"ใช่ไง เซิงเซิง ตระกูลเจิ้งนั้นไม่เลวเลยในเมืองจินเฉิง หากเธอแต่งงานเข้าไป เธอก็จะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายนะ"วังเยี่ยนและผู้เฒ่าเจียงพูดออกมาเป็นปี่เป็นขลุ่ย ราวกับว่าพวกเธอปรารถนาที่จะให้เจียงเซิงแต่งงานในตอนนี้เลยเจียงเซิงหัวเราะเยาะเบาๆ "ฉันมีลูกด้วยซ้ำ ทำไม ตระกูลเจิ้งถึงอยากได้ลูกสะใภ้ที่มีลูกติดด้วยงั้นเหรอ?"เมื่อได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของวังเยี่ยนและคุณนายเจิ้งต่างก็เปลี่ยนไป ผู้เฒ่าเจียงรีบพูดแก้ตัวว่า "เซิงเซิง เธอกำลังพูดอะไรเนี่ย? เธอมีลูกที่ไหนกัน""ฉันจะมีลูกหรือไม่นั้น คุณไปถามพ่อฉันก็รู้แล้วนี่?"เจียงเซิงกอดอกและเอนหลังเล็กน้อย "พ่อของเด็กยังเป็นท่านเจ๋วด้วย ตระกูลเจิ้งในเมืองจินเฉิงจะดียังไง มันจะเทียบกับท่านเจ๋วได้หรือไง?"คุณนายเจิ้งมีสีหน้าบึ้งตึงและมองไปที่พวกวังเยี่ยน "พวกคุณกำลังหลอกลวงฉันและลูกชายของฉันงั้นเหรอ?""คุณนายเจิ้ง อย่าโกรธเลย" วังเยี่ยนพยายามปลอบใจเธอ ก่อนมองไปที่เจียงเซิง "เซิงเซิง หยุดจงใจก่อเรื่องแล้ว หากเธอมีลูก ทำไมตระกูลเจียงของเราถึงไม่รู้เรื่องนี้ล่ะ? อย่าหาข้อแก้ตัวแบบนั้นอีกเลย"ถึงยังไงแม่สามีของเธอบอกว่า เจียงเซิงได้เกาะแกะท่านเจ๋วแห่
ของเล่นเก่าๆ ที่ผู้ชายคนอื่นทอดทิ้งนั้น ยังหวังจะพาลูกเข้ามาก้วยเหรอ?ที่เป็นไปไม่ได้แต่เมื่อเห็นว่าลูกชายของเธอชอบอีกฝ่าย เธอก็ฝืนใจให้ตัวเองยอมรับความจริงที่ว่าเธอมีลูกแล้วแต่หลังจากแต่งงานแล้ว เธอก็ยังต้องรับใช้แม่สามีอย่างเธอ"โอ้ งั้นแปลว่าพวกคุณอยากให้ฉันทิ้งลูกของฉันไปเหรอ?" เจียงเซิงยิ้ม"เซิงเซิง ขนาดตระกูลเจิ้งก็ไม่รังเกียจเรื่องนี้แล้ว เธอยังอยากพาลูกไปด้วย เธอนี่โง่หรือเปล่า?" ผู้เฒ่าเจียงใจร้อนขึ้นมายัยเด็กคนนี้ยังอยากจะทำลายการแต่งงานครั้งนี้เหรอ?อย่าปม้แต่จะคิดเลยเธอรีบมองไปที่วังเยี่ยนวังเยี่ยนเข้าใจดีว่าเธอกำลังต้องการสื่ออะไร ถึงยังไงต่อให้วันนี้ต้องใช้กำลังก็ตาม พวกเขาต้องให้สองคนนี้มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อกินข้าวไปถึงครึ่งทาง คนเหล่านั้นพูดคุยหันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเกือบเป็นทีมถ่ายทำได้แล้ว เจิ้งโหยวจินแอบมองเจียงเซิงเป็นครั้งคราว ยิ่งมองผู้หญิงคนนี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกเร่าร้อนมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งทำให้เขารู้สึกตัวเองปากคอแห้งไปหมดเจียงเซิงเพิกเฉยต่อสายตาที่เร่าร้อน และกินอาหารในชามของเธอต่ออย่างสง่างามเธอจะไม่แตะต้องเครื่องดื่มที่คนอื่นเทให้เธอ และเ
