แชร์

บทที่ 208

ผู้เขียน: หลันซานอวี่
พวกหัวหน้าหมู่บ้านโจวได้ยินก็ตกตะลึง

บทสนทนาแบบเดียวกันนี้ เกิดขึ้นที่บ้านของหู่โถวกับชุนเซิง

แม้จะไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับอวิ๋นฝูหลิงและเซียวจิ่งอี้ เหตุใดจู่ ๆ เซียวจิ่งอี้ก็กลายเป็นพ่อที่แท้จริงของอวิ๋นจิงมั่ว แต่ทั้งสามสกุลรวมถึงหัวหน้าหมู่บ้านโจวก็หาใช่ว่าจะไม่มีไหวพริบและกาลเทศะ

ทั้งสามสกุลต่างก็เตือนลูกของตนว่าอย่าพูดเสียงดังไปถึงข้างนอก

ทว่าไม่จำเป็นที่พวกโจวฉางจี๋จะต้องป่าวประกาศเรื่องนี้ เรื่องที่พวกเขานั่งรถม้าไปเล่นในเมืองกับอวิ๋นจิงมั่ว และนำของขวัญกองหนึ่งกลับมา ก็แพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้านแล้ว

ในหมู่บ้านมีผู้คนมากมายที่เฝ้ามองอยู่ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนเห็น ดังนั้นเรื่องนี้จึงมิอาจปิดบังได้

มีหลายครอบครัวที่เห็นพวกโจวฉางจี๋ได้รับผลประโยชน์ ก็อิจฉาตาร้อน จนอดไม่ได้ที่จะต่อว่าลูกตัวเอง

หากลูกตัวเองประจบเก่งเหมือนพวกโจวฉางจี๋ จนได้ไปเล่นกับอวิ๋นจิงมั่ว วันนี้คนที่ได้รับของขวัญย่อมเป็นพวกเขา

อวิ๋นฝูหลิงยังไม่รู้เรื่องราว ยามนี้กำลังมองเซียวจิ่งอี้ที่อยู่ตรงหน้า ขณะที่คิ้วขมวดมากขึ้น

เซียวจิ่งอี้อธิบายโดยพลันว่า “ข้าจัดการสวนอิ่งเรียบร้อยแล้ว ช่วงนี้ข้าต้อง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
อรุณี สุปิตาชุน
เขียนได้ครบทุกอรรถรสเลย ชอบมาก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 209

    เซียวจิ่งอี้อยู่ที่หมู่บ้านซวงหลินต่อวันนั้นที่ประลองวิชาแพทย์ มีเพียงพวกลูกพี่อู๋สี่คนที่เข้าไปในเมือง ดังนั้นตัวตนที่แท้จริงของเซียวจิ่งอี้ นอกจากพวกเขาแล้ว ชาวบ้านคนอื่นจึงยังไม่รู้อวิ๋นฝูหลิงยังกำชับกับพวกลูกพี่อู๋เป็นพิเศษด้วยว่า ไม่ให้พวกเขาบอกเรื่องของเซียวจิ่งอี้กับผู้อื่นส่วนอวิ๋นจิงมั่วยังอายุน้อย ดังนั้นอวิ๋นฝูหลิงกับเซียวจิ่งอี้จึงยังมิได้อธิบายภูมิหลังของเซียวจิ่งอี้ให้เขาฟังด้วยเหตุนี้ที่ผ่านมาอวิ๋นจิงมั่วจึงไม่รู้เรื่องราว รู้เพียงว่าพ่อของเขามีเงินและอำนาจเยอะมาก ซึ่งมากยิ่งกว่าพวกเจ้าหน้าที่ทางการเสียอีกคนในหมู่บ้านแม้จะไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเซียวจิ่งอี้ แต่กลับรู้ว่าเขาคือพ่อแท้ ๆ ของอวิ๋นจิงมั่วยิ่งไปกว่านั้นเห็นว่าเขากิริยาท่าทางเป็นเลิศ ทั้งยังพิถีพิถันเรื่องอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวัน จึงพากันคาดเดาตัวตนของเขาลับหลังสิ่งที่ถูกคาดเดามากที่สุด คนส่วนใหญ่ต่างแน่ใจ ว่าเซียวจิ่งอี้เป็นคุณชายจากตระกูลใหญ่ในเมืองเขากับอวิ๋นฝูหลิงตกหลุมรักกัน แต่อวิ๋นฝูหลิงมีฐานะต่ำต้อย จึงไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวของเซียวจิ่งอี้ดังนั้นทั้งสองคนจึงแอบหนีมาใช้ชีวิ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 210

