แชร์

บทที่ 83

ผู้เขียน: หลันซานอวี่
ติงหมิงรุ่ยมองตามอวิ๋นซานหูที่วิ่งออกไป เขาอดทอดถอนใจอย่างหนักภายในใจไม่ได้

หากรู้แต่เนิ่นจะเป็นเช่นนี้ ไม่ไปเมืองหลวงเสียตั้งแต่แรกยังจะดีกว่า

และถึงจะไป ก็ไม่ควรร่วมทางกับอวิ๋นซานหู

แม้ว่าเขาจะได้ทายาให้บาดแผลของอวิ๋นซานหูแล้ว แต่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงแผลเป็นที่จะยังคงอยู่

เมื่อถึงเมืองหลวงแล้ว เขากลัวว่าจวนจี้ชุนโหวจะนำเรื่องที่อวิ๋นซานหูเสียโฉมมากล่าวโทษเขา

เขาควรทำอย่างไรดี?

ติงหมิงรุ่ยพลันรู้สึกปวดหัวอย่างหนัก

เขาเงยหน้ามองเทือกเขาเรียงรายสลับซับซ้อนอยู่แต่ไกล พึมพัมเงียบงันว่าต้องรีบออกจากภูเขาเฟิ่งลั่วจึงจะดีที่สุด

บัดนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือบาดแผลบนใบหน้าของอวิ๋นซานหู

ในมือเขามียาสมุนไพรไม่เพียงพอ ที่พอมีอยู่ก็เป็นเพียงยารักษาบาดแผลธรรมดา มีแต่ต้องออกจากเขาเฟิ่งลั่วไปยังเมืองใหญ่ จึงจะพอหาโรงโอสถได้

เมื่อมีโรงโอสถก็สามารถซื้อยาสมุนไพรดีๆ อีกทั้งยังส่งข่าวไปทางจวนจี้ชุนโหวให้พวกเขาช่วยคิดหาหนทางได้อีกด้วย

บาดแผลของอวิ๋นซานหูไม่อาจรอช้าได้ ยิ่งทิ้งระยะห่าง รอยแผลเป็นก็มีแต่จะลึกยิ่งขึ้น

ติงหมิงรุ่ยรีบไปหาหัวหน้าหมู่บ้านโจวในทันที ก่อนเอ่ยถามอย่างตรงเข้าประเด็น “หัวหน้าห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
นิสัยตัวร้าย มักมองไม่เห็นความผิดของตัวเอง เฮ้อ
goodnovel comment avatar
นภาภรณ์ ผลพูล
อวิ๋นซานหูนี่ เป็นคนจิตใจชั่วร้ายจริงๆ ไม่คิดว่าตัวเองผิดบ้างเลย โทษแต่คนอื่น
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 84

    บาดแผลบนใบหน้าของนาง ล้วนเป็นเพราะแม่นางอวิ๋นผู้นี้ทั้งนั้น!บัดนี้นางเร่งจะรักษาแผลตน ไม่อาจนำเวลามาเสียกับเรื่องแม่นางอวิ๋นได้รอบาดแผลหายดีแล้ว ค่อยกลับมาชำระบัญชีแค้นกับแม่นางอวิ๋นก็ไม่นับว่าสายความแค้นนี้ นางจดลงบัญชีไว้เสียก่อนอวิ๋นซานหูพะวงแต่เพียงเรื่องบาดแผลของตนเอง ไม่ได้สนใจอาการบาดเจ็บของเหล่าองครักษ์เลยแม้แต่น้อย ยืนกรานจะออกเดินทางทันทีแต่เมื่อชาวบ้านได้ยินว่านางจะไป ต่างก็ไม่ยินยอม พากันปิดทางขวางกั้นไม่ให้นางไปหากไม่ใช่เพราะนางแอบขโมยลูกเสือน้อยมา จนทำให้เสือขาวไล่ตามมาได้และโจมตีเหล่าชาวบ้าน มีหรือทุกคนจะบาดเจ็บล้มตายเช่นนี้?นางก่อเรื่องร้ายแรงเช่นนี้แล้ว บัดนี้ยังคิดจะสะบัดก้นหนีไป มีหรือจะง่ายเช่นนั้นได้? โดยเฉพาะเครือญาติของสามคนที่เสียชีวิตไป ไหนจะเครือญาติของอีกห้าคนที่บาดเจ็บสาหัสปางตาย ต่างก็เกลียดชังอวิ๋นซานหูอย่างถึงที่สุดแม้ว่าทั้งห้าคนที่อาการสาหัสปางตายจะยังมีชีวิตอยู่ แต่บาดแผลหนักหนาเช่นนั้น ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะรอดหรือไม่?ชาวบ้านพากันลุกฮือขึ้น ขวางอวิ๋นซานหูเอาไว้เรียกร้องให้นางรับผิดชอบอวิ๋นซานหูเห็นดังนั้นก็หัวเราะเยาะอย่างเยือกเย็น

