Share

บทที่ 21  

Author: เจี๋ยเยี่ยน
ฝูอวิ๋นพยายามลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ภาพตรงหน้า ก็คือแผ่นกระเบื้องหลังคา รอบด้านทั้งสี่ทิศ คือกำแพงหิน หน้าต่างเป็นไม้เนื้อแข็งสลักลวดลาย

ตะลึงงันอยู่ครู่ใหญ่นางค่อยตั้งสติกลับมาได้ เธอตายไปแล้วจริง ๆ เพียงแต่ดวงวิญญาณทะลุข้ามภพชาติมาอยู่ในร่างของหญิงชาวบ้านในยุคโบราณ และยังมีชีวิตอยู่ราวกับปาฏิหาริย์…

นอนนิ่งอยู่นานแล้ว หัวใจยังคงเต้นตุบ ๆ เส้นโลหิตบนปรางแก้มขยายออก เต้นตามจังหวะหัวใจ

ยามนี้ท้องฟ้ายังไม่สว่างดี ยังพอนอนต่อได้อีกสักหน่อย…

……

บัดนี้ตะวันโด่งฟ้าแล้ว หลิงจิ่งยืนอยู่นอกประตูห้องของฝูอวิ๋น คอยอยู่นานพักใหญ่แล้ว

ภายในห้องกลับไม่มีเสียงเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย

“ท่านพี่ นางไม่ทำกับข้าวอร่อย ๆ ให้พวกข้าแล้วหรือ?” หลิงเสวี่ยถามขึ้น

เมื่อคืนก่อนเข้านอนนางพูดไว้ดิบดี

“วาจาของนางเจ้าเชื่อด้วยหรือ?” หลิงจิ่งหมุนตัวก็เดินไปยังลานบ้าน หยิบตะกร้าเก็บผักขึ้นมา

เขาไม่ทันตระหนักได้ว่าภายในใจของตนเองก็มีคงความผิดหวังที่ยากจะสังเกตอยู่เช่นกัน

กลางเดือนสอง บนคันนาเริ่มมีผักป่าทั้งสดและนุ่มผุดขึ้นมากมาย

หลิงจิ่งพาหลิงเสวี่ย มาถึงแปลงนาร้างผืนหนึ่งทางใต้ของหมู่บ้าน ที่นาผืนน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 22  

    ฝูอวิ๋นยามนี้ศีรษะหนักอึ้งเท้าเบาหวิว แต่กระนั้นก็ยังต้องฝืนสังขารรวบรวมกำลังวังชาทั้งหมดไปทำอาหารให้เด็ก ๆ ซาบซึ้งเลยสิ เจ้าพวกเด็กตัวแสบ ข้าถึงขั้นยอมเสียสละตนเองเพื่อไถ่โทษแทนแม่บังเกิดเกล้าของพวกเจ้าเชียวนะ ภายในเรือนเหลือเพียงแป้งหมี่สองชั่ง ฝูอวิ๋นตักมาหนึ่งถ้วย จากนั้นก็เติมน้ำผสมให้เป็นแป้งเหลวเตรียมเอาไว้ ตั้งหม้อก่อไฟต้มน้ำ จากนั้นก็ใส่น้ำมันหมูลงไปเล็กน้อย พอน้ำเริ่มเดือดก็ตักแป้งเปียกใส่ลงไปในหม้อ ไม่นาน ก้อนแป้งก็ลอยขึ้นมาทีละชิ้น นางจัดการล้างผักชีล้อมที่พวกเด็ก ๆ เก็บมาจนสะอาดดีแล้ว ก็หั่นเป็นชิ้นและใส่ลงไปในหม้อ พอผักสุกแล้ว ก็เติมเกลือเล็กน้อย และตักขึ้นจากหม้อ “ไปเล่นที่ใดมา?” ฝูอวิ๋นยกน้ำแกงก้อนแป้งร้อน ๆ มาวางบนโต๊ะอาหารในห้องโถง เห็นหลิงจิ่งวิ่งกลับมาจากด้านนอก ก็เอ่ยถามขึ้นประโยคหนึ่ง แต่กลับไม่ได้รับคำตอบ “รีบมากินข้าวเถิด” ฝูอวิ๋นแบ่งตะเกียบให้เรียบร้อย ภายในชามของเด็กทั้งสองเต็มแน่น ทว่าของนางมีเพียงครึ่งชาม หลิงจิ่งมองชามตรงหน้านาง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็ถามขึ้นว่า “ยังมีหน่อหลิวอีกหรือไม่?” ฝูอวิ๋นผงะไป “ข้าไปหยิบมาให้” กระทั่งนางกลับมา ก็พบ