ขณะที่เจียงหลินหันหลังจะเตรียมตัวจากไปนั้น เจียงเซิงก็ลืมตาขึ้นมาก่อนลุกขึ้นยืน เดินไปข้างหน้าและใช้เครื่องทำให้เธอช็อกจนหมดสติลงไปที่พื้นเมื่อเห็นเจียงหลินนอนหมดสติอยู่บนพื้น เจียงเซิงก็ลากเธอไปที่โซฟาในห้องส่วนตัวเล็กๆ"เหอะ พวกเธอกล้าวางแผนทำร้ายฉัน ก็อย่ามาโทษฉันก้แล้วกันเลย"โชคดีที่เธอเตรียมตัวมาอย่างดี และไปร้านขายยาซื้อยาพิเศษที่สามารถป้องกันการยาแฝดได้เธอได้กินยานั้นไปแล้วระหว่างทาง และยาจะมีผลภายในสี่ชั่วโมงเครื่องดื่มที่วางอยู่ตรงหน้าเธอนั้นมันยังไม่ได้ถูกเปิดออกก็จริง แต่น่าเสียดายที่เธอสังเกตเห็นรูเข็มที่เล็กมากจนยากต่อการตรวจจับถัดจากช่องฝาเธอปิดม่านห้องส่วนตัวแล้วปรับไฟให้หรี่ลงทันที เธอสังได้ยินเสียงประตูที่กำลังถูกเปิดออกจากด้านนอก จึงรีบซ่อนตัวอยู่หลังโซฟาตะโกนเบาๆ "อย่าเปิดไฟ"เมื่อเจิ้งโหยวจินได้ยินเสียงของเธอ มือที่เขากำลังยื่นไปเปิดไฟนั้นก็ดึงกลับมาทันทีพลางยิ้ม "ฉันรู้ ฉันรู้ มันน่าตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?"เจียงเซิงระงับอาการคลื่นไส้ของเธอและยิ้ม "คุณชายเจิ้ง ฉันกำลังรอคุณอยู่บนโซฟาข้างในนะ มาเร็วๆ ฉัน... ฉันจะเป็นลมแล้ว""เอาล่ะ โอเค ไม่ต้องรีบร้
"นี่... รู้ทั้งรู้ว่านี่คือเจียงเซิง ทำไมกลายเป็น..." ผู้เฒ่าเจียงเซไป นังเจียงเซิงนั่นไม่ได้ถูกวางยาหรอกเหรอ?เจียงเซิงเดินเข้ามาช้าๆ เอ่ยปากช้าๆ และโต้ตอบ "อ้าว! ทำไมเป็นแบบนี้?""เจียงเซิง เป็นเธอใช่ไหม นังตัวดีทำร้ายลูกสาวของฉัน" วังเยี่ยนก้าวไปข้างหน้าเพื่อโจมตีเจียงเซิง แต่เจียงเซิงก็หลบเลี่ยงได้เจียงเซิงซ่อนตัวอยู่ข้างๆ คุณนายเจิ้งอย่างว่องไว "คุณไม่สามารถตำหนิฉันได้ เมื่อเจียงหลินมาส่งฉัน เธอบอกว่าเธอชื่นชมคุณชายเจิ้งมาเป็นเวลานาน และทุบตีให้ฉันสลบไป เมื่อฉันตื่นขึ้นมาฉันก็อยู่อีกห้องหนึ่งแล้ว""เธอพูดไร้สาระ ทั้งๆ ที่เธอ…"คนที่หมดสติบนเตียงค่อยๆ ลืมตาขึ้น และตื่นขึ้นมา แต่เมื่อเธอเห็นคนจำนวนมากยืนอยู่ในห้อง และร่างกายของเธอก็ปวดเมื่อย เย็นชา เธอก็ก้มศีรษะลงเมื่อเห็นว่าตัวเองไม่ได้สวมเสื้อผ้า ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที รีบหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาคลุมตัว "ฉัน ...ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง..."เมื่อเห็นเจียงเซิง และเจิ้งโหยวจินที่เปลือยเปล่าอยู่ข้างๆ เธอ เธอก็เหมือนเข้าใจอะไรได้ และร้องออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ "เจียงเซิง แกมันนังตัวดี แกทำร้ายฉัน!"เจียงเซิงแสดงท่าทางไร้เดียงสา "
