นี่แหละเขา ตฤณ ศิริทรัพย์ ประธานหนุ่มรูปหล่อ วัย 37 ปี เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์มีรายได้ติด Top 10 ของเมืองไทย เขาเป็นคนง่ายๆ สบายๆ แต่เอาจริงเอาจังเวลาทำงาน หลังจากนั้นเขาก็ผ่อนคลายไม่เคร่งเครียดจึงเป็นที่รักของพนักงานทุกคน เวลาอารมณ์ดีเขากวนประสาทลูกน้องเก่งด้วยซ้ำ แต่มีนิสัยเสียอย่างคือ ด้วยความที่เป็นคนรวยมาก มักใช้เงินแก้ปัญหาจนเกิดปัญหาบ้างก็มี อยากได้อะไรต้องได้ทันทีทันใด เอาแต่ใจกับบางเรื่อง สั่งปุ๊บได้ปั๊บ เงินถึง เงินพร้อม บางคนที่ไม่รู้จักก็จะพูดง่ายๆ ว่าชอบเอาเงินฟาดหัวนี่เอง อย่างเมื่อเช้านี่ไงใช้เงินแก้ปัญหา แต่ใช้ผิดคน
“เฮ้อ!” ตฤณถอนหายใจพร้อมกับทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ทำงาน หนักๆ หลังจากออกจากห้องประชุม “วันนี้มันวันอะไร เก้าเท้าไหนออกจากบ้าน” ตฤณบ่นพลางหลับตา “ถอดเสื้อสูทก่อนดีไหมครับท่าน มีรอยโคลนน่ะ” ผู้ช่วยบอก ตฤณจึงได้ลืมตาแล้วก้มดูเสื้อสูทตัวเอง “ให้ตายสิ ซวยชิบเป๋งเลย” เขาสบถพร้อมกับถอดออกแล้วส่งให้ผู้ช่วย “เดี๋ยวผมจัดการให้ครับ” ผู้ช่วยรับมาไว้และมองสีหน้าเจ้านายด้วยความเป็นห่วง “เมื่อเช้าเกิดอะไรขึ้นครับ” ผู้ช่วยถามเพราะเขาออกมาก่อนเจ้านาย “อุบัติเหตุนิดหน่อยตอนออกจากซอยบ้านน่ะ ทะเลาะกับผู้หญิงคนหนึ่ง รถเราเหยียบน้ำโคลนแล้วกระเด็นใส่เธอ” “เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ หมายถึงเธอ” “เป็น เป็นมากด้วย ไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง จะรับผิดชอบก็ไม่ยอม” “รับผิดชอบแบบไหนครับ” “ก็ค่าเสียหาย แต่เธอไม่เอา ด่าฉันอีก” “คงเสียใจมากกว่าอยากได้เงินมั้งครับ นี่เหรอที่ทำให้ท่านเครียด หงุดหงิด” “อืม ตอนแรกยอมรับว่าโกรธนะ แต่พอรู้เหตุผลที่เธอเสียใจก็รู้สึกผิด” “ทำไมเหรอครับ” “เธอกำลังแต่งตัวไปสมัครงานน่ะ หลังฝนตกแบบนี้ รถสัญจรไปมาในซอยมันก็ขับไม่ระวังอยู่แล้ว แล้วรถเรามันก็... เราทำเสื้อผ้าและเอกสารเธอเปียกหมด ป่านนี้คงไม่ได้ไปแล้วมั้ง” “ถึงว่า แสดงว่าเธออยู่ในซอยนั้นเหรอครับ” “ใช่ เพิ่งเคยเห็นหน้า สงสัยเพิ่งจะย้ายมาเช่าบ้านในซอยนั้นแหละ” “ไว้มีโอกาสคงได้เจอกัน แล้วขอโทษกันอีกครั้งนะครับ” “คงไม่ล่ะ เธอคงเกลียดฉันหนักมาก