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 85

    สมุนไพรที่อวิ๋นฝูหลิงใช้อย่างเปิดเผย ตลอดมาล้วนมีคังหมิงหย่วนเป็นผู้เก็บรักษา ดังนั้นเขาจึงรู้สรรพคุณการใช้งานของสมุนไพรเป็นอย่างดีในใจอวิ๋นฝูหลิงรู้ดีว่าชาวบ้านที่บาดเจ็บไม่อาจขาดยาได้ คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ย “สมุนไพรในภูเขานี้มีอยู่ไม่น้อย ข้าจะออกไปเก็บสมุนไพรเดี๋ยวนี้”เซียวจิ่งอี้ได้ยินเช่นนั้นก็รีบกล่าว “ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”เมื่อได้ยินว่าอวิ๋นฝูหลิงจะไปเก็บสมุนไพร ชาวบ้านหลายคนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บต่างก็อาสาจะตามไปช่วยอวิ๋นฝูหลิงไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจของพวกเขา ทั้งยังให้คังหมิงหย่วนร่วมทางไปด้วยในบรรดาพวกลูกพี่อู๋ แต่ไหนก็มีเพียงคังหมิงหย่วนที่สนอกสนใจในสมุนไพร เขามักตามอวิ๋นฝูหลิงไปจัดการเกี่ยวกับสมุนไพรอยู่เนืองๆดังนั้นอวิ๋นฝูหลิงจึงไม่ได้หวงวิชาคอยชี้แนะให้เขาอยู่บ้างก่อนออกเดินทาง อวิ๋นฝูหลิงลูบหัวของอวิ๋นจิงมั่วเบาๆ ฝากฝังลูกพี่อู๋ให้ดูแลเขาให้ดียังไม่ทันที่ลูกพี่อู๋จะพยักหน้ารับ หัวหน้าหมู่บ้านโจวก็ชิงตอบขึ้นก่อนแล้ว “แม่นางอวิ๋นวางใจเถิด จิงมั่วมีพวกเราทุกคนคอยดูแล หมดห่วงเรื่องปัญหาไปได้เลย!”ชาวบ้านคนอื่นๆ ต่างก็พยักหน้ารับโดยพร้อมเพรียงเหตุการณ์เสือขาวบุกโจมตี

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 86

    “อาจารย์ของข้าบอกเสมอว่าไม่ว่าจะเป็นหมอซางหรือหมอจี๋ เพียงรักษาผู้คนได้ก็นับเป็นหมอดี ดังนั้นข้าติดตามท่านจึงได้เรียนรู้ไปเสียทุกอย่าง”นายท่านหางแสดงสีหน้าเข้าอกเข้าใจออกมา“ท่านอาจารย์เป็นปรมาจารย์โดยแท้ ความรู้และปัญญาเช่นนี้ หาใช่สิ่งที่มนุษย์ปุถุชนทั่วไปจะเข้าใจได้”นายท่านหางไม่ได้ดูถูกหมอซาง เพราะบรรพบุรุษตระกูลหางของพวกเขาก็เป็นหมอซางมาก่อนเช่นกัน ต่อมาได้รับโอกาสจึงได้ปลูกร่างสร้างฐานะขึ้นได้เช่นนี้หากเขาดูแคลนหมอซาง ก็เท่ากับดูแคลนบรรพบุรุษของตนทว่าผู้คนในสังคมกลับตามยกย่องหมอจี๋เสียมากกว่า และมองหมอซางด้วยสายตาดูแคลนเซียวจิ่งอี้หูผึ่งฟังบทสนทนาระหว่างอวิ๋นฝูหลิงและนายท่านหางอยู่ข้างๆเขาอยู่ในกองทัพ จึงย่อมได้ข้องแวะกับหมอซางอยู่บ่อยๆ ทว่าหมอทหารเหล่านั้นในกองทัพ เมื่อเทียบกับอวิ๋นฝูหลิงแล้ว ฝีมือเรียกได้ว่าห่างชั้นไปลิบลับเพียงฝีมือเย็บสมานแผลของอวิ๋นฝูหลิงที่เขาได้เห็นเมื่อครู่ ก็ทำให้เซียวจิ่งอี้ตกตะลึงได้แล้วนายทหารในชายแดนทุกครั้งที่เกิดการปะทะสู้รบ ก็จะมีพลทหารจำนวนไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ต้องสิ้นชีพเพราะบาดแผลภายนอกหากฝีมือการแพทย์ของแพทย์ทหารเทียบกับฝีมือ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 87

