บทที่ 37 ฝีมือฮูหยินเทียนหลันเซ่อกำปิ่นแน่นกัดฟันทำเป็นเมินเฉยแต่ทว่าเรื่องนี้เขาไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือของเยิ่นเม่ยเม่ย เขาจำได้เมื่อครั้งก่อนเพียงนางเห็นอ้ายเยว่รังแกสัตว์นางยังเข้าไปห้ามจนอ้ายเยว่เอาไม้ฟาดเข้าที่ขาจนล้มลงกับพื้นอย่างเจ็บปวด เรื่องโหดร้ายเช่นนี้นางไม่อาจจะทำได้แน่ ๆ เรื่องนี้ต้องมีผู้ใดใส่ร้ายนางเขาจะสืบหาให้ได้เพื่อลงโทษให้ถูกคน จึงสั่งให้เยิ่นเม่ยเม่ยอยู่เพียงในห้องเพื่อความปลอดภัยของนาง เขาเดินมาถึงหน้าห้องของท่านแม่พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่เขารู้ดีว่าบุตรชายของเขาจะเจ็บปวดมากเพียงใดเมื่อรู้ว่าสัตว์เลี้ยงได้จากไปแล้ว ปัง ปัง ปัง" เทียนหลันเซ่อเคาะประตูแม่นมที่อยู่ด้านในมาเปิดประตูให้ อ้ายเยว่ดีใจวิ่งหน้าตั้งมาหาท่านพ่ออย่างดีใจ"ท่านพ่อท่านพบมูมูแล้วหรือขอรับ ไหนขอรับมูมูของข้า" อ้ายเยว่หันมองซ้ายมองขวาหาแมวของตน เทียนหลันเซ่อย่อตัวลงใช้มือทั้งสองข้างจับที่แขนของอ้ายเยว่แน่น "นั้นสิไหนลูกแมวล่ะแม่ทัพ "ฟางเหนียงได้เอ่ยถามเช่นหลานชาย"ข้าเจอแล้วขอรับท่านแม่ อ้ายเยว่พ่อมีเรื่องจะบอกเจ้าทุกสิ่งบนโลกนี้เกิดมาล้วนแต่จากไป วันนี้พบเจอพรุ้งนี้ต้องจากลาไม่มีสิ่งใดอยู่กับเรา
บทที่ 38 สืบหาคนร้ายตัวจริง อีกฝั่งของเรือน "ฮูหยินนอนพักเถอะเจ้าค่ะ ข้ารู้ว่าเรื่องทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของฮูหยินเรื่องนี้ข้าคิดว่าท่านแม่ทัพต้องให้ความเป็นธรรมเจ้าค่ะ " ไป๋ลู่มาส่งหลี่มี่พร้อมเอ่ยปลอบใจเมื่อเห็นสีหน้าของหลี่มี่ไม่ดีตั้งแต่เมื่อครู่ "ไม่ให้ข้าคิดมากได้อย่างไร ตอนนี้ทุกคนในเรือนไม่เว้นแม้กระทั่งบ่าวรับใช้ต่างก็คิดว่าเป็นฝีมือของข้า ตามคำกล่าวของหลิวอี้เฟ่ยแถมยังมีปิ่นนั้นอีกข้าจะหลุดพ้นข้อกล่าวหานี้ได้อย่างไร " แม้หลี่มี่จะเสียใจแต่ตอนนี้นางต้องตั้งสติครุ่นคิดว่าเรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือของใครกัน "จริงสิแล้วปิ่นนั่นไปอยู่ที่เกิดเหตุได้อย่างไรเจ้าคะ""ข้าคิดว่าต้องมีผู้ใดลักลอบเข้ามาในห้องตอนที่ข้าไม่อยู่แน่ ๆ เรื่องนี้อาจจะถูกเตรียมการมาอย่างดี""แต่ว่าวันนี้ฮูหยินอยู่ที่ห้องตลอดมิใช่หรือเจ้าคะ""นั้นสิ!! หรือจะเป็นตอนที่ออกไปตามหาลูกแมวทุกคนในเรือนต่างพากันวุ่นวายจึงไม่เป็นที่สังเกตอาจจะเป็นเช่นนั้นก็ได้แต่ข้าจะทำอย่างไรที่จะรู้ได้ว่าผู้ใดเข้ามาหากจะไล่ถามกับสาวใช้ทีละคนคงยากเพราะตอนนี้แม่ทัพสั่งให้ข้าอยู่เพียงในห้องเท่านั้น " หลี่มี่คิดไม่ตกคนที่นางสงสัยมากที่สุดมีเ
