แชร์

บทที่ 495

ผู้เขียน: พิณเคล้าสายฝน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-16 18:00:01
เยี่ยเฉิงเป่ยกล่าว “เป็นไปได้อย่างไร ข้าจะไปชอบผู้อื่นได้อย่างไร แต่ไหนแต่ไรข้าก็ชอบแต่ซวงเอ๋อร์เพียงผู้เดียว”

เขากลัวหลินซวงเอ๋อร์จะไม่เชื่อ จึงได้กล่าวต่อ “หากเจ้าไม่เชื่อจริงๆ ข้าจะสาบานให้เดี๋ยวนี้”

“หากมีสักวันที่ข้านอกใจซวงเอ๋อร์จริง ขอสวรรค์ลงโทษให้ข้าไม่ตายดี ตกนรกหมกไหม้...”

“อย่า” หลินซวงเอ๋อร์ปิดเขาเขาไว้ ไม่ยอมให้กล่าวต่ออีก

“ข้าไม่ต้องการให้ท่านตาย คำสาบานนี้ไม่เป็นผล” หลินซวงเอ๋อร์เป็นคนถือเรื่องเหล่านี้ ฉะนั้นหากมีสิ่งใดเกี่ยวข้องถึงความปลอดภัยของสามี นางจะไม่ยอมให้เขาพูดส่งเดชอีก

เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวตอบ “ไม่เป็นผลได้อย่างไร เมื่อเอ่ยจากปากแล้ว ก็ต้องเห็นผลทั้งสิ้น”

หลินซวงเอ๋อร์กล้าถกเถียงกับเขา “ไม่เป็นผล คำสาบานของท่านพี่ไม่เป็นผล”

เยี่ยเป่ยเฉิงเห็นความจริงจังของนาง จึงได้ยอมตามใจ “ก็ได้ เมื่อซวงเอ๋อร์กล่าวว่าไม่เป็นผล เช่นนั้นก็ไม่เป็นผล ข้าจะสาบานให้ใหม่อีกครั้ง”

หลินซวงเอ๋อร์กล่าวตอบ “ท่านอย่าได้สาบานอีกเลย แม่ข้าเคยบอกไว้ เหนือหัวเราขึ้นไปมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยดูอยู่ เรื่องบางอย่างจึงห้ามพูดส่งเดช”

เยี่ยเป่ยเฉิงแสร้งมีท่าทีจริงจัง “แต่คำสาบานได้ออกไปแล้ว สิ่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 496

    ในค่ำคืนนี้ หลินซวงเอ๋อร์นอนหลับสนิท แทบจะไม่ฝันตลอดทั้งคืนเช้าวันรุ่งขึ้นพอตื่นขึ้นมา หลินซวงเอ๋อร์พลิกตัวไปโดยไม่รู้ตัว แต่กลับนึกไม่ถึงว่าจะพลิกไปยังอ้อมกอดของคนคนหนึ่งพอลืมตาขึ้นก็พบว่าเยี่ยเป่ยเฉิงกำลังใช้มือข้างเดียวพยุงศีรษะ สายตาลึกซึ้งจับจ้องนางอย่างไม่วางตา ไม่รู้ว่าเขามองนางอยู่นานเท่าไรแล้ว"ซวงเอ๋อร์ตื่นแล้วหรือ?" เยี่ยเป่ยเฉิงเอื้อมมือไปเกลี่ยเส้นผมที่หน้าผากของนางด้วยความอ่อนโยนหลินซวงเอ๋อร์ขยี้ตาและกล่าวว่า "ท่านจะไปค่ายทหารไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงยังไม่ไปเล่า?"นางยังคิดว่าเขาคงออกไปตั้งนานแล้ว เยี่ยเป่ยเฉิงเอ่ย "อยากอยู่กับซวงเอ๋อร์มากๆ หน่อย"หลินซวงเอ๋อร์กล่าว "ถ้าเช่นนั้นทำไมท่านถึงไม่ปลุกข้าเล่า?"เยี่ยเป่ยเฉิงเอ่ย "ข้าอยากให้ซวงเอ๋อร์ได้นอนหลับอย่างเต็มที่"ได้ฟังดงเหมยกล่าวว่า หลินซวงเอ๋อร์ไม่ได้หลับสนิทมาหลายวันแล้ว เยี่ยเป่ยเฉิงจึงรู้สึกปวดใจมาก เมื่อคืนเห็นนางหลับได้อย่างสบาย เขาจึงไม่อยากปลุกนางพอเห็นนางหลับจนตื่นขึ้นเอง เขาถึงได้เลิกผ้าห่มลุกจากที่นอนหลินซวงเอ๋อร์รีบลุกขึ้นช่วยเขาสวมเสื้อผ้า"ท่านจะไปเมื่อไร? จะกินอาหารเช้าในจวนไหม?" หลินซวงเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-16
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 497

