Share

บทที่34 ชวนสหายไปทำงานด้วย

last update Dernière mise à jour: 2025-01-20 14:18:33

หลังจากต่อเติมชั้นสองเสร็จกัวเหม่ยอิงก็เริ่มย้ายไหที่เต็มไปด้วยหน่อไม้ ผัก และของแห้งต่าง ๆ เข้าอำเภอ แม้หน้าร้านจะยังไม่เสร็จแต่กัวเหม่ยอิงก็จะย้ายไหเข้าไปเก็บก่อนบางส่วน และแน่นอนว่าไม่เกะกะคนงาน

กัวเหม่ยอิงยกไหผลไม้ตากแห้งขึ้นรถที่ไปเช่ามาในราคา 10 หยวน ต่อเที่ยว แม้จะเป็นจำนานที่เยอะแต่กัวเหม่ยอิงก็พร้อมจ่าย หากไม่เช่าก็จะขนเข้าไปยาก อีกอย่างหมู่บ้านกับอำเภอก็ไกลกันพอสมควร

“ไม่ต้องยก ๆ พี่ยกเอง” พี่ใหญ่กัวรีบวิ่งมาดึงน้องสาวที่ช่วยยกไหออก ตั้งแต่ที่เขาไม่ได้ลงแปลงนาต้องบอกว่าเขามีแรงเพิ่มขึ้นมาก

พอจะไปช่วยพี่ชายคนรองยกก็ถูกไล่อีก กัวเหม่ยอิงจึงไปช่วยพี่สาวกับน้องสะใภ้ที่กำลังตากกล้วยอยู่ พอแห้งค่อยนำมาทอดและใส่ไหเก็บเอาไว้

“คงจะโดนไล่มาล่ะสิ” สะใภ้รองว่าอย่างรู้ทัน ปกติพี่น้องบ้านกัวก็ชอบทำอะไรตัดหน้าน้องสาวอยู่แล้ว

พี่สาวรองหัวเราะ “เธอรู้ทันจริง ๆ” เพราะหล่อนก็เดินตามน้องสาวมาจากช่วยยกไหเหมือนกัน

“ทุกวันนี้ฉันแทบจะเดินไม่ติดพื้นแล้ว” ถ้าอุ้มเดินได้ กัวเหม่ยอิงก็เชื่อว่าพี่ชายจะทำ

ทุกคนหัวเราะเพราะมันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ตั้งแต่ที่กัวเหม่ยอิงหารายได้ให้บ้านกัว จากที่เธอเป็นที่รักแล้
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่35 ได้เวลาแบ่งเงินแล้ว

    อวี้หลันให้คำตอบที่จะเข้ามาทำงานกับกัวเหม่ยอิงหลังกลับไปคิดเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ หล่อนให้เหตุผลว่าไหน ๆ ก็ทำงานในสหกรณ์หลายปีแล้วขอเปลี่ยนงานบ้าง อีกอย่างก็คือบ้านของหล่อนชอบไปที่สหกรณ์และก่อความวุ่นวายให้หล่อนจนโดนเตือนส่วนกัวเหม่ยอิงที่เข้าไปซื้อของในอำเภอก็ได้คำตอบที่พึงพอใจ และให้อวี้หลันแจ้งลาออกได้เลย แต่ทางสหกรณ์ต้องหาพนักงานเพิ่ม อวี้หลันจึงต้องรอให้ทางสหกรณ์หาคนมาแทนได้ก่อน ถึงจะสามารถหยุดทำงานได้“คุณแม่รู้จักเด็กสาวที่ขยันไหมคะ? ผู้ชายก็ได้ค่ะ” กัวเหม่ยอิงถามแม่กัวหลังมารวมตัวกันเพราะอีกไม่กี่วันก็จะได้เปิดร้านแล้วแม่กัวชะงักแล้วถาม “ลูกถามทำไมเหรอ” ถ้าถามว่ารู้จักไหม ก็มีรู้จักอยู่บ้าง แต่ก็ต้องถามลูกสาวด้วยว่าจะเอาคนไปทำไหมกัวเหม่ยอิงเขียนชื่ออวี้หลันลงในสมุดจดที่ซื้อมา พร้อมทั้งตอบคนเป็นแม่ “ฉันต้องการพนักงานเพิ่มค่ะ ตอนนี้มีพี่สาวรองกับสหายของฉันที่เป็นพนักงานคิดเงิน แต่พนักงานคิดเงินขาดอีกสองคน แล้วก็พนักงานตรวจเช็คของด้วยค่ะ ตำแหน่งสุดท้ายถ้าได้เป็นผู้ชายจะดีมาก” เธอเชื่อว่ากิจการที่ทำจะเป็นไปด้วยดีจึงได้สร้างโต๊ะจ่ายเงินร้านละสองโต๊ะ เพราะจะได้ไม่ต้องให้ลูกค้ารอนาน

    Dernière mise à jour : 2025-01-20
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่36 หลานนอกสกุลกัว