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 23  

    “อ้าว น้องหญิงหรูเยียนมาแล้ว เปลี่ยนชุดตัวใหม่มาด้วยหรือ?” ฝูอวิ๋นแสร้งทำเป็นเพิ่งเห็นหลี่หรูเยียน “ข้าเพิ่งตัดมาใหม่ เป็นอย่างไรบ้าง?” หลี่หรูเยียนหมุนตัวหนึ่งรอบ กระโปรงผ้าบางพลิ้วตามสายลม ดูงดงามทีเดียว แม้ปากจะถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทว่าดวงตาของนางกลับจ้องมองไปทางหลิงจิ่งพี่น้อง คล้ายกับกำลังถามพวกเขาว่าชอบหรือไม่ชอบ “พอใช้ได้ เพียงแต่สีเหลืองไปสักหน่อย ตอนนั่งยองเมื่อครู่ ข้าเผลอไม่ตั้งใจมอง คิดว่าเป็นสุนัขสีเหลืองตัวใหญ่ของหัวหน้าหมู่บ้านมาขออาหารกินเสียอีก” ฝูอวิ๋นพิงประตูเอ่ยอย่างเกียจคร้าน “ท่าน!” หลี่หรูเยียนหน้าเขียวคล้ำทันที “ขอโทษที ๆ ข้าสายตาไม่ดีเลยมองผิดไป” ฝูอวิ๋นยิ้มกลบเลื่อน ก่อนจะมองไปทางหลิงจิ่ง “อาจิ่ง น้าเล็กของเจ้ามาหาเหตุใดไม่เชิญเข้าไปในเรือน?” หลิงจิ่งเม้มปากมิได้เอ่ยวาจา ทว่านัยน์ตากลมโตคล้ายจะพูดอะไรบางอย่าง เขาจ้องมองฝูอวิ๋นนิ่ง ๆ ดูเหมือนว่านางจะดูสดชื่นขึ้นกว่าเมื่อตอนเที่ยงอยู่เล็กน้อย ฝูอวิ๋นก้าวเท้าข้ามธรณีประตูออกไป ก่อนจะยิ้มอย่างอ่อนโยน “รู้ว่าเจ้าเป็นห่วงข้า ไม่อยากให้พวกวุ่นวายมารบกวนการพักผ่อนของข้า” “ข้า…ข้าเปล่าสักหน่อย!” หลิงจิ

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 24  

    “นึกออกแล้ว!” ฝูอวิ๋นกลอกตามองมา “หรูเยียน มิเช่นนั้นเจ้าก็ช่วยข้า?” “หา? ข้าจะช่วยท่านได้อย่างไร?” “รอให้หลิงหานโจวกลับมา เจ้าก็แสร้งทำทีหลับนอนกับเขา จากนั้นข้าก็เข้ามาจับชู้ได้ แบบนี้ ข้าก็จะได้หย่ากับเขาแล้วไปหาเซียวหราน” “จะทำแบบนั้นได้ที่ไหนกันเล่า?” หลี่หรูเยียนตกตะลึง เห็นนางท่าทางกระอึกกระอักขัดเขิน รอยยิ้มของฝูอวิ๋นยิ่งเจ้าเล่ห์มากขึ้นทุกที “น้องหญิงคนดี เจ้าบอกเองมิใช่หรือว่า เพื่อความสุขของข้า จะให้เจ้าทำอะไรล้วนได้เสมอ?” ในเมื่อเอาศีลธรรมมากดดันกันได้ใครเล่าจะไม่ทำ? ไว้นางปูเส้นทางอนาคตให้ตนเองเสร็จ ใช้หลี่หรูเยียนเป็นเครื่องมือเพื่อหย่าร้างกับสามีนายพรานคนนี้ เพียงเท่านี้ก็จะสามารถออกไปใช้ชีวิตอิสระของตนเองได้แล้ว ครอบครัวเขาจะวุ่นวายเพียงใดก็เรื่องของพวกเขาแล้ว ลงทุนครั้งเดียวได้ผลลัพธ์มหาศาล หลี่หรูเยียนแสร้งทำทีกระอึกกระอักลังเลอยู่สองสามหน สุดท้ายก็ผงกศีรษะรับอย่างเหนียมอาย “เฮ้อ ใครให้ท่านเป็นพี่หญิงที่แสนดีที่สุดของข้ากัน ขอเพียงท่านมีชีวิตที่ดีขึ้น ให้ข้าเสียสละตนเองสักหน่อยก็ย่อมได้” “เยี่ยม เช่นนี้แล้วก็เอาตามนี้แล้วกัน” ฝูอวิ๋นเฝ้าฝันถึงวันที่ง

