4
นี่มันเป็นสถานการณ์แบบไหน แล้วฉันควรทำตัวยังไงเนี่ย! ซุนซูฮวาตื่นเกือบเที่ยง ก่อนจะกรีดร้องเสียงหลงโหวกเหวกโวยวาย เพราะหญิงสาวพบว่าตัวเองอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ที่สำคัญ รูปร่างหน้าตาก็เปลี่ยนไป จากหญิงสาวนักธุรกิจที่ตัดผมสั้นลุ้คคล่องแคล่วและมีเรือนกายสูงโปร่ง บัดนี้กลายเป็นหญิงสาวร่างเล็กที่เอวคอดกิ่วแต่กลับมีหน้าอกหน้าใจล้นเหลือ ผมยาวสลวยดกดำ หน้าตาก็ดูอ่อนหวานน่ารักราวกับเป็นลูกผู้ดี ไม่มีอะไรเหมือนเดิมสักอย่างยกเว้นชื่อแซ่ ที่บ่าวประจำตัวยืนยันให้ว่า เจ้าของร่างกายนี้มีชื่อว่าซุนซูฮวา กว่าจะทำใจได้และเรียบเรียงทุกอย่างถูกว่ามันน่าจะเกิดอะไรขึ้น หญิงสาวก็แทบจะเป็นลมไปอีกหลายรอบ สรุปว่าหลังจากเธอเห็นตงไห่ผู้เป็นสามีระยำคั่วอยู่กับแม่เลขาฯ ตู้ เธอก็ตกบันไดเพราะก้าวพลาด ซูฮวาคิดว่าเธอน่าจะตายไปแล้วแน่ๆ และได้มาอยู่ในร่างของแม่นางน้อยคนหนึ่งที่เพิ่งจะออกเรือนและถึงฤกษ์เข้าหอเมื่อคืน แต่เจ้าของร่างน่าจะจากไปเสียก่อนแล้วตามคำที่บ่าวบอกเล่า ว่าคุณหนูซูฮวาไม่อยากแต่งงาน นางอยากจะอยู่ในจวนของบิดาไปเรื่อยๆ การที่ถูกส่งให้มาแต่งงานกับพ่อม่ายเช่นนี้เหมือนเป็นการลบหลู่ นางจึงกินยาฆ่าตัวตาย “คุณหนูเปลี่ยนใจในตอนหลังแน่ๆ เลยเจ้าค่ะก็เลยไม่ได้กินยานั่น แม้ถิงเอ๋อร์จะสงสัยว่ายาหายไปไหนแล้วก็เถอะ ไม่เป็นไร ขอแค่คุณหนูยังอยู่ ถิงเอ๋อร์ดีใจที่สุดเจ้าค่ะ” นางบ่าวน้อยพูดไปร้องไห้ไป ซูฮวารู้แล้วว่านี่เป็นบ่าวคนสนิทที่ติดตัวมาจากบ้านของบิดาผู้เป็นมหาเสนาบดี ส่วนซุนซูฮวาผู้นี้นางเป็นลูกของอนุที่ไม่ได้รับการยกย่อง เลยมีชีวิตอยู่อย่างลำเค็ญ หญิงสาวหัวเราะแห้งๆ นางเดาว่าเจ้าของร่างน่าจะกินยาฆ่าตัวตายเข้าไปแล้วต่างหากนางถึงได้จากโลกนี้ไป แล้วก็กลายเป็นคนมาสิงสู่แทน แม้จะไม่รู้ว่าเพราะอะไรก็ตาม “ใช่ๆ ข้าเปลี่ยนใจแล้ว แต่จริงๆ ข้าคงเผลอจิบเข้าไปนิดหน่อย ก็เลย เอ่อ...สมองข้า ไม่ๆ หมายถึง ธาตุในกายข้าน่าจะแปรปรวน ข้าก็เลย...ความจำเสื่อม!” แถไปเรื่อยเปื่อยเพราะดูท่าแล้วไม่ว่านางพูดอะไรถิงเอ๋อร์ก็จะเชื่อฟังทุกอย่าง พูดแล้วก็ให้อนาถใจนัก เจ้าของร่างไม่น่าคิดสั้นแบบนี้ แม้โลกนี้จะไม่ได้ใจดี แต่อย่างน้อยก็ยังมีถิงเอ๋อร์ที่รักและห่วงใยจากใจจริง “ต่อไปนี้ข้าคงต้องพึ่งเจ้าแล้ว เพราะข้าจำอะไรไม่ค่อยจะได้ คงต้องรบกวนเจ้าเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ข้าฟังบ่อยๆ หวังว่าถิงเอ๋อร์คงไม่ถือสา”“โถ่เอ๋ยคุณหนู ถิงเอ๋อร์จะไปกล้าทำแบบนั้นได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ” สาวน้อยรีบปาดน้ำตา เมื่อเห็นเจ้านายทำท่าจะสงบจิตสงบใจลงได้ เลยรีบหันไปหาอ่างน้ำ เตรียมจะซับผ้ามาช่วยเช็ดตัว “คุณหนูมาล้างหน้าล้างตาก่อนนะเจ้าคะแล้วจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อคืนถิงเอ๋อร์ได้ยิน...เอ่อ...เอ่อ...”