แชร์

บทที่ 516

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
ณ สกุลหลิ่ว

เพียงหลิ่วหรูเหยียนกลับมาที่บ้านมารดาก็เริ่มร้องไห้ฟ้องมารดาว่า “ท่านแม่ ครั้งนี้น้องหญิงทำให้ข้าเจ็บปวดใจจริงๆ ตลอดหลายปีมานี้ข้าไม่เคยทำผิดต่อนางเลย ดีต่อนางมาโดยตลอด แต่นางถึงขั้นทำกับข้าเช่นนี้!”

“หรูเยียน เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่ากระไร?” นายหญิงหลิ่วงุนงง

หลิ่วหรูเยียนตาแดง หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับน้ำตาที่หัวตา

“เมื่อไม่กี่วันก่อนน้องหญิงมาหาข้า ถามไล่เรียงว่าเหตุใดไม่ไปขอความเมตตาจากเซียงอ๋อง ไม่ใช่ข้าไม่อยากทำ แต่ทำอย่างเต็มที่แล้ว”

“เซียงอ๋องตามหาซื่อจื่อกลับมาได้อย่างยากลำบาก ได้เห็นเขาถูกรังแก ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อยฮั่นเฟยไป ขอความเมตตาเยี่ยงไรก็ไร้ประโยชน์”

“เพราะสาเหตุนี้น้องหญิงจึงโทษข้า ข้าเองก็ไม่สามารถอธิบายอะไรได้ วันนั้นรั่วเจินล่วงเกินฉู่อ๋อง ถูกสั่งสอนอย่างแรงหนึ่งรอบ ข้าขอร้องให้น้องหญิงไปตามน้องเขยมาช่วย”

“ใครคิดเล่าว่านางถึงขั้นพูดว่าข้าสมควรโดนแล้ว ยังพูดอีกว่าล้วนเป็นกรรมของข้า สุดท้ายทั้งตระกูลก็จะต้องถูกเนรเทศเหมือนฮั่นเฟย!”

“ท่านแม่ ท่านพูดข้าและนางเป็นพี่น้องกัน เหตุใดนางใจร้ายถึงเพียงนี้เล่า? เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นข้าเป็นญาติ น่ากลัวว่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
กรรณิการ์ ตั้งชัยสิน
ก่อนจะขึ้นบทที่ 517 เหมือนว่าจะตกหล่นบทสนทนาปะทะคารมกันระหว่างท่านน้ากับรั่วเจินนะคะ ไม่รู้ว่าท่านน้าพูดอะไร ทำให้รั่วเจินต้องเถียงกลับ จนทำให้แม่รั่วเจินพูดแบบนั้นในบทที่ 517
goodnovel comment avatar
benya2999
อัพเดทเยอะๆๆๆ หน่อยสิคะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 517

    หลังหลิ่วเฟยเยี่ยนกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ออกมาแล้วก็หันมองไปที่หลิ่วหรูเยียนแวบหนึ่ง เดิมทีคิดว่านางจะต้องดุซ่งรั่วเจินอย่างแน่นอน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า“รั่วเจินเป็นลูกสาวที่ข้าภาคภูมิใจมาตลอด อีกทั้งสิ่งที่นางพูดก็เป็นความจริง ต่อให้น้องหญิงจะถูกพูดแทงใจแต่ก็ไม่น่าจะต้องพูดจารุนแรงถึงเพียงนี้”ถ้อยคำนี้พูดออกมา ยังไม่ต้องพูดถึงหลิ่วเฟยเยี่ยน แม้แต่นายหญิงหลิ่วก็ยังลอบรู้สึกประหลาดใจ วันนี้เหตุใดหลิ่วหรูเยียนถึงคล้ายเปลี่ยนไปเป็นคนละคน?หากเป็นที่ผ่านมา นางก็ไม่มีวันพูดเช่นนี้“พี่หญิง รั่วเจินไม่เคารพผู้ใหญ่เช่นนี้ ท่านคิดว่าไม่มีปัญหาหรือ?” หลิ่วเฟยเยี่ยนถามอย่างเหลือจะเชื่อหลิ่วหรูเยียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วตอบ “หากน้องหญิงคิดว่าคำพูดนี้ไม่เหมาะสม เหตุใดเมื่อครู่ถึงพูดกับข้า?”“หรือว่าน้องหญิงคิดว่าหยามเกียรติเจ้าไม่ได้ แต่หยามเกียรติข้าได้หรือ? นี่หลักการอะไร!” หลิ่วเฟยเยี่ยนอ้าปาก ภายในใจเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ แต่กลับพูดตอบโต้ไม่ออกแม้ประโยคเดียวทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเช่นนี้ ทุกครั้งลูกสาวลูกชายตระกูลซ่งได้พบนางมีครั้งใดไม่เคารพนางบ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 518