"คุณนายเจิ้ง นี่มันไม่ได้นะ…""ทำไม ตระกูลเจียงอย่างพวกเธอกล้ารังเกียจลูกชายของฉันหรือไง" คุณนายเจิ้งเหลือบมองไปที่วังเยี่ยน ซึ่งใบหน้าของวังเยี่ยนเต็มไปด้วยความสิ้นหวังในขณะนี้"ใช่ไง คุณป้า มันเป็นพรของหลินหลินที่เธอสามารถแต่งงานเข้าตระกูลเจิ้งได้ น่าเสียดายที่ฉันมีโชคไม่ถึงน่ะ" เจียงเซิงปิดริมฝีปากของเธอลงครึ่งหนึ่ง มีรอยยิ้มที่ชัดเจนฉายแววในดวงตาของเธอผู้เฒ่าเจียงเกือบทรุดตัวลงกับพื้น แผนการทั้งหมดของเธอถูกทำลายไปหมด และเจียงหลินถึงกับสูญเสียความบริสุทธิ์ของเธอไปด้วยวังเยี่ยนก็เช่นกัน เดิมทีเธออยากเก็บเจียงหลินไว้เพื่อแต่งงานกับชายที่ร่ำรวยและมีอำนาจในเมืองหลวง แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า เธอถูกเจิ้งโหยวจินไอ้สารเลวคนนี้เอาเปรียบไปเลยจะว่าไป ทั้งหมดก็เพราะเจียงเซิงวังเยี่ยนมองไปที่เจียงเซิงด้วยความเกลียดชังในดวงตาของเธอเจียงเซิงก็สังเกตเห็นเช่นกัน แต่วังเยี่ยนไม่ใช่คนเดียวที่เกลียดเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่สนใจเธอแค่ใช้วิธีเดียวกับที่พวกเธอใช้กับเธอเพื่อเอาคืนเธอก็เท่านั้น!**ในห้องประชุมอันเคร่งขรึม จู่ๆ หลัวเชว่ก็เปิดประตูออก และทำให้ผู้บริหารระดับสูงโผล่หัวออกมาดวงตาของซือ
ซือเย่เจ๋วมาได้ยังไง?เจิ้งโหยวจินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ "นาย... นายเป็นใคร?""พ่อของลูกเธอ ทำไม?"ดวงตาของซือเย่เจ๋วจ้องมองเขาอย่างเย็นชา ด้วยไอ้สารเลวคนนี้มันคู่ควรพอที่จะแย่งชิงคนของเขางั้นเหรอ?เจิ้งโหยวจินอ้าปากแต่ไม่ได้พูดอะไร อาจเป็นเพราะเขาตกใจกับออร่าเย็นที่แผ่ออกมาจากร่างของชายคนนั้นเจียงเซิงโน้มตัวเข้าไปในอ้อมแขนของซือเย่เจ๋ว และเอื้อมมือไปกอดคอของเขา "ที่รัก ทำไมคุณถึงเพิ่งมา"ความโกรธที่ซ่อนอยู่ในดวงตาของซือเย่เจ๋ว เมื่อได้ยินเธอเรียกเขาว่า "ที่รัก" ทั้งยังโยนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของเขาและทำตัวอ่อนโยน แม้แต่ความคิดที่เขาต้องการถามจี้กับผู้หญิงคนนี้ไปแตะต้องผู้ชายคนอื่นเลยทำให้เขาไม่พอใจนั้นก็จางหายไปโดยสิ้นเชิงซือเย่เจ๋วสอดแขนโอบรอบเอวของเธอแล้วยกคางขึ้น "ถ้าผมไม่มา ผมจะรู้ได้อย่างไรว่ายังมีคนอืนคิดอะไรไม่ดีกับผู้หญิงของผมอยู่"ทันใดนั้นหน้าผากของเจียงเซิงก็กระโดดขึ้นเธอกัดฟันและยิ้มให้ความร่วมมือ "งั้นพาฉันกลับบ้านเถอะ"กลับบ้านมุมปากของซือเย่เจ๋วยกขึ้นเล็กน้อยคำว่า "พาเธอกลับบ้าน" ออกมาจากปากของผู้หญิงคนนี้ซึ่งค่อนข้างดี"เซิงเ
