“ขอบคุณท่านรองมากนะคะที่มาส่ง” พูดจบหญิงสาวก็ปลดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะชะโงกหน้าเขามาใกล้แล้วหอมไปที่แก้มของเขาแล้วจะลงจากรถไปโดยที่ชายหนุ่มไม่ทันได้พูดอะไร
ทิวัตถ์ยิ้มมุมปากและคิดว่าที่เธอทำก็คงเป็นไปตามธรรมเนียมฝรั่ง แต่ในใจก็รู้สึกแปลกๆ หลายวันมานี้ท่าทางของแพรรดาเปลี่ยนไปจากช่วงแรกที่มาทำงานจนเขาอดแปลกใจไม่ได้
แต่คนอย่างเขาเคยพูดไว้แล้วว่าจะไม่เป็นสมภารกินไก่วัดก็จะพยายามรักษาคำพูดถึงแม้เริ่มจะเอนเอียงไปทีละนิด ทิวัตถ์คิดว่าอาจจะเป็นเพราะตอนนี้ตนเองกำลังผิดหวังจากเรนนี่ก็เป็นได้
เขากลับมาถึงคอนโดมิเนียมของตนเองแล้วหยิบเหล้ามาดื่ม จากนั้นก็อ่านข่าวของเรนนี่ ดูสีหน้าของเธอเวลาให้สัมภาษณ์แล้วก็รู้สึกว่าตนเองโชคดีมากที่วันนี้เรนนี่เป็นคนออกไปจากชีวิตเขา ทิวัตถ์รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
บ่ายวันอาทิตย์รองประธานหนุ่มมารับประทานอาหารเย็นกับครอบครัวอย่างเคย วันนี้มารดาของเขาดูจะยิ้มแย้มและมีความสุขมากเป็นพิเศษเขาเดาว่าน่าจะเป็นเพราะข่าวของเรนนี่ที่ตอนนี้มีหลายคนกำลังพูดถึง
“แม่บอกแล้วว่าลูกกับหล่อนไม่มีทางไปด้วยกันได้หรอก อย่างนี้จะยอมหมั้นกับหนูแพรไหม”
“ถึงผมไม่มีใครก็ใช่ว่าผมจะยอมหมั้นกับใครง่ายๆ นะ”
“ท่าทางของวัตถ์ทำให้แม่รู้สึกเหมือนตอนนี้เรากำลังสนใจใครอยู่”
“แม่ครับ ผมเพิ่งรู้ข่าวเรนนี่เมื่อวันก่อนเองนะครับ ผมจะมีเวลาไปมองใครที่ไหนได้”
“ก็แม่เห็นว่าเราไม่ได้เสียใจเลย หรือตอนนี้มีคนอื่นแล้วจริงๆ” คุณกัลยาคาดคั้นคำตอบจากลูกชาย
“น่าเสียดายนะที่วันนั้นลูกปฏิเสธเรื่องหมั้นกับหนูแพรไปแล้ว” บิดาเขาพูดขึ้นบ้าง
“พ่อกับแม่ยังไม่เลิกคิกเรื่องนี้อีกเหรอครับ”
“ก็มันน่าเสียดายนี่ แม่เห็นวัตถ์เอาแต่ทำงานไม่ค่อยมีเวลาก็เลยอยากจะช่วยหาสาวๆ ให้ แม่กลัวว่าวัตถ์จะไปคว้าลูกน้องในบริษัทมาทำเมียน่ะสิ”
“แม่ก็รู้ว่าผมไม่มีทางทำแบบนั้น”
“แต่พ่อว่าบางทีความใกล้ชิดอาจจะทำให้คนเราเปลี่ยนใจได้นะ ยิ่งเลขาคนใหม่ของวัตถ์สวยขนาดนั้น พ่อล่ะกลัวจริงๆ”
“นั่นสิ แม่ขอสั่งห้ามเลยนะ อย่าเอาลูกน้องของตนเองมาทำเมียเด็ดขาดมันจะทำให้เสียการปกครอง โดยเฉพาะเลขาหน้าห้อง ถึงเธอจะสวยจะทำงานเก่งแค่ไหนลูกก็ห้ามยุ่งเด็ดขาด”
“แม่ทำเหมือนไม่รู้จักผม”
“ก็เพราะแม่รู้จักดีน่ะสิถึงได้ห้าม วัตถ์น่ะเป็นคนหน้าตาดี ทำงานก็เก่ง ฐานะก็ไม่น้อยหน้าใครผู้หญิงที่ได้อยู่ใกล้คงมีหวั่นไหวบ้าง แล้วแม่ก็รู้อีกด้วยว่าลูกชายของแม่แพ้ทางผู้หญิงสวย”
“ผมไม่ทำให้แม่ผิดหวังหรอกครับ” ทิวัตถ์ให้คำมั่นกับมารดา แต่คนอย่างเขาก็มีนิสัยเสียอย่างหนึ่งที่แก้ไม่หายนั่นคือยิ่งมารดาห้ามอะไรเขาก็จะทำตรงกันข้าม ก็เหมือนอย่างตอนที่เขาเริ่มสนิทสนมกับเรนนี่แล้วมารดาต่อต้าน มันเลยทำให้เขาทำตรงกันข้าม
แล้วครั้งนี้มารดาห้ามเขากับเลขาซึ่งเขายังไม่ได้คิดอะไรกับแพรรดามากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง แต่พอมารดาพูดมาแบบนี้ชายหนุ่มก็เลยอยากจะลองท้าทายท่านสักนิด อีกอย่างเท่าที่ดูเลขาของเขาก็ท่าทางร้ายใช่เล่น ถ้าเขาอยากจะนึกสนุกกับเธอขึ้นมามันก็คงไม่ยากเท่าไหร่ เรื่องเสียการปกครองที่มารดาพูดนั้นทิวัตถ์คิดว่าตนเองรับมือไหว เขารู้ใจผู้หญิงดีว่ามีไม่กี่อย่างที่พวกเธอต้องการ
เช้าวันจันทร์ทิวัตถ์ก็มาทำงานเวลาเดิม พอมาถึงเขาก็มองหาเลขาแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา
“คุณอรเห็นเลขาผมไหมครับ” เขาเดินไปถามอรดีซึ่งโต๊ะทำของเธออยู่ตรงเยื้องหน้าห้องเขาไปเล็กน้อย
