"ก็คนของตระกูลเจียงด้วย เธอเป็นพี่สาวต่างแม่ของฉัน ถือว่าเป็นลูกสาวของแม่เลี้ยงฉัน"คุณนายเสิ่นเงยหน้าขึ้นมองเธอ "ที่คุณมาที่นี่พบลูกสาวของฉัน คุณอยากจะทำอะไรกันแน่?""ฉันสามารถให้ลูกสาวของคุณถูกให้อภัยได้ แต่ข้อแม้คือลูกสาวของคุณเต็มใจที่จะกลับเนื้อกลับใจ จากกระแสข่าวนี้ คาดว่าคงไม่ถูกปกปิดในระยะหนึ่ง ทุกคนคงคิดว่าลูกสาวของคุณยอมปล่อยให้ตัวเองตกอับ แต่ฉันเชื่อว่าคุณก็อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าลูกสาวของคุณถูกใส่ร้ายป้ายสีสินะใช่ไหม"เห็นได้ชัดว่าคุณนายเสิ่นถูกโน้มน้าวได้สำเร็จแล้วใช่สิ ตอนนี้ลูกสาวของเธอกำลังอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ หากสถานการณ์นี้ไม่จบสักที แล้วลูกสาวของเธอจะมีหน้าไปพบใครได้บ้าง?แทนที่จะปล่อยให้ทุกคนคิดว่าลูกสาวเธอมีพฤติกรรมไม่ดีและผิดศีลธรรม เธอควรบอกให้ทุกคนรู้ว่าลูกสาวของเธอถูกใส่ร้ายป้ายสี ความเห็นอกเห็นใจที่มาจากคนที่มีความรู้สึกเดียวกันนั้น อย่างน้อยมันสามารถช่วยกู้คืนความบริสุทธิ์ของลูกสาวเธอกลับมาได้ระหว่างการถูกใส่ร้ายและการยอมปล่อยให้ตัวเองตกอับมันต่างกันอย่างมากแม้ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นแล้วและไม่สามารถลบล้างได้ แต่ตราบใดที่ลูกสาวของเธ
*ขาวเน็ตหญ้า: ก็คือนักออกแบบหน้าใหม่คนนั้นใช่ไหม ไม่คาดคิดว่าเธอถึงทำเรื่องแบบนี้ด้วย ที่แท้มีผลงานดีๆ ก็ไม่เท่ากับว่าคนๆ นั้นมีคุณธรรม ฉันล่ะจะไม่ซื้อเครื่องประดับจากไวน์เนอร์อีกแล้ว *กลุ่มขาวเน็ตมุ่งเป้าไปยังคอมเม้นต์ในเฟซบุ๊กของเจียงเวยเพื่อด่าทอเธอ*ขาวเน็ตต้นหอมไม่ใส่น้ำตาล: หยุดชี้แจงอะไรได้แล้ว หลักฐานชัดเจนซะขนาดนั้นแล้ว ลบเฟซบุ๊กไปซะ **ขาวเน็ตกินดีอยู่ดี: แค่เธอเนี่ยนะก็คู่ควรเป็นนักออกแบบด้วยเหรอ เสียดายของเหล่านั้นจริงๆ? **ขาวเน็ตคนใหญ่: น่าตลกไหมล่ะ คนที่ออกแบบผลงานสไตล์โกธิคนั้นกลับไม่รู้จักดิล่า และได้ยินว่าเธอได้เรียนรู้เรื่องการออกแบบเพียงหนึ่งเดือนเองก็สามารถออกแบบผลงานที่สมบูรณ์แบบอย่างนั้น น่าเหลือเชื่อจริงๆ ฉันสงสัยว่าผลงานเหล่านั้นไม่เกี่ยวกับเธอด้วยเลย *......ณ ตระกูลเจียงเมื่อโดนขาวเน็ตด่าทออย่างนั้นเจียงเวยก็ไม่กล้าเล่นโทรศัพท์อีก เธอเกือบจะเป็นบ้าอยู่แล้วเซียวหลานเดินไปหาเธอด้วยความกังวลใจ ก่อนหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาและอ่านดูคอมเม้นต์ร้ายๆ พวกนั้น แล้วพูดอย่างห่วงใยว่า "ทำไมกลายเป็นแบบนี้ได้ ลูกประกาศคำชี้แจงแล้วไม่ใช่เหรอ""ฉันไม่คาดคิดว่าเสิ่