บ่าวน้อยแก้มแดงฉ่ำไม่กล้าพูดต่อ แม้นางจะไม่เคยมีคนรักแต่ก็ย่อมเข้าใจได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นเพราะเสียงคนเข้าหอดังลั่นไปถึงข้างนอก จากที่จะนอนเฝ้าหน้าประตูก็เลยกระดากใจขยับหนีไปนอนไกลๆ จนมีบ่าวของเรือนนี้มาเรียกให้ไปนอนในห้องหนังสือจะได้ไม่โดนยุงกัด ถิงเอ๋อร์ถึงได้ขยับออกไปไกลหน่อย เสียงครวญครางของบ่าวสาวก็เลยเบาลง และในที่สุดบ่าวน้อยก็ได้หลับเสียที“เมื่อคืน...เหรอ นั่นสินะ เมื่อคืน” ซุนซูฮวาอยากจะเอาหัวโขกพื้นให้ตายอีกรอบ มาเปลี่ยนร่างตอนไหนไม่เปลี่ยน เปลี่ยนตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มพอดี จะถอนตัวก็ไม่ได้แล้วเพราะคงมาไกลพอสมควร นางรู้แล้วว่าชายที่ร่วมอภิรมย์ด้วยเมื่อคืนนั้นคือฮุ่ยฟางซิน เขาเป็นขุนนางที่สังกัดกรมกองเดียวกับบิดาของซุนซูฮวา ก็เรียกได้ว่าเป็นลูกน้องพ่อ เขาเคยมีภรรยามาแล้วคนหนึ่งแต่นางได้ตายจากไปตั้งแต่
6“ท่านแม่ใหญ่...คงอยากกำจัดข้า ใช่หรือเปล่า” หันไปถามถิงเอ๋อร์ “แม่ผู้ให้กำเนิดของข้า คงเป็นเสี้ยนหนามในใจน่าดู ท่านแม่ใหญ่ก็เลยอยากจะทำให้ข้าอับอายขายหน้าด้วยการส่งเสริมให้ข้าแต่งกับพ่อม่าย ต้องเป็นแบบนี้แน่เลย”บ่าวน้อยไม่ได้ตอบอะไรแต่น้ำตาร่วงปรอยๆ ก็เป็นอันว่าจริง เช็ดตัวเสร็จแล้วก็ช่วยสวมเสื้อผ้าให้ ก่อนจะพาซุนซูฮวาไปนั่งหน้าคันฉ่อง หวีผมเกล้ามวยสวยงาม“ท่านแม่ของคุณหนูเป็นบ่าวเก่าในจวนเจ้าค่ะ และเป็นเพื่อนกับท่านแม่ของถิงเอ๋อร์ด้วย ก่อนท่านแม่ของถิงเอ๋อร์จะจากไปจึงได้สั่งเสียไว้ ว่าให้ถิงเอ๋อร์ดูแลคุณหนูให้ดีอย่าได้ทิ้งไปไหนเด็ดขาด ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณหนูจะถูกใครกลั่นแกล้งแค่ไหน ถิงเอ๋อร์จึงเคียงข้างคุณหนูทุกครั้ง แม้แต่ที่แต่งออกมานี้ ความจริงฮูหยินใหญ่จะไม่ยอมให้ถิงเอ๋อร์ติดตามมาด้วย แต่เพราะนายท่านเป็นคนอนุญาตเอง ถิงเอ๋อร์จึงออกมาได้”ฟังดูแล้วท่านมหาเสนาบดีอาจจะยังมีสำนึกของคนเป็นพ่ออยู่นิดหน่อย หรืออาจจะอยากชดเชยที่ไม่สามารถปกป้องลูกสาวได้กระมังถึงได้ยอมให้ถิงเอ๋อร์มา ซูฮวาไม่ใช่คนโง่ และอายุเมื่อชาติที่แล้วก่อนตกบันไดตาย นางก็ไม่ใช่สาวน้อยแต่เป็นคนวัยทำงานที่
7เร็วเท่าความคิด เพราะเพียงแค่ถิงเอ๋อร์ผลักประตูห้องออกให้ซูฮวา น้ำเย็นจัดก็ถูกสาดเข้ามาทันที“อะไรกันเนี่ย!” บ่าวน้อยตกใจเพราะน้ำนั้นเย็นมาก แต่ด้วยสัญชาตญาณทำให้นางเอาตัวบังให้ซูฮวาไว้ “คุณหนูเป็นอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ! ว้ายตายแล้ว เปียกหมดเลยเจ้าค่ะ”“นี่มัน...อะไรกัน” จากสมองที่กำลังมึนงงมาเจอน้ำเย็นปลุกตาตื่นเข้า เหมือนจะหายจากความงงงวย ซูฮวาเปียกไปแล้วครึ่งตัว เผลออ้าปากค้าง “นี่เจ้า! สาดน้ำใส่ข้าทำไม”หญิงสาวชี้มือไปข้างหน้า ถิงเอ๋อร์หันไปมองตาม และเห็นเด็กสาววัยสิบสามที่ในมือยังมีหลักฐานเป็นอ่างน้ำกำลังหัวเราะชอบใจ“ข้าก็จะล้างเสนียดจัญไรไปให้พ้นบ้านข้าอย่างไรเล่า” เสียงเจื้อยแจ้วตอบ “นางผู้หญิงลูกอนุของจวนเสนาบดีคนนี้คือของชั้นต่ำ เป็นแค่ลูกอนุมีสิทธิ์อะไรมาเสนอหน้าแต่งงานกับพ่อข้า คิดจะให้ข้าเรียกเจ้าว่าท่านแม่อย่างนั้นนะเหรอ ไม่มีทาง!”ซูฮวาเข้าใจทันทีว่านี่จะเป็นใครไปเสียไม่ได้ถ้าไม่ใช่ฮุยเหมยลี่ ลูกเลี้ยงของตัวเอง!“ยัยเด็ก...บ้า” หญิงสาวพึมพำขณะปาดน้ำออกจากใบหน้าแล้วสลัดทิ้ง หันไปคว้าอ่างล้างหน้าของตัวเองที่วางบนโต๊ะใกล้ๆ “แล้วใครบอกว่าข้าแต่งกับพ่อเจ้าเพื่อจะมาเป็นแม่เจ้า
