“ก่อนหน้านี้ข้าไม่รู้จักถังเสวี่ยหนิง เพียงได้ยินเรื่องที่นางประสบก็เกิดรู้สึกสงสาร”“สาเหตุที่รับปาก ก็เพราะเจียวเจียวยืนยันกับข้าว่าเป็นเรื่องจริง ข้าถูกหลอกแล้ว!”ถังหงจี้รีบพูด “ใช่ น้องหญิงของข้าแค่หลงเชื่อเถียนเจียวเจียวผิดไปเท่านั้น ไม่มีวันสมรู้ร่วมคิดกับพวกเขา”ชั่วขณะเถียนเจียวเจียวถูกถังเสวี่ยหนิงซัดทอด รู้สึกหนักอึ้งภายในใจ ครู่ต่อมาหันมองบิดาตนคิดไม่ถึงเลยว่า เพิ่งหันหน้าไปก็จะถูกตบหนึ่งฉาดใต้เท้าเถียนโมโหหนัก “ทั้งวันเอาแต่ก่อเรื่องวุ่นวายไปหมด! เหตุใดข้าถึงให้กำเนิดลูกสาวอย่างเจ้าออกมาได้?”“เจ้าจัดการเรื่องยุ่งๆ นี้ให้เรียบร้อยเองก็แล้วกัน หากขวัญกล้าทำให้ครอบครัวเดือดร้อน อย่าโทษข้าไร้เยื่อใย!”เถียนเจียวเจียวปิดหน้าที่ถูกตบ ขอบตาแดงก่ำ กลับไม่กล้าตอบโต้แม้คำเดียวท่านพ่อลงมือไม่เบา ก่อนหน้านี้หน้าก็บวมไปแล้ว คราวนี้คิดว่าใบหน้าครึ่งซีกล้วนถูกตีจนไร้ความรู้สึกไปแล้วทั้งๆ ที่นางเพียงแค่ปล่อยข่าวลือเท่านั้น ลงท้ายเป็นถังเสวี่ยหนิงตัดสินใจเอง เกี่ยวอันใดกับนางด้วยเล่า?บัดนี้ถึงขั้นโทษนางทั้งหมด!ถังเสวี่ยหนิงสังเกตเห็นสายตาโกรธขึ้งของเถียนเจียวเจียวแล้ว เกิ
“ซวงซวงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอน แต่เป็นเหอเซียงหนิงผูกใจแค้นจึงวางแผนทำร้ายซ่งรั่วเจินต่างหาก”“บัดนี้เรื่องราวถูกเปิดโปง นางอยากหาแพะรับบาปจึงดึงฉินซวงซวงเข้ามาเกี่ยวข้อง น้องสาวข้าเลี้ยงคนเนรคุณเอาไว้จริงๆ!”ฉินเซี่ยงเหิงย่อมไม่อาจมองดูฉินซวงซวงเคราะห์ร้ายโดยไม่ทำอันใดอยู่แล้ว ยามนี้เขาได้รับความสำคัญจากตระกูลเซียวจึงยิ่งเชื่อในความสามารถของฉินซวงซวงมากกว่าเดิมตราบใดที่มีความสามารถในการหยั่งรู้ล่วงหน้านี้อยู่ วันหน้าเขาจะต้องมีอนาคตไกล การงานราบรื่นเป็นแน่แท้!กัวเยว่หลินเห็นดังนั้นก็เอ่ยว่า “ใช่แล้ว เดิมเหอเซียงหนิงก็เป็นคนจิตใจชั่วร้าย ตอนอยู่ในตระกูลฉินก็เป็นเหมือนโจรร้ายกระนั้น”“จากที่ข้าเห็น เห็นได้ชัดว่านางริษยาซวงซวงจึงคิดจะทำให้ซวงซวงเคราะห์ร้ายไปด้วย!”เดิมฉินจื้อหย่วนไม่อยากเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เห็นภรรยาของตนเองเอ่ยปากแล้ว ในใจเขาก็ยิ่งสับสนก่อนหน้านี้เขาเคยบอกท่านพ่อไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแล้วว่าฉินซวงซวงเป็นตัวซวย ทำให้ตระกูลหลินตกต่ำอยู่ในสภาพนั้น ดีที่สุดคือไล่นางออกไปจะได้ไม่มาทำให้ตระกูลฉินพลอยเดือดร้อนไปด้วยแต่ท่านพ่อกลับไม่เห็นด้วย ยามนี้ดีนัก
