แชร์

บทที่ 598

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
วาจาคมกริบนี้ฉีกหน้าสกุลหลิ่วอย่างไม่ต้องสงสัย พริบตาต่อมาคนภายในงานเข้าใจแล้ว

ก่อนหน้านี้คนที่ยังคิดว่าสกุลหลิ่วพูดมีเหตุผลและน่าสงสารมาก บัดนี้รู้สึกเพียงถูกตบหน้าหนึ่งฉาดด้วยมือที่มองไม่เห็น!

อีกฝ่ายเป็นคนจิตใจดีมีเมตตาที่ใดกัน เห็นชัดว่าพวกเขาหน้าซื่อใจคดอีกทั้งยังเย็นชา ยังไม่ต้องพูดว่าเอาเปรียบสกุลกู้ ยังสามารถแสร้งทำท่าทางเป็นคนดีกล่าวโทษหลิ่วหรูเยียนได้อีกด้วย

หากไม่ใช่วันนี้ถูกเปิดโปงโดยบังเอิญ เช่นนั้นน่ากลัวว่าหลิ่วหรูเยียนก็ต้องถูกตราหน้าว่าทำผิดต่อสกุลหลิ่วและกลายเป็นวัวเป็นม้าเลี้ยงดูตอบแทนบุญคุณไปชั่วชีวิต ถึงขั้นยังถูกด่าว่าทำร้ายคุณหนูสกุลหลิ่วที่แท้จริงอีกด้วย!

ภายใต้การใคร่ครวญอย่างละเอียด นี่น่ากลัวมากเพียงใดกัน?

“หลิ่วเฟยเยี่ยนและกู้อวิ๋นเวยมีความสัมพันธ์ที่ดีมากมิใช่หรือ? ที่ผ่านมาข้าเคยพบพวกเขามิใช่เพียงครั้งเดียว น่ากลัวว่าพี่สาวน้องสาวคู่นี้นับญาติกันตั้งนานแล้วกระมัง!”

“ไม่เพียงแค่นี้! ที่ผ่านมาข้ายังเคยเห็นกู้อวิ๋นเวยเข้าออกสกุลหลิ่วอีกด้วย ตอนนั้นข้าก็คิดว่าแปลก ปกติแล้วกู้อวิ๋นเวยคนนี้ไม่เคยเห็นคนทั่วไปอยู่ในสายตา

ด้วยฐานะของสกุลหลิ่ว นางน่าจะไม่สนใจ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Watchree Dangnoogam
รอนานแล้วค่ะไม่อัพสักที
goodnovel comment avatar
aydajordan
เป็นนิยายที่สนุกมากๆอีกเล่มหนึ่งตั้งแต่ได้อ่านมา แต่ยืดเยื้อเล่นกับความรู้สึกคนอ่านเกินไป นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตการอ่านที่เขียนคอมเม้นต์ ขายขาดราคาสูงก็ทำได้มีคนต้องการซื้อแน่นอน เพราะเนื้อหาบอกได้เลยว่าขั้นดีเยี่ยม ถึงผิดหวังก็ต้องติดตามต่อ
goodnovel comment avatar
3Thanwa
อาทิตย์นี้งานแต่งจะจบไหม ค้างอยู่นี่ไม่ไปไหนสักที
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 599

    เผชิญหน้ากับคำวิงวอนขอความเมตตาจากนายท่านหลิ่ว ราชครูกู้ไม่ชายตาแลมองเขาเลยสักครั้ง ใบหน้าหยาบกร้านกำลังสบมองกู้อวิ๋นเวย ภายในสายตาเปี่ยมความสงสารและห่วงใย“ลูกเอ๋ย หลายปีมานี้ เจ้าลำบากแล้ว เป็นพวกเราทำผิดต่อเจ้า”หลิ่วหรูเยียนยังมิอาจยอมรับความจริงที่ว่าตนเป็นลูกของสกุลกู้ในทันทีเลยได้ เพียงแต่เผชิญหน้ากับท่าทางสงสารนั้นของราชครูกู้และฮูหยินผู้เฒ่ากู้ เพียงครู่เดียวนางก็ใจอ่อนแล้วเมื่อหลายวันก่อนได้พบฮูหยินผู้เฒ่ากู้ครั้งแรกนางก็รู้สึกคุ้นเคย หลายปีมานี้ไม่เคยรู้สึกสนิทสนมเช่นนี้มาก่อน บัดนี้ได้เห็นราชครูกู้ นางก็รู้สึกว่าตนเองหน้าตาคล้ายเขาอยู่บ้าง ขอบตาแดงเรื่อโดยไม่รู้ตัวที่แท้...นี่ต่างหากคือพ่อแม่แท้ๆ ของนาง!นึกถึงเมื่อแรกนางเคยได้ยินมาว่าสกุลกู้รักใคร่เอ็นดูลูกสาวเพียงคนเดียวมาก ความรุ่งโรจน์ในเวลานั้นทำให้แม่นางในเมืองหลวงมากมายต่างพากันอิจฉาตอนนั้น นางเองก็เคยอิจฉากู้อวิ๋นเวย อย่างไรเสียสำหรับนางแล้ว ยังไม่ต้องพูดว่ารักใคร่เอ็นดูเช่นนี้เลย แม้แต่พี่น้องเองก็ปฏิบัติคล้ายนางเป็นส่วนเกิน“ไม่ ไม่เจ้าค่ะ”หลิ่วหรูเยียนส่ายหน้า ใบหน้ากลับประดับยิ้มนางเข้าใจ สกุลกู้มิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 600