    คุณหนูถังที่ยืนอยู่ด้านข้างก็มีสีหน้ายินดีและรู้สึกซาบซึ้งใจเช่นกันนางพอใจในการแต่งงานครั้งนี้มาก ด้วยการจัดการของบิดามารดา จึงได้พบกับสามีในอนาคตเป็นการส่วนตัวอยู่สองครั้ง ในใจจึงมีทั้งความคาดหวังและความยินดีของสาวน้อยแต่ทุกสิ่งก็ล้วนถูกทำลายด้วยผื่นแดงบนร่างของนางหากไม่อาจรักษาผื่นแดงให้หายดีได้ จนอีกสามเดือนหลังจากนี้นางต้องไปตบแต่งด้วยสภาพผื่นแดงเต็มร่าง นางก็แทบคิดว่าตายไปเสียจะดีกว่าโชคดีที่ฝันร้ายนี้สิ้นสุดลงแล้วอวิ๋นฝูหลิงกล่าวด้วยรอยยิ้มโดยพลัน “เช่นนั้นก็ขอแสดงความยินดีกับการแต่งงานของคุณหนูถังล่วงหน้า!”คุณหนูถังหน้าแดงด้วยความเขินอาย ก่อนจะยืนขึ้นคำนับอวิ๋นฝูหลิงอย่างจริงจัง “ขอบคุณแม่นางอวิ๋นมากที่ช่วยรักษาผื่นแดงบนร่างของข้าจนหายดี”อวิ๋นฝูหลิงพยุงนาง “ข้าเป็นหมอ เรื่องการรักษาคนย่อมเป็นหน้าที่ของหมอ”อวิ๋นฝูหลิงมองนางพลางกล่าวว่า “ตามเทียบยารักษาผื่นเช่นเดิม แต่กินอีกสองวันก็พอแล้ว”“ข้ายังมีสูตรและขี้ผึ้งดูแลผิวให้งดงามด้วย หลังจากคุณหนูถังใช้แล้ว จะทำให้เป็นเจ้าสาวคนใหม่ที่เปล่งประกายแน่นอน”อวิ๋นฝูหลิงเพิ่งกล่าวจบ ฮูหยินถังก็กล่าวว่า “เช่นนั้นต้องขอบคุณ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 211

    หลิงโหยวเป็นผู้ช่วยที่ไม่เลวคนหนึ่งทั้งเข้าใจวิชาแพทย์ ทั้งจงรักภักดีต่อสกุลอวิ๋น ไม่ว่าจะเป็นสวนสมุนไพรหรือโรงปรุงยาล้วนมอบหมายให้เขาดูแลได้เพียงแค่ไม่รู้ว่าเขาจะยินดีหรือไม่หลังอวิ๋นฝูหลิงเจอหลิงโหยว ก็เล่าถึงความคิดนี้ออกไป ทางหลิงโหยวรีบพยักหน้าทันทีพลางกล่าวว่า “ยินดีขอรับ ข้าน้อยย่อมยินดีอยู่แล้วขอรับ!”นับตั้งแต่ที่ได้พบกับอวิ๋นฝูหลิงอีกครั้ง หลิงโหยวก็อยากกลับไปคอยช่วยเหลือทำเรื่องต่าง ๆ อยู่ข้างกายอวิ๋นฝูหลิงยามนี้ได้สมดังปรารถนาแล้ว ย่อมปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่งแต่ไหนแต่ไรมา อวิ๋นฝูหลิงล้วนใจกว้างกับเหล่าคนที่อยู่ใต้ปกครอง นางให้เงินเดือนเป็นสองเท่าจากของเดิมแก่หลิงโหยวทันที ส่วนสวัสดิการต่าง ๆ เช่นสินน้ำใจวันตรุษนั้นก็คิดแยกให้อีกต่างหากครั้นพูดคุยกันเป็นที่เรียบร้อย หลิงโหยวจึงกลับไปปรึกษากับครอบครัว เตรียมเก็บเสื้อผ้าต่าง ๆ ไปหมู่บ้านซวงหลินภรรยาของหลิงโหยวถึงแก่กรรมไปนานหลายปีแล้ว เหลือเพียงแค่หลิงเจี๋ยซึ่งเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวเท่านั้นแม้ว่าแต่ก่อนหลิงเจี๋ยจะได้เล่าเรียนหนังสือมานานหลายปี แต่ด้วยสติปัญญามีขีดจำกัด สอบตกในการสอบขุนนางระดับอำเภอหลายต่อหลายคร