เหตุการณ์นี้ก็ทำให้เป็นข่าวด้วยเมื่อเห็นว่าลูกชายคนโตของเธอถูกจับกุมและธุรกิจที่อยู่ในเมืองจินเฉิงก็ถูกส่งผลกระทบจนเกือบจะล้มละลาย ผู้เฒ่าเจียงก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขอความช่วยเหลือจากเจียงเซิ่น ลูกชายอีกคนของเธอ"ลูกเอ๊ย ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นพี่ชายใหญ่ของนายด้วยนะ ตอนนี้พี่ชายใหญ่ของนายถูกจับแล้ว และมีนายเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาได้!"เจียงเซิ่นรู้สึกรำคาญเล็กน้อยเมื่อเห็นแม่ของเขาร้องห่มร้องไห้ไม่หยุด "แม้แต่เรื่องการฟอกเงินก็ถูกค้นพบ จะให้ผมช่วยได้อย่างไร""ผมเคยบอกพี่ใหญ่ไปแล้วว่าอย่าแตะต้องเรื่องเหล่านั้นอีก เคยเชื่อฟังผมบ้างไหม เมื่อถูกจับได้แล้ว คุณก็ให้ผมไปช่วย ฉันมีความสามารถอะไรไปช่วยได้ล่ะ"เจียงเซิ่นทำอะไรไม่ได้จริงๆตอนแรกที่เขามาเมืองหลวงเริ่มต้นธุรกิจ เป็นเพราะเขาต้องการแยกออกจากครอบครัว และเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง ถึงยังไงในสายตาของแม่ พี่ชายใหญ่ของเขามักจะสำคัญกว่าเขาเสมอแต่สิ่งที่พี่ชายใหญ่ของเขาทำในเมืองจินเฉิง เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร?ผู้เฒ่าเจียงเหม่อมอง นึกอะไรได้ และพูดว่า "เซิงเซิงอยู่กับท่านเจ๋วไม่ใช่หรือ? ตราบใดที่นายไปพูดกับเซิงเซิง และขอให้ท่านเจ๋วออก
เธอเม้มริมฝีปากแล้วกล่าวเสริม "แค่ชาวยปล่อยเจียงยี่ออกมาก็พอ สำหรับบริษัทการท่องเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนของพวกเขาจะเป็นยังไง มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย"เธอสามารถช่วยลุงของเธอออกมาได้ แต่เธอก็ไม่ลืมสิ่งที่วังเยี่ยนและผู้เฒ่าเจียงทำกับเธอเธอแค่เห็นแก่พ่อของเธอช่วยคนออกจากสถานีตำรวจเท่านั้น ส่วนเรื่องแื่นเธอจะไม่ยุ่งด้วยแน่นอนว่า หากพวกเขายังไม่รู้จับผิดชอบชั่วดี งั้นก็ค่อยว่ากันแล้วแหละซือเย่เจ๋วยืนขึ้นและเดินไปหาเธอ เอนตัวไปด้านหน้าโต๊ะเล็กน้อยแล้วมองดูเธอ "นำตัวคนออกมาก็ได้ แต่ว่า..."เขายื่นมือออกไปจับเธอไว้ในอ้อมแขน "คุณจะให้ผลประโยชน์อะไรแก่ผมบ้างล่ะ"เจียงเซิงหายใจเข้าลึกๆ และเธอรู้ดีว่าชายคนนี้จะต้องได้คืบจะเอาศอกอย่างแน่นอน!ขนตาของเจียงเซิงลดลงเล็กน้อย ไหนๆ ก็จะจูบแล้ว จะจูบกี่ครั้งมันก็เหมือนกันหมดแหละเป็นเรื่องยากเลยที่เธอเป็นฝ่ายเริ่ม แต่จู่ๆ เขาก็ยกนิ้วชี้ขึ้นและทับไว้ที่หน้าริมฝีปากของเธอ ดวงตาของเขาราวกับกำลังมีไฟเผาอยู่อย่างไรอย่างนั้น "อย่าใช้แค่นี้มาจัดการผม"เจียงเซิงตบมือของเขาออกไป "งั้นคุณต้องการอะไร?""ผมต้องการคุณ" เขาตอบโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าแก้มของเจียงเซ
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