ดังนั้น เจียงเซิงจึงได้รู้จักกับเรเวียร์เร็วกว่าเมื่อหกปีก่อนขณะที่เขากำลังคิดอะไรบางอย่าง เขาก็เห็นร่างที่สง่างามค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้นในสายตาของเขาภาพนกกระเรียนบนกี่เพ้านั้นตัดเย็บอย่างดีและสวยงาม เอวถูกรัดแน่นดูบางมากทีเดียว และรูปร่างที่งดงามนั้นทำให้ผู้คนหลงใหลใจกี่เพ้าชุดนี้สวมอยู่บนตัวของเธอ ทำให้เธองดงามราวกับนางฟ้า สวยงามมากจนผู้คนไม่อาจละสายตาไปจากเธอได้ซือเย่เจ๋วจ้องมองเธออย่างไม่ละสายตา ดวงตาของเขาฉายความเร่าร้อนอยู่ผู้หญิงที่มีเสน่ห์ช่างเร้าอารมณ์ผู้คนจริงๆ!เขาอยากจะฉีกความงามของเธอออกเป็นชิ้นๆ และกลืนกินเธออย่างดุเดือดเลยดูเหมือนเธอจะเข้าใจถึงอันตรายในสายตาของชายคนนั้นเจียงเซิงหันหลังกลับและอยากจะวิ่งหนีเธอแค่ยื่นมือออกไปเพื่อเปิดประตูนั้น และมีมือข้างหนึ่งมาใกล้เธอจับประตูเข้า ชายคนนั้นสอดแขนโอบรอบเอวเรียวของเธอแล้วโน้มตัวเข้ามาใกล้ "เซิงเซิง คุณสวยจัง..."เขาก้มศีรษะลงและจูบคอเรียวของเธอ"ซือเย่เจ๋ว อย่าทำแบบนี้..." เจียงเซิงรู้สึกถึงรัศมีอันตรายที่อยู่ข้างหลังเธอซึ่งกำลังแผดเผาเธออยู่ ทั้งๆ ที่เธอยังไม่ได้ทำอะไรเลย!ผู้ชายสารเลวคนนี้เล่นบ้าอะไรอีก?ซื
**เจียงเซิงที่เปลี่ยนเป็นชุดกี่เพ้าและเดินจากห้องรับแขกไปยังห้องจัดเลี้ยงพร้อมกับซือเย่เจ๋วพวกเขาทั้งสองดูสะดุดตามากเมื่อปรากฏตัวในงานเลี้ยงพร้อมกันซือเย่เจ๋วยังคงเป็นซือเย่เจ๋วคนเดิมด้วยสีหน้าสงบและเย็นชา ส่วนเจียงเซิงไม่กล้าที่จะมองซือเย่เจ๋วตรงๆ อีกครั้งหลังจากได้เห็น "ปรากฏการณ์"มาครั้งหนึ่งเธอไม่ได้ทำอะไรเลยอ่า เธออยากจะสูญเสียความทรงจำของเธอจริงๆ!"เซิงเซิง"แฟรงค์เดินไปหาเธอ ความกังวลเผยบนใบหน้าของเขา "อาการบาดเจ็บของเธอเป็นยังไงบ้าง?""ไม่เป็นไร อาการบาดเจ็บแค่เล็กน้อยนี้ได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว" เจียงเซิงยิ้มซือเย่เจ๋วสอดแขนของเขารอบเอวของเธอแล้วยิ้มเบาๆ ให้แฟรงค์ "คุณแฟรงค์ไม่ต้องห่วงนะ มีผมอยู่ ผมจะดูแลเธออย่างดีเอง"เจียงเวยที่ยืนอยู่ในฝูงชนกำแก้วไวน์ในมือไว้แน่น ทุกคนต่างให้ความสนใจไปที่เจียงเซิงและซือเย่เจ๋ว เมื่อฟังคำพูดอิจฉาของผู้คนรอบตัวเธอ เธอก็กัดฟันแ่นอย่างขมขื่นเดิมทีเธอคือคนที่ควรยืนเคียงข้างเขาต่างหากเจียงเซิงไม่ควรกลับมาเลยหรือพูดอีกนัยว่าเธอไม่ควรอยู่ในโลกนี้เธอนึกอะไรได้ ความเย็นชาแวบเข้ามาในดวงตาของเธอ แล้วเธอก็หันหลังกลับและหายตัว
หลังจากที่เสิ่นหมิงจูจัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว เธอค่อยไปบอกซือเย่เจ๋ว แล้วพาทุกคนไปหาเธอ เมื่อถึงเวลาที่เธอพบเจียงเซิง คาดว่าเจียงเซิงคงกลายเป็นของเล่นของคนเหล่านั้นเข้าแล้วเธอแทบรอไม่ไหวที่จะเห็นฉากนั้น หลังจากคืนนี้ เจียงเซิงจะต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง!ต่อให้เธอมีลูกของเย่เจ๋วแล้วทำไมตระกูลซือก็ไม่ยอมรับผู้หญิงที่ไม่บริสุทธิ์เช่นนี้!เจียงเซิงเดินตามบริกรไปที่ห้องรับแขก โดยมีเสิ่นหมิงจูนั่งรอเธออยู่หลังจากที่บริกรจากไป เสิ่นหมิงจูก็ยืนขึ้นและเดินไปหาเธอ "คุณเจียง ฉันขอโทษ ก่อนหน้านี้ฉันผิดเอง ครั้งนี้ฉันอยากเจอคุณตามลำพัง ก็เพื่อขอโทษคุณ แล้วคุณยกโทษให้ฉันได้ไหม?"เสิ่นหมิงจูจับมือเธอแล้วทำหน้าอย่างจริงจังเพื่อขออภัยจากเธอถ้าไม่ใช่ว่าเจียงเซิงรู้เกี่ยวกับแผนการของพวกเธอมาก่อน เธออาจจะคิดจริงๆ ว่าเสิ่นหมิงจูสำนึกผิดจริงเธอค่อยๆ ดึงมือกลับแล้วยิ้ม "คุณเสิ่นอยากขอโทษฉันจริงๆ เหรอ?""ฉัน...แน่นอนว่าใช่จริงๆ!"เสิ่นหมิงจูรู้สึกร้อนตัว แต่เธอไม่สามารถปล่อยให้อีกฝ่ายสังเกตเห็นอะไรได้ "ฉันยอมรับว่าฉันหุนหันพลันแล่นเกินไปและทำให้คุณได้รับบาดเจ็บ ฉันขอโทษจริงๆ คุณยกโทษให้ฉันเถอะนะ"
เจียงเซิงเดินไปข้างกายของชายชุดดำ หยิบโทรศัพท์มือถือของเสิ่นหมิงจูที่หมดสติไปออกมา ปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือของเธอ และส่งข้อความถึงเจียงเวยให้เธอกลับมาหลังจากนี้อีกยี่สิบนาทีหลังจากส่งข้อความเสร็จ เธอก็เก็บโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าของเธอแล้วยืนตัวขึ้น "พี่กังจือ ที่นี่ฝากให้พี่จัดการแล้วนะ"ชายชุดดำพยักหน้าเจียงเซิงออกจากห้องรับแขกแล้วเดินไปที่ระเบียงชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่บนระเบียงมัดผมสีบลอนด์ยาวไว้ด้านหลัง เขาค่อยๆ หันหลังกลับมา เขาสวมแว่นตากรอบเงินสไตล์เรโทรพร้อมสายโซ่ และชุดสูทสีดำเข้ม เขาดูมีความประณีตและเป็นสุภาพบุรุษมาก"คุณลุงเรเวียร์ คุณลุงมาถูกเวลาพอดีเลยค่ะ" เจียงเซิงเดินไปข้างหน้าด้วยท่าทางน่าเอ็นดูชายวัยกลางคนที่อ่อนโยนและเป็นสุภาพบุรุษตรงหน้าเธอก็คือเรเวียร์ จากรูปร่างหน้าตาของเขาไม่น่าเชื่อว่าหน้าตาลูกครึ่งที่หล่อเหลานี้จริงๆ แล้วอายุสี่สิบห้าปีแล้วถ้าไม่ใช่เพราะเจียงเซิงกับเขารู้จักกันมานาน เธอเองก็คงไม่เชื่อเลยเรเวียร์ยกมือขึ้นแตะหัวเธอ "เธอกล้าเสี่ยงมากนะ ไม่กลัวว่าฉันให้กังจือเข้าไปไม่ทันหรอกเหรอ"เรเวียร์"เพราะฉันเชื่อในตัวคุณลุงค่ะ"เจียงเซิงได้ตอบก
