ภายในห้อง“กู้ชิงซิว ข้ารู้ว่าท่านต้องการจับข้ากลับไปมอบให้ทางการ ดีชั่วอย่างไรข้าก็เคยเป็นน้องสาวแท้ๆ ของท่าน บัดนี้กู้หรูเยียนกลับมาแล้ว ท่านช่างใจคอโหดเหี้ยมโดยแท้!”หลิ่วอวิ๋นเวยเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน นางไม่เข้าใจเหตุใดสกุลกู้ไร้เยื่อใยถึงเพียงนี้ นางเติบโตในสกุลกู้ตั้งแต่เด็ก ถึงขั้นพูดว่าทิ้งก็ทิ้งนางเลยได้!“เจ้านับเป็นน้องสาวอะไรกัน? เจ้ารู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกแท้ๆ ตั้งนานแล้ว กลับข่มขู่ท่านพ่อท่านแม่ให้มอบทุกอย่างให้เจ้า”“ท่านแม่ขัดขวางเจ้าไม่ให้แต่งกับฉินเจิง เจ้าโมโหก็ถือดาบเกือบฆ่าท่านแม่ตายไปแล้ว เด็กอกตัญญูอย่างเจ้า พวกเรายังต้องดีด้วยอีกหรือ? เจ้าคู่ควรกระนั้นรึ?”กู้ชิงเจ๋อที่ได้ยินถ้อยคำนี้เบิกตากว้าง ก่อนหน้านี้พี่รองเองก็เคยพูดกับเขา แต่เขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้อวิ๋นเวยใจเซาะ ไฉนเลยจะถือดาบ ยิ่งไม่ต้องพูดว่าข่มขู่มารดาจากนั้นอวิ๋นเวยอธิบายความเข้าใจผิดทั้งหมดให้เขาฟัง เอือมระอาทุกคนล้วนปกป้องมารดา ไม่มีคนฟังคำอธิบายของนางเขาเลือกเชื่ออวิ๋นเวยจากนั้น หลิ่วอวิ๋นเวยภายในห้องเปลี่ยนสีหน้าตั้งนานแล้ว “นั่นเป็นนางยุ่งไม่เข้าเรื่องเอง! ข้าบอกว่าชอบฉินเจิง นางรับปากก็พอแ
ที่แท้ นางเพียงหลอกใช้เขา ชนิดที่ว่าเห็นเขาเป็นตัวโง่งม ควบคุมเขาไว้ในกำมือ!“หลิ่วอวิ๋นเวย ข้าไม่รู้เลยว่าเจ้าจะแสดงเก่งถึงเพียงนี้!”กู้ชิงเจ๋อโมโหโผล่พรวดเข้าไปภายในห้อง ภายในสายตาเปี่ยมโทสะ อยากฉีกหลิ่วอวิ๋นเวยเป็นชิ้นๆหลิ่วอวิ๋นเวยคิดไม่ถึงเลยว่ากู้ชิงเจ๋อจะได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ สายตาว้าวุ่น รีบพูดว่า “พี่สาม ท่านฟังข้าอธิบายก่อน”“ข้าได้ยินทั้งหมดอย่างชัดเจน เจ้ายังมีคำใดต้องการอธิบายอีก!”“ไม่ๆ” หลิ่วอวิ๋นเวยตกตะลึงรับมือไม่ทัน “ข้าเพียงกลัวมากเกินไปจึงพูดชิงไหวชิงพริบกับพี่รอง ข้าทำเพื่อปกป้องตนเองเท่านั้น หรือท่านฟังไม่ออก?”เพียงแต่ครั้งนี้กู้ชิงเจ๋อไม่เชื่ออีก คิดเพียงว่าตนเองช่างโง่เขลาเบาปัญญาเหลือเกิน!“ตอนนี้เจ้าเห็นชัดเจนแล้ว คืนนี้พวกเราจะเอาตัวนางไปส่งทางการ เจ้ายังมีความเห็นอีกหรือไม่?”สีหน้ากู้ชิงซิวเรียบเฉย เขารู้สึกผิดหวังต่อกู้ชิงเจ๋อตั้งนานแล้ว ต่อให้เขาไม่รับปาก แต่ก็เตรียมการไว้พรักพร้อมแล้วกู้ชิงเจ๋อส่ายหน้า ความเชื่อตลอดหลายปีที่ผ่านมาพังทลายลง เขาเป็นเพียงตัวโง่งมคนหนึ่งญาติมิตรหักหลังตีจาก......สกุลซ่ง“น้องหญิงห้า พรุ่งนี้ก็จะออกเดินทางแ
