"อื้อ"นิ้วใหญ่สอดเข้าไปในช่องทางรักของหญิงสาวทำเอาเธอส่งเสียงครางออกมา ความคับแน่นตรงส่วนนั้นมันทำให้เธอเชื่อแล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าและคำบอกรักจากปากของเขามันคือเรื่องจริง"คะ...คุณภูผา""ยังคับแน่นเหมือนเดิมอยู่เลยนะ"เขาก้มมองช่องทางรักของเธอซึ่งตอนนี้มีนิ้วของเขาเสียบคาอยู่ด้วยแววตาหื่นกระหาย"เนินใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า""อื้อ อ๊าส์"ริมฝีปากเล็กส่งเสียงครางออกมายามเมื่อชายหนุ่มขยับปลายนิ้วเข้าออกจนตอนนี้เริ่มมีน้ำหล่อลื่นสีใสไหลออกมาใบหน้าของบัวบูชาบิดเบี้ยวแสดงถึงความทรมาน อารมณ์วาบหวามทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินวนอยู่ในช่องท้องยามเมื่อเธอผงกศีรษะขึ้นมองก็ยิ่งเห็นว่าใบหน้าของภูผาอยู่ห่างไม่ไกลจากตรงส่วนนั้นของเธอเท่าไหร่ และมันยิ่งเพิ่มเข้ามาใกล้เมื่อน้ำเมือกใสของเธอเริ่มไหลอาบนิ้วของเขามากยิ่งขึ้น"ขอชิมหน่อยนะ""อย่าค่ะคุณภูผา อื้อ มันสกปรก"แผล็บ แผล็บ แผล็บเสียงห้ามปรามของเธอเล็ดลอดผ่านหูของชายหนุ่ม ปลายลิ้นสากแตะลงบนกลีบอูมทั้งสองข้างทันทีโดยที่ชายหนุ่มไม่เคยคิดจะฟังเสียงห้ามปรามของเธอเลยสักนิดปลายลิ้นสากตวัดเลียดูดดึงเม็ดเสียวด้วยความช่ำชองทำเอาบัวบูชายกเอวจน
ใครจะไปคิดล่ะว่าจากชีวิตของผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่งอย่างเธอจะได้มาเจอกับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอย่างเขา และตอนนี้เราสองคนกำลังได้เข้าพิธีวิวาห์ด้วยกัน มันเป็นความฝันที่บัวบูชาไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเอง จากผู้หญิงธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรพิเศษอยู่ในวิกฤตตกงานไม่มีงานทำต้องหาเงินมารักษามารดาซึ่งป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย โชคชะตาเข้าข้างให้เธอได้สมัครมาเป็นเลขาและบุญวาสนาได้ผลักเธออีกครั้งให้มาเป็นผู้หญิงของเขาและตอนนี้เราสองคนกำลังเข้าพิธีวิวาห์ในช่วงเช้าด้วยกัน ตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้ก็เธอกับเขาก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาร่วมหนึ่งปีกว่า ภูผาฉีกสัญญาว่าจ้างระหว่างเธอกับเขาเมื่อชีวิตคู่ของสองเราครบหนึ่งปี"คุณภูผาและคุณบัวบูชาเชิญเซ็นชื่อลงตรงนี้ได้เลยนะครับ"เจ้าหน้าที่จากอำเภอเอ่ยบอกกับคู่บ่าวสาวซึ่งตอนนี้เธอและเขากำลังนั่งอยู่ตรงที่โต๊ะตรงหน้ามีกระดาษสำคัญมีอักษรสีแดงตัวใหญ่เขียนว่าใบสำคัญในการสมรส"ขอแสดงความยินดีกับคุณทั้งสองด้วยนะครับ และผมหวังว่าจะได้ยินข่าวดีเรื่องทายาทเร็ว ๆ นี้""ขอบคุณครับ""ขอบคุณค่ะ"บัวบูชาน้ำตาไหลเธอมองแผ่นกระดาษตรงหน้าตาไม่กะพริบ สัมผัสอ่อนโยนจากปลายนิ้วของชายหนุ่มท