"ท่านเจ๋ว"ทันใดนั้น แฟรงค์ก็เดินเข้ามา "คุณเห็นเซิงเซิงหรือเปล่าครับ ผมติดต่อเธอไม่ได้เลย"ทันทีที่แฟรงค์พูดจบ เจียงเวยก็แสร้งทำเป็นประหลาดใจ "อะไรนะ ติดต่อไม่ได้เหรอ? เซิงเซิงเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าเนี่ย"แฟรงค์เหลือบมองเจียงเวยอย่างสงสัย ทำไมเธอถึงใจดีและใส่ใจ เซิงเซิงขนาดนั้น?"ไม่หรอกมั้ง มีคนทำเรื่องแบบนั้นในห้องรับแขกจริงๆ เหรอ?""ฉันโกหกเธอทำไมล่ะ? เมื่อกี้เราอยากเข้าไปห้องรับแขกนะ แต่ก็ได้ยินเสียงแบบนั้นดังมาจากข้างใน ไม่กลัวถูกคนอื่นพบเข้าจริงๆ"บทสนทนาของผู้หญิงหลายคนที่เดินผ่านไปนั้นบังเอิญเข้าหูของซือเย่เจ๋วอย่างชัดถ้อยชัดคำเมื่อเห็นใบหน้าของซือเย่เจ๋วแย่ลง เจียงเวยก็แอบรู้สึกสะใจพลางจงใจพูดว่า "ห้องรับแขก... ไม่มั้ง เมื่อครู่ฉันถามบริกร เขาบอกฉันว่า เซิงเซิงดูเหมือนจะไปห้องรับแขกแล้ว…"ดวงตาของซือเย่เจ๋วฉายแววอำมหิต และเขาก็เดินไปที่ห้องรับแขกเจียงเวยมองไปยังแผ่นหลังจากไปของซือเย่เจ๋ว และแอบได้ใจว่า:เจียงเซิงเอ๊ยเจียงเซิง คราวนี้คุณจะไม่มีสิทธิ์มาสู้กับฉันแล้ว!เมื่อซือเย่เจ๋วมาถึง มีบริกรหลายคนยืนอยู่ด้านนอกห้องรับแขกพลางเคาะประตูและตะโกนเรียก สามารถได้ยินเสียง
จะเป็นแบบนี้ได้ยังไง!จะเป็นเธอได้ยังไง!"เกิดอะไรขึ้น?"เจียงเซิงค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้นจากด้านหลังฝูงชน ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และทำตัวไม่รู้อะไรเลยแฟรงค์รีบก้าวไปข้างหน้า "เซิงเซิง เธอไปไหนมา? ทำไมพวกเขาถึงพูดว่าเธออยู่... ""ฉันรับโทรศัพท์สายหนึ่งจากนั้นก็ออกไปแล้ว เกิดอะไรขึ้นเหรอ?" เจียงเซิงแสร้งทำเป็นสับสนซือเย่เจ๋วมองไปที่เธอ อันที่จริงเมื่อเขาได้ยินเสียงตอนอยู่หน้าประตูตอนนั้นเขาก็รู้ว่าไม่ใช่เธอเมื่อเจียงเวยเห็นเธอปรากฏตัวออกมา มือของเธอที่ห้อยอยู่ด้านข้างก็กำแน่นและสั่นเทาเล็กน้อยให้ตายเถอะ ทั้งๆ ที่เป็นนังตัวดีคนนี้ไง!มันจะเป็นเสิ่นหมิงจูได้ยังไงกันแย่แล้วหลังจากที่เสิ่นหมิงจูเห็นเจียงเซิงแล้ว ใบหน้าของเธอก็บิดเบี้ยวไม่น่ามอง "เป็นแก! เป็นแกที่จงใจทำร้ายฉัน!"เธอลุกขึ้นยืนและกำลังจะพุ่งเข้าหาเจียงเซิง แต่ถูกห้ามไว้โดยรปภ.ที่เจ้าหน้าที่เรียกมา"ไอ้นังตัวดี แกทำร้ายฉัน ฉันจะไม่ปล่อยแกไปแน่ ฉันจะไม่ปล่อยแกไป!" เสิ่นหมิงจูตะโกนพร้อมร้องไห้อย่างหนักเจียงเซิงเอียงศีรษะด้วยสีหน้าไร้เดียงสา "ฉันทำร้ายคุณ คุณหนูเสิ่นคุณหมายความว่าอย่างไรคะ"นี่อาจเรียกได้ว่ากรร