    หลิ่วหรูเยียนลุกขึ้นยืน มองพวกซ่งรั่วเจินทั้งสามคนแวบหนึ่ง เตรียมก้าวเท้าออกไปซ่งรั่วเจินสามคนย่อมลุกขึ้นตั้งแต่มารดาผินมองมาครั้งแรกแล้ว ทุกครั้งได้ฟังท่านน้าเล่นละครอยู่นาน วันนี้พวกเขาไม่ขอฟังแล้วสีหน้าหลิ่วเฟยเยี่ยนเปลี่ยนไป “พี่หญิง เหตุใดพวกท่านจะไปแล้วเล่า?”“ไม่ไปแล้วจะอยู่ทำอะไร? น้องหญิงก็อยู่สนทนากับท่านแม่ดีๆ เถอะ ข้ายังมีธุระอีกมาก บัดนี้ยังไม่รู้ว่าสามีเป็นตายร้ายดีเช่นไร ข้าต้องใส่ใจดูแลครอบครัว วาสนาไม่ดีเหมือนน้องหญิง”หลิ่วหรูเยียนถอนหายใจ ความอิจฉาและสลดใจเจืออยู่ในน้ำเสียงมือหลิ่วเฟยเยี่ยนแข็งค้างไป รู้สึกคล้ายถูกหลิ่วหรูเยียนตบนิ่งๆ หนึ่งฉาดนางพูดว่าสามีดื่มสุราทุกวัน ระหว่างทั้งคู่มีความขัดแย้งกันมากมาย ทว่าหลิ่วหรูเยียนพูดว่าสามีนางยังไม่รู้เป็นหรือตาย เช่นนี้ยังไม่ใช่นางคร่ำครวญทั้งๆ ที่มิได้เจ็บป่วย ชนิดที่ว่ายังสาดเกลือใส่แผลของหลิ่วหรูเยียนด้วยหรือ?“แต่ไหนแต่ไรมาท่านน้าและน้าเขยมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ชวนให้คนอิจฉาโดยแท้ หากท่านพ่อข้ายังอยู่ข้างกายท่านแม่ก็คงดี...” ซ่งรั่วเจินพูดอย่างสลดใจได้ถูกเวลาหนึ่งประโยคเห็นหลิ่วหรูเยียนเดินออกจากห้องแล้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 519

    หูหว่านเป็นสะใภ้ใหญ่ของสกุลหลิ่ว อุปนิสัยรุนแรง อีกทั้งยังชอบหาผลประโยชน์ เพราะเหตุนี้ทุกครั้งเห็นหลิ่วเฟยเยี่ยนขอสิ่งของจากหลิ่วหรูเยียน นางจึงหาทางแบ่งผลประโยชน์ออกมาต่อให้หลิ่วเฟยเยี่ยนดื้อรั้นเอาแต่ใจมากเพียงใด ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหูหว่านนายหญิงหลิ่วเองก็รู้อุปนิสัยของหูหว่าน แต่นางคิดว่าหูหว่านพูดไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย พวกเขาสกุลหลิ่วเองก็ขาดเงินเฉกเดียวกัน!แม้ว่านางสงสารเฟยเยี่ยน แต่อย่างไรเสียเฟยเยี่ยนก็แต่งเข้าสกุลซุนไปแล้ว ไม่สามารถยกผลประโยชน์ทั้งหมดไปให้สกุลซุนได้!“เฟยเยี่ยน พี่สะใภ้ของเจ้าพูดถูกแล้ว จะเอาของทั้งหมดกลับไปที่สกุลซุนไม่ได้ ต่อให้เจ้าไม่คิดถึงพี่ใหญ่เจ้า ก็ต้องคิดถึงหลานชายเหล่านั้นของเจ้า” นายหญิงหลิ่วพูดได้ยินดังนั้น ต่อให้หลิ่วเฟยเยี่ยนไม่ยอมก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทนซ่งรั่วเจินสองสามคนรับชมภาพนี้ด้วยสายตาเย็นชา รู้สึกเพียงตลกเหลือเกิน พวกเขายังไม่ได้รับปาก คนเหล่านี้ก็จัดสรรปันส่วนด้วยตนเองเสร็จสรรพดีแล้วท่าทางนั้น...เห็นได้ชัดว่าไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะปฏิเสธ!ซ่งรั่วเจินหันมองทางหลิ่วหรูเยียน ขณะเตรียมจะเอ่ยปาก กลับมองเห็นหลิ่วหรูเยียนยิ้มน้อยๆ เป็นสัญญา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 520