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 25  

    โพรงปากขมจนหน้าเริ่มกลายเป็นสีเขียวแล้ว ฝูอวิ๋นรีบตักน้ำเย็นมา หมายจะดื่ม ทว่าหลิงจิ่งกลับตะโกนเสียงดังขึ้นมา “ห้ามดื่ม!” “หืม?” ฝูอวิ๋นผินศีรษะมองไปทางเขา “คือว่า…หากดื่มน้ำเย็นฤทธิ์ของโอสถก็จะหมดไป…” เสียงของหลิงจิ่งเบาลงเรื่อย ๆ เพราะเมื่อครู่เขาเผลอตะคอกใส่นาง… เขาบิดนิ้วตนเอง ก่อนจะเหลือบสายตามองฝูอวิ๋นอย่างไม่วางใจ เท้าค่อย ๆ ถอยหลังไปทีละก้าว “มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ?” ฝูอวิ๋นขมวดคิ้วแล้วเทน้ำกลับลงไป “เช่นนั้นไม่ดื่มแล้วก็ได้ ข้ารู้สึกดีขึ้นเยอะแล้ว” “จะ…จะรวดเร็วเพียงนั้นได้อย่างไร” “เจ้ารู้จักสมุนไพรได้อย่างไร?” “ไม่ได้รู้จัก ก็แค่หยิบมาส่งเดช” หลิงจิ่งเบือนหน้าหนีอย่างไม่สบอารมณ์ “หึหึ…เอาเถิด ขอบใจมาก อุตส่าห์ไปเก็บสมุนไพรมาให้ข้าแล้วยังต้มเป็นยาให้ข้าอีก ความรู้สึกที่มีคนเป็นห่วงมันช่างดีเหลือเกิน ข้าเกือบจะตกหลุมรักเจ้าตัวน้อยน่ารักอย่างเจ้าแล้วสิ” “ใครเป็นห่วงท่านกัน?” หลิงจิ่งพองแก้ม จ้องมองฝูอวิ๋น “ข้าแค่กลัวท่านตายในเรือน ข้าไม่มีปัญญาขุดหลุมฝังศพท่านหรอก” พูดจบ เขาหมุนตัวก็พร้อมจะวิ่งออกไปทันที ทว่าฝูอวิ๋นกลับพุ่งเข้าไป พร้อมกับคว้าไหล่ของเขาไว้ เข

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 26 

    มื้อเย็นวันนี้ อาหารที่ฝูอวิ๋นทำก็คือบะหมี่มีดเฉือน เส้นบะหมี่หนึบนุ่มเด้ง คลุกกับผักชีล้อมสีเขียวอ่อน ชวนให้อยากอาหาร หลังจากเปิดใจพูดกับพวกเด็ก ๆ ฝูอวิ๋นสังเกตเห็นว่า ท่าทีบนโต๊ะอาหารของหลิงจิ่ง ดูผ่อนคลายกว่าเมื่อตอนก่อนหน้านี้มากทีเดียว ส่วนหลิงเสวี่ย เคารพพี่ชายมาโดยตลอด พี่ชายว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น หลังจากซดน้ำแกงบะหมี่ร้อน ๆ ฝูอวิ๋นเหงื่อออกท่วมร่างกาย อาการวิงเวียนศีรษะก็ทุเลาลงไม่น้อยแล้ว หลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อย หลิงจิ่งกำลังจะไปล้างถ้วยชาม ทว่าฝูอวิ๋นกลับกดเขาลง “ข้าล้างเอง มือเจ้ามีบาดแผล อย่าโดนน้ำดีที่สุด” แต่กระนั้นหลิงจิ่งก็แย่งชามกลับมา และวิ่งไปที่ห้องครัว ฝูอวิ๋นยิ้มอย่างชื่นใจ จากนั้นก็ไปตักน้ำให้หลิงเสวี่ยล้างหน้า ยามที่เด็กสาวตัวน้อยเผชิญหน้ากับนางยังคงสั่นสะท้านเหมือนเคย แต่ก็มิได้รุนแรงเท่ากับเมื่อวานแล้ว ภายในสองวันก็สามารถทำให้พวกเด็ก ๆ เริ่มเปิดใจยอมรับนางได้แล้ว นางปลื้มปริ่มพึงพอใจเป็นที่สุด จริงดังคาด นางเหมาะจะเป็นคนดีที่สุดแล้ว “ล้างหน้าเสร็จแล้ว ยื่นมือน้อย ๆ ของเจ้าออกมาสิ” ฝูอวิ๋นเอ่ยพลาง เอื้อมมือไปจับมือของแม่หนูน้อยเอาไว้ “น

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 27  

    หลังจากหลิงจิ่งตื่นนอน สิ่งแรกที่ทำก็คือคว้าเหรียญทองแดงเหล่านั้นมา และไปที่บ้านของหลี่ต้าหย่งเพื่อซื้อไข่ไก่ หลี่ต้าหย่งคนนี้ก็คือนายพรานในหมู่บ้าน มักจะขึ้นเขาเข้าป่าไปล่าสัตว์พร้อมกับหลิงหานโจวเสมอ ทำให้สองครอบครัวสนิทกันมากทีเดียว สวี่เถาเหนียงผู้เป็นภรรยาของหลี่ต้าหย่งเห็นว่าผู้เข้ามาคือหลิงจิ่ง สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงไม่พอใจทันที “อาจิ่ง นี่หญิงใจร้ายคนนั้นทุบตีพวกเจ้าอีกแล้วหรือ? ไป ป้าจะไปสั่งสอนนางให้เจ้าเอง!” สวี่เถาเหนียงเอ่ยพลางถลกแขนเสื้อขึ้น หลิงจิ่งรีบร้องเรียกนางไว้ “ท่านป้า ไม่ใช่ขอรับ ท่าน ท่าน…ท่านแม่ข้านางไม่ได้ตีพวกข้าขอรับ” “เจ้าเรียกนางว่าอะไรนะ?” สวี่เถาเหนียงทำหน้าราวกับได้ยินเรื่องเหลือเชื่อ แม้แต่เส้นผมบนศีรษะยังแสดงออกว่าตกใจ หลิงจิ่งยิ้มอย่างเก้อเขิน “ท่านแม่ข้านางเป็นคนดีแล้ว นางบอกว่าจะไม่ตีพวกข้าแล้ว” “เป็นคนดีแล้ว? จะเป็นไปได้อย่างไรกัน?” สวี่เถาเหนียงอดไม่ได้นึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับหลี่ชุ่ยฮวาเมื่อสองวันก่อนขึ้นมา ทว่าสิ่งที่ทุกคนพูดมิใช่นางเป็นคนดีขึ้นแล้ว แต่บอกว่านางยิ่งบ้าหนักกว่าเดิม หากมิใช่ยิ่งบ้าหนักกว่าเดิม มีหรือจะกล้าลงมือ