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 212

    วันงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ คนเกือบทั้งหมู่บ้านล้วนมาร่วมงานแม้ว่าอวิ๋นฝูหลิงจะสร้างเพียงแค่เรือนลานเดียว มีเรือนหลัก พร้อมด้วยเรือนปีกตะวันตกและเรือนปีกตะวันออก กอปรกับห้องครัว ห้องเก็บของ คอกม้าและห้องอื่น ๆ รวม ๆ แล้วก็ได้เจ็ดถึงแปดห้อง แต่ก็นับว่าเป็นบ้านที่มีสง่าราศีเป็นอันดับต้น ๆ ในหมู่บ้านซวงหลินเลยทีเดียวพอถึงเช้าตรู่ ชาวบ้านก็นำของอวยพรมามอบให้ถึงประตูบ้าน แล้วเข้าไปชมบ้านหลังใหม่ของสกุลอวิ๋นห้องต่าง ๆ ล้วนดูเป็นปกติทั่วไป มีเพียงห้องอาบน้ำและห้องครัวเท่านั้นที่แปลกไม่เหมือนใครโดยเฉพาะห้องอาบน้ำ ที่ไม่เพียงมีท่อน้ำที่ตรงออกไปข้างนอกห้อง สามารถเทน้ำที่ผ่านการอาบการใช้ภายในห้องลงในท่อได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงยกน้ำออกไปเททิ้งด้านนอกอีกแล้วเท่านั้นยังมีของกลม ๆ ที่ได้ยินมาว่าเรียกว่าฝักบัวอาบน้ำอยู่ด้วย พอเปิดจุกกั้นออกน้ำร้อนก็จะออกมาทันทีจะล้างเนื้อล้างตัวช่วงหน้าร้อนก็สบายไม่น้อยอีกทั้งส้วมที่ก่อขึ้นจากอิฐสีคราม หลังถ่ายเบาถ่ายหนักก็สามารถราดน้ำลงไปได้เลย ซึ่งมันจะไหลผ่านท่อน้ำไปลงในบ่อเกรอะที่อยู่หลังบ้านชาวบ้านพากันมองด้วยความประหลาดใจ มีบางคนถึงขั้นอดใจเ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 213

    ชาวบ้านทั้งหลายต่างยิ้มแย้มพูดคุยกัน กินไปพลางคุยไปพลาง กระทั่งดวงอาทิตย์ลาลับลงฝั่งประจิม ทุกคนถึงได้ขอตัวลาเดิมทีอวิ๋นฝูหลิงคิดจะลุกขึ้นส่งพวกเขา ทว่าใครจะรู้ว่าทันทีที่ลุกขึ้นยืน ร่างกายของนางก็โงนเงนจวนจะล้มเคราะห์ดีที่เซียวจิ่งอี้อยู่ข้าง ๆ แล้วเข้าประคองไว้ได้ทันอวิ๋นฝูหลิงรู้สึกมึนศีรษะ เห็นเซียวจิ่งอี้มีเงาซ้อนทับกันเล็กน้อยนี่นางเมาแล้วหรือ?นางเพิ่งกินไปได้จอกเดียวเอง อีกทั้งพอเทียบกับเหล้าขาวในชาติก่อนแล้ว สุราในยุคสมัยนี้มีดีกรีน้อยกว่าหลายเท่าตัว แทบไม่แตกต่างจากน้ำเปล่าเลยด้วยซ้ำโปรดรู้ไว้ว่าเมื่อชาติก่อน นางได้ชื่อว่าคอทองแดงเชียวนะนี่เพิ่งจะดื่มได้จอกเดียว ก็ทำนางเมาเสียแล้ว?ทักษะการดื่มสุราของร่างนี้จะน้อยกว่าตัวนางในเมื่อก่อนมากเกินไปแล้วเซียวจิ่งอี้เห็นอวิ๋นฝูหลิงร่างกายซวนเซ ไม่อาจยืนได้อย่างมั่นคง กอปรกับเห็นว่างสายตาของนางดูงุนงง สีหน้าดูเหม่อลอย จึงเดาได้ทันทีว่านางเมาแล้วชาวบ้านที่ก้าวเข้ามาหาเพื่อกล่าวลานั้นมองออกว่าอวิ๋นฝูหลิงเมาแล้ว จึงยิ้มแล้วกล่าวว่า “ไม่ต้องส่งหรอก รีบประคองแม่นางอวิ๋นไปพักผ่อนเถิด แล้วก็ให้ดื่มน้ำแกงสร่างเมาสักถ้วย วันพ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 214

    “ท่านเป็นบุรุษแท้ ๆ เหตุใดผิวพรรณจึงดีขนาดนี้เล่า!”“ท่านดูแลเช่นไร แล้วปกติใช้ของบำรุงผิวอันไหน?”ชั่วพริบตานั้น เซียวจิ่งอี้ถึงกับร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออกอวิ๋นฝูหลิงบีบขยำใบหน้าของเขาอยู่พักใหญ่นางพึมพำออกมาเบา ๆ หลังผ่านไปครู่ใหญ่ “มันคงจะดีเหลือเกินหากท่านเป็นเพียงแค่พรานป่านามหวังลี่ผู้นั้น!”“แค่มีใบหน้างาม ๆ เช่นนี้ เจ๊จะเลี้ยงดูเจ้าเอง!”“แต่ทำไมท่านถึงต้องเป็นองค์ชายเจ็ดด้วยนะ!”“เหตุใดคนที่ข้าชอบจะต้องเป็นถึงองค์ชายด้วย?”“ท่านเป็นถึงองค์ชาย ข้าจะชอบท่านไม่ได้เด็ดขาด!”เซียวจิ่งอี้ทั้งตกใจทั้งปลื้มปีติ เขาโน้มตัวเข้าไปหาอวิ๋นฝูหลิงปรับน้ำเสียงให้ทุ้มต่ำ แล้วเอ่ยถามเบา ๆ ราวกับกำลังล่อลวงก็ไม่ปาน “เหตุใดข้าถึงเป็นองค์ชายไม่ได้?”“เหตุใดเจ้าถึงจะชอบองค์ชายไม่ได้?”อวิ๋นฝูหลิงขมวดคิ้ว แล้วโอดครวญออกมา “ราชวงศ์ต้องมีกฎเยอะมาก ๆ แบบมาก ๆ อยู่แน่”“หากข้าแต่งให้ท่าน เป็นพระชายาของท่านแล้ว ข้าจะยังเป็นหมอได้หรือไม่?”“เกรงว่าข้าคงจะถูกกักขังให้อยู่แต่ในวังหลัง คอยดูแลเรื่องงานบ้านงานเรือน ไม่แน่ว่าอาจจะต้องดูแลอนุอีกเป็นโขยงของท่านด้วยก็ได้!”“ข้ามิใช่คนโง่นะ!”

