Share

บทที่ 5 เริ่มต้นชีวิติใหม่

“ฉันมีเรื่องหนึ่งที่จะขอร้องค่ะ” เว่ยเถียนเถียนพูดขึ้น

“เรื่องอะไรก็ว่ามาเถอะ ถ้าถูกต้องตามหลักฏหมายย่อมได้อย่างแน่นอน” หัวหน้าหมู่บ้านตอบ

“ฉันอยากให้ลูกชายไปกับฉันด้วยค่ะ” เว่ยเถียนตอบเสียงดังเพื่อประกาศให้ชาวบ้านที่อยู่ที่นั่นรู้ตัว “เพราะว่าบ้านจางตอนนี้ไม่มีเงินเลย ช่วงที่ผ่านก็ใช้เงินมรดกที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ฉันเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านมาตลอด จางกวนหย่งเองก็ไม่มีงานการให้ทำเป็นหลักแหล่ง แม้กระทั่งงานที่คอมมูนเขาก็ไปไม่ทำเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นฉันคิดว่าเขาและแม่ของเขาไมสามารถเลี้ยงดูอบรมให้ลูกชายของฉันเป็นคนดีได้ ดังนั้นการให้เขาไปอยู่กับฉันจะเป็นการดีที่สุด” เว่ยเถียนเถียนอธิบาย

“ได้ยังไงกัน เด็กแซ่จางก็ต้องเป็นลูกหลานบ้านจาง ยังไงเขาก็ต้องอยู่ที่นี่” นางหยางเจี่ยรีบคัดค้านขึ้นมาทันที

“แต่ว่าฉันมีเงินมากพอที่จะเลี้ยงลูกได้” เว่ยเถียนเถียนยืนยัน “และฉันก็มั่นใจว่าจะสอนลูกให้เป็นคนดีได้ ไม่ใช่ครอบครัวที่พ่อติดการพนัน ย่าและอาสาวที่เอาแต่ใช้เงินไปวัน ๆ

“แล้วออกจากบ้านไปเธอจะไปทำมาหากินอะไรกันล่ะ เงินมรดกของเธอเยอะก็จริง แต่มันก็มีวันหมดได้เหมือนกัน” จางกวนหย่งพยายามคัดค้าน

เว่ยเถียนเถียนถอนหายใจอย่างรำคานให้กับคนบ้านจางครั้งหนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ฉันมีเงินมากพอที่จะเปิดร้านสักร้าน เท่านี้ก็สามารถทำมาหากินไปได้ตลอดชีวิตแล้ว อย่าพยายามพูดให้มากความเลยยังไงเสียบ้านจางก็ไม่เงินพอที่จะเลี้ยงเสวียอี้อยู่แล้ว หัวหน้าหมู่บ้านคิดว่ายังไงคะ”

หัวหน้าหมู่บ้านที่ยืนฟังอยู่พูดขึ้นด้วยเสียงเคร่งขรึม "ถ้าจางกวนหย่งและแม่ของเขาไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ พวกเขาต้องยกจางเสวียอี้ให้เว่ยเถียนเถียนไป เพราะพิจารณาดูแล้วยังไงเว่ยเถียนเถียนก็เหมาะสมที่จะเลี้ยงลูกมากกว่า"

"ใช่ ๆ พวกเราเห็นด้วย คนดีอย่างเว่ยเถียนเถียนต้องเลี้ยงลูกได้ดีแน่" หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งในกลุ่มชาวบ้านพูดขึ้น

"แต่เสวียอี้เป็นลูกชายของผม เป็นคนสกุลจาง ผมจะไม่ยอมให้เถียนเถียนพาเขาไปแน่" จางกวนหย่งพยายามจะค้าน 

เว่ยเถียนเถียนหันไปมองลูกชายด้วยสายตาอ่อนโยน "เสวียอี้ ลูกอยากอยู่กับแม่ไหม"

จางเสวียอี้พยักหน้าแน่น "ครับแม่ ผมอยากไปอยู่กับแม่ ผมไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว"

คำพูดของจางเสวียอี้ทำให้ชาวบ้านรอบข้างเริ่มกระซิบกระซาบกัน บางคนมองดูด้วยความเห็นใจ บางคนก็ไม่พอใจกับการกระทำของจางกวนหย่งและแม่สามี

"ถ้าอย่างนั้นการตัดสินใจก็ชัดเจนแล้ว จางกวนหย่งและแม่ของเขาต้องยอมรับการตัดสินใจนี้" หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวพลางหยิบกระดาษปากกาขึ้นมาเพื่อจะเขียนรายละเอียด

นางหยางเจี่ยที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ พยายามจะพูดอะไรออกมา แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ "เอาเถอะ ถ้าเสวียอี้อยากไปอยู่กับแม่ของเขาก็ให้เขาไป"

"ขอบคุณค่ะ ฉันหวังว่าแม่อดีตสามีจะเข้าใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้ก็เพื่ออนาคตของเสวียอี้" เว่ยเถียนเถียนหันไปมองนางหยางเจี่ย เธอตั้งใจเน้นคำว่าอดีตเพื่อเป็นการย้ำว่าได้ตัดขาดจาดบ้านจางแล้ว

จางกวนหย่งยังคงทำหน้าไม่พอใจ แต่ไม่สามารถพูดอะไรได้ เขาหันไปมองลูกชายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ "เสวียอี้…ถ้าแกไปกับแม่ แกจะไม่มีวันได้กลับมาที่บ้านนี้อีก เข้าใจไหม"

"เข้าใจครับพ่อ ผมจะไปกับแม่และผมจะไม่กลับมาที่นี่อีก" จางเสวียอี้หันไปมองพ่อด้วยสายตาแน่วแน่

