Share

บทที่ 585

Author: จี้เวยเวย
“เรื่องนี้ข้าพยายามไปสืบรู้มาจนได้ ไม่ผิดพลาดแน่นอน!”

เฉียนชิวเซียงยืนกรานหนักแน่น “พวกเขาปิดบังเรื่องนี้อย่างมิดชิด เข้าใจว่าคงไม่มีใครรู้ แต่ในโลกนี้มีความลับที่ไหนกัน!”

ฝานซืออิ๋งลอบปีติยินดี เดิมนึกว่าลั่วชิงอินเพียงแต่โศกเศร้าเสียใจเกินไป ทุกข์ใจจนล้มป่วย คิดไม่ถึงว่านางจะไม่ได้เรื่องปานนี้ แม้แต่ลูกก็ยังมีไม่ได้!

“ซ่งเยี่ยนโจวเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลซ่ง หลิ่วหรูเยียนไม่รู้ว่าอยากอุ้มหลานชายมากแค่ไหน ถ้าพวกเขารู้ว่าลั่วชิงอินมีลูกไม่ได้ ยังจะไม่ล้มงานแต่งอีกงั้นรึ?”

“ใช่แล้ว นี่คือโอกาสอันดีของเจ้า! ดีที่สุดคือใช้โอกาสนี้ตั้งครรภ์ทายาทของตระกูลซ่ง ยังต้องกลัวว่าพวกเขาจะไม่รับเจ้ากลับเข้าไปอีกหรือ?”

ดวงตาเฉียนชิวเซียงเต็มไปด้วยประกายเจ้าเล่ห์เพทุบาย นางหวังให้ฝานซืออิ๋งได้กลับเข้าไปในตระกูลซ่งยิ่งกว่าใครทั้งนั้น

ไม่มีการสนับสนุนจากตระกูลซ่ง ชีวิตของพวกนางยากลำบากเกินไปแล้ว!

ซ่งรั่วเจินเห็นว่าพี่ชายพี่สะใภ้เข้าบ้านไปแล้ว สายตากวาดผ่านฝูงชนก็สังเกตเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยสายหนึ่ง ครั้นพิศดูอีกครั้ง คนกลับไม่อยู่แล้ว

“มองอะไรอยู่หรือ?”

ฉู่จวินถิงทราบว่าวันนี้ตระกูลซ่งจัดงานมงคลจ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 586

    “เช่นนั้นย่อมดีที่สุดแล้ว ข้าหวังมาตลอดว่าจะมีโอกาสได้สนิทสนมกับหร่วนฮูหยิน”ใต้เท้าหร่วนเห็นว่าภรรยาตนเองกระตือรือร้นเช่นนี้ ในใจก็ลอบสงสัย ภรรยาของตนจะรู้สึกซาบซึ้งใจก็ไม่แปลกแม้แต่น้อย แต่วันนี้ออกจะอบอุ่นเกินไปหน่อย ไม่เหมือนนิสัยนางเลย“แม่นางหร่วนมาแล้วหรือ” ซ่งรั่วเจินยิ้มแย้มทักทายหร่วนเนี่ยนถังพยักหน้ายิ้มๆ “แม่นางซ่ง เมื่อครู่ข้าเพิ่งรู้ว่าเจ้าช่วยเหลือพี่ใหญ่ของข้าไว้ ต้องขอบคุณเจ้ามากจริงๆ”“เกรงใจไปแล้ว ก่อนหน้านี้คุณชายหร่วนก็ขอบคุณไปแล้ว ตรงนี้คนเยอะ ข้าพาเจ้าไปกินของว่างกับผลไม้ฝั่งนั้นดีหรือไม่?”ซ่งรั่วเจินยิ้มบาง วันนี้พี่ใหญ่แต่งงาน มารดากับพี่ชายทั้งสามคนรับหน้าที่ดูแลแขกอาวุโสและแขกผู้ชาย ส่วนนางรับหน้าที่ดูแลคุณหนูทั้งหลาย“รบกวนแล้ว” หร่วนเนี่ยนถังสุภาพอ่อนโยนฉู่จวินถิงเห็นว่าซ่งรั่วเจินเริ่มจากต้อนรับหร่วนเนี่ยนถัง ต่อจากนั้นยังต้อนรับพวกเมิ่งชิ่นและอวิ๋นเนี่ยนชู คุณหนูหลายคนจับกลุ่มกัน ไม่มีเวลามาพูดจากับเขาแม้แต่น้อย ดวงตาลึกซึ้งฉายแววอ่อนใจ“เสด็จพี่สาม วันนี้แม่นางซ่งยุ่งมาก เกรงว่าคงไม่มีเวลามาคุยกับท่านแล้ว”ฉู่อวิ๋นกุยลอบยิ้มอย่างอดไม่อยู่ พี่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 587