    คนทั้งกลุ่มใช้เวลาก่อนฟ้ามืดลง ในที่สุดก็มาจนถึงหมู่บ้านได้สำเร็จทันทีที่เข้าใกล้ ก็ถูกคนเฝ้าปากทางเข้าหมู่บ้านขวางเอาไว้ “พวกเจ้าเป็นใคร?”หัวหน้าหมู่บ้านโจวรีบเดินขึ้นนำเพื่ออธิบาย “พวกเราเป็นชาวหมู่บ้านหลินซาน ฝายเจียงหลิงแตกทลายน้ำจึงทะลักท่วมหมู่บ้านของพวกเราจนหมดสิ้น พวกเราไร้ทางเลือก จึงจำต้องปีนสันข้ามเขามา หาหนทางจะออกไปจากภูเขาเฟิงลั่ว”“ระหว่างทางพวกเราเจอเสือขาว บาดเจ็บกันไปไม่น้อย พอเห็นว่าที่นี่มีหมู่บ้าน จึงอยากมาถามไถ่ว่าพอจะให้เราพักด้วยสักระยะเพื่อรักษาอาการได้หรือไม่?”คนเฝ้าปากทางสองคนมองหน้ากัน ในแววตาดูคลายความหวาดระแวงลงหลายส่วนหนึ่งในนั้นเป็นชายหนวดเคราเฟิ้มหันมายิ้มให้ “มิน่าเล่า ก่อนนี้พวกเราจึงได้ยินเสียงเสือคำรามร้อง”“หมู่บ้านของเรามีบ้านว่างอยู่หลายหลังพอดีเชียว ให้พวกเจ้าใช้พักรักษาตัวกันได้”เขาหันไปส่งสายตาให้ชายหนุ่มข้างกาย “ซานจื่อ เจ้ารีบไปบอกหัวหน้าหมู่บ้าน”ชายนามว่าซานจื่อพยักหน้ารับ หุนหันวิ่งออกไปทันทีชายหนวดเคราเฟิ้มเอ่ย “ข้ามีนามว่าหลิวเฟิง พวกเจ้าตามข้ามาเถิด”สีหน้าหัวหน้าหมู่บ้านโจวเต็มด้วยซาบซึ้งขอบคุณ หลังกล่าวขอบคุณแล้ว ก็เร

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 88

    อวิ๋นฝูหลิงรีบร้องห้าม “วางลง!”ลูกพี่อู๋เงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่เข้าใจเซียวจิ่งอี้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น “ถ้าไม่อยากตาย ก็อย่าแตะต้องของพวกนี้จะดีกว่า!”มือของลูกพี่อู๋สั่นเทา ช้อนในมือพลันหล่นลงไปในหม้อ“น้ำ...น้ำแกงนี่มีพิษงั้นหรือ?” เขาพูดตะกุกตะกักขึ้นโดยไม่รู้ตัวอวิ๋นฝูหลิงตรวจสอบน้ำแกงเนื้อและขนมเปี๊ยะโดยละเอียดก่อนจะกล่าว “ในน้ำแกงเนื้อและขนมเปี๊ยะล้วนมียาใส่เข้าไป ทว่าเป็นเพียงยาที่ทำให้ร่างกายอ่อนแรงเท่านั้น ปริมาณไม่มาก หาได้มีพิษร้าย” จางซานมู่ตีสีหน้าเคร่ง “หรือว่าหมู่บ้านนี้จะเป็นหมู่บ้านโจร? พวกเขาวางยาเพราะอยากปล้นทรัพย์สินพวกเรา?”อวิ๋นฝูหลิงและเซียวจิ่งอี้สบตากัน ต่างรู้กันว่าสองคนระแวงสงสัยในสิ่งเดียวกันอยู่ก่อนแล้วอวิ๋นฝูหลิงกล่าว “พวกเจ้าเคยสังเกตหรือไม่ว่าหมู่บ้านนี้มีแต่ชายหนุ่มกำยำแข็งแรง ไม่มีผู้หญิงหรือเด็กเลย”“หากเป็นหมู่บ้านทั่วไปก็ควรจะประกอบด้วยผู้เฒ่าผู้แก่และแม่ลูกมิใช่หรือ?”“อีกทั้งท่าทีของพวกเขายังต้อนรับขับสู้มากจนเกินไป!”เซียวจิ่งอี้ต่อว่าต่อ “รวมถึงสายตาของพวกเขาด้วย พวกเขามองพวกเราด้วยสายตาแปลกพิกล ราวกับว่าเลือกเฟ้นสิ่งของอ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 89

    หลิวเฟิงตอบรับคำสั่งทันที “หัวหน้าวางใจได้เลย พวกเราทำงานรอบคอบอยู่แล้ว พวกมันไม่มีทางสงสัยแน่”“อีกอย่างต่อให้สงสัย ก้าวมาหาเราแล้วก็อย่าหวังจะได้ออกไปอีก!"หัวหน้าหมู่บ้านหม่าหัวเราะลั่น “เจ้าพูดถูก!”“ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเร่งให้ส่งของออกไป ทว่าคนของผู้ดูแลเฉียนไม่เพียงพอ ข้าได้ยินเขาพร่ำบ่นหลายต่อหลายครั้งแล้ว” “พวกเราส่งคนพวกนี้ไป ผู้ดูแลเฉียนจะต้องดีใจเป็นแน่ หากเขาช่วยพูดกับท่านจอมปราชญ์เรื่องพวกเราสักหน่อยแล้วล่ะก็ ต่อไปเราก็ไม่ต้องกลัดกลุ้มกันอีกแล้ว”“ท่านจอมปราชญ์เป็นคนโปรดของท่านอ๋อง เพียงประโยคเดียวที่เขาพูดก็มีผลเทียบเท่าสิบคำพูดของผู้อื่นแล้ว”“ทุกคืนทุกวันซุกหัวอยู่ในที่ที่แม้แต่นกยังไม่ถ่ายมูลแบบนี้ ข้าเบื่อจนเต็มทนแล้ว!"หลิวเฟิงไม่รอช้ารีบประจบประแจง“พวกเราดูแลรอบนอก ไม่ให้ผู้ใดเข้าใกล้ เลี่ยงไม่ให้เรื่องเหมืองแร่แพร่งพรายออกไป ก็นับว่าทำงานหนักสร้างประโยชน์ไม่น้อยเช่นกัน”“วันข้างหน้าเมื่อถึงยามให้บำเหน็จตามความชอบย่อมไม่อาจขาดส่วนของพวกเราไปได้!”เรือนคิ้วเซียวจิ่งอี้ขมวดมุ่น ในใจกลับปั่นป่วนราวคลื่นพายุโถมเข้าใส่เหมืองแร่งั้นหรือ? เหมืองแร่อะไรกัน?