    “แต่ข้าเห็นสกุลซุนละโมบไม่รู้จักพอ ได้ยินมาว่าไม่ว่าน้องเขยหรือฮั่นเฟย ออกไปดื่มสุราครั้งหนึ่งก็ใช้จ่ายเงินไปจำนวนมหาศาล เอะอะก็เชิญไปทุกหนแห่ง”“พี่สะใภ้ใหญ่ ข้ารู้ท่านและพี่ใหญ่เอ็นดูเฟยเยี่ยน แต่พวกท่านก็ไม่สามารถมอบให้เช่นนี้ไปตลอดได้”“เมื่อหลายวันก่อนท่านแม่ก็มอบสองร้านทางทิศใต้ให้เฟยเยี่ยนมิใช่หรือ? นี่เพิ่งผ่านไปได้ไม่นานก็มาขอของจากข้าอีกแล้ว?”“ในเมื่อข้าแต่งออกไปแล้ว ก็คือคนของสกุลซ่ง บัดนี้สามีไม่อยู่ ข้าต้องดูแลทั้งครอบครัว ไม่สามารถมอบให้อย่างไร้ขีดจำกัดได้อีกแล้ว พวกท่านถือเสียว่าข้าใจร้ายก็แล้วกัน!”ซ่งรั่วเจินสามพี่น้องเห็นสีหน้าหูหว่านไม่สบอารมณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ทีแรกยังสามารถระงับเอาไว้ได้ ต่อมาไม่อาจระงับโทสะภายในสายตาได้อีกต่อไป อยากหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ ทำได้เพียงฝืนระงับมุมปากเท่านั้นในอดีตหลิ่วเฟยเยี่ยนเหยียบเรือสองแคม ได้รับผลประโยชน์อยู่ตรงกลางไม่น้อย ไม่ได้เปิดโปงมาโดยตลอดครั้งนี้มารดาตัดสินใจเด็ดขาด แม้แต่ผ้าคลุมกันอายก็ดึงลงมาแล้ว!เช่นนี้ ไม่ต้องให้มารดาลำบากใจ ป้าสะใภ้เพียงคนเดียวก็เพียงพอทำให้ท่านน้าสำลักตายได้แล้ว!ไม่ผิดไปดังคาด หูหว่านระงั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 521

    เมื่อเผชิญหน้ากับคำตำหนิด้วยความโกรธกรุ่นของหลิ่วเฟยเยี่ยน หูหว่านมีสีหน้าไม่แยแสนางรู้สึกมาตลอดว่าหลิ่วเฟยเยี่ยนโง่งมยิ่งนัก ความสามารถสักนิดหามีไม่ หากไม่ใช่เพราะอาศัยความรักที่ตระกูลหลิ่วมีต่อนาง แม้แต่สิทธิจะพูดจาต่อหน้านางก็ยังไม่มี!สามีที่แต่งงานด้วยก็เป็นพวกไร้สามารถ ไม่รู้จักแสวงหาความก้าวหน้าก็แล้วไปเถอะ ทั้งวันรู้จักแต่กินดื่ม บุตรชายก็ทำเป็นแค่ก่อเรื่องจะว่าไปแล้ว คนที่นางอิจฉาจริงๆ คือหลิ่วหรูเยียนต่างหาก แต่งงานกับสามีที่ดีคนหนึ่ง หลายปีก่อนหน้านี้ซ่งหลินก็ดีต่อนางอย่างแท้จริงทั้งที่รู้ว่าที่บ้านเรียกร้องสิ่งของจากนางมาตลอด ถ้าเปลี่ยนเป็นบุรุษทั่วไปจะต้องรับไม่ได้เป็นแน่ แต่ซ่งหลินกลับไม่อยากทำให้หลิ่วหรูเยียนลำบากใจจึงไม่ได้เข้ามายุ่งมากนักเรื่องนี้มีบุรุษแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถทำได้ทว่าหูหว่านยิ่งไม่อธิบาย หลิ่วเฟยเยี่ยนก็ยิ่งรู้สึกว่าสิ่งที่นางพูดมาเป็นไปได้มากว่าจะเป็นเรื่องจริง“เยียนเอ๋อร์ เจ้ารู้เรื่องนี้หรือไม่?”หลิ่วเฟยเยี่ยนมองไปทางบุตรสาวของตนเอง ในสมองกลับคิดทบทวนไม่หยุดว่าช่วงหลังมานี้สามีกลับดึกดื่นขึ้นทุกวันจริงๆ บางครั้งยังถึงขั้นไม่กลับ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 522

    หากได้ชื่อว่าอกตัญญู ด้วยนิสัยของหลิ่วเฟยเยี่ยนจะต้องใส่สีตีไข่กระพือเรื่องนี้จนคนรู้กันทั่วอย่างแน่นอน ไม่เพียงกระทบต่อชื่อเสียงของบิดา แม้แต่อนาคตของลูกๆ อย่างพวกเขาก็จะได้รับผลกระทบเช่นกันในมุมมองของพวกเขา ย่อมจะยอมไม่สนใจอนาคตแต่ไม่ยอมให้มารดาได้รับความอยุติธรรมอยู่แล้ว แต่ความคิดของมารดาและของพวกเขาจะต้องไม่เหมือนกันแน่นอนนางยอมแบกรับความอยุติธรรม วนเวียนอยู่ในเรื่องนี้ แต่ไม่ยอมให้กระทบพวกเขาแม้แต่นิดเดียวซ่งจิ่งเซินอดสงสัยไม่ได้ “จะว่าไปก็แปลกจริงๆ ท่านแม่ก็เป็นลูกสาวแท้ๆ ของท่านยายเหมือนกัน เหตุใดท่านยายจึงลำเอียงได้ขนาดนี้?”ถึงจะบอกว่าในครอบครับมีลูกหลายคน จะรักทุกคนไม่เท่ากันก็เป็นเรื่องปกติ แต่จะรักไม่เท่ากันอย่างไรก็ไม่เกินไปขนาดนี้กระมัง!“พวกท่านไม่รู้สึกบ้างหรือว่าความจริงท่านแม่ก็ไม่เหมือนท่านยายเลย ท่านน้ากลับเหมือนท่านยายเอามากๆ?”ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากขึ้นอย่างถูกจังหวะ นางสงสัยว่ามารดาไม่ใช่บุตรสาวแท้ๆ ของตระกูลหลิ่ว แค่ดูจากหน้าตา ความจริงก็ไม่เหมือนแล้วหลิ่วหรูเยียนหน้าตาดีกว่าหลิ่วเฟยเยี่ยนมากนัก มิฉะนั้นตอนแรกท่านพ่อก็คงไม่ตกหลุมรักท่านแม่ตั้งแต่แรกพบ แม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 523

    นายหญิงหลิ่วงุนงง “หมายความว่าอย่างไร?”“ร้านขายไก่ทอดเป็นการค้าที่เจินเอ๋อร์คิดค้น ไม่รู้ว่าทุ่มเทความคิดไปมากมายเท่าไร ข้าเคยพูดตอนไหนหรือว่าจะยกให้พวกท่าน?”หลิ่วหรูเยียนมีสีหน้าประหลาดใจ “ที่ผ่านมาท่านแม่เอาแต่เรียกร้องสิ่งของจากข้าก็แล้วไปเถอะ แต่ในฐานะผู้อาวุโสคงไม่ถึงกับไม่สนใจแม้แต่เกียรติขั้นพื้นฐาน ยังจะมาเรียกร้องจากหลานสาวอีกกระมัง?”สิ้นวาจานี้ ถึงจะเป็นนายหญิงหลิ่วที่หนังหน้าหนามาโดยตลอดก็เริ่มจะวางหน้าไม่สนิทเสียแล้ว “หรูเยียน เจ้าพูดอะไรออกมา? นี่คือกิจการตระกูลซ่งไม่ใช่หรือ?”“นี่ไม่ใช่ของตระกูลซ่ง แต่เป็นของเจินเอ๋อร์”นายหญิงหลิ่วยังว่า “พวกเขาล้วนแต่เป็นเด็กตระกูลซ่ง ของของพวกเขาก็ล้วนแต่เป็นของของตระกูลซ่งไม่ใช่รึ?”“ร้านค้าบนถนนเส้นนั้นเดิมก็เป็นสิ่งที่ตระกูลฉินชดเชยให้อี้อัน อี้อันลำบากมามากขนาดนั้น คนเป็นแม่อย่างข้ายังต้องเรียกร้องสินชดเชยพวกนั้นมาจากเขาอีกหรือเจ้าคะ?”“ข้าไม่รู้ว่าแม่คนอื่นคิดอย่างไร แต่ลูกชายที่ข้าให้กำเนิดมา ข้ารักของข้า นี่เดิมก็เป็นของของเขา ย่อมไม่มีการเรียกร้องจากเขา พวกเขาพี่น้องก็เห็นด้วยกันทุกคน”หลิ่วหรูเยียนกล่าวอย่างมีเหตุมี

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 524

    “ข้าสั่งสอนเจ้ามาแบบนี้งั้นรึ? เด็กพวกนี้ถูกเจ้าสั่งสอนมาแบบนี้ มิสั่งสอนจนเสียคนไปทั้งบ้านเลยรึ!”นายหญิงหลิ่วตีหน้าเย็นชา ตำหนิอย่างเข้มงวด “เจ้าควรทบทวนตัวเองดีๆ จริงๆ ตอนนี้ยิ่งโตก็ยิ่งทำให้พวกข้าไม่สบายใจ!”ได้ยินคำตำหนิที่แสกหน้ามายกหนึ่งเช่นนี้ ซ่งรั่วเจินอดทอดถอนใจไม่ได้ว่านายหญิงหลิ่วช่ำชองวิธีล้างสมองคนจริงๆ ไม่แปลกเลยที่หลายปีมานี้หลิ่วหรูเยียนไม่กล้าต่อต้าน“ท่านยาย ท่านพร่ำพูดว่าครอบครัวพวกข้าต้องให้ตระกูลหลิ่วคอยช่วยเหลือ ไม่รู้ว่าตอนข้าถอนหมั้นตระกูลหลิ่วช่วยเหลือแล้ว หรือตอนที่พี่ใหญ่พี่รองของข้าถูกรังแก พวกท่านได้ช่วยเหลือแล้ว?”“พ่อข้าหายสาบสูญจนถึงตอนนี้ ก่อนหน้านี้แม่ข้าตัวคนเดียวไร้คนช่วยเหลือ ท่านพาท่านน้ากับท่านลุงมาสองรอบจริงๆ เรียกร้องสิ่งของกลับไปไม่น้อย”“ตอนที่ควรช่วยเหลือข้าไม่เคยเห็นเลยสักนิด สิ่งของที่ควรได้ไปกลับมีไม่น้อยเลยทีเดียว”“ต่อให้เป็นปลิงดูดเลือด เวลาพูดจาก็ยังพูดจาน่าฟัง แต่นี่ตักตวงผลประโยชน์ไปอย่างเต็มที่แล้วยังมาด่าคนอีก จะโลภมากจนน่าเกลียดไปหน่อยหรือเปล่าเจ้าคะ?”ซ่งรั่วเจินวาจาคมกริบ แววตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ ตระกูลหลิ่วที่ราวกับ

