยหยางร่ายคาถาง่าย ๆ อย่างคาถาระบุตัวตนตรวจสอบอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้เก็บตัวปัญหาที่ไม่รู้จักกลับมา อักษรภาษาของผู้วิเศษเปร่งแสงเรืองอยู่เหนือศีร

  • ท่านอ๋องบัดซบ!!! เล่ม 1   บทที่ 39 ข้าอยากอัดคน!!! 2

    เพียงผู้คนกะพริบตา เยี่ยหยางก็ลงมือทันที โดยไม่ให้สัญญาณหรือให้อีกฝ่ายเตรียมตัวเตรียมใจใด ๆภาพทุกอย่างรอบ ๆ หยุดนิ่งไม่ขยับ ศิษย์สายในทั้งหกคนตาหันไปมองรอบตัวอย่างตื่นตระหนก เห็นประกายวาบผ่านดวงตาของขยะไร้ปราณที่พวกมันว่าเยี่ยหยางแสยะยิ้มกว้างให้ มือยกชี้กิ่งไม้เรียวยาวไปที่ทั้งหกคน พริบตายังไม่ทันให้พวกมันได้กล่าวอ้างใด ๆ ร่างกายร้อนผ่าวไปทั่วร่าง กระดูกเหมือนถูกบดเบียดก่อร่างใหม่ จากยืนสองขากลายเป็นสี่ขาใบหน้าเต็มไปด้วยขน จมูกปากยาวยื่น หางยาว ๆ งอกออกจากบั้นท้าย พวกมันต่างตื่นตระหนก ดวงตาตื่นตะลึงมองไปสหายข้างกายที่กลายเป็นสุนัขไม่ต่างจากมัน“นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น!!!” แต่เสียงที่ออกมากลับไม่ใช่เสียงของมนุษย์ กลายเป็นเสียงเห่าหอนของสุนัขตัวหนึ่ง“พวกเจ้าจงลิ้มลองรสชาติการใช้ชีวิตเยี่ยงสุนัขเจ็ดวันเจ็ดคืน ให้รู้จักจิตสำนึกของการเป็นมนุษย์ที่ดีนั้นเป็นยังไงซะ แต่ไม่ต้องห่วง จะไม่มีใครสงสัยที่พวกแกหายไป จะไม่มีใครตามหา เพียงแค่ข้าดีดนิ้วทุกคนที่แกรู้จักก็จะลืมเลือน ถ้าในเจ็ดวันสำนึกได้ว่ามนุษย์ที่ดีควรเป็นกันอย่างไ

DMCA.com Protection Status