    หมู่บ้านแซ่เหลียน ตำบลซินหยาง อำเภอเมิ่งอู่ปากทางเข้าหมู่บ้านมีป้ายปักเอาไว้ แต่มันเก่ามาก ๆ หากไม่ใช่คนที่มีความรู้ หรือรู้จักหมู่บ้านที่นี่คงจะไม่มีทางเชื่อแน่ว่าเป็นหมู่บ้านแซ่เหลียน เพราะตัวหนังสือบนป้ายจางมากกัวเหม่ยอิงจอดจักรยานดูป้ายทางเข้าหมู่บ้านก่อนจะหันไปถามพี่ชาย “ที่นี่คือหมู่บ้านที่เราจะมาเหรอ?” เธอว่ามันน่าจะเป็นหมู่บ้านที่ยากแค้นกว่าหมู่บ้านฟงลู่ของพวกเธอซะอีก“ใช่แล้ว พี่มาล่าสุดก็นานมากแล้ว แต่ป้ายนี้ก็ยังเป็นป้ายเดิม” พี่ใหญ่กัวถอนหายใจ ไม่ว่าจะที่ไหนก็ยังไม่พัฒนาขึ้นเลย ยังดีหน่อยที่ผู้นำหมู่บ้านของพวกเขาเป็นคนขยัน และซื่อสัตย์ ไม่อย่างนั้นไม่อยากจะคิดเลยกัวเหม่ยอิงส่ายหน้า “ฉันว่าเป็นหมู่บ้านที่ยากจนมาก” เธอไม่ได้ดูถูกแต่มันก็อดที่จะพูดไม่ได้จริง ๆ กว่าจะมาถึงทางเข้าหมู่บ้าน เธอกับพี่ชายก็หยุดพักไปแล้วหลายรอบพี่ใหญ่กัวหัวเราะก่อนจะปั่นจักรยานนำไป “ไปกันเถอะ ไม่รู้ว่าที่นี่ยังตรวจคนเหมือนเดิมไหม แต่เราไปหาผู้นำหมู่บ้านก่อน” มารอบก่อน ๆ ใครที่จะเข้าหมู่บ้านต้องไปแจ้งคณะกรรมการของหมู่บ้าน แต่ตอนนี้ทุกคนต่างเรียกว่าผู้นำหมู่บ้าน กับสมาชิกผู้นำหมู่บ้านแทนกัวเหม่ย

    Dernière mise à jour : 2025-01-20
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่37 คุณย่าหลี่เลือกเงิน

    หลี่เวยเวย! ยัยหมูขี้เกียจ วัน ๆ มีแต่กินกับนอน งานการไม่ทำอะไรช่วย ยังจะหนีงานอีก กลับไปทำงานเดี๋ยวนี้เลยนะ!”เสียงตะโกนที่บาดหู ทำให้กัวเหม่ยอิงที่หลับตากอดอกและกำลังจะพิงพี่ชายถึงกลับสะดุ้งโหยง เพียงแค่ต้องการพักสายตา แต่ทำไมตอนนี้เธอเหมือนต้องได้ออกแรงอีก“คุณย่า!”เสียงสั่นของหลี่เวยเวยที่รีบวิ่งออกมานอกบ้าน ทำให้กัวเหม่ยอิงหันไปมอง และหันกลับไปมองหญิงชราที่อายุน่าจะมากกว่าแม่ของเธอหลายปี“หน็อยแน่! กรรมการแค่เรียกให้ไปหาก็อู้งานแล้ว วันนี้ไม่ต้องกินข้าวเลย!” ไม่รู้ว่าหญิงชรามองเห็นแค่หลี่เวยเวยหรือยังไง ถึงมองข้ามพี่ใหญ่กัวกับกัวเหม่ยอิงที่นั่งมองอยู่“หนูขอโทษค่ะ แต่ญาติบ้านเดิมคุณแม่มาหา หนูกำลังคุยอยู่” หลี่เวยเวยว่าเสียงเบาแล้วรีบปิดประตูบ้านหญิงชราหรือคุณย่าหลี่หันมามองแขกของหลานสาวก่อนจะท้าวเอวว่า “อ๋อ ก็ว่าใครมาหา ญาติบ้านเดิมแม่ของแกนี่เอง เป็นยังไงบ้างล่ะ ยังจนเหมือนเดิมใช่ไหม” ก่อนจะหัวเราะ นางไม่ชอบลูกสะใภ้คนนี้ เพราะตาเฒ่าสามีของนางชอบลูกสะใภ้คนนี้มาก ชอบกว่าลูกสะใภ้คนอื่นที่นางเป็นคนเลือกให้ลูกชายคนอื่นซะอีกด้านหลังของหญิงชรายังมีผู้หญิงวัยกลางคนสองคนที่น่าจะเป็นล

    Dernière mise à jour : 2025-01-20
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่38 ความวุ่นวายก่อนเปิดร้าน

    ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ครอบครัวของหลี่เวยเวยจะใช้ชีวิตโดยที่ขาดเสาหลักของครอบครัว แต่ก่อนเสาหลักของครอบครัวคือพ่อของหล่อน แต่หลังจากพ่อหายไป แม่ก็เริ่มป่วย หล่อนที่เป็นลูกสาวคนโตจึงกลายมาเป็นเสาหลักของบ้านแทนตอนที่พ่อของหลี่เวยเวยหายไป ระบบนารวมยังไม่ถูกยกเลิก และในตอนนั้นหลี่เวยเวยกับน้องชายต้องลงแปลงนาเพื่อรับแต้มคนละ 6 แต้ม ในขณะคนเป็นแม่รับแต้มได้เพียง 4 แต้ม เพราะร่างกายอ่อนแอยิ่งช่วงแจกจ่ายผลผลิตแล้วบ้านหลี่ของหลี่เวยเวยก็ไม่ต่างจากบ้านสามสกุลหานแต่ก่อนเลย แต่บ้านสามจะดีกว่าก็คือพวกผู้ชายทำงานส่งเงินเดือนมาให้กัวเหม่ยอิงได้ยินเรื่องราวบ้านหลี่ของน้องสาวจากพี่สาวจิวลู่ ที่กัวเหม่ยอิงถามก่อนที่จะขอตัวกลับบ้าน เพราะมันจะเย็นแล้ว โชคดีที่ของไม่ได้เยอะมาก จึงสามารถเอาจักรยานขึ้นรถ แล้วใช้รถยนต์ในการเดินทางกลับบ้าน แม้จะเสียค่ารถหลายสิบหยวนแต่ก็คุ้มพอถึงบ้านมันก็ดึกแล้ว 2 พี่น้องบ้านหลี่จึงได้นอนในห้องว่างของบ้านกัวที่สร้างเอาไว้ให้ลูกชาย ลูกสาวแยกห้องนอน แต่เพราะพวกเขาชินที่จะอยู่ด้วยกัน จึงไม่มีใครแยกห้องนอน พอมีคนเพิ่มขึ้นมา ห้องที่เคยว่างก็มีคนใช้แล้ว เช้าวันใหม่กัวเหม่ยอิงถึง

    Dernière mise à jour : 2025-01-20
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่39 ร้านขายของหานอี

    การที่บ้านหานเปิดร้านขายของแห้งและของดองถูกพูดคุยกันภายในหมู่บ้าน ในเวลานี้การค้าขายยังไม่ได้เปิดกว้างมากนัก หลายคนต่างดูถูกในอาชีพนี้ และแน่นอนว่าบ้านใหญ่หานต่างรู้สึกอับอายมาก แม้อยากจะไปถามแต่ก็ไม่กล้าร้านที่กัวเหม่ยอิงเปิดมีชื่อว่า ‘หานอี’ มันเป็นร้านแรกที่กัวเหม่ยอิงได้ลงมือทำ เธอจึงใช้นามสกุลของบ้านสามีในการตั้งนั้นก็คือคำว่า หาน ส่วน อี แปลว่า หนึ่ง และแน่นอนว่าหานอีจะไม่ใช่ร้านเดียวของพวกเธอแน่ ๆสำหรับคนในตลาดมืดเมื่อมีป้ายบอกว่าจะขายไหของดอง และของแห้ง พวกเขาย่อมรู้จักเพราะมีแต่คนแย่งกันซื้อ แต่วันนี้พอมีหน้าร้านจึงแห่กันมาซื้อวันแรกที่เปิดร้านกัวเหม่ยอิงลดราคาลงไหละ 1 หยวน ถือเป็นการเพิ่มการค้าขายไปในตัว แต่มันก็ทำให้เธอขายไปได้ถึง 30 ไหวันที่สองพอคนรู้ว่าเปิดร้านแล้ว ต่างก็มาซื้อเพิ่ม และยิ่งมีของอร่อย ๆ ที่ไม่เคยซื้อทัน มันยิ่งทำให้หลายคนต่างมาซื้อ และวันนั้นก็ขายไปได้ถึง 67 ไหและแน่นอนว่าสินค้าประจำร้านที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ กุ้งแห้ง ยิ่งมีกุ้งแห้งเยอะเท่าไร คนในอำเภอยิ่งซื้อกันเยอะมาก พวกเขาต่างบอกว่ามันสามารถเพิ่มรสชาติในการทำอาหารได้ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือพวกเขาต่างอ

    Dernière mise à jour : 2025-01-20
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่40 เริ่มขยายกิจการ

    ตั้งแต่มีความคิดที่ต้องการซื้อรถยนต์ กัวเหม่ยอิงก็เริ่มทำงานหนักมากเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นล้อมรั้วที่ดินทั้งหมดเพื่อขุดสระ เลี้ยงสัตว์และปลูกผัก กัวเหม่ยอิงจ้างคนล้อมรั้ว ขุดสระ และค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมหลายร้อยหยวนเลยทีเดียว แต่ก็นับว่าคุ้มค่ายิ่ง ส่วนเล้าไก่ เล้าเป็ดนั้นก็ไม่ยากเลย เป็นพี่ใหญ่กัวเองที่อาสารับหน้าที่นี้ เพราะจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนที่ร้านนั้นกัวเหม่ยอิงจะเข้าไปวันเว้นวัน เพราะเธอมาช่วยคนในบ้านแปรรูปของต่าง ๆ ที่จะเอาไปขาย เนื่องจากบางวันจับกุ้งไม่ได้ หรือบางวันก็จับได้น้อย กล้วยที่มีในป่าก็แทบจะหมดแล้วในเขตที่เข้าสำรวจ สส่วนป่าชั้นลึกยังไม่ได้เข้าไปของหลายอย่างที่เคยหาได้ ช่วงนี้มันหายากมาก กัวเหม่ยอิงจึงตัดสินใจขุดสองสระ สระแรกจะใช้เลี้ยงปลา อีกสระจะใช้เลี้ยงกุ้งสระเริ่มมีน้ำผุดขึ้นมาแล้วบ้าง กัวเหม่ยอิงรอให้น้ำเต็มสระก่อนถึงจะเอาปลาและกุ้งมาปล่อย ส่วนเล้าเป็ด เล้าไก่กัวเหม่ยอิงจะเลี้ยงแค่ชนิดละ 50 ตัว เพราะตอนนี้จำนวนคนที่บ้านกับงานที่ต้องทำมันไม่พอ แต่ถึงอย่างนั้นพอสร้างเล้าเสร็จกัวเหม่ยอิงก็ล้อมรั้วไว้ด้วยพวกเธอไม่สามารถปล่อยเป็ดกับไก่ออกนอกเล้าได้เพราะจะปลูก