    เยี่ยเป่ยเฉิงเห็นหลินซวงเอ๋อร์รับประทานอาหารได้นิดเดียว จึงเอ่ยถามด้วยความห่วงใย "อาหารไม่ถูกปากหรือ?"หลินซวงเอ๋อร์วางชามและตะเกียบลงและกล่าวว่า "ช่วงนี้ไม่ค่อยเจริญอาหาร กินอะไรก็ไม่ลง..."เยี่ยเป่ยเฉิงก็วางชามลงเช่นกัน ยื่นมือไปสัมผัสหน้าผากของนาง พบว่านางไม่มีอาการผิดปกติและไม่ได้มีไข้ตัวร้อนเมื่อคิดถึงสิ่งที่ตงเหมยกล่าว ตอนกลางคืนหลินซวงเอ๋อร์มักนอนหลับไม่สนิท มักจะฝันจนตื่นกลางดึก เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกไม่สบายใจจึงกล่าว "เดี๋ยวข้าจะหาหมอมาดูอาการซวงเอ๋อร์ ว่าเจ้าป่วยจริงหรือไม่"ทันใดนั้น เสียงหญิงสาวจากนอกห้องก็แทรกดังขึ้นมา"ท่านอ๋องยังจะหาหมออีกทำไม? ข้าก็คือหมอที่พร้อมให้บริการอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?"หลินซวงเอ๋อร์หันไปตามเสียง พบว่าเป็นเจียงหว่านที่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มเจียงหว่านเหลือบมองไปที่หลินซวงเอ๋อร์ จากนั้นก็เดินตรงไปหาเยี่ยเป่ยเฉิง กล่าวว่า "ท่านอ๋องยังต้องการหมออยู่หรือ? ไม่เชื่อในฝีมือของข้าหรือ?"เยี่ยเป่ยเฉิงทำสีหน้าท่าทีเฉยชา กล่าวเสียงเรียบ "เจ้ามาที่นี่ทำไม? ข้าไม่ได้ให้เจ้าอยู่ที่ค่ายทหารหรือ?"เจียงหว่านเอ่ยว่า "ข้าก็เป็นห่วงแม่นางหลินสภาพร่างกายไม่ค่อยด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-17
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 498

    ตัวอักษรเยี่ยที่หลินซวงเอ๋อร์เขียนแตกต่างจากคนอื่น นางมักจะลืมว่าต้องมีจุดตรงกลางอยู่เสมอ เยี่ยเป่ยเฉิงสอนนางมาหลายครั้ง แต่นางก็ยังจำไม่ได้ตอนแรกที่นางส่งกระเป๋านี้ให้เขา เยี่ยเป่ยเฉิงก็สังเกตเห็นว่าตรงกลางตัวอักษร "เยี่ย" ขาดจุดไปแต่อักษร "เยี่ย" ที่อยู่บนกระเป๋าตอนนี้ แม้ว่าลายมือจะคล้ายกับที่หลินซวงเอ๋อร์เขียน แต่กลับมีจุดตรงกลางนี่ไม่ใช่กระเป๋าที่หลินซวงเอ๋อร์มอบให้เขาในตอนแรก!เยี่ยเป่ยเฉิงจึงถึงบางอ้อทันที เข้าใจว่าทำไมนางถึงมีท่าทีแปลกๆ ในวันนี้ที่แท้ นางดูออกตั้งนานแล้วว่า กระเป๋านี้ไม่ใช่ใบนั้นที่นางให้เขา!เมื่อนึกถึงสายตาที่นางส่งเขาอย่างเงียบๆขณะยืนอยู่ที่หน้าประตูจวน เยี่ยเป่ยเฉิงก็เข้าใจทั้งหมดในพลันใด นางคงคิดว่าเขารับกระเป๋าจากแม่หญิงคนอื่นแล้วแน่นอน!เขานี่แย่จริงๆ ที่เพิ่งมาสังเกตเห็น!"หยุดรถ!" เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วแน่น และยังไม่ทันรอให้รถหยุด เขาก็กระชากม่านเกี้ยวและเดินกลับไปอย่างรวดเร็วในขณะนั้น หลินซวงเอ๋อร์เห็นว่ารถม้าของเยี่ยเป่ยเฉิงไปแล้ว จึงเตรียมที่จะหันหลังกลับเข้าจวน"ซวงเอ๋อร์!" แต่แล้วเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากด้านหลัง พอนางหันไปก็พบว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-17
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 499

    เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า "ดี อย่าลืมใส่สมุนไพรอ้ายเฉ่าลงไปด้วยนะ"หลินซวงเอ๋อร์เอ่ย "ท่านชอบสมุนไพรอ้ายเฉ่าหรือ?"เยี่ยเป่ยเฉิงตอบ "ไม่ชอบ แต่สมุนไพรอ้ายเฉ่าทำให้ข้าอยู่ใกล้ซวงเอ๋อร์มากขึ้น"ถึงแม้หลินซวงเอ๋อร์ฟังแล้วไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ถามต่อ พยักหน้าและกล่าวว่า "ได้ ซวงเอ๋อร์จะจำไว้"เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว "อีกไม่กี่วันก็ถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว ในช่วงนี้ข้าอาจจะยุ่งมาก แต่เทศกาลไหว้พระจันทร์จะกลับมาอยู่กับซวงเอ๋อร์"หลินซวงเอ๋อร์ยิ้มตาเป็นประกาย ราวกับดวงดาวในท้องฟ้ากว้าง นางกล่าว "ได้ ซวงเอ๋อร์จะมอบกระเป๋าที่ปักให้กับท่านในเทศกาลไหว้พระจันทร์"เยี่ยเป่ยเฉิงยิ้มที่มุมปาก "ได้ ถึงตอนนั้นข้าจะโคมไฟดอกบัวเป็นเพื่อนซวงเอ๋อร์ ไปล่องเรือในทะเลสาบ และซื้อโคมไฟสวยๆ มากมายให้กับซวงเอ๋อร์""อีกทั้งยังมีตุ๊กตาน้ำตาล ซวงเอ๋อร์จะเอาตุ๊กตาน้ำตาลที่ใหญ่ที่สุดและสวยที่สุด"เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ได้สิ ซวงเอ๋อร์จะกินเยอะเท่าไรก็ได้"หลินซวงเอ๋อร์กลัวเขาจะเปลี่ยนใจ จึงเอ่ยย้ำว่า "ต้องเป็นหงส์ที่ใหญ่และสวยที่สุด ซวงเอ๋อร์ไม่ชอบหัวหมูนะ"เยี่ยเป่ยเฉิงกลั้นไม่ได้จึงหัวเราะไม่หยุด "ได้ ไม่ซื้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-17
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 500

