แชร์

บทที่ 1.2 แม่ที่เปลี่ยนไป

ผู้เขียน: ชงเมิ่ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-13 15:01:33

บทที่ 1.2

แม่ที่เปลี่ยนไป

เฉินซิ่วลี่ประคองเด็กชายสองคนเข้ามาในบ้าน ถึงแม้บทบาทที่เกี่ยวข้องกับตัวละครเฉินซิ่วลี่ในนิยายจถูกกล่าวถึงไม่มาก แต่เรื่องตำแหน่งบ้านหลังต่างๆ ในตระกูลหลี่ผู้แต่งได้บรรยายเอาไว้ค่อนข้างละเอียดเลยทีเดียว อาจเพราะหลี่อันเฉิงเป็นตัวร้ายหลักของเรื่อง ดังนั้นถึงจะเป็นครั้งแรกที่ก้าวเท้าเข้ามาในรั้วบ้านตระกูลหลี่ เฉินซิ่วลี่ก็เดินไปยังตำแหน่งบ้านที่เธอกับเด็กๆ พักอาศัยได้อย่างถูกต้อง แต่ถึงจะบอกว่าผู้แต่งบรรยายลักษณะตำแหน่งบ้านตระกูลหลี่ได้ละเอียด แต่ก็ไม่เคยบรรยายลักษณะตัวบ้านที่พวกเขาอาศัย

ดวงตาของเฉินซิ่วลี่เบิกกว้างมองบ้านดินสองห้องนอน หนึ่งห้องครัวที่สภาพทรุดโทรมพร้อมถล่มลงมาได้ตลอดเวลาตรงหน้าแล้วลำคอแห้งผาก ผู้อื่นทะลุมิติข้ามเวลามาล้วนมีต้นทุนที่ดี หรือไม่ก็มีโปรแกรมผู้ช่วย มีมิติเวลาที่อุดมสมบูรณ์ ทว่าเธอกลับไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากเงิน 3,000 หยวน ที่เจ้าของร่างหยิบเอาของผู้อื่นมา

หากบอกว่าสภาพตัวบ้านภายนอกทำให้เฉินซิ่วลี่เบิกตากว้าง เวลานี้สภาพในตัวบ้านกลับยิ่งทำให้เธอตาแทบถลน

ไม่ใช่ว่าเจ้าของร่างเดิมผู้นี้รักสวยรักงามเป็นอย่างยิ่งหรือไง ทำไม่สภาพบ้านถึงได้...

ท้องไส้ของเฉินซิ่วลี่พลันปั่นป่วนมองดูสภาพภายในบ้านที่ทั้งรกทั้งสกปรกจนแทบจะไม่มีทางเดิน อีกทั้งยังมีกลิ่นเน่าเสียของอาหารลอยคละคลุ้งชวนคลื่นไส้ ในที่สุดเธอก็ยากจะทำใจยอมรับกับเรื่องตรงหน้า ตัดสินใจอุ้มเด็กชายทั้งสองหมุนตัวเดินออกจากรั้วบ้านตระกูลหลี่ในทันที

"พวกเราจะไปไหนหรือครับ"

หลี่ชุนเอ่ยถามเสียงเบาแต่เฉินซิ่วลี่ที่กำลังเร่งฝีเท้าไม่เอ่ยตอบ เมื่อเห็นแม่นิ่งงันเด็กทั้งสองก็สงบคำทำตัวราวกับเป็นตุ๊กตาผ้าถูกอุ้มอยู่เงียบๆ

เฉินซิ่วลี่จำได้ว่าในนิยายเรื่อง “เล่ห์แค้นรักลวง” กล่าวถึงสถานพยาบาลขนาดเล็กในหมู่บ้านอยู่หลายหน เด็กแฝดทั้งสองถูกทุบตีก็สมควรพาไปตรวจ แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นก็คือ

อย่างไรคืนนี้เธอก็ไม่อาจทำใจนอนในกองขยะนั้นได้ จึงจำเป็นต้องหาที่นอนสะอาดๆ สักคืน

แม้เจ้าก้อนแป้งทั้งสองจะผอมแห้งจนหนังหุ้มกระดูก แต่เมื่อต้องอุ้มนานๆ ก็ทำเอาปวดแขนอยู่ไม่น้อย เด็กชายที่ตัวสูงกว่าอีกคนสังเกตเห็นใบหน้าของแม่มีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นก็เอ่ยเสียงสั่นด้วยอาการหวาดกลัวอยู่ในที

“แม่ครับพวกเราเดินได้ครับ”

สองเด็กชายไม่ถามถึงสถานที่ที่เฉินซิ่วลี่จะพาไป เขาเพียงเอ่ยให้เธอวางพวกเขาลง เพราะพวกเขาจำได้ดีว่าหากแม่เหนื่อยแม่ก็จะโมโห หากแม่โมโหแม่ก็จะทุบตีพวกเขา ดังนั้นเพื่อไม่ให้ถูกทุบตีซ้ำ ต่อให้ต้องคลานไปเบื้องหน้าเด็กชายทั้งสองก็ยินดี

เฉินซิ่วลี่มองอาการที่นิ่งสงบแต่ตื่นตัวและหวาดระแวงตลอดเวลาของเด็กทั้งสองแล้วได้แต่สะท้อนในอก เจ้าของร่างเดิมคงสร้างรอยแผลในใจของเด็กชายทั้งสองไม่น้อยเลยทีเดียว

“หลี่ชุน”