    Dernière mise à jour : 2025-01-20
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่41 ส่งน้องชายสามไปเรียน

    สถานีรถไฟประจำอำเภอเต็มไปด้วยผู้คนที่มาส่งลูกหลานเดินทางไปเรียนมหาวิทยาลัยในมณฑลตามที่ได้เลือกเอาไว้ รวมถึงบ้านกัวกับบ้านหานที่ให้หานหรงเหยาไปเช่ารถมาส่งน้องชายสามไปเรียนที่ปักกิ่งใช่แล้ว น้องชายสามได้รับจดหมายตอบกลับจากทางมหาวิทยาลัยทั้ง 4 มหาวิทยาลัยที่ได้ส่งจดหมายไป แต่ทางบ้านหานให้เขาเลือกเอาเองว่าจะเรียนที่ไหนแน่นอนว่าในใจของกัวเหม่ยอิงก็อยากให้เขาไปเรียนที่ปักกิ่ง และเหมือนเขาจะรู้เพราะตอนแรก ๆ กัวเหม่ยอิงได้เคยพูดไว้ว่าถ้ามีโอกาส ก็อยากจะเข้าไปขายของในเมืองใหญ่ ๆ จึงได้เลือกมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ทั้ง ๆ ที่เขาไม่อยากไปไกลมาก แต่กัวเหม่ยอิงก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะการตัดสินใจทั้งหมดมันอยู่ที่เขาส่วนวันนี้อันที่จริงมันไม่ใช่วันหยุดของร้านขายของหานอี แต่กัวเหม่ยอิงได้ปิดร้านหนึ่งวันที่แจ้งไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ส่วนน้องชายสามได้รับจดหมายตอบกลับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จึงขอใช้เวลาอยู่ที่บ้านหนึ่งสัปดาห์ก่อนจะไปเรียน“จริง ๆ ผมว่าไม่ต้องมาส่งก็ได้นะครับ” เพราะต้องมาส่งเขา ทำให้ที่บ้านขาดรายได้หลายร้อยหยวนเลยสำหรับหนึ่งวันแม่หานส่ายหน้าให้ลูกชาย “พวกเรามาส่งน่ะดีแล้ว” หลายปีที่ผ่านมา นางขอแค่ให

    Dernière mise à jour : 2025-01-20
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่42 เข้ามณฑล

    เครือกล้วยดิบทั้งหมดในร้านที่มีในตอนนี้มีทั้งหมด 13 เครือ และกัวเหม่ยอิงก็ซื้อทั้งหมดในราคา 325 หยวน จากปกติ 351 หยวน ประหยัดไปได้ถึง 26 หยวน ซึ่งเป็นจำนวนนี้สามารถซื้อวัตถุดิบไปทำอาหารสำหรับในบ้านได้ถึงสองมื้อ และนอกจากกล้วยดิบก็ยังมีผลไม้ชนิดอื่นอีกหลายชนิดที่ใช้เงินเกือบ 1,000 หยวน ในการซื้อผลไม้วันนี้แต่กัวเหม่ยอิงได้ทำข้อตกลงกลับทางร้านผลไม้ประจำมณฑลอีกด้วย ไหน ๆ วันนี้เธอก็มาซื้อผลไปแปรรูปขายอยู่แล้ว เธอก็สั่งผลไม้ไปเลยจะได้ไม่ต้องเข้าเมืองบ่อย อีกอย่างหากทำการซื้อขายกับทางร้านและอยู่ในเขตมณฑลนี้ ทางร้านจะไปส่งผลไม้ให้ฟรีถึงที่ กัวเหม่ยอิงจึงไม่ลังเลที่จะตอบตกลง เพราะตอนนี้หากเอาของใส่รถมันก็คงจะเต็ม“ขอบคุณคุณลี่ด้วยนะคะ” กัวเหม่ยอิงบอกชายเจ้าของร้านที่เดินออกมาส่งที่หน้าร้านหลังทำข้อตกลงเสร็จเธอพึ่งรู้ว่าเจ้าของร้านผลไม้ไม่ใช่คนที่คุยกันในตอนแรก แต่เป็นผู้ชายที่อายุห่างจากเธอแค่ไม่กี่ปีเท่านั้นที่เป็นเจ้าของร้าน และออกมาคุยกับเธอในตอนที่ได้ทำข้อตกลงกัน ส่วนคนที่เฝ้าหน้าร้านเป็นญาติห่าง ๆ ที่กำลังจะลาออก“ยินดีที่ได้ร่วมธุระกิจครับ ไว้โอกาสหน้าคุณเหม่ยอิงเข้ามณฑลผมจะเชิญกินข

