Share

บทที่ 583

Author: พิณเคล้าสายฝน
last update Last Updated: 2024-11-07 18:00:01
อวี๋หว่านหนิงถลึงตาใส่หญิงชรา พลางกล่าว “เพียงแค่ยาขวดเดียว ไม่เป็นไรหรอก ข้ากับแม่นางผู้นี้ถูกชะตากันนัก หากช่วยให้นางสุขภาพดีขึ้นได้ ก็นับว่าได้ตอบแทนบุญคุณของนาง”

น่าอยู่หรอกที่หญิงชราจะตื่นเต้น

เพราะยาชนิดนี้หายากนัก แก้ได้สารพัดพิษ รักษาได้ทุกโรค ทั่วทั้งวังเป่ยหรงมีเพียงขวดเดียวเท่านั้น

เนื่องจากอวี๋หว่านหนิงมีสุขภาพอ่อนแอ ฮ่องเต้เป่ยหรงจึงให้นางพกติดตัวไว้ แต่นางกลับมอบให้หลินซวงเอ๋อร์อย่างง่ายดาย

หลินซวงเอ๋อร์เห็นหญิงชราตื่นเต้นเช่นนี้ จึงไม่ได้เอื้อมมือไปรับ พลางกล่าว “ฮูหยินอย่าได้เกรงใจ เพียงแค่ป่วยเล็กน้อย หมอได้จัดยาให้ข้าแล้ว พักฟื้นสักหลายวันก็คงดีขึ้น”

อวี๋หว่านหนิงกลับยืนกรานจะมอบยาให้นางให้ได้ พลางกล่าว “ยาที่หมอจัดให้หากได้ผลจริง เจ้าคงไม่มีใบหน้าที่ซีดเซียวเช่นนี้ ยาตัวนี้ล้ำเลิศนัก เหมาะกับการปรับสมดุลทั้งกายและใจ เจ้ารับไว้ก่อน ในวัง...บ้านข้ายังมีอีกหลายขวด”

หลินซวงเอ๋อร์ยากจะปฏิเสธได้ จึงจำต้องรับไว้

บนโต๊ะกินข้าว ทุกคนพูดคุยสนทนาอยู่นาน เมื่อเห็นว่าใกล้ค่ำมากแล้ว อวี๋หว่านหนิงจึงไม่คิดรั้งตัวไว้อีก

ก่อนจากลา หลินซวงเอ๋อร์และฮุ่ยอี๋เดินนำหน้า โดยมีไป๋อวี
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Umpai Cha-um
ฮองเฮาพาน้องหลินซวงเออร์กลับไปด้วยเลยนะ ให้น้องได้พักใจพักกายจนแข็งแรงกว่านี้
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 584

    ท้องถนนยังพอคึกคักอยู่บ้าง ร้านค้าสองข้างทางแขวนโคมไฟสีแดง รอบข้างแลดูสว่างไสว กระจ่างตาจนขาวโพลนไปทั่วในเวลานี้ จันทราอยู่กลางหาว ทอดเงาลางเรือนลงสู่ผิวน้ำ พาให้พลิ้วไหวเบาๆริมฝั่งน้ำเห็นต้นหยางหลิ่วไหวเอน เรือลำน้อยลอยอยู่กลางบึง บนเรือยังมีเสียงพิณลอดมา ฟังแล้วไฟเราะเสนาะหูยิ่ง มีคนหลายคนเดินออกจากโรงเตี๊ยม มุ่งตรงไปยังริมฝั่งน้ำผ่านแผงลอยที่ขายโคมไฟอยู่หลายแผง ฮุ่ยอี๋อดไม่ได้ที่จะเหลียวมองซ้ำๆโคมไฟที่ทำจากฝีมือชาวบ้าน มีความช่างประดิดประดอย แม้วัสดุที่ใช้จะดูพื้นๆ แต่ฝีมือนับว่าเป็นเลิศนักวันนี้มีผู้คนมาเที่ยวงานโคมไฟจนแน่นขนัด ส่วนใหญ่จะมาเป็นกลุ่ม และในมือหญิงสาวทุกคนจะมีโคมไฟเล็กที่แลดูน่ารักยิ่งฮุ่ยอี๋เห็นเข้าก็ถูกใจยิ่ง และนางก็เดินไปซื้อไป ไม่นานเงินที่พกมาก็ถูกใช้จ่ายจนสิ้นแต่นางก็ยังถูกใจไปเสียหมด ถึงขั้นยืนอยู่หน้าแผงลอยไม่ยอมจากไปไหนหลินซวงเอ๋อร์รู้สึกจนปัญญาด้วยความที่เร่งรีบออกมา นางจึงไม่ได้พกเงินสักแดง แม้ว่าฮุ่ยอี๋จะชอบสิ่งใด นางก็ไม่มีเงินจะซื้อให้ได้ไป๋อวี้ถังอ่านความคิดของพวกนางออก จึงรีบเดินขึ้นไปพร้อมกล่าว “องค์หญิงชอบสิ่งใดบ้าง ข้าน้อยจะซื