เพราะเฉินซิ่วลี่ไม่รู้ว่าใครคือหลี่ชุน ใครคือหลี่หมิง จึงทำได้เพียงทดลองเรียกชื่อหนึ่งในพวกเขาสองคน ทว่ากลับทำให้เด็กน้อยทั้งสองมีอาการตื่นตระหนกทิ้งตัวลงคุกเข่าในทันที เด็กชายที่ตัวสูงกว่าเล็กน้อยรีบขยับมาเบื้องหน้าบังอีกคนที่ดูบอบบางกว่าไว้เบื้องหลัง

“แม่ครับ น้องชายไม่ได้ตั้งใจ พวกเราขอโทษ หากแม่จะตีก็ตีผมแทน”

ตี ทำไมเธอต้องตีพวกเขาด้วยเฉินซิ่วลี่ถอนหายใจยาว มองเด็กชายทั้งสองแล้วก็พอจะคาดเดาชื่อของอีกฝ่าย

“แม่แค่จะถามอาชุนว่าเดินไหวหรือไม่ หากไม่ไหวก็มาขี่หลังแม่”

ดวงตาของเด็กชายทั้งสองเบิกกว้างกับคำพูดและท่าทางที่เปลี่ยนไปของคนเป็นแม่

หลี่ชุนพลันขยับตัวหลบหลังคนเป็นพี่ มือผอมแห้งจับชายเสื้อที่ทั้งเก่าทั้งขาดของเขาเอาไว้มั่น ก่อนหน้านี้คนตรงหน้าโอบอุ้มพาพวกเขาเดินออกมาจากรั้วบ้านตระกูลหลี่ ในใจของหลี่ชุนก็กลัวจนแทบจะไม่กล้าหายใจ แต่เพราะเห็นว่าในอ้อมแขนอีกข้างของคนอุ้มมีพี่ชายฝาแฝดอยู่จึงวางใจ ทว่าหากตอนนี้ให้เขาขึ้นขี่หลังมารดา ก็เท่ากับสร้างความยากลำบากให้เธอพรุ่งนี้ไม่รู้ว่าจะต้องถูกทำโทษอย่างไรบ้าง

“พวกเราเดินไหวครับ แม่ไม่ต้องห่วง”

หลี่หมิงไม่ต้องสบตาหรือถามไถ่ก็รู้ความคิดของน้องชายจึงเป็นคนบอกปัดความช่วยเหลือที่มารดาหยิบยื่นมา เฉินซิ่วลี่ย่อมเข้าใจเด็กๆ ดี ดังนั้นจึงไม่ได้ดึงดันบังคับอะไร ลุกขึ้นยืนผายมือให้พวกเขาเดินนำทาง

“อย่างนั้นพวกลูกๆ มาเดินนำทาง แม่จะคอยระวังหลังให้”

“นำทางไปไหนครับ”

“ไปสถานพยาบาลหมู่บ้าน”

สถานพยาบาลหมู่บ้าน นี่แม่คงไม่คิดเอาพวกเขาไปขายให้คุณหมอกู้ เจ้าหน้าที่ที่มาประจำการอยู่ที่นั่นใช่หรือไม่ แต่ถึงเธอจะทำเช่นนั้นพวกเขาที่ยังเป็นเพียงเด็กสามขวบจะต่อต้านอะไรได้ สุดท้ายก็ยอมก้าวขาเล็กๆ เดินไปข้างหน้า อย่างยอมรับในโชคชะตา

.........................................

เมื่อมาถึงสถานพยาบาลหมู่บ้านหลี่หมิงก็ขมวดคิ้วเล็กอย่างสงสัย เพราะแม่ไม่ได้พาเขากับน้องชายมาขายอย่างที่คิด แต่กลับพามาตรวจร่างกายและรับยา

“เด็กๆ ไม่ได้เป็นอะไรมาครับ มีเพียงรอยฟกช้ำกับแผลเก่าเท่านั้น”

กู้เหยียน เจ้าหน้าที่ประจำสถานพยาบาลหมู่บ้านเอ่ยบอกผลการตรวจเบื้องต้น

“แต่ผมไม่ใช่หมอ หากคุณอยากตรวจเด็กๆ ให้ละเอียดผมแนะนำให้พาไปที่โรงพยาบาลในเมืองครับ”

“ตอนนี้มืดแล้วฉันไม่สะดวกพาพวกเขาเข้าเมืองค่ะ คงต้องเป็นวันพรุ่งนี้”

กู้เหยียนพยักหน้ารับ แม้หมู่บ้านตงหยางจะไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก แต่เดินเท้าไปก็ใช้เวลาถึงหนึ่งชั่วโมง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้เป็นเวลากลางคืนหนึ่งหญิงสาวกับสองเด็กน้อยเดินเท้าฝ่าความมืดยังไงก็ไม่ปลอดภัย

“อย่างนั้นก็แล้วแต่คุณครับ”

“แต่จะพาพวกเขากลับบ้านก็ไม่วางใจ จะเป็นอะไรไหมคะถ้าคืนนี้ฉันกับลูกจะขอนอนค้างที่นี่สักคืน หากพวกเขามีอาการเปลี่ยนแปลงอย่างน้อยก็มีคุณช่วยตรวจเบื้องต้นให้”