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 28  

    ฝูอวิ๋นสำรวจเส้นผมของหลิงเสวี่ยอย่างละเอียด ไม่เห็นก็ไม่คิดอะไรแต่เมื่อเห็นแล้วก็ตกใจไม่น้อย เมื่อแหวกเส้นผมที่พันกันยุ่งเหยิงออก ก็เห็นเหาตัวใหญ่กำลังคลานไปคลานมาระหว่างเส้นผม ฝูอวิ๋นถึงกับสะดุ้งโหยง “เจ้าเด็กโกหก บนศีรษะของเจ้ามีเหาเยอะขนาดนี้เชียว ไยจึงกล้าโกหกข้าว่าไม่มีอีก?” ดวงหน้านุ่มนิ่มเล็กจ้อยของหลิงเสวี่ยแข็งค้างไปแล้ว เห็นนางไม่เชื่อ ฝูอวิ๋นก็จับเหาสองตัวมาวางไว้ตรงหน้านาง นางค่อย ๆ เบิกตากว้าง มองไปทางฝูอวิ๋นอย่างเขินอาย ก่อนจะหัวเราะแห้ง ๆ ออกมา แล้วก็ทนไม่ไหวเผลอเกาศีรษะแกร่ก ๆ อีกครั้ง “เจ้าเด็กขี้โกหก แบบนี้เหาของเจ้าจะกระโดดขึ้นมาบนหัวข้าหรือเปล่าเนี่ย?” ฝูอวิ๋นนิ่วหน้า ก่อนจะสางผมให้หลิงเสวี่ย “ยืนนิ่งไว้อย่าขยับนะ ข้าจะไปหาหวีมาให้” นางบอกว่าห้ามขยับ หลิงเสวี่ยก็ไม่ขยับจริง ๆ ตอนที่ออกมาอีกครั้ง นอกจากหวี และหวีเสนียดแล้ว ฝูอวิ๋นยังนำม้านั่งตัวเล็กตัวหนึ่งออกมาด้วย นางนั่งลงใต้แสงอาทิตย์ พลางกวักมือเรียกหลิงเสวี่ยเข้ามา “เสี่ยวเสวี่ย เจ้ามานี่สิ” หลิงเสวี่ยยืนนิ่งเหมือนกับตอไม้ มีเพียงดวงตากลมโตที่กำลังจับจ้องไปที่นาง ฝูอวิ๋นถอนหายใจอีกครั้ง “ข้า

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 29  

    “เสี่ยวเสวี่ย นางตีเจ้าตรงไหน? บอกป้ามา” สวี่เถาเหนียงดึงตัวหลิงเสวี่ยขึ้นมา เช็ดน้ำตาให้นางด้วยความสงสาร ก่อนต้าหย่งชายของนางออกไปข้างนอก ยังกำชับนางหลายครั้งให้ช่วยดูแลลูกสองคนของหลิงหานโจวให้ดี เห็นเด็กน้อยร้องไห้หนักเพียงนี้ นางทั้งรู้สึกผิดและรู้สึกทุกข์ใจ “ท่านป้า ข้า ข้าไม่เอาแม่ใจร้าย…” หลิงเสวี่ยร้องไห้จนไม่เป็นเสียง สวี่เถาเหนียงมือหนึ่งเท้าสะเอว มืออีกข้างชี้ฝูอวิ๋นพร้อมดุด่าอย่างโกรธเกรี้ยว “หลี่ชุ่ยฮวา เจ้ายังเป็นคนอยู่หรือไม่? เด็กตัวเล็กแค่นี้ เจ้ากล้าลงไม้ลงมือกับนางได้อย่างไร?” หลิงจิ่งจ้องฝูอวิ๋นตาเขม็ง ตอนที่เห็นเส้นผมในมือของนาง แววตาพลันมืดครึ้มลงทันที หมัดเล็ก ๆ ก็กำแน่นขึ้นเช่นกัน คนโกหก! ผู้หญิงคนนี้เป็นคนโกหก! ปากไม่เคยพูดความจริงแม้เพียงประโยคเดียว! หลอกให้เขาออกไปซื้อไข่ไก่ ตนเองกลับดึงทึ้งผมของเสี่ยวเสวี่ยอยู่ที่บ้าน! หลิงจิ่งกัดฟันแน่นจนได้ยินเสียง “กรอด ๆ” แววตาลุกวาวด้วยไฟโทสะ ฝูอวิ๋นมองเห็น ความผิดหวังที่ฉายวาบออกมาจากนัยน์ตาของเขา นางยิ้มเจื่อนทันที “พวกเจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าก็แค่หวีผมให้เสี่ยวเสวี่ย” หลิงจิ่งผงะไป ก่อนจะผินใบหน้า