ขอไม่เจอกันอีกเลย ฉันทำเธอหมดอนาคตไปเลยมั้งเนี่ย ท่าทางจะหวังกับงานมาก” “ฟังแล้วก็สงสารเธอนะครับ เอ่อ ผมเอาสูทไปส่งซักดีกว่า ท่านก็พักนะครับ เดี๋ยวจะให้เด็กเอาน้ำเย็นๆ เข้ามาให้” “อืม” ท่านประธานหนุ่มบอกเสียงเรียบ “ครับท่าน” เมื่อรับคำแล้ว ผู้ช่วยก็ออกไปทันที เพื่อให้เจ้านายได้พักสมองสักครู่ ก่อนจะมีงานเข้ามาให้จัดการอีก ตฤณได้แต่เอนหลังพิงเก้าอี้ หลับตาอย่างผ่อนคลาย นานเท่าไหร่ไม่รู้กระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น กริ้ง! กริ้ง! กริ้ง! เสียงโทรศัพท์ตั้งโต๊ะดัง ปลุกให้เขาสะดุ้งลืมตาแล้วหยิบมารับสาย “ครับ” เขารับสายเสียงเรียบ “ท่านคะ เปี๊ยกสัมภาษณ์เสร็จแล้วนะคะ กำลังส่งน้องเข้าไปที่ห้องท่าน ตอนนี้ท่านพร้อมไหมคะ” หัวหน้าฝ่ายบุคคลถาม ตฤณจึงก้มมองตัวเองที่อยู่ในสภาพไม่พร้อม มันดูผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้านมากกว่า ไม่สุภาพเอาเสียเย ทว่าคิดอีกอย่างเป็นการสัมภาษณ์เลขานี่นะ เอาง่ายๆ สบายๆ ละกัน “เฮ้อ! โอเคเข้ามาได้เลย” เขาบอกพร้อมกับวางสายในทันที แล้วเข้าห้องน้ำเพื่อดูความเรียบร้อยของตัวเอง เขาปลดกระดุมเสื้อและพับแขนเสื้อขึ้นไปไว้ตรงข้อศอกอย่างผ่อนคลาย เอาน้ำพรมหน้าเล็กน้อยเพื่อความสดชื่น จากนั้นก็ก้มลงดมเสื้อเชิ้ตตนเองว่ามีกลิ่นโคลนหรือเปล่า “คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง” เขาบอกตัวเอง ก่อนจะไปหยิบกระดาษทิชชู่แล้วเอามาซับหน้าให้แห้ง ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้น ซึ่งเจ้าของห้องไม่ได้ยิน และยังอยู่ในห้องน้ำอยู่ ประตูจึงเปิดเข้ามาโดยผู้ช่วยของตฤณแทน “สงสัยท่านประธานจะเข้าห้องน้ำ คุณไปนั่งรอก่อนนะครับ” ก้อง การุณบอกกับหญิงสาวอย่างสุภาพ “ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวบอกอย่างขอบคุณ ก่อนจะก้มศีรษะลงเล็กน้อยแล้วเดินไปหยุดยืนอยู่ที่เก้าอี้หน้าโต๊ะ เธอไม่กล้ากวาดตามองอะไรเพราะประหม่า เนื่องจากห้องนี้คือห้องของประธานบริษัท ทำได้เพียงสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อจะได้ลดความตื่นเต้น จากนั้นจึงนั่งก้มหน้า จังหวะเดียวกันนั้น ก็ได้ยินเสียงชักโครกดังออกมา รับรู้ได้ว่าท่านประธานน่าจะกำลังออกมา