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 215

    อวิ๋นฝูหลิงอดยกมือขึ้นมากุมหน้าไม่ได้สวรรค์ นางไปทำเรื่องพรรค์นั้นกับเซียวจิ่งอี้ได้อย่างไร?น่าอับอายขายหน้าเป็นที่สุด!ต้องโทษที่พอมีของสวย ๆ งาม ๆ มาอยู่ตรงหน้าแล้ว นางมักจะยับยั้งความอดทนไว้ไม่ไหวไปชั่วขณะเสียทุกทีนอกจากลูบ ๆ คลำ ๆ แล้ว นางคงไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่มันเลยเถิดเกินไปกว่านั้นหรอกกระมัง?ครั้นเห็นว่าเสื้อผ้าบนตัวยังคงอยู่ดี คงไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอกอวิ๋นฝูหลิงเขกหัวตัวเอง คิดในใจว่าต่อไปไม่อาจแตะสุราอีกนึกไม่ถึงเลยว่าร่างกายนี้ของนางจะคออ่อนขนาดนี้ ดื่มสุราอ่อน ๆ ไปเพียงจอกเดียวก็เมามายเสียขนาดนี้ขณะนั้นเอง จู่ ๆ ก็มีเสียงพูดคุยดังลอดเข้ามาจากด้านนอกประตูอวิ๋นฝูหลิงเอ่ยปาก “ใครอยู่ข้างนอกน่ะ?”ชั่วพริบตาต่อมา ประตูห้องก็ถูกคนผลักออก อวิ๋นจิงมั่ววิ่งตึก ๆ เข้ามาด้วยขาสั้น ๆ ของตัวเองมีเหยากวงคอยเดินตามหลังเขาเข้ามาอวิ๋นจิงมั่ววิ่งเข้ามาถึงหัวเตียง เงยหน้ามองอวิ๋นฝูหลิง ดวงหน้าของเขามีแต่ความเป็นห่วงเป็นใย“ท่านแม่ ท่านไม่สบายตรงไหนบ้างไหม ปวดศีรษะบ้างหรือเปล่า?”“ข้าได้ยินพวกท่านลุงอู๋บอกว่า หากดื่มสุราจนเมาจะปวดศีรษะ”“ต้องดื่มน้ำแกงสร่างเมาถึงจ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 216

    อวิ๋นฝูหลิงไม่อยากประสบเหตุการณ์อย่างคุณชายน้อยลู่เช่นนั้นดังนั้นตลอดเส้นทางนี้ นางเลยไม่สนใจว่าจะขายหน้าหรือไม่ กอดเซียวจิ่งอี้แน่นให้ตายอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อยเกียรติศักดิ์ศรีจะยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็เทียบไม่ได้กับคุณค่าของชีวิตหรอกนะ!เซียวจิ่งอี้กำบังเหียนไว้ พลางยกยิ้มน้อยๆไม่นานนัก เซียวจิ่งอี้จึงรั้งอาชาให้หยุดฝีเท้าอวิ๋นฝูหลิงมองไปรอบ ๆ เล็กน้อย ถึงได้เห็นว่าพวกเขากำลังอยู่ที่ตีนเขาฝั่งบูรพาของหมู่บ้านซวงหลิน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านซวงหลินเท่าไรเซียวจิ่งอี้ลงจากหลังม้าก่อน จากนั้นจึงอุ้มอวิ๋นฝูหลิงลงมาอวิ๋นฝูหลิงพูดขึ้นด้วยความฉงน “ท่านพาข้ามาที่นี่ทำไม?”เซียวจิ่งอี้มิได้ตอบ ทำเพียงกอบกุมมือของอวิ๋นฝูหลิงไว้แล้วกล่าวว่า “ขึ้นไปดูบนเขากัน”อวิ๋นฝูหลิงดีดดิ้นสะบัดมืออยู่หลายครั้งก็ไม่หลุด จึงได้แต่ปล่อยให้เขาทำตามใจชอบไปลักษณะภูเขาลูกนี้ของหมู่บ้านซวงหลินไม่เหมือนกับเขาเฟิ่งลั่ว ทั้งยังไม่ได้สูงชันดูอันตราย และดูสลับซับซ้อนอย่างเขาเฟิ่งลั่วที่นี่เรียกว่าภูเขา แต่ในความจริงแล้วก็เป็นเพียงเนินเขาเล็ก ๆ ที่สูงเหนือระดับน้ำทะเลสองถึงสามร้อยเมตรเท่านั้นฉะนั้นไม่นานนัก ท