“ข้าไม่เข้าใจเลย ถึงจะรับอนุภรรยาจริง อย่างน้อยก็เลือกคนที่สะอาดสะอ้านสักหน่อยก็ได้กระมัง?”“ก่อนหน้านี้เหอเซียงหนิงมั่วสุมกับขอทานมากมายขนาดนั้น ถึงจะไม่ใช่โสเภณี แต่ก็ต่างกันไม่มากนักหรอก ฐานะตระกูลกัวก็ไม่แย่นี่นา แต่กลับยินดีปรนนิบัติสามีร่วมกับผู้หญิงแบบนี้เนี่ยนะ?”“ถ้าเป็นครอบครัวพวกข้าไม่มีทางยอมรับได้อย่างแน่นอน”เมิ่งชิ่นส่ายหน้าน้อยๆ น้ำเสียงแฝงความเย่อหยิ่งหลายส่วน นางอดกลั้นต่อเรื่องพรรค์นี้ไม่ได้หรอกเดิมทีกัวเยว่หลินไม่เข้าใจว่าวาจานั้นหมายความว่าอย่างไร จนกระทั่งได้ยินคำพูดทั้งหมดแล้ว ทั้งตัวคนก็ราวกับถูกสายฟ้าฟาดนางยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม มองไปทางฉินจื้อหย่วนที่อยู่ข้างกายอย่างเหลือเชื่อ หัวสมองขาวโพลนนางได้ยินอะไรงั้นหรือ?ฉินจื้อหย่วนเบิกตาโพลง มองไปทางพวกซ่งรั่วเจินอย่างตะลึงพรึงเพริด เรื่องนี้เป็นความลับที่เขาซุกซ่อนเอาไว้ตลอดมา แม้แต่คนในครอบครัวก็ยังไม่รู้เขายังเตือนเหอเซียงหนิงเป็นพิเศษว่าห้ามบอกใครเด็ดขาด เหตุใดพวกซ่งรั่วเจินจึงรู้เรื่องนี้ได้?“ซ่งรั่วเจิน พวกเจ้าพูดเหลวไหลอะไร เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้!”ฉินซวงซวงเห็นพวกซ่งรั่วเจินพูดรับส่งกันเป็นท
ผู้ใดจะคาดคิดว่าหลังกัวเยว่หลินกลับมาแล้ว เหอเซียงหนิงถึงเพิ่งรู้ว่าฉินจื้อหย่วนเป็นพวกขี้ขลาดตาขาว หวาดกลัวกัวเยว่หลินขนาดนั้น ถึงขั้นไม่กล้ามีสัมพันธ์กับนางในช่วงหลายวันที่ผ่านมาอย่างไรเสียถ้าวันนี้ไม่สามารถเอาตัวรอดไปได้ นางก็จบสิ้นแล้ว ย่อมไม่กลัวว่าจะต้องสู้จนตายตกไปทั้งสองฝ่าย!“เจ้าบอกว่าเจ้ามีสัมพันธ์กับจื้อหย่วน เจ้ามีหลักฐานอันใด?”กัวเยว่หลินสีหน้าปั้นยากถึงที่สุด แต่ก็ยังแข็งใจคาดคั้น ไม่แน่ว่าพวกซ่งรั่วเจินอาจจงใจหลอกลวงพวกตนเพื่อทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกตนก็เป็นได้“ก่อนหน้านี้ฉินจื้อหย่วนเคยมอบชาดของหออวิ๋นเยว่ให้ข้า ตอนข้าไปยังจงใจทิ้งไว้ในห้องของพวกเจ้า”“ไม่เพียงเท่านี้ ข้ายังทิ้งกระโปรงสีเหลืองขนเป็ดอีกตัวหนึ่งไว้ในตู้เสื้อผ้าของพวกเจ้า”ก่อนหน้านี้เหอเซียงหนิงก็ไม่ยินดีที่ไม่สามารถเปิดเผยตัวกับคนอื่นจึงจงใจทิ้งสิ่งของเหล่านี้ไว้เพื่อให้ความจริงเปิดเผย จะได้เป็นอนุภรรยาของฉินจื้อหย่วนอย่างถูกต้องชอบธรรมผู้ใดจะคิดว่ากัวเยว่หลินกลับสมองช้าถึงปานนี้ จนถึงตอนนี้ก็ยังจับไม่ได้!ตอนกัวเยว่หลินได้ยินคำว่าชาดจากหออวิ๋นเยว่ ใบหน้าก็พลันเปลี่ยนสีวันนั้นตอนเห็นชาด
“จื้อหย่วน ถึงท่านไม่ต้องการข้าก็ไม่อาจไม่ต้องการลูกของพวกเรานะ!” เหอเซียงหนิงกุมท้องน้อยด้วยสีหน้าช้ำใจสุดแสนฉินจื้อหย่วนตะลึงลานเหอเซียงหนิงตั้งครรภ์ลูกของเขา?เขาแต่งงานกับกัวเยว่หลินมาสามปีแล้วแต่กลับไม่มีลูกเสียที ความจริงเขาก็ร้อนใจเหมือนกัน ช่วงเวลาที่ผ่านมาก็เคยไปหาหมอ แต่หมอบอกว่าวาสนายังมาไม่ถึงผู้ใดจะคาดว่ากัวเยว่หลินไม่ตั้งครรภ์มาตลอด เหอเซียงหนิงกลับตั้งครรภ์ลูกของเขาไวขนาดนี้?“ที่เจ้าพูดมาเป็นความจริง?” ฉินจื้อหย่วนอดถามไม่ได้เหอเซียงหนิงพยักหน้าติดต่อกัน “ย่อมเป็นเรื่องจริงอยู่แล้ว เรื่องแบบนี้ข้าจะโกหกท่านได้อย่างไร? ข้าตั้งครรภ์ลูกของท่าน ท่านจะไม่สนใจพวกข้าแม่ลูกไม่ได้นะ!”ในเวลาเดียวกัน ฉู่จวินถิงมองไปทางหมอหลวงในกลุ่มคนแล้วเอ่ยว่า “หมอหลวงสวี ท่านมาดูหน่อย”เดิมหมอหลวงสวีถวายการรักษาให้องค์ชายทั้งสอง ยามนี้องค์ชายทั้งสองอาการคงที่แล้ว เขาเพิ่งออกมาก็เห็นฉากที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้พอดี“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง”ยามนั้น หลังจากบรรดาหมอหลวงออกมา องค์ชาย เกากุ้ยเฟยรวมถึงจงเฟยก็ออกมาจากกระโจมเช่นกัน เห็นว่าข้างนอกนั้นทุกคนล้อมวงเข้าหากัน ท่าทางคึกคักยิ่งนัก ไม่รู้
เหอเซียงหนิงไม่เชื่อหรอกว่าฉินจื้อหย่วนจะไม่สนใจ!คราวนี้ฉินจื้อหย่วนไม่ได้ปฏิเสธ เหอเซียงหนิงไม่สำคัญ แต่ลูกในท้องนาง จะไม่เอาไม่ได้ฉินซวงซวงเห็นฉินจื้อหย่วนหวั่นไหวแล้วก็รีบเอ่ยว่า “พี่ใหญ่ ท่านอย่าทำอะไรเลอะเลือนเด็ดขาดนะ!”“ก่อนหน้านี้เหอเซียงหนิงไปเกลือกกลั้วกับพวกขอทานมากขนาดนั้น ผู้ใดจะไปรู้ว่าใช่ลูกของท่านหรือไม่? เกรงว่าแม้แต่นางเองก็ยังไม่รู้เลยกระมัง!”“เมื่อก่อนข้าเห็นเหอเซียงหนิงเป็นสหายถึงได้ช่วยปิดบังให้นางมาโดยตลอด ยามนี้แม้แต่กับพี่ใหญ่ข้านางยังวางอุบาย ข้าก็ไม่ช่วยปิดบังให้นางแล้ว!”“ความจริงก่อนหน้านี้นางมักมั่วสุมกับผู้ชายเป็นประจำ หาได้สะอาดผุดผ่องไม่ ยามนี้ไม่มีที่พึ่งพิงก็คิดจะให้พี่ใหญ่ข้าเป็นเจ้าโง่ มีเรื่องดีแบบนี้เสียที่ไหน!”สีหน้าฉินซวงซวงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แลดูบิดเบี้ยวหลายส่วน ทั้งยังแฝงไว้ซึ่งความย่ามใจประดุจคนถ่อยได้ทีเหอเซียงหนิงคิดจะทำลายนาง นางก็จะทำให้เหอเซียงหนิงตายโดยไร้ที่กลบฝัง!หลินจือเยว่มองดูสีหน้าที่ไม่คุ้นเคยของฉินซวงซวง สีหน้าของเขาซับซ้อนยากจะบรรยาย ซวงซวงในใจเขาในช่วงหลายปีนี้เป็นคนอ่อนโยนน่ารักมาตลอดแท้ๆไม่เพียงอ่อนโยน
กัวเยว่หลินเห็นสีหน้าฉินจื้อหย่วนก็รู้ความคิดของเขาแล้ว เป็นสามีภรรยากันมาสามปี มองปราดเดียวก็เห็นความร้อนตัวของเขาทะลุปรุโปร่ง เกรงว่าเด็กคนนี้คงเป็นลูกเขาไม่ผิดแล้วถ้าเป็นแค่ความผิดพลาด ไล่เหอเซียงหนิงไปแล้วขอโทษนางดีๆ ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสกอบกู้คลี่คลายแต่ยามนี้ภรรยาเอกอย่างนางยังไม่มีลูก เหอเซียงหนิงกลับตั้งครรภ์แล้ว นี่นับเป็นอะไร?นางไม่ยอมเด็ดขาด!“ฉินจื้อหย่วน พวกเราหย่ากัน!”