    Last Updated : 2024-11-07
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 585

    ไป๋อวี้ถังนับว่าโชคดี โคมไฟกระต่ายน้อยนี้ดูเป็นงานที่ประณีต คนขายยังมอบให้โดยไม่คิดเงินหลินซวงเอ๋อร์คิดในใจ อาจเพราะโคมไฟของฮุ่ยอี๋มีราคาแพง เถ้าแก่จึงแถมให้อีกหนึ่งโคมก็เป็นได้เมื่อคิดได้ดังนี้ หลินซวงเอ๋อร์จึงยอมรับมานางถือไว้ในมือ รู้สึกพอใจยิ่ง คิดว่าจะนำกลับไปแขวนไว้ในห้องเล็กของเหมาเหมากับหรงหรง น่าจะเหมาะสมที่สุดในขณะที่ฮุ่ยอี๋รู้สึกไม่ชอบมาพากลไป๋อวี้ถังทำเช่นนี้ต้องการสิ่งใดกันแน่?หรือว่า...ฮุ่ยอี๋คล้ายกับคาดเดาได้บางอย่างฉวยโอกาสที่หลินซวงเอ๋อร์ไม่ทันสังเกต นางแสร้งเดินช้าลง ไปอยู่ด้านหลังกับไป๋อวี้ถัง“คนแซ่ไป๋ เจ้าหวังสิ่งใดกันแน่” ฮุ่ยอี๋ลดเสียงลงถามเขาไป๋อวี้ถังใช้สายตาประหลาดใจมองดูนาง“องค์หญิงกล่าวหนักไปแล้ว ข้าน้อยจะหวังอะไรได้”ฮุ่ยอี๋กล่าวตอบ “อย่ามาเสแสร้งหน่อยเลย ข้าเห็นสายตาที่เจ้ามองดูซวงเอ๋อร์ไม่ปกติ เจ้าคงไม่ได้ชอบนางเข้าหรอกนะ”ไป๋อวี้ถังแอบสะดุ้งในใจแต่ยังแสร้งทำเป็นยิ้มใจเย็น พลางกล่าว “องค์หญิงล้อเล่นไปแล้ว ข้าจะชอบแม่นางซวงเอ๋อร์ได้อย่างไร”ฮุ่ยอี๋หรี่ตาเล็กน้อย พลางกล่าว “ยังจะแก้ตัวอีก หากไม่ชอบซวงเอ๋อร์จริง ไยจึงต้องตั้งใจเลือก

    Last Updated : 2024-11-08
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 586