Latest chapter

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 40

    ฝูอวิ๋นสัมผัสได้ถึงสายตาอันแรงกล้าที่จ้องตัวเองอยู่ก็ขมวดเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น จากนั้นหันตัวไป ได้พบกับเซียวหรานผู้เป็นตำนานมิน่าเล่า หลี่ชุ่ยฮวาจึงจำไม่ลืมเลือน เป็นความจริงที่เขารูปหล่อมาก มีกลิ่นอายของบัณฑิตผู้สุภาพและให้ความรู้สึกเหมือนคุณชายผู้สง่างามเซียวหรานขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจเมื่อเห็นฝูอวิ๋นมองมา “หลี่ชุ่ยฮวา วันก่อนข้าก็พูดกับเจ้าอย่างชัดเจนแล้วนะว่าข้ามีภรรยาแล้ว ส่วนเจ้าก็แต่งงานแล้วเช่นกัน อย่าตามตื๊อข้าอีก”จู่ๆ ฝูอวิ๋นก็หัวเราะออกมา ดวงตาเย็นชาถึงขีดสุด“คุณชายเซียวพูดอันใด? ข้าเพียงนำของมาจำนำเท่านั้น ท่านก็รีบเดินเข้ามาพูดคุยกับข้าแล้ว หากไม่รู้มาก่อนคงคิดว่าท่านยังหลงเหลือความรู้สึกต่อข้า”ฝูอวิ๋นลูบใบหน้าตัวเองพูดอย่างน่าสงสาร “แต่ท่านจะลืมข้าไม่ได้ก็ไม่แปลก ผู้ใดใช้ให้ข้ามีใบหน้าที่งดงามจนสรรพชีวิตต้องเกลียดชังกันล่ะ?”“ขนาดสามีของข้าก็ยังมองข้าด้วยความหลงใหลเหมือนท่านตอนนี้ในทุกๆ วัน”ภายในถ้อยคำของฝูอวิ๋น นอกจากประโยคที่ว่าสามีชอบมากนางแล้ว เรื่องอื่นล้วนแต่เป็นความจริงสกุลหลิงหาเลี้ยงชีพด้วยการล่าสัตว์ ไม่ได้ทำการเกษตร ประกอบกับเดิมทีหลี่ชุ่ยฮว

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 39

    จากหมู่บ้านสกุลหลี่มาถึงตำบลผิงไม่ถือว่าไกล หากใช้เส้นทางที่ตัดผ่านป่าจะมีระยะทางไม่ถึงสิบห้าลี้ ด้วยฝีเท้าของฝูอวิ๋นแล้ว เดินเพียงครึ่งชั่วยามก็ถึงตำบลผิงตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและค่อนข้างล้าหลัง มีตลาดนัดแค่เดือนละสามครั้ง แบ่งเป็นวันที่ห้า วันที่สิบห้า และวันที่ยี่สิบห้า หรือก็คือทุกครั้งที่ในวันมีเลขห้านั่นเองวันนี้เป็นวันที่สิบห้า ตรงกับวันที่มีตลาดนัดพอดีเวลานี้บนถนนมีผู้คนขวักไขว่ไปมาคับคั่ง เสียงเชิญชวนให้ซื้อสินค้า เสียงพูด และเสียงโต้เถียงดังผสมปนเปกัน บรรยากาศคึกคักมีชีวิตชีวามากฝูอวิ๋นเดินไปทางโรงรับจำนำโดยอาศัยจากความทรงจำ ทำการจำนำเครื่องประดับทั้งสองชิ้นแต่นางเพิ่งจะก้าวเข้าไปยังโรงรับจำนำก็คือหญิงสาวหน้าตาหยาดเยิ้มนางหนึ่งยกมือขวางไว้“หืม นี่มันนังบ้าหลี่ชุ่ยฮวาผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมิใช่หรือ? เซียวหรานของข้าเพิ่งจะก้าวเข้ามาที่นี่ เจ้าก็ตามเข้ามาทันที จมูกสุนัขดีไม่เลวเลยนี่”หญิงสาวนางนี้คืออนุของเซียวหราน มีนามว่าเจี่ยอิ๋งอิ๋ง ทั้งที่รูปโฉมงดงาม ทว่าเอ่ยปากพูดแล้วกลับมีแต่ความเหน็บแนมประชดประชัน ทำให้อดที่จะรู้สึกรังเกียจไม่ได้“หลีกไป” ฝูอวิ๋นเม้มริมฝี