กัวเยว่หลินเหมือนตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว จ้องมองฉินจื้อหย่วนด้วยแววตาเด็ดเดี่ยวตลอดเวลาที่ผ่านมา นางรู้สึกว่าฉินจื้อหย่วนดีต่อนางเหลือเกิน ดังนั้นแม้ว่ามารดาบังเกิดเกล้าของเขาจะไม่อยู่แล้ว ในจวนลูกของแม่เลี้ยงได้รับความโปรดปรานมากกว่า แต่นางก็ไม่เคยตัดพ้อสิ่งใดก่อนนี้บิดามารดาก็เคยเกลี้ยกล่อมนาง บอกว่าตระกูลฉินไม่คู่ควรกับนาง แต่นางคิดว่าขอเพียงฉินจื้อหย่วนดีกับนาง สามีภรรยามีน้ำหนึ่งใจเดียวกันแล้วไซร้ จะต้องมีชีวิตที่มีความสุขได้อย่างแน่นอนจนถึงตอนนี้นางจึงตระหนักว่าคำพูดของบิดามารดาเป็นเรื่องจริง ฉินจื้อหย่วนแค่เสแสร้งแสดงเอาเท่านั้น ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องโกหก!ในหัวฉินจื้อหย่วนคิดเพียงว่าจะเก็บ
ฉินเซี่ยงเหิงโมโหแทบตายแล้ว เดิมก็ไม่อยากให้ฉินซวงซวงถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้อง เหอเซียงหนิงตายคนเดียวก็ตายไปพี่ใหญ่กลับเลือกผลักฉินซวงซวงออกไปเพื่อลูกในท้องเหอเซียงหนิงเนี่ยนะ?“ข้าแค่พูดความจริงเท่านั้นเอง ผู้ใดใช้ให้นางไม่ยอมเลิกราเสียทีเล่า? เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ล้วนแต่เป็นปัญหาที่นางก่อขึ้นมาทั้งสิ้น!”“ถ้าไม่ได้รับบทเรียนเสียบ้าง วันหน้าเรื่องแบบนี้ก็คงจะเกิดไม่หยุดหย่อน ข้าเหนื่อยหน่ายเหลือทนแล้ว”ฉินจื้อหย่วนมีสีหน้าเย็นชา กล่าวถึงที่สุดแล้ว สาเหตุที่ทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้ล้วนแต่ต้องโทษฉินซวงซวงถ้าหย่ากัน เขาก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลกัวอีกแล้ว!ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฉินเซี่ยงเหิงเดิมก็ธรรมดา แม่เลี้ยงลำเอียงเข้าข้างพวกเขาทุกอย่าง ทำให้ท่านพ่อไม่ดีต่อเขาเหมือนในอดีต เรื่องดีทุกอย่างล้วนมอบให้พวกฉินเซี่ยงเหิงสองคนนั้นแทนที่จะรอให้ถูกฉินเซี่ยงเหิงกดเอาไว้หลังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลกัว มิสู้ฉวยโอกาสนี้สั่งสอนพวกเขาไปด้วยเสียเลย!“สวรรค์ คิดไม่ถึงว่าตระกูลฉินจะวุ่นวายปานนี้ ข้าว่าแล้วเชียวว่าฉินซวงซวงเป็นดาวหายนะ เริ่มจากทำให้ตระกูลหลินตกต่ำ ยามนี้ยั
“หากเจ้าขวัญกล้านำยานี้ให้ฮูหยินผู้เฒ่ากิน นางก็จะตายอย่างรวดเร็ว!” เฉียนชิวเซียงเอ่ยขึ้นฝานซืออิ๋งพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง “ท่านแม่ข้าพูดถูกแล้ว ข้าอยู่ที่สกุลซ่งมานานหลายปี ไม่มีความดีความชอบก็มีความพยายาม ดีต่อนางไปทุกจุด แต่นางกลับต้องการจัดการข้าให้ตาย!”นางเกลียดซ่งรั่วเจินมาก!ชีวิตที่ดีของนางไม่มีอีกแล้ว ถือสิทธิ์อะไรบัดนี้สกุลซ่งประสบความสำเร็จรุ่งเรืองเช่นนี้?ทั้งๆ ที่ในอดีตหมอมารักษามากมายล้วนพูดว่าซ่งเยี่ยนโจวไม่มีหนทางรักษาแล้ว ต้องพิการไปทั้งชีวิต ไม่สามารถยืนขึ้นได้อีกครั้ง แต่หลังนางจากไปแล้วเขากลับยืนได้?