พิษของเศรษฐกิจรุนแรงในรอบหลายสิบปีทำเอาบริษัทน้อยใหญ่ขาดทุนล้มละลายไปตาม ๆ กัน ไม่เว้นแม้แต่บริษัทเล็ก ๆ ที่มีผู้หญิงธรรมดา ๆ อย่าง'บัวบูชา'ทำงานอยู่ในนั้นด้วยเรี่ยวแรงของพนักงานภายในบริษัทจัดส่งผลไม้อบแห้งทรุดลงทันตาเห็นเมื่อเจ้านายประกาศปิดตัวบริษัทเนื่องจากผลประกอบการขาดทุนย่อยยับมานานหลายปี วินาทีนี้เหมือนโลกทั้งใบของพนักงานในบริษัทพังทลายไม่ต่างอะไรกับความหวังในทางสุดท้ายของบัวบูชาดับลง"พะ...พี่บัว ไหวนะพี่"พนักงานซึ่งดูอายุน้อยกว่าเอ่ยถามบัวบูชาด้วยความเป็นห่วง แต่ดูเหมือนเจ้าตัวตอนนี้คงหูดับไปแล้ว"พี่บัว""ฮะ ว่าไงนะกอหญ้า""ไม่เป็นอะไรใช่ไหมพี่ พี่โอเคใช่ไหม"บัวบูชาส่ายหน้าไปมา ร่างผอมบางทรุดกายนั่งลงบนเก้าอี้ภายในห้องประชุมซึ่งมีเพียงบัวบูชาและกอหญ้าที่ยังคงอยู่ในนี้"พี่จะทำยังไงดีกอหญ้า"บัวบูชาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตากลมโตสั่นระริกความหวังในการทำงานหาเงินมารักษาแม่ผู้ให้กำเนิดพังทลายลงในพริบตา"เอาเงินของหนูไปรักษาคุณป้าก่อนดีไหม"ด้วยความเห็นใจกอหญ้าจึงอาสาเอ่ยปากแต่บัวบูชากลับส่ายหน้า"อย่าเลยกอหญ้า กอหญ้าเองก็ต้องหาเงินส่งไปให้ทางบ้าน"บัวบูชาพยายามฝืนทำตัวให
"ขอโทษด้วยนะคะ ทางบริษัทของเราปิดรับสมัครพนักงานใหม่แล้วค่ะ""ขอบคุณนะคะ"แม้จะเสียใจแต่บัวบูชาก็ยังยิ้มรับแล้วเดินออกมาจากบริษัทตรงหน้า นี่ก็เป็นเวลาสามวันแล้วที่เธอเดินหางานใหม่ ซึ่งมันไม่ได้ง่ายเลยที่จะหากันได้ง่าย ๆ ยิ่งนานวันเข้าค่าใช้จ่ายก็เริ่มมากขึ้นแตกต่างกับเงินในกระเป๋าที่เริ่มร่อยหรอลงทุกวัน ๆ แต่ถึงอย่างนั้นบัวบูชาก็ไม่คิดที่จะย่อท้อเธอยังคงเดินไปต่อเพื่อจะหาบริษัทที่เปิดรับสมัครพนักงานใหม่"นี่ นังทับทิมที่ทำงานเป็นเลขาให้กับคุณภูผาถูกไล่ออกแล้วนะเธอรู้ยัง""จริงดิ ทำไมถึงถูกไล่ออกได้ล่ะ ไหนว่าลีลาเด็ดมัดใจคุณภูผาได้""หึ ลีลาเด็ดแค่ไหนถ้าไปทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของก็โดนขี่ทิ้งทั้งนั้นแหละย่ะ ตอนนี้คุณภูผาก็ส่งให้ผู้ช่วยเปิดรับสมัครพนักงานในตำแหน่งเลขาคนใหม่ ไม่รู้จะได้วันไหน"เสียงของสวรรค์ลอยเข้าหูของบัวบูชายามเมื่อเธอแวะทานอาหารข้างทางในยามเที่ยงของวัน บทสนทนาของพนักงานทั้งสองคนซึ่งนั่งอยู่ตรงโต๊ะตัวถัดไปไม่ไกลจากเธอเปรียบเสมือนระฆังหมดเวลาในการตกงาน ริมฝีปากสีธรรมชาติคลี่ยิ้มความหวังของบัวบูชาเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง หลังจากทานข้าวเสร็จเธอจึงเดินดิ่งไปหาพนักงานสองคนนั
ร่างเล็กอยู่ในชุดทำงานเรียบร้อยดูสุภาพ ใบหน้าสวยดูอ่อนหวานมีกรอบแว่นตาปิดบังบนใบหน้า บัวบูชาเดินเข้ามาในบริษัทยักษ์ใหญ่ในตำแหน่งเลขาของท่านประธาน เธอพกความมุ่งมั่นมาเต็มร้อยสำหรับการเริ่มต้นในการทำงานครั้งใหม่ ทุกวินาทีนั้นมีค่าเธอจะทำงานผิดพลาดไม่ได้เพราะโชคคงไม่เข้าข้างคนหาเช้ากินค่ำพนักงานตาดำ ๆ สักเท่าไหร่นัก"มาเร็วกว่าที่ผมคิดเอาไว้นะ""ค่ะ"ทันทีเมื่อบัวบูชาเดินมาถึงลิฟต์สำหรับผู้บริหารก็มีฝ่ายบุคคลยืนรอเธออยู่ เขาส่งยิ้มพร้อมกับกล่าวทักทายตบท้ายด้วยการยื่นบัตรประจำตัวพนักงานให้เธอ"ตั้งใจทำงานนะครับ อีกประมาณครึ่งชั่วโมงคุณภูผาก็จะเดินทางมาถึง เอกสารสำหรับวันนี้วางอยู่บนโต๊ะทำงานของคุณเรียบร้อย""ขอบคุณมากนะคะ""โชคดีครับ"บัวบูชาพยักหน้ารับเธอกดลิฟต์สำหรับผู้บริหารซึ่งมีเพียงแค่คนสำคัญเท่านั้นที่จะเข้าไปในลิฟต์ตัวนี้ได้หัวใจของเลขาสาวเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งมือไม้ทั้งสองข้างเย็นเฉียบ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เข้ามาทำงานในบริษัทใหญ่โตเช่นนี้แม้จะมีความกดดันอยู่บ้างแต่คนอย่างบัวบูชามีความเชื่อมั่นในตัวเองมากพอว่าจะผ่านมันไปได้ติ๊งสองเท้าก้าวขาออกมาจากลิฟต์ ชั้นสูงสุดมีเพียงความเงีย
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ภูผาละสายตาจากเอกสารตรงหน้ามองไปยังประตูบานใหญ่ก่อนจะเปล่งเสียงอนุญาตให้คนด้านนอกเข้ามา"เข้ามา"ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของเลขาคนใหม่ ในมือของเธอถือแก้วกาแฟด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ"กาแฟดำใส่นมข้นหวานตามที่ท่านประธานสั่งค่ะ""วางไว้"บัวบูชาทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย "วันนี้ผมมีงานอะไรที่จะต้องทำบ้าง"ภูผาคว้าแก้วกาแฟขึ้นมาถือ กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ช่วยทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย สายตาคมมองไปยังร่างของบัวบูชาซึ่งกำลังยืนอยู่ตรงหน้าของเขาน้ำเสียงอ่อนหวานของเธอยามเมื่อรายงานการทำงานในวันนี้มันทำให้เขารู้สึกเพลิดเพลิน แม้จะเป็นการร่วมทำงานในวันแรกแต่เธอกลับทำมันได้ดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้"งานวันนี้ของผมมีแค่นี้ใช่ไหม""ค่ะ""อืม เธอออกไปทำงานเถอะถ้ามีอะไรเดี๋ยวผมจะเรียกเอง"บัวบูชาพยักหน้า เธอหมุนตัวเดินออกไปจากห้องทำงานโดยมีสายตาคมกริบของภูผามองตามแผ่นหลังอย่างคนกำลังใช้ความคิด ชีวิตในการทำงานของบัวบูชาเริ่มขึ้น เอกสารกองเท่าภูเขาตรงหน้าคือสิ่งที่เธอจะต้องจัดการเคลียร์ให้เสร็จทันภายในวันนี้ ยังดีที่เธอเป็นคนเรียนรู้เก่งเข้าใจง่ายจึงไม่ยาก
"ที่นี่เหรอ""ค่ะ ที่นี่"บัวบูชาตอบภูผาเมื่อเขาขับรถพาเธอมายังโรงพยาบาลที่มารดารักษาตัวอยู่"เธอไม่สบาย""เปล่าหรอกค่ะ บัวมาเยี่ยมแม่"บัวบูชาเอ่ยตอบก่อนเธอจะปลดเข็มขัดแล้วหันไปมองหน้าของท่านประธานคนใหม่"ขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าห์ขับรถพาบัวมาถึงที่นี่"ระยะทางไม่ใช่ใกล้ ๆ แต่ชายหนุ่มก็ยังมีน้ำใจขับรถพาเธอมาในช่วงเวลามืดค่ำ"ไม่เป็นไร ว่าแต่เธอจะกลับยังไง""บัวคงกลับแท็กซี่นั้นล่ะค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่มาส่ง บัวต้องขอตัวก่อน"เธอรวบกระเป๋าขึ้นมาถือก่อนใช้มือเปิดประตูรถ แต่ทว่าบัวบูชากลับตาโตเมื่อเห็นว่าภูผาก้าวขาตามลงมาจากรถแล้วเดินตามหลังเธอมาติด ๆ "ท่าน...""ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงาน เรียกผมว่าภูผาก็พอ""คุณภูผา คุณจะเดินตามบัวมาทำไมคะ"บัวบูชาเอ่ยถามร่างเล็กของเธอสูงเพียงไหล่ของภูผายามเมื่อเขาเดินขนาบข้างกายเธอ จนทำให้เธอต้องหยุดเดินหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้าของชายหนุ่มพลางมองหน้าเขาด้วยแววตาตั้งคำถามร่างของเธอดูเล็กลงถนัดตาเมื่อได้เทียบกับร่างสูงใหญ่ของภูผา"เธอหยุดเดินทำไม""แล้วคุณภูผาจะเดินตามบัวมาทำไมคะ""ก็ฉันจะไปเยี่ยมแม่ของเธอ ทำไมฉันไปเยี่ยมแม่ของเธอไม่ได้เหรอ""ดะ...ได้สิคะ"บัวบูชา
ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่บัวบูชาได้เข้ามาทำงานในบริษัทใหญ่ทำให้เธอมีเวลาน้อยมากที่จะได้ใช้เวลาในช่วงเลิกงานไปเยี่ยมมารดา ธุรกิจในเครือ'สหกรุป'ไม่ได้มีเพียงแค่การส่งออกเท่านั้น ยังมีกิจการทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้ารถยนต์ รวมไปถึงห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารอีกมากมายหลายสาขา การทำงานของบัวบูชาจึงมีมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นการทำงานของเธอในบางครั้งต้องตามภูผาออกไปดูงานยังนอกสถานที่ ซึ่งตลอดระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งอาทิตย์สมองและร่างกายของเธอนั้นต้องทำงานหนักพอ ๆ กัน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็คุ้มกับเงินเดือนที่ทางบริษัทจ่ายมา"คุณบัว ผมขอกาแฟหนึ่งแก้วครับ"เสียงคอโปรเจคเตอร์ดังขึ้นทำให้บัวบูชาซึ่งกำลังนั่งเคลียร์งานชะงัก ร่างบอบบางในชุดทำงานถูกระเบียบลุกขึ้นยืนไปทำตามคำสั่งจองเจ้านายหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาการทำงานระหว่างเธอกับภูผาถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี เอกสารทุกแผ่น งานทุกงานเธอพยายามตรวจสอบให้ดีอย่างที่สุดเพื่อไม่ให้มีความผิดพลาดเล็ดลอดไปถึงผู้เป็นเจ้านาย "นี่ค่ะกาแฟ"บัวบูชาวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะทำงานของภูผา กลิ่นกาแฟหอม ๆ ลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งห้องทำงาน"เอกสารที่คุณส่งมาให้ไม่มีอะไรผิดพลาด
ใครจะไปคิดล่ะว่าจากชีวิตของผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่งอย่างเธอจะได้มาเจอกับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอย่างเขา และตอนนี้เราสองคนกำลังได้เข้าพิธีวิวาห์ด้วยกัน มันเป็นความฝันที่บัวบูชาไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเอง จากผู้หญิงธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรพิเศษอยู่ในวิกฤตตกงานไม่มีงานทำต้องหาเงินมารักษามารดาซึ่งป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย โชคชะตาเข้าข้างให้เธอได้สมัครมาเป็นเลขาและบุญวาสนาได้ผลักเธออีกครั้งให้มาเป็นผู้หญิงของเขาและตอนนี้เราสองคนกำลังเข้าพิธีวิวาห์ในช่วงเช้าด้วยกัน ตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้ก็เธอกับเขาก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาร่วมหนึ่งปีกว่า ภูผาฉีกสัญญาว่าจ้างระหว่างเธอกับเขาเมื่อชีวิตคู่ของสองเราครบหนึ่งปี"คุณภูผาและคุณบัวบูชาเชิญเซ็นชื่อลงตรงนี้ได้เลยนะครับ"เจ้าหน้าที่จากอำเภอเอ่ยบอกกับคู่บ่าวสาวซึ่งตอนนี้เธอและเขากำลังนั่งอยู่ตรงที่โต๊ะตรงหน้ามีกระดาษสำคัญมีอักษรสีแดงตัวใหญ่เขียนว่าใบสำคัญในการสมรส"ขอแสดงความยินดีกับคุณทั้งสองด้วยนะครับ และผมหวังว่าจะได้ยินข่าวดีเรื่องทายาทเร็ว ๆ นี้""ขอบคุณครับ""ขอบคุณค่ะ"บัวบูชาน้ำตาไหลเธอมองแผ่นกระดาษตรงหน้าตาไม่กะพริบ สัมผัสอ่อนโยนจากปลายนิ้วของชายหนุ่มท
"อื้อ"นิ้วใหญ่สอดเข้าไปในช่องทางรักของหญิงสาวทำเอาเธอส่งเสียงครางออกมา ความคับแน่นตรงส่วนนั้นมันทำให้เธอเชื่อแล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าและคำบอกรักจากปากของเขามันคือเรื่องจริง"คะ...คุณภูผา""ยังคับแน่นเหมือนเดิมอยู่เลยนะ"เขาก้มมองช่องทางรักของเธอซึ่งตอนนี้มีนิ้วของเขาเสียบคาอยู่ด้วยแววตาหื่นกระหาย"เนินใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า""อื้อ อ๊าส์"ริมฝีปากเล็กส่งเสียงครางออกมายามเมื่อชายหนุ่มขยับปลายนิ้วเข้าออกจนตอนนี้เริ่มมีน้ำหล่อลื่นสีใสไหลออกมาใบหน้าของบัวบูชาบิดเบี้ยวแสดงถึงความทรมาน อารมณ์วาบหวามทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินวนอยู่ในช่องท้องยามเมื่อเธอผงกศีรษะขึ้นมองก็ยิ่งเห็นว่าใบหน้าของภูผาอยู่ห่างไม่ไกลจากตรงส่วนนั้นของเธอเท่าไหร่ และมันยิ่งเพิ่มเข้ามาใกล้เมื่อน้ำเมือกใสของเธอเริ่มไหลอาบนิ้วของเขามากยิ่งขึ้น"ขอชิมหน่อยนะ""อย่าค่ะคุณภูผา อื้อ มันสกปรก"แผล็บ แผล็บ แผล็บเสียงห้ามปรามของเธอเล็ดลอดผ่านหูของชายหนุ่ม ปลายลิ้นสากแตะลงบนกลีบอูมทั้งสองข้างทันทีโดยที่ชายหนุ่มไม่เคยคิดจะฟังเสียงห้ามปรามของเธอเลยสักนิดปลายลิ้นสากตวัดเลียดูดดึงเม็ดเสียวด้วยความช่ำชองทำเอาบัวบูชายกเอวจน
บรรยากาศภายในรถยามค่ำคืนเงียบสงัดอากาศช่างหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจของบัวบูชา เธอเอียงศีรษะมองหน้าออกไปยังนอกหน้าต่างรถซึ่งตอนนี้เธอและเขากำลังเดินทางกลับที่พักหลังจากเยี่ยมมารดาของเขาเสร็จภายในรถตกอยู่ในความเงียบตั้งแต่ที่เขาและเธอก้าวขึ้นมาจนเวลาผ่านมาถึงตอนนี้ เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะวางตัวยังไงดีคำพูดของคุณหญิงแห่งตระกูลดังยังคงล่องลอยอยู่ในโซนประสาทหูท่านอยากได้เธอไปเป็นลูกสะใภ้นี่คือสิ่งที่ท่านพร่ำบอกเธอเอาไว้ก่อนจะออกมา