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 90

    “ข้าไปเดินดูตามบ้านต่างๆ เพื่อเปลี่ยนยา คนในหมู่บ้านนี้ต่างไม่ได้ขัดขวางอะไรข้า แต่ข้ารู้สึกได้ว่ามีคนคอยจับตาดูเราอยู่ตลอด”ที่อวิ๋นฝูหลิงออกไปเดินวนในครั้งนี้ ถึงจะเป็นเพียงการทดลอง แต่ก็เพราะห่วงใยคนเจ็บอยู่ด้วยเช่นกันโดยเฉพาะหลายคนที่อาการเจ็บค่อนไปทางสาหัสในจำนวนนั้นคนที่ทำให้อวิ๋นฝูหลิงกังวลมากที่สุดก็คือหวังเอ้อร์เหอที่เพิ่งผ่านการเย็บสมานแผล เขาอยู่ในช่วงสำคัญที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเมื่ออวิ๋นฝูหลิงเล่าเรื่องราวฝั่งของตนจบแล้วเสร็จ ก็ถามเซียวจิ่งอี้กลับว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร สืบได้ข่าวคราวว่าอย่างไรบ้าง?เซียวจิ่งอี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้ดีว่าเบื้องหลังของเรื่องราวโยงใยเกี่ยวพันใหญ่โต จึงไม่ควรให้ฝูหลิงซึ่งเป็นเพียงหญิงธรรมดาเข้ามาเกี่ยวข้องทว่าเมื่อเขาสบเข้ากับสายตาเฉียบคมหลักแหลมคู่นั้นของนางเข้า ก็ราวกับผีสิงวิญญาณเข้า ทำเอาเขานำความที่ได้ยินมาทั้งหมดบอกกับอวิ๋นฝูหลิงไปเมื่ออวิ๋นฝูหลิงได้ฟังว่าคนพวกนี้มีแผนจะส่งผู้ชายไปทำงานในเหมืองแร่ ส่วนผู้หญิงจะถูกย่ำยีเล่นสนุกก่อนจะส่งไปขายที่ซ่อง ส่วนเด็กน้อยก็จะถูกฆ่าทิ้งทั้งหมด ก็พลันโกรธจนสองตาแดงก่ำ“พวกชั่วช้าสาม

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 91

    เซียวจิ่งอี้ไปถึงนอกหมู่บ้าน หยิบขลุ่ยทองแดงเลาหนึ่งที่ทำขึ้นพิเศษออกมาเป่าสองสามครั้งผ่านไปครู่เดียว ก็มีร่างเงาสายหนึ่งปรากฏตัวอย่างเงียบๆ“ข้าน้อยเทียนจี คารวะนายท่าน!”เซียวจิ่งอี้เก็บขลุ่ยทองแดงแล้วกล่าวถาม “ทำงานที่มอบหมายให้พวกเจ้าเสร็จหมดหรือยัง?”เทียนจีกล่าวตอบอย่างนอบน้อม “เรียนนายท่าน ติดต่อกับผู้บัญชาการจั่วได้แล้วขอรับ”“ตอนนี้ผู้บัญชาการจั่วถึงเจียงโจวแล้ว เขาฝากข้าน้อยมาบอกนายท่านว่า นายท่านอยากทำอะไรก็ทำเต็มที่เลย!”“ผู้บัญชาการจั่วยังบอกอีกว่า เริ่มมีเบาะแสเรื่องการลอบสังหารแล้ว หลังจากพบกับนายท่านแล้ว ค่อยคุยรายละเอียดกับนายท่านขอรับ”เซียวจิ่งอี้พยักหน้าสมัยที่จั่วเยี่ยนตกต่ำ เข้าตาจนไม่มีทางให้ไป เซียวจิ่งอี้พบโดยบังเอิญจึงได้ช่วยเหลือเขาบุญคุณครั้งนี้ แลกมากับการตอบแทนที่จงรักภักดีนอกจากคนสนิทของเขา ไม่มีใครรู้ว่าที่จริงจั่วเยี่ยนเป็นคนของเขาหลายปีนี้เขาออกจากเมืองหลวงไปประจำการที่ด่านชายแดน แต่ยังสามารถรับรู้เหตุการณ์ในเมืองหลวงและสถานการณ์ในราชสำนักอย่างชัดเจน หนึ่งในนั้นก็มีผลงานของจั่วเยี่ยน“ติดต่อคนของพวกเรา รอรับคำสั่งรอบนอกเขาเฟิ่งลั่ว”“