เธอนั่งก้มหน้าแต่หลังตรง ใจเต้นแรง มือจับเอกสารเอาไว้แน่น ตามด้วยเสียงเปิดประตู พร้อมกับเจ้าของห้องที่ก้าวเท้าเดินอย่างหนักแน่น “ขอโทษที่ทำให้รอครับ” ตฤณเอ่ยด้วยประโยคชินปาก เสียงของเขาทุ้มนุ่มน่าฟัง ดูอบอุ่นแต่น่าเกรงขาม จนหญิงสาวถึงกับเงยหน้าหันไปมองพร้อมที่จะเอ่ย ทว่าราวกับเห็นผี เธอตกใจชะงักปากในทันที เขาก็อึ้งระคนดีใจแปลกๆ แต่เธอนี่สิ “ไม่จริงอะ! คุณ! คุณ! ฉัน! ไม่! ฉันไม่ทำงานที่ ฉันไม่ทำแล้ว เชิญคุณเรียกคนอื่นเลย” เธอบอกรัวๆ พร้อมกับหอบเอกสารลุกขึ้น แต่เขากลับเดินไปขวางหน้าเอาไว้“ก็คุณเจ้าเล่ห์เก่งนี่คะ”“ไม่เจ้าเล่ห์จะได้คุณเหรอ หืม”“คุณได้หยา ไม่ใช่เพราะคุณเจ้าเล่ห์เก่ง เพราะหยารักคุณต่างหาก ท่านประธาน มีเรื่องหนึ่งที่ค้างคา”“อะไรจ๊ะ”“ครั้งแรกที่เจอกันคุณบอกว่าจะรีโนเวทห้อง จะพาหยาไปดูสถานที่จริง” นี่เธอซื่อจริงหรือว่าแกล้งถาม เขาคิด“ก็เข้าไปเห็นห้องแล้ว น่าอยู่ดีไหมล่ะหรือว่าต้องแก้ไขอะไรอีกครับ”“นี่เจ้าเล่ห์เหรอคะ ไม่ได้อยากจะทำจริงๆ ใช่ไหม หืม”“ก็คนมันอยากได้นี่”“ก็ต้องเอาให้ได้ ร้ายกาจนัก”“ร้ายกาจเหรอ แล้วไม่ชอบหรือไง เป็นเมียท่านประธานแบบนี้ ดีหรือเปล่า?” เขาเปลี่ยนเรื่องคุยเสียอย่างนั้น“ไม่รู้สิคะ ต้องดูกันระยะยาว”“แล้วชอบแบบนี้หรือเปล่า”“แบบนี้? ชอบดุดุ”“หึๆ ไหนบอกไม่ชอบดุไง”“เวลาคุณดุแล้ว ดูร้อนแรงดีจะตาย”&
“อ้อนผมก่อน แล้วผมจะตามใจ” สิ้นคำเขาก็กดจูบตรงกลีบเสียวนุ่มนิ่มเบาๆ ความร้อนจากเรียวปากทำเอาสะดุ้งแอ่นเด้งขึ้นลง“อืม ท่านประธานอย่ากินดุนักสิคะ” เธอออดอ้อนตามที่เขาปรารถนา“เลียดุด้วย” เขาเสริมขึ้นก่อนจะปาดลิ้นเลียเม็ดเสียวแผ่วเบา ที่กระตุกตอดลิ้นตุบๆ“ซี๊ด! อืม” เธอครางเบาๆ เช่นกัน เหมือนกำลังถูกเขาหยอกเย้าให้ทรมาน และความเสียวซ่านกำลังก่อเกิดอีกครั้ง เมื่อปลายลิ้นร้อนลากเลียผ่านร่องรักจากล่างขึ้นบนเชื่องช้า จนทำให้เธอแทบจะบิดเร้าไปทั้งตัวและจิกลงไปบนที่นอน“อูยยยย อ่า” ยิ่งเลียช้าก็ยิ่งเสียวสะท้าน เนินสวาทถึงกับแอ่นยกขึ้นลง พลางส่งเสียงครางพะแผ่วออกมาอย่างสุดจะกลั้น“ตฤณขา สะ สะ เสียวมากเลยค่ะ อื้อ!” เสียงหวานเว้าวอนเมื่อกลีบอวบถูกชำแรกรักด้วยลิ้นปาดเลียเร็วขึ้น ทั้งขดงอดุนดันสลับงับดูดน้ำหวานที่ไหลออกมาเพราะความเสียวซ่าน น้ำหวานฉ่ำแฉะไปทั้วกลีบเขาก็ยิ่งดูดเลียหนักหน่วง ไม่มีคำว่าเบาหรือปราณีตามที่ออดอ้อน“ซี๊ด! โอ้ว! ตฤณขา ตฤณ! อ๊ะ ดูดแรงเหลือเกินตฤณขา”
