Share

บทที่ 229

Author: พิณเคล้าสายฝน
หัวใจของจ้าวเจาหยางเต้นรัว: " อะไรนะ? ตามสังหาร? ข้าแค่ให้พวกเจ้าไปสังหารผู้หญิงคนหนึ่งก็เท่านั้น เหตุใดถึงได้ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้? "

เมื่อเห็นว่าชายหน้าบากเงียบไป จ้าวเจาหยางก็เอ่ยปากถามลอยๆว่า: "จัดการกับผู้หญิงคนนั้นแล้วหรือยัง? น้องสาวของข้าบอกว่า อยากจะให้นางตายอย่างตายทั้งเป็น พวกเจ้าทำสำเสร็จแล้วหรือยัง?"

ชายหน้าบากก้มหน้าลง กล่าวอย่างกระอึกกระอักว่า: "ตอนหลังมีผู้ชายที่มีฝีมือร้ายกาจคนหนึ่งเข้ามา ข้าเลยทำไม่สำเร็จ..."

"อะไรนะ?" จ้าวเจาหยางงุนงงสุดขีด: "พวกเจ้าทุกคนเป็นผู้ชายแต่กลับฆ่าผู้หญิงคนเดียวไม่ได้? พวกเศษสวะเอ๊ย!"

ชายหน้าบากนิ่งเงียบ และปล่อยให้เขาดุด่าได้ตามใจชอบ

แต่ในไม่ช้า จ้าวเจาหยางก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติไป

“เจ้ามาหาข้า มีใครตามเจ้ามาไหม?”

ทันใดนั้นชายหน้าบากก็เงยหน้าขึ้น แล้วมองจ้าวเจาหยางด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว

"น่า...น่าจะไม่มีนะขอรับ"

“แม่งเอ๊ย! เจ้าอยากจะทำร้ายข้าหรือ?” จ้าวเจาหยางรู้สึกตื่นตระหนกจริงๆ เรื่องมันก็ผ่านมาสองวันแล้ว ด้วยวิธีการที่ยอดเยี่ยมของเยี่ยเป่ยเฉิง จะหาหัวหน้าโจรไม่เจอได้อย่างไร! อีกอย่าง เขายังได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก จะเข
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 230

    จ้าวเจาหยางรู้สึกกระวนกระวายใจทันทีชายหน้าบากก็ตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างยิ่ง: "คุณชาย ควรทำอย่างไรดี ข้าทำงานให้ท่านนะ ท่านจะต้องช่วยข้า!"แม้แต่ตนเองจ้าวเจาหยางก็ปกป้องไม่ได้ จะไปช่วยชีวิตเขาได้อย่างไร? เขาจึงตะโกนด้วยความโกรธทันทีว่า: " เจ้าไสหัวออกไปเลยนะ! ไอ้สมองหมาปัญญาควาย!เจ้ากำลังจะทำให้ข้าตายรู้หรือไม่? "ชั้นล่าง มีเสียงฝีเท้าที่พร้อมเพรียงกันดังขึ้นพวกเขามาแล้ว!จ้าวเจาหยางไม่มีความคิดอะไรทั้งนั้น สิ่งแรกที่เขานึดถึงคือการหลบหนีดังนั้นเขาจึงเปิดหน้าต่างด้วยความลนลาน และคิดจะกระโดดลงไปจากชั้นสองเพราะอย่างไรเสีย กระโดดลงไปขาหักยังดีกว่าตกไปอยู่ในอุ้งมือของปีศาจอย่างเยี่ยเป่ยเฉิง!เขาเปิดหน้าต่างด้วยความลนลาน ตอนที่กำลังจะกระโดดลงไป ก็เห็นเสวียนอู่องครักษ์ประจำตัวขอเยี่ยเป่ยเฉิง ยืนอยู่ใต้หน้าต่างเข้าพอดี ราวกับว่าจงใจมารอให้เขากระโดดลงไปข้างล่างจ้าวเจาหยางรีบปิดหน้าต่างอย่างรวดเร็วหอบุปผชาติตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดบนถนนฉางอานคนที่มาที่นี่ไม่ร่ำรวยก็สูงศักดิ์ แม้แต่เจ้าขุนมูลนายก็ยังสวมชุดลำลองแล้วมานั่งเล่นอยู่ที่นี่เป็นครั้งคราวมีเจ้าหน้าที่ข