เว่ยเถียนเถียนจับมือลูกชายแน่นและหันไปขอบคุณหัวหน้าหมู่บ้านและชาวบ้านที่มาช่วยเหลือ "ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนฉันในวันนี้ ขอบคุณมากเลยค่ะ"

"ขอให้เธอโชคดีนะเถียนเถียน เธอทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรก็มาหาพวกเราได้" ชาวบ้านพากันพูดให้กำลังใจ 

เว่ยเถียนเถียนและจางเสวียอี้เดินออกจากบ้านจางพร้อมกับความหวังในใจ ถึงแม้เส้นทางข้างหน้าจะยากลำบากแต่เธอเชื่อว่าชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นรอคอยพวกเขาอยู่

เมื่อเธอและลูกชายเดินห่างจากหมู่บ้านไปเรื่อย ๆ เว่ยเถียนเถียนรู้สึกถึงความโล่งอกและอิสระที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน นี่อาจจะเป็นความต้องการที่อยู่เบื้องลึกในหัวใจของเจ้าของร่างเดิม พอทำมันสำเร็จก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อย

"ฉันคืนชีวิตอิสระให้เธอแล้วนะเว่ยเถียนเถียน" เว่นเถียนเถียนกล่าวกับเจ้าของร่างเดิมในใจ

สองแม่ลูกนั่งเกวียนเข้ามาในเมือง แสงแดดอ่อนๆ ในตอนเย็นทำให้เมืองดูสดใสและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ผู้คนต่างก็เดินกันขวักไขว่ มองไปทางไหนก็ดูครึกครื้นไปหมด เว่ยเถียนเถียนรู้สึกสนใจเมืองนี้เป็นอย่างมาก

เธอมีเงินมรดกที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้เหลืออยู่ ถึงแม้ว่ามันจะร่อยหรอไปมากตอนอยู่บ้านจางแต่ก็เหลืออยู่จำนวนหนึ่งน่าจะพอเช่าห้องเล็ก ๆ แล้วเปิดกิจการค้าขายง่าย ๆ ได้ ทั้งสองเดินหาห้องเช่าอยู่พักใหญ่ก็เจอตึกแถวชั้นเดียวหลังหนึ่งใกล้กับตลาด ห้องเช่านี้มีขนาดพอเหมาะสำหรับการเริ่มต้นกิจการใหม่ และที่สำคัญคือค่าเช่าไม่แพงเกินไป

ตึกแถวนี้เป็นของป้าคนหนึ่งชื่อว่าป้าเหลียน เมื่อเว่ยเถียนเถียนและจางเสวียอี้พบป้าเหลียนครั้งแรกก็รู้สึกประทับใจ ป้าเหลียนยิ้มแย้มและต้อนรับพวกเขาด้วยความอบอุ่น เธอเป็นหญิงวัยกลางคนที่มีท่าทางใจดีและมีน้ำใจ รับฟังเรื่องราวของเว่ยเถียนเถียนและจางเสวียอี้ด้วยความเห็นใจ

จางเสวียอี้เป็นคนเล่าให้ป้าเหลียนฟังว่าแม่ของเขาถูกพ่อทำร้าย เรื่องราวของพวกเขาทำให้ป้าเหลียนอดที่จะสงสารไม่ได้ จึงตัดสินใจลดค่าเช่าให้กับเว่ยเถียนเถียนและยังไปหาอุปกรณ์ทำแผลมาให้เธอด้วย

"ป้าเข้าใจว่าชีวิตของเธอคงไม่ง่ายดายเลย แต่ป้าเชื่อว่าเธอมีความแข็งแกร่งที่มีจะผ่านพ้นทุกอย่างไปได้ อย่างน้อยก็มีลูกชายที่น่ารักอยู่ทั้งคน คิดเสียว่าทำเพื่อเขานะ" ป้าเหลียนพูดขณะที่กำลังทำแผลให้เว่ยเถียนเถียน

เว่ยเถียนเถียนรู้สึกซาบซึ้งใจและขอบคุณจากใจ "ขอบคุณค่ะป้าเหลียน ฉันไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากคำว่าขอบคุณ ฉันเองก็ตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตต่อไปให้ดี ขอให้เด็กน้อยคนนี้เติบโตอย่างเข้มแข็งก็เพียงพอแล้ว"

"แล้วคิดว่าจะทำอะไรต่อไปล่ะ ที่ใกล้ตลาด ขายของก็ได้นะ" ป้าเหลียนถาม

"สิ่งที่คิดออกเป็นอย่างแรกก็คือขายของนี่แหละค่ะ แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะขายอะไรดี เดินผ่านตลาดมาก็เห็นว่ามีของขายอยู่มากมายกลัวจะไปซ้ำกับคนอื่นเขา อีกอย่างถ้าจะเปิดร้านก็คงต้องยื่นเรื่องขอแล้วต้องรอใบอนุญาตอีกนานเลยค่ะกว่าจะขายได้" เว่ยเถียนเถียนตอบ

ป้าเหลียนจับมือเว่ยเถียนเถียนอย่างอ่อนโยน "เอาอย่างนนี้ ตอนนี้อย่างเพิ่งคิดมากเลย พักผ่อนให้หายดีก่อน พอคิดออกแล้วก็มาบอกป้า เรื่องใบอนุญาตน่ะไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเดี๋ยวป้าให้ลูกชายของป้าช่วยจัดการให้ เขาเป็นสารวัตรทหารอยู่ประจำการที่เมืองนี้แหละ"