    “ลูกที่ใส่ใจเลี้ยงดูมานานหลายปี ย่อมไม่ใช่พูดว่าตัดสายสัมพันธ์ก็ตัดขาดไปเลยได้ข้าผิดไปแล้ว เป็นข้าทำผิดต่อซ่งฮูหยิน ทำผิดต่อสกุลกู้!”ได้ยินแผนการของสกุลหลิ่วที่ก่อนหน้านี้ทุกคนหยั่งเดาเอาไว้แล้ว คราวนี้ตกตะลึงพรึงเพริดอย่างอดไม่ได้ นี่วางอุบายได้อย่างยอดเยี่ยมเกินไปแล้วกระมัง!ผลประโยชน์ล้วนถูกพวกเขาเอาเปรียบจนหมดสิ้น!หากไม่ใช่กู้อวิ๋นเวยไร้ความสามารถ ก่อความวุ่นวายจนสกุลกู้ตัดขาดความสัมพันธ์ พวกเขาสกุลหลิ่วก็สามารถอาศัยความสัมพันธ์นี้ดึงความสัมพันธ์ของสกุลกู้ให้ใกล้ชิดกันได้ ยิ่งไม่ต้องพูดว่าหลิ่วหรูเยียนมีความสามารถถึงเพียงนี้ ทำให้พวกเขาเอาเปรียบได้สีหน้าราชครูกู้แข็งทื่อดุจเหล็ก พูดเสียงโกรธขึ้ง “บัดนี้พวกเจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก!”“ราชครูกู้ ท่านระงับโทสะก่อน นี่ล้วนเป็นเรื่องที่ฮูหยินของข้าทำ เดิมทีข้าก็ไม่รู้เรื่องนี้!”นายท่านหลิ่วเห็นความลับถูกเปิดเผยแล้ว รีบโยนเรื่องทั้งหมดไว้ที่นายหญิงหลิ่วนายหญิงหลิ่วตกตะลึง คิดไม่ถึงเลยว่าคนนอนเคียงหมอนร่วมกันมานานหลายปีเห็นปัญหาใหญ่มาเยือนก็ผลักนางออกไปในทันที พูดเสียงโกรธขึ้ง“นี่ เหตุใดถึงโยนทั้งหมดมาที่ข้าคนเดียวเล่า?ทั้งๆ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 601

    “พวกเจ้ายังจำได้หรือไม่ว่าปีนั้นสกุลกู้เคยคิดจะให้กู้อวิ๋นเวยแต่งงานกับแม่ทัพซ่ง แต่ท้ายที่สุดงานแต่งนี้ก็ไม่สำเร็จ?คิดไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายแล้ว แม่ทัพซ่งยังเป็นลูกเขยของสกุลกู้ นี่นับว่าเป็นชะตาฟ้าลิขิตใช่หรือไม่?”“ข้าก็พูดแล้วสกุลกู้ซื่อสัตย์ภักดีทั้งตระกูล เหตุใดอุปนิสัยของกู้อวิ๋นเวยจึงแตกต่างออกไปถึงเพียงนี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูล ตกอับจนมีจุดจบเฉกเช่นทุกวันนี้ บัดนี้นับว่าเข้าใจทั้งหมดแล้ว การกระทำนั้นยังไม่เหมือนสกุลหลิ่วทุกกระเบียดนิ้วอีกหรือ?”ทุกคนต่างพากันส่ายหน้า รู้สึกเพียงสลดใจบัดนี้หลิ่วหรูเยียนกำลังนั่งอยู่ร่วมกับพวกราชครูกู้ ได้ยินพวกเขาเอ่ยถึงเรื่องในตอนแรก“ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าอุบัติเหตุในตอนนั้นจะทำให้เจ้าต้องตกลำบากอยู่ภายนอกมานานหลายปีถึงเพียงนี้ เป็นแม่ทำผิดต่อเจ้า...”ฮูหยินผู้เฒ่ากู้จับมือหลิ่วหรูเยียนพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น ที่ผ่านมานางก็เคยได้ยินเรื่องของหลิ่วหรูเยียน รู้ว่าหลายปีมานี้นางใช้ชีวิตอยู่ที่สกุลหลิ่วอย่างยากลำบาก ยังแปลกใจเหตุใดสกุลหลิ่วลำเอียงถึงเพียงนี้เพียงแต่ เดิมทีก็เป็นลูกของบ้านอื่น พวกเขาไม่สามารถพูดอะไรได้บัด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 602