บทที่ 39 ลงโทษหลิวอี้เฟ่ยจิบชาอย่างสบายใจอยู่กับสาวใช้สายลมยามเย็นช่างเย็นสบายเหลือเกิน วันนี้ทั้งวันนางได้ยินสิ่งที่สาวซุบซิบนินทาต่อว่าเยิ่นเม่ยเม่ยยิ่งทำให้นางมีความสุขที่เห็นนางเป็นสตรีที่เหี้ยมโหดมิหนำซ้ำตอนนี้นางคงถูกอ้ายเยว่เกลียดเข้ากระดูกดำ นางจำสีหน้าแววตาของแม่ทัพที่รู้ว่าเป็นฝีมือของเยิ่นเม่ยเม่ยได้ดี ยิ่งนางคิดเห็นภาพนางยิ่งสะใจที่เยิ่นเม่ยเม่ยถูกแม่ทัพเมินเฉย "วันนี้ข้ามีความสุขจริง ๆ วันพรุ่งนี้ข้าจะเข้าตลาดเพื่อหาลูกแมวมาให้อ้ายเยว่ หากข้าทำเช่นนี้อ้ายเยว่คงดีใจไม่น้อยและจะชอบข้ามากกว่าเยิ่นเม่ยเม่ย ฮ่าฮ่า จากนั้นข้าจะเข้าไปหาท่านแม่ทัพเป่าหูให้เขาเกลียดเยิ่นเม่ยเม่ยและหันมามองข้าสตรีที่แสนดีเพรียบพร้อมทุกอย่าง อีกไม่นานข้าจะทีบหัวของเยิ่นเม่ยเม่ยออกจากเรือนแห่งนี้ จริงสิข้าต้องแสดงเป็นคนดีมีน้ำใจเสียหน่อยฮูหยินถูกสั่งกักขังอยู่ในห้องคงเหงาไม่น้อย ไปเถิดวันนี้ข้าจะนำสำรับไปมอบให้แก่ฮูหยินเองเพราะข้าอยากให้ใบหน้าของนางตอนนี้เสียจริงจะเป็นเช่นไรนะ " หลิวอี้เฟ่ยเอ่ยได้ลุกขึ้นเพื่อไปที่ห้องของเยิ่นเม่ยเม่ยอย่างที่นางได้บอกกับสาวใช้แต่ทันใดนั้นเองประตูห้องของนางได้ถูกเปิ
บทที่ 40 อยากให้มีความสุข"ขอบคุณท่านแม่ทัพนะเจ้าคะที่ทวงความยุติธรรมให้ข้า ข้านึกว่าท่านคิดว่าข้าเป็นคนทำเสียอีกตอนนั้นนี่ท่านเมินเฉยหัวใจของข้าเจ็บปวดไปหมด" หลี่มี่ขอบคุณเทียนหลันเซ่อเมื่อทั้งสองได้อยู่ด้วยกันหลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จสิ้น เทียนหลันเซ่อเข้ามาโอบกอดนางแน่น"ข้าต่างหากที่ต้องขอโทษเจ้าที่ทำให้เจ้าต้องเจ็บปวดหัวใจ ข้ามั่นใจตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ใช่ฝีมือของเจ้า แต่ที่ข้าทำเช่นนั้นเพราะต้องการให้หลิวอี้เฟ่ยตายใจต่างหาก ""ช่างรอบครอบเสียจริงนะเจ้าคะ ""ในเมื่อทุกอย่างจบสิ้นดีด้วยเช่นนี้เจ้าต้องมีรางวัลให้ข้ารู้หรือไม่? " เทียนหลันเซ่อซบลงซอกคอหันมาหอมแก้มขาวนวลของหลี่มี่ด้วยความคิดถึง "เดี๋ยวสิเจ้าคะ เรื่องนี้ใช่ว่าจะจบเพียงเท่านี้ข้าเกรงว่าหลิวอี้เฟ่ยจะเจ็บใจแค้นแล้วหาทางแก้แค้นคืนนะเจ้าคะ ท่านแม่ทัพอย่านิ่งนอนใจ""ข้ารู้แล้วข้าหาทางปกป้องทุกคนเองเจ้าไม่ต้องคิดมากเรื่องนี้หรอก เก็บแรงเอาไว้ครวญครางให้ข้าในค่ำคืนนี้เถิด"เทียนหลันเซ่อดวงตาเป็นกายประกายจ้องมองหลี่มี่ไม่วางตา"อ๊ายยย ! ท่านแม่ทัพเรายังไม่ได้กินอาหารเย็นเลยนะเจ้าคะ อีกอย่างข้าอยากไปหาอ้ายเยว่อีกด้วย ""เจ