"ขอบคุณค่ะป้า" เว่ยเถียนพยักหน้ารับ

หลังจากที่ได้ห้องเช่าแล้ว สองแม่ลูกพักผ่อน วันนี้เจอเรื่องหนัก ๆ และเหนื่อยมาทั้งวันแล้วจึงคิดว่าพักเอาแรงกันก่อนเดี๋ยวพรุ่งนี้พร้อมแล้วค่อยคิดหาวิธีทำมาหากินกัน สองแม่ลูกนอนหลับไปบนเตียงที่ไม่มีแม้แต่ที่นอน แต่เป็นเพราะความเหนื่อยล้าจึงทำให้หลับได้โดยที่ไม่ต้องสนใจว่าเตียงจะแข็งขนาดไหน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 6 มิติแห่งความหวัง

    เว่ยเถียนเถียนตื่นขึ้นมาในตอนบ่าย ทว่าเธอก็ยังรู้สึกปวดหัวอยู่ไม่น้อย อาจจะเป็นเพราะความตึงเครียดที่เจอมาตลอดทั้งวันก็เลยทำให้ไม่สบายเนื้อสบายตัวสักเท่าไร ส่วนลูกชายวัยห้าขวบของเธอนั้นกำลังเดินไปเดินมาเพื่อสำรวจห้องเช่าที่ซึ่งเป็นบ้านใหม่ของพวกเขาอยู่เธอหันไปพูดกับจางเสวียอี้ลูกชายอันเป็นแสงสว่างในชีวิตของเธอ "แม่ขอพักผ่อนต่อสักหน่อยนะเสวียอี้ ส่วนลูกอยากไปสำรวจรอบ ๆ บ้านใหม่หรือเปล่า"จางเสวียอี้ยิ้มอย่างกระตือรือร้น "ครับแม่ ผมอยากไปสำรวจดูรอบ ๆ นิดหน่อย จะได้รู้ว่าแถวบ้านใหม่นี้มีอะไรบ้าง”"งั้นก็ไปเถอะ แต่อย่าไปไกลเกินไปนะและกลับบ้านก่อนค่ำด้วย" เว่ยเถียนเถียนยิ้มให้ลูกชายจางเสวียอี้พยักหน้าและออกจากบ้านเช่าด้วยความตื่นเต้น เขามองดูรอบ ๆ บริเวณที่พักใหม่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทุกอย่างดูแปลกตาและน่าสนใจสำหรับเด็กน้อยอย่างเขา บ้านเช่าของพวกเขาอยู่ใกล้กับตลาด ทำให้ได้เห็นผู้คนมากมายที่มาเดินซื้อของ จางเสวียอี้เดินผ่านร้านค้าต่าง ๆ ที่มีสินค้ามากมายทั้งของกิน ของใช้ และของตกแต่งในขณะที่จางเสวียอี้สำรวจตลาดก็ได้ยินเสียงพูดคุยและเสียงหัวเรา

    Last Updated : 2025-04-10
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 7 น้ำเต้าหู้

    แม่ลูกกินข้าวกันเสร็จก็เริ่มทำความสะอาดบ้าน เว่ยเถียนเถียนสำรวจดูข้าวของในบ้านว่ามีอะไรพอใช้ได้บ้าง เธอเดินไปที่ห้องครัวแล้วเปิดดูภายในตู้พบว่ามีหม้อใบใหญ่สภาพดีวางอยู่บนชั้นล่างสุด ข้าง ๆ กันมีถังและกะละมังสองสามใบ เธอยังเห็นกระทะและอุปกรณ์ครัวอื่น ๆ อีกเล็กน้อยที่สามารถใช้ในการทำอาหารได้ เธอคิดกับตัวเองว่า “เราควรจะใช้ของเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ เริ่มจากทำอะไรที่ง่าย ๆ และราคาไม่แพงขายก่อน”เมื่อหันไปมองลูกชายที่กำลังเช็ดโต๊ะอยู่ ความทรงจำของเจ้าของร่างก็ผุดขึ้นมาในหัวใจ เธอนึกถึงตอนที่จางเสวียอี้ยังเด็กเขาชอบกินน้ำเต้าหู้มาก เว่ยเถียนเถียนมักจะต้มน้ำเต้าหู้ร้อน ๆ ให้เขากินทุกเช้าก่อนที่เธอจะออกไปทำงานที่คอมมูน ความสุขของลูกชายในตอนนั้นเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยลืมเลือนเมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงตัดสินใจที่จะทำน้ำเต้าหู้ขาย เธอเดินเข้าไปใกล้ลูกชายที่กำลังเช็ดโต๊ะอย่างขยันขันแข็ง"เสวียอี้" เธอเรียกลูกชายด้วยน้ำเสียงอบอุ่นจางเสวียอี้เงยหน้าขึ้นมองแม่ "ครับแม่ มีอะไรให้ผมช่วยอีกไหมครับ""แม่ว่าพวกเราทำน้ำเต้าหู้ขายกันดีไหม น่าจะเป็นอะไรที่ทำง่ายแ

    Last Updated : 2025-04-11
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 8 มีน้ำเต้าหู้แล้วก็ต้องมีปาท่องโก๋ด้วยสิ