    Dernière mise à jour : 2025-01-20

Latest chapter

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่89 บทส่งท้าย

    “กรี๊ด”“พี่เสี่ยวลู่!”“หลิงเฟยยย”“ช่วยด้วย!”“ฮ่า ฮ่า”กัวเหม่ยอิงส่ายหัวให้กับภาพตรงหน้า ในรอบหลายเดือนที่สาว ๆ ได้กลับมาเจอกันยังทำตัวเป็นเด็กเหมือนเดิมหานหลินเฟยกับหานหลิงเฟยปิดเทอมได้สองสัปดาห์แล้ว แต่ที่เพิ่งมาถึงปักกิ่งก็เพราะทั้งสองกลับไปหาพ่อกับแม่ที่บ้านก่อน ค่อยขึ้นมาหาผู้เป็นป้าที่ปักกิ่งแต่น้องชายคนเล็กไม่ได้มาด้วยกัวเหม่ยอิงที่เห็นว่าเด็ก ๆ ได้กลับมาเจอกันในรอบหลายเดือนจึงชวนพี่น้องบ้านหลี่ บ้านสามของน้องชายสามมากินข้าวมื้อเย็นนอกบ้านนอกบ้านก็คือนอกบ้านจริง ๆ บริเวณหน้าบ้านของกัวเหม่ยอิงนอกจากจอดรถไว้แล้วก็ยังมีที่ให้นั่งได้อีก และแต่ก่อนเด็ก ๆ เรียนอยู่ในปักกิ่งก็จะนั่งกินข้าวด้านนอกกันเพราะคนเยอะ ซึ่งทุกคนก็คุ้นเคยกันดีวันนี้กัวเหม่ยอิงลงมือทำกับข้าวมื้อเย็น ทั้งเคาหยก ไข่ตุ๋น ต้มยำปลา ไก่ทอด สามชั้นทอดเกลือ หมูต้มสาหร่าย และของหวานอีกหลายอย่าง เป็นการลงครัวในรอบเดือนด้วยซ้ำเพราะทุกวันนี้หานเมิ่งลู่ลูกสาวคนเดียวของเธอห้ามไม่ให้กัวเหม่ยอิงทำกับข้าว หรือทำงานบ้านเพราะหล่อนจะทำเอง แต่กว่าจะเลิกงานในแต่ละวันกัวเหม่ยอิงทำงานบ้านรอแล้ว“เล่นกันเป็นเด็ก ๆ เลย” เหอลี่

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่88 ลูกสาวคนสวย

    ในระแวกตลาดประจำกรุงปักกิ่งใคร ๆ ก็รู้จักบ้านของคุณนายหานที่มีลูกสาวแสนสวยกับหลาน ๆ ที่สวยไม่แพ้กัน ยิ่งปีนี้พากันเรียนจบถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศแล้วต้องบอกว่านอกจากภูมิใจลูกสาวแล้วกัวเหม่ยอิงก็ภูมิใจหลาน ๆ ด้วย เลี้ยงมาตั้งแต่ตีนเท้าฝาหอย ตอนนี้โตพอจะเลี้ยงเธอได้กันหมดแล้ว“คุณนายแม่”“หื้ม”กัวเหม่ยอิงลูบหัวลูกสาวที่พุ่งเข้ามากอด เธอรู้ว่าลูกสาวเครียดเพราะช่วงนี้หล่อนเข้าไปเรียนรู้งานในร้าน แม้จะมีผู้เป็นแม่คอยช่วยเหลือแต่ก็เครียดอยู่ดี เสี่ยวลู่บอกที่ผ่านมาคนเป็นแม่เก่งมาก จากที่มีร้านเล็ก ๆ ตอนนี้ขยายร้านใหญ่มากร้านเสื้อผ้าเมิ่งลู่มีมากถึงสิบสาขา สาขาหลักและสาขาที่สามตั้งอยู่มณฑลบ้านเกิด สาขารอง สาขาสี่ และสาขาห้า กระจายอยู่ในปักกิ่งแต่ก็ไม่ได้ห่างกันมาก เพราะกัวเหม่ยอิงกลัวลูกสาวจะไปมาร้านลำบากสาขาที่หกและสาขาที่เก้าตั้งอยู่ในมหานครฉงชิ่ง สาขาที่เจ็ดและสาขาที่แปดตั้งอยู่ในมหานครเซี่ยงไฮ้ และสาขาที่สิบตั้งอยู่ในมหานครเทียนสินยังไม่รวมกับพ่อค้า แม่ค้า ที่เข้ามาขอซื้อเสื้อไปขายต่ออีก หลัง ๆ มานี้กัวเหม่ยอิงให้สั่งเป็นรอบ ๆ จะได้ตัดแยกกับที่เอามาขายในร้าน“เหนื่อยมากเหรอจ๊ะ