    “สกุลหลิ่วจะถูกปลดตำแหน่งขุนนางหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินมองเขาอย่างสงสัย สายตาแยกดำขาวอย่างชัดเจนภายใต้แสงจันทร์ทอประกายระยับ สุกสกาวเป็นพิเศษสุ้มเสียงนางนุ่มนวล เพียงแค่เอ่ยถามเรียบๆ หนึ่งประโยค ทว่าตกอยู่ในหูของฉู่จวินถิง กลับอยากจะทำเรื่องนี้ให้กลายเป็นจริง“แน่นอน”เส้นเสียงของเขาต่ำหนัก สุ้มเสียงมั่นใจอย่างมากซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วขึ้น “หลายปีมานี้ภายใต้การช่วยเหลือของสกุลฉินใต้เท้าหลิ่วก็สร้างผลงานไว้บ้าง แม้ว่าบัดนี้มีความผิดสลับตัวเด็ก แต่ทำให้เขาถูกลดตำแหน่งนั้นง่าย ปลดตำแหน่งขุนนางกลับไม่ง่ายถึงเพียงนั้น”เรื่องพรรค์นี้ในแวดวงขุนนาง แท้จริงแล้วเป็นเรื่องส่วนตัวของสองตระกูล คนอื่นมากที่สุดก็ล้วนรับชมความครึกครื้นยิ่งไปกว่านั้น เมื่อครู่นายท่านหลิ่วโยนความผิดทั้งหมดไว้บนตัวญาติฝ่ายหญิง หากเป็นเรื่องภายในเรือน ย่อมเกี่ยวข้องกับเขาไม่มากเพียงแต่ นางรู้ดีมากว่านายท่านหลิ่วจะต้องมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ นายหญิงหลิ่วเองก็วางอุบายเพื่อให้เขาโชคดีในเส้นทางของขุนนาง คนที่ได้รับผลประโยชน์เหล่านี้...ไม่มีผู้บริสุทธิ์แม้คนเดียว“เจ้าเชื่อข้าหรือไม่?”ฉู่จวินถิงเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าด้านข

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 603

    “ข้าเข้าใจแล้ว” ซ่งรั่วเจินรับคำเสียงหนึ่ง พูดกับอวิ๋นเนี่ยนชู“เนี่ยนชู เจ้าช่วยข้าต้อนรับพวกองค์หญิงหกดีๆ มีเรื่องใดก็บอกเฉินเซียงได้ ข้าไปทำธุระส่วนตัวสักหน่อยเดี๋ยวมา”อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้า “วางใจเถอะ ยกให้ข้า”ซ่งรั่วเจินเห็นว่าซ่งเยี่ยนโจวกลับไปที่ห้องหอแล้ว ตนเองก็ลอบไล่ตามไป จากนั้นหลบที่ภายนอกห่างจากห้องหอไม่ไกลนางเลื่อมใสความกล้าของฝานซืออิ๋งอย่างแท้จริง ต้องการใช้อุบายเดิมน่าขายหน้าพรรค์นี้อีกครั้งก็ช่างเถอะ ถึงขั้นยังเลือกวันแต่งงานของพี่ใหญ่ช่างเป็นพวก...หน้าตาอัปลักษณ์ฝันหวานโดยแท้!ชั่วขณะนางกำลังรอปลาติดเบ็ดอยู่นั้น ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าทางด้านหลัง รีบหันหลังกลับ“ชู่ว์”ฉู่จวินถิงใช้มือข้างหนึ่งปิดปากนาง ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามเผยสีหน้าแปลกใจอยู่รางๆ เอ่ยเย้า “คืนวันแต่งงานใหม่ของพี่ใหญ่เจ้า น้องสาวมาแอบฟังที่มุมกำแพงเช่นนี้ ไม่ดีกระมัง?”เมื่อครู่เขาเห็นแม่นางคนนี้ลอบออกจากงานเลี้ยง รออยู่นานก็ยังไม่เห็นกลับมา นี่ถึงออกมาตามหาใครคิดเล่าว่านางที่เป็นคุณหนูในห้องหอคนหนึ่ง...จะมาแอบฟังที่มุมกำแพง?ซ่งรั่วเจินเผชิญหน้ากับท่าทางแปลกประหลาด ตกตะลึงและพยาย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 604