เพียงแต่พอไปทำงานแล้วก็ถูกหัวหน้าเฉียนไล่กลับบ้าน เท่านั้นไม่พอ เพื่อนๆ ร่วมกรมยังพากันมารุมประนามหยามเหยียดเขาอีก หาว่าเขาใจร้ายใจดำนัก หากภรรยาตื่นขึ้นมาในเช้าวันแรกที่ไม่ใช่บ้านอันคุ้นเคยของตน และพบว่านางอยู่เดียวดายในห้อง หญิงสาวจะรู้สึกย่ำแย่แค่ไหน บอกว่าฟางซินช่างเป็นผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย “ข้านี่มันคิดน้อย” ใต้เท้าหนุ่มด่าตัวเอง “แล้วไม่รู้ว่าฮูหยินตื่นมาจะตกใจกลัวหรือไม่ เกิดนางไม่พอใจแล้วเก็บของกลับบ้าน ข้าจะทำอย่างไร ได้ยินมาว่าแต่เดิมนางก็เป็นคนค่อนข้างเก็บตัวอยู่แล้วด้วย น่าเป็นห่วงจริงๆ” โครม! เคร้ง! “กรี๊ด!” ความเป็นห่วงของฮุยฟางซินถูกขัดด้วยเสียงข้าวของหล่นโครมครามและหวีดร้องของผู้หญิง ชายหนุ่มตาตื่น รีบวิ่งเข้าไปในเรือนอย่างรวดเร็วและต้องตกใจกับภาพที่ได้เห็น “เกิดอะไรขึ้น! พวกเจ้า จับพวกนางแยกออกจากกันเดี๋ยวนี้!” รีบสั่งบ่าวไพร่ที่ยืนรุมล้อมอย่างไม่กล้าจะทำอะไร เมื่อนายท่านสั่งให้จับนายหญิงคนใหม่กับคุณหนูออกจากกันทุกคนถึงได้กล้าทำ เพราะก่อนหน้านี้ได้ลองทำไปแล้ว และถูกพวกนางยันออกมาแทบจะพร้อมๆ กัน “ปล่อยข้า! ข้าจะไปตบสั่งสอนนังลูกอนุที่มากำแหงใส่ข้า” เด็
“ท่านพ่อ!” เพราะนี่คือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เด็กสาวตกใจหวีดเสียงหลงและหน้าซีด “เหตุใดทำกับข้าอย่างนี้ ท่านพ่อไม่เคยดุด่าข้าเลยสักครั้ง!” “เหมยลี่! กลับห้อง!” ฟางซินไม่อยากพูดให้มากความอีก เพราะแค่นี้เขาก็อับอายซุนซูฮวาจนไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ไหนอยู่แล้ว “แล้วพ่อจะตามไป เรามีเรื่องต้องคุยกันอีกยาว!” “โฮ...แม่นม...” เด็กสาวร้องไห้วิ่งหนีกลับไปทางห้องตัวเอง เรียกหาแม่นมที่ตอนนี้อยู่ไหนก็ไม่ทราบ ฟางซินจะวิ่งตามลูกไปแต่อีกใจก็คิดว่าควรต้องดูแลภรรยาก่อนเพราะตอนนี้นางคงเสียขวัญ มิคาดคิดเลยว่าหันมาจะเจอนางยืนเท้าสะเอว ชายหนุ่มสะดุ้ง “ท่านเป็นพ่อประสาอะไร ลูกโตขนาดนี้ก็ยังปล่อยให้นางก้าวร้าวได้” ซุนซูฮวาในสภาพดูไม่ต่างจากฮุยเหมยลี่กำลังแว้ดๆ ใส่เขา ทั้งที่นางอายุยังไม่เท่าไร แต่ตอนนี้ฟางซินกลับรู้สึกราวกับว่านางอายุไม่ได้ต่างจากเขามากนัก “นางจะไม่พอใจในตัวข้าแต่แรกมันก็คงไม่แปลก ตามปกติเด็กที่ไหนก็ไม่อยากมีแม่เลี้ยงทั้งสิ้น แต่การที่นางมาพูดจาซ้ำซากว่าข้าเหมือนผู้หญิงที่มาจากหอนางโลมนั้น ให้ตายสิ! ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าท่านเลี้ยงดูลูกสาวมาแบบไหนกันแน่” ฮุยฟางซินได้แต่เอ่ออ่าพูดอะไรไม่อ
10 ซุนซูฮวาหันขวับ พิศไปมาสามีของนางก็หน้าตาหล่อเหลาเอาเรื่อง จะปากคอคิ้วคางก็ล้วนตรงใจไปหมด รูปงามกว่าสามีห่วยแตกในชาติที่แล้วด้วยซ้ำ แต่การที่เขาทำตัวนุ่มนิ่มแบบนี้ นางไม่ปลื้มเอาเสียเลย แต่คิดอีกที ชาติก่อนนางก็เป็นคนเช่นนี้ เพราะเห็นตงไห่สามีดูไม่ประสีประสากับแวดวงธุรกิจ นางจึงจัดการให้ แล้วผลสุดท้ายเป็นอย่างไร เขาก็ไปเล่นชู้กับอีนังเลขาฯ เพียงเพราะว่านังนั่นมันเด็กกว่า สาวกว่า และคงจะเอาใจเก่ง ใช้ร่างกายเป็นสิ่งล่อลวงแน่นอน แล้วเหตุใดข้าไม่ลองใช้ร่างกายเป็นสิ่งล่อลวงผู้ชายบ้างกัน! ซูฮวายิ้มร้าย ช่วยไม่ได้นะคุณหนูซุน เจ้าอยากกินยาฆ่าตัวตายเพราะหนีผู้ชายคนนี้ไปเองนี่ อย่างไรข้าก็ได้เสียกับเขาแล้วแม้จะผ่านร่างเจ้า ก็ยังถือว่าเป็นของดี ขอให้เจ้าไปสู่ปรโลกอย่างสงบสุขเถอะ ข้าจะใช้ชีวิตเสพสุขแทนเจ้าเอง และหากข้าพิสูจน์แล้วว่าใต้เท้าฮุยผู้นี้เป็นบุรุษเฮงซวยของจริง ข้าจะไม่เสียเวลากับเขาเด็ดขาด ข้าจะพาร่างกายเจ้าไปสู่อิสรภาพ จะไม่พากลับไปจวนบิดาที่ไม่มีปัญญาปกป้องเจ้า แต่จะพาไปตั้งกิจการร้านค้าเล็กๆ สักแห่งแล้วเลี้ยงดูตัวเองกับถิงเอ๋อร์ให้ได้ เพราะถ้าต้องให้มีผัวระยำตำบอนแล้ว สู้ไม่
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ซุนซูฮวาลืมของไว้ที่บ้านทั้งที่ขับรถออกไปทำงานได้ครึ่งทางแล้ว แต่เนื่องจากมันเป็นเอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับการประชุมของบริษัท เธอโทรกลับมาหาตงไห่ผู้เป็นสามีที่เขาออกจากบ้านทีหลังเพราะวันนี้เขาต้องไปดูงานที่บริษัทย่อย ทว่าเขากลับไม่รับโทรศัพท์ไม่พอ ยังตัดสายเธอทิ้งอีกด้วย หญิงสาวจึงต้องขับรถกลับมาเอาเองบ้านที่เป็นเรือนหอของทั้งคู่อันอยู่ร่วมกันมาถึงห้าปีมีทั้งหมดสามชั้น เป็นอาคารรูปแบบร่วมสมัยที่ปลูกในที่ดินที่ซื้อด้วยเงินของซูฮวาที่เก็บสะสมไว้ตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้ว ที่ผ่านมาเธอก็ช่วยสนับสนุนเขาเสมอจนสามารถเปิดบริษัทเล็กๆ ร่วมกันได้ เธอให้เกียรติเขาเป็นประธานเพราะถือว่าอย่างไรเขาก็เป็นสามีแม้ทุกอย่างในกิจการนี้จะเกิดได้เพราะเธอทั้งสิ้น ซูฮวาคิดว่าในเมื่อเป็นผัวเมียกันแล้วก็เหมือนเป็นคนเดียวกัน ไม่มีอะไรต้องมาแบ่งเป็นของฉันของเธอหญิงสาวคิดผิด เพราะความซื่อสัตย์ของเธอกลับไม่ได้รับการตอบแทนในแบบเดียวกัน เมื่อซูฮวาขับรถกลับมาถึงบ้านก็ต้องแปลกใจที่รถสามียังจอดอยู่ไม่พอ ซอกตึกข้างบ้านยังมีรถสีขาวคันเล็กๆ อีกคันหนึ่งจอดอยู่ ซูฮวาเคยเห็นบ่อยจนจำได้ เพราะนี่คือรถของเลข
อาการปวดหัวและปวดเมื่อยเนื้อตัวคือสิ่งแรกที่ซุนซูฮวาสัมผัสได้ หญิงสาวพยายามลืมตาขึ้นและคิดว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน แต่กลับพบว่าร่างกายกำลังถูกกระแทกกระทั้น ทั่งโถมรุนแรงจากข้างบน จนเตียงที่ตัวเองกำลังนอนอยู่โยกคลอน “อ๊า...อ๊า...อ๊าง!” เสียงที่ควรจะกรีดร้องขอความช่วยเหลือ แต่กลับเปล่งไปเป็นเสียงครวญครางอย่างเสียวกระสัน ซูฮวาป่ายปัดมือไม้ไปทั่ว โดนร่างแกร่งตรงหน้าที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม “ชอบหรือไม่ ฮึ่ม...” เสียงกระเส่าของบุรุษที่ฟังดูก็รู้ว่าเป็นหนุ่มใหญ่ที่เต็มไปด้วยความเป็นชายอย่างล้นเปี่ยม เขาไม่ปกปิดความงุ่นง่านจากความหื่นกระหายแม้แต่น้อย “คุณหนูซูฮวา ไม่สิ...