แชร์

บทที่ 314

ผู้เขียน: พิณเคล้าสายฝน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-09-04 18:00:00
ร่างสูงใหญ่บดบังแสงเอาไว้ ทำให้สีหน้าท่าทางของเยี่ยเป่ยเฉิงปกคลุมไปด้วยความมืดมิด

ฉีหมิงหันกลับมา แล้วเอาหลินซวงเอ๋อร์ไปไว้ข้างหลังอย่างชิดใกล้ มองไปที่ เยี่ยเป่ยเฉิงอย่างต่อต้าน

ในขณะนี้ เขาไม่กลัวสำถานะที่น่าเกรงขามของเขาเลย แค่คิดว่าเขาเป็นคนเลวที่แย่งคนรักของคนอื่น!

ทันทีเห็นเยี่ยเป่ยเฉิง หลินซวงเอ๋อร์ก็ตกตะลึงก่อน จากนั้นนัยน์ตาที่มืดมนก็ค่อยๆกลับมาเป็นประกายอีกครั้ง

หลินซวงเอ๋อร์เริ่มดิ้นรน นางต้องการกลับไปที่ข้างกายของเยี่ยเป่ยเฉิงตามสัญชาตญาณ

ฉีหมิงสัมผัสได้ถึงความปรารถนาของนาง ฝ่ามือขนาดใหญ่ของเขาจึงกระชับแน่นขึ้น แล้วกักขังนางไว้ข้างหลังเขาอย่างเผด็จการ เพื่อป้องกันไม่ให้นางเข้าใกล้เยี่ยเป่ยเฉิงแม้แต่น้อย!

เขาออกแรงมากยิ่งขึ้น จนหลินซวงเอ๋อร์ได้ยินเสียงกระดูกข้อมือของตนเอง ความเจ็บปวดแสนสาหัสถาโถมเข้ามา ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

แต่อดทนต่อความเจ็บปวด และไม่กล้าพูดอะไรสักคำ ทำได้แค่มองเยี่ยเป่ยเฉิงอย่างกระตือรือร้น ราวกับว่าถ้าฉีหมิงปล่อยมือนาง นางก็จะกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของเยี่ยเป่ยเฉิงโดยที่ไม่คำนึงถึงสิ่งใด!

เยี่ยเป่ยเฉิงก็มองไปที่หลินซวงเอ๋อร์ ทันใดนั้นสายตาขอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 315

    เมื่อต้องเผชิญกับพลังอันท่วมท้น ฉีหมิงไม่มีช่องว่างที่จะสู้กลับเลยแม้แต่น้อย!เยี่ยเป่ยเฉิงบดขยี้เขาให้ตายง่ายเหมือนบดขยี้มดตัวหนึ่งให้ตาย!สีหน้าของฉีหมิงซีดเผือดไปชั่วขณะหนึ่ง แต่เขายังคงไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย ก่อนตายสามารถทำให้เยี่ยเป่ยเฉิงเกรี้ยวโกรธสุดขีดได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี!เขาเยาะเย้ย และพูดอย่างลำบากว่า: " เยี่ยเป่ยเฉิง! นอกจากแย่งชิงของของคนอื่นแล้ว! เจ้ายังทำอะไรได้อีก... ""เจ้ามีสถาะสูงส่ง และมีสถานะที่โดดเด่น แต่กลับมีพฤติกรรมเยี่ยงโจร! ข้าดูถูกเจ้าจากก้นบึ้งของหัวใจจริงๆ... "“แล้วจะทำไม?” เยี่ยเป่ยเฉิงหนี่ตาลงเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า: “เจ้ากักขังหน่วงเหนี่ยวซวงเอ๋อร์ ทำร้ายนางเช่นนี้! ข้าจะอภัยให้เจ้าได้อย่างไร!”มีเจตนาฆ่าซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าที่สงบนิ่ง เยี่ยเป่ยเฉิงกระชับนิ้วแน่นขึ้นเรื่อยๆคิดไม่ถึงว่า หลินซวงเอ๋อร์จะรีบวิ่งเข้ามาในขณะนี้นางยืนขวางอยู่ที่ด้านหน้าของฉีหมิง ด้วยสายตาที่หวาดกลัวและทำอะไรไม่ถูก ราวกับว่านางคือต้นตอของหายนะทั้งหมด!มือเล็กๆพยายามแกะมือของเขาออกสุดฤทธิ์ หลินซวงเอ๋อร์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ้อนวอนว่า: " ท่านอ๋อง ท่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-04
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 316