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 38

    หลิงจิ่งยกน้ำหนึ่งชามมาให้อย่างรวดเร็ว ฝูอวิ๋นเงยหน้าดื่มหมดในอึกเดียวนางลูบศีรษะน้อยๆ ของหลิงจิ่ง “เมื่อก่อนข้าทำแบบนั้นกับเจ้า ไม่เกลียดข้าหรือ?”ความจริงแล้วนางอยากจะสลัดตัวเองทิ้งและถามหลี่ชุ่ยฮวาเพียงผู้เดียวหลิงจิ่งเม้มปากแน่น ดวงตาคู่กลมส่องประกายระยิบระยับภายใต้แสงตะเกียงขนาดเท่าเม็ดถั่วฝูอวิ๋นยิ้มแล้วถามอีกครั้ง “เจ้าทำดีกับข้าเช่นนี้ คงไม่ได้กำลังวางแผนทำข้าตายกระมัง?”“ข้า…” หลิงจิ่งมองฝูอวิ๋น รู้ว่าค่ำคืนนี้นางแปลกประหลาดมาก“ช่างเถอะ นอนดีกว่า พรุ่งนี้ข้าจะปูเตียงแล้วให้พวกเจ้ากลับไปนอนที่เดิม มิเช่นนั้นข้ากลัวว่าเจ้าจะลอบฆ่าในยามที่ข้าหลับ”ดวงตาของทอประกายเหมือนคนที่ผ่านโลกมาโชกโชน ค่ำคืนนี้ นางรู้สึกซึมเศร้าหลิงจิ่งขมวดคิ้ว เนิ่นนานก่อนจะพูดขึ้นว่า “ท่านตกใจจนเสียขวัญไปแล้วหรือ?”“ก็คงใช่กระมัง” ฝูอวิ๋นใช้นิ้วสางผมไปไว้ด้านหลัง เผยให้เห็นใบหน้าขาวซีดจู่ๆ หลิงจิ่งก็เข้ามากอดเอวนางฝูอวิ๋นตกใจผงะ นางยิ้มขมขื่นว่า “ข้าทำให้เจ้ากลัวหรือ?”“ท่านกลับไปทุบตีพวกข้าเหมือนเดิมเถิด” หลิงจิ่งพูดแบบนี้ออกมาโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเขาเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าเหตุใดจึงพูดเ

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 37

    หลิงจิ่งชอบตบหมอนก่อนเข้านอน เนื่องจากหมอนที่พวกเขาใช้แข็งทื่อมาก ทำจากฝ้ายคุณภาพต่ำจึงมักจะราบเรียบไม่เสมอกัน ตบแล้วจะช่วยให้หนอนหนุนสบายยิ่งขึ้นคืนนี้เขาลืมตัวจึงเผลอยกหมอนขึ้นมาตบ เมื่อยกหมอนขึ้นมาแล้วก็ได้พบกับปิ่นเงิน กำไลหยก และเงินทองแดงอีกสิบกว่าเหรียญที่อยู่ใต้หมอนเขาตกใจผงะเขาไม่ได้รู้สึกแปลกตากับของสองชิ้นนี้กำไลหยกนั่นเป็นของน้าเล็ก น้าเล็กสวมไว้ที่ข้อมืออยู่ตลอด ส่วนปิ่นเงินนั่น ได้ยินมาว่าเป็นของแทนใจที่ชายชู้มอบให้หลี่ชุ่ยฮวานางเก็บไว้ใต้หมอนเช่นนี้เพื่อไว้คะนึงหาเวลาเห็นของอย่างนั้นหรือ?สีหน้าของหลิงจิ่งหมองหม่นลงเล็กน้อยหลิงเสวี่ยเห็นเขาแน่นิ่งก็หันมามอง เมื่อเห็นของสองสิ่งที่อยู่ใต้หมอนก็ร้องออกมาว่า “เอ๋” จากนั้นหยิบกำไลหยกขึ้นมา “นี่มันกำไลของน้าเล็กมิใช่หรือ? เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้?”ฝูอวิ๋นถอดชุดตัวนอกไปพาดไว้ที่เก้าอี้ ครั้นได้ยินถ้อยคำของหลิงเสวี่ยถึงค่อยนึกขึ้นได้ว่านี่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่เหลืออยู่นางตอบว่า “นี่เป็นของที่ข้าเคยให้น้าเล็กของพวกเจ้ายืมไปใส่ เมื่อวานนางนำมาคืน ตอนนี้จึงเป็นของข้าแล้ว”“อ้อ คืนให้ท่าน” หลิงเสวี่ยยื่นกำไลหยกใ