    วันนี้จวนตระกูลซ่งไม่เพียงเตรียมของว่างและผลไม้ แต่ยังเตรียมไก่ทอดไว้อีกด้วยเนื่องจากช่วงนี้ไก่ทอดขายดียิ่งนัก ยามปกติหากไปช้าหน่อยมักซื้อไม่ทัน วันนี้ได้มากินในจวน เหล่าแขกเหรื่อจึงดีใจอย่างมากฉู่มู่เหยาเห็นไก่ทอดดวงตาก็พลันวาววับ “ช่วงนี้ตอนอยู่ในวังข้าได้ยินว่าไก่ทอดอร่อยมาก แต่หมู่นี้เสด็จแม่เอาแต่จับตามองข้าเรียนรู้มารยาทจึงไม่มีโอกาสออกจากวัง ในที่สุดวันนี้ก็ได้ลิ้มรสเสียที”“วันนี้ไม่เพียงเตรียมไก่ทอด แต่เตรียมไส้กรอกย่างเอาไว้อีกด้วย ท่านชิมดูก่อนว่าเป็นอย่างไร อีกไม่กี่วันร้านก็จะเปิดขายแล้วเพคะ”แววตาซ่งรั่วเจินแฝงรอยยิ้ม หลังจากการขายไก่ทอดไปได้สวย นางก็ตัดสินใจเปิดร้านขายอาหารที่หลากหลายกว่าเดิมด้านหนึ่งไม่เพียงหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำ อีกด้านหนึ่งยังเป็นเพราะนางอยากกินเมื่อใดก็จะได้กิน สนองความอยากของตัวเองเสียหน่อยครั้นเมิ่งชิ่นกับอวิ๋นเนี่ยนชูได้ยินว่ายังมีของว่างอย่างอื่น ทันใดนั้นสีหน้าก็ฉายแวววาดหวังจนกระทั่งไส้กรอกย่างถูกยกมาตั้งโต๊ะ ทุกคนก็รีบเข้ามาลิ้มชิมอย่างทนรอไม่ไหว เพียงกัดลงไปคำหนึ่ง กลิ่นหอมสดชื่นพลันซ่านในปาก รสชาติของเนื้อเน้นๆ กระจายเต็มโพรงปาก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 588

    มาขอโทษเอาวันนี้ มีเจตนามาขอโทษเสียที่ไหน เห็นได้ชัดว่าคิดจะใช้โอกาสนี้มาบีบบังคับท่านแม่!ทันทีที่หลิ่วหรูเยียนยอมประนีประนอมเรื่องนี้กลางงาน วันหน้าก็เป็นโอกาสอันดีที่พวกนั้นจะได้ล้ำเส้นไม่รู้จบ!ผู้คนบริเวณนั้นเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหลิ่วหรูเยียน กอปรกับได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับตระกูลหลิ่วในช่วงนี้ ในใจก็เข้าใจไปหลายส่วน“ได้ยินว่าซ่งฮูหยินตัดขาดกับตระกูลหลิ่วแล้ว หลายวันก่อนมีข่าวลือว่าซ่งฮูหยินอกตัญญูแพร่ออกมา ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ วันนี้ดูแล้วคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง”“ข้าเชื่อเรื่องตัดขาด แต่ถ้าจะบอกว่าซ่งฮูหยินอกตัญญู ข้าไม่เชื่อเด็ดขาด”“บ้านข้าอยู่ใกล้ๆ กับตระกูลหลิ่ว รู้พฤติกรรมของพวกเขาดี หลายปีมานี้ไปกอบโกยสิ่งของจากตระกูลซ่งมาไม่น้อย แต่ก็ยังไม่รู้จักพอเสียที!”“ข้าก็ได้ยินมาเหมือนกัน ตระกูลหลิ่วลำเอียงต่อหลิ่วหรูเยียนกับหลิ่วเฟยเยี่ยนสองพี่น้องไม่ใช่ธรรมดา ตั้งแต่เล็กมาแล้ว มีของดีอันใดก็เอาไปให้หลิ่วเฟยเยี่ยน โตมาก็ยังไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด”“จะว่าไปก็ประหลาดนัก หลิ่วเฟยเยี่ยนสู้หลิ่วหรูเยียนไม่ได้สักอย่าง แต่ตระกูลหลิ่วก็ราวกับต้องคุณไสยกระนั้น ลำเอียงรักนางเพียง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 589