“ซี๊ด โอ้ว! หยา... หยา... เสียว หยาจะ... อื้อ!” เธอร้องครวญครางก่อนจะกระตุกเกร็งไปทั้งตัว พร้อมกับหายใจหอบหนักๆ ร่างกายปลดปล่อยพุ่งทะยานไปสู่ขอบฟ้า น้ำรักพุ่งพ่นหลั่งไหลออกมาใส่ปากร้อนที่ดูดกลืนกินอย่างไม่อิ่มเอม เธอยังคงกระตุกเสียวซ่านและหายใจระรัว เมื่อรู้ว่าเธอจึงจุดหมายเขาก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทว่ายังคงจับขาข้างเดิมของเธอเอาไว้ในข้างหนึ่ง แล้วยื่นหน้าเข้าไปประกอบจูบดูดดื่มเขาไม่อ้อยอิ่งรีบขยับรูดแท่งร้อนระรัว เมื่อพร้อมรบเขาก็จับจ่อตรงปากทางรัก แล้วกดสอดแทรกผ่านเรือนกายอันบอบบางคับแน่น สะโพกกดอัดนำพาแท่งร้อนเข้าไปจนสุดทางและลึกจนรู้สึกได้ เนื้อกายสาวบีบรัดรึงแท่งร้อนเอาไว้จนเสียว “ขอท่านี้ได้ไหมครับ” เขาถอนจูบออกมากระซิบแผ่วเบา ไม่ต้องขอแล้วเพราะเขาพร้อมจะขยับตัว เธอไม่ตอบแต่กลับรั้งเขามาจูบอีกครั้ง จากนั้นบทรักจึงได้เริ่มต้นสะโพกแกร่งเคลื่อนไหวอัดแท่งร้อนเข้าออกทางรัก เข้าสุด ออกสุด ทำเอาเธอเสียวซ่านยิ่งกว่าเดิม แต่ขยับตามไม่ได้ด้วยว่าเขาจับขาข้างหนึ่งยกไว้ แท่งร้อนสอดแหย่กระแทกกระทั้น เข้าออกครั้งแล้วครั้งเล่า
“เร็วๆ อยากแช่น้ำเย็นๆ แล้วร้อนมาก” ตฤณบอกขณะที่ปั้นหยาเปิดน้ำตีฟองใส่อ่างจากุชชี่ให้ ขณะเดียวกันเขาก็เปิดหน้าต่างรับลมเย็นๆ จากด้านนอก เรียกว่าแช่น้ำไปด้วย ชมทุ่งข้าวไปด้วย“รอหน่อยสิคะ อ่างตั้งใหญ่กว่าน้ำจะเต็ม” เธอบอก โดยที่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าไว้รอแล้ว ใส่แค่เสื้อคลุมเท่านั้น ทว่าน้ำได้เพียงครึ่งอ่างเขาก็ถอดเสื้อคลุมออกแล้วก้าวลงไปแช่ทันที“อุ้ย นี่ยังไม่เสร็จเลยค่ะ”“แช่ไปด้วย เปิดน้ำไปด้วยไง ผมอยากแช่อยากผ่อนคลาย แล้วก็อยากได้คนนวดหลัง ทั้งเครียดทั้งเหนื่อยมาหลายวันติดต่อกัน ไม่มีเวลาอ้อนคุณเลย”“อยากอ้อนก็ไม่บอก” ปั้นหยาว่าก่อนจะก้าวลงไปในอ่าง อ้อมไปทางด้านหลังของเขา แล้วนั่งตรงขอบเพื่อให้เขานั่งตรงหวางขาพอดี จะได้นวดถนัด จากนั้นก็เริ่มนวดตรงหัวไหล่ ต้นคอ แล้วกลับมาแขนสลับกันไปมาให้เขาได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกลิ่นน้ำมันหอมระเหยคละคลุ้งทั่วไปทั้งห้อง เขาหลับตาพิงเธออย่างผ่อนคลาย“หยารู้สึกอะไรไหม ตั้งแต่เกิดเรื่อง เราไม่ได้ใกล้กันแบบ