    หลังจากที่เห็นผลตอบรับจากการขายน้ำเต้าหู้ในวันแรกดีเกินคาดเว่ยเถียนเถียนก็เริ่มคิดแผนการสำหรับวันถัดไป เธอตัดสินใจว่าจะเพิ่มปริมาณน้ำเต้าหู้ให้มากขึ้นและยังมีความคิดที่จะเพิ่มเมนูใหม่คือปาท่องโก๋เข้ามาขายควบคู่กันด้วย เนื่องจากน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋เป็นของคู่กันที่หลายคนชื่นชอบเช้าวันรุ่งขึ้นเว่ยเถียนเถียนปลุกจางเสวียอี้แต่เช้าเพื่อมาขายย้ำเต้าหู้ช่วย หลังจากปิดร้านก็ชวนกันไปตลาดเพื่อหาซื้อของที่จำเป็นสำหรับการขยายกิจการเล็ก ๆ ของพวกเขา"เสวียอี้...วันนี้เราจะไปซื้อหม้อใบใหญ่กว่าเดิมนะ จะได้ทำทีเดียวได้เยอะ ๆ หน่อย" เว่ยเถียนเถียนบอกลูกชายจางเสวียอี้พยักหน้ารับอย่างตื่นเต้น การได้ไปเดินตลาดและช่วยแม่เลือกของเป็นสิ่งที่เขาอยากทำเป็นอย่างยิ่งทั้งสองเดินทางมาถึงตลาด เว่ยเถียนเถียนเดินเลือกหม้อขนาดใหญ่กว่าที่เคยใช้ พร้อมทั้งเลือกเตาที่สามารถวางได้หน้าร้าน เพื่อจะได้ทำน้ำเต้าหู้สด ๆ ให้ลูกค้าดูได้เลย นอกจากนี้ยังเดินหาซื้ออุปกรณ์สำหรับการทำปาท่องโก๋ ทั้งกระทะใบใหญ่ ตะหลิว ไม้นวดแป้ง และอื่น ๆ อีกมากมายหลังจากได้ของครบทั้งสองคนก็เดินทางกลับบ้าน จางเส

    Last Updated : 2025-04-12
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 9 กลับมาเยี่ยมบ้าน

    หัวหน้าหมู่หยางป๋อประจำการอยู่ที่ค่ายทหารชายแดนได้รับอนุญาตให้ลาพักเป็นเวลาสั้นๆ เพื่อกลับมาเยี่ยมบ้านหลังจากที่เขาต้องใช้ชีวิตในค่ายทหารมากว่าหกปี ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงหยางป๋อเดินทางมาด้วยรถไฟใช้เวลาร่วมสามวันสามคืน เมื่อรถไฟหยุดที่สถานีในเมืองเขาก็ก้าวลงจากรถไฟด้วยท่าทางองอาจ มาดมั่น ชุดเครื่องแบบทหารที่ตัดเย็บอย่างดีทำให้ดูมีสง่าราศี รูปร่างสูงใหญ่ของเขาและกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งจากการฝึกซ้อมที่หนักหน่วงทำให้ผู้คนรอบข้างต่างต้องชื่นชม หยางป๋อในวัยยี่สิบหกปีนั้นเป็นหนุ่มหล่อที่มีเสน่ห์อย่างมาก ใบหน้าคมเข้มและดวงตาที่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่น ทำให้สาวๆ ที่เดินผ่านไปมาต่างพากันมองตามด้วยความสนใจสายลมเย็นๆ ของฤดูใบไม้ร่วงพัดผ่านมาพร้อมกับใบไม้ที่ร่วงหล่น หยางป๋อสูดลมหายใจลึกๆ รู้สึกสดชื่นที่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดอีกครั้ง หลังจากที่ต้องอดทนกับการฝึกซ้อมและภารกิจหนักหน่วงที่ค่ายทหารมาตลอด หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสุขที่ได้กลับมาเจอครอบครัวเขามองไปรอบๆ สถานีรถไฟที่คุ้นเคย เห็นร้านค้าขนาดเล็กที่ยังคงตั้งอยู่ในที่เดิม ๆ ผู้คนเดินจับจ่ายซื้อของกันอย่างคึก

    Last Updated : 2025-04-13
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 10 รักแรก

    หยางป๋อเดินทางกลับมาถึงบ้าน สายลมอ่อนพัดผ่านท้องทุ่งนาและกลิ่นหอมของดอกไม้ลอยมาตามลม บรรยากาศที่บ้านเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความตื่นเต้น เมื่อคนในครอบครัวเห็นเขาก้าวเข้ามาในบ้าน นางหลิวหู่แม่ของหยางป๋อรีบวิ่งออกมาพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า นางโผกอดลูกชายแน่น หยางสุ่ยพ่อของหยางป๋อซึ่งเป็นชายชราที่ยังแข็งแรงแม้จะมีอายุแล้วก็ยิ้มกว้างพลางตบหลังลูกชายเบา ๆ"ต้าป๋อ ลูกกลับมาแล้ว แม่คิดถึงลูกมาก" นางหลิวหู่พูดด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความดีใจ"ผมก็คิดถึงพ่อกับแม่ครับ" หยางป๋อตอบพลางยิ้มให้แม่ของเขา เขาหันไปกอดพ่อและยิ้มให้กับน้องสาวที่กำลังยืนยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวเรียงเป็นแถวทันทีที่ข่าวการกลับมาของหยางป๋อแพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้าน เพื่อนบ้านที่สนิทกับบ้านหยางเขาก็เริ่มทยอยกันมาเยี่ยมเยียน ทุกคนต่างนำของขวัญและสิ่งของมามอบให้เขาเป็นการต้อนรับกลับบ้าน มีทั้งผลไม้สด อาหารพื้นบ้าน และข้าวของเครื่องใช้ในค่ำคืนนั้นคนบ้านหยางได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ที่ลานบ้าน แสงไฟจากโคมสว่างไสวทั่วบริเวณ กลิ่นหอมของอาหารที่นางหยางเจี่ยทำเองลอยมาตามลม มีทั้งเป็ดตุ๋น หมูสามชั้นต้มซีอ

    Last Updated : 2025-04-14
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 11 ความฝันของเด็กชาย