คุณท่านซือมองไปที่ทั้งสาม "แล้วทำไมแม่ของพวกหนูถึงไม่ยอมรับพ่อของหนูล่ะ?"เด็กทั้งสามเพียงมองหน้ากันแล้วเล่าประสบการณ์ของแม่ให้คุณท่านซือฟัง หลังจากฟังเสร็จแล้ว ใบหน้าของคุณท่านซือก็แย่ลงเล็กน้อยเขาไม่สนใจภูมิหลังของเจียงเซิงอยู่แล้ว และจนถึงวันนี้ เขาถึงรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลเจียง แม้ว่าตระกูลเจียงจะเป็นตระกูลเล็กๆ แต่ตระกูลซือก็ยังคงยอมรับเด็กผู้หญิงอย่างเจียงเซิงได้โดยไม่คาดคิดว่าเป็นลูกชายไอ้สารเลวของเขาที่มีตาไร้แววถูกลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลเจียงหลอกลวงเป็นเวลาหกปี ไม่น่าแปลกใจเลยที่เซิงเซิงไม่เต็มใจที่จะยอมรับลูกชายของเขาไอ้หมอนี่ก็สมน้ำหน้า"คุณปู่ ปู่ก็หวังว่าแม่กับพ่อจะอยู่ด้วยกันใช่ไหม?" เจียงเฉินเฉินถามคุณท่านซือส่งเสียงเบาๆ "แน่นอนสิ"กว่าจะที่ได้พบกับหญิงสาวที่เขาถูกใจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เขาจะให้สองคนแยกทางไปได้ยังไง กล่าวอีกนัยว่า ลูกชายไม่ได้เรื่องของเขาสามารถมีคู่ได้มันเป็นเรื่องโชคดีแค่ไหน เป็นเพราะเด็กผู้หญิงคนนี้นำโชคมาให้!ในห้อง ซือเย่เจ๋ววางเจียงเซิงลงบนเตียง เจียงเซิงร้องครวญครางเบาๆ เมื่อเธอสัมผัสกับเตียงนุ่มๆ พลิกตัวแล้วทั
'เสียงท้องร้อง'เสียงท้องร้องโครกครากของเธอค่อนข้างดังในบรรยากาศนิ่งทันใดนั้นชายที่อยู่ด้านบนก็หัวเราะอกมาว่า "รู้จักหิวแล้วเหรอ ผมคิดว่าคุณจะนอนได้จนถึงรุ่งสาง"เจียงเซิงเหล่ตาและพูดด้วยเสียงแผ่วเบา "ถ้ารู้แล้วคุณยังไม่รีบลุกขึ้นเร็วเข้า"ซือเย่เจ๋วลุกขึ้นจากบนร่างเธอแล้วลูบหัวของเธอ "ผมจะไปเตรียมอาหารกลางคืนให้นะ"เจียงเซิง " ??? "เมื่อ เจียงเซิงเดินลงไปชั้นล่าง เธอเองก็คิดว่าเธอสามารถนอนหลับได้จนถึงรุ่งสาง แต่ใครจะรู้ว่านี่เพิ่งตีสองเองเธอเหนื่อยมากในช่วงบ่ายจนไม่รู้ตัวว่าเธอกลับมาได้อย่างไรซือเย่เจ๋วกำลังทำอาหารมื้อค่ำให้เธอในห้องครัว เจียงเซิงเหลือบมองไปทางห้องครัว สีหน้าของเธออึ้งไปเล็กน้อยร่างสูงของชายคนนั้นยืนอยู่ในครัว เขาสวมชุดนอนและกางเกงหลวมๆ ซึ่งทำให้เขาดูเข้ากันง่ายกว่าในชุดสูทปกติแต่ใครจะเชื่อได้ว่าผู้ชายที่ใส่ชุดนอนและทำอาหารมื้อค่ำให้เธอในครัวคือท่านเจ๋วจริงๆ!เขานำชามราเม็งที่ต้มเสร็จแล้วมาวางบนโต๊ะและเตรียมนมร้อนหนึ่งแก้วให้เธอเป็นพิเศษเจียงเซิงเดินไปที่โต๊ะแล้วนั่งลง มองดูราเม็งในชาม คนที่ปรุงบะหมี่เป็นครั้งแรกมักจะทำซุปและบะหมี่เหนียวๆ เสมอ แต่เห
