Share

บทที่ 203

Author: หลันซานอวี่
สวนสมุนไพรรวมถึงโรงปรุงยา จำเป็นต้องใช้แรงงานไม่น้อย แต่นี่หาใช่เรื่องเล็ก นางจะเป็นต้องวางแผนให้ดี

อวิ๋นฝูหลิงครุ่นคิด พลางสำรวจพื้นที่รอบหมู่บ้านซวงหลิน เพื่อดูว่ามีสถานที่ใดเหมาะแก่การสร้างสวนสมุนไพรกับโรงปรุงยา

หลังจากสำรวจแล้ว ก็มีสถานที่ที่เข้าตาอยู่สองที่

เมื่อกลับมา อวิ๋นฝูหลิงก็เรียกลูกพี่อู๋มาสั่งงาน “เจ้าลองไปสอบถามดูเสียหน่อย ว่ายอดเขาทางเหนือของหมู่บ้านมีเจ้าของหรือไม่? รวมถึงพื้นที่รกร้างใกล้แม่น้ำที่ท้ายหมู่บ้านด้วย หากไม่มีเจ้าของ ก็สอบถามราคาและทางเข้าที่นี่มา ดูด้วยว่าจะซื้อได้อย่างไร?”

ลูกพี่อู๋กำลังจะตอบกลับ คาดไม่ถึงว่าจะเหยากวงจะเอ่ยขึ้นมาอย่างกะทันหัน “นายท่าน เรื่องนี้ให้ข้าจัดการได้หรือไม่?”

ก่อนหน้านี้ยามที่เหยากวงเคยไปเดินรอบหมู่บ้านกับอวิ๋นฝูหลิง ก็พบว่านางมองที่ดินรกร้างและยอดเขานอกหมู่บ้านอยู่ตลอด

แม้จะเป็นที่ดินรกร้าง แต่หากต้องการซื้อก็ต้องผ่านทางการ เรื่องที่ต้องติดต่อกับทางการ ให้เขาจัดการย่อมดีกว่ามอบหมายให้ลูกพี่อู๋

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องอื่น เพียงแค่เอ่ยนามของอี้อ๋อง ข้าราชการระดับล่างย่อมแย่งกันรับหน้าที่นี้ไปจัดการ

ยิ่งไปกว่านั้นที่ยังเป็นโ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 204

    เมื่ออวิ๋นจิงมั่วกลับมา เห็นซี่โครงผัดเปรี้ยวหวาน ผักกาดขาวผัดลูกชิ้น และกุ้งผัดซอส ก็รู้วืท่านแม่เป็นคนทำอาหารด้วยตัวเองอวิ๋นจิงมั่วโผเข้าไปในอ้อมกอดของอวิ๋นฝูหลิงอย่างมีความสุข “ท่านแม่ ท่านดีที่สุดเลยขอรับ!”หลายวันมานี้อวิ๋นฝูหลิงยุ่งมากมาโดยตลอด จึงไม่มีเวลาและเรี่ยวแรงมาทำอาหารให้เขากินอวิ๋นจิงมั่วรู้ความจึงไม่ได้รบกวนแม่ แต่ในใจกลับอยากกินอาหารที่แม่ทำเป็นอย่างมากอาหารที่แม่ทำอร่อยที่สุดในใต้หล้า!วันนี้อวิ๋นฝูหลิงก็อารมณ์ดีเช่นกัน คิดว่าไม่ได้ทำอาหารมาหลายวัน จึงทำอาหารมาหลายจานยามนี้เมื่อเห็นท่าทางมีความสุขของอวิ๋นจิงมั่ว อวิ๋นฝูหลิงก็อดไม่ได้ที่จะใคร่ครวญตัวเอง หลายวันมานี้นางละเลยอวิ๋นจิงมั่วไปจริงๆตั้งแต่อวิ๋นจิงมั่วกับเซียวจิ่งอี้รู้จักกันในฐานะพ่อลูก อวิ๋นฝูหลิงก็มักจะให้อวิ๋นจิงมั่วไปอยู่กับเซียวจิ่งอี้ ในขณะที่นางให้ความสนใจอยู่กับเรื่องของตัวเองอวิ๋นฝูหลิงจิ้มจมูกของอวิ๋นจิงมั่ว “ดูดินบนตัวสิ สกปรกเชียว รีบไปล้างเร็ว”อวิ๋นฝูหลิงตักน้ำมาแล้ว ขณะที่อวิ๋นจิงมั่วล้างมือ ก็เล่าเรื่องที่ไปเล่นกับเพื่อนของเขาให้อวิ๋นฝูหลิงฟังอย่างมีความสุข“พวกพี่ฉางจี๋พาข้าไ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 205