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 738

    “ข้าว่าเรื่องนี้ก็เลิกแล้วต่อกันเพียงเท่านี้จะดีกว่า ถือเสียว่าไม่เคยเกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องไปเชิญเช่ออ๋องมาแล้วละ”หลังนางกลับบ้านเดิม เช่ออ๋องก็มารับนางเป็นการเฉพาะ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นอย่างหาได้ยากถ้าเช่ออ๋องรู้ว่าตนเองมาหาเรื่องถึงตระกูลซ่งจะต้องพิโรธมากเป็นแน่!“นั่นจะได้อย่างไรกัน?” ฉู่จวินถิงเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ “พี่สะใภ้ถึงขั้นตั้งใจมาคาดคั้นถึงตระกูลซ่ง เห็นได้ชัดว่าเข้าใจผิดมากเพียงใด ถ้าข้าไม่มาเห็นเข้าพอดี เกรงว่าป่านนี้ซ่งรั่วเจินคงรักษาชีวิตไว้ไม่ได้แล้ว”“นอกจากนี้ อีกสองวันข้าก็จะลงใต้แล้ว ถ้าไม่อธิบายเรื่องเข้าใจผิดกันให้ชัดเจน พอข้ากลับมาก็ไม่ได้เห็นซ่งรั่วเจินแล้วน่ะสิ?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้าติดต่อกัน กล่าวด้วยสีหน้าเจ็บช้ำใจว่า “ท่านอ๋องพูดถูกเพคะ หม่อมฉันหวาดกลัวยิ่งนัก!”ซ่งจืออวี้เห็นน้องสาวของตนเองแสดงละครร่วมกับฉู่อ๋อง ใบหน้าพระชายาเช่ออ๋องเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีดำ เปลี่ยนจากสีดำเป็นสีแดงแล้วเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีขาว จนเขาอดตะลึงไม่ได้ความเร็วในการเปลี่ยนสีหน้านี้ช่างรวดเร็วมากจริงๆ!หลังจากอวิ๋นหยางไปเชิญเช่ออ๋อง พระชายาเช่ออ๋องก็กระวนกระวายอย่างเห็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 737

    น้ำเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันทำให้คนทั้งสองภายในห้องต่างนิ่งอึ้งไป ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงที่เดินเข้ามาในห้องอย่างแช่มช้า ดวงตางามก็ฉายแววตกใจเขามาถึงตั้งแต่เมื่อไร?คงไม่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของตนเองหรอกนะ?ซ่งจืออวี้อ่านสายตาน้องสาวตนเองออกจึงเหยียดริมฝีปากอย่างอ่อนใจ หัวใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ของซ่งรั่วเจินจึงหยุดเต้นไปในที่สุดได้ยินแล้วจริงๆ ด้วย!ชั่วขณะที่พระชายาเช่ออ๋องเห็นว่าฉู่อ๋องมาแล้ว ใบหน้าก็พลันถอดสี คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญถึงเพียงนี้!ความลนลานวาบผ่านดวงตานาง แต่ก็กลับไปเป็นปกติอย่างรวดเร็ว นางเอ่ยว่า “ที่แท้ก็ฉู่อ๋องมานี่เอง”“ข้าเพิ่งมาถึงก็ได้ยินว่าพี่สะใภ้กำลังข่มขู่คนอยู่ ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องใดขึ้นหรือถึงได้มาขู่เอาชีวิตคนในจวนสกุลซ่งเช่นนี้?”ใบหน้าหล่อเหลาของฉู่จวินถิงมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ใดๆ เลยสักนิด น้ำเสียงผ่อนคลายเรียบเรื่อยราวกับเป็นการถามไถ่ธรรมดาทั่วไป ทว่าความกดดันที่แผ่ซ่านออกมาทั่วร่างรวมถึงสายตาเย็นเฉียบทำให้คนเข้าใจว่า เขามีโทสะแล้ว“ซ่งรั่วเจินไม่เคารพข้า...”พระชายาเช่ออ๋องยังพูดไม่จบ ฉู่จวินถิงก็กล่าวขึ้นว่า “อ้อ? พี่สะใภ้มาถึงตระก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 736