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่87 ของว่างของเด็ก ๆ

    หลังจากเสร็จงานของย่าหานกัวเหม่ยอิงก็พาสามีกลับปักกิ่งทันที เพราะเป็นห่วงเด็ก ๆ นี่ก็ทิ้งมากันหลายวันแล้วและเป็นไปตามที่สะใภ้รองบอกจริง ๆ แม่หานไม่ยอมไปปักกิ่งด้วย หลานก็เป็นห่วง แต่ห่วงลูกชายคนกลางที่ต้องทำงานอยู่ที่บ้านคนเดียวกัวเหม่ยอิงก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่เธอก็ให้สะใภ้รองไปด้วย ให้สะใภ้รองไปช่วยงานสักเดือนสองเดือนก็จะให้กลับมาอยู่ที่บ้านจริง ๆ ก็ไม่ได้ช่วยงานหรอก แค่ช่วยอยู่กับเด็ก ๆ ระหว่างที่กัวเหม่ยอิงกับหานหรงเจ๋อไปทำธุระกันก็พอ ยิ่งช่วงนี้มีการติดประกาศขายที่ดิน ขายบ้าน ขายตึก กัวเหม่ยอิงก็อยากซื้อเก็บไว้ ถ้าไม่ใช้ค่อยขายต่อหรือให้คนอื่นเช่าแทนกัวเหม่ยอิงคิดว่าตัวเองจะทำงานได้อีกไม่เกินสามสิบปี ระหว่างที่สามารถทำงานได้เธอจึงรีบทำ ยิ่งพื้นที่ทำเลทองในอนาคตกัวเหม่ยอิงก็ต้องรีบซื้อเก็บไว้ เพราะบางผืนสามารถขายต่อในอนาคตได้มากกว่าเดิมหลานพันหยวน“พี่จะทำแบบนี้ทุกวันเลยเหรอคะ” สะใภ้รองถามกัวเหม่ยอิงที่ล้างผลไม้อยู่ทั้งสี่คน กัวเหม่ยอิง หานหรงเจ๋อ สะใภ้รอง และน้องชายสามพึ่งมาถึงบ้านเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้ แต่เด็ก ๆ ไปโรงเรียนกันแล้ว กัวเหม่ยอิงเลยปล่อยให้ไปพักกัน แต่ถ้าถึงเวลาเด็ก

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่86 ย่าหานถึงแก่กรรม

    กัวเหม่ยอิงมองคนในบ้านใหญ่ที่ร้องห่มร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาตั้งแต่ที่เธอ หานหรงเจ๋อกลับมาถึงบ้านแล้วแวะมาดูย่าหาน มันคงจะดีกว่านี้ถ้าคนในบ้านใหญ่ร้องไห้มีน้ำตาบ้าง และย่าหานยังไม่ถึงแก่กรรมแต่บ้านใหญ่กลับทำเหมือนย่าหานถึงแก่กรรมแล้ว“ทำไมเขาร้องไห้ไม่มีน้ำตาเลยล่ะคะ” กัวเหม่ยอิงกระซิบถามสามีด้วยความอยากรู้ แต่จริง ๆ ก็คือจะบอกว่าพวกเขาแสดงไม่เนียนกันเลยหานหรงเจ๋อส่ายหน้าเพราะไม่มีคำตอบ แค่ตอนนี้เขาก็เอือมระอาเต็มทนแล้ว มีที่ไหนบ้างที่คนป่วยไม่ไหวแล้วแต่เอาออกมานอนกลางบ้าน ทั้งยังฉุนไปด้วยกลิ่นฉี่และสิ่งปฏิกูลอีก นอกจากกลิ่นแล้วยังไม่ทำความสะอาดอีก“จะ..เจ้าใหญ่ แค่ก ๆ ละ…หลาน มารับ…พี่ ชะ ชาย นะ…น้อง ชาย ไป…ทะ ทำงาน ดะ…ด้วย ใช่…มะ ไหม แค่ก ๆ ”กัวเหม่ยอิงหันขวับทันที แค่ตอนนี้ตัวเองก็ยังเอาชีวิตจะไม่รอดยังจะมาห่วงหลานจากบ้านใหญ่แต่มาทำให้หลานอีกบ้านหนักใจอีก แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร เดี๋ยวจะกระอักเลือดซะก่อน“บ้านใหญ่บอกย่าป่วยครับ ผมเลยลงมาดู แต่มานานไม่ได้” หานหรงเจ๋อบอกยังดีที่น้องชายสามทำงานในโรงงานของคนรู้จักจึงลางานมาได้ แต่ก็แลกกับการต้องหาคนไปทำงานแทนระหว่างที่ไม่อยู่ ซึ่งโชคดีที

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่85 นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น