    สกุลเฉินทะเลาะกันครั้งใหญ่สะใภ้ใหญ่เฉินพูดตามตรงว่า ทุกคนต่างก็แยกบ้านกันแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะต้องดูแลคนของบ้านรองที่มากินดื่มอยู่ที่บ้านพวกเขาทุกวันหากเฉินเหล่าต้ายังเป็นห่วงน้องชายกับหลานชาย ก็หย่าขาดกันไปเสีย หลังจากนั้นเขาจะไปกับน้องชายและหลานชายก็ได้เฉินเหล่าต้าได้ยินว่าจะหย่า ก็เงียบลงโดยพลันแม่เฒ่าเฉินเห็นเช่นนั้น ก็ดุด่าเฉินเหล่าต้าว่าโหดเหี้ยมไม่สนใจน้องชายกับหลานชายสะใภ้ใหญ่เฉินเถียงแม่เฒ่าเฉินตามตรง บอกว่าถ้าเป็นห่วงลูกชายคนเล็กกับหลานชายคนโตมากนัก ไม่สู้ไปอยู่กับบ้านรองของนางเลยจะดีกว่าแม่เฒ่าเฉินถูกทำให้พูดไม่ออก และเริ่มร้องไห้โวยวายว่าจะผูกคอตัวเองทว่าครานี้สะใภ้ใหญ่เฉินกลับมีท่าทีแข็งกร้าวกว่าเดิม ไม่สนใจว่าแม่เฒ่าเฉินจะโวยวายใหญ่โตอย่างไร และหันหลังจากไปก่อนเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นหลายครั้ง แม่เฒ่าเฉินก็ยังเป็นห่วงเฉินเหล่าเอ้อร์กับเฉินเสียวเป่าสะใภ้รองเฉินไม่อยู่แล้ว บุรุษที่โตแล้วกับบุรุษที่ยังเล็กไหนเลยจะชำนาญเรื่องการใช้ชีวิต เรื่องอาหารการกินและความเป็นอยู่ก็คงไม่สู้ดีเช่นกันหลังจากนั้นแม่เฒ่าเฉินก็ย้ายไปอยู่กับบ้านรอง บ้านใหญ่ก็มีความกตัญญูให้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 206

    ทุกคนต่างก็เป็นเด็กในหมู่บ้าน จู่ ๆ มีองครักษ์เพิ่มขึ้นมา ก็มักจะดูไม่เข้าพวกแต่พวกสวี่ตงมักจะผลัดกันไปดูแลอวิ๋นจิงมั่ว คนในหมู่บ้านจึงล้วนเคยชินกันหมดอวิ๋นฝูหลิงเก็บข้าวของ และไปหาเจิ้งซื่อสะใภ้ใหญ่ของหัวหน้าหมู่บ้านโจวทางด้านสวนสมุนไพรกับโรงปรุงยายังไม่มีข่าวคราว แต่นางกลับสามารถจ้างคนมาทำยาได้ก่อนแล้วเมื่อเจิ้งซื่อได้ฟังความคิดของอวิ๋นฝูหลิง ก็ดีใจเป็นอย่างมากนี่เป็นเรื่องดียิ่งที่สามารถหาเงินได้เจิ้งซื่อกุมมืออวิ๋นฝูหลิง และกล่าวขอบคุณ “แม่นางอวิ๋น ขอบคุณเจ้ามากที่มีเรื่องดี ๆ เช่นนี้แล้วนึกถึงข้า เรื่องนี้ข้าจะทำให้ดีแน่นอน!”อวิ๋นฝูหลิงตบมือของนางเบา ๆ และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พวกเราต่างก็มีมิตรภาพต่อกัน ข้าย่อมไม่ลืมเจ้าแน่นอน”“เจ้าช่วยหาคนที่มีฝีมืออีกสักสามคนหน่อย วันหนึ่งให้ค่าแรงสามสิบอีแปะ”“แต่ข้าขอบอกก่อนว่า ต้องเลือกคนให้รอบคอบ ขอเป็นคนที่มีความสามารถและละเอียดอ่อน”“นี่คือกิจการทำยาของข้า ไม่อาจประมาทได้ หากทำผิดพลาดไป อาจมีคนต้องถึงแก่ชีวิต!”อวิ๋นฝูหลิงรับสมัครคนเป็นครั้งแรก ไม่ได้วางแผนจะรับสมัครมากเกินไป แค่สี่คนก็เพียงพอแล้วลองดูก่อน หากทำงานร่วมกัน