    บทที่ 11 ความฝันของเด็กชายเช้าวันถัดมาหยางป๋อตื่นขึ้นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง นาฬิกาในบ้านยังแสดงเวลาเพียงแค่ตีห้า เขาหยิบชุดธรรมดาที่ดูดีและเหมาะสมมาสวมใส่ เลือกเสื้อผ้าสีเรียบแต่มีรสนิยมที่สะท้อนถึงความเรียบร้อย เมื่อลงมาจากบ้านก็คว้าเสื้อคลุมและหมวกอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเดินออกไปยังลานหน้าบ้านพ่อแม่และน้องสาวของเขายืนอยู่ที่หน้าบ้าน เห็นเขากำลังเตรียมตัวออกจากบ้านในช่วงเวลาตรู่จึงหากันมองอย่างสงสัย ในใจของพวกเขาก็เต็มไปด้วยคำถามว่าทำไมถึงต้องเร่งรีบออกจากบ้านแต่เช้าขนาดนี้"ลูกชายของแม่จะไปไหนตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้" นางหลิวหู่ถามด้วยความสงสัยขณะยืนอยู่ที่หน้าบ้านหยางป๋อหันมาหาแม่และยิ้มอย่างอบอุ่น "ผมแค่จะเข้าไปในเมืองนิดหน่อยครับ ผมต้องการซื้อของบางอย่าง และยังมีเรื่องที่อยากทำ""พี่ชายจะไปซื้ออะไรเหรอคะ" หยางเสี่ยวเจียงน้องสาวของเขาถามขึ้น"พี่ตั้งใจจะซื้ออาหารเช้าให้พวกเราน่ะ พี่ชอบน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋มาก” หยางป๋อตอบ&ld

    Last Updated : 2025-04-15
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 12 ลูกค้าประจำ

    บทที่ 12 ลูกค้าประจำหยางป๋อยังคงมาซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ในตอนเช้าทุกวัน ทั้งสองคนค่อยๆสนิทสนมกันมากขึ้น จากที่เคยซื้อกลับไปกินที่บ้าน ตอนนี้เว่ยเถียนเถียนได้จัดโต๊ะเก้าอี้ให้เขานั่งกินที่ร้านแล้ว จางเสวียอี้ก็ดีใจมากที่ได้พบกับคุณลุงทุกวัน พอได้พูดคุยกันมากขึ้นเด็กน้อยก็ยิ่งชื่นชอบเขาเช้าวันหนึ่งในขณะที่หยางป๋อนั่งกินน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ จางเสวียอี้ก็เดินเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้ม“คุณลุงหยางครับ เล่าเรื่องในค่ายทหารให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ” จางเสวียอี้ถามด้วยความตื่นเต้นหยางป๋อยิ้มและวางถ้วยน้ำเต้าหู้ลง “ได้สิ ชีวิตในค่ายทหารนั้นมีหลายอย่างที่น่าสนใจ เสวียอี้อยากจะฟังเรื่องอะไรก่อนล่ะ”จางเสวียอี้ตาเป็นประกาย นั่งลงข้างๆ เขา “ในค่ายทหารมีอะไรบ้างครับคุณลุง”หยางป๋อเริ่มเล่า “ในค่ายทหาร พวกเรามีกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำกันทุกวัน เราตื่นเช้ากันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางจากนั้นเราก็ทำการฝึกซ้อมร่างกาย วิ่งออ

    Last Updated : 2025-04-16
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 1 หญิงสาวที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

    บนชั้นสิบสี่ในตึกแห่งหนึ่งใจกลางกรุงปักกิ่ง ท่ามกลางความวุ่นวายในอาคารสำนักงานหญิงสาวคนหนึ่งกำลังยุ่งอยู่กับงานที่กองจนแทบจะสูงท่วมหัว ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น เพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ต่างก็มีชะตากรรมที่ไม่ต่างกันเจินเหยาหญิงสาววัยสามสิบปีผู้มุ่งมั่นในการทำงานและการเรียน หลังจากใช้เวลาในวัยหนุ่มสาวไปกับการทำงานเพื่อสร้างฐานะ เจินเหยาได้เข้าทำงานในบริษัทส่งออกวัตถุดิบจำพวกอาหารแห้งจากประเทศจีน งานของเธอเกี่ยวข้องกับการติดต่อประสานงานกับลูกค้าต่างประเทศ รวมถึงการจัดการเรื่องเอกสารศุลกากรเพื่อส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ด้วยความรับผิดชอบและความสามารถที่โดดเด่น เจินเหยาได้รับความไว้วางใจจากผู้บริหารและได้รับมอบหมายงานที่ท้าทายอยู่เสมอหลังจากส่งอีเมลแจ้งข่าวดีให้กับลูกค้าและหัวหน้าแล้วเจินเหยาก็รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก เธอหันมองนาฬิกาบนผนังที่บอกเวลาเกือบห้าทุ่ม วันนี้เป็นวันที่งานของเธอต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่ เมื่อสินค้าไม่ผ่านด่านศุลกากรขาเข้าของประเทศปลายทาง ทำให้เกิดความล่าช้าและอาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของบริษัท เจินเหยาจำเป็นต้องรีบแก้ไขสถานการณ์นี้ให้เร็วที