    ความสำเร็จของลูกสาวถึงแม้จะเป็นเพียงก้าวเล็ก ๆ แต่มันก็ทำให้กัวเหม่ยอิงร้องไห้ออกมาด้วยความตื้นตันใจ แค่ไม่กี่ปีลูกสาวของเธอก็จบในระดับชั้นประถมแล้ว และตอนนี้ยังเข้าเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นกัวเหม่ยอิงรู้สึกว่าวันนี้มันเร็วมาก เหมือนเมื่อวานเด็กคนนี้ยังร้องไห้ข้าง ๆ เธออยู่ แต่จริง ๆ มันผ่านไปเป็นสิบ ๆ ปีแล้วปีนี้เสี่ยวลู่อายุสิบสามแล้วแต่เสี่ยวหนิงยังสิบสองย่างสิบสามอยู่ และเด็กแฝดตอนนี้ก็สิบขวบกันแล้ว ส่วนหลานชายคนเล็กก็เพิ่งจะเจ็ดขวบและกัวเหม่ยอิงก็ให้สามีไปรับเขามาเรียนในปักกิ่งแล้วด้วยหลี่เวยเวยกับหลี่หม่าฮัวเรียนจบโรงเรียนภาคค่ำสาขาบัญชีเมื่อสามปีก่อน ทั้งสองมีงานที่มั่นคงแล้วนั้นก็คืองานในร้านเลยขอออกไปใช้ชีวิตข้างนอกกันสองคน ซึ่งกัวเหม่ยอิงก็อนุญาต ที่บ้านเลยมีแค่กัวเหม่ยอิง หานหรงเจ๋อ เสี่ยวหนิง หานหลินเฟย หานหลิงเฟยและหานหลงเฟย แต่พอมีหลานชายคนเล็กมา กัวเหม่ยอิงก็ให้หลี่เวยเวยกลับมาช่วยในบ้าน บางวันก็ให้น้องชายสามมารับเด็ก ๆ ไปนอนด้วยน้องชายสามเรียนจบเศรษฐศาสตร์สาขาวิชาการเงิน ตอนนี้ทำงานในโรงงานขนาดใหญ่ เงินเดือนยังไม่มั่นคงเพราะเพิ่งเริ่มทำงาน แต่ก็มีเงินที่สามารถเลี้ยงครอ

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่84 หลี่เวยเวยอยากทำงาน

    การปรับตัวช่วงแรกของเด็กแฝดเป็นการปรับตัวที่ต้องให้เสี่ยวลู่กับเสี่ยวหนิงต้องไปปรับพื้นฐานก่อนเข้าเรียนด้วย เนื่องจากเด็กแฝดไม่ได้เรียนแบบจริงจังและยังไม่เคยเรียนโรงเรียนประถมส่วนสองพี่น้องบ้านลู่ก็ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะทั้งสองมีพื้นฐานที่กัวเหม่ยอิงสอนก่อนเปิดเรียนภาคค่ำแล้ว ยิ่งในแต่ละวันสอนแค่หนึ่งถึงสองชั่วโมง ทั้งหลี่เวยเวยกับหลี่หม่าฮัวก็มีเวลาทบทวนการเรียนมากขึ้นห้องนอนห้องแรกเป็นห้องนอนของกัวเหม่ยอิงกับสามี ห้องนอนห้องที่สองเป็นห้องของลูกสาวกับเสี่ยวหนิงเวลาหล่อนจะมานอนที่บ้านห้องนอนห้องที่สามเป็นห้องของหลินเฟย หลิงเฟย ห้องนอนห้องที่สี่เป็นห้องของหลี่เวยเวย ห้องนอนที่ห้าจะเป็นห้องนอนของหลี่หม่าฮัวและสุดท้ายห้องนอนที่หกกัวเหม่ยอิงสั่งให้หานหรงเจ๋อเอาโต๊ะเข้ามาตั้ง และเอาเตียงนอนชิดผนัง ห้องนี้จะเป็นห้องไว้ทำการบ้านหรือห้องอ่านหนังสือของเด็ก ๆเวลามีการบ้านกัวเหม่ยอิงก็จะสอนให้ทำก่อนที่จะไปเล่น เพราะตอนนี้เด็กทั้งสี่มาอยู่ด้วยกันจึงต้องจัดเวลาให้ดี เลิกเรียนกลับมาถึงบ้านให้ทำการบ้านให้เสร็จ หลังจากนั้นจะทำอะไรก็ไม่มีใครว่า ถ้าให้ทำตอนเย็นก็ยุ่งทำกับข้าว ไม่ต้องพูดถึงเวลาอื่

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่83 น้องกับหลานมาปักกิ่ง

    กัวเหม่ยอิงกำลังหาบ้าน เธอให้สามีพาขับรถวนหาแถว ๆ บ้านเช่า บ้านต้องอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนของลูกสาวและตลาดที่ขายเสื้อ เพื่อความสะดวกเวลามีปัญหาหรือไปทำงานในร้านจะไม่ได้เหนื่อยมากบ้านที่เช่าอยู่ตอนนี้มันมีวันที่หมดสัญญา หากเธอไม่เช่าต่อก็แค่ย้ายออก แต่ถ้าจะเช่าต่อก็แค่ทำสัญญาใหม่ และหากสองพี่น้องหลี่กับเด็กแฝดขึ้นมาอยู่ด้วย ห้องที่มีในตอนนี้มันไม่พอ หรือถ้าได้บ้านจริง ๆ กัวเหม่ยอิงก็จะพาไปอยู่ที่บ้าน ส่วนบ้านเช่าหลังนี้ก็ให้น้องชายสามเช่าต่อได้ แต่ถ้าเขาไม่เช่าต่อก็คืนกุญแจโจวเฟินไปกัวเหม่ยอิงมีเงินเก็บมากพอที่จะซื้อบ้านหลังขนาดใหญ่ในปักกิ่ง แต่เงินบางส่วนเก็บไว้ให้ลูกสาว จึงต้องหาบ้านขนาดกลางที่มีห้าถึงหกห้องนอน แต่ถ้าห้องไม่พอและมีพื้นที่อีก กัวเหม่ยอิงก็ยินดีที่จะสร้างห้องเพิ่ม“บ้านหลังนี้เขาขายเหรอคะ” กัวเหม่ยอิงลงจากรถไปถามหญิงชราที่นั่งอยู่หน้าบ้าน แต่ตรงข้ามบ้านนางเป็นบ้านขนาดกลางที่กัวเหม่ยอิงชอบตัวบ้านมีลักษณะที่แปลก“ใช่ ๆ บ้านนี้เขาขาย จะเข้ามาดูเหรอ” คุณยายเอ่ยถาม“ฉันอยากได้บ้านน่ะค่ะเลยแวะมาดู” กัวเหม่ยอิงยิ้มให้นาง จริง ๆ ไม่คิดว่าจะมีคนนั่งอยู่หน้าบ้านเพราะเป็นเวลากลา