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 207

    “พี่โจวฉางจี๋ พี่ชุนเซิง พี่หู่โถว รีบขึ้นรถเร็ว”อวิ๋นจิงมั่วโผล่ศีรษะออกมาจากรถม้า และโบกมือให้ทั้งสามคนทั้งสามคนที่รออยู่ข้างทางคือโจวฉางจี๋ หู่โถว และชุนเซิงลูกพี่อู๋เห็นเช่นนั้นก็แปลกใจเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นพวกเหยากวงมีท่าทียิ่งเฉย ก็ยังคิดว่าอวิ๋นฝูหลิงรู้เรื่องที่เด็กทั้งสี่คนจะไปที่เมืองแล้วเขากระโดดลงมาจากรถม้าโดยพลัน และอุ้มพวกโจวฉางจี๋ทั้งสามคนขึ้นมาบนรถม้าพวกเหยากวงเห็นการกระทำของลูกพี่อู๋ ก็เข้าใจผิดว่าเรื่องนี้อวิ๋นฝูหลิงอนุญาตแล้วพวกเขาเป็นเพียงผู้น้อย จึงได้แต่ทำตามคำสั่งของเจ้านาย หลีกเลี่ยงการพูดให้มากความ และไม่ก้าวก่ายมากเกินไปความเข้าใจผิดอันยอดเยี่ยมที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้แผนการของอวิ๋นจิงมั่วดำเนินไปได้อย่างราบรื่นเมื่อวานอวิ๋นจิงมั่วได้พบพวกเพื่อน ๆ หลังจากไม่ได้เจอมานาน เมื่อแบ่งขนมและฝักบัวให้ ก็ย่อมอยากอวดชีวิตที่มีความสุขของตนที่สวนอิ่งสิ่งที่อยากโอ้อวดมากที่สุดก็คือ เขามีพ่อแล้ว!ยิ่งไปกว่านั้นพ่อของเขายังเก่งกาจมาก และดีมากด้วย!ดียิ่งกว่าพ่อของพวกโจวฉางจี๋เสียอีก!พวกเพื่อน ๆ ต่างก็แข่งกันพูดว่าพ่อของตัวเองดีที่สุดอีกทั้งยังสงสัยในคำพูดข

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 208

    พวกหัวหน้าหมู่บ้านโจวได้ยินก็ตกตะลึงบทสนทนาแบบเดียวกันนี้ เกิดขึ้นที่บ้านของหู่โถวกับชุนเซิงแม้จะไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับอวิ๋นฝูหลิงและเซียวจิ่งอี้ เหตุใดจู่ ๆ เซียวจิ่งอี้ก็กลายเป็นพ่อที่แท้จริงของอวิ๋นจิงมั่ว แต่ทั้งสามสกุลรวมถึงหัวหน้าหมู่บ้านโจวก็หาใช่ว่าจะไม่มีไหวพริบและกาลเทศะทั้งสามสกุลต่างก็เตือนลูกของตนว่าอย่าพูดเสียงดังไปถึงข้างนอกทว่าไม่จำเป็นที่พวกโจวฉางจี๋จะต้องป่าวประกาศเรื่องนี้ เรื่องที่พวกเขานั่งรถม้าไปเล่นในเมืองกับอวิ๋นจิงมั่ว และนำของขวัญกองหนึ่งกลับมา ก็แพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้านแล้วในหมู่บ้านมีผู้คนมากมายที่เฝ้ามองอยู่ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนเห็น ดังนั้นเรื่องนี้จึงมิอาจปิดบังได้มีหลายครอบครัวที่เห็นพวกโจวฉางจี๋ได้รับผลประโยชน์ ก็อิจฉาตาร้อน จนอดไม่ได้ที่จะต่อว่าลูกตัวเองหากลูกตัวเองประจบเก่งเหมือนพวกโจวฉางจี๋ จนได้ไปเล่นกับอวิ๋นจิงมั่ว วันนี้คนที่ได้รับของขวัญย่อมเป็นพวกเขาอวิ๋นฝูหลิงยังไม่รู้เรื่องราว ยามนี้กำลังมองเซียวจิ่งอี้ที่อยู่ตรงหน้า ขณะที่คิ้วขมวดมากขึ้นเซียวจิ่งอี้อธิบายโดยพลันว่า “ข้าจัดการสวนอิ่งเรียบร้อยแล้ว ช่วงนี้ข้าต้อง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 209