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 231

    เขาเดินไปทีละก้าว จนกระทั่ง รองเท้าบู๊ตสีดำของเยี่ยเป่ยเฉิงหยุดอยู่นอกประตูทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดัง "ปัง" ประตูอันที่ทั้งหนาทั้งหนักถูกเตะจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ชายหน้าบากที่อยู่ด้านหลังประตูก็ถูกกระแทกออกไปหลายเมตร สุดท้ายร่างกายก็กระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรงพื้นผิวผนังถูกกระแทกจนเกิดรอยร้าวทันที ชายหน้าบากกลิ้งออกจากผนังแล้วล้มลงไปบนพื้น กระอักเลือดออกมาเต็มปาก หายใจรวยรินเยี่ยเป่ยเฉิงยืนอยู่ที่ประตู สะบัดชายชุดคลุมสีดำเล็กน้อย แล้วเข้าไปอยู่ในขอบเขตการมองเห็นของจ้าวเจาหยางรูปร่างหน้าตาที่สูงโปร่งหล่อเหลาของเขา กลับมีความเยือกเย็นที่ราวกับว่ามาจากแดนปีศาจที่ยากจะพรรณนาได้บนหน้าผาก มีเหงื่อเย็นไหลลงมาตามแก้มของเขาอย่างช้าๆจ้าวเจาหยางได้ยินเสียงของเยี่ยเป่ยเฉิงพูดว่า: "ที่แท้คุณชายจ้าวที่หลบอยู่ที่นี่นี่เอง ข้าตามหาเสียตั้งนาน"จ้าวเจาหยางหวาดกลัวมากจนไม่สามารถแม้แต่จะพูดให้จบประโยค: "เจ้า... เจ้าตามหาข้าทำไม? จ้า... ข้าไม่รู้เรื่องอะไรเลย"เยี่ยเป่ยเฉิงมองดูเขา แล้วกล่าวว่า: "เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ เจ้ารู้แค่ว่า ตอนนี้ข้ามาปลิดชีวิตเจ้าก็พอแล้ว"เขาเป็นคนตรงไปตรงมาเช่นนี้มาโดยตล

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 232

    สุดท้าย ลูกศรก็ลอยออกไป แล้วปักไปที่ศีรษะของชายหน้าบากศีรษะของเขากลิ้งไปอยู่ที่ตรงหน้าจ้าวเจาหยาง นัยน์ตาที่นอนตายตาไม่หลับคู่นั้นจับจ้องไปที่เขาจ้าวเจาหยางตกใจมาก จนเป้ากางเกงของเขาค่อยๆเปียกชื้นสีหน้าของเขาซีดเผือด ร่างกายก็สั่นเทาไปหมด เมื่อเห็นเยี่ยเป่ยเฉิงเดินเข้ามาหาเขาทีละก้าว เขาแทบจะร้องไห้ออกมา แล้วกล่าวพร้อมสะอื้นไห้ว่า: " ไว้ชีวิตข้าด้วย...ไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด เห็นแก่หน้าท่านพ่อของข้า เห็นแก่น้องสาวของข้าที่จะเป็นพระชายาของเจ้าในอนาคต เจ้าได้โปรดไว้ชีวิตข้าสักครั้งเถิด "เสียงฝีเท้าหยุดอยู่ตรงหน้าเขา เยี่ยเป่ยเฉิงลดสายตาลงแล้วมองไปที่จ้าวเจาหยางที่กำลังซุกตัวอยู่ตรงมุมห้องจากมุมสูง" บุตรชายเอกของจวนหนิงหวัง คิดไม่ถึงว่าจะมีพฤติกรรมเช่นนี้! "รักตัวกลัวตาย ขี้ขลาดไม่เอาไหน!จ้าวเจาหยางไม่สนใจสถานะของตนเองเลย เขาได้เห็นด้วยตาของตนเองว่าเยี่ยเป่ยเฉิงฆ่าคนที่อยู่ตรงหน้าตนเองอย่างไร เขาหวาดกลัวกับวิธีการอันโหดร้ายของเยี่ยเป่ยเฉิงตั้งนานแล้วเขาไม่อยากจบลงด้วยชะตากรรมเดียวกันถ้าสามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้ จะให้ทำอะไรเขาก็ยอมทั้งนั้น!จ้าวเจาหยางคุกเข่าลงบนพื้น คำนับเยี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 233