“น้องรดาโทรมาบอกว่าจะเข้ามาช้าหน่อยค่ะ เห็นว่ารถยังซ่อมไม่เสร็จก็เลยกะเวลามาทำงานผิดนิดหน่อย ถ้าท่านรองมีอะไรใช้งานด่วนก็เรียกใช้อรก่อนก็ได้นะคะ วันนี้ท่านประธานจะเข้ามาช่วงบ่ายค่ะ เช้านี้อรเลยว่าง”
“ผมไม่มีอะไรใช้หรอกครับ ก็แค่แปลกใจเท่านั้นเอง” ชายหนุ่มเดินกลับเข้าห้องของตนเองตาก็มองผ่านกระจกที่มองเห็นแค่จากทางด้านในออกมา คอยดูว่าเลขาของตนจะมาทำงานตอนไหน
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงคนที่เขารอก็มาถึง วันนี้แพรรดาสวมสูทพอดีตัวสีครีมกับกระโปรงสั้นเหนือเข่าอย่างเคยและคงมีแค่เขาคนเดียวที่รู้ว่าภายใต้สูทที่ดูเรียบร้อยนั้นเธอมักจะสวมเกาะอกซีทรูไว้ด้านใน
เขาทำทีเป็นอ่านรายงานการประชุมขณะที่เห็นว่าหญิงสาวกำลังเดินถือแก้วกาแฟตรงมายังหน้าห้อง เธอเคาะประตูเป็นสัญญาณก่อนจะเดินเข้ามาโดยไม่ต้องรอให้เขาอนุญาตเพราะเวลานี้เป็นเวลาที่หญิงสาวจะเอากาแฟมาให้เขาเป็นประจำทุกวัน
“ขอโทษนะคะท่านรอง วันนี้รดามาทำงานสายไปหน่อย”
“อือ”
“แต่ไม่ต้องห่วงค่ะเดี๋ยวเย็นนี้รดาจะกลับช้าหนึ่งชั่วโมง”
“กลับเวลาปกติก็ได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ รดาไม่อยากเอาเปรียบบริษัท อีกอย่างเวลาเลิกงานพร้อมกันรถไฟฟ้าก็คงคนเยอะ รดาไม่ค่อยถนัดถ้าจะต้องขึ้นไปยืดเบียดกับคนอื่น รดาขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
แพรรดาเดินออกไปแล้วแต่คำพูดของหญิงสาวทำให้ทิวัตถ์นึกไปถึงการไปยืดเบียดกันบนรถไฟฟ้าซึ่งเขาก็เคยใช้บริการอยู่หลายครั้งซึ่งมันไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ อีกทั้งชุดที่เธอสวมมันก็ไม่เหมาะเลยที่จะไปยืดเบียดเสียดแบบนั้น
พอถึงเวลาเลิกงานของทุกคนทิวัตถ์ก็มองออกมานอกห้องเห็นว่าตอนนี้หน้าห้องของเขานั้นมีแค่แพรรดากำลังนั่งทำงานอยู่คนเดียว ถ้าเดาไม่ผิดเธอก็คงจะรอให้ครบเวลาหนึ่งชั่วโมงตามที่เธอบอกเมื่อช่วงสาย
แพรรดามองนาฬิกาที่มุมจอคอมพิวเตอร์เมื่อเห็นว่าครบกำหนดหนึ่งชั่วโมงตามที่บอกกับทิวัตถ์แล้วหญิงสาวจึงรีบเก็บของเตรียมตัวกลับ แล้วประตูห้องทำงานของเจ้านายก็เปิดออก
“จะกลับแล้วเหรอ”
“ค่ะ ท่านรองล่ะคะ”
“ผมก็กำลังจะกลับเหมือนกัน แล้วนี่จะกลับยังไง”
“รดาจะกลับแท็กซี่ค่ะ”
“อือ” เขาเดินผ่านหน้าเธอไปโดยไม่หันมามองสักนิดทำให้แพรรดาหน้าเสียเพราะคิดว่าเขาจะชวนเธอกลับด้วย
อันที่จริงแล้วรถของแพรรดาไม่ได้เสียแต่เธอจะใช้เป็นข้ออ้างเพื่อขอติดรถเขากลับด้วย แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากเจ้านายก็กลับไปแล้ว
หญิงสาวเดินออกมาจากลิฟต์ก็เห็นว่าตอนนี้ที่หน้าบริษัทรถของเจ้านายกำลังขับมาจอด
“คุณเรียกรถแล้วเหรอ” เขาเปิดกระจกมาถาม
“เรียกแล้วค่ะ แต่รอคิวอีกนานเลย รดาเลยว่าจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์ดีกว่า”
“จะติดรถผมไปก็ได้นะ ไหนๆ ก็ทางผ่านอยู่แล้ว”
“ขอบคุณค่ะท่านรอง” แพรรดาไม่รอให้เขาชวนเป็นครั้งที่สองหญิงสาวรีบเดินมาเปิดประตูรถและเข้าไปนั่งคู่กับเขาพร้อมกับแอบยิ้มให้กับตัวเอง
“รถคุณยังซ่อมไม่เสร็จอีกเหรอ”
“ค่ะ ช่างบอกว่ารออะไหล่ ช่วงนี้รดาก็เลยต้องใช้บริการรถสาธารณะแต่พรุ่งนี้รดาสัญญาค่ะว่าจะไม่ทำงานสาย”
“อือ” เขาพยักหน้ารับรู้ เพราะเรื่องนี้มันเป็นเหตุสุดวิสัย
“แต่ไหนๆ ท่านรองก็ต้องผ่านคอนโดของรดาอยู่แล้ว ท่านรองก็แวะรับรดาเลยสิคะ” แพรรดาตัดสินใจพูดออกไปแล้วก็รอลุ้นกับคำตอบด้วยความคาดหวัง