คืนวันนี้คล้ายมืดมิดเป็นพิเศษ เสียงลมหวีดหวิวเสียดแทงเข้ากระดูก หลิ่วอวิ๋นเวยถูกโยนทิ้งไว้หน้าประตูทางการนางถูกมัดไว้ด้วยเชือก ล้มลงบนพื้นคล้ายหนอนตัวหนึ่ง เดิมทีก็ขยับไม่ได้ นางอ้าปาก พบว่าตนเองถูกวางยาจนเป็นใบ้ไปแล้ว พูดไม่ออกแม้คำเดียวมือสองข้างเจ็บปวดอย่างรุนแรง นางหวาดกลัวอย่างมากภายในใจ คิดไม่ถึงเลยว่ากู้ชิงเหยี่ยนและกู้ชิงซิวจะลงมือกับนางจริง!หลังกู้ชิงซิวโยนคนลงไปแล้ว ก็ตีกลองร้องทุกข์หน้าประตูทางการ จากนั้นหายไปท่ามกลางความมืดต่อมา เขาเพิ่งจากไปได้ไม่นาน คนหนึ่งกลุ่มก็โผล่ออกมาอย่างกะทันหัน ภายในมือถือคบเพลิงหลิ่วอวิ๋นเวยมองใบหน้าที่ไม่รู้จักที่ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึง ความหวังสายหนึ่งเกิดขึ้นมาอีกครั้ง คนเหล่านี้ไม่ใช่คนของทางการ ใช่หรือไม่ว่ามาช่วยนาง?“เป็นหลิ่วอวิ๋นเวยไม่ผิดแน่!”คนเป็นหัวหน้าได้เห็นใบหน้าของหลิวอวิ๋นเวยอย่างชัดเจนแล้ว อย่างไรเสียก็เป็นฮูหยินแม่ทัพ พวกเขาเคยพบเห็นตามย่านชุมชนมาก่อนเพียงหลิ่วอวิ๋นเวยได้ยินก็รีบพยักหน้า หวังเพียงให้คนเหล่านี้รีบช่วยตนเองไปก่อนคนของทางการจะมาถึง หาไม่แล้วจะไม่ทันเวลา!จากนั้น หลังทุก
ซ่งจืออวี้เล่าข่าวที่ได้รับมาวันนี้อย่างออกรสออกชาติ คิดเพียงว่าช่างครึกครื้นเสียจริง “ได้ยินมาว่าทางการยังอยากสอบสวน แต่คิดไม่ถึงเลยว่านางจะถูกวางยาจนกลายเป็นใบ้ไปแล้ว ไม่สามารถพูดได้”“นางกระอักเลือดออกมา จากนั้นก็ตายไป ได้ยินมาว่าถูกตีอย่างอนาถ ยังมิสู้ถูกตัดหัวจะดีกว่า”“คนอย่างนางเดิมทีก็ไม่สมควรมีจุดจบที่ดี ก่อนตายยังทำร้ายคนมากมาย ก็คือเดรัจฉานอย่างแท้จริง!”ภายในก้นบึ้งของสายตาซ่งรั่วเจินล้วนคือความรังเกียจ กระนั้นก็นับว่าคลี่คลายปัญหาได้เรื่องหนึ่งแล้ว“น้องหญิงห้า ยังมีอีกหนึ่งเรื่อง” ซ่งจืออวี้พูด“เรื่องใด?”ซ่งจืออวี้กระซิบเสียงแผ่ว “ได้ยินมาว่าท่านตาลบชื่อกู้ชิงเจ๋อออกจากลำดับวงศ์ตระกูลแล้ว ตัดขาดความสัมพันธ์พ่อลูก เพียงข่าวนี้แพร่งพรายออกมา ก็ทำให้คนมากมายตกตะลึง”“ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่านายท่านสามกู้และหลิ่วอวิ๋นเวยมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก บัดนี้ทุกคนล้วนรู้ว่าเรื่องป้ายทองละเว้นโทษตายล้วนหนีไม่พ้นเขา”“ทั้งๆ ที่ท่านแม่นับญาติกับสกุลกู้แล้ว ทว่านายท่านสามกู้ยังวางท่า ไม่ยอมมาพบหน้าเลยสักครั้ง บัดนี้ดีแล้ว ไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันอีก”“รนหาที่เอง บางคนดื้อ