    เซียวจิ่งอี้อยู่ที่หมู่บ้านซวงหลินต่อวันนั้นที่ประลองวิชาแพทย์ มีเพียงพวกลูกพี่อู๋สี่คนที่เข้าไปในเมือง ดังนั้นตัวตนที่แท้จริงของเซียวจิ่งอี้ นอกจากพวกเขาแล้ว ชาวบ้านคนอื่นจึงยังไม่รู้อวิ๋นฝูหลิงยังกำชับกับพวกลูกพี่อู๋เป็นพิเศษด้วยว่า ไม่ให้พวกเขาบอกเรื่องของเซียวจิ่งอี้กับผู้อื่นส่วนอวิ๋นจิงมั่วยังอายุน้อย ดังนั้นอวิ๋นฝูหลิงกับเซียวจิ่งอี้จึงยังมิได้อธิบายภูมิหลังของเซียวจิ่งอี้ให้เขาฟังด้วยเหตุนี้ที่ผ่านมาอวิ๋นจิงมั่วจึงไม่รู้เรื่องราว รู้เพียงว่าพ่อของเขามีเงินและอำนาจเยอะมาก ซึ่งมากยิ่งกว่าพวกเจ้าหน้าที่ทางการเสียอีกคนในหมู่บ้านแม้จะไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเซียวจิ่งอี้ แต่กลับรู้ว่าเขาคือพ่อแท้ ๆ ของอวิ๋นจิงมั่วยิ่งไปกว่านั้นเห็นว่าเขากิริยาท่าทางเป็นเลิศ ทั้งยังพิถีพิถันเรื่องอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวัน จึงพากันคาดเดาตัวตนของเขาลับหลังสิ่งที่ถูกคาดเดามากที่สุด คนส่วนใหญ่ต่างแน่ใจ ว่าเซียวจิ่งอี้เป็นคุณชายจากตระกูลใหญ่ในเมืองเขากับอวิ๋นฝูหลิงตกหลุมรักกัน แต่อวิ๋นฝูหลิงมีฐานะต่ำต้อย จึงไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวของเซียวจิ่งอี้ดังนั้นทั้งสองคนจึงแอบหนีมาใช้ชีวิ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 210

    คุณหนูถังที่ยืนอยู่ด้านข้างก็มีสีหน้ายินดีและรู้สึกซาบซึ้งใจเช่นกันนางพอใจในการแต่งงานครั้งนี้มาก ด้วยการจัดการของบิดามารดา จึงได้พบกับสามีในอนาคตเป็นการส่วนตัวอยู่สองครั้ง ในใจจึงมีทั้งความคาดหวังและความยินดีของสาวน้อยแต่ทุกสิ่งก็ล้วนถูกทำลายด้วยผื่นแดงบนร่างของนางหากไม่อาจรักษาผื่นแดงให้หายดีได้ จนอีกสามเดือนหลังจากนี้นางต้องไปตบแต่งด้วยสภาพผื่นแดงเต็มร่าง นางก็แทบคิดว่าตายไปเสียจะดีกว่าโชคดีที่ฝันร้ายนี้สิ้นสุดลงแล้วอวิ๋นฝูหลิงกล่าวด้วยรอยยิ้มโดยพลัน “เช่นนั้นก็ขอแสดงความยินดีกับการแต่งงานของคุณหนูถังล่วงหน้า!”คุณหนูถังหน้าแดงด้วยความเขินอาย ก่อนจะยืนขึ้นคำนับอวิ๋นฝูหลิงอย่างจริงจัง “ขอบคุณแม่นางอวิ๋นมากที่ช่วยรักษาผื่นแดงบนร่างของข้าจนหายดี”อวิ๋นฝูหลิงพยุงนาง “ข้าเป็นหมอ เรื่องการรักษาคนย่อมเป็นหน้าที่ของหมอ”อวิ๋นฝูหลิงมองนางพลางกล่าวว่า “ตามเทียบยารักษาผื่นเช่นเดิม แต่กินอีกสองวันก็พอแล้ว”“ข้ายังมีสูตรและขี้ผึ้งดูแลผิวให้งดงามด้วย หลังจากคุณหนูถังใช้แล้ว จะทำให้เป็นเจ้าสาวคนใหม่ที่เปล่งประกายแน่นอน”อวิ๋นฝูหลิงเพิ่งกล่าวจบ ฮูหยินถังก็กล่าวว่า “เช่นนั้นต้องขอบคุณ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 211