    เดิมนั้นหลิ่วหรูเยียนไม่อยากทำลายวันอันดีงามเช่นนี้เลย แต่เห็นได้ชัดว่าคนตระกูลหลิ่วมีการเตรียมตัวมาก่อน ถึงนางไม่อยากแค่ไหนก็ไร้ทางเลือกแทนที่จะปล่อยให้พวกเขาฉวยโอกาสนี้มาบีบคั้น มิสู้ทำให้เรื่องบานปลายใหญ่โตไปเสียเลย ให้ทุกคนเห็นว่าตกลงแล้วตระกูลหลิ่วมีเหตุผลหรือไม่!“ตอนนั้นเป็นพวกเจ้าที่บีบให้ข้ายกร้านขายไก่ทอดให้พวกเจ้า ร้านนี้พวกเด็กๆ ทุ่มเทไปมากกว่าจะเปิดมาได้ ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ย่อมไม่อาจยกของของพวกเขาให้พวกเจ้า”“แต่เจ้ากลับตำหนิข้าเพราะเรื่องนี้ ท่านแม่ก็โกรธเคืองเพราะเรื่องนี้เหมือนกัน ราวกับว่าถ้าข้าไม่ยกร้านให้พวกเจ้าก็ไม่คู่ควรใช้แซ่หลิ่วกระนั้น”หลิ่วหรูเยียนดวงตาแดงก่ำ ฝืนพูดต่อไปอย่างเข้มแข็งว่า “หลายปีมานี้ จะที่นาหรือร้านค้าข้าล้วนจุนเจือไปไม่น้อย ไม่เพียงแค่ตระกูลหลิ่ว ตระกูลซุนข้าก็ช่วยเหลือจุนเจือเหมือนกัน”“ร้านค้าสามร้านที่ถนนบูรพา ร้านค้าห้าร้านที่ถนนประจิม แต่ละปีมีกำไรหนึ่งหมื่นหกพันตำลึงข้าก็ยกให้พวกเจ้าไปหมดแล้ว ตระกูลซุนต้องการร้านค้าที่ถนนทักษิณ ทำกำไรไม่น้อยเหมือนกัน”“ทุกอย่างที่ข้าสามารถให้ได้ ข้าล้วนให้ไปหมดแล้ว แต่ถึงอย่างไรข้าก็ไม่อาจมอบสิ่งข

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 590

    “พี่หญิง ในใจท่านข้าไม่น่าเชื่อถือปานนั้นเชียวหรือ ท่านถึงได้ใส่ร้ายข้าต่อหน้าพวกเขาเช่นนี้?”หลิ่วเฟยเยี่ยนเช็ดน้ำตาที่ไม่มีอยู่จริง “ข้าเข้าใจแล้ว ท่านไม่เห็นข้าเป็นน้องสาวอีกแล้ว ดี ต่อไปข้าจะอยู่ห่างๆ ท่านก็ได้ แต่ท่านพ่อท่านแม่ไม่ได้ทำอะไรผิด”“ท่านแค่โทษข้าคนเดียว ท่านพ่อท่านแม่ดีต่อท่านมากเลยนะ”“หรูเยียน พวกเราล้วนแต่เป็นคนในครอบครัว เจ้ากับเฟยเยี่ยนโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก ยามนี้กลับทะเลาะจนถึงขั้นพี่น้องแตกหักกันแค่เพื่อร้านค้าร้านเดียวออกจะน่าเสียดายเกินไปแล้ว”“ต่อไปนางไม่กล้าเรียกร้องร้านขายไก่ทอดอีกแล้ว เจ้าก็หายโกรธเถอะนะ พวกเรายังเป็นครอบครัวเดียวกันดีหรือไม่?” นายหญิงหลิ่วกล่าวทั้งน้ำตาคลอหากเป็นเมื่อก่อน หลิ่วหรูเยียนเห็นนายหญิงหลิ่วเป็นเช่นนี้จะต้องใจอ่อนแน่นอน นางจิตใจดีงามมาตลอด ทนเห็นผู้อาวุโสเสียใจไม่ได้แต่หลังจากรู้ว่านางไม่ใช่ลูกบังเกิดเกล้าของอีกฝ่าย ทุกอย่างนี้กลับแลดูน่าขันยิ่งนักนางถึงกับถูกมารดาจอมปลอมเช่นนี้บีบคั้นมาเสียหลายปี!ซ่งรั่วเจินกับซ่งจิ่งเซินสบตากัน ฝ่ายหลังเข้าใจได้ในทันทีจึงเอ่ยขึ้นมาว่า“ท่านยาย ท่านแม่ย่อมยินดีเห็นคนในครอบครัวอยู่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 591

    ทันทีทันใดที่สิ้นเสียงของซ่งรั่วเจิน สีหน้าของนายหญิงหลิ่วก็พลันเปลี่ยนสีนางลืมไปเสียสิ้นว่าซ่งรั่วเจินมีความสามารถเช่นนี้อยู่กับตัว!“เจ้าลูกอกตัญญูมิรู้คุณ! แม่ของเจ้าก็คือข้าอย่างไรเล่าที่อุ้มท้องถึงสิบเดือนคลอดเจ้าออกมา บัดนี้เจ้ากลับมาอุตริคิดสงสัยเรื่องเช่นนี้ได้ ตกลงเห็นข้าเป็นคนอย่างไรกัน!”นายหญิงหลิ่วคล้ายเดือดดาลจนถึงขีดสุด จึงยื่นมือออกหมายจะทุบตีซ่งรั่วเจิน “เจ้าไม่รู้จักอบรมสั่งสอนลูกให้ดี เช่นนั้นข้าผู้นี้จะช่วยอบรมให้เอง!”ทว่ามือของนายหญิงหลิ่วเพิ่งยื่นออกมากลางอากาศก็ถูกขวางเอาไว้สายตาเยียบเย็นของฉู่จวินถิงกับจ้องเขม็งไปที่นางเสียก่อน “ฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่วก็เลื่องชื่อมิน้อยเรื่องมิอาจอบรมบุตรหลานให้ดี เช่นนั้นหยุดคิดจะอบรมลูกหลานผู้อื่นเสียจะดีกว่า”สีหน้าของนายหญิงหลิ่วพลันเปลี่ยนไปอีกครั้ง ยามอยู่ต่อหน้าผู้อื่นนางยังพอใช้สถานะความอาวุโสกดข่มผู้อื่นได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าฉู่อ๋องเช่นนี้แล้ว ต่อให้ใจกล้าอีกสักร้อยเท่าพันเท่านางก็ไม่กล้า!นางเด็กซ่งรั่วเจินผู้นี้ก็ช่างโชคดีได้น่าบรรลัยแท้ ถึงกับมีฉู่อ๋องมาโปรดปรานให้ความสำคัญเช่นนี้“ท่านอ๋อง ข้าอายุอานามก็ปูนนี