    Last Updated : 2025-04-05

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 12 ลูกค้าประจำ

    บทที่ 12 ลูกค้าประจำหยางป๋อยังคงมาซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ในตอนเช้าทุกวัน ทั้งสองคนค่อยๆสนิทสนมกันมากขึ้น จากที่เคยซื้อกลับไปกินที่บ้าน ตอนนี้เว่ยเถียนเถียนได้จัดโต๊ะเก้าอี้ให้เขานั่งกินที่ร้านแล้ว จางเสวียอี้ก็ดีใจมากที่ได้พบกับคุณลุงทุกวัน พอได้พูดคุยกันมากขึ้นเด็กน้อยก็ยิ่งชื่นชอบเขาเช้าวันหนึ่งในขณะที่หยางป๋อนั่งกินน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ จางเสวียอี้ก็เดินเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้ม“คุณลุงหยางครับ เล่าเรื่องในค่ายทหารให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ” จางเสวียอี้ถามด้วยความตื่นเต้นหยางป๋อยิ้มและวางถ้วยน้ำเต้าหู้ลง “ได้สิ ชีวิตในค่ายทหารนั้นมีหลายอย่างที่น่าสนใจ เสวียอี้อยากจะฟังเรื่องอะไรก่อนล่ะ”จางเสวียอี้ตาเป็นประกาย นั่งลงข้างๆ เขา “ในค่ายทหารมีอะไรบ้างครับคุณลุง”หยางป๋อเริ่มเล่า “ในค่ายทหาร พวกเรามีกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำกันทุกวัน เราตื่นเช้ากันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางจากนั้นเราก็ทำการฝึกซ้อมร่างกาย วิ่งออ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 11 ความฝันของเด็กชาย

    บทที่ 11 ความฝันของเด็กชายเช้าวันถัดมาหยางป๋อตื่นขึ้นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง นาฬิกาในบ้านยังแสดงเวลาเพียงแค่ตีห้า เขาหยิบชุดธรรมดาที่ดูดีและเหมาะสมมาสวมใส่ เลือกเสื้อผ้าสีเรียบแต่มีรสนิยมที่สะท้อนถึงความเรียบร้อย เมื่อลงมาจากบ้านก็คว้าเสื้อคลุมและหมวกอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเดินออกไปยังลานหน้าบ้านพ่อแม่และน้องสาวของเขายืนอยู่ที่หน้าบ้าน เห็นเขากำลังเตรียมตัวออกจากบ้านในช่วงเวลาตรู่จึงหากันมองอย่างสงสัย ในใจของพวกเขาก็เต็มไปด้วยคำถามว่าทำไมถึงต้องเร่งรีบออกจากบ้านแต่เช้าขนาดนี้"ลูกชายของแม่จะไปไหนตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้" นางหลิวหู่ถามด้วยความสงสัยขณะยืนอยู่ที่หน้าบ้านหยางป๋อหันมาหาแม่และยิ้มอย่างอบอุ่น "ผมแค่จะเข้าไปในเมืองนิดหน่อยครับ ผมต้องการซื้อของบางอย่าง และยังมีเรื่องที่อยากทำ""พี่ชายจะไปซื้ออะไรเหรอคะ" หยางเสี่ยวเจียงน้องสาวของเขาถามขึ้น"พี่ตั้งใจจะซื้ออาหารเช้าให้พวกเราน่ะ พี่ชอบน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋มาก” หยางป๋อตอบ&ld

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 10 รักแรก

    หยางป๋อเดินทางกลับมาถึงบ้าน สายลมอ่อนพัดผ่านท้องทุ่งนาและกลิ่นหอมของดอกไม้ลอยมาตามลม บรรยากาศที่บ้านเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความตื่นเต้น เมื่อคนในครอบครัวเห็นเขาก้าวเข้ามาในบ้าน นางหลิวหู่แม่ของหยางป๋อรีบวิ่งออกมาพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า นางโผกอดลูกชายแน่น หยางสุ่ยพ่อของหยางป๋อซึ่งเป็นชายชราที่ยังแข็งแรงแม้จะมีอายุแล้วก็ยิ้มกว้างพลางตบหลังลูกชายเบา ๆ"ต้าป๋อ ลูกกลับมาแล้ว แม่คิดถึงลูกมาก" นางหลิวหู่พูดด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความดีใจ"ผมก็คิดถึงพ่อกับแม่ครับ" หยางป๋อตอบพลางยิ้มให้แม่ของเขา เขาหันไปกอดพ่อและยิ้มให้กับน้องสาวที่กำลังยืนยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวเรียงเป็นแถวทันทีที่ข่าวการกลับมาของหยางป๋อแพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้าน เพื่อนบ้านที่สนิทกับบ้านหยางเขาก็เริ่มทยอยกันมาเยี่ยมเยียน ทุกคนต่างนำของขวัญและสิ่งของมามอบให้เขาเป็นการต้อนรับกลับบ้าน มีทั้งผลไม้สด อาหารพื้นบ้าน และข้าวของเครื่องใช้ในค่ำคืนนั้นคนบ้านหยางได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ที่ลานบ้าน แสงไฟจากโคมสว่างไสวทั่วบริเวณ กลิ่นหอมของอาหารที่นางหยางเจี่ยทำเองลอยมาตามลม มีทั้งเป็ดตุ๋น หมูสามชั้นต้มซีอ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 9 กลับมาเยี่ยมบ้าน

    หัวหน้าหมู่หยางป๋อประจำการอยู่ที่ค่ายทหารชายแดนได้รับอนุญาตให้ลาพักเป็นเวลาสั้นๆ เพื่อกลับมาเยี่ยมบ้านหลังจากที่เขาต้องใช้ชีวิตในค่ายทหารมากว่าหกปี ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงหยางป๋อเดินทางมาด้วยรถไฟใช้เวลาร่วมสามวันสามคืน เมื่อรถไฟหยุดที่สถานีในเมืองเขาก็ก้าวลงจากรถไฟด้วยท่าทางองอาจ มาดมั่น ชุดเครื่องแบบทหารที่ตัดเย็บอย่างดีทำให้ดูมีสง่าราศี รูปร่างสูงใหญ่ของเขาและกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งจากการฝึกซ้อมที่หนักหน่วงทำให้ผู้คนรอบข้างต่างต้องชื่นชม หยางป๋อในวัยยี่สิบหกปีนั้นเป็นหนุ่มหล่อที่มีเสน่ห์อย่างมาก ใบหน้าคมเข้มและดวงตาที่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่น ทำให้สาวๆ ที่เดินผ่านไปมาต่างพากันมองตามด้วยความสนใจสายลมเย็นๆ ของฤดูใบไม้ร่วงพัดผ่านมาพร้อมกับใบไม้ที่ร่วงหล่น หยางป๋อสูดลมหายใจลึกๆ รู้สึกสดชื่นที่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดอีกครั้ง หลังจากที่ต้องอดทนกับการฝึกซ้อมและภารกิจหนักหน่วงที่ค่ายทหารมาตลอด หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสุขที่ได้กลับมาเจอครอบครัวเขามองไปรอบๆ สถานีรถไฟที่คุ้นเคย เห็นร้านค้าขนาดเล็กที่ยังคงตั้งอยู่ในที่เดิม ๆ ผู้คนเดินจับจ่ายซื้อของกันอย่างคึก