เฉินซิ่วลี่พูดด้วยน้ำเสียงกังวล เดิมทีเธอพอจะประเมินอาการของเด็กๆ ได้ว่าไม่หนักมาก ดังนั้นระหว่างมาที่นี่จึงได้ให้พวกเขาเดินเอง แต่เหตุผลที่ต้องขอค้างที่สถานพยาบาลหมู่บ้านก็เพราะเธอยังรับกับสภาพบ้านใหม่ของตัวเองไม่ได้

“ได้ครับ ที่ห้องพักฟื้นไม่มีคนไข้คุณกับเด็กๆ นอนพักที่นั่นได้”

กู้เหยียนไม่ใช่คนใจจืดใจดำถึงขั้นจะไล่คนกลับบ้านในเวลาค่ำๆ มืดๆ อีกอย่างแค่ขอนอนพักก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เฉินซิ่วลี่ยิ้มกว้างเอ่ยขอบคุณชายหนุ่มก่อนจะพาเด็กๆ ไปยังห้องพักฟื้นที่เขาบอก

สายตาของชายหนุ่มมองตามแผ่นหลังเล็ก หมู่บ้านตงหยางไม่ได้กว้างขวางมากนัก เรื่องราวต่างๆ จึงรู้กันโดยทั่ว เช่นเดียวกับเรื่องของเฉินซิ่วลี่ที่ผู้คนต่างเล่าลือกันว่าเธอใช้แผนสกปรกแย่งคู่หมั้นของญาติผู้พี่ เมื่อแต่งงานมีลูกก็ไม่สนใจทำหน้าที่แม่ เงินทองที่หลี่อันเฉิงผู้เป็นสามีส่งมาให้ก็นำมาบำรุงปรนเปรอตนเอง สุดท้ายเมื่อหลี่อันเฉิงตายไปยังไม่ทันถึงสามเดือนก็หนีตามชายชู้ไป

ทว่าสิ่งที่เขาเห็นกลับตรงหน้า สายตาที่มองเด็กๆ ของเฉินซิ่วลี่ล้วนเต็มไปด้วยความโอบอ้อมอารี ท่าทีที่แสดงก็ดูจริงใจไม่เสแสร้ง ชายหนุ่มมองคนที่กำลังห่มผ้าให้เด็กชายทั้งสองอย่างใส่ใจแล้วยกมุมปากขึ้นยิ้มบาง เรื่องบางเรื่องเพียงได้ยินจากปากผู้อื่นก็ไม่อาจตัดสินได้จริงๆ

.................................................

 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทที่ 1.3 แม่ที่เปลี่ยนไป

    บทที่ 1.3แม่ที่เปลี่ยนไปในตอนเช้าเฉินซิ่วลี่ฝากลูกชายฝาแฝดไว้กับกู้เหยียน โดยบอกกับเขาว่าเธอจะไปเอาเอกสารประจำตัวของเด็กๆที่บ้านเพื่อพาไปตรวจที่โรงพยาบาลในเมือง ทว่ากลับหายไปร่วมค่อนวัน“แม่ของพวกนายคงไม่ได้จะทิ้งพวกนายไว้ที่นี่ใช่ไหม”แม้จะไม่อยากคิดในแง่ร้ายแต่ชื่อเสียงของเฉินซิ่วลี่ก็ทำให้กู้เหยียนอดคิดไม่ได้ว่าหญิงสาวอาจจะหลอกเอาเด็กๆ มาทิ้งแล้วหนีตามชายชู้ไป อีกทั้งเขารู้เพียงว่าเด็กๆ ถูกทุบตีมาแต่ไม่ทราบว่าเจอเรื่องอะไรมาเมื่อคืน ดังนั้นจึงเอ่ยถามไปตามความคิด แต่เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของเด็กชายทั้งสองเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองก็ตระหนักได้ในทันทีว่าตนเองพูดเรื่องที่ไม่สมควรออกไป"พวกนายยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม อย่างนั้นฉันจะไปเอาของกินมาให้กินระหว่างรอแม่ของพวกนายมารับ"“ไม่เป็นไรครับ"ถึงแม้ว่าจะหิว แต่ท่านพ่อเคยบอกว่าไม่ให้พวกเขารับของจากคนแปลกหน้า ไม่ว่าจะเป็นของกินหรือของใช้ก็ตามดังนั้นหลี่หมิงกับหลี่ชุนจึงเอ่ยปฏิเสธความหวังดีของคุณหมอหนุ่มด้วยน้ำเสียงสุภาพ"รบกวนคุณหมอกู้นานแล้ว พวกเราขอกลับบ้านดีก่อนนะครับ”“ไม่ได้สิ พวกนายยังเด็กจะกลับบ้านเองได้ยังไงกัน ต้องรอให้ผู้ปกครองมารับ”ต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-13
  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทที่ 2.1 แม่ที่น่าโมโห