ถือสิทธิ์อะไร!ทั้งๆ ที่เป็นสกุลซ่งตั้งใจวางแผนไว้อย่างดีแล้ว!ก็เพื่อไล่นางไป จะได้ให้ลั่วชิงอินเข้าบ้าน พวกเขาจะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ส่วนนางชื่อเสียงเสื่อมเสียไม่หลงเหลือแล้ว!แม่นมข้างกายฮูหยินผู้เฒ่ากู้ลังเลอย่างอดไม่ได้ นางเกิดความกังวลภายในใจ หากฮูหยินผู้เฒ่าเป็นอะไรไป นั่นก็แย่แล้ว!เพียงแต่ หากไม่กินยา ฮูหยินผู้เฒ่าจะทนไหวหรือไม่?“หากข้าจะทำร้ายคนจริง ย่อมต้องใช้วิธีที่ไม่มีใครรู้ จะวางยาฆ่าคนต่อหน้าผู้อื่นกระนั้นรึ?”ซ่งรั่วเจินเผยสีหน้ารังเกีย
“นี่เกิดอะไรขึ้น? ก่อนหน้านี้ฮูหยินผู้เฒ่าก็ยังดีๆ อยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ๆ ก็หมดสติไปแล้วเล่า?” หลิ่วหรูเยียนเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้แม่นมทางด้านข้างรีบตอบสีหน้าว้าวุ่น “บ่าวเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องใดขึ้น เมื่อครู่หยินผู้เฒ่ายังดีๆ จู่ๆ ก็หมดสติไม่ฟื้นเจ้าค่ะ”“ฮูหยินผู้เฒ่ามีโรคอะไรหรือไม่?”ซ่งรั่วเจินทางหนึ่งถามทางหนึ่งจับชีพจรฮูหยินผู้เฒ่า พบว่าอายุมากแล้ว ป่วยเป็นโรคหัวใจ ชีพจรอ่อนแอมาก ยิ่งไปกว่านั้นจากชีพจรยังพบความผิดปกติอยู่รางๆ“ฮูหยินผู้เฒ่าของพวกเรา หลายปีมานี้กินยาอยู่ตลอด ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาฮูหยินผู้เฒ่ามีสติแจ่มชัด กินยาตามเวลาทุกวัน”“วันนี้หลังกินยาก็ขึ้นเขามา อิงตามหลักการแล้วไม่สมควรเกิดเรื่องอะไร!”ซ่งรั่วเจินหยิบยาลูกกลอนออกมาหนึ่งเม็ด “ยานี้ของข้าสามารถทำให้อาการของฮูหยินผู้เฒ่ามั่นคงได้ ทำให้นางฟื้นขึ้นมา”แม่นมชะงักไปเบาๆ นางรู้ฐานะของซ่งรั่วเจินสองคนแล้ว รู้สึกลังเลอยู่บ้าง สองคนนี้น่าจะไม่คิดทำร้ายฮูหยินผู้เฒ่าหลังรู้ฐานะของนางหรอกกระมัง?“ลูกสาวข้ารู้วิชาแพทย์ นางพูดว่ามีประโยชน์ก็ย่อมมีประโยชน์” หลิ่วหรูเยียนคิดว่าแม่นมไม่เชื่อวิชาแพทย์ของซ่งรั่วเจิน อธ
เพียงแต่ นางคิดว่าคล้ายเคยเห็นใบหน้านี้ที่ใดมาก่อน...ทันใดนั้น นางนึกถึงซ่งรั่วเจินที่ระยะนี้มีชื่อเสียงโด่งดังภายในเมืองหลวง หรือก็คือคนที่หลานสาวคนนั้นของนางใส่ร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับว่าก็คือคนตรงหน้านี้นี่ล่ะนึกถึงตรงนี้ สีหน้าฮูหยินผู้เฒ่าเก้อกระดากไป มากที่สุดกลับเป็นรู้สึกผิดเพียงเรื่องที่ทั้งคู่เป็นฝ่ายช่วยเหลือนางก่อน ก็รู้ได้ว่าสองคนนี้ล้วนจิตใจดีซ่งรั่วเจินช่วยหลินจือเยว่ดูแลบ้านนานถึงสองปี นางเคยพบหลินรั่วหลานมาก่อน รู้ว่าร่างกายไม่แข็งแรงของนางบำรุงอย่างดีจนฟื้นคืนกลับมาเป็นปกติภายในระยะเวลาสองปีที่ผ่านมายามนางได้ยินก็คิดว่านี่คือเรื่องราวที่งดงาม