"อาเอาต้นฉบับทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะไปเลย""ยังให้อีกเหรอ?""ใช่" เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นมอง "หลังจากได้ผลประโยชน์แล้ว ก็ย่อมมีความโลภ เพื่อให้ความโลภของเธอทะเยอทะยานมากขึ้น เธอจะต้องสนองความต้องการของเธอ"แฟรงค์ทำตามคำสั่งของเจียงเซิง และมอบต้นฉบับไปให้เฟรดหมดอย่างลับๆหลังจากที่เฟรดได้รับต้นฉบับแล้ว เขาก็ไปที่ไวน์เนอร์เพื่อยื่นมันให้ เจียงเวยพอมีต้นฉบับเหล่านี้ เจียงเวยจะไม่ดีใจได้อย่างไร เพราะไวน์เนอร์ในตอนนี้ต้องอาศัยกับการออกแบบเหล่านี้ดำเนินกิจการและผลงานเหล่านี้ หากเป็นของเธอ...เมื่อคิดว่าเฟรดเต็มใจที่จะเป็นนักออกแบบแทนเธอ เจียงเวยก็ตื่นเต้นมากเธอยังโพสต์ผลงานทั้งหมดนี้บนเฟซบุ๊กในนามของเธอด้วยเป็นอย่างที่คิดจริงๆ เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็มีการคลิกดูนับหมื่นครั้งเจียงเซิงเห็นเฟซบุ๊กที่เจียงเวยโพสต์จึงยื่นโทรศัพท์ให้แฟรงค์ "เราช่วยทุ่มเงินให้เธอติดเทรนฮิต และสร้างกระแสให้เธอเถอะ"**#ดีไซเนอร์ของไวน์เนอร์##เจียงเวย เครื่องประดับ#เพียงชั่วข้ามคืน เจียงเวยก็กลายเป็นคนดังส่วนคอมเมนต์ต่างๆ เต็มไปด้วยคำชมเชยสำหรับเธอ และสำหรับ เจียงเวยแล้ว ทุกอย่างนี้ดูเหมือนเป็นความฝ
อาจเป็นเพราะตอนนี้เธอโด่งดังมากจนได้รับเชิญให้เป็นข้อยกเว้นก็ได้!ไม่ว่ายังไงมันถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ลูกสาวของเธอได้เข้าร่วมงานอย่างนั้น!เจียงเซิ่นลุกขึ้นอย่างเงียบๆ และขึ้นไปชั้นบนบรรยากาศถึงสงบลงเล็กน้อยเซียวหลานยิ้ม "แม่จะขึ้นไปดูพ่อของลูกสักหน่อย"เซียวหลานเดินตามเขาไปที่ห้อง เมื่อเห็นสีหน้าของเจียงเซิ่นไม่ดีนัก เธอจึงก้าวไปข้างหน้าและจับแขนของเขาไว้ "ที่รัก คุณเป็นอะไรไป?"เจียงเซิ่นสะบัดมือของเธอออก "ในฐานะแม่ คุณปล่อยให้ลูกสาวของคุณเป็นแบบนี้ไปเหรอ?"เซียวหลานที่ถูกดุอย่างสับสน "เวยเวยเป็นอะไรไป?""เครื่องประดับพวกนั้นไม่ใช่ออกแบบโดยมือของเธอมั้ง คุณสามารถหลอกคนอื่นและแม่ได้ แต่หลอกผมไม่ได้"เจียงเซิ่นรู้จักลูกสาวอย่างเจียงเวยเป็นอย่างดีหากบอกว่าการออกแบบเครื่องประดับเหล่านั้นเป็นผลงานของเจียงเซิง เขายีงเชื่อได้ เพราะเธอมีควาสามารถจริงแต่ถเาบอกว่าเป็นเจียงเวย เขาไม่สามารถโน้มน้าวตัวเองให้เชื่อได้เซียวหลานก้าวไปข้างหน้าและกอดเขา "ที่รัก คุณเข้าใจเวยเวยผิดแล้วนะ เวยเวยมักจะศึกษาการออกแบบเครื่องประดับอยู่ตลอด แต่เธอแค่ไม่ได้บอกคุณเท่านั้น"เจียงเซิ่นนิ่งเงีย
เจียงเซิงอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยออกมา "นี่เจียงเวยไม่แต่งสไตล์แบบบริสุทธิ์แล้วเหรอ?"เปลี่ยนสไตล์เซ็กซี่แทนแล้วเหรอ?เมื่อเจียงเวยเห็นเจียงเซิงเข้า สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยทำไมนังตัวนี้ถึงอยู่ที่นี่ด้วย?หึ เธออยู่ที่นี่ก็พอดีเลย"เฮอะ ขนาดเธอก็ถูกเชิญมาด้วยเหรอ?" เจียงเวยเริ่มเดินไปหาเธอ"ใช่ แต่ฉันแปลกใจที่คุณได้รับเชิญมากกว่า"เจียงเซิงแสร้งทำเป็นประหลาดใจเธอคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอได้รับคำเชิญนั้นมาอย่างไรมั้ง?เจียงเวยยิ้มอย่างได้ใจ "อาจเป็นเพราะฉันมีชื่อเสียงแล้วมั้ง เจียงเซิง ฉันจะเข้าสู่อุตสาหกรรมเครื่องประดับแฟชั่นแล้วนะ""อ้าว จริงเหรอ?" เจียงเซิงดูใจเย็นมาก "ทำงานในวงการเครื่องประดับแฟชั่นนั้นไม่ง่ายเลยนะ หากทำงานไม่ดีขึ้นมา งั้นก็ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงได้นะ"เจียงเวยกัดฟัน "ฮึ ฉันว่าเธอกลัวแล้วสินะ? ก็จริง เธอออกจากไวน์เนอร์มานานขนาดนี้แล้ว และบริษัทจิวเวลรี่แห่งใหม่ยังไม่ได้สร้างกระแสอะไรเลย แต่ตอนนี้ไวน์เนอร์กำลังเจริญรุ่งเรืองอยู่นะ""เจียงเซิง อย่าคิดว่าเธอจะได้รับการสนับสนุนจากเย่เจ๋ว อีกหน่อยถ้าฉันเป็นนักออกแบบเครื่องประดับแล้ว เมื่อฉันเอาชนะเธอไป ฉั
"ตอนนี้คนหนุ่มสาวจำนวนมากไม่รู้จักชื่อเสียงของเขา จึงเป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจ"จะว่าไป ทั้งหมดนี้แม่ของเธอเล่าไว้ตั้งแต่เธอยังเด็กมาก แม่ของเธอเลือกเส้นทางการออกแบบเครื่องประดับเพราะเธอชอบผลงานของดิล่าเหตุผลที่เธอต้องการผสมผสานการออกแบบแบบสไตล์โกธิคก็เพียงเพื่อพิสูจน์ว่าเครื่องประดับสไตล์สีเข้มเหมือนกับเครื่องประดับสไตล์เรโทรต่างก็มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ในตัวเองเจียงเวยกัดริมฝีปากของเธอให้ตายเถอะ นังเจียงเซิงพูดถึงคนตายอะไรกับเธอ เห็นได้ชัดว่าเธออิจฉาที่งานออกแบบของเธอโด่งดัง!"ใช่เลย เพราะคุณดิล่าเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย และฉันเพิ่งมาแวดวงนี้ เป็นเรื่องปกติที่ฉันจะนึกไม่ออกนะ"เจียงเวยแสร้งทำหน้าเสียใจเจียงเซิงเลิกคิ้ว "นี่แปลกจริงนะ ถ้าแม้แต่คุณดิล่าก็ไม่รู้จัก แล้วคุณได้แรงบันดาลใจในการออกแบบสไตล์โกธิคของคุณมาจากไหนล่ะ"ใบหน้าของเจียงเวยค่อยๆ แข็งทื่อผู้คนรอบตัวเธอดูเหมือนจะถูกดึงดูดความสนใจด้วยคำพูดของเธอด้วย และอยากฟังเจียงเวยอธิบายสักหน่อยผู้ดีทั้งสองก็มองไปที่เจียงเวยเช่นกันมือที่ห้อยอยู่กลางอากาศของเจียงเวยอดไม่ได้ที่จะกำแน่น เธออยากจะฉีกปากของเจียงเซิงออกเป็นช