    แต่หลินซวงเอ๋อร์ ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้เลยตั้งแต่ต้นจนจบ!เขาหลอกล่อนางให้ติดกับดักที่เขาวางเอาไว้ทีละก้าว ค่อยๆหน่วงเหนี่ยวนางไว้ข้างกายของตนเอง...แต่ฉีหมิงไม่เหมือนกัน!พวกเขาเป็นคู่รักในวัยเด็ก เป็นเพื่อนเล่นกันโดยไม่ได้คิดอะไรมาก และผูกสมัครรักใครกัน!เขาจำได้ว่า หลินซวงเอ๋อร์เคยมีใจให้ฉีหมิง...ในขณะนี้เยี่ยเป่ยเฉิง มีเจตนาฆ่าอย่างท่วมท้นเขาอยากให้ฉีหมิงตาย! ไม่อยากให้เขามีชีวิตอยู่แม้แต่เพียงวินาทีเดียว!เขากระชับนิ้วของเขาทันที จนกระทั่งฉีหมิงไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก!หลินซวงเอ๋อร์รีบเข้าไปห้ามเขาเอาไว้ แ้วอธิบายว่า: " ท่านอ๋อง ข้าไม่ได้ทำ ข้าไม่เคยทำอะไรที่ผิดต่อท่านเลย... ได้โปรดปล่อยพี่ฉีไปเถิด ข้าขอร้องท่านล่ะ!"หลินซวงเอ๋อร์ร้องไห้หนักมาก จนในนาทีสุดท้าย เยี่ยเป่ยเฉิงยังคงใส่ใจความรู้สึกของนาง รู้สึกเห็นอกเห็นใจ จึงได้คลายพละกำลังลงเล็กน้อยเขาลดตา และกำลังจะพูด จู่ๆนัยน์ตาก็จับจ้องไปที่ลำคอของนาง ทำให้เขาชะงักไปในทันทีบนลำคอที่ขาวใสนั้น มีรอยสีแดงสดอยู่หลายจุดซึ่งเป็นที่สะดุดตาเป็นอย่างมาก ราวกับว่าเพิ่งจะคลอเคลียกันจบไปหมาดๆ!อย่างอย่างนั้น...เขายืนอยู่ต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-04
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 317

    หลินซวงเอ๋อร์เงยหน้าขึ้น ดวงตาคู่หนึ่งจับจ้องไปที่เขา ด้วยสายตาที่แน่วแน่กล้าหาญหลังของนางตรงตระหง่าน ความดื้อรั้นหัวแข็งมาจากพื้นเพของจิตเยี่ยเป่ยเฉิงไม่เคยเห็นสีหน้าท่าทางที่มุ่งมั่นเช่นนี้บนใบหน้าของหลินซวงเอ๋อร์มาก่อนเลยที่น่าขันก็คือ นางกำลังขอร้องความเมตตาแทนผู้ชายคนอื่นอยู่ทันใดนั้นเยี่ยเป่ยเฉิงก็หัวเราะขึ้นมาหัวเราะที่ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ ความกังวลของตนเองเป็นส่วนเกิน! หัวเราะเยาะที่ตนเองทุ่มเทจิตใจให้ผิดคน และคิดว่าความรู้สึกสามารถบ่มเพาะกันได้ และนางจะต้องตกหลุมรักเขาไม่ช้าก็เร็ว!แต่กลับกลายเป็นว่า ความจริงใจของเขาไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้านาง!ช่างน่าขันจริงๆ! นึกไม่ถึงว่าเขาจะมีความคิดที่อยากจะสมรสกับนาง มีความคิดโง่ๆที่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกับนาง?เยี่ยเป่ยเฉิงเอ๋ยเยี่ยเป่ยเฉิง!เจ้าช่างโง่จริงๆ!เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกโศกเศร้าเป็นอย่างยิ่ง ในขณะนี้ความโกรธอันท่วมท้นก็สลายหายไปไปอย่างน่าอัศจรรย์เขาหลับตาลงเล็กน้อย เพื่อปกปิดอารมณ์อันท่วมท้นในนัยน์ตาของเขาเอาไว้ เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง นัยน์ตาสีแดงฉานคู่นั้นก็กลับมาเป็นเฉยเมย และว่างเปล่าไร้ความรู้สึกเหมือนเช่นเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-05
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 318