    หลิงโหยวเป็นผู้ช่วยที่ไม่เลวคนหนึ่งทั้งเข้าใจวิชาแพทย์ ทั้งจงรักภักดีต่อสกุลอวิ๋น ไม่ว่าจะเป็นสวนสมุนไพรหรือโรงปรุงยาล้วนมอบหมายให้เขาดูแลได้เพียงแค่ไม่รู้ว่าเขาจะยินดีหรือไม่หลังอวิ๋นฝูหลิงเจอหลิงโหยว ก็เล่าถึงความคิดนี้ออกไป ทางหลิงโหยวรีบพยักหน้าทันทีพลางกล่าวว่า “ยินดีขอรับ ข้าน้อยย่อมยินดีอยู่แล้วขอรับ!”นับตั้งแต่ที่ได้พบกับอวิ๋นฝูหลิงอีกครั้ง หลิงโหยวก็อยากกลับไปคอยช่วยเหลือทำเรื่องต่าง ๆ อยู่ข้างกายอวิ๋นฝูหลิงยามนี้ได้สมดังปรารถนาแล้ว ย่อมปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่งแต่ไหนแต่ไรมา อวิ๋นฝูหลิงล้วนใจกว้างกับเหล่าคนที่อยู่ใต้ปกครอง นางให้เงินเดือนเป็นสองเท่าจากของเดิมแก่หลิงโหยวทันที ส่วนสวัสดิการต่าง ๆ เช่นสินน้ำใจวันตรุษนั้นก็คิดแยกให้อีกต่างหากครั้นพูดคุยกันเป็นที่เรียบร้อย หลิงโหยวจึงกลับไปปรึกษากับครอบครัว เตรียมเก็บเสื้อผ้าต่าง ๆ ไปหมู่บ้านซวงหลินภรรยาของหลิงโหยวถึงแก่กรรมไปนานหลายปีแล้ว เหลือเพียงแค่หลิงเจี๋ยซึ่งเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวเท่านั้นแม้ว่าแต่ก่อนหลิงเจี๋ยจะได้เล่าเรียนหนังสือมานานหลายปี แต่ด้วยสติปัญญามีขีดจำกัด สอบตกในการสอบขุนนางระดับอำเภอหลายต่อหลายคร

Pinakabagong kabanata

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 620

    เทียนเฉวียนได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าท่านอ๋องคิดจะนั่งรอลาภลอยในเมื่อเวินเจาผู้นั้นเป็นนายน้อยเผ่าเยว่ สถานะในเผ่าเยว่ก็ย่อมไม่ธรรมดาหลังจากคนแคว้นเยว่เหล่านั้นรู้ข่าวว่าเวินเจาถูกจับตัวมา จะต้องคิดหาวิธีมาช่วยเขาออกไปเป็นแน่เทียนเฉวียนไปทำตามคำสั่งของเซียวจิ่งอี้ทันทีทว่าหลังจากรอมาสามวัน ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากทางด้านเวินเจาแม้แต่น้อยเซียวจิ่งอี้ตระหนักได้ว่าตัวเองเจอคู่ต่อสู้เข้าแล้วราชครูแคว้นเยว่หลบหนีเก่งมาก ทำให้ยามนี้เขารู้สึกจนปัญญาอยู่บ้างหากพูดตามหลักการแล้ว คนแคว้นเยว่เหล่านั้นต้องการฟื้นฟูแคว้น ตัวตนของเวินเจาซึ่งมีสายเลือดราชวงศ์ จึงทำให้พวกเขามีเหตุผลอันชอบธรรมมิเช่นนั้นอาศัยเพียงราชครูผู้นั้น คนแคว้นเยว่ที่เหลือจะเชื่อฟังคำสั่งเขาได้อย่างไร?ทว่าหลังจากผ่านไปนาน คนแคว้นเยว่เหล่านั้นกลับไม่มีท่าทีว่าจะมาช่วยเวินเจาแม้แต่น้อยนี่หมายความว่ามองแผนของเขาออกใช่หรือไม่? หรือคิดว่ายามนี้ไม่ใช่จังหวะที่ดีในการช่วยเหลือ จึงกำลังวางแผนและเฝ้าดูอยู่?หรือคนแคว้นเยว่ยอมแพ้เรื่องนายน้อยเวินเจาผู้นี้แล้ว?เซียวจิ่งอี้คิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 619

    ทหารชั้นผู้น้อยคนนั้นได้กลิ่นเลือดจาง ๆ สายหนึ่งกลิ่นเลือดจางมาก จนแทบไม่ได้กลิ่นแต่เขาเกิดมาพร้อมจมูกที่อ่อนไหวต่อกลิ่น แค่เพียงกลิ่นจาง ๆ ก็สามารถได้กลิ่นเช่นกันทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินหลายก้าว ไล่ตามสือจ่างซึ่งเป็นผู้นำไปยามนี้สือจ่างเดินออกมาจากเรือนแล้ว ทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินไปตรงหน้าสือจ่าง และกระซิบไม่กี่ประโยคก้นบึ้งในดวงตาของสือจ่างฉายแววประหลาดใจ และหันกลับไปมองลานบ้านด้านหลังในลานบ้าน ชายวัยกลางคนกับหญิงสาวผู้งดงามเห็นว่าในที่สุดทหารก็ตรวจค้นเสร็จแล้ว จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกใครจะรู้ว่ายังไม่ทันถอนหายใจเสร็จ ประตูเรือนกลับถูกคนพังเปิดเข้ามาอย่างกะทันหันกลุ่มทหารที่เข้ามาตรวจค้นก่อนหน้านี้บุกเข้ามาอีกครั้งชายวัยกลางคนเห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นแรง แต่บนใบหน้ากลับยังสงบ และก้าวออกมาด้วยรอยยิ้มคาดไม่ถึงว่าเขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก สือจ่างผู้นั้นซึ่งเป็นหัวหน้าก็ผลักเขาไปด้านข้าง ก่อนออกคำสั่งเสียงเคร่งขรึมว่า “ค้นหาทั้งในและนอกเรือนใหม่อีกครั้ง ค้นให้ละเอียด!”ทหารทุกคนตอบรับ และแยกย้ายไปค้นหาอีกครั้งทันทีทหารชั้นผู้น้อยซึ่งประสาทรับกลิ่นไวยืนอยู่ที่เดิม จมูกขยับฟ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 618