ใครคิดเล่าว่าหลินจือเยว่เป็นพวกลืมบุญคุณคน ซวงซวงเองก็แย่งสามีคนอื่นวันแต่งงาน ทำให้เกี้ยวของอีกฝ่ายไม่ได้เข้าบ้านแล้วยังต้องถอนหมั้นชีวิตนี้นางและสามีทำเรื่องสง่าผ่าเผยมาโดยตลอด กลับถูกลูกสาวและหลานสาวสร้างปัญหาขึ้นซ้ำๆ ไม่รู้จะเอาหน้าไปพบคนสกุลซ่งได้อย่างไรไม่นาน แม่นมและสาวใช้ของฮูหยินผู้เฒ่ากู้ก็กลับมาแล้ว ในมือแม่นมถือยันต์คุ้มภัยมาแผ่นหนึ่ง เห็นหลิ่วหรูเยียนสองแม่ลูกอยู่ข้างกาย อดสงสัยไม่ได้“ฮูหยินผู้เฒ
เพียงเฉินเซียงได้ยินก็รีบไปหาโหย่วฝู ในเมื่อฮูหยินผู้เฒ่าหลินเปลี่ยนคำพูดแล้ว ก็ไม่รู้ว่าได้ยินข่าวนี้แล้วจะเปลี่ยนคำพูดหรือไม่?ถึงตอนนั้นล่วงเกินฝ่าบาท ยังทะเลาะจนแตกหักกับสกุลหลิน รวมสกุลเหยาเข้าไปด้วย เพียงคิดดูก็รู้ว่าจะเป็นฉากยิ่งใหญ่มากเพียงใดอย่างไรเสียไม่ว่าใครซวย พวกเขาก็ล้วนยินดีจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงโหย่วฝูได้ยินแล้วก็อึ้งงัน สุดท้ายก็ถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ “นี่...นี่จะต้องชุลมุนวุ่นวายมากแน่!”“รั่วเจิน เมื่อครู่โหย่วฝูมา คงไม่ใช่ว่าเกินเรื่องอะไรภายในจวนหรอกกระมัง?” หลิ่วหรูเยียนถามนางอย่างกังวล“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นภายในจวนหรอกเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินโบกมือ เอ่ยถาม “ท่านแม่จุดธูปไหว้พระเรียบร้อยแล้วหรือ?”หลิ่วหรูเยียนพยักหน้า “หวังว่าพระโพธิสัตว์จะคุ้มครอง ภายภาคหน้าพวกเราสกุลซ่งจะมีความสงบสุข ราบรื่น”“จะต้องเป็นเช่นนั้นแน่” ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบาๆ “ท่านแม่รอข้าเดี๋ยวหนึ่ง ข้าไปจ่ายค่าธูปไหว้พระก่อนเดี๋ยวมาเจ้าค่ะ”“ไปเถอะ”สายตาหลิ่วหรูเยียนอ่อนโยน หวังเพียงให้พวกหลินจือเยว่ถูกเนรเทศไปเร็วหน่อย เช่นนี้เจินเอ๋อร์ก็ไม่ต้องถูกคนต่ำต้อยตอแยอีก!“ว้าย!”ทันใดนั้น เสี
“เช่นนั้นก็ต้องมีโอกาสได้พบแม่ของเจ้าก่อน นางยอดเยี่ยมยิ่งนัก ฉวยโอกาสยามขันทีมาประกาศพระราชโองการฟ้องร้อง เข้าวังฟ้องร้องต่อหน้าพระพักตร์!”“บัดนี้ฉินเจิงต้องการหย่าข้า ไล่พวกเราสองแม่ลูกออกจากบ้าน พวกเจ้าดีใจแล้วกระมัง?”“ตนเองไม่มีที่อยู่อาศัย ก็ต้องทำให้พวกเราถูกเนรเทศไปพร้อมกัน ข้าไม่รู้จริงๆ ตกลงพวกเจ้าคิดอะไรอยู่กันแน่!”“ถึงตอนนั้นพวกเราเข้าคุกพร้อมกัน ข้ากลับอยากเห็นนักว่าแม่ของเจ้าจะมีที่อยู่หรือไม่!”กู้อวิ๋นเวยยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห หากไม่ใช่เพราะครอบครัวหลินจือเยว่เหล่านี้ นางก็ไม่ต้องถูกหย่า!กลายเป็นภรรยาที่ถูกขับไล่ ภายภาคหน้านางก็ไม่มีหน้าตาอยู่ในเมืองหลวงแล้ว!