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 592

    ว่าพลาง ซ่งรั่วเจินก็ส่งกระดาษเขียนยันต์ในมือให้กับฉู่จวินถิงหากนางเป็นผู้จุดเทียนเองก็เกรงว่าครั้นผลลัพธ์ปรากฏขึ้น สกุลหลิ่วก็ยังจะคิดหาหนทางมาปฏิเสธอยู่วันยังค่ำ แต่การให้ฉู่จวินถิงจุดเทียน ย่อมทำให้พวกเขาหุบปากสิ้นข้อสงสัยเมื่อผู้คนได้ยินได้เห็นถึงการพิสูจน์สายเลือดที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้แล้ว ในดวงตาก็ค่อยๆ เปี่ยมเต็มด้วยความกระหายใคร่รู้หลิ่วเฟยเยี่ยนจำยอมกรีดปลายนิ้วของตน นำเอาหยาดเลือดสดหยดลงบนกระดาษเขียนยันต์ด้วยความไม่เต็มใจ ตั้งแต่ได้รู้ว่าในเขตล่าสัตว์ของเชื้อพระวงศ์ซ่งรั่วเจินได้ใช้คำสัตย์สาบานเรียกทัณฑ์อัสนีลงมาฟาดฟันใส่คนพูดปดสองคนจนถึงแก่ชีวิตทั้งเป็น ในใจของนางก็อดหวาดผวาขึ้นมาไม่ได้หญิงผู้นี้ช่างเป็นนางมารนางปิศาจโดยแท้!ไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดหลิ่วหรูเยียนจึงได้คลอดบุตรสาวเช่นนางออกมาได้ ทั้งยังเห็นประหนึ่งสมบัติล้ำค่า!ไม่นานกระดาษเขียนยันต์ก็ถูกจุดขึ้นโดยฉู่จวินถิง ผู้คนต่างเป็นประจักษ์พยานกันโดยทั่วว่าเทียนไขทั้งสี่เล่มล้วนถูกจุดขึ้นจนสว่างไสวลุกโชน เสียก็เพียงแต่กระดาษยันต์ที่ค่อยๆ มอดไหม้จนเหลือเพียงเถ้ากลับคล้ายมีพลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็นเชื่อมโยงอยู่กับ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 593

    บัดนี้ยังมีผู้ใดบ้างเล่ากล้าตั้งสัตย์สาบานต่อหน้าซ่งรั่วเจิน?กลางวันแสกๆ นางก็สามารถเรียกทัณฑ์อัสนีมาสังหารคนทั้งเป็นได้ หากตั้งสัตย์เท็จจะไม่เท่ากับรนหาที่ตายเองหรอกหรือ?ดวงตานายหญิงหลิ่วหดเกร็งด้วยหวั่นเกรง นางไม่ได้อยากตาย!“เจินเอ๋อร์ นางเป็นถึงท่านยายของเจ้า เจ้าก็อายุอานามเพียงเท่านี้เหตุใดจึงได้ใจคอโหดร้ายเพียงนี้!”นายท่านหลิ่วว่าด้วยขุ่นเคืองแกมแฝงด้วยความผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด “ช่างเถิด ดูเหมือนพวกเจ้าจะไม่ต้อนรับพวกข้าแล้วจริงๆ จึงได้ใช้วิธีต่ำช้าถึงเพียงนี้เพื่อตัดสัมพันธ์กับพวกข้า”“ข้าไม่รู้หรอกว่าพวกเจ้าวางแผนรัดกุมรอบคอบเช่นนี้ไปเพื่ออะไร แต่พวกเราจะไปให้เดี๋ยวนี้แหละ!”ว่าพลาง นายท่านหลิ่วก็จูงมือนายหญิงหลิ่วเดินจากไป ท่าทีโกรธเกรี้ยวดูราวกับถูกเหยียดหยามเต็มประดาซ่งรั่วเจินมองดูละครลวงโลงแสนช่ำชองจากครอบครัวนี้แล้ว ในดวงตาก็ฉายแววเย้ยหยันอุตส่าห์วางแผนมาอย่างดิบดีเพื่อแสดงละครฉากหนึ่ง บัดนี้ยังคิดเสแสร้งแกล้งทำตนเป็นผู้ถูกกระทำให้ผู้อื่นชี้หน้าด่าทอพวกนาง มีหรือที่เรื่องจะง่ายดายได้เช่นนั้น?“หรือจะถูกข้าพูดแทงใจเข้า จึงได้ร้อนตัวจนต้องรีบหนีกลับกัน?” ซ่ง