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 36

    ฝูอวิ๋นเห็นสีหน้าหวาดกลัวลนลานของแม่ม่ายหลิวก็เกิดความคิดชั่วร้ายบางอย่าง ใช้ปลายเท้าเตะก้อนหินให้กระเด็นไปที่น่องของอีกฝ่าย“โอ๊ย! ผู้ใดกัน!”ความเจ็บปวดที่ขาทำให้แม่ม่ายหลิวกรีดร้องเสียงดังทว่ารอบข้างกลับไม่มีผู้ใด ส่วนพวกฝูอวิ๋นก็เดินห่างออกไปค่อนข้างไกลแล้วแม่ม่ายหลิวตัวแข็งทื่อ ใบหน้าซีดเผือด ริมฝีปากเขียวซีด พูดพึมพำไม่หยุด “อมิตตาพุทธ พระ พระโพธิสัตว์โปรดคุ้มครอง…”“บะ บะ บาปมีผู้ก่อ นะ นะ หนี้มีเจ้าหนี้ ข้าเป็นคนดี ข้าเป็นคนดี…ข้าเป็นคนดีจริงๆ นะ…”หลิงจิ่งกุมท้องหัวเราะลั่นเมื่อเห็นแม่ม่ายหลิววิ่งกรีดร้องกลับบ้านไปหลิงเสวี่ยไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น “ท่านพี่ ท่านหัวเราะอะไรหรือ?”“ฮ่าๆๆ…แม่ของเสี่ยวหู่ตกใจฉี่ราดกางเกงแล้ว!” หลิงจิ่งพูดเสียงดังอย่างไม่เกรงกลัวแม่ม่ายหลิวที่เพิ่งจะวิ่งไปได้ไม่ไกลสะดุดล้มหน้าคะมำ นางรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งต่อโดยไม่หันกลับไปมองสายลมช่างเป็นอะไรที่อัศจรรย์ยิ่ง ทั้งที่ตอนนี้รอบข้างไม่มีผู้ใด ทว่าถ้อยคำของหลิงจิ่งกลับถูกผู้ใดก็ไม่รู้ได้ยินเข้าโดยปกติแล้วชาวหมู่บ้านสกุลหลี่ก็เป็นคนใจดี กระตือรือร้น และชอบใส่ใจผู้อื่นไม่ช้า คนทั้งหมู่บ้านก

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 35

    ไม่ต้องหันไปมอง ฟังจากแค่น้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรนี้ ฝูอวิ๋นก็รู้ว่าแม่ม่ายหลิวมาหาเรื่องอีกแล้ว จะด่านางก็ตามสบาย แต่การที่ใช้ถ้อยคำเช่นนั้นกับเด็กๆ นี่มัน…น่าโมโหเกินไป!ฝูอวิ๋นโยนเสื้อผ้าที่บิดเสร็จแล้วลงในถัง ยืดเอวที่ปวดร้าวลุกขึ้นพูดว่า “เจ้าคนโสโครกด่าใคร?”“ยังจะว่าผู้ใดได้อีก ก็ต้องสองคนนี้…” เสียงของแม่ม่ายหลิวขาดหายอย่างฉับพลัน ใบหน้ากลายเป็นสีดำทะมึน “หลี่ชุ่ยฮวา อยู่ดีๆ ก็มาด่ากันมันหมายความว่าอย่างไร?”หา!ฝูอวิ๋นแทบจะกระอักเลือดผู้ใดกันแน่ที่อยู่ดีๆ ก็มาด่า?นางกัดฟันกรอดพร้อมกับยิ้มบางๆ “เจ้าหมายความว่าอย่างไร ข้าก็หมายความตามนั้นแหละ”“หมายความว่าอยากมีเรื่องสินะ?” แม่ม่ายหลิววางท่าทันที “ปล่อยม้ามาเลย[1]อย่าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้า!”“ขออภัย เมื่อวานนี้ม้าของข้ากลายเป็นหมูไปแล้ว และตอนนี้ก็กำลังอยู่เบื้องหน้าข้า”แม่ม่ายหลิวมองซ้ายแลขวาด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่เห็นหมูสักตัว ครั้นเห็นฝูอวิ๋นหัวเราะคิกคักถึงค่อยเข้าใจว่าตัวเองกำลังถูกด่า!“หลี่ชุ่ยฮวา เจ้า เจ้า เจ้า!” แม่ม่ายหลิวชี้หน้าฝูอวิ๋น อึกอักอยู่นานแต่กลับด่าอะไรไม่ออกฝูอวิ๋นยิ้มหวาน “ท่าทีที่เจ้า เจ้า เจ้า

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 34

    “งานวันนี้ต้องเสร็จวันนี้ ไปเถิด พวกเราไปซักผ้าที่ริมแม่น้ำ พรุ่งนี้ยังต้องทำอย่างอื่นอีก” ฝูอวิ๋นถือถังไว้ในมือข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งจูงมือหลิงเสวี่ย ร้องเรียกหลิงจิ่งแล้วเดินออกไปด้านนอก“พรุ่งนี้ต้องทำอะไรหรือ?” หลิงจิ่งถาม“มีเรื่องต้องทำมากมาย”เรื่องที่เร่งด่วนที่สุดก็คือซื้อเสบียงอาหารเสบียงอาหารอันน้อยนิดที่บ้านเพียงพอแค่สำหรับคืนนี้เท่านั้นพรุ่งนี้ก็จะไม่มีอาหารกินแล้วลองนับวันดูแล้ว นับตั้งแต่ที่หลิงหานโจวออกจากบ้านเป็นครั้งแรก จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาสี่วันแล้วตอนนั้นเขาบอกว่าครั้งจะใช้เวลาอย่างน้อยเจ็ดวัน มากสุดก็ครึ่งเดือน…จากไปนานขนาดนั้นแต่กลับทิ้งเสบียงไว้แค่นี้ กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?ตอนนี้เป็นเวลาหลังเที่ยง หลายคนในหมู่บ้านสกุลหลี่จะซักผ้าตั้งแต่ช่วงสาย เวลานี้ริมแม่น้ำจึงไม่มีผู้ใด ฝูอวิ๋นหาตำแหน่งที่พื้นค่อนข้างเรียบมานั่งลงแล้วเริ่มทำงานนางตักน้ำจากในแม่น้ำมาหนึ่งกะละมัง ใส่จ้าวเจี่ยวลงไปและบดให้ละเอียด ยิ่งละเอียดมากเท่าใดก็ยิ่งดี ตามด้วยขยี้เบาๆ ให้เกิดฟอง เท่านี้ก็เป็นอันใช้ได้แล้วนางเรียนรู้วิธีนี้จากความทรงจำของหลี่ชุ่ยฮวา ฝูอวิ๋นไม่เคยใช้เจ้าสิ่