“น้องหญิงห้า เพิ่งได้รับข่าวมาว่าวันนี้ที่ต้องเดินทางลงใต้ นอกจากฉู่อ๋องและท่านตาแล้ว เช่ออ๋องและแม่นางหลิงก็ร่วมเดินทางไปด้วยกัน เจ้าว่าแปลกหรือไม่?”“เช่ออ๋องและแม่นางหลิงเองก็ไปด้วย?”สายตาซ่งรั่วเจินเผยความแปลกใจ ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน“ข้าคิดว่าน่าจะเพิ่งส่งข่าวมา ก่อนหน้านี้ไปกินมื้อเย็นที่บ้านท่านตา ท่านตาก็ไม่เคยเอ่ยถึงมาก่อน น่ากลัวว่าเป็นฮองเฮามีเจตนาจับคู่กระมัง?”สายตาซ่งจิ่งเซินซับซ้อน “แต่ว่าน้องหญิงห้า เจ้าเองก็ไม่ต้องใส่ใจ หัวใจของฉู่อ๋องอยู่ที่เจ้า คนอื่นคิดอยากทำลายก็ไม่มีประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีท่านตาอยู่นะ”ท่านตาไม่โง่เสียหน่อย จะต้องไม่ปล่อยให้หลิงเชี่ยนเอ๋อร์สบโอกาสแน่!ซ่งรั่วเจินถอนหายใจอย่างสุดระงับ ท่านตาอายุปูนนี้แล้วยังต้องช่วยเป็นเกราะกำบังความรักให้นาง นี่ยากเกินไปแล้วกระมัง!แท้จริงแล้วนางไม่ใส่ใจหลิงเชี่ยนเอ๋อร์ ก่อนหน้านี้ฉู่จวินถิงพูดว่าสงสัยสกุลหลิง การตัดสินใจนี้จึงมีความเป็นไปได้สองอย่างประการแรกคือฮองเฮามีเจตนาเสนอขึ้น ฉู่จวินถิงจึงพายเรือตามน้ำ ฉวยโอกาสนี้สืบเรื่องหลิงเชี่ยนเอ๋อร์ให้กระจ่างประการที่สองนี่คือแผนการหนึ่ง สกุลห
“เจ้ามีน้ำใจแล้ว” ภายในสายตาราชครูกู้สะท้อนความพึงพอใจ ลูกของกู้หรูเยียนล้วนถูกสั่งสอนมาอย่างดีฉู่จวินถิงเอ่ยปากว่า “วางใจเถอะ ข้าจะดูแลราชครูกู้อย่างดี”ภายในสายตาซ่งจิ่งเซินสะท้อนรอยยิ้ม ภายในใจฉู่อ๋องมีเพียงน้องหญิงของตนไม่ผิดไปดังคาดหลิงเชี่ยนเอ๋อร์ได้ยินถ้อยคำนี้แล้ว ภายในก้นบึ้งสายตาสะท้อนความไม่พอใจ ก่อนหน้านี้อยู่ในเมืองหลวงไม่ได้ยินเรื่องซ่งรั่วเจินมากมายนัก ไม่คาดคิดว่าครั้งนี้นางกลับมาแล้ว กลับกลายเป็นศัตรูหัวใจไปเสียได้ครั้งก่อนยามนางได้พบแม่นางคนนั้น นอกจากหน้าตาสวยงามแล้วก็ไม่มีอะไรพิเศษ เพราะเหตุใดฉู่อ๋องจึงหวั่นไหวต่อนาง ทั้งยังปักใจรักมั่นถึงเพียงนี้!ภายในมือฉู่อ๋องมีความลับสำคัญทางทหาร บัดนี้ภายในหมู่องค์ชาย ฉู่อ๋องมีชื่อเสียงภายในค่ายทหารที่สุด ฝ่าบาทเองก็ไว้วางใจเขานางต้องคิดหาทางเข้าจวนอ๋อง นี่ถึงจะสามารถนำของมาอยู่ในมือตนได้ วิธีที่ดีที่สุดก็คือเป็นพระชายาฉู่อ๋องเพียงน่าเสียดาย บัดนี้มีซ่งรั่วเจินมาขวางทาง!“อย่างไรเสียก็เดินทางลงใต้ พวกเราออกเดินทางวันเดียวกัน แท้จริงแล้วก็คือผ่านทาง มิสู้ทุกท่านมานั่งที่เรือของข้า?”ซ่งจิ่งเซินมีเจตนาสำรวจหลงเชี่ย
“คุณชายใหญ่ตระกูลหลิงเดิมสมควรถึงเมืองหลวงแล้ว แต่กลับไม่มีข่าวคราวกลับมาเสียที หลิงเชี่ยนเอ๋อร์จึงบอกว่าจะลงใต้มารับพี่ชายของนางด้วยตนเอง ประกอบกับข้ากับราชครูก็จะลงใต้พอดี หลิงไท่ซือจึงไปหาเสด็จพ่อ บอกว่าไม่วางใจ เดินทางด้วยกันปลอดภัยกว่า”ฉู่จวินถิงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ออกมา เดิมทีเช้าวันนี้เขากับราชครูกู้ไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อพร้อมกันเสร็จก็เตรียมจะจากไปแล้ว หลิงไท่ซือคำนวณเวลามาถึงอย่างเหมาะเจาะ เรื่องนี้จึงถูกกำหนดลงเช่นนี้“หลิงไท่ซือออกหน้าด้วยตนเอง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาวางแผนมาแล้ว เกรงว่าการเดินทางครานี้คงจะยุ่งยาก” ซ่งรั่วเจินกล่าว“ไม่เป็นไร เดิมก็ต้องการตรวจสอบปัญหาของพวกเขาอยู่แล้ว ในเมื่อเป็นฝ่ายเอาตัวมาส่งถึงที่เองก็ใช้โอกาสนี้ตรวจสอบเสียเลยก็แล้วกัน”ฉู่จวินถิงแววตาเคร่งขรึม ยิ่งอยู่ข้างกายก็ยิ่งแสดงพิรุธออกมาได้ง่าย“ไฉนเช่ออ๋องก็อยู่ด้วยเล่า?”ซ่งรั่วเจินกังขา หลิงเชี่ยนเอ๋อร์เดิมก็หมายตาฉู่จวินถิงอยู่แล้ว เวลาแบบนี้จะหาทางตามมาด้วยก็ไม่แปลก แต่เช่ออ๋องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เหตุใดจึงร่วมทางมาด้วย?“เสด็จพ่ออยากถามเรื่องที่เช่ออ๋องปลดพระชายาอยู่
“เช่ออ๋องไม่ได้หย่านางโดยตรง เพียงลดขั้นเป็นชายารอง ทั้งยังยอมก้มศีรษะให้ข้าเพราะเรื่องนี้ ตระกูลเฉียนย่อมเห็นแก่น้ำใจตรงนี้”“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ถูกหลอกใช้แล้วน่ะสิเพคะ?”ซ่งรั่วเจินขมวดคิ้วแน่น คนในราชวงศ์พวกนี้ไม่มีใครธรรมดาสักคนจริงๆ ด้วย ถึงจะดูเหมือนมีความคิดเรียบง่าย แท้จริงกลับมีความคิดคดเคี้ยว เต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบาย!ฉู่จวินถิงเห็นความขุ่นเคืองจากสีหน้าซ่งรั่วเจินแล้วก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ “เช่ออ๋องตั้งใจจะเปลี่ยนตัวชายาอยู่แล้ว แต่แค่กำลังมองหาโอกาสที่เหมาะสมอยู่เท่านั้น คนที่หมายตาไว้ถ้าไม่ใช่ข้าก็เป็นองค์ชายใหญ่”“ยามนี้องค์ชายใหญ่เก็บงำประกาย ข้าเดิมก็เป็นตัวเลือกของเขาอยู่แล้ว ผลลัพธ์เช่นนี้อยู่ในความคาดหมาย เรื่องนี้ย่อมทำให้แผนการของเขาสำเร็จลุล่วง แต่น้ำสามารถหนุนเรือได้ฉันใดก็สามารถคว่ำเรือได้ฉันนั้น”ซ่งรั่วเจินได้ยินดังนั้นก็เข้าใจขึ้นมาหลายส่วน แผนลับเหล่านี้ในสายตาของพวกฉู่จวินถิงก็คือแผนการอันเปิดเผยราชครูกู้ทราบว่าครั้งนี้ซ่งรั่วเจินร่วมทางมาด้วย เพิ่งมาถึงก็ได้ยินคนทั้งสองกำลังพูดถึงเรื่องชายารองของเช่ออ๋องกันอยู่ฉู่อ๋องโดดเด่นอย่างมากในหมู่องค์ชาย เพียง
เดิมทีฉู่เทียนเช่อก็ไม่พอใจที่หลิงเชี่ยนเอ๋อร์เฝ้าหวังเพียงมาขอความช่วยเหลือจากฉู่จวินถิง ด้วยความสามารถของเขาย่อมสามารถจัดการเรื่องทั้งหมดได้บัดนี้ได้ยินคำพูดของสองพี่น้องสกุลซ่ง นี่จึงพูด “แม่นางหลิง เป้าหมายในการมาครั้งนี้ของจวินถิงและราชครูกู้คือจัดการปัญหาอุทกภัย ช่วยเหลือราษฎร พี่ใหญ่ของเจ้ากำลังเผชิญหน้ากับอันตราย ข้าจะพาคนฝีมือดีไปช่วยเจ้าตามหาเอง”“จวินถิง เจ้า...”