    ภายในอากาศเจือกลิ่นอายสดชื่นบริสุทธิ์อันเป็นเอกลักษณ์บนตัวของฝ่ายชาย นางถึงขั้นสามารถได้ยินเสียงลมหายใจของเขาได้ ระยะห่างใกล้กันมากยิ่งขึ้น เลื่อนผ่านใบหูของนาง เจือความรู้สึกจักจี้เล็กน้อยมือใหญ่ของฝ่ายชายวางไว้บนเอวของนาง อุณหภูมิร้อนฉ่านั้นคล้ายเปลวไฟก็มิปาน ลุกโชนเข้าไปในหัวใจ อุณหภูมิบนใบหน้านางเองก็เพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว...ฉู่จวินถิงมองคนในวงแขน เขาได้เห็นนางใกล้ถึงเพียงนี้เป็นครั้งแรกระยะห่างใกล้มาก ชนิดที่ว่าสามารถมองเห็นใบหน้าเล็กเนียนละเอียดของนางได้ ผิวพรรณขาวนวลคล้ายเพียงดีดก็แตก ดวงตาคล้ายกวางน้อยคู่นั้นเจือความว้าวุ่นยากเกินควบคุม อีกทั้งพวงแก้มแดงเรื่อมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งทำให้หัวใจของเขาว้าวุ่นสัมผัสที่มืออ่อนนุ่มเหลือหลาย คล้ายออกแรงเบาๆ ก็สามารถบีบขาดได้ก็คล้ายเมื่อแรกที่นางแสร้งหมดสติในอ้อมกอดเขา สัมผัสเนียนนุ่มนั้น ทำให้เขามิอาจหักใจปล่อยมือ“มือของท่าน...”“ชู่ว์” ฉู่จวินถิงเข้าใกล้ใบหูของฝ่ายหญิง กระซิบเสียงค่อย “เจ้ารู้ว่าใครมาหรือไม่?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้าเบาๆ “เป็นฝานซืออิ๋ง นางน่าจะต้องการใช้วิธีเดิมอีกครั้ง”ฉู่จวินถิงเข้าใจในทันใด นึกได้ว่าก่อนหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 605

    “แอด...”เสียงประตูห้องถูกผลักเปิดออก ฝานซืออิ๋งย่องเบาเตรียมเข้าไปภายใน ทันใดนั้นเสียงก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง“แม่นางฝาน วันนี้พี่ใหญ่ข้าแต่งงาน ที่จวนไม่ได้เชิญเจ้า กลางดึกค่ำมืดเช่นนี้...มาเป็นขโมยหรือ?”ซ่งรั่วเจินกอดอก ดวงหน้างดงามเผยสีหน้าเยาะหยัน มองท่าทางเหมือนขโมยก็มิปานของฝานซืออิ๋งที่อยู่ตรงหน้าชั่วขณะได้ยินเสียงดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทั้งตัวฝานซืออิ๋งคล้ายถูกฟ้าผ่า ตกตะลึงอึ้งงันอยู่กับที่นางหันหน้าไปอย่างเหลือจะเชื่อ ชั่วขณะได้เห็นซ่งรั่วเจินกลับไม่ต่างจากเห็นมารชั่วร้าย ยิ่งไปกว่านั้นยามได้เห็นฉู่อ๋องข้างกายนางแล้ว ตกตะลึงพรึงเพริดทำอันใดไม่ถูก ร่างกายอ่อนยวบเกือบล้มหน้าคะมำบนพื้น“เจ้า เหตุใดพวกเจ้ามาอยู่ที่นี่?”“คำนี้สมควรเป็นพวกเราถามเจ้ากระมัง?” ซ่งรั่วเจินเยาะหยันขณะเดียวกัน เปลวเทียนภายในห้องถูกจุดขึ้นอีกครั้ง ซ่งเยี่ยนโจวและลั่วชิงอินเดินออกมาพร้อมกันใบหน้าซ่งเยี่ยนโจวเย็นชา สีหน้าเคร่งขรึม เขาเกลียดฝานซืออิ๋งมาก เดิมทีคิดว่าชาตินี้ไม่ขอพบหน้าอีก คิดไม่ถึงหญิงคนนี้จิตใจบ้าคลั่ง คิดวิธีการเช่นนี้ออกมาได้!ก่อนหน้านี้ยามน้องหญิงห้าเอ่ยเตือนเขา เขาก็ตกใจ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 606

    เห็นฝานซืออิ๋งไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ฉู่จวินถิงพูดนิ่งๆ “อวิ๋นหยาง พาคนเข้ามา”บ่าวคนหนึ่งถูกพาเข้ามาอย่างว่องไว เพียงแต่บัดนี้ดื่มจนเวียนหัวมึนงง สมองไม่แจ่มชัด“ซ่าซ่า”น้ำเย็นหนึ่งถังถูกสาดเข้าไป ทันใดนั้นคนได้สติขึ้นมาแล้วหลังได้เห็นทุกคนอยู่ตรงหน้าไปจนถึงฝานซืออิ๋งที่กำลังถูกจับตัวไว้ ทันใดนั้นสีหน้าของบ่าวเปลี่ยนเป็นเผือดซีด“ยังไม่รีบสารภาพออกมาอีก!” ซ่งเยี่ยนโจวตวาดเสียงเฉียบบ่าวตกใจว้าวุ่นหนัก “เป็นแม่นางฝานบังคับให้ข้าทำเช่นนี้ หากข้าไม่รับปาก นางจะไม่ปล่อยพ่อแม่ข้าคุณชาย ข้าไม่มีทางเลือกขอรับ ขอร้องท่านให้อภัยบ่าวครั้งนี้ด้วยเถอะ!”สีหน้าฝานซืออิ๋งเปลี่ยนไป “เจ้าพูดเหลวไหลอะไร! ข้าเปล่า!”บ่าวคุกเข่าโขกศีรษะไม่หยุด “ก่อนหน้านี้ยามนางอยู่ในจวนก็ถือสัญญาขายตัวเป็นทาสของบ่าวไว้ มิหนำซ้ำยังขายพ่อแม่ของบ่าวไปที่สกุลฝานช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ พ่อแม่ข้าอยู่ที่สกุลฝานได้รับความทุกข์เกินบรรยาย นางยังข่มขู่ข้า หากไม่รับปาก จะตีพ่อแม่ข้าให้ตายทั้งเป็นคุณชาย ชีวิตของคนในครอบครัวบ่าวล้วนอยู่ในมือของนาง ข้ายอมตาย แต่ไม่อาจทนเห็นพ่อแม่ข้าตายได้ขอรับ...”บ่าวร้องไห้เจ็บปวดใ