น่าเสียดาย ที่มีปมกับเสิ่นหมิงจูเข้าเรื่องนี้ เธอก็หนีไม่พ้นหรอกภายในรถซือเย่เจ๋วขับรถไปยังคฤหาสน์ตระกูลซือ เจียงเซิงที่กำลังนั่งอยู่ในที่นั่งข้างคนขับมองออกไปนอกหน้าต่าง ชายคนนั้นไม่พูด และเธอก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องควรดีใจหรือเศร้าใจกันแน่เมื่อหยุดรถที่สี่แยกไฟแดง ซือเย่เจ๋วหันกลับมามองเธอด้วยสายตาเร่าร้อนเจียงเซิงรู้สึกได้เธอหันไปสบตาเขา "ทำไมคุณซือถึงมองฉันแบบนี้ล่ะ"เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย "ผมมองดูผู้หญิงของผมเองมันต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ?"เจียงเซิงฝืนยิ้ม "การเป็นผู้หญิงของคุณมันช่างอันตรายจริงๆ ถ้าวันนี้คนที่อยู่ในห้องรับแขกนั้นเป็นฉัน คุณคงไม่พูดแบบนี้แล้วมั้ง"ดวงตาของซือเย่เจ๋วเป็นเย็นชาถ้าผู้หญิงในห้องรับแขกนั้นเป็นเธอจริงๆเขาจะทำอย่างไร?เกรงว่าเขาจะฆ่าผู้ชายทั้งหมดที่แตะเนื้อต้องตัวเธอทั้งนั้นเลยเขามองออกไปและยิ้มเบาๆ "ดูเหมือนว่าผมจะประเมินคุณต่ำไป"สามารถหลบหนีจากน้ำมือของคนเหล่านั้นได้ ถ้าไม่ใช่ว่าเธอมีสามารถเก่งๆ ไม่ก็มีคนช่วยเธออยู่เขาจะต้องสืบเรื่องให้ดีๆ**#เหตุการณ์ในงานเลี้ยงของเสิ่นหมิงจู##ผู้หญิงที่ท่านเจ๋วเปิดตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก#วั
เมื่อเห็นเสิ่นหมิงจูส่งเสียงร้องโอดโอย คุณนายเสิ่นก็กอดเธอไว้ "ก็แค่ตระกูลเจียงนี่เอง ลูกวางใจเถอะ ตอนนี้พ่อของลูกจะไม่ปล่อยตระกูลเจียงไปแน่นอน ฟังแม่นะ กินอะไรก่อน"กว่าจะปลอบใจให้เสิ่นหมิงจูสงบอารมณ์ได้ จากนั้นพ่อบ้านก็ปรากฏตัวขึ้นที่นอกประตู "คุณนายคะ มีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อเจียงเซิงมาขอพบคุณหนูครับ"เมื่อได้ยินชื่อของเจียงเซิง เสิ่นหมิงจูก็แทบรอไม่ไหวอยากจะฉีกเธอออกเป็นชิ้นๆ "ฉันไม่อยากเห็นขี้หน้าของนังตัวดีนั่น ฉันไม่ต้องการพบ! มันเป็นเพราะเธอ ทั้งหมดเป็นเพราะเธอ!"ในขณะที่คุณนายเสิ่นปลอบใจเธอพลางถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "เธอทำร้ายลูกสาวของฉัน เธอยังมีหน้ามาที่นี่อีกเหรอ?"พ่อบ้านก้มหัวลงแล้วพูดว่า "คุณเจียงคนนี้เป็นคนของท่านเจ๋ว เธอบอกว่าเธอต้องการคุยกับคุณหนูครับ"คนของท่านเจ๋วงั้นเหรอ?หรือว่าคนๆ นั้นที่ท่านเจ๋วประกาศเมื่อคืนนี้?คุณนายเสิ่นขมวดคิ้วแน่น พวกเขาไม่กล้ามีเรื่องกับตระกูลซือได้ แต่ลูกสาวของตัวเองกลายเป็นแบบนี้และชีวิตของเธอพังทลายหมด เธอมาที่นี่เพื่อซ้ำเติมหรือเปล่า?คุย จะคุยอะไรกันอีก?เธอเหลือบมองลูกสาวที่ยังไม่สงบอารมณ์ของเธอแวบหนึ่ง แล้วยืนขึ้นพลางพูดว่า
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