หลิงเชี่ยนเอ๋อร์ยังไม่ตัดใจดังเดิม ฉู่จวินถิงกลับเอ่ยตัดบทคำพูดของนาง “ความปลอดภัยของพี่ใหญ่เจ้าและความปลอดภัยของราษฎรมากมาย หนักเบาเยี่ยงไร เจ้าน่าจะรู้ดี”ถ้อยคำนี้ยับยั้งคำพูดของหลิงเชี่ยนเอ๋อร์เอาไว้แล้ว ต่อให้ไม่ยินยอมก็ต้องรับปาก“น้องสาม เจ้าจัดการสถานการณ์เป็นเช่นไรแล้ว?” ฉู่เทียนเช่อเอ่ยถามหลิงเชี่ยนเอ๋อร์เองก็เอ่ยปาก “ข้าได้ยินมาว่าวันนี้พวกเจ้าเริ่มแจกจ่ายโจ๊ก เช่นนั้นเมืองผิงหยางจะทำเช่นไร?”“มีราษฎรที่ใดบ้างไม่ใช่ราษฎร? ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยของเมืองไห่เทียนส่วนหนึ่งก่อน พวกเราใกล้จะไปเมืองผิงหยางแล้ว ถึงตอนนั้นค่อยดูสถานการณ์” ฉู่จวินถิงเอ่ยขึ้นได้ยินดังนั้น ฉู่เทียนเช่อคิดเพียงว่าฉู่จวินถิงช่าง
คิ้วเรียวยาวดุจกิ่งหลิวของซ่งรั่วเจินขมวดแน่น คนผู้นี้ลึกลับถึงเพียงนี้ จัดการทุกเรื่องอย่างระมัดระวัง ไม่สามารถหาสิ่งของที่สามารถบ่งบอกฐานะพบหากเอาแต่เฝ้ารออยู่ที่นี่ น่ากลัวว่าไม่รู้จะต้องรอจนถึงยามใด หากมีสิ่งที่คนผู้นี้ทิ้งไว้ นางกลับสามารถใช้สิ่งของตามหาคนได้อย่างไรเสีย ไม่มีเวลาตกฟากทำนองนี้ก็ช่างเถอะ อีกทั้งยังไม่ใช่ญาติพี่น้องแท้ๆ แม้แต่ของใช้จำเป็นในชีวิตก็ไม่มี ยากจะทำนายออกมาโดยอาศัยเพียงความว่างเปล่าได้ว่าคนผู้นี้เป็นใครหัวหน้าตระกูลเจียงใคร่ครวญครู่หนึ่ง ทันใดนั้นพูดขึ้น “ครั้งก่อนเขาโยนผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดหนึ่งผืนทิ้ง บ่าวในเรือนข้าบังเอิญเก็บได้ ข้าไม่ได้ทิ้ง!”ตอนนั้นเขาเองก็อยากหาเบาะแสบางอย่างจากผ้าเช็ดหน้านี้ ทว่าน่าเสียดายเป็นเพียงผ้าเช็ดหน้าธรรมดา ไม่มีอันใดพิเศษ แต่เขายังเก็บรักษาไว้ดวงตาซ่งรั่วเจินทอประกาย “รีบไปหยิบมาเร็วเข้า”จากนั้นผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดมาถึงมือ สีหน้าซ่งรั่วเจินมั่นใจอย่างมาก นางสบตาฉู่จวินถิงแวบหนึ่ง ฝ่ายหลังเข้าใจในทันใด “ไปเถอะ พวกเรากลับกัน”ฉู่จวินถิงทิ้งคนไว้เฝ้าพวกหัวหน้าตระกูลเจียง สั่งให้พวกเขาแสร้งทำเป็นไม่มีอันใดเกิดขึ
ดังคาด แม่นางที่ท่านอ๋องชอบไม่ใช่คนธรรมดา!ขณะกำลังพูดอยู่นั้น อวิ๋นหยางตามมาแล้ว “แม่นางซ่ง ท่านอ๋องเชิญท่านกลับไปขอรับ”ซ่งรั่วเจินพยักหน้าเบาๆ ดีดนิ้วทีหนึ่ง ทั้งสองคนตรงหน้าเองก็ได้สติกลับมาแล้วทันใดนั้น ทั้งสองคนนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่นี้พวกเขาล้วนพูดออกมาแล้ว ตกตะลึงยิ่งขึ้นภายในใจ แม่นางคนนี้ช่างน่ากลัวโดยแท้!“พวกท่านเองก็ไปกับข้าด้วย” ซ่งรั่วเจินพูดภายใต้การนำทางของอวิ๋นหยาง ซ่งรั่วเจินพบว่าทางที่ไปไม่ใช่ลานบ้านส่วนหน้า แต่เป็นอีกแห่งหนึ่งฉู่จวินถิงเห็นซ่งรั่วเจินพาอีกสองคนมาด้วย เลิกคิ้วคมขึ้น “เจ้าหาพบแล้ว?