ฮูหยิน เจ้าชอบหรือเปล่า ข้าพยายามทำให้เจ้ามีความสุขที่สุดแล้วในฐานะสามี...โอว...” “นะ...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!” ซูฮวาพยายามยันกายลุกขึ้นแต่ทำไม่ได้ อยู่ๆ ก็รู้สึกว่าร่างกายตัวเองอ่อนแอเกินไป และตอนนี้ก็ระทดระทวยไปหมด เจ็บปลาบแปลบช่องทางรักอันเป็นของสงวน ราวกับว่าสิ่งที่กำลังทิ่มทะลวงเข้าๆ ออกๆ มันใหญ่โตกว่าปกตินัก ถึงได้ทำให้จุกจนพูดอะไรไม่ออกแบบนี้ “อะ...ออกไป ออกไปนะ อ๊า...อ๊าง!” “ออกไม่ได้แล้ว มาถึงขั้นนี้แล้ว และเจ้าเอ
10 ซุนซูฮวาหันขวับ พิศไปมาสามีของนางก็หน้าตาหล่อเหลาเอาเรื่อง จะปากคอคิ้วคางก็ล้วนตรงใจไปหมด รูปงามกว่าสามีห่วยแตกในชาติที่แล้วด้วยซ้ำ แต่การที่เขาทำตัวนุ่มนิ่มแบบนี้ นางไม่ปลื้มเอาเสียเลย แต่คิดอีกที ชาติก่อนนางก็เป็นคนเช่นนี้ เพราะเห็นตงไห่สามีดูไม่ประสีประสากับแวดวงธุรกิจ นางจึงจัดการให้ แล้วผลสุดท้ายเป็นอย่างไร เขาก็ไปเล่นชู้กับอีนังเลขาฯ เพียงเพราะว่านังนั่นมันเด็กกว่า สาวกว่า และคงจะเอาใจเก่ง ใช้ร่างกายเป็นสิ่งล่อลวงแน่นอน แล้วเหตุใดข้าไม่ลองใช้ร่างกายเป็นสิ่งล่อลวงผู้ชายบ้างกัน! ซูฮวายิ้มร้าย ช่วยไม่ได้นะคุณหนูซุน เจ้าอยากกินยาฆ่าตัวตายเพราะหนีผู้ชายคนนี้ไปเองนี่ อย่างไรข้าก็ได้เสียกับเขาแล้วแม้จะผ่านร่างเจ้า ก็ยังถือว่าเป็นของดี ขอให้เจ้าไปสู่ปรโลกอย่างสงบสุขเถอะ ข้าจะใช้ชีวิตเสพสุขแทนเจ้าเอง และหากข้าพิสูจน์แล้วว่าใต้เท้าฮุยผู้นี้เป็นบุรุษเฮงซวยของจริง ข้าจะไม่เสียเวลากับเขาเด็ดขาด ข้าจะพาร่างกายเจ้าไปสู่อิสรภาพ จะไม่พากลับไปจวนบิดาที่ไม่มีปัญญาปกป้องเจ้า แต่จะพาไปตั้งกิจการร้านค้าเล็กๆ สักแห่งแล้วเลี้ยงดูตัวเองกับถิงเอ๋อร์ให้ได้ เพราะถ้าต้องให้มีผัวระยำตำบอนแล้ว สู้ไม่
“ท่านพ่อ!” เพราะนี่คือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เด็กสาวตกใจหวีดเสียงหลงและหน้าซีด “เหตุใดทำกับข้าอย่างนี้ ท่านพ่อไม่เคยดุด่าข้าเลยสักครั้ง!” “เหมยลี่! กลับห้อง!” ฟางซินไม่อยากพูดให้มากความอีก เพราะแค่นี้เขาก็อับอายซุนซูฮวาจนไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ไหนอยู่แล้ว “แล้วพ่อจะตามไป เรามีเรื่องต้องคุยกันอีกยาว!” “โฮ...แม่นม...” เด็กสาวร้องไห้วิ่งหนีกลับไปทางห้องตัวเอง เรียกหาแม่นมที่ตอนนี้อยู่ไหนก็ไม่ทราบ ฟางซินจะวิ่งตามลูกไปแต่อีกใจก็คิดว่าควรต้องดูแลภรรยาก่อนเพราะตอนนี้นางคงเสียขวัญ มิคาดคิดเลยว่าหันมาจะเจอนางยืนเท้าสะเอว ชายหนุ่มสะดุ้ง “ท่านเป็นพ่อประสาอะไร ลูกโตขนาดนี้ก็ยังปล่อยให้นางก้าวร้าวได้” ซุนซูฮวาในสภาพดูไม่ต่างจากฮุยเหมยลี่กำลังแว้ดๆ ใส่เขา ทั้งที่นางอายุยังไม่เท่าไร แต่ตอนนี้ฟางซินกลับรู้สึกราวกับว่านางอายุไม่ได้ต่างจากเขามากนัก “นางจะไม่พอใจในตัวข้าแต่แรกมันก็คงไม่แปลก ตามปกติเด็กที่ไหนก็ไม่อยากมีแม่เลี้ยงทั้งสิ้น แต่การที่นางมาพูดจาซ้ำซากว่าข้าเหมือนผู้หญิงที่มาจากหอนางโลมนั้น ให้ตายสิ! ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าท่านเลี้ยงดูลูกสาวมาแบบไหนกันแน่” ฮุยฟางซินได้แต่เอ่ออ่าพูดอะไรไม่อ