บทที่ 41 คิดวางแผนอีกครั้งห้องของฟางเหนียง "ข้าไม่คิดเลยว่าหลิวอี้เฟ่ยจะโหดร้ายเช่นนี้ นางเป็นสตรีที่เพรียบพร้อมทุกอย่างเหตุใดถึงทำเช่นนี้กันนะ""ไม่แน่นะเจ้าคะ นี่อาจจะไม่ได้เป็นฝีมือของคุณหนูหลิวอี้เฟ่ยก็ได้ นี่อาจจะเป็นแผนของฮูหยินที่จะใส่ร้ายคุณหนูหลิวอี้เฟ่ยให้รับผิดแทนตนโดยการให้เงินบ่าวรับใช้เพื่อให้บอกว่าเห็นคุณหนูทำร้ายแมว""นั้นสิ ! ข้าเองก็เคยคิดเช่นนั้นเหมือนกัน จริงสิข้าได้ยินมาว่านางถูกแม่ทัพสั่งโบยข้าจะไปดูอาการนางสักหน่อยจะถามเรื่องนี้ให้รู้ความด้วย ว่านางได้ทำจริงหรือไม่ ? หรืออาจจะเป็นเช่นดั่งที่เจ้าเอ่ยมา" ฟางเหนียงลุกขึ้นเดินไปหาหลิวอี้เฟ่ยที่ห้องทันที ห้องของหลิวอี้เฟ่ย ตอนนี้นางกำลังนอนพักเพราะเจ็บบาดแผลจู่ ๆ สาวใช้ได้เดินเข้ามาอย่างรีบร้อนเพื่อรายงานให้นายหญิงของตนได้รับรู้"ฮูหยินรองเจ้าคะ ข้ามีเรื่องจะมารายงายเจ้าค่ะ ""เจ้าไม่เห็นหรือว่าข้านอนพักอยู่เสียงดังโวยวายอยู่ได้ มีเรื่องอะไรรีบเอ่ยมา""เมื่อครู่ข้าเห็นฮูหยินกับท่านแม่ทัพเดินเคียงคู่กันอย่างมีความสุขเจ้าค่ะ ทั้งสองพากันไปหาคุณชายอ้ายเยว่เหมือนตอนนี้คุณชายอ้ายเยว่เปิดใจยอมรับฮูหยินแล้ว เช่นนี้ฮูหย
บทที่ 42 ฮูหยินท้องแล้ว"ทำไมช่วงนี้ฉันถึงได้เหนื่อยแบบนี้นะ ทำอะไรนิดอะไรหน่อยก็เหนื่อยไปหมดแถมยังกินอะไรไม่ค่อยได้อีกด้วยหรือเป็นเพราะช่วงนี้อากาศหนาวหรือเปล่านะเลยทำให้ฉันเปลี่ยนไป " หลี่มี่นอนอยู่บนเตียงมือก่ายหน้าผากบ่นพึมพำอาการของตนเองในช่วงนี้ สักพักนางได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังเร่งรีบวิ่งตรงเข้ามาหา นางคิดว่าเป็นไป๋ลู่คงมีเรื่องอะไรถึงได้รีบร้อนวิ่งมากลับมาเช่นนี้นะ"ฮูหยินข้ารู้มาว่าเจ้าไม่สบายเจ้าเป็นอะไรมาหรือไม่?" น้ำเสียงร้อนรนเอ่ยถามเมื่อเดินมานั้งข้างกายของหลี่มี่ "ข้าคืดว่าไป๋ลู่ที่แท้เป็นท่านแม่ทัพนี่เอง ข้าสบายดีเจ้าค่ะไม่ได้เจ็บปวดตรงใดเลย" หลี่มี่รีบลุกขึ้นเมื่อเห็นว่าท่านแม่ทัพมาหาตนเอง เทียนหลันเซ่อยื่นมือแตะหน้าผากของหลี่มี่เพื่อตรวจสอบว่านางไม่สบายจริงหรือไม่ แต่ร่างกายของนางปกติเช่นอย่างที่นางกล่าวบอกเขา"แม้เจ้าบอกว่าเจ้าไม่เป็นอะไรแต่ข้าก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ตอนนี้ข้าตามท่านหมอมาตรวจร่างกายเจ้าแล้ว ""ไม่เห็นต้องทำถึงเพียงนั้นเลยเจ้าค่ะ ข้าเพียงแค่กินอะไรไม่ค่อยได้ในช่วงนี้เท่านั้นเองเจ้าค่ะน่าจะเป็นเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงเจ้าค่ะ ""ท่านแม่ทัพท่านหมอมาแล้วเจ
บทที่ 43 เริ่มแผนหลังจากกินอาหารเช้าเสร็จหลี่มี่ได้ชวนไป๋ลู่ไปเดินเล่นที่ตลาดในตอนแรกไป๋ลู่ยืนกรานไม่อยากให้ออกไปเพราะตอนนี้ฮูหยินกำลังตั้งครรภ์กลัวจะได้รับบาดเจ็บหรืออันตรายเพราะผู้คนน่าจะพลุกพล่านมากมาย หลี่มี่บอกกล่าวว่าไม่ต้องเป็นห่วงเพราะว่าการออกไปในครั้งนี้มีทหารของท่านทัพนั้นตามคอยดูแลความปลอดภัยไป๋ลู่จึงยอมให้นายหญิงของตนเองออกไปเดินเล่น "ฮูหยินเจ้าคะ เรื่องที่ฮูหยินท้องไม่นานอาจจะถึงหูของฮูหยินรอง ข้ากังวลว่านางต้องคิดแผนทำร้ายฮูหยินอีกแน่ ข้าเป็นกังวลเหลือเกินเจ้าค่ะ วันนี้ข้าจะลองเข้าไปหาฮูหยินผู้เฒ่าเพื่อสืบเรื่องนี้ดู""ไป๋ลู่เจ้าเลิกคิ้วขมวดกังวลเสียที ข้าคิดว่านางน่าจะยังไม่กล้าทำการอันใดบุ่มบ่ามเป็นแน่เพราะนางพึ่งจะถูกลงโทษไป ""ข้าอดคิดไม่ได้นิเจ้าคะ""ข้าได้บอกเจ้าหรือยังว่าต่อจากนี้ท่านแม่ทัพได้สั่งให้ทหารมาคอยคุ้มกันดูแลความปลอดภัยอยู่ที่หน้าห้องเช่นนั้นเจ้าเลิกคิ้วขมวดเสียทีแล้วตามหลังข้ามาเถิด วันนี้ข้าอยากเดินเล่นกับอ้ายเยว่อย่างมีความสุข ""ก็ได้เจ้าค่ะ " อ้ายเยว่นั่งฝึกเขียนอักษรอยู่ในห้องมีแม่นมคอยยืนมองอยู่ห่าง ๆ เขาตั้งใจอยากทำให้ท่านพ่อภูมิใจ เสียงฝีเ
บทที่ 44 ถูกจับ"ว๊าว! ขนมตรงนั้นน่ากินจังเลยข้ากินได้หรือไม่? "เดินเข้ามาที่ตลาดไม่ถึงไหนอ้ายเยว่ตื่นเต้นเห็นขนมมากมายที่วางขายตามข้างทางกระตุกมือของหลี่มี่ส่งสายตาออดอ้อนเพื่อให้นางซื้อให้ตน"ได้สิข้าบอกแล้วอย่างไรว่าเจ้าอยากกินอะไรย่อมได้ทั้งนั้นไป๋ลู่นำเงินนี่ไปซื้อขนมมาสองชิ้น ข้าจะไปนั่งรออยู่ที่ตรงนั่นเมื่อเจ้าได้ขนมจงตามข้าไป"หลี่มี่หยิบถุงเงินให้ไป๋ลู่ต่อแถวเพื่อซื้อขนมให้อ้ายเยว่ก่อนจะชี้ไปที่โต๊ะด้านหน้าที่เขาจัดการแสดง"เจ้าค่ะฮูหยิน " ไป๋ลู่รับเงินจากหลี่มี่จากนั้นนางได้ไปยืนต่อแถวเพื่อรอซื้อขนม หลี่มี่จับมืออ้ายเยว่เดินตรงไปที่เก้าอี้ตัวที่ยังว่างอยู่ วันนี้แม้อากาศยังเย็นแต่ผู้คนมาเดินเล่นดูการแสดงมากมายเช่นกัน หลี่มี่ไม่ชอบอยู่ในที่คนมากมายแต่เพราะการแสดงที่แสดงอยู่นั้นน่าดูมากทีเดียวนางจึงคิดว่านั่งดูสักพักค่อยชวนอ้ายเยว่กลับเรือน การแสดงของคนยุคนี้ถือว่าเป็นการแสดงที่งดงามมากจริง ๆ ทำให้หลี่มี่เพลิดเพลินอ้ายเยว่ก็ชอบใจเช่นเดียวกัน ฝั่งด้านใต้เท้าหลิวเมื่อรับรู้เรื่องแผนการของบุตรสาวของจึงสั่งคนมาให้มาจัดการทันทีเช่นกัน คนของใต้เท้าหลิวมีประมาณหกเจ็ดคนคอยสังเกตการณ
บทที่ 4 เขาคือคนที่ฉันคิดถึงมาตลอดไม่นานนักเซ่อเหลียนได้กลับมาพร้อมยาที่เขาตั้งใจไปซื้อมาให้เธอเขาเดินเข้ามาในห้องของหลี่มี่ได้ยินเสียงน้ำที่หยดลงพื้น เขาจึงเดินไปที่ห้องครัวของเธอเปิดตู้เย็นเพื่อดูของจะทำอาหารให้เธอได้กินเช้านี่แต่กลับไม่เห็นอาหารที่มีประโยชน์เลยมีเพียงอาหารสำเร็จรูปเท่านั้น"เธอใช้ชีวิตอย่างไรเนี้ยะ! ทำไมไม่มีอะไรกินเลย” เขาบ่นพึมพำอยู่หน้าตู้ก่อนจะคว้าอาหารสำเร็จรูปมาต้มให้เธอได้กินก่อนจะกินยาหลี่มี่อาบน้ำเสร็จเธอเดินออกมาจากห้องน้ำผมยังไม่แห้งดีกลิ่นสบู่อ่อน ๆ ออกมาจากเธอทำให้เขาหันไปมองเพราะตอนนี้เธอมายืนดูเขาอยู่“ทำอะไรเหรอ”“หาอะไรทำให้คุณกินนะสิ ทำไมไม่มีอะไรเลยนอกจากอาหารสำเร็จรูปแบบนี้”“เฮ้อ! นายไม่ต้องสนใจการอยู่การกินของฉันหรอกนะ มานี่ฉันมีเรื่องจะพูดกับนายมากมายเรื่องกินเอาไว้ก่อน” เธอดึงมือของเขาออกจากห้องครัวไปนั่งที่โซฟาเพื่อตกลงเรื่องที่เกิดขึ้น“เรื่องที่จะพูดคงไม่คิดผลักไสไล่ส่งผมหรอกนะ รู้มั้ยว่าคุณคือคนที่พรากความบริสุทธิ์ของผมไป” เซ่อเหลียนกลัวว่าเธอจะไม่ให้เขาได้เจอเธออีกเลยเอ่ยออกมาแบบนี้“เฮ้อ! ฉันไม่เข้าใจนายเลย เอาอย่างนี้หากเรื่องที่เก
บทที่ 3 ฉันจะรับผิดชอบเองเมื่อพาเธอเข้านอนเขาได้จัดแจงนำกระเป๋าของเธอวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง สายตาของเขาจ้องมองรอบ ๆ ห้องของหลี่มี่เห็นรูปที่เธอสั่งวาดช่างเหมือนเขาเหลือเกิน ยิ่งทำให้เขาดีใจที่เธอไม่เคยลืมเขาแม้แต่น้อย“ดีใจจังเลยที่เธอไม่เคยลืมฉัน ...คงเสียใจมากสินะที่กลับมาทั้งอย่างนี้ เธอเป็นคนเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในชีวิตของฉัน ขอบคุณนะหลี่มี่” เขาหันมามองเธอที่หลับอยู่บนเตียงอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ก่อนที่เขาจะกลับบ้านของตัวเองได้เข้าไปนั่งข้างเธอยื่นมือไปลูบหน้าของเธอย่างอ่อนโยน“ดูสิไม่ว่าตอนนั้นหรือตอนนี้เธอยังคงงดงามเช่นเดิม” เขาลูบหน้าของเธอก่อนจะลุกเพื่อกลับบ้านแต่แล้วหลี่มี่กลับจับมือของเขาเอาไว้แน่นละเมอออกมาเสียงแผ่วเบา“อย่าไปนะ อย่าจากฉันไป อึก อึก ฉันเหงาเหงามากเหลือเกิน” แม้ว่าเธอจะไม่ลืมตาแต่น้ำตาของเธอไหลรินออกมาอย่างช้า ๆ“เธอใช้ชีวิตโดยที่ไม่มีใครมาตลอดอย่างนั้นเหรอ แล้วอย่างนี้ฉันจะหักห้ามใจตัวเองไม่ให้อยากโอบกอดเธอได้อย่างไร” เซ่อเหลียนใช้มืออีกข้างเช็ดหยาดน้ำตาให้หลี่มี่ส่วนมืออีกข้างของเขาตอนนี้ถูกเธอกอดเอาไว้แน่น เขาพยายามแกะมือของเธอออกอย่างแผ่วเบากลัวว่าเธอจะตื
บทที่ 2 เจอกันอีกครั้งหลังจากที่เขาได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักเขียนจึงได้รู้ว่าอีกไม่กี่วันจะมีการรับรางวัลมีรายชื่อของนักเขียนหลี่มี่ที่เขาต้องการพบ เซ่อเหลียนจึงตั้งใจจะไปพบเธอให้ได้ เขาเฝ้ารอการพบเจอจนกระทั่งได้เห็นเธอขึ้นไปบนเวทีรับรางวัล ใบหน้าของเธอช่างเหมือนเยิ่นเม่ยเม่ยอย่างไรอย่างนั้น ตอนที่เธอพูดถึงหนังสือเรื่องนี้ที่ทำให้เธอได้รับรางวัลในครั้งนี้ เขายิ่งมั่นใจว่าเธอคือคนที่เขาตามหา"นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฉันรักมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครทุกเหตุการณ์ที่ฉันบรรจงแต่งออกมาแต่ละบทความฉันใช้ความรู้สึกของฉันเขียนไปด้วย เมื่อตัวละครมีความสุขฉันก็มีความสุขหากเมื่อไหร่ที่ตัวละครฉันเสียใจฉันเองก็เสียใจไม่น้อยร้องไห้จนไม่เป็นอันทำอะไร