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 500

    “เป็นของที่ข้าใช้ยาสมุนไพรล้ำค่ามากมาย และใช้เวลาอยู่นานกว่าจะทำออกมาได้ไม่กี่หยด”“ท่านต้องเก็บให้ดีนะ”“ไม่ว่าจะได้รับบาดเจ็บหรือถูกพิษ ไม่ว่าบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน ไม่ว่าพิษรุนแรงแค่ไหน ขอแค่ยังมีลมหายใจ เมื่อดื่มมันแล้ว ก็จะไม่อันตรายถึงชีวิต ดังนั้นข้าจึงตั้งชื่อมันว่ายาไม่ตาย”“ยาไม่ตายนี่ท่านเก็บไว้ ถ้าหากไม่ต้องใช้มันย่อมดีที่สุด ถ้าหากเกิดอะไรขึ้น ท่านก็มีวิธีเอาตัวรอดมากขึ้น!”เซียวจิ่งอี้มองน้ำเต้าหยกที่ห้อยอยู่ตรงหน้าอก รู้สึกอุ่นใจราวกับแช่อยู่ในบ่อน้ำร้อนเขากอดอวิ๋นฝูหลิงไว้ในอ้อมแขน “วางใจได้ ข้าไปเจียงหนานครั้งนี้จะระวัง หลังจากนั้นกลับมาอย่างปลอดภัย”อวิ๋นฝูหลิงกอดเขา “ท่านพูดแล้วนะว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย!”ทั้งสองอาลัยอาวรณ์อยู่ครู่หนึ่ง อวิ๋นฝูหลิงกล่าวกะทันหัน “หรือไม่ข้าไปกับท่านด้วย?”เซียวจิ่งอี้ยังไม่รู้ว่าทางเจียงหนานเป็นอย่างไร อีกทั้งไปสืบคดีขี้ผึ้งทองที่เจียงหนานครั้งนี้ ยังเกี่ยวข้องกับชาวแคว้นเยว่ ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายมากมายแน่นอนเขาไม่อยากให้อวิ๋นฝูหลิงตกอยู่ในอันตราย“ทางเมืองหลวงยังต้องมีเจ้าคอยดูแล”“ข้าได้สั่งการลงไปแล้ว เพื่อไม่แหวกหญ้าใ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 499

    การลอบสังหารเมื่อครั้งก่อน ถ้าหากทำสำเร็จจริงๆ การตายของเซียวจิ่งอี้ต้องทำให้ฮ่องเต้จิ่งผิงโกรธมากแน่คนฉลาดล้วนมองออก ฮ่องเต้จิ่งผิงได้เลือกเซียวจิ่งอี้เป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ถ้าหากเซียวจิ่งอี้ตาย เพื่อชิงตำแหน่งผู้สืบทอดราชบัลลังก์ องค์ชายทั้งหลายต้องเอาการตายของเซียวจิ่งอี้มาเป็นเครื่องมือใส่ร้ายกันและกันแน่นอนถึงเวลาเหล่าองค์ชายห้ำหั่นกัน ต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่นอนและเหตุการณ์ขี้ผึ้งทองครั้งนี้ยิ่งร้ายแรงถ้าหากขุนนางและชนชั้นสูงของต้าฉีล้วนติดขึ้ผึ้งทอง พวกเขาจะไม่ฟังคำสั่งชาวแคว้นเยว่ที่อยู่เบื้องหลัง มอบต้าฉีออกไปหรือ?ถึงเวลาชาวแคว้นเยว่ไม่เสียทหารแม้แต่คนเดียว ก็สามารถทำความฝันฟื้นฟูแคว้นให้เป็นจริงเมื่อจ้าวเสวียซือตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ อดไม่ได้ที่จะกัดฟันกล่าว “ชาวแคว้นเยว่พวกนี้น่ารังเกียจจริงๆ!”เดิมทีแคว้นเยว่เป็นแคว้นเล็กๆ ที่อยู่แถบชายแดนฮ่องเต้องค์สุดท้ายโหดร้ายและไร้ความสามารถ ส่งผลให้ราษฎรอยู่อย่างยากไร้ เกิดจลาจลขึ้นทุกหนทุกแห่ง ราษฎรพากันลุกฮือช่วงสุดท้ายของสงคราม กองทัพต่อต้านที่นำโดยฮ่องเต้ไท่จูปะทะกับกองทัพของสกุลหวังแห่งเจียงโจวอย่างสูสีใค