แต่ทว่าคนด้านข้างกลับไม่มีปฏิกิริยาแสดงอาการอะไร มันอดไม่ได้ที่จะทำให้เธอคิดว่าเขาคงไม่ต้องการอยากจะเกี่ยวดองกับเธอ นั้นสิเนอะเขาซื้อเธอมาบำเรอความใคร่ใครอยากจะยกตำแหน่งแต่งตั้งให้มาเป็นตัวจริงกันเมื่อคิดได้อย่างนั้นก็เกิดความรู้สึกน้อยใจ เธอคงไร้ค่าไม่เหมาะสมกับคนอย่างเขาหรอก อย่าคิดหวังสูงมากเกินไปบรรยากาศภายในรถยังคงจมอยู่กับความเงียบจนชายหนุ่มขับรถมาถึงคอนโดที่พักทั้งเขาและเธอในตอนนี้ยังไม่มีแม้แต่คำพูดให้กับต่างฝ่ายจนทั้งสองเดินขึ้นไปถึงยังห้องพัก"เธอเป็นอะไรไป"ชายหนุ่มเอ่ยถามเธอทันทีเมื่อทั้งสองก้าวเข้ามาอยู่ในห้องพัก แววตาอมทุกข์ในเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วย
เวลาล่วงเลยไปจนถึงเวลาเลิกงาน บัวบูชารีบเก็บข้าวขอแล้วรีบลงมายอดรอภูผาอยู่ตรงหน้าป้ายรถเมล์ซึ่งก่อนหน้านี้เพียงแค่สิบนาทีชายหนุ่มได้ส่งข้อความมาบอกว่าใกล้จะถึงแล้วให้เธอรีบลงมารอก่อนได้เลยปี๊นบัวบูชาคลี่ยิ้มบาง ๆ ทันทีเมื่อเธอได้เห็นรถของชายหนุ่มเคลื่อนตัวก่อนจะหยุดจอดอยู่ตรงหน้าของเธอหญิงสาวรีบเปิดประตูก้าวขาขึ้นไปนั่งโดยมีสายตาของพนักงานบางคนมองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นเพราะทุกคนล้วนรู้ว่ารถที่ขับมารับบัวบูชานั้นเป็นรถของใคร "เหนื่อยไหม""ไม่เหนื่อยเลยค่ะ แล้วคุณแม่ของคุณภูผาท่านเป็นยังไงบ้างคะ""คุณแม่ท่านฟื้นแล้ว""ยินดีด้วยนะคะ"เธอแสดงออกถึงความจริงใจอย่างเป็นธรรมชาติโดยไร้การปรุงแต่ง รถคันหรูเคลื่อนตัวออกจากหน้าบริษัทขับกลับไปยังเส้นทางเดิมที่ภูผาพึ่งจะขับออกมาจากเมื่อครู่"คุณภูผาจะไปทำธุระที่ไหนเหรอคะ""ธุระที่ฉันว่าเอาไว้ไปทำวันอื่น ส่วนวันนี้ฉันจะพาเธอไปเจอใครคนหนึ่ง""ใครคะ""ไปถึงเดี๋ยวเธอก็จะรู้เอง"ความนัยของเขายิ่งทำให้เธอสงสัยแต่บัวบูชาก็ไม่มีความสามารถมากพอที่จะกล้าถามออกไป เธอได้แต่นั่งเงียบ ๆ อยู่ตรงเบาะข้างคนขับโดยไม่รู้ว่ามีสายตาของชายหนุ่มในตำแหน่งคนขับคอยลอบม
"เก็บกวาดทุกอย่างอย่าให้เหลือร่องรอย""ครับคุณภูผา"หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นชายหนุ่มก็รีบเดินกลับมายังรถคันหรู เขาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาแม่เลขาสาวทันทีที่ก้าวขาขึ้นมานั่งภายในรถ หัวใจแกร่งในตอนนี้กำลังว้าวุ่นเพราะเขากำลังนึกถึงคำพูดของภาคภูมิในเมื่อครู่'นี่กูวางแผนไว้เลยนะ ถ้าเสร็จจากแม่มึงเมื่อไหร่อีบัวบูชาจะเป็นรายต่อไป''...''อยากรู้จริง ๆ ว่านังบัวบูชามันจะเอามันไหม แต่สงสัยจะมันสินะมึงถึงได้ติดใจ อยากรู้จริง ๆ ถ้ากูได้ลิ้มลองร่างอันหอมหวานของบัวบูชามันจะเป็นยังไง'"มึงจะไม่มีวันได้แตะต้องผู้หญิงของกูหรอกไอ้ภาคภูมิ"ภูผากัดฟันกรอดเขานั่งรอสายนานอยู่หลายนาที สายแรกเธอไม่ยอมรับยิ่งทำให้คนรออย่างเขากระวนกระวายใจเข้าไปใหญ่ชายหนุ่มจึงกดต่อสายย้ำอีกครั้งไปหาเขาเร่งสตาทร์รถก่อนจะขับออกมาด้วยความเร็ว"สวัสดีค่ะคุณภูผา"รถคันหรูลดความเร็วลงเมื่อบัวบูชากดรับสายของเขาในเวลาต่อมา เพียงแค่ได้น้ำเสียงสดใสของเธอช่วยคลายความกังวลให้เขาได้"ทำอะไรอยู่ แล้วเมื่อกี้ฉันโทรไปทำไมไม่รับ""บัวพึ่งจะกลับมาจากห้องน้ำค่ะ โทรศัพท์อยู่ในกระเป๋าไม่ได้เอาติดตัวไป"คำอธิบายของเธอคลายอึดอัดภายในใจของภูผา