ฉันไม่คิดเลยว่านิยายของฉันเรื่องนี้จะเป็นที่ยอมรับของทุกคน ขอบคุณนะคะสำหรับรางวัลนี้และขอบคุณที่ให้โอกาสนักเขียนตัวน้อยได้มาโลดแล่นในวงการนี้ฉันขอสัญญาจะตั้งใจเขียนนิยายออกมาให้ดีที่สุด ขอบคุณค่ะ" รอยยิ้มแววตาที่เขาคุ้นเคยแม้กระทั่งน้ำเสียงของเธอเขาจดจำได้ทุกอย่าง น้ำตาแห่งความดีใจได้หลั่งไหลออกมา เขาที่นั่งอยู่ด้านหลังสุดรีบเช็ดน้ำตาหัวใจของเขาเต้นแรงตึกตั
บทที่ 1 ทะลุมิติ"เฮือก!!! " ชายนอนอยู่บนเตียงลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงงวย มองซ้ายมองขวาต้องตกใจเข้าไปใหญ่ สถานที่ที่ไม่คุ้นเคยช่างแปลกตายิ่งนัก แม้แต่เตียงที่นอนอยู่ก็มิใช่เตียงที่เขานอนในทุกวัน"ที่นี่ที่ใดกัน!! หรือว่าข้าถูกศัตรูลักพาตัวมา ไม่ได้การแล้วข้าต้องรีบหาทางออกไปจากที่นี่ต้องหาผู้บงการในครั้งนี้เพื่อจัดการให้สิ้นซาก" เทียนหลันเซ่อลุกขึ้นจากเตียงมองพนังสีขาวเป็นห้องสี่เหลี่ยมเดินสำรวจก่อนจะเปิดประตูค่อย ๆ ย่องเพื่อหลบหนีเขาเดินออกมาต้องตกใจมากกว่าเดิม ด้านนอกมีสิ่งแปลกประหลาดมากกมาย เขามองซ้ายมองขวาไม่พบเจอผู้คนเขามองเห็นโต๊ะที่ไม่เคยเห็นจึงนั่งลงเพื่อครุ่นคิดแต่แล้วเขากลับนั่งทับรีโมททำให้ทวีต่อหน้าได้เปิดขึ้นเสียงดัง ทีวีได้ฉายข่าวเทียนหลันเซ่อไม่เคยเห็นเขาตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ"นั่นใครกัน!! ออกมามาเดี๋ยวนี้นะ เจ้าเป็นใคร" เขาชี้นิวไปด้านหน้าทีวีพลางกระโดดขึ้นโซฟา จู่ ๆ มีหญิงชราเดินเข้ามาในมือถือทัพทีใบหน้าคิ้วขมวด"อะไรของแกกันห่ะ!!! ตื่นมาโวยวายเช่นนี้ได้อย่างไร เวรกกรรมอะไรของฉันมีลูกโตขนาดนี้แล้วแต่ยังต้องคอยหาเลี้ยงอีก " เทียนหลันเซ่อคิ้วขมวดอย่างสงสัยสตรีด้าน
บทที่ 55 นักเขียนหน้าใหม่หลี่มี่ได้ถูกรับเชิญให้ไปรับรางวัลนักเขียนหน้าใหม่ที่ประสบความสำเร็จในงานเลี้ยงฉลองนักเขียนดัง ๆ ระดับแถวหน้าของประเทศ เธอแต่งหน้าอยู่ที่กระจกแม้เวลาผ่านไปหนึ่งปีแต่เธอยังคงคิดถึงเทียนหลันเซ่อพระเอกนิยายตัวเองไม่จางหายเขาไม่เคยหายไปจากใจของเธอเลย แม้กระทั่งน้ำเสียงหรือใบหน้าเธอยังคงจำได้ดีแต่ทว่าตอนนี้เธอไม่ได้ร้องไห้เหมือนที่ผ่านมาเธอกลับยิ้มออกมาอย่างสุขใจ "เทียนหลันเซ่อปานนี้ท่านจะเป็นอย่างไรนะ รู้หรือไม่ว่าฉันคิดถึง วันนี้เป็นวันที่ฉันประสบความสำเร็จถ้ามีท่านอยู่เคียงข้างคงจะดี เอ๊ะ! แต่เดี๋ยวสิยังไงทุกวันนี้ฉันก็มีเทียนหลันเซ่ออยู่ข้างกายอยู่แล้ว วันนี้เราไปรับรางวัลด้วยกันนะ" หลี่มี่หยิบหนังสือของตัวเองพร้อมถือออกจากห้องไปพร้อม ๆ กัน ฝั่งด้านเทียนหลันเซ่อหลังจากที่เขากลับมาจากทะเลวันนั้น เยิ่นเม่ยเม่ยดูอ่อนโยนมากกว่าเดิมวาจานิสัยไม่เหมือนเดิมแถมยังเหมือนสตรีที่สูงส่งแต่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีแต่เหตุใดความรู้สึกของเขาเสมือนว่ามีบางสิ่งบางอย่างขาดหายไป วันนี้เขามายืนจ้องมองดวงจันทร์ที่ลอยอยู่บนฟากฟ้าลมเย็นกระทบกาย จู่ ๆ รอยยิ้มใบหน้าที่เขาคิดถึงก็ปรากฎข