    ตอนที่กลับมาถึงจวน ก็ดึกมากแล้วเขาคิดว่า ครั้งนี้จะเป็นเหมือนอย่างเคย ไม่มีคนจุดไฟให้เขาแต่คิดไม่ถึงว่า ตอนที่ก้าวเท้าเข้าไปในเรือนฝั่งตะวันออก มีแสงสว่างทั้งภายในและภายนอกเรือนอวิ๋นซวนราวกับว่าจงใจรอให้เขากลับมาเยี่ยเป่ยเฉิงค่อยๆเปิดประตูเรือนอวิ๋นซวน แล้วมองไปทางโต๊ะหนังสือ ก็เห็นหลินซวงเอ๋อร์ นอนคว่ำหน้าอยู่บนโต๊ะบางทีอาจจะเป็นเพราะรอนานจนเกินไป นางจึงก็ไม่อาจระงับความง่วงเอาไว้ได้ จึงผล็อยหลับไปเยี่ยเป่ยเฉิงจงใจชะลอความเร็วของฝีเท้าลง แล้วไปยืนอยู่ตรงหน้านาง ลดสายตาลงแล้วพินิจมองนางที่หลับสนิท จากนั้นความประหลาดใจก็ผุดแวบขึ้นมาในดวงตาวันนี้หลินซวงเอ๋อร์สวมเสื้อขนนกสีชมพูรากบัวท่อนบน และสวมกระโปรงยาวลายดอกไป๋อวี้หลัน และเสื้อคลุมผ้าไหมลายดอกไม้สีขาวเงิน ม้วนผมทรงหุยซินจี้ และปักปิ่นหยกสีขาวหนึ่งอันเท่านั้น บนตัวไม่มีเครื่องประดับอย่างอื่นเลยเสื้อสีชมพูรากบัวทำให้ผิวพรรณของนางขาวผุดผ่องและดูมีเลือดฝาดมากยิ่งขึ้น เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้แต่งหน้า แต่กลับสะอาดบริสุทธิ์ยิ่งกว่าบัวหิมะบนภูเขาเทียนซานเยี่ยเป่ยเฉิงมักจะรู้สึกว่า มีบุคลิกที่สูงส่งสง่างามอยู่ภายในธาตุแท้ของหลิ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 234

    หลินซวงเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น ทันทีที่ลืมตาขึ้นมา ก็เห็นว่าใบหน้าของเยี่ยเป่ยเฉิงอยู่ใกล้นางมากทันใดนั้นความง่วงเหงางาวนอนก็หายไปทันทีเยี่ยเป่ยเฉิงคิดไม่ถึงว่า เพิ่งจะวางเจ้าตัวเล็กลงบนเตียง นางก็ตื่นขึ้นมาเสียแล้ว และตอนนี้ กำลังจ้องมองตนเองด้วยสายตาเขินอายอยู่“เหตุใดเจ้าถึงมองข้าแบบนี้ล่ะ?”ดูนางทำท่าตกใจสิ ทำอย่างกับว่าเขาจะกินนางอย่างนั้นแหละว่าแต่……ดูท่าทางทางของนางแล้ว เขาก็มีความคิดแบบนี้จริงๆ และอยากจะรีบกลืนกินนางเดี๋ยวนี้เลย...ร่างของเยี่ยเป่ยเฉิงห่อหุ้มร่างกายของนางเอาไว้ ราวกับว่าเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ ที่คลุมตัวนางเอาไว้อย่างแน่นหนาทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนรถม้าในคืนนั้นผุดขึ้นมาในสมองโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าจะผ่านไปสองวันแล้ว อาการในช่องท้องส่วนล่างก็ยังไม่หายไปหลินซวงเอ๋อร์หวาดหวั่นใจ สีหน้าเปลี่ยนไปเป็นสีแดง และไม่กล้ามองหน้าเยี่ยเป่ยเฉิงเลย คำอธิบายที่นางคิดเอาไว้ตอนกลางวัน ได้มลายหายไปหมดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเยี่ยเป่ยเฉิง และเหลือเอาไว้แค่ความเขินอายเท่านั้นหลินซวงเอ๋อร์ถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็ถูกเขาคว้าเอวเอาไว้“จะหนีไปไหน?” เยี่ยเป่ยเฉิง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 235

    “ข้าดุร้ายตรงไหน?หืม?”ทันใดนั้นแขนที่อยู่รอบเอวก็กระชับขึ้น เขาดึงนางเข้ามาไว้ในอ้อมแขนอย่างเต็มเหนี่ยวร่างกายที่อ่อนช้อย แนบชิดกับหน้าอกที่แข็งแกร่งตรงตระหง่านของเขา หัวใจของเยี่ยเป่ยเฉิงสั่นไหวราวกับว่ากำลังจะระเบิดออกมา“สาวน้อยใจร้าย ข้าเคยดุร้ายกับเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? หืม?”หลินซวงเอ๋อร์คว้าปกเสื้อของเขาไว้ในมือ แล้วพูดด้วยความสั่นเทาเล็กน้อยว่า: " ท่านอ๋องปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่... "เขากอดนางเอาไว้แน่น จนหลินซวงเอ๋อร์หายใจไม่ออกเยี่ยเป่ยเฉิงแอบผ่อนแรงลงหลินซวงเอ๋อร์เพิ่งจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่คิดไม่ถึงว่าโลกจะหมุนอยู่ตรงหน้า เยี่ยเป่ยเฉิงพลิกตัวแล้วตรึงนางเอาไว้ด้านล่าง“ ท่านอ๋อง ท่านคิดที่จะทำอะไร…” หลินซวงเอ๋อร์เพิ่งจะตอบสนองได้ คิดไม่ถึงว่าเขาจะฉวยโอกาสเอาเปรียบนางอีกครั้ง ทำให้นางรู้สึกโกรธเล็กน้อยเยี่ยเป่ยเฉิง มองดูหญิงสาวที่งอนกระฟัดกระเฟียดอยู่ใต้ร่างของเขา ก็อดไม่ได้ ที่จะหัวเราะออกมาดังๆชั่วขณะ“กอดหน่อยก็ไม่ได้? ” เขาพูดเหมือนกำลังขอความคิดเห็น“ไม่ได้” ใครจะรู้ว่าเขากอดไปกอดมาจะทำเรื่องอะไรบ้าๆอีกหรือเปล่าหลินซวงเอ๋อร์ผลักไหล่ของเขาออกไปเบาๆ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 236

    นางอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตานางรู้ว่าเขาไม่ได้ซื่อตรงขนาดนั้นที่ข้างหู ทันใดนั้นการหายใจของเยี่ยเป่ยเฉิงเริ่มถี่ขึ้น“ วันที่สิบหกเดือนแปด เป็นวันมงคล เหมาะต่อการจัดงานสมรส ” ทันใดนั้นเยี่ยเป่ยเฉิงก็พูดขึ้นที่ข้างหูของนางหลินซวงเอ๋อร์ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จนลืมห้ามมือที่กำเริบเสิบสานข้างนั้นเอาไว้วันที่สิบหกเดือนแปด ไม่ใช่เดือนหน้าหรือ?“ในเมื่อข้าต้องการเจ้า ข้าก็จะรับผิดชอบเจ้า” มือขนาดใหญ่ข้างนั้นเหิมเกริมขึ้นเรื่อยๆร่างกายของหลินซวงเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะเริ่มสั่นเทา“แต่ตอนนี้...ตอนนี้ไม่ได้” พอนางตั้งสติได้ ร่างกายที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาก็เริ่มดึงดันขึ้นมาอีกครั้งเมื่อสัมผัสได้ถึงการต่อต้านของนาง ในที่สุดเยี่ยเป่ยเฉิงก็ดึงมือกลับคืนมาคงเป็นเพราะครั้งที่แล้วจัดใหญ่เกินไป จึงทำให้นางรู้สึกหวาดกลัวเขาเอาก็กลัดกลุ้มเช่นกัน ทุกครั้งที่มีความสัมพันธ์กันเขาก็ยากที่จะควบคุมตนเอง และไม่อาจอดกลั้นเอาไว้ได้เยี่ยเป่ยเฉิงเกลี้ยกล่อมด้วยเสียงอันอบอุ่นว่า: " ซวงเอ๋อร์ผ่อนคลาย ข้าจะไม่ทำเช่นนั้น แค่จูบ ได้หรือไม่? "หลินซวงเอ๋อร์ส่ายหัว ดวงตาที่สะอาดสุกใสคู่นั้นมองดูเขาอยู่ครู่ห

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 237

    เมื่อพูดถึงไป๋อวี้ถัง หลินซวงเอ๋อร์ก็จำภาพเหตุการณ์บางช่วงบางตอนได้แค่ลางๆเท่านั้นวันนั้นที่นางถูกลักพาตัวขึ้นไปบนภูเขา โชคดีที่เขาปรากฏตัวได้ทันเวลา หลังจากนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น นางก็จำไม่ได้แล้วแต่หลินซวงเอ๋อร์มีความทรงจำที่ดีมากต่อไป๋อวี้ถัง“พี่ไป๋เป็นคนดีมาก ครั้งที่แล้วโชคดีที่เขาปรากฏตัวไดทันเวลา ข้ายังไม่มีโอกาสได้ขอบคุณเขาเลย” รอให้มีโอกาส นางจะต้องขอบคุณเขาด้วยตนเองเยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีปฏิเสธสำหรับไป๋อวี้ถังแล้ว เขายังคงเชื่อใจเป็นอย่างมากมาก เหตุผลที่เขาเชื่อใจ เพราะไป๋อวี้ถังมีคนที่ชื่นชอบอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจะไม่คิดอะไรกับหลินซวงเอ๋อร์อย่างแน่นอนแต่ว่า การที่หลินซวงเอ๋อร์ชื่นชมผู้ชายคนอื่นต่อหน้าเขา เหตุใดเขาถึงรู้สึกไม่มีความสุขเลย?แขนที่อยู่ตรงสะเอวกระชับขึ้น เยี่ยเป่ยเฉิงก้มศีรษะลง จ้องไปที่นางแล้วกล่าวว่า "ถ้าอย่างนั้นเจ้าบอกมาว่า ไป๋อวี้ถังดีตรงไหน?หืม?"หลินซวงเอ๋อร์ไม่เห็นความหึงหวงในนัยน์ตาของเขา ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า " พี่ไป๋เป็นคนอ่อนโยนสง่าม นิสัยก็ดี ทุกครั้งที่พบข้าเขาจะยิ้มแย้มอยู่เสมอ พี่ไป๋เป็นสุภาพบุรุษที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย "“นอ

Latest chapter

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status