    พอได้รับคำมั่นสัญญาจากเยี่ยเป่ยเฉิง หลินซวงเอ๋อร์ก็ตั้งตารอคอยวันไหว้พระจันทร์อย่างใจจดใจจ่อนางได้ปักกระเป๋าให้เยี่ยเป่ยเฉิงอีกครั้ง โดยทำให้มีความงดงามมากกว่าครั้งก่อน นางปักด้วยความประณีต ทุกเข็มทุกด้ายที่ใช้ล้วนใส่ใจเป็นพิเศษ ท้ายสุดนางก็ใส่สมุนไพรอ้ายเฉ่าลงไปในกระเป๋าจนเต็ม เพียงเพราะเยี่ยเป่ยเฉิงบอกว่าเขาชอบ...อาจจะเป็นเพราะอารมณ์ที่ดีขึ้น ทำให้นางมีความอยากอาหารที่ดีขึ้นเช่นกัน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะยาที่เจียงหว่านปรุงให้นั้นได้ผลจริงๆ นางไม่ฝันร้ายในยามหลับอีกแล้ว เพียงแต่บางครั้งก็รู้สึกใจเต้นแรง ความรู้สึกแบบนี้ มันทำให้หัวใจของนางเหมือนถูกเข็มทิ่มแทงเป็นครั้งคราว เจ็บแบบแปล๊บๆซึ่งความเจ็บปวดนั้นมักจะมาเร็วและจากไปเร็ว อีกทั้งเวลาเจ็บก็ไม่แน่นอนเหมือนกัน แค่เจ็บโดยไม่ตั้งใจจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ หลินซวงเอ๋อร์จึงไม่ได้ใส่ใจมากนัก นางคิดว่ารอให้เสิ่นป๋อเหลียงกลับมาก่อน ค่อยให้เขาตรวจดูให้วันหนึ่ง หลินซวงเอ๋อร์กำลังเล่นกับต้าหู่ในเรือนแต่ต้าหู่กลับไม่มีอารมณ์สนใจเลย ไม่ว่านางจะหยอกล้ออย่างไร ต้าหู่ก็ดูเหมือนจะไม่มีปฏิกิริยามากนัก เพียงแค่เปิดตามองนางเป็นครั้งคราว ส่วนที่เหลื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-17
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 501

    หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็ยังหาคนที่จะสืบข่าวไม่ได้ คนเดียวที่นึกออกก็คือเยี่ยเป่ยเฉิงช่างเถอะ รอถึงวันไหว้พระจันทร์ พอได้พบเยี่ยเป่ยเฉิง นางก็จะขอร้องให้เขาไปสืบข่าวของฮุ่ยอี๋ให้ หากมีโอกาส ก็พานางออกมาเที่ยวนอกวังด้วยไม่ได้พบกันนาน นางเองก็คิดถึงฮุ่ยอี๋เหลือเกิน......เจ็ดวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันไหว้พระจันทร์ก็มาถึงในพริบตาค่ำคืนนั้น แสงไฟพร่างพราวทั่วทุกครัวเรือน สว่างไสวตระการตา ตลอดทั้งถนน โคมไฟหลากสีสันถูกแขวนประดับ ดอกไม้ไฟเรืองรองสลับสีสัน งดงามจนมิอาจบรรยายได้ท่ามกลางผู้คนที่เนืองแน่นบนท้องถนน หญิงสาวคนหนึ่งยืนนิ่งอยู่ที่หัวสะพาน ราวกับเป็นภาพวาดที่มีชีวิต ดึงดูดสายตาผู้คนที่เดินผ่านไปมานางสวมชุดกระโปรงยาวผ้าแพรสีฟ้าอ่อน คลุมทับด้วยเสื้อคลุมผ้าโปร่งสีขาว เผยให้เห็นเส้นสายลำคออันงดงามและไหปลาร้าที่ชัดเจนชายกระโปรงไหลลื่นดั่งแสงจันทร์ทอดลงบนพื้น ผมยาวสลวยถูกรวบไว้ด้านหลังด้วยปิ่นหยกขาวเพียงอันเดียว ปล่อยผมเส้นบางๆ ตกลงมาที่หน้าอก ยิ่งเพิ่มความอ่อนหวานนางแต่งหน้าบางเบา แก้มแดงระเรื่อขับผิวให้ดูนุ่มนวลน่ารักดั่งกลีบดอกไม้ โดดเด่นที่สุดคือดวงตากลมโตเป็นประ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-18
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 502