เพียงแต่พอไปทำงานแล้วก็ถูกหัวหน้าเฉียนไล่กลับบ้าน เท่านั้นไม่พอ เพื่อนๆ ร่วมกรมยังพากันมารุมประนามหยามเหยียดเขาอีก หาว่าเขาใจร้ายใจดำนัก หากภรรยาตื่นขึ้นมาในเช้าวันแรกที่ไม่ใช่บ้านอันคุ้นเคยของตน และพบว่านางอยู่เดียวดายในห้อง หญิงสาวจะรู้สึกย่ำแย่แค่ไหน บอกว่าฟางซินช่างเป็นผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย “ข้านี่มันคิดน้อย” ใต้เท้าหนุ่มด่าตัวเอง “แล้วไม่รู้ว่าฮูหยินตื่นมาจะตกใจกลัวหรือไม่ เกิดนางไม่พอใจแล้วเก็บของกลับบ้าน ข้าจะทำอย่างไร ได้ยินมาว่าแต่เดิมนางก็เป็นคนค่อนข้างเก็บตัวอยู่แล้วด้วย น่าเป็นห่วงจริงๆ” โครม! เคร้ง! “กรี๊ด!” ความเป็นห่วงของฮุยฟางซินถูกขัดด้วยเสียงข้าวของหล่นโครมครามและหวีดร้องของผู้หญิง ชายหนุ่มตาตื่น รีบวิ่งเข้าไปในเรือนอย่างรวดเร็วและต้องตกใจกับภาพที่ได้เห็น “เกิดอะไรขึ้น! พวกเจ้า จับพวกนางแยกออกจากกันเดี๋ยวนี้!” รีบสั่งบ่าวไพร่ที่ยืนรุมล้อมอย่างไม่กล้าจะทำอะไร เมื่อนายท่านสั่งให้จับนายหญิงคนใหม่กับคุณหนูออกจากกันทุกคนถึงได้กล้าทำ เพราะก่อนหน้านี้ได้ลองทำไปแล้ว และถูกพวกนางยันออกมาแทบจะพร้อมๆ กัน “ปล่อยข้า! ข้าจะไปตบสั่งสอนนังลูกอนุที่มากำแหงใส่ข้า” เด็
7เร็วเท่าความคิด เพราะเพียงแค่ถิงเอ๋อร์ผลักประตูห้องออกให้ซูฮวา น้ำเย็นจัดก็ถูกสาดเข้ามาทันที“อะไรกันเนี่ย!” บ่าวน้อยตกใจเพราะน้ำนั้นเย็นมาก แต่ด้วยสัญชาตญาณทำให้นางเอาตัวบังให้ซูฮวาไว้ “คุณหนูเป็นอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ! ว้ายตายแล้ว เปียกหมดเลยเจ้าค่ะ”“นี่มัน...อะไรกัน” จากสมองที่กำลังมึนงงมาเจอน้ำเย็นปลุกตาตื่นเข้า เหมือนจะหายจากความงงงวย ซูฮวาเปียกไปแล้วครึ่งตัว เผลออ้าปากค้าง “นี่เจ้า! สาดน้ำใส่ข้าทำไม”หญิงสาวชี้มือไปข้างหน้า ถิงเอ๋อร์หันไปมองตาม และเห็นเด็กสาววัยสิบสามที่ในมือยังมีหลักฐานเป็นอ่างน้ำกำลังหัวเราะชอบใจ“ข้าก็จะล้างเสนียดจัญไรไปให้พ้นบ้านข้าอย่างไรเล่า” เสียงเจื้อยแจ้วตอบ “นางผู้หญิงลูกอนุของจวนเสนาบดีคนนี้คือของชั้นต่ำ เป็นแค่ลูกอนุมีสิทธิ์อะไรมาเสนอหน้าแต่งงานกับพ่อข้า คิดจะให้ข้าเรียกเจ้าว่าท่านแม่อย่างนั้นนะเหรอ ไม่มีทาง!”ซูฮวาเข้าใจทันทีว่านี่จะเป็นใครไปเสียไม่ได้ถ้าไม่ใช่ฮุยเหมยลี่ ลูกเลี้ยงของตัวเอง!“ยัยเด็ก...บ้า” หญิงสาวพึมพำขณะปาดน้ำออกจากใบหน้าแล้วสลัดทิ้ง หันไปคว้าอ่างล้างหน้าของตัวเองที่วางบนโต๊ะใกล้ๆ “แล้วใครบอกว่าข้าแต่งกับพ่อเจ้าเพื่อจะมาเป็นแม่เจ้า