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “พวกเขาสองคนเคยปรึกษากับหัวหน้าตระกูลเจียงเรื่องหนทางแก้ไขมาก่อน ทีแรกคิดหนีไปตอนท่านสอบสวน บังเอิญถูกหม่อมฉันพบเข้า”“ดูท่าแล้ว เจ้าเองก็ถามบางอย่างออกมาได้แล้ว?”ฉู่จวินถิงมองผ่านสีหน้าของซ่งรั่วเจินก็สามารถรู้ได้ พวกเขารู้จักกันมานานถึงเพียงนี้ รู้นิสัยเล็กๆ ของนางดีท่าทีที่แสดงออกในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่ากำลังภาคภูมิใจหลายส่วน“ย่อมเป็นเช่นนั้นเพคะ” ซ่งรั่วเจินยิ้มกว้าง “พวกเขาสองคนเป็นเพียงลูกสมุนตัวเล็กๆ หัวหน้าตระกูลเจียงต่างหากที่รู
“ฟังไม่เข้าใจ?”ซ่งรั่วเจินยกมุมปากน้อยๆ “ตอนพวกท่านใช้ไอมรณะข่มขู่นายอำเภอจ้าว พวกท่านน่าจะรู้ว่าผลลัพธ์เป็นเช่นไรกระมัง? อยากสัมผัสประสบการณ์ด้วยตนเองดูหรือไม่?”เพียงถ้อยคำนี้พูดออกไป สีหน้าทั้งคู่ก็เปลี่ยนไป “ไอมรณะ?”ซ่งรั่วเจินยกมือขึ้น ไอมรณะกลุ่มหนึ่งก็ไหลออกมาจากฝ่ามือ ใช้กลอุบายเพียงเล็กน้อย ทำให้ทั้งสองได้เห็นไอสีดำสายหนึ่ง“แท้จริงแล้วความรู้สึกยามไอมรณะเข้าสู่ร่างกายนั้น คนไม่เคยสัมผัสมาก่อนย่อมไม่รู้ ในเมื่อพวกท่านชมชอบใช้ไอมรณะถึงเพียงนี้ ก็สมควรลองดูด้วยตนเองสักรอบ”“ไม่ ไม่ พวกเราไม่รู้เรื่องอันใดเลยจริงๆ!”หัวหน้าตระกูลหลี่ขยับถอยหลังอย่างหวาดกลัว ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงก่อนหน้านี้พวกเขาเคยเห็นความน่ากลัวของไอมรณะมาก่อน ลูกสาวของจ้าวชิงหยวนก็ตายเพราะสาเหตุนี้ พวกเขาล้วนเห็นสภาพน่าสยดสยองตอนตายอยู่ภายในสายตา ชวนให้คนประหวั่นพรั่นพรึงโดยแท้!บัดนี้ แม่นางตรงหน้าถึงขั้นสามารถควบคุมไอมรณะได้ นั่นไม่เหมือนกับที่พวกเขาได้เห็นก่อนหน้านี้หรอกหรือ?“เช่นนั้นก็สงบเสงี่ยมสักหน่อย รีบพูดออกมา!”ซ่งรั่วเจินกวาดตามองสองคนตรงหน้า เดิมทีมองไม่เห็นความพิเศษอันใด แต่ได้เ
รูม่านตาหัวหน้าตระกูลเจียงหดลง ฉู่อ๋องถึงขั้นรู้!ต่อให้เป็นจ้าวชิงหยวน จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าตกลงสาเหตุคืออันใด ทว่าวันนี้ฉู่อ๋องเพิ่งมาถึงก็รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว“ท่านอ๋อง กระหม่อม...”เจียงฮูหยินและลูกๆ ล้วนตกตะลึงพรึงเพริด ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดท่านอ๋องมาแล้วจึงต้องการชีวิตพวกเขาทั้งหมด!“นายท่าน ท่านรีบพูดสิ! หรืออยากให้พวกเราต้องตายทั้งตระกูลเจ้าคะ?” เจียงฮูหยินร้อนใจตอนนี้เอง ฉู่จวินถิงเดินมาหยุดข้างกายซ่งรั่วเจิน เอ่ยปากเสียงนุ่มนวล “เจ้าไปเดินเล่นก่อน อีกเดี๋ยวข้าจะไปหาเจ้า”ซ่งรั่วเจินชะงักเบาๆ สายตาเลื่อนตกลงบนตัวทุกคนในตระกูลเจียงก็เข้าใจขึ้นมาหลายส่วน คาดว่าภาพต่อจากนี้ไม่เหมาะให้นางเห็น พยักหน้าลงอย่างเชื่อฟัง“เพคะ”หลังฝ่ายหญิงจากไป ฉู่จวินถิงหันหน้ากลับมาอย่างเชื่องช้า ดวงตาดำดุจหมึกคู่นั้นเปี่ยมไออำมหิต เขายืนนิ่งๆ อยู่ที่เดิม คล้ายราชามารก็มิปานชวนให้คนอกสั่นขวัญแขวน“เดิมทีข้าก็ไม่มีความอดทนมากอยู่แล้ว” ฉู่จวินถิงเหล่มอง “อวิ๋นหยาง”อวิ๋นหยางดึงกระบี่ออก วางพาดบนชายคนหนึ่ง ก็คือคุณชายใหญ่สกุลเจียงไม่ฟังความคนนั้น“ฆ่า!”อวิ๋นหยางฟันลงไปอย่างไม่ลังเล