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 498

    เขาจะลากคอผู้อยู่เบื้องหลังที่คิดค้นขี้ผึ้งทองมาทำร้ายผู้คน ออกมากระทืบให้ตาย!ตอนที่เซียวจิ่งอี้กลับมา จ้าวเสวียซือเข้ามาขวางเขาระหว่างทาง ทั้งสองเข้าไปในห้องหนังสือหลังจากเข้าห้องหนังสือ เซียวจิ่งอี้มองจ้าวเสวียซือแวบหนึ่ง “เจ้าไม่เป็นไรแล้ว?”จ้าวเสวียซือพยักหน้า “สองวันนี้ไม่อยากเลย พระชายาเอาขี้ผึ้งทองมาถึงตรงหน้าข้า ข้าก็ไม่ได้อยากสูบมากเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว”“พระชายาบอกว่าเลิกสำเร็จชั่วคราว”“ข้ามาหาท่าน เพราะอยากถามดูว่าเจ้าตรวจสอบทางเรือนเสินเซียนไปถึงไหนแล้ว?”“คนที่อยู่เบื้องหลังใช้ขี้ผึ้งทองทำข้าเสียอนาถเลย ไม่รู้ว่าในเมืองหลวงยังมีผู้เคราะห์ร้ายอีกกี่คน ข้าไม่ละเว้นเขาเด็ดขาด!”ช่วงนี้เขายุ่งอยู่กับการเลิกขี้ผึ้งทอง รู้เพียงเซียวจิ่งอี้รายงานเรื่องนี้ต่อฮ่องเต้จิ่งผิง และกำลังสืบแล้วส่วนสืบไปถึงไหนแล้ว เขาไม่รู้แต่ว่าจ้าวเสวียซืออยู่ต่อหน้าเซียวจิ่งอี้ มีอะไรก็พูด ไม่เคยอ้อมค้อมเขาไม่ได้ปกปิดจุดประสงค์ของตัวเองเขาอยากเป็นผู้ช่วยของเซียวจิ่งอี้ ร่วมสืบคดีนี้กับเซียวจิ่งอี้เซียวจิ่งอี้มองจ้าวเสวียซือแวบหนึ่ง เขากำลังขาดคนที่เชื่อถือได้พอดี ในเมื่อจ้าวเสวียซ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 497

    เซียวจิ่งอี้กล่าวอธิบาย “ภายนอก เฟิ่งเหนียงเป็นเจ้าของหอชุนเฟิง แต่ความจริงอาศัยหอชุนเฟิงรวบรวมข่าวต่างๆ ให้ข้า”“นางมีทักษะเฉพาะที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ เชี่ยวชาญการทำหน้ากากหนังมนุษย์”อวิ๋นฝูหลิงประหลาดใจเล็กน้อยคิดไม่ถึงว่าหอชุนเฟิงจะเป็นกิจการของเซียวจิ่งอี้หอชุนเฟิงเป็นหอคณิกาที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง แต่ว่าผู้หญิงในหอล้วนเป็นนางคณิกาชั้นสูง นับได้ว่าเป็นสถานที่เริงรมย์ระดับสูงผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้หญิงอายุประมาณสามสี่สิบที่มีเรือนร่างเย้ายวนคนหนึ่งถูกคนรับใช้พาเข้ามา นางคำนับอย่างเย้ายวน “เฟิ่งเหนียงคำนับท่านอ๋องและพระชายา!”หน้าตาของผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์มาก แววตายั่วยวนแม้เริ่มมีอายุแล้ว แต่ยังคงเป็นหญิงงามที่มีเสน่ห์หญิงงามเช่นนี้ แม้เป็นอวิ๋นฝูหลิงก็อดมองไม่ได้แต่ว่าเฟิ่งเหนียงคนนี้อยู่ต่อหน้าเซียวจิ่งอี้กับอวิ๋นฝูหลิง ทำตัวเรียบร้อย แววตาสดใสเซียวจิ่งอี้ยกมือ “ลุกขึ้นเถอะ”สีหน้าของเขาเรียบเฉย ไม่ได้หวั่นไหวเพราะความงามของเฟิ่งเหนียง ราวกับว่านางไม่ต่างอะไรกับคนทั่วไป“วันนี้ที่เรียกเจ้ามา เพราะมีงานจะให้ทำ”เฟิ่งเหนียงหลุบตา “ท่านอ๋องเชิญสั่ง”เซียวจิ่งอี้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 496