    กลัวว่าเยี่ยเป่ยเฉิงจะรอนาน หลินซวงเอ๋อร์จึงมาถึงแต่เนิ่นๆ โดยที่ยังไม่ทันได้ทานอาหารเย็นก็มาแล้ววันที่จากกันครั้งก่อน นางได้บอกเยี่ยเป่ยเฉิงว่า ในวันไหว้พระจันทร์นี้ นางจะรอเขาที่หัวสะพานถนนฉางอานด้วยกลัวว่าเขาจะมาแล้วหานางไม่เจอ หลินซวงเอ๋อร์จึงยืนรออยู่ที่เดิม ไม่กล้าขยับไปไหนแม้แต่ก้าวเดียวแต่นางรออยู่นาน กระนั้นก็ยังไม่เห็นเยี่ยเป่ยเฉิงมาเสียทีสายลมฤดูใบไม้ร่วงพัดเอื่อยๆ หลินซวงเอ๋อร์สวมเสื้อผ้าบางเบา เมื่อลมพัดกระทบร่างของนาง นางจึงรู้สึกหนาวเล็กน้อยตงเหมยรอจนหมดความอดทน กวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะถูกดึงดูดด้วยการแสดงกายกรรมที่ริมถนน“พระชายา พวกเราไปดูการแสดงกายกรรมกันเถอะเจ้าค่ะ” ตงเหมยยืนอยู่ตรงนี้มองไม่ชัด จึงอยากจะลากหลินซวงเอ๋อร์ไปดูด้วยกันถนนฉางอานจะคึกคักที่สุดก็ในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ของทุกปีหลินซวงเอ๋อร์ไม่ยอมไป นางกล่าวว่า “แต่ท่านพี่ยังไม่มา ข้าบอกว่าจะรอเขาที่นี่”ตงเหมยเบ้ปาก แล้วมองไปที่ร้านขายตุ๊กตาน้ำตาลข้างๆ กล่าวว่า “พระชายา พวกเราไปซื้อตุ๊กตาน้ำตาลกันเถอะเจ้าค่ะ ท่านอยากกินมันมากไม่หรอกหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์ส่ายหน้า กล่าวว่า “ข้าจะรอท่านพี่มาก่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-18
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 503

    หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกผิดจึงกล่าวว่า “ขอโทษนะตงเหมย”ตงเหมยแค่บ่น แต่ในใจไม่ได้ตำหนิหลินซวงเอ๋อร์ อีกอย่าง เป็นตัวนางเองที่ไม่วางใจปล่อยให้หลินซวงเอ๋อร์ยืนอยู่ที่นี่คนเดียว ถึงได้อยู่เป็นเพื่อนไม่ห่าง เมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์รู้สึกผิดและขอโทษ ตงเหมยก็ใจอ่อนทันที จึงกล่าวว่า “บ่าวไม่ได้ตั้งใจบ่นหรอกเจ้าค่ะ แค่สงสารพระชายา รอคอยวันไหว้พระจันทร์มานาน สุดท้ายก็ผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไรเลย”หลินซวงเอ๋อร์แกล้งทำเป็นไม่เป็นไร กล่าวว่า “ไม่เป็นไร วันไหว้พระจันทร์ปีหน้า พวกเราค่อยมาอีก”พูดจบ ทั้งสองก็กำลังจะเดินกลับจวนไม่คาดคิดว่า เสียงคุ้นหูก็พลันดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้หลินซวงเอ๋อร์หยุดฝีเท้าลงทันที“แม่นางซวงเอ๋อร์”หลินซวงเอ๋อร์หันไปมอง เห็นไป๋อวี้ถังยืนอยู่ด้านหลังตน“พี่ใหญ่ไป๋? ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกแปลกใจ ดูเหมือนไม่คิดว่าจะได้เจอไป๋อวี้ถังที่นี่ไป๋อวี้ถังเองก็ไม่คิดว่าจะได้เห็นหลินซวงเอ๋อร์อีกครั้งเมื่อครู่เขานั่งรถม้ากลับจวน แค่บังเอิญเลิกม่านมองไปที่หัวสะพาน ผลคือแค่แวบเดียวก็เหมือนผ่านไปหลายปีภาพที่ฝันถึงนับครั้งไม่ถ้วนซ้อนทับกับความจริง หัวใจเต้นรัวด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-18

บทล่าสุด

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

DMCA.com Protection Status