“อะไรนะ? ท่านพ่อหย่าท่าน?”ฉินซวงซวงเผยสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด พวกเขาถูกขังเพียงวันเดียว เหตุใดเกิดเรื่องมากมายถึงเพียงนี้?ท่านพ่อเสียสติไปแล้วหรือ!กู้อวิ๋นเวยข่มโทสะไว้ภายในใจ ระบายความโกรธทั้งหมดลงบนตัวหลินจือเยว่ เมื่อแรกนางตาบอด ถึงเลือกฉินเจิง คิดไม่ถึงเลยว่าลูกสาวเองก็ตาบอด เลือกตัวไร้ประโยชน์คนนี้!พวกเขาสองแม่ลูกย่ำแย่มากเพียงใด!“ท่านแม่ ท่านอย่าร้อนใจไปเลย ไม่ใช่ว่ายังมีท่านพี่อยู่หรือ? ท่านพี่ไ
หมอทางด้านข้างเหลือบมองหลินจือเยว่แวบหนึ่ง นี่กำลังฝันกลางวันอะไร?นี่ล้วนกลายเป็นนักโทษแล้ว ยังคิดเกาะแม่นางซ่ง คิดว่าฉู่อ๋องเป็นเครื่องประดับหรือ?สีหน้าหลินจือเยว่แข็งค้างไป เร่งอธิบาย “เจ้าพูดเหลวไหลอะไร? ข้าเพียงคำนวณวันที่เจ้าตั้งครรภ์”ถ้อยคำนี้พูดออกมาแล้ว ฉินซวงซวงเข้าใจในทันใด หัวใจพลันหนักอึ้งคืนนั้นนางและเหยาจิ่นเฉิงนับว่าบ้าคลั่งอย่างสุดขีด ช่วงเวลาตั้งครรภ์ตรงกับจุดนี้พอดี แม้แต่นางก็ไม่มั่นใจว่าตกลงเด็กคนนี้เป็นของใครกันแน่ทว่า สีหน้านางกลับมั่นใจหนักแน่น “นี่เป็นลูกของท่าน! ท่านคงไม่ใช่ไม่ยอมรับแม้แต่ลูกของตนหรอกกระมัง?”“เป็นลูกของข้า ข้าย่อมยอมรับ! แต่นั่นต้องแน่ใจก่อนว่าเป็นลูกของข้า!”ใบหน้าหลินจือเยว่เคร่งขรึม ก่อนนี้เขาไม่รู้คาดหวังจะมีลูกของเขาและฉินซวงซวงมากเพียงใด ทว่าเด็กคนนี้กลับเกิดมาได้ไม่ถูกเวลาเท่าใดนักเขาไม่มีอะไรแล้ว คลอดลูกออกมาก็มีเพียงความลำบาก“เขาต้องเป็นลูกของท่านแน่ ไม่มีวันเป็นลูกของคนอื่น!” ฉินซวงซวงกัดฟัน ไม่ว่าใช่หรือไม่ เด็กคนนี้ก็ต้องเป็นลูกของหลินจือเยว่!“รีบหาคนส่งข่าวนี้ไปให้ท่านพ่อท่านแม่ข้า ท่านแม่รู้จะต้องดีใจ คิดหาทางช่
พริบตาต่อมา ใบหน้าหลินจือเยว่ก็ถูกข่วนจนเป็นรอยเลือดนับไม่ถ้วน ฉินซวงซวงคล้ายเสียสติไปแล้วก็มิปาน ราวกับระบายความอึดอัดคับข้องใจทั้งหมดออกมาหลินจือเยว่โมโห คนมิอาจทนไหวยื่นมือออกไปผลักแรงๆ!โครม!ฉินซวงซวงกระแทกกับซี่กรงของห้องขัง ล้มลงกับพื้นแรงๆ กลับกุมท้องไว้ ร้องตะโกน “เจ็บเหลือเกิน ข้าเจ็บท้องเหลือเกิน!”หลินจือเยว่เห็นดังนั้นก็คิดว่านางแสดงละคร เดิมทีก็ไม่เก็บมาใส่ใจ จนกระทั่งมองเห็นเลือดบนร่างกายท่อนล่างของนางไหลออกมา สีหน้าถึงเปลี่ยนไป“เร็ว รีบตามหมอมาเร็วเข้า!”เดิมทีผู้คุมก็ไม่สนใจสองคนนี้อยู่แล้ว อย่างไรเสียทั้งคู่ก็นับเป็นแขกประจำของคุกที่ผ่านมามีฐานะสูงศักดิ์ บัดนี้กลับดี เข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนหน้านี้พาคนในครอบครัวมาด้วยกัน บัดนี้กลับตกต่ำถึงขั้นถูกเนรเทศมาถึงขั้นนี้แล้วกลับยังไม่ยอมหยุด ทะเลาะกันไม่รู้จักจบสิ้น พวกเขาคร้านจะชายตาแลคราวนี้เห็นคล้ายเกิดเรื่องจริงๆ นี่ถึงตามหมอมา ยังไม่ทันถูกเนเทศ คนก็จะเกิดเรื่องภายในคุก พวกเขาเองก็จะพลอยซวยไปด้วยจากนั้นหมอช่วยจับชีพจรให้ฉินซวงซวง ได้ฟังจากปากว่าหลินจือเยว่ผลักนาง สายตาเปี่ยมความไม่พอใจ“ดีชั่วอย่างไ