    “ขอรับ” เทียนซูรับคำสั่งก่อนจะถอยออกไปผ่านไปไม่นาน เทียนซูก็กลับมา“ท่านอ๋อง ผู้ดูแลหอจินอวี้กับพนักงานยืนยันศพกันหมดแล้วขอรับ แน่ใจแล้วว่าเป็นคนที่อยู่ข้างตัวราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้น”เซียวจิ่งอี้ใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า “คนผู้นี้ถูกจับได้ที่ใด?”“ถูกจับที่ตรอกหูลู่ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองขอรับ” เทียนซูตอบกลับเซียวจิ่งอี้กล่าวทันที “ไปเอาแผนที่จินโจวมา”ผ่านไปไม่นาน แผนที่จินโจวก็ถูกแขวนขึ้นเซียวจิ่งอี้เดินไปข้างหน้าแผนที่ หาตำแหน่งตรอกหูลู่บนแผนที่เขายื่นมือออกไปแตะบนแผนที่ หลังจากนั้นก็วงขอบเขตโดยประมาณและกล่าวว่า“ถ่ายทอดคำสั่ง ให้คนไปค้นหาทุกซอกทุกมุมของตรอกหูลู่”คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ย่อมไม่ปรากฏตัวที่ตรอกหูลู่โดยไม่มีสาเหตุบางทีสถานที่ซ่อนตัวของพวกเขา อาจจะอยู่ใกล้ตรอกหูลู่นอกจากนี้คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ยังกัดลิ้นปลิดชีพตัวเอง ไม่ให้ความหวังตัวเองว่าจะมีชีวิตรอดเลย เห็นได้ชัดว่าทำเพื่อปกป้องใครบางคนดูท่าคนรอบกายราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้นจะจงรักภักดีเป็นอย่างยิ่งการเดินทางมาจินโจวครั้งนี้ของเขา ไม่แน่คนข้างกายที่พามาอาจจะล้วนเป็นคนสนิททั้งสิ้นหากคนสนิทเห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 617

    จิตรกรฝีมือดีเช่นนี้ เหตุใดจึงถูกเซียวจิ่งอี้เชิญไปได้ง่าย ๆยิ่งไปกว่านั้นจิตรกรฝีมือดีเหล่านั้นก็ยังไม่เคยเห็นพวกท่านจอมปราชญ์เหวินมาก่อน เหตุใดจึงสามารถวาดภาพเหมือนจากความว่างเปล่าให้เหมือนพวกเขาโดยสมบูรณ์ได้?นอกจากนี้ท่านจอมปราชญ์เหวินอยู่ที่จินโจวมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินว่าในจินโจวมีจิตรกรชื่อดังอันใดเลยตั้งแต่เขาหลบหนีจากหอจินอวี้มาจนถึงตอนนี้ ก็ยังผ่านไปไม่พ้นครึ่งวันเสียด้วยซ้ำภายในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงมีคนที่สามารถวาดภาพพวกเขาออกมาได้มากมายเช่นนี้?ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินไม่อยากจะเชื่อแต่เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาพูดจาหนักแน่น เขาก็ไม่กล้าคิดไปเองมากเกินไปไม่รู้เพราะเหตุใด เขามักรู้สึกว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซียวจิ่งอี้ จะมีความแปลกประหลาดมากเสมอบางทีอาจมีคนมากความสามารถอยู่ข้างกายเซียวจิ่งอี้จริง ๆ ซึ่งสามารถวาดภาพเหมือนออกมาได้เหมือนจริงโดยสมบูรณ์ โดยที่อาศัยเพียงคำอธิบายไม่กี่ประโยคยามนี้คนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา ต่างเป็นคนที่เคยปรากฏตัวที่หอจินอวี้หากข้างกายเซียวจิ่งอี้มีจิตรกรฝีมือดีอยู่จริง ๆ เกรงว่าคนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา คงล้วนถูกวาด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 616