ซือเย่เจ๋วจับเธอไว้ในอ้อมกอดของเขาแล้วนั่งลง "บอกผมมา"เจียงเซิงไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต่อต้านอีกแล้ว เธอไม่สามารถรับมือกับกลอุบายมากมายของผู้ชายสารเลวคนนี้ได้เขากลับใช้กลอุบายแบบเด็กๆ ขึ้นมาเพียงเพื่อบังคับให้เธอพูด!เธอนั่งพักหายใจ แต่ก็กลัวว่าจู่ๆ เขาจะจั๊กจี้เธออีก และเธอเลยจับมือเขาไว้แน่น “ฉันรู้จักเขามานานแล้ว แต่ฉันไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับเขาเลย”ถึงยังไงเธอเองก็อยากรู้เรื่องนี้ด้วย แล้วเธอจะรู้ได้ยังไงซือเย่เจ๋วเห็นว่าเธอไม่ได้โกหก เขาเม้มริมฝีปากแล้วพูดช้าๆ "คุณเองก็ไม่รู้ตัวตนของเขาด้วยเหรอ?""ฉันไม่สนใจว่า คุณลุงเรเวียร์จะเป็นใคร ยังไงก็เถอะ นอกจากแม่ของฉัน เขาเป็นญาติที่ดีกับฉันที่สุด"แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่เธอก็ถือว่าคุณลุงเรเวียร์เป็นญาติแท้ๆ ของเธอแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะเขาเป็นคนเดียวที่สามารถจดจำการมีอยู่ของแม่ของเธอได้ขนตาของซือเย่เจ๋วลดลงเบาๆ ดูเหมือนว่าเจียงเซิงคงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับองค์กรต้าตู ดังนั้น เธออาจไม่รู้ว่าแม่ของเธอเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลกุง"ฉันพูดไปหมดแล้ว คุณจะให้ฉันกินบะหมี่ต่อได้ไหม"ซือเย่เจ๋วเพียงแค่ยิ้มแล้ว
ทุกคนเชื่อว่าการกระทำที่ก้าวร้าวของเสิ่นหมิงจูคือสาเหตุทำให้เธอ "วางแผนแก้แค้น"เธอเม้มริมฝีปากเล็กน้อย หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาคุณนายเสิ่นเมื่อเวลาประมาณสิบโมงเช้า คุณนายเสิ่นได้โพสต์วิดีโอบนบัญชีเฟซบุ๊กของเสิ่นหมิงจูในวิดีโอ เสิ่นหมิงจูอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ ดวงตาของเธอว่างเปล่า และดูเหมือนว่าเธอผอมลงอย่างมากในชั่วข้ามคืน ตัวเธอเองแตกต่างกับภาพถ่ายสวยๆ ที่เธอมักจะโพสต์บนเฟซบุ๊กเห็นได้ชัดว่าเนื้อหาของวิดีโอเป็นคำชี้แจงที่เธอปรากฏตัวครั้งแรกหลังเกิดเหตุการณ์ "ฉันมีเรื่องขัดแย้งกับคุณเจียงเซิงก็จริง แต่คนที่ทำร้ายฉันไม่ใช่คุณเจียงเซิง ฉันถูกคนหลอกใช้ในคืนนั้น และฉันก็เชื่อใจคนง่ายเกินไป ฉันไม่อยากปิดบังทุกคนแล้ว ทีนี้ฉันอยากจะขอโทษทุกคนจริงๆ"*ชาวเน็ตหน้าบวม: ผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้ชี้แจงในคลิปแล้ว พวกเกรียนคีย์บอร์ดตื่นได้แล้ว เลิกโดนดีไซเนอร์บางคนล้างสมองได้แล้ว **ชาวเน็ตอ่านหนังสือ: เธอดูซีดเซียวจริงๆ พูดตามตรง เด็กผู้หญิงคนหนึ่งถูกทำลายแบบนี้และเธอก็ถูกหัวเราะเยาะด้วย ถ้าเป็นลูกสาวของฉัน ฉันอยากจะฆ่าคนพวกนั้นให้ตายไป **ชาวเน็ตคนใหญ่โต: พวกเกรียนคีย์บอร์ดโง่ๆ พวกมันยังออกหน