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 742

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้าเล็กน้อย "รบกวนท่านแล้ว"“ไม่รบกวนหรอก ซ่งจืออวี้กับซ่งจิ่งเซินจะไปกับเจ้าด้วย ข้าก็วางใจมากแล้ว”หลังจากฉู่จวินถิงได้ยินข่าวนี้ก็รู้สึกว่าการจัดเตรียมของสกุลซ่งนั้นเหมาะสมอย่างมาก การที่ทั้งกองคาราวานเดินทางไปด้วยกันจะไม่ดึงดูดความสนใจ และยิ่งปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วย“เจ้าออกเดินทางครั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้คนอื่นรู้จะดีที่สุด เพราะยังไม่สามารถหาตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังไต้ซือเทียนจีได้ สุดท้ายแล้วก็ไม่ปลอดภัย”ซ่งรั่วเจินพยักหน้าเล็กน้อย "หม่อมฉันเข้าใจแล้ว จะระวังตัวเพคะ"“นอกจากนี้ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องบอกเจ้า”……ในพลบค่ำวันนั้น เนื่องจากราชครูกู้ต้องเดินทางไปทางใต้ ผู้คนในสกุลซ่งจึงมารวมตัวกันที่จวนตระกูลกู้อีกครั้ง ทว่ายังคงไม่พบกู้ชิงเจ๋อ“นายท่านสามกู้ บัดนี้ไม่คิดจะกลับมาแล้วหรือ?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถามในบรรดาสามพี่น้องสกุลกู้ กู้ชิงเจ๋อพึ่งพาสกุลกู้มากที่สุด ทว่าตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ออกจากสกุลกู้ ก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลยกู้ฮวนเอ๋อร์ส่ายศีรษะ “ไม่อยากกลับมาที่ไหนกัน? เป็นท่านปู่ที่ไม่ยอมให้เขากลับมาต่างหาก”“ญาติผู้พี่ ท่านไม่รู้หรอกว่าท่านลุงสามน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 741

    “ในที่สุดก็ไปสักที พระชายาเช่ออ๋องนี่เสียสติไปแล้วจริงๆ มีเวลาขนาดนี้ไม่สู้กลับไปจัดการอนุในจวนนางให้ดี มาทำกร่างที่จวนตระกูลซ่งของพวกเราทำไมกัน?”ซ่งจืออวี้มีสีหน้ารังเกียจ ยิ่งรู้สึกถึงความสำคัญของการเลือกภรรยาที่มีคุณธรรมและสติปัญญามากขึ้นเช่ออ๋องมีพระชายาเช่นนี้ ก็นับว่าโชคร้ายเสียจริง!“ใครจะไปรู้เล่า?”ซ่งรั่วเจินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ อารมณ์ดีที่เคยมีอยู่ถูกทำลายไปเสียแล้ว“ท่านอ๋องทรงเหนื่อยแล้วใช่ไหมเพคะ? หม่อมฉันจะไปชงชาให้ท่านอ๋องเองเพคะ”ซ่งรั่วเจินยิ้มก่อนจะทิ้งคำพูดประโยคหนึ่งไว้ แล้วรีบดึงซ่งจืออวี้ออกไปข้างนอกฉู่จวินถิงมองแผ่นหลังของหญิงสาวที่จากไปอย่างเร่งรีบ รอยยิ้มปรากฏขึ้นในดวงตา นี่คือ...การร้อนตัวหรือไม่?เพิ่งออกมาได้ไม่นาน ซ่งจืออวี้ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า "น้องหญิงห้า เจ้ารีบเร่งข้าออกมาทำอะไร?”“วันนี้ฉู่อ๋องช่วยข้าลากิจโดยเฉพาะ และยามนี้ก็มาหาเจ้า พวกเราทิ้งเขาไว้ลำพังเช่นนี้คงไม่ค่อยดีนักนะ?”“ช่างเรื่องนี้ก่อนเถอะเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินโบกมือ “ท่านกับท่านอ๋องมาถึงตั้งแต่เมื่อไร? ได้ยินคำพูดของข้าก่อนหน้านี้มากน้อยเพียงไหน?”ซ่งจืออวี้นึกถึงคำพ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 740