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่82 ว่าที่สะใภ้สามบ้านหาน

    ความสัมพันธ์ระหว่างบ้านหานกับบ้านเจี๋ยตอนนี้เริ่มสนิทกันแล้ว เพราะทุก ๆ วันหยุดของเด็ก ๆ ไม่กัวเหม่ยอิงก็จางลี่ฮัวที่จะชวนไปกินอาหารมื้อเย็น ไม่ก็ชวนกันไปสวนสาธารณะอีกอย่างไปไหนด้วยกันก็ใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมง หานหรงเจ๋อกับเจี๋ยฮงผู้เป็นสามีของจางลี่ฮัวก็เรียกได้ว่าสนิทกัน เพราะบางทีภรรยากับเด็ก ๆ พากันไปทำกิจกรรม สามีทั้งสองจึงต้องเฝ้าของไปด้วยกันจางลี่ฮัวเป็นแม่บ้านที่ต้องเลี้ยงลูก หล่อนจึงว่างเวลาลูกไปเรียนทั้งหมด ส่วนเจี๋ยฮงผู้เป็นสามีเห็นว่าทำงานในโรงงานของคนรู้จัก แต่มีตำแหน่งใหญ่โตที่สามารถเลี้ยงสี่แม่ลูกให้สบายได้ร้านเสื้อผ้าเมิ่งลู่ทั้งสามสาขาทำกำไรในแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่าแสนหยวน กัวเหม่ยอิงจึงไม่ค่อยเป็นห่วง เวลาว่างก็จะออกแบบลวดลายเสื้อสั่งโรงงาน แต่บางวันก็ชวนจางลี่ฮัวออกไปหาอะไรทำและเพราะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา กัวเหม่ยอิงรู้สึกทำงานหนักมากเกินไปเลยให้แค่หานหรงเจ๋อแวะเข้าไปดูร้าน แต่วันนี้มีเรื่องราวที่น่าตกใจเหอลี่คบกับน้องชายสาม! จริง ๆ เรื่องนี้จะไม่แดงออกมาหากหานหรงเจ๋อไม่เข้าไปเห็นแล้วมาบอกเธอ เห็นว่าน้องชายสามอยากให้เหอลี่มาเปิดตัวกับเธอแต่หล่อนปฏิเสธ เพราะหล่อ

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่81 ประชุมผู้ปกครอง

    ‘คุณลี่มาถามหาพี่ถึงบ้านเลยค่ะ จริง ๆ เขาก็มาสามวันติดแล้ว เลยต้องโทรบอก’เสียงปลายสายทำให้กัวเหม่ยอิงที่นั่งออกแบบลายเสื้อชะงัก มือที่กำลังจับปากกาต้องวางลง แล้วทวนคำบอกเล่าอีกรอบ“คุณลี่มาหาที่บ้าน?”‘ใช่ค่ะ เขาบอกอยากคุยกับพี่ แต่ที่บ้านก็บอกไปแล้วว่าพี่ไม่ได้อยู่ที่บ้าน แต่เราก็รับผลไม้มาจากเขา คุณแม่กลัวว่าจะมีปัญหา’ “เราไม่มีอะไรที่ต้องคุยกัน แล้วคุณลี่ก็แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ เธอบอกคนอื่นว่าไม่ต้องกลัว” กัวเหม่ยอิงบอกเธอไม่รู้ว่าตลอดระยะเวลาที่กลับบ้านไปสองสัปดาห์ ทำไมเขาไม่มาหาหรือหาทางติดต่อเลยทั้ง ๆ ที่วันนั้นพนักงานมาดักรอเธอ แต่พอเธอกลับมาปักกิ่งกลับไปถามหาเธอซะงั้น อีกอย่างตอนนี้เขาคงจะแต่งงานไปแล้ว‘พี่จะไม่คุยกับเขาจริง ๆ เหรอ’“เราคุยกันแล้ว ฉันมีสามีส่วนเขาคงจะมีภรรยาแล้วด้วย”‘พี่รู้ไหม เขาล่มงานแต่งที่ทางครอบครัวหาให้ ฉันได้ยินมาจากสามีเพราะเขามีเพื่อนเป็นญาติของฝ่ายหญิง ทางนั้นเล่าให้ฟังว่าคุณลี่ไม่เต็มใจจะแต่งตั้งแต่แรกแล้ว'แต่เพราะคุณลี่ยังไม่แต่งงาน งานแต่งที่ว่าจึงต้องเกิดขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นคุณลี่ก็กำลังตามจีบพี่สะใภ้ขอ งหล่อนอยู่ แล้วพอถูกพ

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status