ในสายตาของผู้เฒ่าเจียง ผลประโยชน์ต้องมาก่อนเสมอ ผู้ชายสืบทอดธุรกิจของตระกูลเจียง ส่วนผู้หญิงต้องแต่งงานเข้าสู่ครอบครัวที่มีอำนาจเพื่อที่พวกเธอจะได้หนุนหลังให้ตระกูลเจียง ในอนาคตดังนั้นเธอจะเข้าข้างเจียงเวย เพราะเธอให้ความสำคัญกับ "ประโยชน์" ของเจียงเวยเจียงเซิ่นกำหมัดของเขา "แม่ครับ เจียงเซิงไม่ใช่หลานสาวของแม่รึไง?""เจียงเซิง?"ผู้เฒ่าเจียงโกรธเมื่อเธอพูดถึงเธอ "เธอมีนิสัยเหมือนกับกงม่านม่านคนนั้นเลย เป็นคนเนรคุณที่อุตส่าห์ตระกูลเจียงเสียเงินไปเลี้ยงเปล่าๆ ฉันจะหวังอะไรจากเธอได้""เมื่อลูกแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นกงม่านม่าน ลูกไม่ใช่แค่เห็นแก่ความสามารถของเธอเลยเหรอ? ด้วยความช่วยเหลือของกงม่านม่าน ลูกจึงมีโอกาสที่จะได้ตั้งหลักในเมืองหลวง""แต่เธอเคยให้ศักดิ์ศรีความให้กับคนที่เป็นแม่อย่างฉันบ้างไหม ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงคนนั้นทำตัวสำส่อน อยู่กับลูกแล้วยังมีใจให้ชายอื่นอีก แล้วลูกสาวของเธอจะดีได้อย่างไร""พอได้แล้ว!"เสียงคำรามอย่างกะทันหันของเจียงเซิ่นทำให้ทุกคนตกตะลึง แม้แต่ผู้เฒ่าเจียงก็มองเขาด้วยความประหลาดใจลูกชายคนนี้ไม่เคยตะโกนใส่เธอมาก่อนเลย"คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะแสดงค
เจียงเซิงครุ่นคิดพลางวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะแล้วเปิดสปีกเกอร์โฟน เสียงของเซียวหลานดังขึ้น "เจียงเซิง ย่าของเธออยากเจอเธอ... "หลังจากวางสาย แฟรงค์ก็กังวลเล็กน้อย "ผู้เฒ่าเจียงต้องการพบเธอ นี่เป็นเล่ห์เหลี่ยมอะไรอีกหรือเปล่า ไม่งั้นให้ฉันไปด้วยไหม"เจียงเซิงยิ้ม "ไม่ต้องหรอก คุณอาแฟรงค์ ยังมีงานมากมายในสตูดิโอที่ต้องการให้คุณอาช่วยนะ ผู้เฒ่าเจียงและเซียวหลานไม่กล้าทำอะไรฉันหรอก"เมื่อเจียงเซิงมาร้าอาหารไรซิ่งซัน จริงๆ แล้วเธอก็ค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นว่า ผู้เฒ่าเจียงและเซียวหลานไม่ได้เรียกกลับตระกูลเจียง แต่เรียกเธอไปพบหน้าที่ร้านอาหารแทน เหตุผลคืออะไรกันแน่เมื่อเธอก้าวเข้าไปในห้องส่วนตัว เธอก็เห็นผู้เฒ่าเจียงและเซียวหลานนั่งอยู่ที่โต๊ะ"คุณย่า คุณย่าตามหาฉันมีเรื่องอะไรเหรอ?"เมื่อเห็นว่าเจียงเซิงไม่เห็นเธอในสายตา และมีทัศนคติที่ไม่แยแส ผู้เฒ่าเจียงแสดงสีหน้าไม่พอใจ "ฉันได้ยินมาว่าพ่อของเธอจะโอนไวน์เนอร์ให้เธอเหรอ?"เจียงเซิงอึ้งไปชั่วคราวด้วยความสับสนเล็กน้อย "ทำไมฉันไม่รู้ว่าพ่อของฉันกำลังจะมอบไวน์เนอร์ให้ฉันล่ะ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ไวน์เนอร์ไม่ใช่ของเจียงเวยเหรอ"เธอพูดและมองไป
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