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 8 มีน้ำเต้าหู้แล้วก็ต้องมีปาท่องโก๋ด้วยสิ

    หลังจากที่เห็นผลตอบรับจากการขายน้ำเต้าหู้ในวันแรกดีเกินคาดเว่ยเถียนเถียนก็เริ่มคิดแผนการสำหรับวันถัดไป เธอตัดสินใจว่าจะเพิ่มปริมาณน้ำเต้าหู้ให้มากขึ้นและยังมีความคิดที่จะเพิ่มเมนูใหม่คือปาท่องโก๋เข้ามาขายควบคู่กันด้วย เนื่องจากน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋เป็นของคู่กันที่หลายคนชื่นชอบเช้าวันรุ่งขึ้นเว่ยเถียนเถียนปลุกจางเสวียอี้แต่เช้าเพื่อมาขายย้ำเต้าหู้ช่วย หลังจากปิดร้านก็ชวนกันไปตลาดเพื่อหาซื้อของที่จำเป็นสำหรับการขยายกิจการเล็ก ๆ ของพวกเขา"เสวียอี้...วันนี้เราจะไปซื้อหม้อใบใหญ่กว่าเดิมนะ จะได้ทำทีเดียวได้เยอะ ๆ หน่อย" เว่ยเถียนเถียนบอกลูกชายจางเสวียอี้พยักหน้ารับอย่างตื่นเต้น การได้ไปเดินตลาดและช่วยแม่เลือกของเป็นสิ่งที่เขาอยากทำเป็นอย่างยิ่งทั้งสองเดินทางมาถึงตลาด เว่ยเถียนเถียนเดินเลือกหม้อขนาดใหญ่กว่าที่เคยใช้ พร้อมทั้งเลือกเตาที่สามารถวางได้หน้าร้าน เพื่อจะได้ทำน้ำเต้าหู้สด ๆ ให้ลูกค้าดูได้เลย นอกจากนี้ยังเดินหาซื้ออุปกรณ์สำหรับการทำปาท่องโก๋ ทั้งกระทะใบใหญ่ ตะหลิว ไม้นวดแป้ง และอื่น ๆ อีกมากมายหลังจากได้ของครบทั้งสองคนก็เดินทางกลับบ้าน จางเส

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 7 น้ำเต้าหู้

    แม่ลูกกินข้าวกันเสร็จก็เริ่มทำความสะอาดบ้าน เว่ยเถียนเถียนสำรวจดูข้าวของในบ้านว่ามีอะไรพอใช้ได้บ้าง เธอเดินไปที่ห้องครัวแล้วเปิดดูภายในตู้พบว่ามีหม้อใบใหญ่สภาพดีวางอยู่บนชั้นล่างสุด ข้าง ๆ กันมีถังและกะละมังสองสามใบ เธอยังเห็นกระทะและอุปกรณ์ครัวอื่น ๆ อีกเล็กน้อยที่สามารถใช้ในการทำอาหารได้ เธอคิดกับตัวเองว่า “เราควรจะใช้ของเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ เริ่มจากทำอะไรที่ง่าย ๆ และราคาไม่แพงขายก่อน”เมื่อหันไปมองลูกชายที่กำลังเช็ดโต๊ะอยู่ ความทรงจำของเจ้าของร่างก็ผุดขึ้นมาในหัวใจ เธอนึกถึงตอนที่จางเสวียอี้ยังเด็กเขาชอบกินน้ำเต้าหู้มาก เว่ยเถียนเถียนมักจะต้มน้ำเต้าหู้ร้อน ๆ ให้เขากินทุกเช้าก่อนที่เธอจะออกไปทำงานที่คอมมูน ความสุขของลูกชายในตอนนั้นเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยลืมเลือนเมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงตัดสินใจที่จะทำน้ำเต้าหู้ขาย เธอเดินเข้าไปใกล้ลูกชายที่กำลังเช็ดโต๊ะอย่างขยันขันแข็ง"เสวียอี้" เธอเรียกลูกชายด้วยน้ำเสียงอบอุ่นจางเสวียอี้เงยหน้าขึ้นมองแม่ "ครับแม่ มีอะไรให้ผมช่วยอีกไหมครับ""แม่ว่าพวกเราทำน้ำเต้าหู้ขายกันดีไหม น่าจะเป็นอะไรที่ทำง่ายแ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 6 มิติแห่งความหวัง