บทที่ 54 ลาจากด้วยความรักเทียนหลันเซ่อจ้องมองสตรีตรงหน้าอย่างสุขใจ ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งเขาย้อนเวลามาอีกครั้ง หากเป็นเช่นดั่งอดีตเขาก็คงไม่มีทางรู้ว่ามีสตรีที่เขารักและรักเขามาเพียงใด นางเข้ามาเติมเต็มทุกอย่างในชีวิตของเขาจริง ๆ หลี่มี่วางมือของเทียนหลันเซ่อพร้อมหันหลังไปมองพลุที่ยังคงถูกจุดอีกหลายดอกบนท้องฟ้า น้ำทะเลไหลมาสัมผัสที่เท้าจนหลี่มี่ต้องก้มมองดูแต่แล้วหัวใจของนางต้องหล่นวูบเมื่อบัดนี้ไม่ใช่แค่เท้าหรือขาของนางที่เลือนรางตอนนี้บนตัวของนางก็เริ่มเลือนรางขึ้นมาเรื่อย ๆ นางไม่เข้าใจทำไมคนอื่นไม่เห็นเหมือนนางหรือมีเพียงแค่นางผู้เดียวที่เห็นความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ นางไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นแค่คิดนางก็ใจหายรีบหันไปมองหน้าของเทียนหลันเซ่ออย่างลึกซึ้งอีกครั้ง "ท่านพี่เจ้าคะ วันนี้ข้าอยากให้ท่านสัมผัสตัวข้าช่วยมอบจูบที่ลึกซึ้งให้ข้าได้หรือไม่เจ้าคะ""ได้สิทำไมข้าจะให้เจ้าไม่ได้แค่เพียงจูบ" พูดจบเทียนหลันเซ่อโอบกอดหลี่มี่ก้มลงประทับจูบที่นุ่มนวลหอมหวานแต่ทว่านางกลับรู้สึกเสียใจ เพราะหากเป็นอย่างที่นางคิดนี่จะเป็นจูบสุดท้ายที่นางจะได้รับจากเขา ทั้งสองจูบกันท่ามกลางแสงพลุที่ส่องประ
บทที่ 53 น้ำตาแห่งความตื้นตันสาย ๆ ของวันหลี่มี่ได้ไปหาอ้ายเยว่ที่ห้องของเขาเพราะไม่รู้อะไรใจของนางถึงอยากไปหาอ้ายเยว่ในวันนี้นัก "คุณชายฮูหยินมาเจ้าค่ะ " แม่นมได้เอ่ยบอกคุณชายเมื่อเห็นฮูหยินเดินเข้ามาใกล้ ๆ อ้ายเยว่ยิ้มกว้างรีบวิ่งเข้ามาหาหลี่มี่อย่างดีใจ"ท่านแม่วันนี้ข้าว่าจะไปหาท่านที่ห้องนะขอรับไม่คิดเลยว่าท่านแม่จะมาหาข้าที่นี่ ข้ามีนิทานเรื่องใหม่จะเล่าให้น้องฟังขอรับ"เด็กชายรีบบอกหลี่มี่อย่างกระตือรือร้น นางลูบหัวของอ้ายเยว่ก่อนจะจับมือของเขาไปนั่งที่เก้าอี้หน้าเรือนที่ถูกจัดวางไว้เพื่อนั่งเล่น"อย่างนั้นหรือ ? ช่างเป็นพี่ชายที่ดีจริง ๆ เพราะข้าคิดถึงเสียงของเจ้าล่ะมั่งเลยมาหาเจ้า" หลี่มี่ยิ้มบางจ้องมองเด็กชายด้วยความเอ็นดู "ท่านแม่รอข้าอยู่ที่นี่ก่อนนะขอรับ ข้าจะเข้าไปเอาของมาให้ท่านแม่นะขอรับ" หลี่มี่พยักหน้าให้อ้ายเยว่เข้ารีบเดินเข้าไปในห้องเพื่อเอาอะไรบางอย่างมาให้หลี่มี่ หลังจากวันที่ถูกจับตัวไปกลับมาอ้ายเยว่มีท่าทีเปลี่ยนไปแถมยังเรียกหลี่มี่ว่ามารดาอย่างเต็มปากเต็มคำ ความรู้สึกรักและผูกพันมากขึ้นทุกวัน ไม่นานเด็กชายได้เดินออกมาพร้อมกับตุ๊กตาปั้นที่เขาตั้งใจทำมาให้แก่ห