    “แม่นางซ่งกับน้องสามมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน นางก็คือว่าที่พระชายาฉู่อ๋อง เจ้าเป็นพี่สะใภ้ แต่ตอนนี้เจ้ากลับกล้ากล่าวหาว่านางยั่วยวนข้า คิดจะยุแยงความสัมพันธ์ฉันพี่น้องระหว่างข้ากับฉู่อ๋องงั้นรึ?”เฉียนหย่าหลินได้ยินดังนั้น ใบหน้าก็พลันเผือดสีโทษหนักปานนี้ นางแบกรับไม่ไหวจริงๆ!ตอนนี้เดิมก็เป็นช่วงเวลาเปราะบาง ถ้านางกล้าทำให้เกิดช่องว่างระหว่างอ๋องทั้งสอง เกรงว่าราชวงศ์คงไม่ปล่อยนางไว้แน่!“ท่านอ๋อง หม่อมฉันไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้นเด็ดขาดเพคะ หม่อมฉันมิกล้าเพคะ!”ฉู่จวินถิงเอ่ยเสียงเรียบ “พี่สะใภ้หาว่าแม่นางซ่งยั่วยวนข้ากับเสด็จพี่รองในเวลาเดียวกัน มิเท่ากับกล่าวหาว่าพวกข้าโง่เขลาเบาปัญญาหรือไร?”“เสด็จพ่อให้ความสำคัญกับความสามัคคีในหมู่พี่น้องเป็นที่สุดแล้ว หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ชื่อเสียงของข้ากับเสด็จพี่ล้วนต้องจบสิ้น”ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วบางขึ้นน้อยๆ ฉู่จวินถิงไม่ปล่อยนางไปจริงๆ ด้วย“เสด็จพี่ แต่งภรรยาแต่งผู้มีคุณธรรม พี่สะใภ้ทำลายชื่อเสียงท่าน ข้าคงไปยุ่งไม่ได้ แต่ชื่อเสียงของข้ายังต้องรักษาไว้ ชื่อเสียงรั่วเจินก็ต้องรักษาไว้เหมือนกัน!”คำพูดของฉู่จวินถิงกลายเป็นฟางเส้นสุ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 739

    ซ่งรั่วเจินฟังคนข้างกายเฉียนหย่าหลินใส่ร้ายตนเอง ถ้อยคำน่าขันขึ้นทุกประโยค ดวงตางามฉายแววเยาะหยันเดิมเข้าใจว่าแม่นมกับสาวใช้เหล่านี้เป็นเพียงข้ารับใช้ คิดไม่ถึงว่ายังเป็นนักแต่งเรื่องอีกด้วย!ดูปากนั่นสิ แต่งเรื่องเก่งไม่น้อยหน้ากันเลยทีเดียว!แต่ถ้าจะแสดงละครแข่งกัน นางยังจะแพ้อีกงั้นรึ?“ท่านอ๋อง หม่อมฉันกับพระชายาไม่เคยรู้จักกัน ทั้งยังไม่เคยเจอกันมาก่อน”“วันนี้พระชายามาเยือนกะทันหัน ทั้งยังพาแม่นมสาวใช้มาด้วยมากมายท่าทางน่ากลัวนัก หม่อมฉันเพิ่งมาถึง พระชายาก็สั่งให้ข้ารับใช้ในจวนทุกคนออกไป”“หลังจากพวกเขาไปกันหมดแล้ว พระชายาก็หาว่าหม่อมฉันจงใจยั่วยวนเช่ออ๋อง ที่ช่วยคนในเขตล่าสัตว์ก็เพราะต้องการสร้างบุญคุณเพื่อหวังผลตอบแทน”“หากไม่ใช่เพราะหม่อมฉันเที่ยวตามยั่วยวน ท่านอ๋องก็ไม่มีทางมาขอบคุณถึงจวนด้วยตนเอง บอกว่าท่านอ๋องไม่ใช่คนที่จะมาขอโทษถึงจวนด้วยตัวเองเพคะ!”ฉู่เทียนเช่อใจกระตุกวูบ เฉียนหย่าหลินเสียสติไปแล้วจริงๆ ด้วย คำพูดพรรค์นี้ก็ยังกล้าพูดออกมาได้!ซ่งรั่วเจินก้มหน้า เช็ดน้ำตาที่ไม่มีอยู่จริงตรงหางตาแล้วเอ่ยว่า “หม่อมฉันไม่ได้ยั่วยวนท่านอ๋องเลยนะเพคะ จนใจที่พระชายาไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 738