    ท่านจอมปราชญ์เหวินได้แต่แสร้งทำเป็นผ่านทางมา และรีบพาคนจากไปยามที่ออกมาจากหอจินอวี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็ถอดหน้ากากออกการสวมหน้ากากเดินบนท้องถนน จะยิ่งดึงดูดความสนใจหลังจากถอดหน้ากาก รูปลักษณ์ของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก ในฝูงชนจึงแทบไม่มีใครสังเกตเห็นเมื่อคิดว่าแผนการของตนล้มเหลว จนถูกเซียวจิ่งอี้ไล่ล่าราวกับสุนัขไร้บ้านตัวหนึ่ง อีกทั้งนายน้อยเผ่าเยว่เป็นหรือตายก็ไม่อาจรู้ได้ ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินจึงหดหู่เป็นอย่างยิ่งเป็นความผิดของเซียวจิ่งอี้!ท่านจอมปราชญ์เหวินรู้สึกราวกับว่าเซียวจิ่งอี้เกิดมาเพื่อเป็นหายนะของเขาเขาวางแผนจัดการเซียวจิ่งอี้หลายครั้ง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายหลบเลี่ยงได้ทุกครั้งเมื่อเขาคิดจะฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายให้แคว้นต้าฉี ก็จะถูกเซียวจิ่งอี้ทำลายแผนการเสมอยามนี้เมื่อนึกถึงเซียวจิ่งอี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็โกรธจนกัดกรามในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เขายังไม่มีกำลังที่จะโต้กลับได้รอก่อนเถอะรอให้เขากลับไปที่เมืองหลวง ก็จะสามารถอาศัยอำนาจขององค์ชายสาม จัดการเซียวจิ่งอี้ให้สิ้นซาก!ท่านจอมปราชญ์เหวินกัดฟัน ขณะที่สีหน้ามืดครึ้มผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดท่านจอมป

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 615

    อวิ๋นฝูหลิงยังจำเรื่องที่เซียวจิ่งอี้ขอให้นางวาดภาพเหมือนได้หลังจากพบเซียวจิ่งอี้ ทั้งสองคนก็ไปยังคุกที่ขังผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ไว้เมื่อพูดถึงแขกผู้มีเกียรติบนชั้นสามของหอจินอวี้ ผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ก็ต่างจดจำได้เป็นอย่างดีชั้นสามของหอจินอวี้ ไม่ใช่ว่าใครต่างก็มีสิทธิ์ขึ้นไปได้นี่เป็นอุบายที่หอจินอวี้โยนออกมา เป็นวิธีดึงดูดลูกค้าเพื่อสร้างกำไรแบบหนึ่งผู้ที่สามารถขึ้นไปชั้นสามของหอจินอวี้ได้ หมายความว่าเป็นคนที่มีสถานะและทักษะการพนันสูงแต่กลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน กลับเป็นเวินเจาพาขึ้นไปด้วยตัวเองนับตั้งแต่เวินจือเหิงนอนป่วยติดเตียง อำนาจทั้งหมดของสกุลเวินก็ตกไปอยู่ในมือของเวินเจาเวินเจาพาคนไปพักอยู่ที่ชั้นสามของหอจินอวี้ ทั้งยังบอกให้ปรนนิบัติกลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน เหล่าคนของหอจินอวี้ย่อมไม่กล้าไม่เชื่อฟังไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลของหอจินอวี้ หรือพนักงาน ยามนี้เมื่อถูกขังอยู่ในคุก ทุกคนก็หวาดกลัวอยู่ตลอดเมื่อเห็นการสืบสวนก่อนหน้านี้ของเซียวจิ่งอี้ คนเหล่านี้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และออกไปจากคุกโดยเร็ว ทุกคนต่างก็แย่งชิงกันเป็นคนแรกเพราะกล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 614

    “พี่สาม ทางด้านเมืองหลวงมีข่าวคราวบ้างหรือไม่?”“พวกท่านปู่โอวหยางคิดค้นเทียบยาใหม่ที่ใช้รักษาผู้ที่ป่วยเพราะขี้ผึ้งทองได้แล้วหรือไม่?”หลังจากค้นพบขี้ผึ้งทอง อวิ๋นฝูหลิงก็ดึงพวกรองเจ้าสำนักโอวหยางกับหมอหลวงจงมาร่วมศึกษาด้วยกัน ทั้งยังเขียนจดหมายส่งให้นายท่านผู้เฒ่าหาง รวมถึงส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับชีพจรและการรักษาให้เขาด้วยแม้เมืองหลวงกับจินโจวจะเป็นสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากขี้ผึ้งทองมากที่สุด แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าที่อื่นจะไม่ได้รับผลกระทบถึงอย่างไรการค้าของแคว้นต้าฉีก็เจริญรุ่งเรืองมาก จากใต้ขึ้นเหนือมีพ่อค้ามากมาย บางทีอาจจะมีคนที่เดินทางระหว่างเมืองหลวงกับจินโจว ซื้อขี้ผึ้งทองติดไปด้วยสองสามกล่องก็เป็นได้อวิ๋นฝูหลิงคิดว่านางออกจากเมืองหลวงมาหลายวันถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าทางด้านเมืองหลวงจะมีความคืบหน้าใหม่อันใดบ้างตั้งแต่อวิ๋นฝูหลิงกลับมาถึงจินโจว ก็ยุ่งอยู่กับการรักษาผู้ป่วยมาโดยตลอด หางซานสุ่ยจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนางตอนนี้เมื่อเห็นว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นฝ่ายถามขึ้นมา หางซานสุ่ยก็นับว่ามีโอกาสแล้วเขาหยิบจดหมายสองสามฉบับออกมาจากในโต๊ะ“จดหมายพวกนี้ถูกส่ง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 613