    หลินซวงเอ๋อร์ไม่เพียงแต่ไม่ยอมปล่อย แต่ยังจับแน่นขึ้นมากยิ่งขึ้น ในนัยน์ตาของนางเจิ่งนองไปด้วยน้ำตา กล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล และระมัดระวังว่า: " ท่านอ๋อง ท่านอย่าไม่ต้องการข้าเลย... "เยี่ยเป่ยเฉิงสบสายตากับนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาคู่นั้น ความรู้สึกแปลกๆในใจก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งสิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดสุดขีด!เขาสะบัดมือ ดึงแขนเสื้อออกจากฝ่ามือของนาง ด้วยแรงมหาศาล ทำให้หลินซวงเอ๋อร์ล้มลงกับพื้นทันทีฝ่ามือที่มีบาดแผลค้ำยันบนพื้น ทำให้นางรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมากหลินซวงเอ๋อร์กัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บปวดและไม่กล้าส่งเสียงคำพูดราวกับใบมีดน้ำแข็งที่แหลมคมของเยี่ยเป่ยเฉิง ดังขึ้นที่ข้างหู“ หลินซวงเอ๋อร์ อย่ามาทำท่าทางที่ทุกข์ระทมเช่นนี้ต่อหน้าข้า ถ้าใช้กลอุบายแบบเดียวกันหลายครั้งจนเกินไป มีแต่จะทำให้คนรู้สึกรำคาญ!”เมื่อได้ยินดังนี้ หลินซวงเอ๋อร์ก็รีบฟั่นแขนเสื้อขึ้นแล้วเช็ดน้ำตา นางสูดจมูกอันปวดแสบ เพราะกลัวว่าเยี่ยเป่ยเฉิงจะเกลียดนางมากยิ่งขึ้นเพียงแต่ว่าฝ่ามือของนางเจ็บมาก ในบาดแผลยังมีเศษเครื่องลายครามติดอยู่ในเนื้อและเลือด แต่สัมผัสเพียงเล็กน้อยก็เจ็บปวดมากแต่จ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-05
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 319