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 638

    ผ่านไปเพียงไม่นาน ลู่หมิ่นฮุ่ยก็มาถึงแล้วนับตั้งแต่เข้ามา สายตาของนางก็ตกลงบนตัวซ่งรั่วเจิน ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายซ่งรั่วเจินถูกสายตานี้มองเสียจนประหม่า เกิดความสงสัยภายในใจ ระยะนี้นางมิได้ล่วงเกินพระชายาอันหลาน คงมิใช่มาคิดบัญชีกับนางเพราะฮองเฮาหรอกกระมัง?ดวงตาดำดุจหมึกของฉู่จวินถิงสะท้อนความสงสัยสายหนึ่ง ขยับขึ้นมากำบังซ่งรั่วเจินไว้ข้างหลัง เอ่ยว่า “ท่านน้า วันนี้ท่านมาพบท่านป้าด้วยเหตุใด?”“ไม่ใช่” ลู่หมิ่นฮุ่ยโบกมือ “ข้าได้ยินว่าวันนี้เจ้าและแม่นางซ่งมา นี่จึงตั้งใจมาพบ”พูดไป มองเห็นลู่หมิ่นฮุ่ยสืบเท้าขึ้นมาหนึ่งก้าว ยิ้มกว้างจับมือซ่งรั่วเจิน ตบๆ อย่างสนิทสนม“แม่นางซ่ง ครั้งก่อนขอบคุณเจ้ามาก หากไม่ใช่เจ้าช่วยข้า ข้ายังไม่รู้จะสามารถตั้งครรภ์ได้ยามใด”“พระชายาไม่จำเป็นต้องเกรงใจถึงเพียงนี้ ต่อให้หม่อมฉันไม่พูด พระชายาก็จะมีข่าวดีอยู่แล้ว” ซ่งรั่วเจินเอ่ยฉู่จวินถิงเห็นท้องนูนขึ้นมาเล็กน้อยของลู่หมิ่นฮุ่ย นึกได้ว่าชาติก่อนท่านน้ามิได้ตั้งครรภ์ว่องไวถึงเพียงนี้หากไม่ใช่รั่วเจินกล่าวเตือน ยังต้องรออีกหนึ่งปี ครรภ์นี้ต้องขอบคุณรั่วเจินจริงๆ“ไม่ๆ ต้องขอบคุณเจ้า!”รอย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 637

    เช้าวันต่อมา ฉู่จวินถิงมารับซ่งรั่วเจินแล้วซ่งจืออวี้เห็นว่าเพิ่งได้สนทนากับน้องสาวบ้านตนสองประโยค คนก็จากไปแล้ว สลดใจอย่างอดไม่ได้“เมื่อวานน้องหญิงห้าก็ออกไปกับฉู่อ๋องทั้งวันแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดวันนี้ยังไปอีกเล่า? ฉู่อ๋องมาเยี่ยมเยียนบ่อยเกินไปแล้วกระมัง!”“นี่มีอะไรน่าแปลกกัน? ได้พบกับแม่นางที่ชมชอบย่อมต้องเร็วสักหน่อย หาไม่แล้วจะได้อุ้มหญิงงามกลับไปยามใดกันเล่า?”ซ่งจิ่งเซินเผยสีหน้าเข้าใจ ผินมองซ่งจืออวี้สายตารังเกียจแวบหนึ่ง “มิน่าเล่าท่านถึงยังไม่เปิดใจ!”“เจ้ากลับเปิดใจแล้ว ยังมิสู้ไม่เปิดใจ!” ซ่งจืออวี้เย้ยหยันกลับไป เย้ยหยันเขาด้านอื่นก็ช่างเถอะ บัดนี้ซ่งจิ่งเซินยังเย้ยหยันเขาด้านนี้ นั่นไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย!“ได้ยินมาว่าสองวันนี้เคอหยวนจื่อปรากฎตัวภายในร้าน น่าจะตั้งใจมาหาเจ้ากระมัง? เมื่อวานยามข้าไปหยิบของที่ร้าน นางเกือบจำข้าเป็นเจ้าไปแล้ว”ซ่งจิ่งเซินหน้าดำทึบทึม “ข้ายอมรับ ก่อนนี้ข้าตาบอด พอใจแล้วกระมัง!”ซ่งจืออวี้หัวเราะอย่างอดไม่ได้ “ข้าเห็นว่าหลายวันนี้เจ้าพักผ่อนอยู่ที่บ้านเถอะ ปล่อยให้ผู้ดูแลมารายงานสถานการณ์กับเจ้าในจวนก็พอ หาไม่แล้วเคอหยวนจื่อและสหายน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 636