“ปกติแล้วเลขาต้องไปถึงที่ทำงานก่อนเจ้านายไม่ใช่เหรอ” “ค่ะ แต่นี่มันไม่ปกติไงคะ เพราะรดารถเสีย” “แล้วถ้ารถคุณซ่อมเป็นเดือนผมไม่ต้องคอยรับส่งคุณตลอดเหรอ ผมเป็นเจ้านายคุณนะ” “ ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ถ้ามันซ่อมเป็นเดือนจริงๆ รดาก็คงต้องหาเช่ารถมาใช้” ทิวัตถ์ไม่ได้พูดอะไรต่อเขากำลังคิดอยู่ว่ามันสมควรไหมถ้าจะให้เธอติดรถมาด้วย หรือเขาจะให้เธอยืมรถของบริษัทใช้ไปก่อน “ถึงแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” เพราะมีรถที่กำลังเข้ามาจอดต่อจากรถของเขาแพรรดาเลยรีบกล่าวขอบคุณและลงจากรถไปโดยที่ตนเองยังไม่ได้คำตอบว่าเขาจะมารับเธอไปทำงานด้วยกันหรือเปล่า แพรรดาวิดีโอคอลประชุมสายเพื่อเล่าให้เพื่อนฟังถึงความคืบหน้าระหว่างตนเองกับทิวัตถ์ซึ่งนอกจากจะมีภัทรานิษฐ์ ชาช่าแล้วยังมีกรวิภาและนีรชาร่วมฟังอยู่ด้วย “เขาดูเย็นชามากเลยนะ แพรไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไงกันแน่” “แต่เท่าที่ฟังดูชาช่าว่าเขาน่าจะสนใจอยู่ แต่ผู้บริหารระดับนั้นคงวางตัวดี เขาคงไม่แสดงออกอย่างชัดเจนหรอก” “แบบนี้ต้องมีสิ่งกระตุ้น” นีรชาหรือน้ำชาเสนอ “ยังไ
ทิวัตถ์พ่นลมหายใจออกทันทีที่ประตูห้องปิดลง การกระทำของแพรรดาวันนี้ไม่ทำให้เขาเริ่มคิดจะเป็นสมภารขึ้นมาแล้วในเมื่อไก่วัดตัวนี้มันน่าอร่อยจนเขาแอบกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว เขานั่งใช้ความคิดอยู่นานว่าตัวเองจะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไง ยิ่งตอนนี้เขาเองก็เพิ่งจะโสดแต่ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ข้างนอกนั้นจะโสดด้วยหรือเปล่า ถ้าแพรรดายังไม่มีเจ้าของมันก็ไม่ผิดอะไรถ้าเขากับเธอจะสานสัมพันธ์กัน แล้วเวลาเดินทางไปทำงานต่างประเทศหรือต่างจังหวัดมันก็คงไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อสำหรับเขาอีกต่อ ตลอดทั้งวันทิวัตถ์แทบไม่มีสมาธิทำงาน ถึงแม้หญิงสาวจะกลับมาสวมสูททับเกาะอกไปแล้วแต่ภาพที่เห็นเมื่อตอนเช้ามันก็ยังคงติดอยู่ในความทรงจำ “เย็นนี้กลับพร้อมผมนะ แต่อาจจะช้าหน่อย รีบไปไหนหรือเปล่า” เขาโทรศัพท์มาถามแพรรดาเมื่อใกล้เวลาเลิกงาน “ไม่ค่ะ รดารอกลับพร้อมท่านรองค่ะ”หลังเลิกงานท่านรองประธานหนุ่มกับเลขาสาวก็ออกจากบริษัทพร้อมกันในขณะที่พนักงานคนอื่นกลับไปแล้ว เขาแวะส่งเธอที่คอนโดมิเนียมอย่างเคยและทำแบบนี้ทุกวันกระทั่งถึงเย็นวันศุกร์ ขณะที่รถจอดติดไฟแดงอยู่แพรรดาก็ได้
แพรรดาออกมาจากห้องน้ำก็เจอกับทิวัตถ์ที่เดินลงมาจากชั้นสองพอดี “บังเอิญจังนะคะท่านรองที่เราเจอกันที่นี่” “อยู่นอกบริษัทเรียกผมว่าวัตถ์ก็ได้”“ค่ะคุณวัตถ์”“แล้วจะกลับหรือยังล่ะ ผมจะไปส่ง” “รดายังไม่อยากกลับค่ะ กำลังคุยกับหมอวินสนุกอยู่เลย นี่ก็ว่าจะไปหาที่นั่งคุยกันต่อ คุณวัตถ์จะกลับแล้วเหรอคะ” “ยั่วผมคนเดียวไม่พอหรือไง ถึงได้ยั่วคนอื่นไปทั่ว” “รดาไม่ได้ยั่วนะคะ เราสองคนก็แค่คุยกันเท่านั้นเอง” “แล้วคุยกันต้องถึงเนื้อถึงตัวขนาดนั้นเลยหรือไง แล้วที่บอกว่าจะออกไปคุยกันต่อที่อื่นผมว่าก็คงจะเป็นนอนคุยมากกว่าล่ะมั้ง” “รดาจะทำอะไรมันก็เป็นสิทธิ์ของรดานี่คะ คุณวัตถ์เพิ่งจะบอกเองว่าที่นี่ไม่ใช่บริษัท” “ถึงไม่ใช่บริษัทก็ถือว่าคุณเป็นคนของผมนะ” “รดาไม่ได้คิดอย่างนั้นค่ะ เวลางานก็คือเวลางาน เวลาอยู่ข้างนอกทุกคนก็มีอิสระที่จะทำอะไรหรือไปนอนกับใคร รดาขอตัวก่อนนะคะไม่อยากให้เขารอนาน” พูดจบแพรรดาก็หมุนตัวตัวกลัว “เดี๋ยวสิ” ทิวัตถ์คว้าท่อนแขนเธอไว้แล้วดึงให้หญิงสาวเข้ามาชิดจนความนุ่มหยุ่นปะทะกั