    “ยอมรับสิ่งใดกัน” หลินซวงเอ๋อร์มองหน้าทั้งคู่ด้วยความแปลกใจไป๋อวี้ถังสีหน้าเคร่งขรึมขณะมองฮุ่ยอี๋ พร้อมสายตามีแววตักเตือนฮุ่ยอี่ย่อมไม่กล้าพูดความจริง จึงได้แต่หาข้ออ้างกลบเกลื่อน “ข้าเพียงหยอกเขาเล่นเท่านั้น แค่นี้ก็ต้องร้อนตัวด้วย ราวกับเป็นเรื่องใหญ่เสียเต็มประดา...”กล่าวพลาง ฮุ่ยอี๋ยกเท้าเดินก้าวอาดๆ ไปข้างหน้า จนสุดทางยังไม่ลืมหันหน้ามากล่าวต่อไป๋อวี้ถัง “ข้าวของที่หล่นอยู่ตามพื้น อย่าลืมเก็บขึ้นมาด้วย ถ้าขาดแม้แต่อย่างเดียว ข้าคงไม่กล้ารับรอง...ว่าจะหลุดปากบางอย่างหรือไม่?”เป็นครั้งแรกที่ไป๋อวี้ถังรู้สึกถึงการถูกผู้อื่นข่มขู่ มิน่าวันนี้นับแต่ออกมาข้างนอก หนังตาข้างหนึ่งก็กระตุกอยู่ตลอด ในที่สุดก็เข้าใจถึงสาเหตุเพราะออกจากจวนมาไม่ทันได้ดูฤกษ์ยาม มิเช่นนั้นจะพบเจอองค์หญิงจอมแก่นผู้นี้ได้อย่างไรณ จวนตระกูลไป๋จู่ๆ เยี่ยเป่ยเฉิงมาเยือน บอกว่ามีเรื่องจะหารือกับไป๋อวี้ถังแต่พ่อบ้านตระกูลไป๋มารายงานว่า ไป๋อวี้ถังออกไปแต่เช้าตรู่ จนป่านนี้ยังไม่กลับมา“ใต้เท้าของท่านไปที่ใด?”พ่อบ้านกล่าวตอบ “ใต้เท้ามิได้แจ้งไว้ขอรับ แต่ปกติเขาไม่เคยไปค้างอื่นอยู่ที่อื่น ถึงเวลาก็มักจะก

    Last Updated : 2024-11-08
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 587

    ที่สำคัญ ตำแหน่งของชั้นวางหนังสือก็ดูแปลกประหลาดยิ่งเยี่ยเป่ยเฉิงกวาดสายตาไปทั่วห้อง สุดท้ายก็ไปตกที่แจกันใบหนึ่งเขาจำได้ว่าปกติไป๋อวี้ถังไม่ใช่คนมีอารมณ์สุนทรีย์อะไรนัก แล้วเหตุใดจึงมีแจกันลวดลายเลอะเทอะมาวางอยู่ในห้องนี้?ซึ่งไม่เพียงแลดูน่าเกลียด ยังไม่เข้ากับบรรยากาศในห้องเป็นอย่างมากด้วยเมื่อนึกถึงตรงนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงแทบไม่คิดอะไร เดินไปจะหยิบแจกันขึ้นมา แต่ปรากฏว่ามันถูกทำให้ติดแน่นอยู่กับโต๊ะไว้ เยี่ยเป่ยเฉิงคิ้วกระตุกเล็กน้อย พลางหมุนตัวแจกันเบาๆ ฉับพลันก็ได้ยินเสียง ‘แกร่ก’ คล้ายมีกลไกบางอย่างได้ถูกเขาสัมผัสเข้าถัดจากนั้น เขาจึงเห็นโต๊ะเบื้องหน้าถูกแบ่งแยกเป็นสอง ตรงกลางแยกออกเป็นช่องโหว่รอยแยกนั้นค่อยๆ กว้างขึ้น จวบจนมีประตูลับบานหนึ่งปรากฏต่อหน้าเยี่ยเป่ยเฉิงเยี่ยเป่ยเฉิงเหยียดริมฝีปาก “อ้อ ที่แท้ยังมีกลไกอื่น หรือว่า จะมีความลับที่ซ่อนเร้นอยู่ข้างใน?”และโดยไม่ต้องใช้ความคิด เขารีบผลักประตูลับทันทีด้านในประตูนั้น คล้ายเป็นห้องใหม่อีกห้องหนึ่ง เป็งห้องที่ไม่กว้างมาก เพียงวางโต๊ะหนังสือหนึ่งตัวและเตียงนอนอีกหนึ่งหลัง นอกเหนือจากนี้ก็ไม่มีสิ่งของอื่นอีกเยี่

    Last Updated : 2024-11-09
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 588