หลังฉินซวงซวงได้รู้ว่าตนเองและหลินจือเยว่ล้วนถูกเนรเทศ ก็โมโหแทบสิ้นสติ!“ถือสิทธิ์อะไรทำกับพวกเราเช่นนี้? ซ่งรั่วเจินโหดเหี้ยมโดยแท้ ทั้งๆ ที่นางมิได้เสียหายอะไร แต่กลับจัดการพวกเราถึงตาย!”“จะต้องเป็นนางให้ฉู่อ๋องทำเช่นนี้แน่ นังผู้หญิงใจคอโหดเหี้ยม!”สีหน้าหลินจือเยว่เผือดซีด หมดอาลัยตายอยาก ยามถูกจับมาเขาก็เกิดลางสังหรณ์ไม่ดี เนรเทศ...ก็คือหนึ่งในสิ่งที่คาดการณ์ไว้ทว่าทั้งๆ ที่เดิมทีเขามีอนาคตรุ่งโรจน์ เหตุใดจู่ๆ ก็ตกต่ำถึงขั้นนี้ได้!“นี่ล้วนไม่ใช่เพราะเจ้ารนหาที่หรือ? หากมิใช่เพราะเจ้าสมคบคิดกับพวกเขาใส่ร้ายคน ไฉนเลยจะถูกตัดสินเนรเทศได้?”ฉินซวงซวงร้อนใจแย่แล้วพูดว่า “มาถึงตอนนี้แล้ว ท่านยังตำหนิข้าอีกหรือ? เห็นได้อย่างชัดเจนว่าซ่งรั่วเจินมุ่งร้ายต่อพวกเรา นางต้องการทำลายพวกเราให้สิ้นซาก!”หลินจือเยว่รำคาญใจมาก “หากไม่ใช่เพราะเจ้าทำงานไม่สำเร็จยังต้องเสียเปรียบ ดึงบุตรีจวนอัครเสนาบดีไปจนถึงฝ่าบาท และฮองเฮาเข้าไปเกี่ยวข้อง เรื่องก็คงไม่ร้ายแรงถึงขั้นนี้!”“ที่ผ่านมาข้าเตือนเจ้าไม่ใช่เพียงครั้งเดียว อย่าทำเรื่องเช่นนี้อีก ตกลงเจ้าต้องก่อความวุ่นวายถึงขั้นใดถึงจะพอใจ?”“บั
กู้ชิงเหยี่ยนและกู้ชิงซิวเห็นมารดาไม่ใจอ่อน ทันใดนั้นถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง พวกเขากังวลที่สุดก็คือบิดามารดาจะเปลี่ยนใจบัดนี้พวกเขามีลูกของตนแล้ว ระยะก่อนฉินเซี่ยงเหิงแย่งการแต่งงานของพี่น้องไป ลอบทำอย่างลับๆ ยังไม่ทันแต่งงานก็ลอบสานสัมพันธ์ไปแล้ว หน้าตาของสกุลฉินหมดไปจนสิ้นต่อให้พวกเขาตัดขาดความสัมพันธ์ไปแล้ว แต่ตอนนั้นสายตาทุกคนยามสบมองพวกเขาก็แปลกประหลาดมาก แม้แต่ลูกของตนก็ได้รับเสียงเยาะหยันยิ่งไม่ต้องพูดถึงความโหดเหี้ยมอำมหิตของฉินซวงซวง แย่งชิง ใส่ร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกเรื่องล้วนชวนให้คนชี้หน้าด่า!เทียบกับอวิ๋นเวยแล้ว ทำเรื่องน่าขายหน้าได้มากยิ่งกว่าเสียอีก!“เรื่องนี้ก็ตกลงตามนี้เถอะ ไม่ต้องเข้าไปยุ่ง” ราชครูกู้พูด“ท่านพ่อ อวิ๋นเวยเป็นลูกสาวแท้ๆ ของท่านนะ! ท่านทำเช่นนี้โหดร้ายเกินไปแล้ว!” สีหน้ากู้ชิงเจ๋อตกตะลึงพรึงเพริด ไม่กล้าเชื่อว่าบิดามารดาแท้ๆ ของตนจะเลือดเย็นถึงขั้นนี้ นิ่งดูดายดูลูกสาวของตนไปตาย!ราชครูกู้สบมองเขานิ่งๆ อย่างกล่าวเตือน “หากเจ้าคิดว่าพวกเราทำไม่ถูก มิสู้เจ้าไปคลี่คลายด้วยตนเอง อย่างไรเสียพวกเจ้าก็ล้วนโตแล้ว ต้องการแยกบ้านก็สมควรแล้ว เจ้าแย