เช้าวันจันทร์แพรรดาก็ตื่นมาทำงานตามปกติ วันนี้เธอจะต้องขับรถไปทำงานเองเพราะถ้าบอกว่ารถยังซ่อมไม่เสร็จมันก็จะฟังดูไม่เข้าท่าเท่าไหร่ทั้งที่จริงแล้วรถของตนเองไม่เป็นอะไรเลย เธอมาถึงบริษัทก่อนพนักงานคนอื่น พอเปิดประตูห้องทำงานของรองประธานเข้าไปก็ต้องตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะมาถึงที่ทำงานก่อนตนเอง “ท่านรองมาทำงานเช้าจังนะคะ” “ผมกะเวลาผิดนิดหน่อยนะ” เมื่อเช้าชายหนุ่มออกจากคอนโดมิเนียมในเวลาเดิมที่เคยไปรับแพรรดาแต่พอมาขับรถถึงกลางทางก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้ตนเองไม่ต้องไปรับเลาขา แต่ไหนๆ ก็ออกมาแล้วจึงเข้าบริษัทตั้งแต่เช้า “ทานอะไรมาหรือยังคะ” “ยังเลย คุณล่ะ” “รดาเรียบร้อยมาจากคอนโดแล้วค่ะ ท่านรองรอนะคะเดี๋ยวรดาไปหาอะไรให้ทาน” “ไม่เป็นไร เดี๋ยวสายๆ เราก็ต้องออกไปข้างนอกค่อยแวะทานตอนนั้นก็ได้ ตอนนี้เอาแค่กาแฟก็พอ” “ได้ค่ะ” แพรรดาเดินมายังส่วนที่จัดไว้เป็นมุมทานอาหารของพนักงานซึ่งในนี้มีทั้งขนมและกาแฟสำหรับพนักงานทุกคน “ผมเพิ่งรู้ว่ามุมกาแฟของที่นี่ก็น่านั่งเหมือนกัน” เขานั่งลงบนโต๊ะขณะที่มองหญ
“รดาเข้ามาหาผมหน่อย” เสียงจากโทรศัพท์ภายในที่ดังขึ้นบนโต๊ะทำงานของแพรรดาทำให้หญิงสาวรีบวางงานในมือลงแล้วรีบเดินเข้าไปยังห้องของรองประธานบริษัททันทีเพราะเธอคิดว่าคงมีเรื่องอะไรด่วน เนื่องจากเมื่อครู่หญิงสาวเพิ่งจะเอากาแฟไปให้แต่เขาก็ไม่เห็นจะใช้งานอะไร“มีอะไรด่วนเหรอคะท่านรอง”“เรื่องที่พักและตั๋วเครื่องบินพร้อมแล้วใช่ไหม”“พี่อรจัดการเรียบร้อยแล้วค่ะ ส่วนเรื่องข้อมูลทั้งหมดรดาส่งเข้าเมลให้ท่านรองแล้วนะคะ ท่านรองไม่อยู่หลายวันรดาคงต้องเหงาแน่เลย จริงๆ แล้วรดาก็อยากไปด้วยนะคะ รดาเรียนที่อเมริกาเลยไม่ค่อยได้ไปเที่ยวแถวยุโรป ครั้งหน้าท่านรองให้รดาไปด้วยได้ไหมคะ” แพรรดาเดินอ้อมมาทางด้านหลัง สองมือเล็กนวดไปบนหัวไหล่อย่างประจบทิวัตถ์เบี่ยงตัวเองออกจากพนักเก้าอี้เล็กน้อยเพื่อให้หญิงสาวนวดได้ถนัดขึ้น“แบบนี้ดีไหมคะ แรงไปหรือเปล่า”“ดีแล้ว”“ขยับมาอีกนิดสิคะแบบนี้นวดไม่ค่อยถนัดเลย”“แค่นี้ก็พอแล้ว คุณไปทำงานต่อเถอะ” ทิวัตถ์พยายามเว้นระยะห่างทั้งที่ตอนนี้ในใจนั้นอยากจะให้หญิงสาวทำมากว่าแค่นวดหัวไหล่“ถ้าอยากนวดก็เรียกใช้รดาได้ตลอดเลยนะคะ” แพรรดาก้มมากระซิบที่ข้างหูผู้เป็นเจ้านายก่อนจะเอื้อมมือ
งานวันเกิดของนักธุรกิจชื่อดังมีแขกมาร่วมงานกันมากกว่าที่แพรรดาจะนึกถึง มันเลยทำให้เลขานุการอย่างแพรรดาได้มีโอกาสรู้จักใครหลายๆ คนเพิ่มมากขึ้น เธอเดินตามทิวัตถ์ไปทั่วงานจนรู้สึกปวดขาไปหมดหลังจากทางเจ้าภาพเป่าเค้กวันเกิดแล้วหญิงสาวและเจ้านายเลยเดินมาหาเครื่องที่ซุ้มอาหาร“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวหยิบน้ำส้มจากพนักงานที่คอยบริการมาดื่มด้วยความกระหาย“งานวันเกิดครบรอบ 60 ปี แขกก็จะเยอะหน่อยผมลืมบอกคุณล่วงหน้า”“หมายถึงอะไรคะ”“ก็ถ้าบอกคุณก่อนคุณจะได้ไม่สวมรองเท้าสูงแบบนี้ไง”“ถ้าไม่สวมรองเท้าสูงๆ เวลาใส่ชุดแบบนี้มันก็ไม่สวยสิคะ”“ไม่เมื่อยเหรอ”“นิดหน่อยค่ะ”“คุณชอบออกงานแบบนี้ไหม”“รดาไม่เคยมางานที่คนเยอะแบบนี้ ตอนแรกก็คิดว่าจะน่าเบื่อ แต่จริงๆ แล้วมันไม่น่าเบื่อนะคะ มันทำให้รดาเจอคนมากขึ้นรู้จักคนมากขึ้น ตำแหน่งเลขาอย่างรดาการได้เจอคนมากแบบนี้มันก็ดีกับงานที่ทำด้วย”“สงสัยว่าผมคงต้องพาคุณออกงานบ่อยๆ”“ถ้าได้มากับท่านรองรดายินดีมาทุกงานค่ะ” แพรรดาส่งยิ้มตาเป็นประกาย ถ้าเขาพาเธอออกงานบ่อยโอกาสใกล้ชิดกันก็มากขึ้นและไม่ได้อยู่ในบริษัทเธอก็ไม่ต้องระแวงอะไร“รอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวผมกลับมา” ทิวัตน์เห
รถคันหรูจอดใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าคอนโดมิเนียมของแพรรดา ตลอดระยะทางจากโรงแรมอันเป็นสถานที่จัดงานมาจนถึงที่นี่ทิวัตถ์ได้แต่นั่งเงียบจนแพรรดากลัวว่าเขาจะโกรธเรื่องที่เธอกับภีมวัชช์สนิทสนมกัน แต่ใจหนึ่งก็แอบคิดว่าที่เขาเอาแต่เงียบก็อาจจะเป็นเพราะกำลังหึงเธอก็เป็นได้“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”“คุณรู้สึกขอบคุณจริงเหรอรดา” เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่“ทำไมถามแบบนั้นล่ะคะ”“ผมคิดว่าคุณอยากให้เพื่อนผมมาส่งเสียอีก”“ท่านรองหมายถึงคุณภีมเหรอคะ”“ก็ใช่นะสิ ผมเห็นว่าเขากับคุณคุยกันถูกคอเหมือนสนิทกันมานาน”“เราคุยกันเรื่องที่รดากับน้องของเขามีชื่อคล้ายกันค่ะ”“แค่นั้นเหรอ”“คุณภีมบอกว่าท่านรองเคยจะหมั้นกับน้องสาวของเขา แต่ท่านรองก็ปฏิเสธจริงไหมคะ”“เรื่องนี้มีทั้งจริงและไม่จริง”“พอจะเล่าให้รดาฟังได้ไหมคะ”“มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผม”“รดาขอโทษค่ะ รดาก็แค่อยากรู้ว่าเพราะอะไรท่านรองถึงเปลี่ยนใจ แต่ท่านรองไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรค่ะ”“เพื่อนผมให้มาถามเหรอ”“เปล่านะคะราดก็แค่อยากรู้เอง”“เรื่องหมั้นมันเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่เขาคุยกันไว้ตั้งนานแล้ว ผมไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรก ตอนนี้ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป
แพรรดาตื่นนอนตั้งแต่เช้าและรีบออกจากคอนโดมิเนียมเร็วกว่าทุกวันเพราะกลัวว่าเช้านี้ท่านรองของเธอจะมารับแต่หญิงสาวคงคิดเข้าข้างตนเองมากไปหน่อยเพราะเธอมาถึงบริษัทเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่เจ้านายก็ยังมาไม่ถึง หญิงสาวได้แต่นั่งมองไปทางลิฟต์ว่าเมื่อไหร่เข้าจะเข้ามาทำงานจนกระทั่งสิบโมงเช้าเจ้านายของเธอจึงเดินเข้ามาพร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่ง เขาเดินเข้าห้องไปแล้วส่วนหญิงสาวคนนั้นไม่ได้ตามเข้าไปด้วย“สวัสดีจ้ะรดา”“สวัสดีค่ะคุณปราง” แพรรดาจำได้ว่าเธอคือลูกสาวของลูกค้าคนสำคัญที่เธอเคยเจอมาแล้วครั้งหนึ่งระหว่างที่ตามเจ้านายไปทำงาน“ปรางซื้อขนมมาฝากจ้ะ”“ขอบคุณค่ะคุณปราง” แพรรดายกมือไหว้แล้วรับขนมเค้กที่ใส่กล่องสวยงามมาถือไว้“ปรางฝากรดาจัดขนมถุงนี้ใส่จานให้หน่อยนะ” เธอส่งขนมให้กับแพรรดาอีกถุง“ได้ค่ะคุณปรางแล้วจะรับกาแฟด้วยไหมคะ”“ขอบใจจ้ะ ปรางขอกาแฟดำนะจ้ะ”“เดี๋ยวรดาเอาเข้าไปให้นะคะ”“ขอบใจจ้ะ”แพรรดารีบทำตามคำสั่งแม้จะขัดใจอยู่บ้างแต่เธอก็ต้องทำทุกอย่างไปตามหน้าที่บางที่เหตุการณ์เมื่อคืนในอาจจะทำให้ทิวัตถ์ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่วันนี้เขาถึงได้ดูเย็นชา ขนาดที่ว่าเดินผ่านเธอไปโดยไม่มองหน้า ก็มันไม่ใช่ความ
วันนี้ก็ครบสิบวันแล้วที่แพรรดากลับมาอยู่ที่บ้านและมันก็ตรงกับวันหยุดภีมวัชช์เลยชวนภัทรานิษฐ์มาค้างที่บ้านตั้งแต่เมื่อวานเพราะอยากให้น้องสาวได้มีเพื่อนคุยบ้าง“เราจะไปไหนกันเหรอพัด ทำไมพัดต้องให้แพรใส่ชุดนี้ด้วยล่ะ” แพรรดามองชุดกระโปรงสีหวานที่ดูเรียบร้อยขัดกับตัวเธออย่างมาก“พัดอยากไปไหว้พระ”“อ๋อ แล้วก็ไม่บอกกันตั้งแต่แรก ว่าแต่ชุดนี้แพงน่าดูเลยนะ ขอถามหน่อยว่าใครจ่าย”“ที่ถามนี่ไม่รู้นิสัยพัดเหรอ เรื่องอะไรพัดจะยอมซื้อของแพงๆ ละ”“นั่นสินะ พี่ภีมเป็นคนจ่ายใช่ไหม” เพราะภัทรานิษฐ์เป็นคนประหยัดมากเสื้อผ้าราคาแพงแบบนี้ไม่มีทางที่เพื่อนจะยอมซื้อ“อือ เขาเป็นคนจ่าย”“พี่ชายแพรนี่ก็น่ารักดีนะ แต่ชุดนี้สวยถูกใจแพรมากเลยนะ”“พัดก็ว่าสวยนะเหมาะกับแพรมากแล้วถ้าจะให้ดีกว่านี้พัดว่าแพรแต่งหน้าสักหน่อยดีไหม”“ต้องแต่งด้วยเหรอเราแค่ไปวัดเองนะ”“ก็ชุดสวยแล้วหน้าก็ต้องเป๊ะสิ”ช่วยแต่งให้หน่อยสิ แต่อย่าเข้มมากนะ พัดแต่งหน้าเก่งกว่าแพรเยอะเลย แพรอยากให้พัดย้ายมาอยู่ที่นี่จังแพรจะได้ไม่เหงา”“แล้วพัดจะมาหาแพรบ่อยๆ”“สัญญาแล้วนะ”“ก็ก็ถ้าพี่ภีมไปรับนะ เพราะให้พัดมาเองพัดขี้เกียจขับรถ”“พี่ภีมเต็มใจไปรับ
เกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่ทิวัตถ์มาทำงานโดยไม่มีเลขาหน้าห้องต้องเดือดร้อนคุณอรดีอีกอย่างเคย เพราะครั้งนี้เขายืนยันแล้วว่าจะไม่หาเลขาคนใหม่ เพราะยังรอให้แพรรดากลับมาทำงานด้วยทุกครั้งที่ประตูห้องทำงานเปิดออกเขาก็รีบเงยหน้าขึ้นมองด้วยความเคยชิน แต่พอเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาไม่ใช่แพรดาใบหน้าก็กลับมานิ่งอย่างเดิมพอไม่มีแพรรดาเขาก็รู้สึกเหมือนชีวิตไร้สีสัน มันเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง เพราะสองเดือนมานี้เขามีแพรรดาข้างกายตลอดเวลา เขาไม่กลับไปนอนที่คอนโดมิเนียมของคนเองอย่างเคยเพราะไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็เอาแต่คิดถึงแพรรดาจนนอนไม่หลับบ้านของมารดาจึงเป็นที่แห่งเดียวที่ทำให้เขาผ่อนคลาย“แม่ว่าวัตถ์ดูเครียดไปนะ หาเวลาพักหน่อยไหม”“ผมยังไหวครับแม่รอพักทีเดียวดีกว่า”“แล้วได้ติดต่อน้องไปบ้างไหม น้องว่ายังไงบ้าง”“ผมว่าโทรไปน้องแพรก็คงไม่รับโทรศัพท์ผมเหรอครับแม่ อย่างโทรให้เสียเวลาเลย”“ไม่คุยกันแล้วจะเข้าใจกันไหมล่ะ ป่านนี้น้องอาจจะกำลังรอให้วัตถ์โทรไปหาก็ได้นะ”“แม่คุยกับอาณีมาใช่ไหม”“ใช่ อาณีบอกแม่ว่าน้องเอาแต่ซึมไม่สดใสเหมือนก่อน แม่อยากให้วัตถ์โทรไปหาน้องบ้างไปคุยกันให้รู้เรื่อง”“แพรดื้อครับแม่ผมไ
แพรรดานอนมองเพดานห้องหลังจากที่ตื่นขึ้นมาในสายของอีกวันโดยที่ข้างกายว่างเปล่า ทิวัตถ์คงไปจากเธอแล้วอย่างที่เธอต้องการ หญิงสาวรู้สึกถึงชัยชนะของตัวเองที่ทำทุกอย่างได้ตามแผน ทำให้เขาหลงรักแล้วปฏิเสธเขาอย่างที่ไร้เยื่อใย แต่ชัยชนะนั้นก็แลกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างที่สุดหญิงสาวยืนมองตัวเองในกระจกแล้วยิ้มเมื่อนึกถึงชัยชนะ แต่รอยยิ้มนั้นกลับเปื้อนไปด้วยน้ำตาแห่งความเสียใจ ยิ่งเห็นร่องรอยที่เขาฝากไว้ก็ยิ่งคิดถึงเขามากขึ้นไปอีกเวลาที่ได้ใกล้ชิดเขาไม่ถึงสองเดือนแต่มันกลับเต็มไปด้วยความทรงจำที่แสนหวาน ท่านรองที่ดูเย็นชาของเธอนั้นกลายเป็นชายอีกคนที่ช่างอ้อนและเร่าร้อนอย่างที่สุดเวลาที่ด้วยกันอยู่บนเตียง แพรรดาไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนเธอถึงจะลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้หลังจากอาบน้ำและทานอาหารแช่แข็งที่ซื้อมาเมื่อวานแล้วแพรรดาก็เก็บกวาดห้องอีกครั้ง เธอคิดว่าจากนี้จะปล่อยที่นี่ให้คนอื่นเช่าเพราะตัวเองคงจะกลับไปอยู่ที่บ้านกับครอบครัวและคงไม่กลับมาทำงานที่กรุงเทพอีกแล้วหญิงสาวโทรไปบอกบิดามารดาว่าขอเวลาเก็บของและขอไปเจอเพื่อนอีกหนึ่งวันก่อนจะกลับไปที่บ้านในวันพรุ่งนี้จากนั้นก็โทรนัดเพื่อนๆ ออกมาฉ