    ค่ำคืนยามดึกท้องถนนมีคนสัญจรเหลือน้อยลง ต่างพากันรีบเร่งกลับบ้านร้านค้าที่เคยคึกคักก็ทยอยปิดร้านเดินเที่ยวมาทั้งวัน ฮุ่ยอี๋รู้สึกเหนื่อยล้ายิ่ง จึงเอ่ยปากขอตัวกลับก่อนไป๋อวี้ถังได้เตรียมรถม้าไว้สองคันนานแล้ว โดยให้ฮุ่ยอี๋และหลินซวงเอ๋อร์โดยสารคันเดียวกัน ส่วนตนอยู่อีกคันหนึ่งคอยตามหลังพวกนาง จากนั้นก็จะส่งให้ถึงจวนอย่างปลอดภัย หลินซวงเอ๋อร์ก็ง่วงนอนจนเกือบไม่ไหว นางหาวติดต่อกันหลายครั้ง คิดอยากกลับจวนนานแล้วอีกอย่าง วันนี้ได้ออกมาเดินเล่น นางรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาก ความเครียดที่อัดอั้นมาหลายวันก็ค่อยเลือนหาย อาการเจ็บหน้าอกก็ไม่ได้กำเริบขึ้นอีกเห็นทีว่า ไป๋อวี้ถังกล่าวถูกแล้ว นางคงเก็บตัวอยู่ในจวนจนเสียสุขภาพ สมควรออกมาผ่อนคลายข้างนอกบ้างรถม้าค่อยๆ เคลื่อนไป หลินซวงเอ๋อร์นั่งติดริมหน้าต่าง มองดูท้องฟ้ามืดมนภายนอก รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นเป็นอย่างมากด้านข้างนั้น จู่ๆ ฮุ่ยอี๋ก็ได้ถามขึ้น “วันนี้รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง อารมณ์ดีขึ้นหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์หันมามองฮุ่ยอี๋ พลางกล่าวยิ้มๆ “ดีขึ้นมาก”ฮุ่ยอี๋กล่าวปลอบใจ “ถ้าเช่นนั้นยังโกรธเสด็จอาอยู่อีกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์ยิ้มค้า

    Last Updated : 2024-11-09
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 589

    “คืนนั้น ข้าทะเลาะกับเขารุนแรง หลังจากสงบสติลง ข้าก็รู้สึกตกใจมาก”“ข้าไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไร ทั้งหมดนี้ไม่เหมือนข้าเลย แต่ข้ากลับควบคุมตัวเองไม่ได้ เมื่อยามเผชิญหน้ากับเจียงหว่าน ข้าถึงขั้นเกิดความริษยาขึ้นในใจ หรือแม้แต่...คิดอยากจะฆ่านางเสีย”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ร่างกายนางก็เริ่มสั่นระริก“แต่หลังจากสงบสติ ข้าก็รู้สึกกลัวมาก”“ฮุ่ยอี๋ เหตุใดข้าจึงกลายเป็นคนเลวร้ายเช่นนี้ ข้าควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้เลย” นางมองดูนิ้วมือที่สั่นระริกของตน กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “เคราะห์ดี ข้ายังไม่ได้ทำการใดบุ่มบ่าม”ฮุ่ยอี๋กล่าวด้วยความเห็นใจ “ซวงเอ๋อร์ เจ้าเพียงแต่เครียดเกินไปเท่านั้น สมควรออกมาเดินเล่นให้บ่อยขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็ไม่ต้องอัดอั้นตันใจอีก”หลินซวงเอ๋อร์กล่าวตอบ “ใช่ ข้าก็คิดเช่นนั้น วันนี้เมื่อได้ออกมา ข้ารู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาก”ฮุ่ยอี๋กล่าว “เช่นนั้นเจ้ายังโกรธเขาอีกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์ครุ่นคิดครู่หนึ่ง พลางส่ายหน้าและกล่าวยิ้มๆ “ไม่โกรธแล้ว ท่านอ๋องรับปากข้า ว่าวันนี้จะส่งตัวเจียงหว่านกลับไป เขาตามใจข้าเช่นนี้ ข้าก็ไม่มีเหตุผลจะอาละวาดอีก”ฮุ่ยอี๋กล่าวปลอบใจ “เ

    Last Updated : 2024-11-10
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 590