    “ข้าว่าเรื่องนี้ก็เลิกแล้วต่อกันเพียงเท่านี้จะดีกว่า ถือเสียว่าไม่เคยเกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องไปเชิญเช่ออ๋องมาแล้วละ”หลังนางกลับบ้านเดิม เช่ออ๋องก็มารับนางเป็นการเฉพาะ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นอย่างหาได้ยากถ้าเช่ออ๋องรู้ว่าตนเองมาหาเรื่องถึงตระกูลซ่งจะต้องพิโรธมากเป็นแน่!“นั่นจะได้อย่างไรกัน?” ฉู่จวินถิงเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ “พี่สะใภ้ถึงขั้นตั้งใจมาคาดคั้นถึงตระกูลซ่ง เห็นได้ชัดว่าเข้าใจผิดมากเพียงใด ถ้าข้าไม่มาเห็นเข้าพอดี เกรงว่าป่านนี้ซ่งรั่วเจินคงรักษาชีวิตไว้ไม่ได้แล้ว”“นอกจากนี้ อีกสองวันข้าก็จะลงใต้แล้ว ถ้าไม่อธิบายเรื่องเข้าใจผิดกันให้ชัดเจน พอข้ากลับมาก็ไม่ได้เห็นซ่งรั่วเจินแล้วน่ะสิ?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้าติดต่อกัน กล่าวด้วยสีหน้าเจ็บช้ำใจว่า “ท่านอ๋องพูดถูกเพคะ หม่อมฉันหวาดกลัวยิ่งนัก!”ซ่งจืออวี้เห็นน้องสาวของตนเองแสดงละครร่วมกับฉู่อ๋อง ใบหน้าพระชายาเช่ออ๋องเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีดำ เปลี่ยนจากสีดำเป็นสีแดงแล้วเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีขาว จนเขาอดตะลึงไม่ได้ความเร็วในการเปลี่ยนสีหน้านี้ช่างรวดเร็วมากจริงๆ!หลังจากอวิ๋นหยางไปเชิญเช่ออ๋อง พระชายาเช่ออ๋องก็กระวนกระวายอย่างเห็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 737

    น้ำเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันทำให้คนทั้งสองภายในห้องต่างนิ่งอึ้งไป ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงที่เดินเข้ามาในห้องอย่างแช่มช้า ดวงตางามก็ฉายแววตกใจเขามาถึงตั้งแต่เมื่อไร?คงไม่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของตนเองหรอกนะ?ซ่งจืออวี้อ่านสายตาน้องสาวตนเองออกจึงเหยียดริมฝีปากอย่างอ่อนใจ หัวใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ของซ่งรั่วเจินจึงหยุดเต้นไปในที่สุดได้ยินแล้วจริงๆ ด้วย!ชั่วขณะที่พระชายาเช่ออ๋องเห็นว่าฉู่อ๋องมาแล้ว ใบหน้าก็พลันถอดสี คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญถึงเพียงนี้!ความลนลานวาบผ่านดวงตานาง แต่ก็กลับไปเป็นปกติอย่างรวดเร็ว นางเอ่ยว่า “ที่แท้ก็ฉู่อ๋องมานี่เอง”“ข้าเพิ่งมาถึงก็ได้ยินว่าพี่สะใภ้กำลังข่มขู่คนอยู่ ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องใดขึ้นหรือถึงได้มาขู่เอาชีวิตคนในจวนสกุลซ่งเช่นนี้?”ใบหน้าหล่อเหลาของฉู่จวินถิงมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ใดๆ เลยสักนิด น้ำเสียงผ่อนคลายเรียบเรื่อยราวกับเป็นการถามไถ่ธรรมดาทั่วไป ทว่าความกดดันที่แผ่ซ่านออกมาทั่วร่างรวมถึงสายตาเย็นเฉียบทำให้คนเข้าใจว่า เขามีโทสะแล้ว“ซ่งรั่วเจินไม่เคารพข้า...”พระชายาเช่ออ๋องยังพูดไม่จบ ฉู่จวินถิงก็กล่าวขึ้นว่า “อ้อ? พี่สะใภ้มาถึงตระก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 736

    “ซ่งรั่วเจิน เจ้าอย่าทำตัวไม่รู้ดีชั่วเช่นนี้ วันนี้ข้าให้โอกาสเจ้ารักษาก็คือให้เกียรติเจ้า!”“ถ้าฉู่อ๋องรู้ว่าเจ้าไปยั่วยวนเช่ออ๋องลับหลังเขา เจ้าคิดว่าฉู่อ๋องยังจะชอบเจ้าอยู่งั้นรึ?”ซ่งรั่วเจินได้ยินอย่างนั้นก็แทบจะหัวเราะออกมา นางยั่วยวนเช่ออ๋อง?“พระชายาเช่ออ๋อง ท่านคิดว่าหม่อมฉันสมองไม่ดีหรือสายตามีปัญหาหรือเพคะ?”“ฉู่อ๋องยังไม่แต่งงาน กล้าหาญชาญศึกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นบุรุษรูปงามของเมืองหลวง ไยหม่อมฉันจะต้องปล่อยมือจากฉู่อ๋องไปยั่วยวนเช่ออ๋องด้วยเพคะ?”เมื่อซ่งจืออวี้มาหาน้องหญิงห้าเป็นเพื่อนฉู่อ๋อง ยังไม่ทันเข้าไปใกล้ก็ได้ยินคำพูดเช่นนี้ดังออกมาจากข้างใน เขาเบิกตากว้างอย่างอดไม่อยู่เหตุใดสตรีวิปลาสผู้นี้จึงมาใส่ร้ายน้องหญิงห้าส่งเดชเช่นนี้!“เช่ออ๋องไม่ดีตรงไหน? ฉู่อ๋องเย็นชาเสียขนาดนั้น เหมือนก้อนหินไม่มีผิด ถ้าไม่ระวังก็อาจเสียชีวิตเอาได้ ไหนเลยจะอ่อนโยนเหมือนเช่ออ๋อง?”พระชายาเช่ออ๋องแย้งกลับมาอีกประโยค “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะว่าเจ้ามันไม่รู้จักพอ!”“ฉู่อ๋องหน้าตาหล่อเหลาปานนั้น ถึงเขาจะตีหน้าเย็นชาทั้งวันแต่ก็เป็นชายรูปงามที่หาได้ยากนักในโลกนี้ ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 735