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 372

    องครักษ์ของจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินไม่ธรรมดา แต่ละคนล้วนเป็นผู้กล้าที่เคยผ่านสนามรบและเคยเห็นเลือดมาก่อนถ้าหากมีคนกล้าบุกเข้าไป องครักษ์เหล่านี้ล้วนไม่ได้มีไว้ประดับ!แม้ฮูหยินฉู่รำคาญคนเหล่านี้ แต่ก็มีแผนรับมือในใจแล้วหลังจากนางพบว่าวันนี้มีผู้คนจำนวนมากมาที่จวน จึงเตรียมการทันทีมีองครักษ์ของจวนอยู่ที่นี่ วันนี้อย่าว่าแต่ห้องคลอดเลย ต่อให้เป็นลานเรือนของห้องคลอด ก็ไม่มีใครสามารถบุกเข้าไปได้เมื่อเหล่าฮูหยินที่อยู่ในลานเห็นดังนี้ ก็รู้ว่าวันนี้พวกนางไม่สามารถไปดูอวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องทำคลอดที่ห้องคลอดแล้วด้วยเหตุนี้ทุกคนทำได้เพียงนั่งลงดื่มน้ำชาอย่างไม่พอใจเพราะการจากไปตอนนี้เลยมันไม่เหมาะสมต่อให้จะไป ก็ต้องไม่ใช่ตอนนี้ระหว่างทางที่ไปห้องคลอด อวิ๋นฝูหลิงถามฮูหยินฉู่ว่าพวกโอวหยางหมิงมาหรือยังโอวหยางหมิงและคนอื่นมากันแล้ว แต่ว่าฮูหยินฉู่พาพวกเขาไปยังอีกสถานที่หนึ่งอวิ๋นฝูหลิงได้ยินว่าพวกโอวหยางหมิงมากันแล้ว ก็เปลี่ยนใจทันที “ไปหาพวกเจ้าสำนักโอวหยางก่อน”เมื่อฮูหยินฉู่ได้ยิน ก็รีบพาอวิ๋นฝูหลิงไปยังห้องรับแขกที่ต้อนรับพวกโอวหยางหมิงทันทีภายในห้องรับแขก บรรยากาศกำลังครึกคร

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 371

    จ้าวเสวียซือจงใจลดเสียงให้เบาลง และยังยื่นศีรษะเข้าไปทางหน้าต่างรถเซียวจิ่งอี้มองเขาอย่างรังเกียจแวบหนึ่ง“ข้ารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร”“หดหัวของเจ้ากลับไป!”จ้าวเสวียซือหดศีรษะกลับไปอย่างอับอายพริบตาต่อมา เซียวจิ่งอี้ปิดหน้าต่างรถทันทีจ้าวเสวียซือรู้สึกถึงการเหยียดหยามของเซียวจิ่งอี้ โมโหจนแทบช้ำในเขาก็แค่รู้ตัวช้าไปหน่อย ไม่ทันสังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติ!หลังจากมาถึงจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดิน อวิ๋นฝูหลิงก็เข้าใจในสิ่งที่จ้าวเสวียซือพูดแล้ว เกือบครึ่งหนึ่งของเมืองหลวงล้วนรู้เรื่องคร่าวๆ แล้วจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินในวันนี้คึกคักมาก แขกเหรื่อเต็มไปหมดมีคนไม่น้อยที่อาศัยข้ออ้างมาเยี่ยมฮูหยินน้อยฉู่ เพื่อมาดูอวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องทำคลอดฮูหยินฉู่รู้เจตนาการมาเยือนของคนเหล่านี้ แต่ก็ไม่สามารถไล่คนตรงๆ ได้ทำได้เพียงรับหน้าไปพลาง หาวิธีส่งแขกไปพลางทว่าฮูหยินฉู่ยังคิดวิธีไม่ออก อวิ๋นฝูหลิงก็มาถึงแล้วเมื่ออวิ๋นฝูหลิงเห็นผู้คนที่อยู่เต็มลาน ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้และผู้คนที่มารุมสอบถามเรื่องการผ่าท้องทำคลอดกับฮูหยินฉู่ในตอนแรก เพิ่งเห็นอวิ๋นฝูหลิงมา ก็กรูกันเข้าไปหานางทันทีแต่หลัง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 370