    น้ำเสียงเยี่ยเป่ยเฉิงดุร้ายมาก จนทำให้หลินซวงเอ๋อร์ตกใจจนต้องถอยหลังกลับไปสองสามก้าวทันที จากนั้นก็มองเขาอย่างขี้ขลาด และไม่กล้าเข้าใกล้อีกเมื่อเห็นว่านางดูหวาดกลัว เยี่ยเป่ยเฉิงจึงมองไปทางอื่น แล้วเดินไปข้างหน้าต่อไปใครจะคิดว่า เสียงกระดิ่งเหล่านั้นจะตามหลังเขามาอย่างคลุมเครือตลอดเมื่อเขาหยุดเดิน เสียงนั้นก็หยุด เมื่อเขาเดินต่อไป เสียงนั้นก็ดังขึ้นมาอีกครั้งเยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกหงุดหงิดในใจ เขารู้ว่า สาวน้อยคนนั้นยังคงตามหลังตนเองอยู่แต่เขาไม่หันกลับไปมองนางอีก เพียงแต่อดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นหลินซวงเอ๋อร์ตามเขาไม่ทัน ดังนั้นจึงเริ่มวิ่งเหยาะๆเมื่อมาถึงจวนโหว องครักษ์เฝ้าประตูก็เปิดประตูให้เยี่ยเป่ยเฉิงไม่รู้ว่าเยี่ยเป่ยเฉิงเขากระซิบอะไรกับองครักษ์ องครักษ์ถึงได้เหลือบมองหลินซวงเอ๋อร์อยู่ครู่หนึ่ง และพยักหน้าด้วยความเคารพต่อเยี่ยเป่ยเฉิงต่อมา องครักษ์ได้ขวางหลินซวงเอ๋อร์ไว้ด้านนอกประตูจวน“ ท่านอ๋องมีรับสั่ง ไม่ให้คนนอกเข้าไปในจวนโหวโดยไม่ได้รับอนุญาต”หลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: "ข้าเป็นสาวใช้ในจวน พี่องครักษ์ พี่จำข้าไม่ได้หรือ?"องครักษ์กล่าวว่า: " ท่านอ๋องบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-05
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 320

    องครักษ์ทนไม่ไหว จึงมองไปทางเรือนฝั่งตะวันออกอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าประตูลานเรือนปิดอยู่ และไม่มีใครมารับนาง เขาจึงไม่กล้าให้นางเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต…...ภายในเรือนอวิ๋นซวน เยี่ยเป่ยเฉิงยืนอยู่หน้าหน้าต่าง จ้องมองกระต่ายสองตัวที่อยู่ในลานเรือนอย่างไม่วางตากระต่ายโตไวมาก เมื่อไม่กี่วันก่อนยังไม่ลืมตา พอมาดูวันนี้ แม้แต่ขนของพวกมันก็ขึ้นมาแล้ว พวกมันมีขนฟูฟ่อง กระโดดไปกระโดดมาอยู่ในลานเรือน น่ารักเป็นอย่างมากเยี่ยเป่ยเฉิงมองไปที่กระต่ายสองตัวนั้น มุมปากก็โค้งขึ้น ใบหน้าของหลินซวงเอ๋อร์ก็ผุดขึ้นมาในหัวโดยที่ไม่รู้ตัว จากนั้นเขาก็มองไปที่ประตูจวนตามสัญชาตญาณ ไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิงคนนั้นยังจะอยู่ข้างนอกประตูจวนหรือเปล่าพอลดสายตาลง ก็บังเอิญเห็นคราบเลือดบนแขนเสื้อของตนเอง จากนั้นรูม่านตาก็หดลงหืม นี่ไม่ใช่คราบเลือดของเขา แต่เป็นคราบเลือดที่หลินซวงเอ๋อร์ทิ้งเอาไว้เขาดูเหมือนจะตระหนักถึงอะไรบางอย่าง เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วโดยที่ไม่รู้ตัวบัดซบจริงๆ! เหตุใดตอนนี้ยังคิดถึงนางอยู่?นางจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ เกี่ยวอะไรกับเขาด้วย?แม้ว่านางจะได้รับบาดเจ็บ แต่นางก็สมควรได้รับมัน!