    บทที่ 2.1แม่ที่น่าโมโหทันทีที่เปิดประตูบ้านหลี่หมิงและหลี่ชุนก็ตกใจจนตาโต ข้าวของที่กระจัดกระจายไม่เป็นที่เป็นทางถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ เศษอาหาร และข้าวของที่เน่าเสียถูกจัดการออกไปแล้ว ภายในบ้านยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายดอกไม้อีกด้วย เมื่อเลื่อนสายตาไปที่โต๊ะอาหารและชั้นวางของที่มุมบ้านก็พบว่ามีดอกกุหลาบพื้นบ้านหลายดอกถูกนำมาจัดใส่แจกัน บ้านที่เคยให้ความรู้สึกอึดอัดและอยากหลีกหนีไปให้ไกล วันนี้กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างแปลกประหลาด หลี่หมิงลอบมองแม่ที่ไม่สวยงามเหมือนทุกวัน แต่กลับทำให้เขาอยากมองเธอมากกว่าทุกวัน“ในห้องของลูกแม่ไม่กล้าเอาอะไรทิ้ง แต่แม่จัดการเก็บกวาดให้แล้ว ของในกล่องลังมุมห้อง ลูกๆ ลองเลือกดูว่ามีอะไรอยากเก็บอยากทิ้งบ้าง”ในห้องของพวกเขาแม่ก็เข้าไปทำความสะอาดให้หรือ ที่แท้คนเป็นแม่หายหน้าไปร่วมค่อนวันก็เพื่อกลับมาทำความสะอาดบ้านนี่เอง แต่เรื่องเหนื่อยยากเช่นนี้แม่เขาจะยอมลงมือทำจริงๆ หรือ หลี่หมิงที่ยืนนิ่งด้วยอาการสงบ ลอบมองอีกฝ่ายอย่างจับผิด ตั้งแต่เขาจำความได้จนถึงตอนนี้แม่ของพวกเขาไม่เคยแม้แต่จะซักผ้า เมื่อก่อนพวกเขายังเด็กแม่ก็จะส่งให้ป้าอวี้ซักให้ เมื่อพว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-13
  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทที่ 2.2 แม่ที่น่าโมโห

    บทที่ 2.2แม่ที่น่าโมโหประมาณ 9 โมงหลี่หมิงก็กลับเข้าบ้าน เนื้อตัวของเขามอมแมมเต็มไปด้วยใบชาและเศษหญ้า ดูก็รู้ว่างานที่เขาไปทำน่าจะเป็นการเก็บใบชาหรือเกี่ยวหญ้าเลี้ยงสัตว์"อาชุน มากิน..."เสียงของเด็กชายชะงักทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้านแล้วพบว่าแม่ที่ควรนอนอยู่ในห้องวันนี้กลับตื่นเช้ากว่าปกติ มือเล็กรีบขยับไปยังด้านหลังเพื่อซ่อนไข่ต้มสุกสองฟองในมือจากสายตาของมารดา แต่เมื่อเห็นว่าสายตาของเฉินซิ่วลี่จดจ้องมาที่เขาด้วยท่าทางนิ่งงัน ด้านข้างมีน้องชายฝาแฝดของเขานั่งอยู่อย่างสงบนิ่งก็จำต้องยื่นส่งไข่ทั้งสองฟองให้เธอถือเสียว่าวันนี้เขากับน้องชายดวงไม่ดี อดอาหารเช้าสักวันก็แล้วกันเฉินซิ่วลี่รับไข่ต้มมาจากมือเล็ก เดิมทีตั้งใจจะตำหนิที่เขาออกจากบ้านสักประโยค แต่ภาพหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในความทรงจำเสียก่อนเจ้าเด็กสารเลว แกกล้าซ่อนอาหารฉันเหรอมือที่กุมไข่ไก่สั่นสะท้าน ภาพเจ้าของร่างเดิมเดินออกจากห้องมาแย่งชิงอาหารจากมือของหลี่หมิงซ้อนทับกับการกระทำของเธอในตอนนี้ อีกทั้งหลังจากแย่งชิงของกินแล้วเจ้าของร่างเดิมยังด่าทอทุบตีเด็กชายตรงหน้าอย่างรุนแรง ก่อนจะให้พวกเขาสองพี่น้องนั่งคุกเข่ามองเธอกินอาหารดวงต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-13
  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทที่ 2.3 แม่ที่น่าโมโห

    บทที่ 2.3แม่ที่น่าโมโหเฉินซิ่วลี่แทบอยากจะขอคืนคำพูดของตนเอง เดิมทีคิดว่าก็แค่เก็บชาเกี่ยวหญ้าเลี้ยงสัตว์ง่ายๆ ไม่ได้ยุ่งยากวุ่นวายอะไร หลี่หมิงอายุสามขวบยังทำได้ แล้วทำไมเธอที่อยู่ในร่างของหญิงสาววัยยี่สิบจะทำไม่ได้ ทว่าที่เฉินซิ่วลี่คาดไม่ถึงก็คือร่างกายนี้ดันเแพ้ขนหญ้า ทำงานได้เพียงหนึ่งชั่วโมงผื่นแดงก็ขึ้นทั้งตัว สุดท้ายยังต้องลำบากให้ ถังซาน บุตรชายลำดับที่สามของผู้ใหญ่บ้านถังปั่นจักรยานพาเธอไปส่งยังสถานพยาบาลหมู่บ้าน“นี่เป็นยาแก้แพ้กินครั้งละเม็ดวันละสามครั้งหลังอาหาร ส่วนนี่ยาทาแก้ผดผื่น ทั้งหมด 3 หยวนครับ”กู้เหยียน เอ่ยบอกพร้อมกับส่งถุงยาให้ เฉินซิ่วลี่รับซองกระดาษสีน้ำตาลตรงหน้ามาถือเอาไว้ด้วยสีหน้าไม่ดีนัก ทำงานครั้งแรกไม่เพียงไม่ได้ค่าจ้างยังต้องเสียค่ายาอีก หากเด็กชายทั้งสองคนรู้เข้าคงผิดหวังในตัวเธออย่างแน่นอน หากแต่ตอนที่เฉินซิ่วลี่กำลังจะเอ่ยปากขอกลับไปเอาเงินหยวนที่บ้านมาจ่ายค่ายา บนโต๊ะจ่ายยาก็มีคนวางเงินจ่ายแทนเฉินซิ่วลี่เงยหน้ามองเจ้าของเงินด้วยความสงสัย ถังซานถอนหายใจอย่างนึกรำคาญแล้วพูดเสียงห้วน“เธอป่วยเพราะทำงานให้ฉัน ฉันจ่ายค่ายาให้ก็สมควรแล้วไม่ใช่หรือไง”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-13
  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทที่ 3.1 แม่ที่ใฝ่ฝัน