    ดวงตาฉู่จิ่นหวยทอประกาย “ใช่แล้ว ก็เป็นเช่นนี้! ข้าถามท่านแม่ว่าตกลงฝันถึงอะไร นางกลับไม่ยอมพูด พูดเพียงหลับไม่สนิท บอกให้ข้าไม่ต้องกังวล”“พูดเช่นนี้แล้ว สถานการณ์ของพวกเขาล้วนเหมือนกัน?” คนเงียบขรึมอย่างฉู่จวินถิงขมวดคิ้ว สังเกตเห็นปัญหาอย่างว่องไว “เกิดขึ้นตั้งแต่ยามใด?”“ท่านแม่ข้าบอกว่าเมื่อเจ็ดวันก่อน” ฉู่จิ่นหวยเอ่ยตอบอวิ๋นเนี่ยนชูกลับพูด “แม่ข้าเมื่อห้าวันก่อน”“ที่แท้ก็ฝันต่อเนื่องกันหลายวันนี่เอง พวกเราเองก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่หลายวันนี้ไม่เพียงจิตใจว้าวุ่น แม้แต่คนก็เริ่มบ่นงึมงำ ข้ารู้สึกผิดปกติยิ่งนัก”ได้ยินดังนั้น ซ่งรั่วเจินคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพียงแต่ท่านป้าและพระชายาเซียงอ๋องคล้ายไม่มีอะไร เหตุใดถึงฝันร้ายเช่นนี้เล่า?“ระยะอันใกล้นี้มีสิ่งของพิเศษอันใดเพิ่มขึ้นมา หรือมีที่ใดพิเศษบ้างหรือไม่?”ฉู่จิ่นหวยครุ่นคิด พูดว่า “วันปกติท่านแม่ซื้อของไม่น้อย ส่วนมีสิ่งใดเพิ่มขึ้นมานั้น ข้าเองก็ไม่แน่ใจ”“ระยะนี้ท่านน้ามิได้เพิ่มสิ่งใด เพียงแต่เมื่อห้าวันก่อนอนุอวิ๋นมาเที่ยวหนึ่ง อ้างว่าหวังดีต่อนางจึงนำของบางส่วนส่งมาให้ แต่ท่านน้าให้คนโยนทิ้งไปทั้งหมด”“ต่อม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 635

    ในห้องรับรองส่วนตัว อวิ๋นเนี่ยนชูนั่งลงด้านข้างซ่งรั่วเจิน สายตามองไปมาระหว่างซื่อจื่อน้อยผู้มีใบหน้าเปื้อนยิ้มและฉู่อ๋องใบหน้าเย็นชาไม่หยุดนางอดไม่ได้ที่จะดึงมือของซ่งรั่วเจินและกระซิบว่า “เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าบรรยากาศที่นี่ค่อนข้างแปลกกัน?”ซ่งรั่วเจินลดเสียงลง “บางทีพวกเขาอาจจะเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ไม่ค่อยสนิทกันนัก?”อวิ๋นเนี่ยนชูรู้สึกอึดอัด “เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?”ซ่งรั่วเจินเฝ้ามองอาหารเลิศรสที่ถูกนำมาทีละจาน จึงพูดสร้างบรรยากาศขึ้นมาว่า “ได้ยินมาว่าอาหารในหอสุราเลิศรสอย่างมาก ปกติแล้วจะต้องจองที่นั่งล่วงหน้า ทุกท่านมาลองชิมดูกันดูเถอะ?”ขณะพูด นางก็คีบกุ้งใส่ลงในชามของฉู่จวินถิง ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยรอยยิ้มนับตั้งแต่เข้ามา ฉู่จวินถิงก็มีสีหน้าเย็นชา ต้องพูดเลยว่ายามเขาไม่ยิ้ม จะมีบรรยากาศกดดันอย่างยิ่งจนผู้อื่นไม่กล้าหายใจฉู่จวินถิงเหลือบมองกุ้งในชาม คิ้วคลายออกเล็กน้อย และยื่นมือไปคีบอาหารให้ซ่งรั่วเจิน “วันนี้เดินเล่นมานานมากแล้ว เจ้าก็คงหิวมากแล้ว กินเยอะๆ เล่า”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า นางก็ไม่เกรงใจและเริ่มกินทันที ทั้งยังพูดกับอวิ๋นเนี่ยนชูและคนอื่นๆ ว่า “พวกท่านก็รีบก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 634