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-05
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 321

    ตอนกลางดึก เยี่ยเป่ยเฉิงนอนอยู่บนเตียง พลิกตัวไปมาไม่ใช่เพราะว่าเป็นห่วงใครบางคน แต่เป็นเพราะว่านอนไม่หลับ!เขาพลิกตัว ยื่นมือออกไปโดยที่ไม่รู้ตัว แต่ก็มีแค่ความว่างเปล่าการเคลื่อนไหวของเขาชะงักกลางอากาศ เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยไม่รู้ว่าเขาเริ่มคุ้นชินกับการมีสาวน้อยที่นุ่มนวลนอนอยู่ข้างกาย ตั้งแต่เมื่อไหร่อันที่จรงแล้ว หลินซวงเอ๋อร์นอนหลับไม่สนิทมาโดยตลอด ท่านอนก็ไม่ได้สง่างามากนัก แถมยังชอบพลิกตัวไปมาอยู่ในอ้อมแขนของเขา ทำให้เยี่ยเป่ยเฉิงนอนหลับได้ไม่ดีทุกคืน!วันนี้ ผู้หญิงที่ไม่อยู่นิ่งคนนั้นในที่สุดก็ถูกเขาขับไล่ออกออกไปแล้ว ต่อไปผู้หญิงคนนั้นจะไม่ปรากฏตัวที่เรือนอวิ๋นซวนอีกแล้ว! เขาก็ไม่ต้องไปนอนห้องหนังสือให้ลำบากตนเองอีก!เขาควรจะดีใจมากกว่า แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ในใจกลับรู้สึกไม่มีความสุขเล็กน้อย และมักจะรู้สึกว่าเตียงค่อนข้างใหญ่เกินไปเขาเอาหัวมุดเข้าไปในผ้าห่มอย่างหงุดหงิด แต่กลับได้กลิ่นหอมที่คุ้นเคยตอนนั้นเขาก็พบว่า ทั้งเตียง แม้แต่ภายในห้อง ล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นของนาง!ช่างเป็นผู้หญิงที่ตามหลอกหลอนไม่หยุดจริงๆ!เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกหงุดหงิดใจสุดขีด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-06
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 322

    เยี่ยเป่ยเฉิงเดินไปตามถนนสายหลักเพื่อตามหาหลินซวงเอ๋อร์พอได้ยินเสียงสุนัขเห่าในตรอกซอยเมื่อสักครู่นี้ เขาก็รีบไปทันที แต่ก็ไม่พบร่องรอยของ หลินซวงเอ๋อร์ มีเพียงสุนัขป่าสองสามตัวกำลังโจมตีลูกแมวสีขาวก็เท่านั้นลูกแมวอยู่ในสภาพที่สะบักสะบอม มันกำลังโดนสุนัขดุร้ายปิดล้อมอยู่ตรงมุม และขนตั้งชูชันไปทั้งตัว แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสุนัขดุร้ายหลายตัว มันก็ยังคงหวาดกลัวจนตัวสั่นเมื่อเห็นลูกแมวที่น่าสงสารทำอะไรไม่ถูก เยี่ยเป่ยเฉิงก็รู้สึกสงสารเห็นใจมันอ่อนแอแบบนั้น ไร้ที่พึ่งแบบนั้น แถมยังสะบักสะบอม และมีรอยบาดแผลไปทั้งตัวอีกเห็นแวบแรกก็รู้เลยว่าถูกทอดทิ้งไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด พอเยี่ยเป่ยเฉิงมองไปที่ลูกแมวตัวนั้นก็นึกถึงหลินซวงเอ๋อร์ขึ้นมาทันทีนางอ่อนแอบอบบางแบบนั้น เนื้อตัวก็สะบักสะบอม ถ้านั่งยองๆอยู่ตรงมุมไหนมุมหนึ่ง ก็คงจะคล้ายกับแมวตัวนี้เยี่ยเป่ยเฉิงใช้ก้อนหินขับไล่สุนัขป่าออกไป แมวสีขาวจับจ้องเขาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หายตัวไปในความมืดอย่างรวดเร็วลูกแมวได้รับการช่วยเหลือแล้ว แต่ยังหาหลินซวงเอ๋อร์ไม่เจอเลยเยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกกระวนกระวายใจ เขาเองก็แยกแยะไม่ออกว่าสภาพจิตใจขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-06

บทล่าสุด

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

DMCA.com Protection Status