“ตอนนี้มองดูแล้วที่นี่ไม่มีอันใดไม่เหมาะสม” ซ่งรั่วเจินเอ่ยขึ้น “ไม่มีไอมรณะ ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้สืบข่าวได้ว่าสกุลเจียงเองก็ไม่มีคนเจ็บป่วย”สายตาฉู่จวินถิงเย็นชา “อาจจะ...สมรู้ร่วมคิดกันตั้งแต่แรกแล้ว หรือไม่ก็ข่มขู่ธรรมดาก็เพียงพอให้พวกเขารับปากแล้ว”หัวหน้าตระกูลเจียงเร่งเดินทางออกมาอย่างว่องไว “คารวะฉู่อ๋อง!”ฉู่อ๋องมองหัวหน้าตระกูลเจียงแวบหนึ่ง เห็นข้างกายเขาไม่มีผู้อื่นอยู่ด้วย สายตาเจือแววนึกสนุก “หัวหน้าตระกูลเจียงอายุปูนนี้แล้ว คงไม่ใช่ยังไม่แต่งงานหรอกกระมัง?”“เรียนท่านอ๋อง บังเอิญยิ่งนัก ภรรยากระหม่อมพาลูกไปเยี่ยมญาติที่คูเมืองอื่นแล้ว บัดนี้ยังไม่กลับมาพ่ะย่ะค่ะ” หัวหน้าตระกูลเจียงยิ้มประสบเอาใจพลางอธิบาย“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้” ฉู่จวินถิงยกมุมปากเบาๆ “วันนี้ภรรยาและลูกของหัวหน้าตระกูลเจียงออกจากเมืองไปเยี่ยมญาติ บังเอิญตอนข้ามาถึง ได้เชิญพวกเขากลับมาพร้อมกันแล้ว”“คาดว่าหัวหน้าตระกูลเจียงคงไม่ถือสากระมัง?”เสียงฉู่จวินถิงเพิ่งจบลง หัวหน้าตระกูลเจียงพลันใจสั่น ได้เห็นฉู่จวินถิงส่งสัญญาณผ่านทางสายตาทีหนึ่ง อวิ๋นหยางพาคนเข้ามาแล้ว“นายท่าน!”“ท่านพ่อ!”สีหน้าเจี
หัวหน้าตระกูลเจียงขมวดคิ้วแน่น พวกเขารู้ชื่อเสียงของฉู่อ๋องดีมาก นั่นคือเทพสังหารในสนามรบเชียวนะ!พวกเขาที่นี่อยู่ใกล้เมืองผิงหยาง ย่อมรู้จักบารมีของฉู่อ๋องดีที่สุด“พูดไปแล้วเรื่องนี้ยังต้องโทษท่าน เดิมทีฉู่อ๋องต้องการไปเมืองผิงหยาง ก็แค่แวะเติมเสบียงที่ท่าเรือเท่านั้น แต่พวกเจ้ากลับสร้างเรื่องที่ท่าเรือ ทำให้พวกเขาต้องอยู่ต่อ”สีหน้าหัวหน้าตระกูลหลี่ไม่สบอารมณ์ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้พวกเขาวางแผนไว้แล้ว ต่อให้ราชสำนักส่งคนมา นั่นจะต้องไปที่เมืองผิงหยางก่อน ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันมาที่เมืองไห่เทียนก่อนทันทีที่ได้รับข่าว พวกเขาก็สามารถหาทางป้องกันตนเองได้ มีเวลามากเพียงพอใครคาดคิดเล่าว่าจะเกิดสถานการณ์ที่ทำให้พวกเขารับมือไม่ทันเช่นนี้ ไม่มีโอกาสหนีตั้งแต่แรก“เรื่องนี้ไม่สามารถโทษข้าได้ ไฉนเลยข้าจะรู้ว่าเรื่องจะบังเอิญถึงเพียงนี้?”หัวหน้าตระกูลเจียงอึดอัดใจอย่างอดไม่ได้ หากเขารู้ตั้งแต่แรก ก็ไม่มีวันปล่อยให้เรื่องพรรค์นี้เกิดขึ้น น่าเสียดายบนโลกนี้ไม่มียารักษาโรคเสียใจภายหลัง“บัดนี้โทษใครก็ไม่สำคัญ รีบคิดเถอะว่าจะทำเช่นไร ข้าส่งคนไปสืบข่าวแล้ว ฉู่อ๋องไปที่อำเภอนั้น น่ากลัวว่าอ