    ซ่งรั่วเจินเพิ่งมาถึงโถงหน้าก็เห็นพระชายาเช่ออ๋องที่แต่งกายอย่างหรูหราอาภรณ์สีชมพูตัดเย็บจากผ้าแพรชั้นดี คลุมทับด้วยเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกสีขาว รูปโฉมนางเหมือนสาวน้อยที่งดงามน่ารัก ผิวพรรณขาวบริสุทธิ์ ดวงตาชั้นเดียวเชิดขึ้นเล็กน้อยทอประกายคมกริบแม่นมสี่คนกับสาวใช้สี่คนยืนอยู่ข้างกาย กล่าวได้ว่าวางมาดใหญ่โตยิ่งนัก“คารวะพระชายาเช่ออ๋องเพคะ”ซ่งรั่วเจินแสดงคารวะ นางรู้สึกว่าฝ่ายตรงข้ามจับจ้องตนเองตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว แต่การจ้องมองเช่นนี้...แสดงท่าทีของผู้เหนือกว่าอย่างชัดเจน ในใจก็เข้าใจขึ้นมาหลายส่วนเห็นที...จะไม่ได้มาดีสินะ!“เจ้าก็คือซ่งรั่วเจิน?”พระชายาเช่ออ๋องมองประเมินซ่งรั่วเจิน ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าแม่นางผู้นี้เป็นหญิงงามผู้หนึ่ง ไม่อย่างนั้นก็คงไม่สามารถอาศัยสถานะหญิงที่เคยถอนหมั้นไปเข้าตาฉู่อ๋องได้แล้วสายตาฉู่อ๋องสูงส่งมาแต่ไหนแต่ไร หลายปีมานี้ไม่เคยต้องตาแม่นางคนใดมาก่อน แต่กลับถูกนางล่อลวงจนลุ่มหลงหัวปักหัวปำ ชั่วขณะนี้เมื่อได้เห็นแล้วก็จำต้องยอมรับว่างดงามจริงดังกล่าว“เพคะ” ซ่งรั่วเจินตอบรับ “ไม่ทราบว่าพระชายาเช่ออ๋องมาหาหม่อมฉันด้วยธุระอันใดหรือเพคะ?”“ข้าไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 734

    พี่ใหญ่ถูกลอบโจมตีจนเกือบไม่รอดชีวิตกลับมา หลังกลับมาแล้วขาทั้งสองข้างยังพิการ ท่านพ่อก็ไม่ได้กลับมาอีกเลยถ้ามีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้...“ส่วนจิ่งเซิน เขาได้ทำการค้าบ่อยๆ เชี่ยวชาญการติดต่อสัมพันธ์กับผู้คน พวกเจ้าเดินไปทางไปด้วยกันสามารถปลอมเป็นกลุ่มพ่อค้าที่ไปค้าขาย ผู้คนจะได้ไม่สงสัยโดยง่าย” ซ่งเยี่ยนโจวกล่าวซ่งจิ่งเซินพยักหน้ารัวๆ “ใช่แล้ว มีข้าอยู่ด้วย สามารถตัดความยุ่งยากไปได้มากที่สุดแล้ว!”ทุกคนล้วนเข้าใจเรื่องนี้ดี ยามออกไปข้างนอก การมีไหวพริบในการจัดการเรื่องราวเฉพาะหน้าสามารถลดปัญหาได้ นอกจากนี้ ซ่งจิ่งเซินก็ยังมีประสบการณ์ พวกเขาไม่จำเป็นต้องแสดงละครด้วยซ้ำ แค่นำกลุ่มพ่อค้าออกเดินทางก็สามารถตบตาผู้คนได้อย่างง่ายดายกู้หรูเยียนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกว่าปลอดภัยขึ้นมากจึงกล่าวว่า “เจินเอ๋อร์ ทำตามที่พี่ใหญ่เจ้าพูดเถอะนะ? เช่นนี้พวกข้าจะได้คลายใจ”ซ่งรั่วเจินเหลือบมองพวกซ่งจืออวี้สองฝาแฝดก็เห็นพวกเขาพยักหน้าเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนลูกไก่จิกข้าวสารกระนั้น นางกล่าวยิ้มๆ ว่า “เจ้าค่ะ งั้นประเดี๋ยวค่อยมาดูกันว่าต้องเตรียมสิ่งใดไปบ้าง”“น้องหญิงห้า เรื่องนี้เจ้ายกให้เป็นหน้าที

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status