    “ซ่งรั่วเจิน เจ้าอย่าทำตัวไม่รู้ดีชั่วเช่นนี้ วันนี้ข้าให้โอกาสเจ้ารักษาก็คือให้เกียรติเจ้า!”“ถ้าฉู่อ๋องรู้ว่าเจ้าไปยั่วยวนเช่ออ๋องลับหลังเขา เจ้าคิดว่าฉู่อ๋องยังจะชอบเจ้าอยู่งั้นรึ?”ซ่งรั่วเจินได้ยินอย่างนั้นก็แทบจะหัวเราะออกมา นางยั่วยวนเช่ออ๋อง?“พระชายาเช่ออ๋อง ท่านคิดว่าหม่อมฉันสมองไม่ดีหรือสายตามีปัญหาหรือเพคะ?”“ฉู่อ๋องยังไม่แต่งงาน กล้าหาญชาญศึกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นบุรุษรูปงามของเมืองหลวง ไยหม่อมฉันจะต้องปล่อยมือจากฉู่อ๋องไปยั่วยวนเช่ออ๋องด้วยเพคะ?”เมื่อซ่งจืออวี้มาหาน้องหญิงห้าเป็นเพื่อนฉู่อ๋อง ยังไม่ทันเข้าไปใกล้ก็ได้ยินคำพูดเช่นนี้ดังออกมาจากข้างใน เขาเบิกตากว้างอย่างอดไม่อยู่เหตุใดสตรีวิปลาสผู้นี้จึงมาใส่ร้ายน้องหญิงห้าส่งเดชเช่นนี้!“เช่ออ๋องไม่ดีตรงไหน? ฉู่อ๋องเย็นชาเสียขนาดนั้น เหมือนก้อนหินไม่มีผิด ถ้าไม่ระวังก็อาจเสียชีวิตเอาได้ ไหนเลยจะอ่อนโยนเหมือนเช่ออ๋อง?”พระชายาเช่ออ๋องแย้งกลับมาอีกประโยค “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะว่าเจ้ามันไม่รู้จักพอ!”“ฉู่อ๋องหน้าตาหล่อเหลาปานนั้น ถึงเขาจะตีหน้าเย็นชาทั้งวันแต่ก็เป็นชายรูปงามที่หาได้ยากนักในโลกนี้ ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 735

    ซ่งรั่วเจินเพิ่งมาถึงโถงหน้าก็เห็นพระชายาเช่ออ๋องที่แต่งกายอย่างหรูหราอาภรณ์สีชมพูตัดเย็บจากผ้าแพรชั้นดี คลุมทับด้วยเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกสีขาว รูปโฉมนางเหมือนสาวน้อยที่งดงามน่ารัก ผิวพรรณขาวบริสุทธิ์ ดวงตาชั้นเดียวเชิดขึ้นเล็กน้อยทอประกายคมกริบแม่นมสี่คนกับสาวใช้สี่คนยืนอยู่ข้างกาย กล่าวได้ว่าวางมาดใหญ่โตยิ่งนัก“คารวะพระชายาเช่ออ๋องเพคะ”ซ่งรั่วเจินแสดงคารวะ นางรู้สึกว่าฝ่ายตรงข้ามจับจ้องตนเองตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว แต่การจ้องมองเช่นนี้...แสดงท่าทีของผู้เหนือกว่าอย่างชัดเจน ในใจก็เข้าใจขึ้นมาหลายส่วนเห็นที...จะไม่ได้มาดีสินะ!“เจ้าก็คือซ่งรั่วเจิน?”พระชายาเช่ออ๋องมองประเมินซ่งรั่วเจิน ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าแม่นางผู้นี้เป็นหญิงงามผู้หนึ่ง ไม่อย่างนั้นก็คงไม่สามารถอาศัยสถานะหญิงที่เคยถอนหมั้นไปเข้าตาฉู่อ๋องได้แล้วสายตาฉู่อ๋องสูงส่งมาแต่ไหนแต่ไร หลายปีมานี้ไม่เคยต้องตาแม่นางคนใดมาก่อน แต่กลับถูกนางล่อลวงจนลุ่มหลงหัวปักหัวปำ ชั่วขณะนี้เมื่อได้เห็นแล้วก็จำต้องยอมรับว่างดงามจริงดังกล่าว“เพคะ” ซ่งรั่วเจินตอบรับ “ไม่ทราบว่าพระชายาเช่ออ๋องมาหาหม่อมฉันด้วยธุระอันใดหรือเพคะ?”“ข้าไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 734