เปลือกตาหนังอึ้งค่อย ๆ เปิดขึ้นเมื่อแสงแดดของวันส่องกระทบตาม่านตาเริ่มเปิดขยายรับแสงของเช้าวันใหม่ซึ่งวันนี้มีท่อนแขนใหญ่ของภูผากอดเธอเอาไว้ เธออยู่ในห้องพักสุดหรูที่เขาซื้อให้และตอนนี้เธอและเขากำลังนอนอยู่บนเตียงคิงไซซ์ขนาดใหญ่และยังมีชายหนุ่มคอยนอนกอดเธอเอาไว้ ลมหายใจของชายหนุ่มยังคงสม่ำเสมอเขาคงพาเธอกลับมายังที่พักภาพสุดท้ายที่เธอจำได้ก่อนจะหมดสติไปคือเธอและเขากำลังนั่งอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินเธอได้บริจาคเลือดช่วยชีวิตมารดาของภูผาเมื่อเธอยกแขนขึ้นมาก็พบว่ายังมีสำลีก้อนเล็กติดอยู่ตรงที่ข้อพับแขนนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาและเธอนอนกอดกันแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้เธอมีความสุข การที่เธอได้ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดของเขามันทำให้เธอรู้สึกมีความสุข ความสุขที่ผู้หญิงอย่างเธอไม่สามารถเรียกร้องให้เขาทำแบบนี้บ่อย ๆ ได้แต่ถ้าหากเขาทำด้วยความเต็มใจเธอก็ขอเก็บความสุขเหล่านี้เอาไว้ถ้าหากวันใดวันหนึ่งเธอไม่ได้มีสิทธิ์ยืนอยู่ในตรงจุดนี้อย่างน้อยก็ยังมีความรู้สึกดี ๆ ที่เขาเคยทำให้ถูกเก็บเอาไว้ในความทรงจำ"บัวรักคุณนะคะ"ถ้าหากเขาตื่นเธอคงไม่กล้าที่จะบอกคำคำนี้ให้ชายหนุ่มได้ยิน ผู้หญิ
ตึก ตึก ตึกเสียงรองดังกระทบพื้นยามเมื่อทั้งสองวิ่งตรงเข้าไปยังห้องฉุกเฉินด้วยความเร่งรีบ เพราะหลังจากที่ภูผาขับรถพาเธอมาถึงโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังชายหนุ่มก็รีบพาเธอวิ่งมาถึงตรงจุดนี้ทันที"พ่อ แม่เป็นยังไงบ้างครับ"น้ำเสียงเหนื่อยหอบของผู้เป็นลูกชายเอ่ยถามบิดาที่นั่งหน้าเครียดแววตาคิดไม่ตกกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหตุเกิดเพราะภรรยาสาวขอร้องขอเธออยากจะออกมาซื้อของโดยที่ไร้ผู้ติดตาม น้ำเสียงออดอ้อนดั่งลูกแมวน้อยของเธอทำให้เขาใจอ่อนยอมอนุญาต แต่ใครจะไปคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ชิงทรัพย์เกิดขึ้นแต่โชคไม่ดีที่ภรรยาของได้รับบาดเจ็บจากการชิงกระชากกระเป๋าระหว่างเธอกับโจรผู้ร้ายมีดปลายแหลมที่ปักอยู่บริเวณท้องและไหนเลือดสีแดงสดมากมายที่ไหลทะลักออกมาทำเอาผู้เป็นสามีอย่างเขาไร้เรี่ยวแรงที่จะยืนไหว เขาไม่เคยทำให้ภรรยาเจ็บช้ำไม่เคยคิดจะลงไม้ลงมือกับเธอเลยสักครั้ง แล้วโจรใจบาปคนนั้นมันเป็นใครทำไมถึงได้กล้าทำร้ายดวงใจของเขาให้เจ็บช้ำได้"พ่อเองก็ยังไม่รู้ หมอพาเข้าไปด้านในยังไม่ออกมาเลย""คุณพ่อไม่ต้องเป็นกังวลนะครับ ผมเชื่อว่าคนดี ๆ อย่างคุณแม่จะต้องปลอดภัย""พ่อก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น"คุณสุทธิเกียรติตอบลูกชาย