บทที่ 52 ความสุขหลายวันผ่านไป ช่วงนี้อากาศเริ่มอุ่นขึ้นเพราะใกล้หมดฤดูหนาว ฟางเหนียงได้เดินทางไปที่วัดตามที่นางเอ่ยไว้แม่ทัพฮูหยินพร้อมอ้ายเยว่ได้เดินทางไปส่ง และขอให้นางกลับมาที่เรือนในช่วงเวลาที่เยิ่นเม่ยเม่ยท้องแก่นางจึงสัญญาว่าจะกลับก่อนที่เยิ่นเม่ยเม่ยจะคลอด เพราะนางเองก็อยากเห็นหลานของตนเองเช่นกัน ช่วงนี้หลี่มี่มีความสุขมากจริง ๆ ทุกวันอยู่กับไป๋ลู่และมีอ้ายเยว่ที่มักจะมาอ่านตำราให้น้องในท้องได้ฟัง แถมตอนนี้มีลูกแมวแสนน่ารักหลงมาอยู่กับอ้ายเยว่หนึ่งตัวขนของมันหรือแม้แต่ใบหน้าเหมือนมูมูยิ่งนัก จึงคิดว่านี่คือน้องของมูมูที่หลงเข้ามาอยู่ด้วย อ้ายเยว่มีความสุขมาก ๆ ที่ทุกคนมอบความรักให้เขา ตอนนี้ท้องของหลี่มี่เริ่มโตขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดท่านแม่ทัพก็กลับมานอนกับนางในทุกค่ำคืน "ฮูหยินตอนนี้ท้องเริ่มใหญ่แล้วคุณหนูในท้องดิ้นหรือยังเจ้าคะ" หลี่มี่ยืนอยู่กลางสวนยืนมองเหล่าผีเสือบินไปมาเมื่อได้ยินไป๋ลู่เอ่ยถามเช่นนั้นจึงมองที่ท้องของตนพลางใช้มือลูบเบา ๆ "ไป๋ลู่ตอนนี้ข้าพึ่งท้องได้ไม่เท่าไหร่เองอีกนานกว่าลูกของข้าจะดิ้น ว่าแต่ตอนนี้ท่านแม่ของเจ้าสบายดีแล้วหรือน้องชายของเจ้าไปเรียนหรือไ
บทที่ 51 บทลงโทษของหลิวอี้เฟ่ย"ฝ่าบาทกระหม่อมขอประทานอภัยในครั้งนี้ขอให้ฝ่าบาทไตร่ตรองด้วยความยุติธรรม บุตรสาวของกระหม่อมเป็นสตรีที่นอบน้อมแม้แต่แมลงตัวน้อย ๆ ยังไม่กล้าเหยียบแล้วเรื่องนี้นางจะกล้าทำได้อย่างไรขอรับ กระหม่อมว่าเรื่องนี้ต้องมีผู้ที่หวังร้ายกับบุตรสาวของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ ท่านแม่ทัพมีฮูหยินใหญ่ที่เป็นบุตรสาวของท่านรองแม่ทัพผู้ก่อน นางชิงชังบุตรสาวของกระหม่อมที่เข้าไปเป็นอนุของท่านแม่ทัพ กระหม่อมคิดว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นแผนของนางขอรับ "ฝ่าบาทครุ่นคิดตามที่ใต้เท้าหลิวเอ่ย จนเทียนหลันเซ่อต้องคุกเข่าลงมือประสานกันพร้อมทูลฝ่าบาทความจริงทั้งหมด "ทูลฝ่าบาทกระหม่อมมีฮูหยินเป็นบุตรสาวของรองแม่ทัพนั้นเป็นเรื่องจริง แต่เรื่องนี้นางไม่ได้รู้เรื่องเลยพ่ะย่ะค่ะ บุตรสาวของท่านใต้เท้าต่างหากที่เป็นสตรีร้ายกาจนางหลอกลวงกระหม่อมหวังเป็นอนุ ในคืนงานเลี้ยงนางใส่ยาปลุกกำหนัดให้กระหม่อมดื่ม แต่คืนนั้นกระหม่อมรู้ทันจึงไม่ได้ร่วมหลับนอนกับนางแต่เมื่อตื่นเช้ามานางกลับหลอกลวงทุกคนว่ากระหม่อมนั้นเป็นผู้ล่วงเกินนางทั้ง ๆ ที่กระหม่อมไม่ได้แตะตัวนางแม้แต่น้อยเรื่องนี้ฝ่าบาทโปรดให้ความเป็นธรรมกับกระห