    บทที่ 3.1แม่ที่ใฝ่ฝันหลังจากที่กู้เหยียนจากไป เฉินซิ่วลี่ก็พาหลี่หมิงเข้าไปนอนพัก เอ่ยกำชับเขาห้ามลุกจากเตียงไปไหน ยังเน้นย้ำว่าหากมีอาการปวดหัวมากขึ้นหรือคลื่นไส้อาเจียนให้รีบบอกเธอในทันที“พี่ชาย เจ็บไหมครับ”หลี่ชุนถามพี่ชายทั้งน้ำตา เพราะตอนที่หลี่อันอันลงมือทุบตี พี่ชายกอดเขาเอาไว้ ใช้ตัวเองเป็นเกราะกำบัง สุดท้ายทุกแรงทุบตีจากอาสามจึงถูกชายแบกรับไว้เพียงผู้เดียว ก่อนหน้านี้เพราะตกใจและหวาดกลัวหลี่ชุนจึงไม่ทันคิดอะไร ตอนนี้เห็นว่าพี่ชายถูกตีจนหัวแตกเลือดไหลในใจจึงรู้สึกผิดต่ออีกฝ่ายเป็นอย่างยิ่ง“พี่ไม่เจ็บ อาชุนอย่าร้องไห้”ทั้งที่ปวดระบมไปทั้งตัวแต่เมื่อเห็นน้องชายร้องไห้จนสะอื้น หลี่หมิงก็กัดฟันขามความเจ็บฝืนยิ้มและเอ่ยปลอบโยนน้องชายเสียงอ่อนโยนเฉินซิ่วลี่มองเด็กชายตัวน้อยที่วางท่าเข้มแข็งแล้วรู้สึกสะท้านในอก อยากขึ้นไปบนบ้านใหญ่ดึงคนใจร้ายผู้นั้นกลับมาสั่งสอนเพิ่มอีกสักหน่อยให้สาสมกับการกระทำที่โหดร้ายนี้ ทว่าในบ้านใหญ่เวลานี้ล้วนไม่มีคน เฉินซิ่วลี่จึงได้แต่เก็บความคับแค้นนี้ไว้ในใจ"พี่ชาย..."หลี่ชุนยังคงร้องเรียกพี่ชายเสียงสะอื้น แต่เมื่อเห็นสายตาห่วงใยของหลี่หมิงก็พยายา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15
  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทที่ 3.2 แม่ที่ใฝ่ฝัน

    บทที่ 3.2แม่ที่ใฝ่ฝันหลายวันมานี้บ้านตระกูลหลี่ค่อนข้างสงบ เพราะหม่าอิงหงพาหลี่อันอันที่ถูกเฉินซิ่วลี่หักข้อมือเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในเมือง ส่วนหลี่อันเผยลูกชายอีกคนของบ้านหลี่ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย ในรั้วบ้านหลี่จึงมีเพียงพวกเขาสามคนแม่ลูกเท่านั้นนึกดูตามนิยายแล้วคล้ายจะกล่าวว่าหกเดือนหลังจากที่ทางค่ายทหารส่งข่าวการตายของหลี่อันเฉิง หลี่อันเผย น้องชายต่างมารดาของหลี่อันเฉิงผู้นี้ก็เรียนจบระดับมหาวิทยาลัยกลับมาเป็นครูประจำที่โรงเรียนในหมู่บ้าน และตามตื๊อจีบเฉินซิ่วจูนางเอกของนิยายจนมีเรื่องกับเย่ชิงเหวินพระเอกในนิยายอยู่บ่อยๆ เมื่อนับดูเวลาแล้วก็คืออีก 3 เดือนข้างหน้าเฉินซิ่วลี่ไม่สนใจเส้นชะตารักของเฉินซิ่วจู แต่ที่เธอใส่ใจก็คือนิสัยของน้องสามีหลี่อันเผยผู้นี้ เพราะตอนนี้เขานับเป็นผู้นำตระกูลหลี่ เธอที่เป็นแม่ม่ายสามีตายหากไม่กลับบ้านเดิมก็ต้องพึ่งพาอยู่ภายใต้การดูแลเขา หากอีกฝ่ายมีนิสัยเช่นหม่าอิงหงผู้เป็นมารดา ชีวิตในอีกสามเดือนข้างหน้าของเธอก็นับว่ายากลำบากแล้ว เช่นนี้เธอควรเร่งวางแผนหาทางรอดให้ตนเองกับลูกชายของพ่อตัวร้ายเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ“ลูกว่าแม่เปิดร้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15
  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทที่ 3.3 แม่ที่ใฝ่ฝัน