“อ่า..ของเมียแน่นจังอย่าเพิ่งตอดแรงนะ พี่จะทนไม่ไหวเอา”“แพรก็จะทนไม่ไหว มันเสียว อื้อออ...”แพรรดาผวาขึ้นมากอดเขาแน่นเมื่อเขาดันความใหญ่ยาวเข้าไปในตัวเธอทีเดียวจนสุดโคน“โอ้วว..แพรจ๋า ทั้งแน่นทั้งตอดกะจะฆ่ากันหรือไง”ทิวัตถ์กัดฟันกรอดเพราะโพรงอ่อนนุ่มตอดรัดอย่างแรงจนต้องรีบถอนตัวออกแล้วขยับเข้าไปใหม่ เขาโน้มตัวเข้าหาประกบจูบบดเบียดแลกลิ้นเป็นพัลวัน มือนวดคลึงเต้าอวบบีบขยี้ปลายยอดจนเธอเสียวไปถึงท้องน้อยสะโพกขยับเข้าออกไปตามแรงปรารถนา แพรรดาปล่อยกายปล่อยใจให้เป็นไปตามความรู้สึกส่วนลึก ร่างกายตอบสนองเขาไปตามสัญชาตญาณไม่ว่าเขาจะจับจูงไปทิศทางไหนหญิงสาวก็พร้อมจะตามเขาไปทุกที่ ทุกจังหวะที่ท่อนเอ็นร้อนครูดกับโพรงอ่อนนุ่มนั้นร้อนแรงจนหญิงสาวครางแทบไม่เป็นภาษา “สะเสียว พี่วัตถ์แพรเสียว ดูดแรงๆ นะคะ” หญิงสาวเสียวซ่านกับปากร้อนที่กำลังดูดกินยอดอก ยิ่งเขาดูดแรงเธอก็ยิ่งตอดรัดทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วทั้งตัว แรงบีบเพิ่มขึ้นอย่างไม่ปรานี สะโพกก็ยังคงทำงานอย่างไม่มีพัก“แพรจะไม่ไหว”“คนเก่งของพี่ ให้พี่แรงอีกใช่ไหม”เขาถามอย่างรู้ใจ พอเห็นใบหน้าหวานที่แดงก่ำพยักขึ้นลง
แพรรดาเดินกลับมาอย่างไม่เร็วนักเพราะดื่มไปค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่ถึงกับเมาจนเดินกลับห้องของตัวเองไม่ถูก หญิงสาวกดรหัสเปิดยังไม่ทันได้ปิดลงมือของใครบางคนก็ดึงประตูแล้วแทรกตัวเขามาในห้องโดยที่หญิงสาวไม่ทันได้ระวัง พอกันหลับไปมองก็ต้องตกใจ ใบหน้าสวยโกรธขึ้นมาทันที“คุณวัตถ์”“เมื่อวานยังเรียกพี่วัตถ์อยู่เลยทำไมวันนี้เรียกคุณวัตถ์ล่ะ”“ฉันจะเรียกยังไงมันก็เรื่องของฉัน”“ผัวเมียที่ไหนเขาพูดกันแบบนี้นะ” เขาเดินเข้ามาใกล้แพรรดาถอยหนีจนแผ่นหลังชนกับผนังห้อง“อย่ามาพูดแบบนี้ในห้องฉันนะ และก็กลับออกไปได้แล้วก่อนที่ฉันจะตะโกนให้คนมาช่วย” แพรรดาขู่เพราะเห็นท่าทางของเขาแล้วมันไม่น่าไว้ใจเลย“เรื่องผัวเมียมีใครที่ไหนเขาอยากจะยุ่งล่ะ พี่ว่าเรามาคุยกันดีๆ นะ”“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณแล้ว เชิญกลับไปได้แล้วค่ะ”“ถ้าไม่อยากจะคุยงั้นเปลี่ยนมาเป็นครางแทนดีไหมล่ะ” เขาก้าวเขามาประชิดตัวสองมือกับเธอไว้ ใบหน้าหล่อก้มลงต่ำจนแพรรดารู้สึกถึงลมหายใจอุ่นที่รดแก้ม“อย่านะคุณวัถต์” แพรรดาเอามือดันใบหน้าของเขาไว้ แต่แทนที่เขาจะสะทกสะท้านเขากลับดึงมือนั้นขึ้นจูบไปที่นิ้วพลางส่งสายตามองราวกับกำลังจะกลืนกินเธอลงไปทั้งตัว
ถึงแม้วันนี้จะไม่ต้องออกไปทำงานแต่เช้าแพรรดาก็ตื่นตามเวลาปกติเพราะความเคยชิน หญิงสาวเริ่มเก็บของใช้ที่จำเป็นลงกระเป๋า เพราะคิดจะย้ายกลับไปอยู่ที่บ้าน “เฮ้อ” แพรรดาถอนหายใจเพราะยิ่งจัดของใจก็ยิ่งว้าวุ่นขึ้นเรื่อยๆ เธอไม่คิดว่าวันที่จะต้องลาออกจากงานและกลับไปช่วยงานที่บ้านจะมาถึงเร็วขนาดนี้ ถ้าเมื่อคืนไม่คุยกับพี่ชายจนเพลินความลับที่เก็บไว้ก็น่าจะยังคงเป็นความลับอยู่ แต่ในเมื่อทิวัตถ์รู้ความจริงแล้วแพรรดาก็คงไม่กล้าไปทำงานกับเขาอีก เรื่องระหว่างเธอกับเขามันเกิดขึ้นเร็วและก็จบเร็วจนน่าใจหาย แพรรดายอมรับว่ายังรักเขาอยู่และความรักก็มากขึ้นเมื่อได้ใกล้ชิด มันคงต้องใช้เวลาอีกมากกว่าที่เธอจะเลิกรักเขาได้ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าเธอกับเขาไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เธอดีใจที่เขาบอกว่าอยากจะหมั้นแต่ถ้าเธอยอมก็เท่ากับว่าแผนการที่เธอวางไว้มันก็จะพังไม่เป็นท่าแล้วคนชอบเอาชนะอย่างเธอก็ไม่มีทางยอม แพรรดายอมเจ็บดีกว่าจะหมั้นกับเขาเพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็เท่ากับเธอเป็นคนแพ้หญิงสาวนอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียงหลังจากจัดของได้แค่เพียงนิด เพราะพี่ชายบอกเธอว