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 33

    หลิงจิ่งเข้าห้องมาพบกับความว่างเปล่าก็ตกใจดวงตาแทบถลน จะอ้าปากร้องเรียกนางแต่ก็ไม่รู้ว่าควรเรียกอย่างไรฝูอวิ๋นเปิดหน้าต่างและปัดฝุ่นออกกวาดหยากไย่ใต้เตียงให้สะอาดและกวาดฝุ่นผงจำนวนมากออกมาหลิงจิ่งลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “คือว่า…ท่านเผาฟางเช่นนี้ คืนนี้ข้ากับน้องหญิงจะนอนอย่างไร…”“ไม่ต้องถามมาก ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าห้องนี้มีแต่เหา อุตส่าห์อาบน้ำพวกเจ้าจนสะอาดทั้งที ย่อมนอนเตียงที่มีเหาไม่ได้อีก”ฝูอวิ๋นมองไปที่ขอบเตียง เอาแต่รู้สึกว่าปกคลุมไปด้วยเหาเช่นกันเมื่อหลับตาลงก็ราวกับเห็นเหาที่คลานยั้วเยี้ยเต็มเตียง นางรู้สึกขนลุกซู่ รีบตักน้ำมาเช็ดให้ทั่ว แม้แต่โต๊ะหนังสือก็ไม่เว้นบนพื้นเป็นดินเปลือยเปล่า ไม่อาจเช็ดทำความสะอาด ทำได้เพียงกวาดให้ทั่วกว่าจะทำทุกอย่างเสร็จก็เลยเวลาเที่ยงไปโดยไม่รู้ตัวฝูอวิ๋นปวดเอวปวดหลังไปหมด เพิ่งจะนั่งพักหายใจก็ถามตัวเองว่าเหตุใดทำงานแค่เล็กน้อยก็หมดแรงแล้ว?จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อเช้าตัวเองกินไข่ไก่แค่สองฟองและอยู่มาจนถึงตอนนี้นางเดินไปทำอาหารที่ห้องครัวโดยพลันเนื่องจากตอนนี้ทั้งเหนื่อยทั้งหิว นางจึงไม่มีเวลามาทำอาหารที่ซับซ้อนเก

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 32

    หลังจากอาบน้ำให้หลิงเสวี่ยเสร็จเรียบร้อย ฝูอวิ๋นก็ทำการเช็ดผมให้กับนาง ครั้นตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีเหาอีกก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าห่อผมขึ้นมานางห่อตัวเด็กหญิงด้วยผ้าฝ้ายที่เตรียมไว้ก่อนแล้ว อุ้มนางกลับไปที่ห้องตัวเอง นำเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ออกมาให้ใส่“หนาวเหลือเกิน หนาวเหลือเกิน…” หลิงเสวี่ยสั่นเทิ้มไปทั้งตัว“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดจึงรู้สึกหนาวหลังจากอาบน้ำ?” ฝูอวิ๋นสวมเสื้อผ้าให้นางไปพลาง ถามไปพลาง“เพราะเหตุใดหรือ?”“เพราะว่า…ในอากาศมีปีศาจที่ชอบดูดน้ำ เมื่อมีหยาดน้ำเกาะบนร่างกาย เจ้าปีศาจก็จะเป่าน้ำบนตัวเรา แบบนี้...”ฝูอวิ๋นเป่าไอเย็นไปที่คอของเด็กหญิง เย็นจนอีกฝ่ายต้องหดคอ“น่ากลัวเหลือเกิน!”“เร็วเข้า รีบเข้าไปใต้ผ้าห่ม เช่นนั้นเจ้าปีศาจก็จะเป่าเจ้าไม่ได้แล้ว”“คิกๆๆ…”“นังหนู ตอนนี้ยังกลัวการอาบน้ำอีกหรือไม่?”“ไม่กลัวแล้ว การอาบน้ำของท่านแม่สบายตัว ไม่เจ็บเหมือนท่านพ่อ” เด็กหญิงยิ้มตาหยี ส่วนนี้เหมือนฝูอวิ๋นมาก“เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?” ฝูอวิ๋นถามด้วยความประหลาดใจเ“เปล่า…” เด็กหญิงเม้มปากแล้วมุดตัวเข้าผ้าห่มอย่างเขินอายฝูอวิ๋นส่ายหน้าด้วยความจนใจ เด็กคนนี้เปลี่ยนหน้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status