    บทที่ 3.3แม่ที่ใฝ่ฝัน“เฉินซิ่วลี่ ออกมา!”เฉินซิ่วลี่หันมองไปทางประตูรั้ว พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา เหตุการณ์เช่นนี้บังเอิญเกินไปหรือไม่ ช่างสมกับเป็นเรื่องราวในนิยายเสียจริงๆ เดิมทีเฉินซิ่วลี่คิดอยากจะหลบหลีก แต่หลบวันนี้พรุ่งนี้ก็ต้องเจอ ไม่สู้ออกไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายตรงๆ เธอเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวหยิบเงินออกมา 3 หยวนอย่างลำบากใจ เงิน 3000 หยวนตอนนี้เหลือเพียง 2900 หยวนแล้ว หากยังไม่เร่งหามาทดแทนอนาคตเธอย่อมตกที่นั่งลำบากเฉินซิ่วลี่ เธอช่างเป็นตัวละครที่ทะลุมิติมาได้น่าสงสารจริงๆ ไม่เพียงเป็นตัวละครที่ตกยาก ยังไม่มีมิติ ไม่มีระบบช่วยใดๆ สวรรค์! นี่คงไม่ใช่การทะลุมิติมาเพื่ออดตายใช่หรือไม่ทว่าไม่รู้เพราะอาลัยอาวรณ์เงินหยวนนานเกินไปหรือไม่ ตอนที่ออกมาจากห้อง คนที่ร้องเรียกหน้าบ้านก็หายไปแล้ว“อาชุน ลุงสามถังของลูกเล่า เขาหายไปไหนแล้ว”“พี่ชายออกไปบอกลุงสามถังว่าแม่ไม่สบาย พรุ่งนี้พี่ชายจะไปทำงานแทน ลุงสามถังเลยบอกว่าอย่างนั้นก็ยกหนี้ให้ครับ”“ยกหนี้ให้!"เฉินซิ่วลี่ร้องด้วยความตกใจ ถังซานผู้นั้นหน้าตาดุดัน พูดจาโผงผาง ท่าทางไม่ยอมคน ให้คิดอย่างไรก็คาดไม่ถึงว่าเขาจะใจดียกหนี้ให้เธอง่ายๆ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15
  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทที่ 4.1 แม่ตัวอย่าง

    บทที่ 4.1แม่ตัวอย่าง“เจ้าเด็กไม่มีพ่อ แกกล้าตีลูกฉันเหรอ วันนี้ฉันจะสั่งสอนแทนพวกพ่อแกที่ตายไปเอง”ไม่มีพ่อ คำพูดที่ออกมานี้แม้ไม่หยาบคายแต่กลับทำให้เด็กชายทั้งสองเจ็บปวดจนตัวสั่น“เขารังแกอาชุนก่อน”“แล้วอย่างไร แกทำเขาหัวแตกวันนี้ฉันก็จะตีพวกแกให้ตัวแตกเช่นกัน”สะใภ้ใหญ่บ้านเฉาประกาศเสียงก้อง พร้อมกับหยิบไม้ขนาดพอดีมือง้างขึ้นหมายฟาดไปบนตัวเด็กน้อยตรงหน้าหลี่หมิงหมุนตัวหันมากอดหลี่ชุน ก่อนจะเม้มริมฝีปากกัดฟันเกร็งตัวรอรับแรงทุบตีจากสะใภ้บ้านเฉา ทุกครั้งก็เป็นเช่นนี้ เมื่อไหร่ที่ถูกรังแกพวกเขาล้วนไร้คนปกป้อง ผู้ใหญ่รอบตัวล้วนเข้าข้างเพียงลูกหลานตัวเอง ดังนั้นจึงมีเพียงพวกเขาที่ปกป้องกันและกันทว่าในจังหวะที่ไม้ในมือของสะใภ้ใหญ่บ้านเฉาฟาดลงมา ร่างของเขากลับถูกวงแขนหนึ่งโอบรัด ความเจ็บปวดที่เขาคิดว่าจะได้สัมผัสกลับแปลเปลี่ยนเป็นความอบอุ่นพลั่ก! “แม่!”หลี่หมิงและหลี่ชุนเบิกตากว้างเมื่อหันมาเห็นว่าแม่ของเขาถูกสะใภ้บ้านเฉาฟาดลงมาจนเต็มแรง คิ้วเรียวขยับเข้าหากัน ก่อนที่ดวงตาหวานจะตวัดมองไปยังคนที่ลงมือด้วยสายตาเกรี้ยวกราดกล้าตีลูกๆ ของเธออย่างนั้นหรือ“เกิดอะไรขึ้น!”เสียงเข้มหนักแน่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทที่ 12.4 ไม่อาจหลีกหนีไปชั่วชีวิต