    เมื่ออวิ๋นเฉิงเจ๋อเห็นซ่งรั่วเจินอยู่ที่นั่นก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันที ทว่าก็เข้าใจในไม่ช้า “เนี่ยนชู เจ้าจะไปหาคุณหนูซ่งเพื่อพูดคุยเรื่องฝันร้ายของท่านน้าใช่หรือไม่?”ซ่งรั่วเจินชะงักไปชั่วครู่ ก่อนมองไปที่อวิ๋นเนี่ยนชูโดยไม่รู้ตัว “ท่านป้าก็ฝันร้ายเช่นกันหรือเจ้าคะ?”อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้า “ช่วงนี้ท่านพ่อของข้ามักจะไปหาท่านแม่ตลอด ท่านตากับท่านน้าเองก็คอยไปกดดันท่านแม่ โดยหวังว่าท่านแม่จะเปลี่ยนใจทว่าท่านแม่ไม่ยอมเปลี่ยนใจ สถานการณ์จึงตึงเครียดไปหมด อนุอวิ๋นคนนั้นชอบสร้างเรื่อง ชอบพูดจาเสียดสีอยู่เรื่อย เพียงหวังว่าท่านแม่ของข้าจะไม่กลับไป นางจะได้มีโอกาสขึ้นเป็นอวิ๋นฮูหยินตอนแรกท่านแม่เพียงจิตใจเหนื่อยล้า ทว่าต่อมาจู่ๆ ก็เริ่มฝันร้ายจึงไปหาท่านหมอ ท่านหมอเพียงบอกว่านางวิตกกังวลมากเกินไปและความทุกข์รุมเร้า จึงจ่ายยาสงบใจให้จำนวนหนึ่งวันนี้ข้านัดพบกับท่านพี่ที่นี่ก็เพื่อคิดหาวิธีแก้ไขปัญหานี้”อย่างไรก็ตาม อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลับพูดว่า “คุณหนูซ่ง ข้าคิดว่าสถานการณ์ของท่านน้าไม่ง่ายขนาดนั้น กลัวว่าจะเป็นการกระทำของวิญญาณร้าย”“เหตุใดคุณชายอวิ๋นจึงพูดเช่นนี้?”“แม้ว่าหลายปีมานี้ใน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 633

    “นึกถึงเมื่อข้าก็ได้ยินถึงความสง่างามของเสด็จพี่มาตลอด ไม่คาดคิดว่าวันหนึ่งเราจะได้กลายมาเป็นพี่น้องกัน วันหน้ามิสู้วันนี้ ถ้าหากเสด็จพี่ไม่รังเกียจก็ให้ข้าได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงมื้อเย็นได้หรือไม่?” ฉู่จวินถิงมองฉู่จิ่นหวยและอู๋เมี่ยวเสวียนที่อยู่ข้าง ๆ “ในเมื่อเจ้ามีคนที่นัดไว้แล้ว แล้วยังต้องรักษาท่านป้าอีก ธุระสำคัญไม่ควรชักช้า ค่อยเลี้ยงวันหลังเถิด”อย่างไรก็ตาม ฉู่จิ่นหวยนั้นกลับไม่อยากจะเลิกล้ม เขายิ้มพูด “มิเป็นไร คุณหนูอู๋เพียงแค่แนะนำหมอเทวดาให้ข้าเท่านั้น ค่อยส่งเด็กรับใช้ไปส่งท่านหมอมาที่จวนก็ได้”ซ่งรั่วเจินและอวิ๋นเนี่ยนซูย่อมเข้าใจดี หมอเทวดาที่แนะนำสามารถส่งคนมารับไปที่จวนเซียงอ๋องได้โดยตรงอู๋เมี่ยวเสวียนกลับมิได้ทำเช่นนั้น นั่นเพราะเขาต้องการใช้มันเป็นข้ออ้างเพื่อมาพบฉู่จิ่นหวย“คุณหนูซ่ง ที่จริงแล้วข้าคิดว่าอาการฝันร้ายของท่านแม่นั้นแปลก ข้าได้ยินว่าเจ้าเก่งในศาสตร์ลึกลับ ดังนั้นข้าจึงอยากขอคำชี้แนะจากเจ้าหน่อยข้าไม่มั่นใจ กังวลว่าการไปที่จวนนั้นจะยิ่งรบกวนเจ้า ในเมื่อยามนี้ได้พบเจ้าแล้วจึงอยากจะถาม”ฉู่จิ่นหวยพูดเหตุผลที่แท้จริงออกมาเมื่อฟังคำพูดนั้น ซ่งรั่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 632

    เมื่อลองพิจารณาดูแล้ว ซื่อจื่อน้อยก็เป็นน้องชายของฉู่อ๋องเช่นกัน หรือว่าฉู่อ๋องจะไม่ให้เกียรตินางเลยหรือ?นางนั้นลังเลยังไม่กล้าพูด ทันใดนั้นนางก็มองเห็นร่างสูงโปร่งดูอ่อนโยนเดินเข้ามา ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มในพริบตา“ซื่อจื่อน้อย ท่านมาแล้วหรือ!”ซ่งรั่วเจินหันไปมอง เห็นฉู่จิ่นหวยค่อย ๆ เดินเข้ามา ดวงตาพราวใสมีความประหลาดใจแล่นผ่านเมืองหลวงนั้นช่างเล็กเสียจริง แค่เพียงชั่วขณะเดียวก็บังเอิญพบเจอคนที่คุ้นเคยหลายคนจากงานเลี้ยงนับญาติครั้งก่อน นางก็ไม่เคยเห็นฉู่จิ่นหวยอีกเลย แต่ตอนที่พี่ใหญ่แต่งงาน จวนเซียงอ๋องกลับส่งของขวัญแสดงความยินดีมาให้ ทว่าได้ยินมาว่าพระชายาเซียงอ๋องไม่สบาย จึงไม่สามารถมาเข้าร่วมได้บัดนี้ได้พบกับฉู่จิ่นหวยอีกครั้ง หน้าตาของเด็กหนุ่มนั้นดูผ่อนคลายลงกว่าเมื่อก่อนประมาณหนึ่ง ไม่ปิดกั้นมากอย่างนั้นแล้ว แต่ยังคงมีความเศร้าหลงเหลืออยู่จาง ๆ“คุณหนูซ่ง?”เมื่อฉู่จิ่นหวยนั้นเห็นซ่งรั่วเจิน สายตานั้นเป็นประกายขึ้นมาบางส่วน แม้แต่เสียงก็ขึ้นสูงอย่างไม่รู้ตัว คล้ายมีความยินดีเป็นอย่างมาก “นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เจอเจ้า เจ้ามาภัตตาคารเพื่อกินอาหารเย็นเช่นกันหร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 631