ช่วงเวลาผ่านพ้นไปหนึ่งสัปดาห์หลังจากเสร็จสิ้นเรื่องงานศพของมารดาก็ใช่ว่าบัวบูชาจะทำใจได้แต่ชีวิตของเธอก็ยังคงต้องเดินหน้าต่อไป นี่เป็นวันแรกที่เธอต้องกลับมาทำงานใหม่อีกครั้งหลังจากหยุดพักใจไปหนึ่งอาทิตย์เต็มตึก ตึก ตึกหญิงสาวในชุดทำงานเดินเข้ามาภายในบริษัทใหญ่พนักงานที่เดินผ่านไปมาต่างเข้ามาแสดงความเสียใจกับการสูญเสียคนในครอบครัวครั้งใหญ่ของเธอ ก๊อก ก๊อก ก๊อก"เชิญ"ประตูห้องทำงานถูกผลักเมื่อได้ยินเสียงอนุญาตจากคนด้านใน บัวบูชาผลักประตูเดินเข้าไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของภูผา"ยังไม่ครบกำหนดที่ฉันให้เธอลาพักเลยนี่ รีบกลับมาทำงานทำไม""บัวไม่อยากหยุดงานนาน ๆ ค่ะ"ภูผาลุกขึ้นเขาเดินอ้อมโต๊ะมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของเธอก่อนจะคว้างร่างสวยของบัวบูชาเข้ามากอด"ถ้ายังไม่ไหวก็ไม่ต้องทำตัวเข้มแข็งก็ได้นะ""...""อยู่กับฉันเธอไม่ต้องจำเป็นทำตัวให้เข้มแข็งเสมอไป"คำพูดของเขาด้วยน้ำเสียงโทนอ่อนโยนสามารถเรียกน้ำตาของเธอได้ หญิงสาวก้มศีรษะซุกใบหน้าลงบนแผงอกแกร่งของชายหนุ่ม ความเข้มแข็งก่อนหน้านี้พังทลายลงจนหมดสิ้น"ฮึก"เธอร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดเขาโดยที่ภูผาไม่คิดจะดันตัวของเธอออก เสียงสะอื้นที่ดังขึ
ราวกับโลกทั้งใบถล่มลงมาตรงหน้าของบัวบูชา มือไม้ทั้งสองข้างสั่นจนไม่สามารถจับโทรศัพท์เอาไว้ได้อีกต่อไป เพล้งหัวใจดวงน้อยปวดหนึบเมื่อรับรู้ข่าวร้าย ทำไม ทำไมชีวิตของเธอจะต้องมาสูญเสียคนที่เธอรักด้วย ทำไมกัน"ฮึก"น้ำตาแห่งความเสียใจไหลทะลักออกมา เธอทรุดกายนั่งลงกับพื้นด้วยความหมดแรง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ภูผารีบเปิดประตูวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาเมื่อเขาได้ยินเสียงบางอย่างตกพื้นตามด้วยเสียงสะอื้นซึ่งดังมาจากด้านใน"บัว เธอร้องไห้ทำไมเธอเป็นอะไร"ชายหนุ่มรีบวิ่งเข้ามาคว้าร่างของบัวบูชาเข้าไปกอดเมื่อเขาเห็นเธอนั่งกองอยู่บนพื้นแถมร้องไห้ออกมาอย่างหนัก น้ำตามากมายพรั่งพรูออกมาราวกับทำนบแตกนั้นยิ่งทำให้เขาเริ่มใจไม่ดี สองแขนโอบกอดเธอเอาไว้อย่างเหนียวแน่นเมื่อคนในอ้อมแขนร้องไห้จนตัวสั่น"ฮึก คุณภูผา""เป็นอะไรบัว ใครทำอะไรเธอ"เขาถามหญิงสาวในอ้อมกอดด้วยน้ำเสียงร้อนรน แต่เธอกลับส่ายหน้าไปมาน้ำตาไหลไม่ขาดสาย"แม่ ฮึก แม่ของบัวท่านเสียแล้ว"ภูผาช็อกไปชั่วขณะเมื่อได้ยินบัวบูชาพูดคำนั้นออกมา เขารีบตั้งสติกอดเธอไว้อย่างเหนียวแน่นเมื่อคนในอ้อมแขนร้องไห้ออกมาอย่างหนักตามด้วยเสียงสะอื้นของเธอ"ฮึก แม่ท