    แม้ว่าราชครูแคว้นเยว่จะหนีไปแล้ว แต่เขาอยู่ที่หอจินอวี้ตั้งหลายวัน จึงมักจะมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายจนเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงแม้เขาจะใช้หน้ากากปิดบังใบหน้าอยู่เสมอ จึงไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนรอบตัวเขาทุกคนจะสวมหน้ากากกระมัง?เริ่มต้นไล่ไปจากผู้ใต้บังคับบัญชา บางทีอาจจะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ก็เป็นได้เซียวจิ่งอี้ตัดสินใจไต่สวนผู้ดูและกับพนักงานเหล่านั้นของหอจินอวี้ยังมีทักษะการวาดภาพเหมือนอันยอดเยี่ยมของอวิ๋นฝูหลิง จะต้องจับพวกปลาซิวปลาสร้อยพวกนั้นได้เป็นแน่แม้ว่ากลุ่มของราชครูแคว้นเยว่จะฉวยโอกาสวางเพลิงเพื่อหนีออกไปจากหอจินอวี้ แต่ประตูเมืองจินโจวก็ปิดอยู่ ยามนี้พวกเขาคงยังซ่อนตัวอยู่ในเมืองนอกจากนี้ มีบางสิ่งที่ต้องจัดการด้วยเช่นกันเซียวจิ่งอี้ยืนอยู่หน้าประตูสำนักผิงอัน หันกลับมามองอวิ๋นฝูหลิงที่กำลังยุ่งคราหนึ่งเพียงชั่วครู่เดียว เขาก็พลิกร่างขึ้นหลังม้า มุ่งตรงไปยังที่ว่าการเมืองจินโจวครึ่งชั่วยามต่อมา มีประกาศใบหนึ่งถูกนำมาติดไว้ที่ประตูที่ว่าการทั้งยังมีคนตีฆ้องจากที่ว่าการ อ่านเนื้อหาในประกาศไปทั่วเมืองประกาศนี้กล่าวถึงอันตรายของขี้ผึ้งทอง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 612

    “ข้าอยากจับคนร้ายที่กระทำความผิด ให้ได้แบบคาหนังคาเขา”“แต่ไม่คิดเลยว่าคนผู้นั้นจะโหดเหี้ยมถึงขั้นเสียสติ ตั้งใจวางเพลิงในหอจินอวี้ เพื่อหลบหนีการไล่ล่า”“เป็นเพราะข้าไม่รอบคอบ ทำให้ผู้บริสุทธิ์ทุกคนต้องตกอยู่ในอันตราย”“วันนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุเพลิงไหม้ที่หอจินอวี้ ค่ารักษาและค่ายาข้าจะจ่ายให้เอง”“นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จะได้รับห้าตำลึง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหนักจะได้รับสิบตำลึง”“ได้ยินว่ามีสองคนที่ถูกไฟไหม้จนบาดเจ็บสาหัส สองคนนี้จะได้รับยี่สิบตำลึง”“เงินเหล่านี้ถือเป็นน้ำใจเล็กน้อยจากข้า ที่อยากจะรักษาร่างกายเหล่าผู้บาดเจ็บ”“ข้าจะให้คนนำเงินมามอบให้ในภายหลัง!”ผู้บาดเจ็บทุกคนได้ยินเช่นนั้น ความไม่พอใจที่สุมอยู่ในอกก็หายไปกว่าครึ่งทันทีตอนนี้เมื่อย้อนคิดดูแล้ว เมื่อคืนยามที่หอจินอวี้ถูกปิดล้อม ผู้นำคนนั้นก็บอกว่าทำเพื่อสืบคดีบางอย่างจริง ๆคิดดูอีกครายามนั้นที่เกิดเพลิงไหม้ ทหารเหล่านั้นก็มิได้บังคับขังพวกเขาไว้ในหอจินอวี้ ทว่ากลับรีบเข้ามาในหอเพื่อดับไฟช่วยคนหากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เกรงว่าพวกเขาคงไม่ใช่แค่ได้รับบาดเจ็บ แต่กว่าครึ่งคงตายตกไปในเหตุเพ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status