    รถม้ามาหยุดที่หน้าจวนบ่าวรับใช้เลิกผ้าม่านขึ้น ฮุ่ยอี๋และหลินซวงเอ๋อร์ทยอยลงจากรถม้ามา ไป๋อวี้ถังตามหลังมาอีกทีหลินซวงเอ๋อร์ยืนอยู่หน้าจวน มองดูสองคนที่พัวพันอยู่ด้านหน้า สายตาจับจ้องไปยังมือของเจียงหว่านที่จับแขนเสื้อของเยี่ยเป่งเฉิงอยู่ พลางขมวดคิ้วเล็กน้อยเขาได้สัญญาแล้วว่า จะให้เจียงหว่านจากไปมิใช่รึ?แล้วนี่เกิดเรื่องอันใดขึ้นอีก หรือว่า เขาเกิดใจอ่อนอีกครั้ง?เมื่อนึกถึงตรงนี้ หลินซวงเอ๋อร์บอกไม่ถูกว่าในใจรู้สึกอย่างไร คล้ายถูกของหนักมากระแทกอย่างแรง หรือไม่ก็มีก้อนหินมากดทับที่หน้าอกพอดี จนนางหายใจไม่ออกเมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของหลินซวงเอ๋อร์ เยี่ยเป่ยเฉิงก็รีบปัดมือเจียงหว่านออกไป และกำลังคิดจะอธิบาย สายตาเหลือบไปเห็นไป๋อวี้ถังเดินตามหลังหลินซวงเอ๋อร์มา พลันสีหน้าก็ขรึมลงไปอีกเขานึกถึงภาพเขียนที่เห็นในห้องลับ แต่ละภาพล้วนวนเวียนอยู่ในสมอง ยิ่งอยากลืมเท่าใด ก็ยิ่งจดจำมากขึ้นเท่านั้นแต่ละภาพคล้ายมีชีวิตและถูกสลักตราตรึงอยู่ในห้วงคำนึงของเขา เมื่อนึกขึ้นมาครั้งใด ไฟโทสะก็คุขึ้นครานั้นหางตาเขาเริ่มแดงเรื่อขึ้น ดวงตาดำขลับจ้องมองหลินซวงเอ๋อร์เขม็ง คล้ายต้องการจับพิรุธ

    Last Updated : 2024-11-10
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 591

    แม้ว่ารอยยิ้มนางจะดูค่อนข้างฝืน แต่น้ำเสียงฟังแล้วอ่อนโยน แฝงด้วยการเอาอกเอาใจเยี่ยเป่ยเฉิงสูดลมหายใจหนัก ทรวงอกคล้ายมีเปลวไฟคุกรุ่น มองดูท่าทีเอาอกเอาใจของหลินซวงเอ๋อร์ ยังคงเฉยเมยไม่พูดจาทันใดนั้น ไป๋อวี้ถังตามขึ้นมาบ้าง พลางกล่าวยิ้มๆ “ข้าดูโคมไฟกระต่ายน้อยเหมาะกับแม่นางซวงเอ๋อร์ จึงไปเจรจากับคนขาย เขาจึงยกให้โดยไม่คิดเงิน ได้ยินว่าในบ้านเจ้าก็มีเลี้ยงกระต่าย ช่างบังเอิญนัก”“เจ้าเป็นคนให้นางรึ?” เยี่ยเป่ยเฉิงแววตาเย็นชา สีหน้าพลอยขรึมตามไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “ใช่ ทำไมรึ?”เยี่ยเป่ยเฉิงเม้มปากแน่น ขบฟันจนใกล้จะแตก“ท่านอ๋อง เป็นอะไรหรือเจ้าคะ?” หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล จึงเอื้อมมือไปกระตุกแขนเสื้อของเขาเยี่ยเป่ยเฉิงไม่ตอบ มีแต่จ้องหน้าไป๋อวี้ถังไป๋อวี้ถังพลันเห็นความไม่พอใจจากแววตาขุ่นมัวของเขา ทำให้รู้สึกแปลกใจยิ่งทันใดนั้น เจียงหว่านอยู่ข้างๆ จึงได้กล่าว “ใต้เท้าไป๋ช่างมีน้ำใจต่อน้องซวงเอ๋อร์นัก โคมไฟนี้แลดูประณีต ราคาคงจะไม่น้อยสิท่า?”ไป๋อวี้ถังกล่าวยิ้มๆ “ไม่ต้องใช้เงิน ข้าบอกแล้วว่าเถ้าแก่แถมให้มาอีกอัน ข้าจึงรับแทนแม่นางซวงเอ๋อร์”เจียงหว่านเม้มปาก

    Last Updated : 2024-11-11

Latest chapter

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

DMCA.com Protection Status