“แม่เจ้าซันด์ รถคว่ำตกทางด่วน เพราะกำลังมาที่นี่ ตายคาที่พร้อมกับเลขา” ชาติชายพูดด้วยน้ำเสียงเหม่อลอย น้ำตาไหล ทว่าตฤณกลับช็อกพอๆ กัน ตฤณไม่ได้อยากให้เกิดโศกนาฏกรรมแบบนี้ แต่มันเรียกว่ากรรมหรือเปล่า“เพราะมึง! เพราะมึงไอ้ตฤณ! ไอ้ชาติชั่ว! เพราะมึงที่ทำให้มันเป็นแบบนี้” ชาติชายหันไปกล่าวหาตฤณ พร้อมกับพุ่งตัวเข้าไปจะทำร้าย แต่ถูกตำรวจสกัดเอาไว้ก่อน“หยุด! คุณชาติ หยุด! ไม่งั้นคุณจะมีความผิดไปมากกว่านี้”“มีความผิดเหรอ ไหนๆ กูก็ไม่เหลืออะไรแล้ว เมียกูตายเพราะมึงไอ้ตฤณ ทุกอย่างเพราะมึง” ชาติชายตะคอกลั่นโรงพยาบาล ด้วยความคุ้มคลั่งเสียใจและช็อกอย่างหนัก พยายามปรี่เข้าไปทำร้ายร่างกายตฤณ แต่ถูกตำรวจและบอร์ดี้การ์ดกันเอาไว้เสียก่อน ชาติชายอาศัยช่วงชุลมุนกระชากปืนจากตำรวจแล้วเล็งไปที่ตฤณ ทว่าวินาทีเดียวกันนั้นตฤณก็เอาปืนพกออกมาเล็งกลับไปอย่างรวดเร็ว เพราะเขาเตรียมพร้อมเสมอ ยิ่งอยู่กับศัตรูยิ่งไว้ใจไม่ได้ไม่“ใจเย็นๆ ทุกคนใจเย็น” ตำรวจร้องห้าม พร้อมเปิดทางออก
“ก็เหมือนกับที่เขาชอบซุบซิบกันสไตล์สองพ่อลูกนั่นแหละครับ บังเอิญผมได้ยิน แต่ไม่ทันซะละ อีกอย่างผมจะบอกใครได้ ใครจะเชื่อเพราะผมมันเด็ก แต่เผื่อคุณชาติจะไม่ทราบว่าคนขับรถที่ตายพร้อมกับท่านประธานคนก่อนน่ะ คือพ่อผม แต่คุณพูดวันนี้ก็ดี ตำรวจจะได้รู้ความจริง”“ไอ้ก้อง ไอ้เด็กเวร มึง! กูจะเอามึงให้ตายตามพ่อมึงไป” ด้วยความเดือดดาลโกรธ กลัว ไร้สติจนหลุดปากออกมาหมด ตำรวจก็รวบรวมไว้ทั้งหมดเหมือนกัน“เอาล่ะๆ ถกกันพอแล้ว เรื่องเมื่อเจ็ดปีก่อนตำรวจชุดใหม่จะจัดการต่อ รับรองว่าท่านที่เสียชีวิตไป จะได้ตายตาหลับเสียที ส่วนคดีที่เกิดขึ้นปัจจุบันลูกชายคุณเป็นคนทำทั้งหมด หลักฐานพยานมัดตัวเขาไว้หมดรวมทั้งผู้สมรู้ร่วมคิด”“คดีนี้ปิดง่ายดีนี่คุณตำรวจ” ตฤณประชดเบาๆ“ครับ ยังเหลือแต่คุณชาติชาย จะบอกเราได้ไหมว่าสมรู้ร่วมคิดเรื่องอุ้มคุณตฤณกับคนอื่นๆ หรือเปล่า หรือคุณไม่รู้เรื่อง”เอาแล้วสิเจอคำถามยาก ครั้นจะบอกว่าไม่รู้เรื่องก็จะเป็นการทิ้งลูกชาย แ