    พี่ใหญ่ถูกลอบโจมตีจนเกือบไม่รอดชีวิตกลับมา หลังกลับมาแล้วขาทั้งสองข้างยังพิการ ท่านพ่อก็ไม่ได้กลับมาอีกเลยถ้ามีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้...“ส่วนจิ่งเซิน เขาได้ทำการค้าบ่อยๆ เชี่ยวชาญการติดต่อสัมพันธ์กับผู้คน พวกเจ้าเดินไปทางไปด้วยกันสามารถปลอมเป็นกลุ่มพ่อค้าที่ไปค้าขาย ผู้คนจะได้ไม่สงสัยโดยง่าย” ซ่งเยี่ยนโจวกล่าวซ่งจิ่งเซินพยักหน้ารัวๆ “ใช่แล้ว มีข้าอยู่ด้วย สามารถตัดความยุ่งยากไปได้มากที่สุดแล้ว!”ทุกคนล้วนเข้าใจเรื่องนี้ดี ยามออกไปข้างนอก การมีไหวพริบในการจัดการเรื่องราวเฉพาะหน้าสามารถลดปัญหาได้ นอกจากนี้ ซ่งจิ่งเซินก็ยังมีประสบการณ์ พวกเขาไม่จำเป็นต้องแสดงละครด้วยซ้ำ แค่นำกลุ่มพ่อค้าออกเดินทางก็สามารถตบตาผู้คนได้อย่างง่ายดายกู้หรูเยียนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกว่าปลอดภัยขึ้นมากจึงกล่าวว่า “เจินเอ๋อร์ ทำตามที่พี่ใหญ่เจ้าพูดเถอะนะ? เช่นนี้พวกข้าจะได้คลายใจ”ซ่งรั่วเจินเหลือบมองพวกซ่งจืออวี้สองฝาแฝดก็เห็นพวกเขาพยักหน้าเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนลูกไก่จิกข้าวสารกระนั้น นางกล่าวยิ้มๆ ว่า “เจ้าค่ะ งั้นประเดี๋ยวค่อยมาดูกันว่าต้องเตรียมสิ่งใดไปบ้าง”“น้องหญิงห้า เรื่องนี้เจ้ายกให้เป็นหน้าที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 733

    ซ่งรั่วเจินตัดสินใจไปรับบิดากลับมา ก่อนออกเดินทางย่อมต้องเตรียมสิ่งของมากมาย แต่ก่อนหน้านั้นยังต้องบอกคนในครอบครัวเสียก่อนหลังนางบอกเรื่องที่จะเดินทางไปชายแดน คนในจวนล้วนอึ้งตกใจกันหมด“เจินเอ๋อร์ เจ้าว่าอะไรนะ? เจ้าจะไปชายแดนด้วยตัวเอง?” กู้หรูเยียนมีสีหน้าตกตะลึง “ก่อนนี้ไม่เคยได้ยินเจ้าพูดถึงมาก่อนเลย”“น้องหญิงห้า ถ้าเจ้าเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านพ่อก็ให้พี่ชายอย่างพวกข้าไปดีกว่า ผู้หญิงแบบเจ้าไปสถานที่ห่างไกลปานนั้นจะอันตรายเกินไปแล้ว” ซ่งจืออวี้เอ่ยอย่างร้อนใจซ่งจิ่งเซินพยักหน้า “ใช่แล้ว พวกเขารับราชการอาจไม่สะดวก ข้ามีประสบการณ์เดินทางโชกโชน ให้ข้าไปดีกว่า!”“ความจริงสาเหตุที่ข้าจะเดินทางไปเป็นเพราะข้าทำนายดวงชะตาให้ท่านพ่อ”เมื่อซ่งรั่วเจินเอ่ยวาจาประโยคนี้ออกมา สีหน้าทุกคนในห้องล้วนเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด หรือว่าจะเกิดปัญหาอันใด?“ก่อนนี้ข้าก็เคยทำนายเหมือนกัน ดวงชะตาของท่านพ่อปลอดภัยไร้อันตราย สามารถกลับมาได้อย่างราบรื่น แต่ช่วงนี้เกิดเหตุเปลี่ยนแปลงขึ้น น่าจะเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอก”“ถ้าไม่ไป ข้ากังวลว่าอาจมีอันตราย ดังนั้นจึงคิดว่าจะไปด้วยตั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 732

    “ฝ่ายตรงข้ามไม่ทันได้ค้นตัวไต้ซือเทียนจีใช่หรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า “ก่อนหน้านี้คนผู้นั้นรีบร้อนเกินไป พวกข้าไม่เปิดโอกาสให้เขา แต่ว่ากันตามปกติแล้ว ของที่มีค่ามากมักจะไม่พกติดตัวไว้”“สิ่งสำคัญที่สุดมักไม่พกติดตัวก็จริง แต่คนในวงการพวกข้า โดยเฉพาะคนชั่วร้ายอย่างเขา จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเก็บจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ข่มขู่อย่างแน่นอน”คิ้วบางของซ่งรั่วเจินเลิกขึ้นน้อยๆ ต่อให้เคยเจอไต้ซือเทียนจีเพียงครั้งเดียว แต่ก็ทราบว่าเป็นจิ้งจอกเฒ่าผู้หนึ่งกระทำเรื่องชั่วช้ามาหลายปีขนาดนี้แต่ก็ยังอยู่รอดปลอดภัย แล้วจะไม่มีวิธีปกป้องตัวเองเลยได้อย่างไร?กู้ชิงฉือได้ยินเช่นนั้นก็รีบวิ่งไปข้างกายไต้ซือเทียนจีแล้วเริ่มค้นหาอย่างละเอียด การค้นตัวครั้งนี้พบว่านอกจากยันต์ที่อ่านไม่ออกพวกนั้นแล้วยังมียาลูกกลอนอีกสองเม็ด“ไม่มีของอย่างอื่น แต่มีหินก้อนหนึ่ง นี่คือหยิบติดตัวมาด้วยงั้นรึ?”กู้ชิงฉือมองก้อนหินในมือ หินก้อนนี้แม้พอจะนับได้ว่ามนเกลี้ยง แต่ก็ดูแตกต่างจากก้อนหินที่พบเห็นได้ทั่วไปบริเวณริมแม่น้ำมากเกินไป“ข้าขอดูหน่อย”ซ่งรั่วเจินก้าวเร็วๆ เข้ามาหา มองก้อนหินในมือแ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 731