    หากนางต้องการคน ขอแค่นางบอกมา เกรงว่ากระทั่งหมอหลวงในสำนักหมอหลวงก็คงมีคนมากมายที่ยินยอมช่วยเหลือจำเป็นต้องมาถึงสกุลหางเชียวหรือ?การกระทำเช่นนี้ของอวิ๋นฝูหลิงนั้นถือว่านึกถึงบุญคุณที่สกุลหางได้ช่วยเหลือไว้ก่อนหน้านี้ จึงมามอบน้ำใจให้ถึงสกุลหาง!หลังจากที่นายท่านหางเข้าใจจุดสำคัญของเรื่องนี้ ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ความอบอุ่นแผ่ซ่านอยู่ในหัวใจวันนี้ข่าวที่อวิ๋นฝูหลิงจะผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่นั้นแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ในเมืองหลวงจึงมีเรื่องใหม่ให้ได้พูดคุยถกกันอย่างบ้าคลั่งบางคนตื่นตระหนกตกใจ บางคนก็สงสัยใคร่รู้และมีบางคนคิดจะฉวยโอกาสนี้ แอบปลุกปั่นสร้างเรื่องวันต่อมาอวิ๋นฝูหลิงหลับสนิทตลอดทั้งคืน เตรียมตัวไปจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่าเดิมทีวันนี้เซียวจิ่งอี้จะต้องไปตรวจตราค่ายใหญ่แถบชานเมืองหลวงทว่าพอเขานึกว่าวันนี้อวิ๋นฝูหลิงจะต้องผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่แล้ว เลยวางใจไม่ลงจริง ๆถึงอย่างไรการผ่าตัดครั้งนี้ก็นับว่าเป็นการผ่าท้องเอาเด็กออกในขณะที่คนยังมีชีวิตอยู่เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ ไม่ว่าจะเป็นสกุลฉู่ก็ดี

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 369

    กระทั่งยามที่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ได้สติ อวิ๋นฝูหลิงก็โยนแส้ใส่อ้อมแขนของนางแล้ว“เอาละ พวกเราสองคนหายกันแล้วนะ”ฉยงอวี้จวิ้นจู่ถึงกับนิ่งอึ้งยามที่นาได้สติ ตัวอวิ๋นฝูหลิงก็เดินจากไปไกลแล้วฉยงอวี้จวิ้นจู่กำแส้ขี่ม้าในมือแน่น พร้อมกับคิ้วที่กระตุกเล็กน้อยอวิ๋นฝูหลิงผู้นี้ไม่เหมือนกับที่นางคิดเลยสักนิดนิสัยไม่เหมือนใครดี!หลังจากที่อวิ๋นฝูหลิงออกจากจวนแม้ทัพพิทักษ์แผ่นดิน ก็ไปยังเรือนในเมืองหลวงของสกุลหางนายท่านผู้เฒ่าหางดีใจยิ่งนักที่เห็นนางมา“ฝูหลิง ทำไมวันนี้ถึงได้มีเวลามาได้เล่า?”อวิ๋นฝูหลิงก้าวไปคารวะ แล้วยิ้มพลางกล่าวว่า “แน่นอนว่าเป็นเพราะคิดถึงท่านปู่หาง เลยมาเยี่ยมหาอย่าไรเล่าเจ้าคะ”นางเขย่าห่อกระดาษในมือเล็กน้อย “รู้ว่าท่านชอบกินขนมลี่จื่อของโจวจี้ จึงตั้งใจเอามาแสดงความกตัญญูกับท่านปู่เจ้าค่ะ!”รอยยิ้มบนใบหน้าของนายท่านผู้เฒ่าหางยิ่งกว้างกว่าเดิมรีบให้บ่าวไพร่นำขนมลี่จื่อที่อวิ๋นฝูหลิงนำมาไปวางใส่จานมา เขาจะไว้กินแกล้มกับชาปู่หลานพูดคุยกันได้สักพัก อวิ๋นฝูหลิงจึงพูดเรื่องจริงจังขึ้นมา“ท่านปู่หาง ตอนนี้ข้ามีคนไข้อยู่ในมือ นางตั้งครรภ์แฝด หากจะคลอดอย่างธรรมดา