    บทที่ 12.4ไม่อาจหลีกหนีไปชั่วชีวิตเฉินซิ่วลี่ปั่นจักรยานกลับบ้านเส้นทางเดิมเช่นทุกครั้ง หากแต่ครั้งนี้กลับพบเจอเรื่องที่แตกต่างจากทุกวัน“แม่! ฉันไม่อยากไป แม่อย่าบังคับฉันเลยนะ”“ไม่ไปได้ยังไง ฉันตกลงยกแกให้เขาไปแล้วยังไงแกก็ต้องไป”เสียงบทสนทนาของหญิงสาวสองคนบนถนนเส้นหลักของหมู่บ้านดังก้องเรียกสายตาของผู้คนโดยรอบให้หยุดมองรวมถึงเฉินซิ่วลี่ด้วย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย หญิงสาวสองคนนั้นมองดูแล้วคล้ายว่าจะมีสถานะเป็นแม่ลูกกัน เพียงแต่ที่น่าแปลกใจคือ เหตุใดคนเป็นแม่จึงคิดยกลูกสาวที่โตเต็มวัยให้ผู้อื่นเช่นนี้“อาซีช่างน่าสงสารจริงๆ เลย ดูสิอายุแค่ 16 ก็ถูกขายไปเป็นเมียน้อยคนอื่นแล้ว”ดวงตาของเฉินซิ่วลี่เบิกกว้างที่แท้เป็นการขายลูกสาวอย่างนั้นหรือ“นั่นน่ะสิ สะใภ้หวังคนนี้ช่างเกินไปจริงๆ ถึงแม้ว่าอาซีจะเป็นลูกเลี้ยง แต่ก็ไม่เห็นต้องทำกันถึงเพียงนี้”"ไม่ทำแบบนี้บ้านหวังจะเอาเงินที่ไหนแต่งสะใภ้เล่า"เฉินซิ่วลี่ได้ยินบทสนทนาของหญิงชาวบ้านในใจก็รู้สึกเวทนาคนขึ้นมา ขายลูกเลี้ยงแต่งสะใภ้ นี่มันเกินไปหรือไม่ก่อนหน้านี้เฉินซิ่วลี่เคยอ่านนิยายเจอเรื่องราวยากลำบากของผู้อื่นที่ผู้เขีย

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทที่ 12.3 ไม่อาจหลีกหนีไปชั่วชีวิต

    บทที่ 12.3ไม่อาจหลีกหนีไปชั่วชีวิตเฉินซิ่วลี่ตื่นเช้ามาด้วยอาการอ่อนเพลีย ต้องยอมรับว่าเรื่องราวที่พบเจอเมื่อวานทำให้เธอรู้สึกวิตกไม่น้อย ส่งผลให้นอนไม่หลับทั้งคืน วันนี้แม้แต่อาหารเช้าก็ยังกลืนไม่ลง สุดท้ายเพราะความเครียดที่โถมเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว ร่างกายก็เกินกว่าจะทนไหว ภาพตรงหน้าโคลงเคลง พร่ามัว ใบหน้าก็ซีดเซียวจนหลี่หมิงสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ“หน้าแม่ซีดมาก อาชุนพาแม่ไปนอนพี่จะไปบอกลุงหมอกู้”พูดจบหลี่หมิงก็วางตะเกียบวิ่งออกไปจากบ้านด้วยความรวดเร็ว ไปนานก็มาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านพักของกู้เหยียน“ลุงหมอกู้ครับ ลุงหมอกู้”เสียงเรียกที่มีความร้อนรนอยู่ในทีทำให้กู้เหยียนที่กำลังสวมเสื้อรีบวิ่งออกมาพลางติดกระดุมเสื้อไปด้วย “มีเรื่องอะไรอาหมิง”ถึงแม้จะเอ่ยถามออกไปแต่ในใจกู้เหยียนก็คาดเดาได้ว่า จะต้องเกิดเรื่องกับเฉินซิ่วลี่อย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นคนที่ยืนตรงนี้ต้องเป็นเธอ“แม่ไม่สบายครับ”กู้เหยียนไม่เสียเวลาแม้แต่จะสอบถามอาการรีบสวมรองเท้าวิ่งตรงไปยังบ้านพักอีกฝั่งของสถานพยาบาลหมู่บ้านทันที นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าการให้เฉินซิ่วลี่พักห่างไกลจากเขาเป็นเรื่องที่ผิดพลาด“อาชุน

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทที่ 12.2 ไม่อาจหลีกหนีไปชั่วชีวิต

    บทที่ 12.2ไม่อาจหลีกหนีไปชั่วชีวิตหลังจากที่ปลอบโยนเด็กชายทั้งสองและส่งเขาเข้านอนแล้ว เฉินซิ่วลี่ก็ออกมานั่งทบทวนเรื่องราวต่างๆที่พบเจอในวันนี้แน่นอนว่าการพบเจอกับหลี่อันเฉิงในนั้นป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย แต่เมื่อทบทวนเส้นเรื่องในนิยายดูคล้ายว่าเหตุผลที่เย่ชิงเหวินและหลี่อันเฉิงไม่ลงรอยกันตั้งแต่แรกพบนั้น เพราะครั้งหนึ่งพ่อตัวร้ายเคยทำให้การเจรจาต่อสัญญาค้าไม้ของเย่ชิงเหวินล้มเหลว ขณะเดียวกันเย่ชิงเหวินก็ทำให้ภารกิจของเขาถูกเปิดโปงเช่นกันหรือจุดเริ่มต้นของการบาดหมางที่ในนิยายเอ่ยถึงจะเป็นเรื่องราวในวันนี้ใบหน้าของเฉินซิ่วลี่ชาวาบ เพราะหากวันนี้คนที่เข้างานไปกับเย่ชิงเหวินคือของเจ้าของร่างเดิม เมื่อได้พบเจอกับชายที่มีหน้าตาคล้ายคลึงสามีเก่าที่ตายไปแล้ว สิ่งแรกที่เธอจะทำแน่นอนว่าต้องเป็นการเปิดโปงตัวตนของเขาหรือนี่จะเป็นเหตุผลที่หลี่อันเฉิงจับตัวเฉินซิ่วลี่ไปขังไว้ ไม่ใช่เพราะโกรธแค้นเรื่องการกระทำอันฉาวโฉ่ร้ายกาจของภรรยา แต่เพราะโกรธเคืองเรื่องที่เธอเปิดโปงภารกิจของเขาเมื่อนึกมาถึงตรงนี้เฉินซิ่วลี่ก็ใจสั่นระรัว นึกขอบคุณตนเองที่วันนี้ไม่ได้เปิดโปงตัวตนของหลี่อันเฉิง พูดให้ถูกคื