อิงตามที่ซ่งเยี่ยนโจวพูด สถานการณ์ในตอนนั้นอันตรายมากอย่างแท้จริง หากไม่ใช่คนสกุลหลิงนำทหารเร่งเดินทางมาถึง เขาก็คงไม่มีชีวิตอยู่แล้วหลินจือเยว่กลับมีผลงานเพราะส่งข่าว หากไม่ได้เขาส่งข่าว สกุลหลิงไปไม่ทันเวลา น่ากลัวว่าจะต้องเสียชายแดนไปแล้วแน่ ไม่มีวันเอาชนะศึกในครั้งนี้ได้!แม้พูดว่าพวกเขาไม่มีหลักฐานพิสูจน์ทั้งหมดนี้ แต่เพียงเรื่องที่บิดายังไม่ตาย กลับไม่ส่งข่าวมาโดยตลอด ก็สามารถตั้งข้อสันนิษฐานได้มากแล้วภายในนี้จะต้องมีเงื่อนงำซ่อนอยู่แน่ทั้งหมด...ยังชี้ไปที่สกุลหลิงอีกด้วย!ยามฉู่จวินถิงมาถึงก็ได้เห็นพวกซ่งรั่วเจินสามพี่น้องกำลังนั่งรวมตัวกัน บรรยากาศตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด“ทำนายผลออกมาไม่ดีกระนั้นหรือ?” ภายในสายตาฉู่จวินถิงสะท้อนความกังวลซ่งรั่วเจินส่ายหน้า “เปล่าเพคะ ก็แค่คิดบางเรื่อง ท่านและท่านตาเข้าใจสถานการณ์แล้วหรือ?”“อยากรู้เรื่องผู้อยู่เบื้องหลัง ยังต้องไปสกุลเจียงสักเที่ยวหนึ่ง จะได้พบหัวหน้าตระกูลเจียง” ฉู่จวินถิงเผยสีหน้าเคร่งขรึม “ง้างปากของเขา สามารถลดปัญหาลงได้มาก”ซ่งรั่วเจินเข้าใจ “หม่อมฉันไปเป็นเพื่อนท่านดีหรือไม่?”ในเมื่อทางฝั่งจ้าวชิงหยวนพบไอม
ดูท่าแล้ว ท่านพ่อสังเกตเห็นความอันตราย มิหนำซ้ำยังพบสถานที่ปลอดภัย “บางที...พวกเราไม่จำเป็นต้องไปหาท่านพ่อ ท่านพ่อก็จะมาหาพวกเราเอง”ถ้อยคำนี้พูดออกมาแล้ว พวกซ่งจืออวี้ทั้งสองคนเผยสีหน้าตกตะลึง “นี่หมายความว่าอะไร? หรือท่านพ่อสามารถรู้ได้ว่าพวกเรามากระนั้น?”“ท่านพ่อย่อมไม่รู้ หากข้าเดาไม่ผิด เป็นไปได้มากว่าท่านพ่อกำลังสืบเรื่องอุทกภัยจึงเข้ามาใกล้”ซ่งรั่วเจินใคร่ครวญพลางเอ่ยปาก “บัดนี้ตำแหน่งของท่านพ่อไม่ใช่ชายแดน ยิ่งไปกว่านั้นยังใกล้กับที่พวกเราอยู่ ข้าคิดว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”“พูดเช่นนี้แล้ว อาการบาดเจ็บของท่านพ่อหายดีแล้วกระนั้น?” ซ่งจืออวี้แปลกใจ หากเป็นเช่นนี้จริง นั่นก็คือข่าวดีซ่งจิ่งเซินกลับไม่ดีใจมากนัก “ใช่หรือไม่ว่าถูกไล่ต้อนให้จากไป? ครั้งนี้ท่านพ่อเกือบต้องทิ้งชีวิตในสนามรบ ข้าคิดว่าจะต้องถูกคนทำร้ายแน่!”“คนที่ทำร้ายเขารู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ จึงตามหาเขาทั่วสารทิศ”ซ่งรั่วเจินเองก็คิดว่าข้อสันนิษฐานนี้เป็นไปได้มากทีเดียว นึกอยากตามหาคน ทันใดนั้นความคิดหนึ่งแล่นผ่านสมองนางอย่างกะทันหัน จะใช่คุณชายใหญ่สกุลหลิงหรือไม่?นับตั้งแต่คำรบแรกที่นางได้พบหลิงเชี่ยนเอ