    “ข้ารู้สึกว่าอวิ๋นฮูหยินปฏิบัติต่ออวิ๋นเฉิงเจ๋อดียิ่งนัก ไม่ใช่ลูกในไส้ของนางสักหน่อย หรือเป็นลูกชายในไส้จริงๆ?”เพียงแต่หากเป็นเช่นนี้ แม้อวิ๋นเฉิงเจ๋อไม่ต้องตบแต่งกับอวิ๋นซีหว่าน แต่มิใช่ทำให้อวิ๋นเนี่ยนชูเสียเวลาหรอกหรือ? หากไม่มีตระกูลอวิ๋นและตระกูลจาง นางก็เป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่ง เกรงว่าจะแต่งเข้าตระกูลดีๆไม่ได้”ทุกคนต่างจุ๊ปากสะท้อนใจ เรื่องนี้อวิ๋นฮูหยินช่างไร้คุณธรรมยิ่งนัก แต่การที่อวิ๋นฮูหยินกระทำเช่นนี้ เรียกได้ว่าทำร้ายคนอื่นก็ทำร้ายถูกตัวเองด้วยในสายตาของหลายคนคือ ได้ไม่คุ้มเสียเพราะหลังจากหย่าร้างก็มิใช่ภรรยาของข้าราชการแล้ว ทั้งไม่มีความช่วยเหลือจากครอบครัวมารดาอีก นางก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว“มารดาของเจ้าปกป้องแต่ญาติผู้พี่ของเจ้าเท่านั้น และไม่คำนึกถึงเจ้าเลยแม้แต่น้อย ได้ยินมาว่าเพราะนางไม่มีลูกชาย จึงเลี้ยงญาติผู้พี่ของเจ้าดั่งลูกชายแท้ๆ?”อู๋เมี่ยวเสวียนหัวเราะเยาะ “ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่ามาชิงกับข้า มันไม่เป็นผลดีกับเจ้าหรอก”“นี่เป็นเรื่องของครอบครัวข้า เจ้าไม่มีสิทธิที่จะเอามาพูด วันนี้เจ้าอย่าคิดจะชิงกับข้า!”“ท่านอ๋อง เนี่ยนชูเพคะ”ซ่งรั่วเจินอยู่ข

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 630

    งานเลี้ยงวันเกิดของฉู่มู่เหยาใกล้จะถึงแล้ว จะต้องรีบจัดเตรียมงานโดยเร็วฉู่จวินถิงเห็นซ่งรั่วเจินภาพวาดเป็นครั้งแรก พบว่าวิธีการวาดภาพของนางไม่เหมือนกับที่เห็นตามปกติทั่วไปแค่นางตวัดปลายพู่กันอย่างสบายเพียงไม่กี่ครั้งก็ปรากฏเรือนร่างอรชรของหญิงสาวได้ กระนั้นยังวาดรายละเอียดอันวิจิตของกระโปรงออกมาได้อีกทุกจุดออกแบบอย่างพิถีพิถัน ทั้งความยาว ความกว้าง แม้กระทั่งวัสดุที่เลือกใช้ก็เขียนไว้ด้านข้างอย่างชัดเจน ทำให้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเสื้อผ้าของลั่วเซินฟางจึงมีเอกลักษณ์มากเมื่อก่อนรู้แค่ว่านางเก่งเรื่องศาสตร์ลี้ลับ และยังรู้จักทำการค้า ร้านที่นางเปิดกิจการก็เป็นไปได้ดี แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วนางยังมีพรสวรรค์เพียงนี้หญิงสาวเช่นนี้...เมื่อก่อนในเมืองหลวงต้องได้รับฉายาว่าเป็นกุลสตรีตระกูลใหญ่เท่านั้น ช่างเป็นสตรีที่มีพรสวรรค์ที่หาได้ยากเสียจริงหวนนึกถึงชาติที่แล้วเห็นเพียงแค่ซ่งรั่วเจินผู้เศร้าโศก ต่างจากคนตรงหน้านี้...อุปนิสัยช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงซ่งรั่วเจินเลือกผ้าด้วยตนเอง และหารือกับช่างเย็บปักเกี่ยวกับแบบลวดลายปัก แล้วจึงเดินไปด้านหน้าฉู่จวินถิงชายหนุ่มยืนรอนางอยู่ต

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status