    “แล้วค่อยตรวจสอบดูว่ามีกี่คนที่ติด ดูว่ามีวิธีรักษาหรือไม่”ฮ่องเต้จิ่งผิงพยักหน้า “เรามอบอำนาจให้เจ้าสอบสวนเรื่องนี้ สามารถประหารก่อน รายงานทีหลัง!”“เรารู้สึกว่าความเป็นมาของขี้ผึ้งทองไม่ธรรมดา”“เกรงว่าคนที่อยู่เบื้องหลังมีแผนการใหญ่”“อี้เอ๋อร์ เรื่องนี้จะรีบร้อนไม่ได้ เกี่ยวข้องกับเมืองหลวงและเจียงหนาน ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง อยากแหวกหญ้าให้งูตื่นเด็ดขาด”“ต้องรู้คนที่อยู่เบื้องหลังให้ได้ เราก็อยากรู้เช่นกัน ใครกันที่ใช้วิธีชั่วช้าเช่นนี้ อยากทำลายรากฐานของต้าฉี”เซียวจิ่งอี้ประสานมือขานรับเขารับผิดชอบเรื่องสืบสวนคดี แต่เรื่องการรักษา ต้องพึ่งอวิ๋นฝูหลิงแล้วหลังจากเซียวจิ่งอี้ส่งฮ่องเต้จิ่งผิงกลับวัง ตอนที่ออกมา เทียนเฉวียนได้รับคำสารภาพจากการสอบสวนชุยซวี่ตงและคนอื่นแล้วเขาส่งคำสารภาพให้เซียวจิ่งอี้หลังจากเซียวจิ่งอี้ดูคำสารภาพที่หนาเป็นปึก กล่าวออกคำสั่ง “เจ้าพาคนกลุ่มหนึ่งไปเฝ้าเรือนเสินเซียน”“อย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่น”“อีกสองวัน ก็เป็นวันที่ผู้ดูแลเจียงหนานสั่งคนมาส่งของให้เรือนเสินเซียน”“รอถึงวันนั้นค่อยลงมือ”“ใช่แล้ว เรียกเฟิ่งเหนียงมา ข้ามีงานจะให

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 495

    เวลานี้สำหรับชุยซวี่ตง แรงดึงดูดของขี้ผึ้งทองอยู่เหนือกว่าเขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย บอกสิ่งที่ตัวเองรู้ออกมาอย่างหมดเปลือกเรื่องร้ายแรงมีตั้งแต่เฉิงเอินกงอาศัยตำแหน่งของตัวเองซื้อขายยศตำแหน่ง ยักยอกทรัพย์ รับสินบน ยึดที่ดินทำกินเรื่องเล็กน้อยก็มีตั้งแต่น้องเมียเป็นชู้กับพี่สะใภ้ คุณหนูหนีตามผู้ชายไป เรื่องที่เสื่อมเสียชื่อเสียงต่างๆ ล้วนเป็นเรื่องที่น่าตกใจทั้งสิ้นฮ่องเต้จิ่งผิงฟังจนหน้าบึ้งตึงเซียวจิ่งอี้รู้ว่าชุยซวี่ตงก็มีส่วนกับเรือนเสินเซียน จึงกล่าวถาม “ใครให้พวกเจ้าเปิดเรือนเสินเซียน? พวกเจ้าไปเอาของมาจากไหน?”สีหน้าชุยซวี่ตงซีดมาก แทบจะไม่สามารถควบคุมตัวเองแล้ว“ขี้ผึ้งเสินเซียน…ข้าต้องการขี้ผึ้งเสินเซียน…”เซียวจิ่งอี้หันไปขยิบตาให้เทียนเฉวียน เทียนเฉวียนเดินเข้าไป ส่งกล้องยาสูบของขี้ผึ้งทองให้ชุยซวี่ตงทันทีชุยซวี่ตงรีบใช้สองมือคว้ากล่องยาสูบ สูบแรงๆ ไปหนึ่งทีหลังจากร่างกายของเขากระตุกเล็กน้อย บนใบหน้าเผยให้เห็นถึงอารมณ์ความสุขที่พึงพอใจพริบตาต่อมา เทียนเฉวียนยึดกล้องยาสูบท่าทางของชุยซวี่ตงเหมือนต้องการมากกว่านี้ “ได้โปรด ให้ข้าสูบอีกครั้ง อีกแค่ครั้งเดียว…”

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 494

    หลังจากนั้นเขาให้องครักษ์ลับแอบลักพาตัวคนที่อยู่ในรายชื่อมาที่คฤหาสน์ในเมื่อจะให้ฮ่องเต้จิ่งผิงรู้ถึงความอันตรายของขี้ผึ้งทอง และสนับสนุนเขาตรวจสอบเรือนเสินเซียน เพื่อลากตัวคนที่อยู่เบื้องหลังออกมาลงโทษตามกฎหมายแค่อธิบายด้วยคำพูด มันไม่เสียแรงเกินไปหรอกหรือยังมีอะไรที่น่าตกใจและน่ากลัวกว่าการได้เห็นอาการอยากด้วยตัวเอง?ก็เหมือนกับเมื่อคืน เขาเห็นด้านที่น่าเกลียดของจ้าวเสวียซือตอนอยากด้วยตาตัวเองชุยซวี่ตงคุณชายเจ็ดจวนเฉิงเอินกงจำได้ว่าเมื่อคืนตัวเองนอนอยู่ในห้องนอน แต่วันนี้เช้าพอตื่นขึ้นมา กลับพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคยเขาลุกขึ้นจะเปิดประตูออกไป กลับพบว่าประตูถูกลงกลอนจากข้างนอกไม่ว่าเขาจะตะโกนเสียงดังแค่ไหน ข่มขู่ อ้อนวอน ก็ไม่มีใครสนใจเขาชุยซวี่ตงทั้งกลัวทั้งตกใจ อดไม่ได้ที่จะคาดเดาว่านี่คือฝีมือของใครกันแน่?คนคนนั้นลักพาตัวเขามาที่นี่ คิดจะทำอะไรกันแน่?หลังจากเวลาค่อยๆ ผ่านไป ชุยซวี่ตงเริ่มหาวบ่อยขึ้น ความรู้สึกฉุนเฉียวผุดออกมาจากส่วนลึกในใจเขายื่นมือไปล้วงขี้ผึ้งทองและกล้องยาสูบของตัวเอง เพื่อเอาออกมาสูบโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่เจออะไรเลยอาการคลั่งและค