    เมื่อซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยปากสอบถาม สายตาทุกคนก็ต่างจับจ้องมายังซ่งรั่วเจิน พวกเขาในตอนนี้ไม่กล้าบุ่มบ่ามรบกวนแล้วฉู่จวินถิงก็เป็นห่วงดุจเดียวกัน เขารู้ว่าวิชาแพทย์ของรั่วเจินนั้นไม่ธรรมดา เก่งกาจกว่าหมอหลวงในวังหลวงมากนัก ถ้านางบอกว่าช่วยไม่ได้ก็แสดงว่าหมดหนทางแล้วจริงๆ“ยังช่วยได้”ซ่งรั่วเจินพูดโดยที่มือยังเคลื่อนไหวไม่หยุด นางลังเลไปชั่วครู่ก็หยิบยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งออกมายัดเข้าไปในปากของชายผู้นั้นซ่งเยี่ยนโจว “...” อีกแล้ว?ซ่งรั่วเจินรู้ว่าตนเองนำสิ่งของมากมายติดตัวมาเช่นนี้จะทำให้คนสงสัย แต่ช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า อย่างไรเสียแค่พูดจาส่งเดชไม่กี่ประโยคก็สามารถกลบเกลื่อนเรื่องนี้ได้แล้วตั้งแต่นางทะลุมิติมาก็มีมิติขนาดเล็กเป็นของตัวเอง ยาเอย ยันต์เอย ยามปกติล้วนเก็บไว้ในนั้น นับว่าสะดวกมากทีเดียวหลังจากชายหนุ่มที่มีท่าทางอ่อนแอสุดขีดกลืนยาเม็ดนั้นลงไปก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดแต่เดิมบรรเทาลงบ้าง การหายใจก็ไม่ได้ยากลำบากถึงเพียงนั้นอีกแล้ว“ส่งคนไปหารถม้าหรือยัง?” ฉู่จวินถิงถามจ้าวเจียงพยักหน้า “เรียนท่านอ๋อง ส่งคนไปจัดการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้ข้าฟัง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 730

    “หม่อมฉันได้ยินมาว่าบนบัญชีรายชื่อมีอยู่สิบกว่าคน ไม่รู้อาการของคนอื่นร้ายแรงหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถาม“ในหมู่คนเหล่านั้นมีลูกสะใภ้ไม่เคารพแม่สามี คนแก่อายุมากแล้ว คนจึงตายไป แต่มากที่สุดยังเป็นความขัดแย้งของอนุภรรยาและภรรยาเอก”“คนส่วนใหญ่ล้วนคล้ายพระชายาเซียงอ๋อง ตกอยู่ในฝันร้าย ยังป่วยหนักอีกด้วย อนุอวิ๋นนับว่าลงทุนลงแรงมากทีเดียว” ฉู่จวินถิงพูด“อนุอวิ๋นเป็นคนโหดเหี้ยมไม่ผิดไปดังคาด แต่ยังเสแสร้งใจดีมีเมตตา ปรากฎว่ามีเพียงใต้เท้าอวิ๋นตัวโง่งมคนนี้ถึงจะหลงเชื่อ”ซ่งรั่วเจินไม่แปลกใจ ความยากในการเลี้ยงดูผีทวงชีวิตนั้นมากกว่าผีน้อยตนอื่นมาก แม้ว่าไต้ซือเทียนจีมีความสามารถอยู่บ้าง กลับไม่สามารถเลี้ยงผีทวงชีวิตหลายตนได้ตนนี้เป็นเขาใส่ใจเลี้ยงดู ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่จึงสนิทสนมกันมากจากนั้นยามทั้งคู่เดินผ่านอุโมงค์ไปจนถึงฝั่งหนึ่ง กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นสายหนึ่งชำแรกจมูกพวกซ่งเยี่ยนโจวยืนอยู่ข้างหน้า สีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างมาก ส่วนซ่งรั่วเจินเองก็สังเกตเห็นศพแต่ละร่างใต้พื้น หนึ่งในนั้นมีนักพรตเต๋าคนหนึ่ง เห็นชัดว่าคือไต้ซือเทียนจี“นี่คือ...ตายทั้งหมดแล้ว?”“เดิมที

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status