6“ท่านแม่ใหญ่...คงอยากกำจัดข้า ใช่หรือเปล่า” หันไปถามถิงเอ๋อร์ “แม่ผู้ให้กำเนิดของข้า คงเป็นเสี้ยนหนามในใจน่าดู ท่านแม่ใหญ่ก็เลยอยากจะทำให้ข้าอับอายขายหน้าด้วยการส่งเสริมให้ข้าแต่งกับพ่อม่าย ต้องเป็นแบบนี้แน่เลย”บ่าวน้อยไม่ได้ตอบอะไรแต่น้ำตาร่วงปรอยๆ ก็เป็นอันว่าจริง เช็ดตัวเสร็จแล้วก็ช่วยสวมเสื้อผ้าให้ ก่อนจะพาซุนซูฮวาไปนั่งหน้าคันฉ่อง หวีผมเกล้ามวยสวยงาม“ท่านแม่ของคุณหนูเป็นบ่าวเก่าในจวนเจ้าค่ะ และเป็นเพื่อนกับท่านแม่ของถิงเอ๋อร์ด้วย ก่อนท่านแม่ของถิงเอ๋อร์จะจากไปจึงได้สั่งเสียไว้ ว่าให้ถิงเอ๋อร์ดูแลคุณหนูให้ดีอย่าได้ทิ้งไปไหนเด็ดขาด ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณหนูจะถูกใครกลั่นแกล้งแค่ไหน ถิงเอ๋อร์จึงเคียงข้างคุณหนูทุกครั้ง แม้แต่ที่แต่งออกมานี้ ความจริงฮูหยินใหญ่จะไม่ยอมให้ถิงเอ๋อร์ติดตามมาด้วย แต่เพราะนายท่านเป็นคนอนุญาตเอง ถิงเอ๋อร์จึงออกมาได้”ฟังดูแล้วท่านมหาเสนาบดีอาจจะยังมีสำนึกของคนเป็นพ่ออยู่นิดหน่อย หรืออาจจะอยากชดเชยที่ไม่สามารถปกป้องลูกสาวได้กระมังถึงได้ยอมให้ถิงเอ๋อร์มา ซูฮวาไม่ใช่คนโง่ และอายุเมื่อชาติที่แล้วก่อนตกบันไดตาย นางก็ไม่ใช่สาวน้อยแต่เป็นคนวัยทำงานที่
“โถ่เอ๋ยคุณหนู ถิงเอ๋อร์จะไปกล้าทำแบบนั้นได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ” สาวน้อยรีบปาดน้ำตา เมื่อเห็นเจ้านายทำท่าจะสงบจิตสงบใจลงได้ เลยรีบหันไปหาอ่างน้ำ เตรียมจะซับผ้ามาช่วยเช็ดตัว “คุณหนูมาล้างหน้าล้างตาก่อนนะเจ้าคะแล้วจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อคืนถิงเอ๋อร์ได้ยิน...เอ่อ...เอ่อ...”บ่าวน้อยแก้มแดงฉ่ำไม่กล้าพูดต่อ แม้นางจะไม่เคยมีคนรักแต่ก็ย่อมเข้าใจได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นเพราะเสียงคนเข้าหอดังลั่นไปถึงข้างนอก จากที่จะนอนเฝ้าหน้าประตูก็เลยกระดากใจขยับหนีไปนอนไกลๆ จนมีบ่าวของเรือนนี้มาเรียกให้ไปนอนในห้องหนังสือจะได้ไม่โดนยุงกัด ถิงเอ๋อร์ถึงได้ขยับออกไปไกลหน่อย เสียงครวญครางของบ่าวสาวก็เลยเบาลง และในที่สุดบ่าวน้อยก็ได้หลับเสียที“เมื่อคืน...เหรอ นั่นสินะ เมื่อคืน” ซุนซูฮวาอยากจะเอาหัวโขกพื้นให้ตายอีกรอบ มาเปลี่ยนร่างตอนไหนไม่เปลี่ยน เปลี่ยนตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มพอดี จะถอนตัวก็ไม่ได้แล้วเพราะคงมาไกลพอสมควร นางรู้แล้วว่าชายที่ร่วมอภิรมย์ด้วยเมื่อคืนนั้นคือฮุ่ยฟางซิน เขาเป็นขุนนางที่สังกัดกรมกองเดียวกับบิดาของซุนซูฮวา ก็เรียกได้ว่าเป็นลูกน้องพ่อ เขาเคยมีภรรยามาแล้วคนหนึ่งแต่นางได้ตายจากไปตั้งแต่
4นี่มันเป็นสถานการณ์แบบไหน แล้วฉันควรทำตัวยังไงเนี่ย!ซุนซูฮวาตื่นเกือบเที่ยง ก่อนจะกรีดร้องเสียงหลงโหวกเหวกโวยวาย เพราะหญิงสาวพบว่าตัวเองอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ที่สำคัญ รูปร่างหน้าตาก็เปลี่ยนไป จากหญิงสาวนักธุรกิจที่ตัดผมสั้นลุ้คคล่องแคล่วและมีเรือนกายสูงโปร่ง บัดนี้กลายเป็นหญิงสาวร่างเล็กที่เอวคอดกิ่วแต่กลับมีหน้าอกหน้าใจล้นเหลือ ผมยาวสลวยดกดำ หน้าตาก็ดูอ่อนหวานน่ารักราวกับเป็นลูกผู้ดี ไม่มีอะไรเหมือนเดิมสักอย่างยกเว้นชื่อแซ่ ที่บ่าวประจำตัวยืนยันให้ว่า เจ้าของร่างกายนี้มีชื่อว่าซุนซูฮวากว่าจะทำใจได้และเรียบเรียงทุกอย่างถูกว่ามันน่าจะเกิดอะไรขึ้น หญิงสาวก็แทบจะเป็นลมไปอีกหลายรอบ สรุปว่าหลังจากเธอเห็นตงไห่ผู้เป็นสามีระยำคั่วอยู่กับแม่เลขาฯ ตู้ เธอก็ตกบันไดเพราะก้าวพลาด ซูฮวาคิดว่าเธอน่าจะตายไปแล้วแน่ๆ และได้มาอยู่ในร่างของแม่นางน้อยคนหนึ่งที่เพิ่งจะออกเรือนและถึงฤกษ์เข้าหอเมื่อคืน แต่เจ้าของร่างน่าจะจากไปเสียก่อนแล้วตามคำที่บ่าวบอกเล่า ว่าคุณหนูซูฮวาไม่อยากแต่งงาน นางอยากจะอยู่ในจวนของบิดาไปเรื่อยๆ การที่ถูกส่งให้มาแต่งงานกับพ่อม่ายเช่นนี้เหมือนเป็นการลบหลู่ นางจึงกินยาฆ่าตัวตาย“คุณหน