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 493

    หลังจากอวิ๋นฝูหลิงต้มยาเสร็จ ยกมาให้จ้าวเสวียซือดื่มแล้ว จึงจะกล่าว“ช่วงนี้เจ้าก็พักอยู่ที่จวนอี้อ๋องไปก่อน ข้าจะสั่งให้คนเฝ้าเรือนหลังนี้ไว้ จะให้เจ้ามีโอกาสเข้าใกล้ขี้ผึ้งทองไม่ได้”“ตอนนี้เจ้ายังไม่ติดยาเสพติดขั้นรุนแรง ยังมีโอกาสเลิกพึ่งพาขี้ผึ้งทอง”“ข้าจะใช้การฝังเข็มกับยามาช่วยเจ้าเลิก สามารถลดความเจ็บปวดระหว่างที่เจ้าเลิกได้”“แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความตั้งใจของเจ้า เจ้าต้องผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ด้วยตัวเอง”“ถ้าหากความตั้งใจของเจ้าไม่แน่วแน่ ผ่านมันไปไม่ได้ คนรอบข้างช่วยแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์!”จ้าวเสวียซือพยักหน้า สีหน้าตื้นตัน “พี่สะใภ้ วันนี้ขอบคุณมาก!”อวิ๋นฝูหลิง “ท่านอ๋องเห็นเจ้าเป็นพี่น้อง คนครอบครัวเดียวกันไม่ต้องเกรงใจกันเช่นนี้”เซียวจิ่งอี้ยกมือตบไหล่จ้าวเสวียซือ “ฟังพี่สะใภ้ของเจ้า เจ้าต้องเลิกขี้ผึ้งทองให้ได้!”“นอกจากชีวิตที่เหลือของเจ้าอยากถูกมันควบคุม”อวิ๋นฝูหลิงกล่าวเสียงเย็น “ครึ่งชีวิตที่ไหนล่ะ ถ้าหากสูบเป็นเวลานาน อย่างมากสองสามปีก็ตายแล้ว!”จ้าวเสวียซือได้สัมผัสความร้ายกาจของขี้ผึ้งทองแล้ว เขารู้สึกเกลียดมันมากแค่นึกถึงอาการกำเริบก่อนหน้านี้ ฉุนเฉ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 492

    อย่างไรก็ตามจ้าวเสวียซือเคยสูบแค่สองครั้ง เขาอาจจะไม่ติดก็ได้ให้จ้าวเสวียซืออยู่จวนอี้อ๋อง ก็แค่เพื่อความมั่นใจเท่านั้นคิดไม่ถึงว่าเขาจะติดจริงๆดูเหมือนขี้ผึ้งทองนั่น ร้ายกาจยิ่งกว่าที่อวิ๋นฝูหลิงรู้เวลานี้นางรู้สึกโชคดีมากรู้สึกโชคดีที่พบทันเวลา ยังสามารถช่วยจ้าวเสวียซือ ไม่เช่นนั้นภายใต้สถานการณ์ที่นางไม่รู้ จ้าวเสวียซือสูบขี้ผึ้งทองต่อไป เกรงว่าเขาคงหมดทางเยียวยาแล้วจริงๆและรู้สึกโชคดีที่วันนี้นางให้จ้าวเสวียซืออยู่จวนอี้อ๋องถ้าหากไม่ใช่เพราะสั่งให้คนเฝ้าไว้ จ้าวเสวียซือเกิดความอยาก ต้องแอบออกไปซื้อขี้ผึ้งทองสูบแน่นอนจ้าวเสวียซือเห็นเซียวจิ่งอี้ไม่ขยับเขยื้อน สายตาของเขาหันไปมองทางอวิ๋นฝูหลิงแทนเขานึกถึงขี้ผึ้งทองในกล่องของตัวเองถูกอวิ๋นฝูหลิงเอาไป รีบยื่นมือออกไปคว้าชายกระโปรงของอวิ๋นฝูหลิงทันที“พี่สะใภ้ เอาขี้ผึ้งทองให้ข้า…”“ได้โปรด!”“ให้ข้าสูบอีกครั้งเถอะ แค่ครั้งเดียวก็พอ”“ข้าสาบาน ข้าสูบครั้งนี้เสร็จ ต่อไปจะไม่แตะต้องอีกแล้ว!”“พี่สะใภ้ ได้โปรด…”อวิ๋นฝูหลิงไม่ขยับ หันไปกล่าวกับเซียวจิ่งอี้ “จับเขาไว้”เซียวจิ่งอี้พยักหน้า ไปจับตัวจ้าวเสวียซือตามที่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status