จะว่าไป เธอเป็นแค่ผู้ดีที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงคนหนึ่ง เธอมีสิทธิ์ใดมายุ่งอะไรหนักหนา?เสิ่นหมิงจูมองไปยังผู้คนที่กระซิบรอบตัวเธอและตระหนักถึงบางสิ่งได้เธอกอดอก "คุณเป็นลูกสาวจากตระกูลอะไรล่ะ"เจียงเซิงยักไหล่และไม่พูดอะไรดูเหมือนเจียงเวยอยากจะอวด เลยเดินเข้าไปหาเธอแล้วพูดว่า "เรามาจากตระกูลเจียงค่ะ และเธอก็เป็นน้องสาวของฉัน"อย่างน้อยตระกูลเจียงของเธอก็เป็นตระกูลมีชื่อเสียงเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงมั่นใจเจียงเซิงแตะหน้าผากของเธอ ถึงตระกูลเจียงมีเงิน แต่ไม่แม้แต่เข้าระดับตระกูลชนชั้นสูงเลย เธอนี่สุดยอกจริงๆ กลับกล้าบอกอย่างมั่นอกมั่นใจอย่างนั้น"ตระกูลเจียง?"เสิ่นหมิงจูส่งเสียงไม่แยแส "ตระกูลเจียงไหน ทำไมฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนล่ะ"แย่แล้ว เจียงเวยขายขี้หน้าแล้วดูเหมือนพอจะมีคนรู้จักและกระซิบว่า "ตระกูลเจียง คงเป็นตระกูลเจียงที่เป็นเจ้าของของไวน์เนอร์ จิวเวลรี่นั้นมั้ง"หลังจากได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหมิงจูก็ปิดปากหัวเราะออกมา "ไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ ก็คือบริษัทจิวเวลรี่เล็กๆ นั่นเหรอ? เมื่อเทียบกับดวงใจจิวเวลรี่ กรุ๊ปของเราแล้ว มันเทียบไม่ได้เลย"เจียงเวยก้มศีรษะลงและกัดร
"ปัง!"มีเสียงดังขึ้น สภาพยุ่งเหยิงไปหมด"เซิงเซิง!"แฟรงค์ตกใจมากจนรีบไปช่วยพยุงเธอ แต่หลังจากที่เธอล้มลงไปกับพื้นนั้น เธอก็ทำขวดไวน์และแก้วบนโต๊ะหกด้วย ชุดราตรีสีขาวของเธอไม่เพียงแต่ย้อมสีแดงเท่านั้นแม้แต่แขนของเธอก็โดนกระจกแทงเข้าเนื้อการสนทนาและข้อกล่าวหาทั้งหมดมุ่งเป้าไปที่เสิ่นหมิงจูเสิ่นหมิงจูตัวแข็งอยู่กับที่ ใบหน้าของเธอซีดเล็กน้อย "ไม่... ไม่ใช่ฉัน... ฉันไม่ได้อยากผลักเธอล้มลง"เธอไม่ได้ออกแรงใดๆ เลยจริงๆ!"เซิงเซิง เธอได้รับบาดเจ็บแล้ว?" แฟรงค์รู้สึกกังวลใจมากเมื่อเห็นแขนของเธอมีรอยขีดข่วนเจียงเวยยืนอยู่กับที่และมองดูด้วยสีหน้าได้ใจแม้ว่าเธอจะไม่ล้มตาย แต่เธอก่อวุ่นวายอย่างนี้คงถูกไล่ออกไปแน่ๆ มั้ง?"ฉันๆม่เป็นไร คุณอาแฟรงค์" เจียงเซิงลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ โดยไม่สนใจตัวเองอยู่ในสภาพไม่น่ามอง และมองดูเสิ่นหมิงจูที่หน้าซีดด้วยสีหน้าสงบ"คุณหนูเสิ่น เดิมทีฉันอยากจะเตือนคุณด้วยความหวังดี แต่ในเมื่อคุณเลือกที่จะทำเช่นนี้ มันทำให้ฉันประทับใจดวงใจจิวเวลรี่ กรุ๊ปแย่มากจริงๆ""ฉัน...คุณจงใจ!" เสิ่นหมิงจูตระหนักถึงบางอย่าง และชี้ไปที่เธอ "ฉันแค่ผลักคุณเบาๆ นี่เอง แล้วคุณ