ชายหนุ่มผู้นั้นแสนจะรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องเป็นที่สุด เพราะว่านางคือดอกฟ้าที่ได้แต่เฝ้ามองความงามห่างๆ ไม่สามารถไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ครอบครองในชาตินี้ได้ แม้ใครจะบอกว่านางเป็นเพียงคุณหนูที่เกิดจากอนุของท่านมหาเสนาบดี ก็แล้วอย่างไรเล่า ในเมื่อบิดาของนางยกให้ เขาก็ตั้งใจว่าจะดูแลให้ดีที่สุด ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ “ฮูหยิน เจ้าตอดรัดข้าแน่นขึ้นขนาดนี้ คงใกล้แล้วเป็นแน่” เขายื่นหน้ามากระซิบข้างหูทั้งที่ส่วนล่างยังขยับอย่างต่อเนื่อง เป็นความสัมพันธ์ที่ร้อนแรง “มาเถิดฮูหยิน เรามาแตกน้ำแรกไปพร้อมๆ กัน ถือว่าข้ามอบให้เป็นของขวัญในวันแต่งงาน แล้วน้ำต่อๆ ไปของคืนนี้ ค่อยมาดูว่าเจ้าจะไหวอีกสักกี่ที...” “พูดบ้าอะไรเนี้ย หยุดเดี๋ยวนี้นะ ว้าย!” หญิงสาวได้แต่ดิ้นพล่านแต่สู้แรงเขาไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเล่นท่าพิสดาร ทว่ามันกลับทวีความเสียวซ่านมากขึ้นจนสติใกล้ดับ “อ๊า...อ๊า...ข้าจะ...ไม่ไหว จะไม่ไหวแล้ว เสียวเหลือเกิน อ๊า! กรี๊ด!” ซ่า... ซุนซูฮวาไปถึงฝั่งฝันเรียบร้อย ช่องทางรักตอดรัดลำเนื้อที่ยังฝังในกายตน แต่ก็อีกไม่เท่าไรนัก เมื่อชายหนุ่มยึดสะโพกนางแล้วกดกระแทกหนักหน่วงติดต่อกันอี
หญิงสาวหวีดร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆ คนแปลกหน้าก็ถอนลำออกแล้ว เพียงเสี้ยวลมหายใจเขาก็กระแทกเข้ามาใหม่ คราวนี้เล่นงัดควงเสยซ้ายขวาอย่างบ้าคลั่ง ซูฮวาประคองร่างไม่ไหวจึงทิ้งตัวลงไปแนบฟูก กระนั้นท่อนล่างก็ยังถูกจับยกขึ้นมาเพื่อให้อีกฝ่ายได้กระเด้งกระเด้าอย่างเมามันอยู่ดี “อูว...ฮูหยิน ร่องของเจ้ามันคับแน่นนัก คงเป็นเพราะเจ้าตัวเล็กและบอบบางอย่างที่ข้าคิด เสร็จจากวันนี้ไปเจ้าคงจะมีรอยฟกช้ำทั้งตัวเป็นแน่ ขอโทษล่วงหน้าด้วยแล้วกัน” ยังจะมีหน้ามาพูดเหมือนคนใจดี แต่การกระทำกลับแตกต่าง เพราะเขาดันเข่าของหญิงสาวให้แยกจากกันออกไปอีกจนเรียกได้ว่าแทบแหก แล้วรัวเอวสอบเข้าหาราวกับสัตว์ป่ากำลังผสมพันธุ์ “นี่มัน...เกิดอะไรขึ้น อ๊า...แก...แกเป็นใคร ฉันอยู่ที่ไหน” สติริบหรี่เต็มที เมื่อจังหวะเร่งเร้าดิบเถื่อนขึ้นมา ท่อนเนื้อครูดโพรงเนื้อนุ่ม สองเต้าบดบี้ไปกับที่นอน กายสาวถูกชโลมไปด้วยเหงื่อ “แก...แกข่มขืนฉัน ฉันจะ...จะ...กรี๊ด!” จะไม่ให้กรีดร้องอีกครั้งได้อย่างไรไหว เพราะท่าเสพสังวาสแบบสุนัขมันคงยังไม่สาแก่ใจ ชายผู้นั้นถึงได้จับซูฮวาขึ้นมาใหม่ คราวนี้ให้ร่างบางยึดหัวเตียงไว้ แล้วจับเรียวขาข้างหนึ่งยกขึ้