งานแต่งงานของปรีญาดามีแขกมาร่วมงานมากจนแพรรดาคิดไม่ถึงและหนึ่งในนั้นก็มีพี่ชายของรวมอยู่ด้วย ระหว่างที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับอาฟเตอร์ปาร์ตี้นั้นหญิงสาวก็เลยมีโอกาสออกมาคุยกับพี่ชายตามลำพัง “พี่ไม่คิดว่าแพรจะมางานนี้ด้วย” “แพรเป็นเลขาพี่วัตถ์นี่ค่ะก็ต้องมาด้วยอยู่แล้วไม่เห็นแปลกอะไรเลย” “แต่เขาไม่ได้มาในนามบริษัทนะ ระหว่างแพรกับเขามีอะไรที่พี่ไม่รู้หรือเปล่า” “ไม่มีค่ะ พี่ภีมอย่าคิดมากเลย” “แต่พี่เห็นสายตาไอ้วัตถ์ที่มองแพรแล้วพี่พอจะดูออกนะ พี่ว่าตอนนี้เพื่อนของพี่คงไม่คิดกับแพรแค่เลขาแล้ว” “ก็ดีสิคะ” “ในเมื่อเขาเองก็คิดกับแพรเกินเลขาแล้ว พี่ว่าแพรก็ควรบอกความจริงกับเขาได้แล้ว” “ขอเวลาอีกนิดได้ไหม” “แพรรจะรออะไรอีก บอกความจริงเขาไปเถอะ มันไม่สนุกหรอกนะถ้าเราคนที่เรารู้สึกดีๆ ด้วยมาหลอก” “แพรไม่เคยหลอกนะคะพี่ภีม ในใบสมัครงานแพรก็เขียนความจริงทุกอย่าง ทั้งชื่อทั้งนามสกุลรวมถึงที่อยู่ที่บ้าน พี่วัตถ์ไม่สังเกตเองแล้วจะมาว่าแพรหลอกได้ยังไง” “พี่ถามหน่อยสิ แพรต้องตอบพี่ตรงๆ
ทิวัตถ์ใช้ทิชชู่เช็ดทำความสะอาดคราบขาวขุ่นที่เปรอะเปื้อนออกจากกุหลาบงามจนสะอาดก่อนจะช่วยเธอสวมชุดให้กลับไปเป็นอย่างเดิม “คุณคงไม่มีแรงขับรถแน่ๆ ให้ผมไปส่งนะ” เขาพูดขณะเดินไปเปิดตู้เย็นเล็กแล้วหยิบน้ำดื่มมาเปิดฝาแล้วส่งให้กับแพรรดา “ส่งที่คอนโดของรดานะคะ” พูดจบแพรรดาก็รับน้ำมาดื่มด้วยความกระหาย “พรุ่งนี้วันเสาร์นะครับที่รัก ไปค้างด้วยกันนะ ยังไม่อิ่มเลยอยากกลับไปกินต่อ” “กินจุเกินไปแล้วนะคะ เมื่อกี้ก็กินไปตั้งสองรอบยังไม่พออีกเหรอ” หญิงสาวมองค้อน เพราะยังเหนื่อยไม่หายกับบทรักที่เขามอบให้เมื่อครู่ “แค่สองรอบเองครับ เมียผมกินอร่อยผมก็อยากกินเยอะๆ ได้ไหมล่ะ” “ไม่รู้สิคะ” แพรรดาไม่รู้จริงๆ ว่าเธอจะไหวไหมถ้าเขาจะจับเธอกินอีก เพราะตอนนี้หญิงสาวก็ทรงตัวแทบไม่อยู่ “ไม่รู้แสดงว่าต้องลอง เอาละ ไปที่รถเถอะ เดินไหวไหม” “ไหวค่ะ” แพรรดาเดินตามเขามาที่รถด้วยความสบายใจเพราะเวลานี้ไม่มีใครอยู่ในบริษัทแล้ว “ขอนอนพักได้ไหม ถึงแล้วปลุกรดาด้วยนะคะ” “ได้สิ” เขาดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดแล้วปรับ
“ลองเสนอมาสิคะ”“ถ้าคุณไม่ให้ผมไปที่โรงแรม แล้วมีที่อื่นให้ผมไปไหมล่ะ”“ท่านรองอยากไปไหนล่ะคะ”“เลิกงานแล้วนะ”“คุณวัตถ์อยากไปไหนล่ะคะ” หญิงสาวเปลี่ยนสรรพนาม“อยากไปสวรรค์ ได้ไหมล่ะ พาไปได้หรือเปล่า”“ในห้องทำงานเหรอคะ” แพรรดาถามอย่างไม่แน่ใจ“ใช่สิ ถ้าผมหมดแรงอยู่ในห้องนี้ผมก็คงไปไหนไม่ได้ รดาคิดว่าทำให้ผมหมดแรงได้ไหม”“รดาไม่รู้ว่าคุณจะหมดแรงหรือเปล่าเอาเป็นว่ารดาจะทำคุณไปถึงสวรรค์อย่างที่อยากไปเลยล่ะคะ”เพราะกลัวเสียเขาให้กับคนอื่นแพรรดาเลยยอมทำตามคำขอของเขา มันดูกล้าบ้าบิ่นมากที่มีอะไรกันในห้องทำงานแต่เวลานี้ทุกคนก็กลับบ้านไปหมดแล้วแพรรดาถอดเสื้อตัวนอกของตนเอง แล้วคุกเข่าตรงหน้าท่านรองประธานหนุ่มสองมือลูบคลำความเป็นชายที่ซ่อนอยู่ในกางเกงผ้าเนื้อดีจนมันค่อยตื่นตัวขึ้น เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขาแล้วยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นว่าตัวเขากำลังมองลงมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการ“อื้ม....รดา”เขาครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อแพรรดาใช้ใบหน้าซุกไซร้อยู่นอกกางเกง เพียงแค่นี้ความเสียวก็แล่นพล่านไปทั่วกาย“ผมถอดให้นะ รดาจะได้กินถนัด”ถ้าหากจะรอให้เธอเป็นคนถอดเขาคงแทบคลั่ง ชายหนุ่มรีบจัด