    เว่ยเถียนเถียนตื่นขึ้นมาในตอนบ่าย ทว่าเธอก็ยังรู้สึกปวดหัวอยู่ไม่น้อย อาจจะเป็นเพราะความตึงเครียดที่เจอมาตลอดทั้งวันก็เลยทำให้ไม่สบายเนื้อสบายตัวสักเท่าไร ส่วนลูกชายวัยห้าขวบของเธอนั้นกำลังเดินไปเดินมาเพื่อสำรวจห้องเช่าที่ซึ่งเป็นบ้านใหม่ของพวกเขาอยู่เธอหันไปพูดกับจางเสวียอี้ลูกชายอันเป็นแสงสว่างในชีวิตของเธอ "แม่ขอพักผ่อนต่อสักหน่อยนะเสวียอี้ ส่วนลูกอยากไปสำรวจรอบ ๆ บ้านใหม่หรือเปล่า"จางเสวียอี้ยิ้มอย่างกระตือรือร้น "ครับแม่ ผมอยากไปสำรวจดูรอบ ๆ นิดหน่อย จะได้รู้ว่าแถวบ้านใหม่นี้มีอะไรบ้าง”"งั้นก็ไปเถอะ แต่อย่าไปไกลเกินไปนะและกลับบ้านก่อนค่ำด้วย" เว่ยเถียนเถียนยิ้มให้ลูกชายจางเสวียอี้พยักหน้าและออกจากบ้านเช่าด้วยความตื่นเต้น เขามองดูรอบ ๆ บริเวณที่พักใหม่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทุกอย่างดูแปลกตาและน่าสนใจสำหรับเด็กน้อยอย่างเขา บ้านเช่าของพวกเขาอยู่ใกล้กับตลาด ทำให้ได้เห็นผู้คนมากมายที่มาเดินซื้อของ จางเสวียอี้เดินผ่านร้านค้าต่าง ๆ ที่มีสินค้ามากมายทั้งของกิน ของใช้ และของตกแต่งในขณะที่จางเสวียอี้สำรวจตลาดก็ได้ยินเสียงพูดคุยและเสียงหัวเรา

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 5 เริ่มต้นชีวิติใหม่

    “ฉันมีเรื่องหนึ่งที่จะขอร้องค่ะ” เว่ยเถียนเถียนพูดขึ้น“เรื่องอะไรก็ว่ามาเถอะ ถ้าถูกต้องตามหลักฏหมายย่อมได้อย่างแน่นอน” หัวหน้าหมู่บ้านตอบ“ฉันอยากให้ลูกชายไปกับฉันด้วยค่ะ” เว่ยเถียนตอบเสียงดังเพื่อประกาศให้ชาวบ้านที่อยู่ที่นั่นรู้ตัว “เพราะว่าบ้านจางตอนนี้ไม่มีเงินเลย ช่วงที่ผ่านก็ใช้เงินมรดกที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ฉันเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านมาตลอด จางกวนหย่งเองก็ไม่มีงานการให้ทำเป็นหลักแหล่ง แม้กระทั่งงานที่คอมมูนเขาก็ไปไม่ทำเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นฉันคิดว่าเขาและแม่ของเขาไมสามารถเลี้ยงดูอบรมให้ลูกชายของฉันเป็นคนดีได้ ดังนั้นการให้เขาไปอยู่กับฉันจะเป็นการดีที่สุด” เว่ยเถียนเถียนอธิบาย“ได้ยังไงกัน เด็กแซ่จางก็ต้องเป็นลูกหลานบ้านจาง ยังไงเขาก็ต้องอยู่ที่นี่” นางหยางเจี่ยรีบคัดค้านขึ้นมาทันที“แต่ว่าฉันมีเงินมากพอที่จะเลี้ยงลูกได้” เว่ยเถียนเถียนยืนยัน “และฉันก็มั่นใจว่าจะสอนลูกให้เป็นคนดีได้ ไม่ใช่ครอบครัวที่พ่อติดการพนัน ย่าและอาสาวที่เอาแต่ใช้เงินไปวัน ๆ“แล้วออกจากบ้านไปเธอจะไ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 4 ฉันจะไม่ยอมให้เป็นแบบนี้อีกต่อไป

    เจินเหยาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกปวดหัวอย่างหนัก มือข้างหนึ่งสัมผัสไปที่ศีรษะพบว่าเลือดไหลออกมานิดหน่อย เธอเริ่มจำได้ว่าตอนที่ปวดหัวรุนแรงนั้นอาจจะล้มแล้วไปกระแทกอะไรเข้า แต่เมื่อลืมตาขึ้นมากลับต้องตกใจอย่างมากเพราะที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลแต่กลับเป็นบ้านแบบชนบทหลังหนึ่งเธอพยายามมองไปรอบ ๆ เพื่อทำความเข้าใจว่าตัวเองอยู่ที่ไหน บ้านหลังนี้ดูเก่าและมีสภาพทรุดโทรม มีเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ดูเหมือนทำเองและไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าทันสมัยใด ๆ ที่เธอคุ้นเคย เจินเหยารู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างดูแปลกตาและเหมือนกับว่าอยู่คนละยุคสมัยอย่างไรอย่างนั้นเสียงเด็กร้องไห้ดังมาจากด้านข้าง เจินเหยาหันไปมองตามเสียงนั้นพบว่าเป็นเด็กผู้ชายอายุประมาณห้าขวบ เด็กน้อยนั่งอยู่ข้าง ๆ และกำลังร้องไห้เสียใจ แต่เมื่อเขาเห็นว่าเธอฟื้นขึ้นมาแล้วก็เปลี่ยนสีหน้าและร้องตะโกนด้วยความดีใจ "แม่ฟื้นแล้ว ๆ!"เด็กน้อยพุ่งเข้ามากอดเจินเหยาด้วยความรักและความห่วงใย ทำให้รู้สึกอึดอัดแต่ก็อบอุ่นในเวลาเดียวกัน เธอพยายามปรับตัวและหันกลับมามองเด็กน้อยที่กอดเธอแน่น น้ำตาของเขายังเปียกแก้มอยู่และแววตาก็เต็มไปด้วยความหวังเ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status