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 368

    ลูกเติบโตอยู่ในท้องของนางทุกวัน ๆ ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว ล้วนนำมาซึ่งความปีติยินดีที่ยากจะเอื้อนเอ่ยออกมาได้นางไม่อาจทอดทิ้งลูกในท้องได้จริง ๆหลังได้รู้จักกับวิธีการผ่าท้องเอาเด็กออกของอวิ๋นฝูหลิง ฮูหยินน้อยฉู่ก็ตัดสินใจได้เฉียบขาดเสียยิ่งกว่าผู้ใดเหล่าหมอที่รายล้อมอยู่ข้าง ๆ ล้วนอับจนหนทาง มิสู้ให้อวิ๋นฝูหลิงได้ลองทำมิดีกว่าหรือหากรักษาพวกนางสามแม่ลูกไว้ได้จะเป็นการดีที่สุดหากทำไม่ได้ เช่นนั้นก็เอาชีวิตของนางไปแทนลูก ๆ เถิดแม้นาจะตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ทว่ายามที่เหตุการณ์ดำเนินมาถึงตรงหน้า นางก็ยังคงตื่นเต้นอยู่ดีโชคดีที่อวิ๋นฝูหลิงพูดจานุ่มนวล ทำให้นางคลายความตื่นตระหนกในใจไปได้มากหลังจากอวิ๋นฝูหลิงจับชีพจรให้ฮูหยินน้อยฉู่แล้ว จึงกำชับนางว่านับตั้งแต่ตอนนี้ห้ามกินอะไรเข้าไป มิเช่นนั้นจะกระทบต่อการผ่าตัด เป็นอันตรายถึงชีวิตฮูหยินน้อยฉู่ได้ยินน้ำเสียงแสนจริงจังของอวิ๋นฝูหลิงแล้ว รีบแสดงท่าทีว่านางเชื่อฟังคำพูดของอวิ๋นฝูหลิงไม่มีบิดพลิ้ว ไม่กินอะไรลงท้องแน่นอนอวิ๋นฝูหลิงเห็นเช่นนั้น ก็พอใจมากนางชอบผู้ป่วยที่เชื่อฟังคำสั่งของหมอเป็นที่สุดหลังอวิ๋นฝูหลิงกำชับสิ่งท

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 367

    โอวหยางหมิงไม่ทันตั้งตัวกับคำขอของอวิ๋นฝูหลิงเอาเสียเลยนี่เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ที่ทำการผ่าท้องเอาเด็กออก ในขณะที่มารดาที่ตั้งครรภ์ยังมีชีวิตอยู่หากเป็นอย่างที่อวิ๋นฝูหลิงพูดจริง ๆ ที่ว่าหลังผ่าตัดแล้ว ทั้งมารดาและบุตรล้วนมีชีวิตอยู่ต่อได้โดยปลอดภัยละก็ พอจะจินตนาการออกเลยว่าจะก่อความตื่นตะลึงมากมายมหาศาลเลยทีเดียววีรกรรมอันยิ่งใหญ่นี้ จะต้องถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์ทางการแพทย์ ถึงขั้นในตำราประวัติศาสตร์ก็อาจจะเป็นได้ว่าจะบันทึกเอาไว้อย่างโดดเด่นอีกด้วยฉากที่ได้เป็นประจักษ์พยานเช่นนี้ โอวหยางหมิงย่อมหวังว่าตัวเขาเองจะอยู่ในเหตุการณ์ด้วยหลังจากโอวหยางหมิงตอบรับคำร้องขอของอวิ๋นฝูหลิงแล้ว ก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “ฝูหลิง เจ้าต้องการผู้ช่วยสักกี่คน จะให้ปู่เรียกคนในสำนักแพทย์หลวงมาให้เจ้าสักหลาย ๆ คนหน่อยหรือไม่?”โอวหยางหมิงมั่นใจ ขอแค่เขาเรียกตัว เหล่าหมอหลวงในสำนักแพทย์หลวงจำนวนไม่น้อยจะต้องให้ความสนใจกับการผ่าคลอดครั้งนี้ ทั้งยังเต็มใจมาช่วยอีกด้วยอวิ๋นฝูหลิงส่ายหน้าพลางกล่าว “เรื่องท่านหมอนั้นข้ามีตัวเลือกอยู่ในใจแล้ว ไม่ต้องการใครอีกเจ้าค่ะ”“แต่ได้ยินว่าในสำนักแพทย์หลว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 366

    ยามนี้ ผู้เฝ้าประตูเดินเข้ามารายงานว่า “ท่านอ๋อง พระชายา แม่ทัพน้อยฉู่จากจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินมาขอรับ”“บอกว่าต้องการเชิญพระชายาให้ไปตรวจอาการอีกครั้งขอรับ!”อวิ๋นฝูหลิงวางชามโจ๊กในมือลง ฉวยผ้าเช็ดปากมาซับปากเล็กน้อย“เชิญให้ท่านแม่ทัพน้อยฉู่รอที่โถงหน้าสักครู่ อีกประเดี๋ยวข้าจะตามไป”เมื่อวานนี้นางมั่นใจยิ่ง ว่าท้ายที่สุดแล้วสกุลฉู่ก็จะมาหานางเนื่องจากสถานการณ์ของฮูหยินน้อยฉู่ หากเป็นการคลอดธรรมชาติ ด้วยวิชาแพทย์ในปัจจุบันนี้ของแคว้นต้าฉีนั้น แทบจะไม่มีหมอคนไหนที่สามารถรับรองความปลอดภัยของทั้งมารดาและบุตรได้เลยเดิมทีนางคิดว่าสกุลฉู่จะฝืนทนต่ออีกสองสามวัน เฝ้าหาหมอชื่อดังหลายท่านไปตรวจดูนึกไม่ถึงว่านี่เพิ่งผ่านไปเพียงวันเดียว ฉู่หมิงก็มาเชิญนางถึงหน้าประตูด้วยตนเองเสียแล้วการกระทำของสกุลฉู่ ยิ่งทำให้อวิ๋นฝูหลิงมั่นใจว่าสกุลฉู่เอนเอียงที่จะใช้วิธีผ่าท้องเอาเด็กออกที่นางเสนอแล้วเซียวจิ่งอี้ว่า “วันนี้ข้าไม่มีกิจอันใดพอดี ตามเจ้าไปได้”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า หลังกลับไปหยิบกล่องยาที่ห้องแล้ว จึงเดินไปที่โถงหน้ากับเซียวจิ่งอี้ฉยงอวี้จวิ้นจู่เห็นว่าไม่มีใครเรียกนาง ครั้นลองคิ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 365