เมื่อเจียงเวยเห็นซือเย่เจ๋วเดินเข้ามาใกล้นั้น เธอก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมา"เย่..." แต่ในขณะที่เธอเปิดปาก ซือเย่เจ๋วก็เดินผ่านเธอไปราวกับว่าเธอไม่มีตัวตนภายใต้ความสนใจของทุกคน เขามาถึงข้างกายเจียงเซิงเสิ่นหมิงจูตกตะลึงทำไมเป็นท่านเจ๋ว?เป็นไปได้ยังไง!"ท่าน... ท่านเจ๋ว คุณมีความสัมพันธ์อะไรกับผู้หญิงคนนี้เหรอ? ทำไมคุณได้..."ซือเย่เจ๋วเหลือบมองไปด้านข้างและมองเธออย่างเย็นชา "ดูเหมือนว่าคุณหนูเสิ่นจะไม่ต้องการที่จะอยู่ในแวดวงนี้อีกแล้วนะ แม้แต่ผู้หญิงของผมก็กล้าลงมือด้วย?"ผู้หญิงของท่านเจ๋ว!ทุกคนตกใจมากเพราะไม่ว่ายังไงท่านเจ๋วไม่เคยประกาศต่อสาธารณะว่าผู้หญิงของเขาคือใคร และวันนี้ เขายกลับอมรับว่าเขามีผู้หญิงแล้ว!มีกุลสตรีจำนวนมากใจแตกสลายไปหมดเลยเลือดบนใบหน้าของเจียงเวยค่อยๆ จางลง และเล็บของเธอก็เกือบจะจิกเข้าไปในฝ่ามือของเธอ เธอจ้องมองที่เจียงเซิงอย่างเกลียดชังทำไม?ทำไมเจียงเซิงถึงมีเสน่ห์ขนาดนี้!ทำให้เย่เจ๋วยอมรับว่าเธอเป็นผู้หญิงของเขาในที่สาธารณะ!เธออยู่กับเย่เจ๋วมาหกปีแล้ว และเขาไม่เคยเปิดเผยเธอแบบนี้ในที่สาธารณะมาก่อนเธอไม่ยอมหรอกนะ!"ท่านเจ๋ว ผมขอโทษ
เขายื่นมือออกไปจับบนหลังคอของเธอแล้วดึงเธอไปเข้าหาเขา จูบริมฝีปากของเธออย่างดุเดือดราวกับกำลังลงโทษเธอ"อืม... ซือเย่เจ๋ว คุณปล่อยฉันไป..." เจียงเซิงที่เพิ่งหายใจใด้ถี่ก็ถูกเขาจูบอีกครั้ง และคราวนี้เขาก็เอาร่างของตัวเองแนบทับกับเธอโดยตรงเธอถูกเขาจูบจนสมองว่างเปล่าลมหายใจอย่างหนักของชายคนนั้นโอบรัดเธอแน่น และมือของเธอที่ดันอยู่บนหน้าอกของเขาทำได้แค่กระชับคอเสื้อของเขาเท่านั้น"เจ็บนะ คุณกำลังโดน…" แขนของเจียงเซิงถูกทับไว้ และเธอก็ตะโกนอย่างเบาๆ ด้วยความเจ็บปวดซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนเล็กน้อยและพยายามไม่ไปแตะแขนเธอ เขากัดริมฝีปากของเธอแล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบา "คราวหน้าคุณยังกล้าทำให้ตัวเองเจ็บอีกหรือเปล่าฮะ?"เจียงเซิงไม่ตอบมือที่ซือเย่เจ๋วจับเอวของเธอนั้นเลื่อนขึ้นลงเล็กน้อยทันใดนั้นเธอก็ตัวสั่นไปทั้งตัว และจับฝ่ามือที่ร้อนผ่าวของเขาไว้ไม่ให้ขยับอีก "ฉัน...ฉันผิดแล้ว ฉันรู้ว่าฉันผิดแล้วนะ!"ซือเย่เจ๋วเห็นว่าเธอยอมอ่อนข้อให้ จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งและพูดเบาๆ ว่า "ถ้ามีครั้งที่สองอีก ผมจะไม่ปล่อยคุณไปแน่ๆ""ได้เลย ฉันจะไม่ยอมให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บในครั้งต่อไป" เจียงเซิง พย
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