    อย่าว่าแต่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ถูกเซียวจิ่งอี้แย่งแส้ไปเลย นี่ยังถูกซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาขนาดนี้อีกครั้นฉยงอวี้จวิ้นจู่สบเข้ากับดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเดือดดาลคู่นั้นของเซียวจิ่งอี้ ในใจพลันหวาดหวั่นขึ้นมาแต่พอนึกถึงสาเหตุที่ตัวเองมาที่นี่ในวันนี้แล้ว จึงรู้สึกมั่นใจและหาญกล้าขึ้นมาทันที“พี่เจ็ด ท่านถามว่าข้าคิดจะทำอะไรหรือ? ข้าอยากถามอวิ๋นฝูหลิงมากกว่า ว่านางคิดจะทำอะไร?”“เจ้ายังจะกล้าต่อปากต่อคำอีก?” เซียวจิ่งอี้บันดาลโทสะ ง้างมือเหวี่ยงแส้ออกไปฉยงอวี้จวิ้นจู่หลบไปข้าง ๆ ด้วยความตกใจทันทีดวงตาคลอไปด้วยน้ำตา ท่าทางน้อยอกน้อยใจเป็นที่สุดทว่าแส้ของเซียวจิ่งอี้กลับสะบัดไปถูกอากาศเท่านั้น มิได้พุ่งไปยังบริเวณที่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ยืนอยู่เมื่อครู่นี้ด้วยซ้ำ“หากเจ้ายังกล้าทำตนไม่เคารพไม่ให้เกียรติพี่สะใภ้เจ้าอยู่อีก หนหน้าแส้ในมือข้าจะไม่โดยเพียงอากาศแล้ว!” แววตาของเซียวจิ่งอี้เย็นชาเป็นอย่างยิ่งเขาไม่ยอมให้ใครหน้าไหนก็ตามมารังแกอวิ๋นฝูหลิง!ฉยงอวี้จวิ้นจู่เห็นเซียวจิ่งอี้มีโทสะเข้าแล้วจริง ๆ ถึงกับอดหดคอด้วยความหวาดกลัวไม่ได้นางชอบเล่นกับเซียวจิ่งอี้มาตั้งแต่เด็ก เพราะว่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 364

    “วันพรุ่งไม่สู้ลองเชิญพระชายาอี้อ๋องมาอีกครั้ง แล้วให้อธิบายวิธีผ่าเปิดหน้าท้องเอาเด็กออกให้ละเอียดดีหรือไม่?”“หลังลองฟังดูแล้วค่อยตัดสินใจกันอีกครา?”หลังจากที่คังจวิ้นอ๋องและคนอื่น ๆ สบตากัน ทุกคนล้วนเห็นด้วยที่วันพรุ่งจะเชิญอวิ๋นฝูหลิงมาอีกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวคังจวิ้นอ๋อง พวกเขาอยากได้ยินอวิ๋นฝูหลิงพูดเองกับหูส่วนทางอวิ๋นฝูหลิงหลังจากกลับมาถึงจวนอี้อ๋องนั้น ก็เข้ามิติไปรื้อค้นในเรือนไม้ไผ่ เพื่อตระเตรียมของสำหรับการผ่าคลอดนางมีลางสังหรณ์ ว่าสุดท้ายแล้วสกุลฉู่จะยอมให้นางทำการผ่าคลอดวันต่อมา ขณะที่อวิ๋นฝูหลิงกำลังกินข้าวเช้า ในจวนอ๋องพลันมีแขกไม่ได้รับเชิญท่านหนึ่งปรากฏตัวครั้นอวิ๋นฝูหลิงรู้ว่าฉยงอวี้จวิ้นจู่เสด็จมา จึงประหลาดใจไม่น้อยนับแต่งานเลี้ยงพระราชวังเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ทั้งคู่ก็ไม่ได้คลุกคลีอะไรกันอวิ๋นฝูหลิงสัมผัสได้ราง ๆ ว่าฉยงอวี้จวิ้นจู่ดูเหมือนจะมีเจตนาร้ายต่อนาง จึงคอยอยู่ห่าง ๆ ไว้แล้วเหตุใดนางถึงได้โผล่มาถึงหน้าจวนกะทันหันแบบนี้?วันนี้เซียวจิ่งอี้มิได้มีกิจอันใดพอดี และกำลังร่วมกินข้าวเช้าอยู่กับอวิ๋นฝูหลิงครั้นทราบว่าฉยงอวี้จวิ้นจู

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status