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทที่ 12.1 ไม่อาจหลีกหนีไปชั่วชีวิต

    บทที่ 12.1ไม่อาจหลีกหนีไปชั่วชีวิต“แล้วถ้าผมไม่ปล่อย! คุณจะทำไม!”ไม่เพียงแต่พูดโต้กลับอย่างไม่เกรงกลัว หลี่อันเฉิงยังกระชับอ้อมแขนโอบกอดคนให้แน่นมากขึ้น เฉินซิ่วลี่พลันขมวดคิ้วเรียวเพราะความอึดอัดยกมือขึ้นวางดันอกเขาออกห่างด้วยท่าทางต่อต้านเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงผลักจากฝ่ามือเล็ก หลี่อันเฉิงก็ก้มมองคนในอ้อมแขนด้วยสายตาไม่พอใจเธอกล้าผลักไสเขาหรือ...ที่ผ่านมาขอเพียงมีโอกาสเฉินซิ่วลี่มักจะฉกฉวยอยากสัมผัสแนบชิดกับเขาเสมอ ทว่าเพียงห้าเดือนที่เขาแจ้งข่าวการตายของตนเองไป หญิงสาวก็เปลี่ยนท่าทีเป็นเช่นนี้แล้ว ช่างน่าโมโหจริงๆ“เฉินซิ่วลี่อย่าได้ลืมสถานะตนเอง”แม้น้ำเสียงที่ใช้เอ่ยออกมาจะแผ่วเบา ทว่าเฉินซิ่วลี่ก็สัมผัสได้ถึงความเกรี้ยวกราดไม่พอใจอยู่ในทีของเขา มือเรียวที่ผลักไสพลันหยุดชะงัก ไม่กล้าออกแรงดิ้นรนต่อต้านเขาอีกเพียงแต่ไม่ต่อต้านก็ไม่ได้หมายความว่าเธอยินยอมแต่เพราะรู้ดีว่าพ่อตัวร้ายหลี่อันเฉิงคนนี้มีนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นและไม่ยอมคน ดังนั้นการสร้างปัญหากับเขาย่อมไม่ส่งผลดีต่อตัวเธอในอนาคต ครั้งนี้เฉินซิ่วลี่จึงยอมถอยให้เขาหนึ่งก้าว เธอสูดลมหายใจเข้าพยายามข่มกลั้นความโกรธเคืองในใจ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทที่ 11.4 บางอย่างที่เปลี่ยนไป

    บทที่ 11.4บางอย่างที่เปลี่ยนไปเย่ชิงเหวินใช้เวลาราว 15 นาทีก็ขับรถมาหยุดที่หน้าภัตตาคารหรูใจกลางเมือง ร่างสูงโปร่งลงจากรถลงมายืนด้านข้าง ปรายตามองดูหญิงสาวที่นั่งนิ่งในรถแล้วยกมุมปากขึ้น ก่อนจะเดินอ้อมมาเปิดประตูส่งแขนให้เธอวางฝ่ามือแล้วก้าวลงจากรถ“ขอบคุณค่ะ”เสียงหวานเอ่ยบอกก่อนจะคลี่ยิ้มอ่อนโยน ท่าทางเช่นนี้ชวนให้ผู้คนโดยรอบจดจ้องมาที่คนทั้งสองในทันทีขณะที่พนักงานชายคนหนึ่งเร่งเดินเข้ามาต้อนรับพวกเขาด้วยท่าทางสุภาพ “สวัสดีครับคุณเย่”เย่ชิงเหวินพยักหน้ารับคำทักทายก่อนจะยื่นบัตรเชิญให้อีกฝ่าย โดยที่ไม่ต้องพูดอะไรคนก็นำทางเขาเข้าไปยังห้องรับรองระดับVVIP“หากคุณเดินไม่สะดวกบอกผมนะครับ”เฉินซิ่วลี่ยกมุมปากขึ้นยิ้มบางๆ บอกเขาแล้วอย่างไร หากเธอเดินไม่ไหวจริงๆ เย่ชิงเหวินจะอุ้มเธอเขางานอย่างนั้นหรือ“คุณโจวกำลังเดินทางมา คุณเย่เชิญตามสบายครับ”เย่ชิงเหวินพยักหน้ารับคำคนนำทางแล้วพาเฉินซิ่วลี่ไปนั่งยังโต๊ะด้านใน เพื่อที่จะลดความอึดอัดใจของเธอ“คุณนั่งรอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมไปตักของว่างให้”เฉินซิ่วลี่ย่อมเข้าใจดีว่าที่เย่ชิงเหวินใส่ใจเธอเช่นนี้เพียงแค่ไม่ต้องการให้เธอเป็นที่สนใจของผู้ค

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทที่ 11.3 บางอย่างที่เปลี่ยนไป

    บทที่ 11.3บางอย่างที่เปลี่ยนไปเฉินซิ่วลี่นำเงินหยวนที่ได้รับมาจากการขายจักรยานให้เกาหย่ง เก็บใส่ไว้ในถุงผ้าก่อนจะยัดซ่อนไว้ในไส้หมอนอีกครั้ง ตอนนี้คำนวณดูแล้วเธอมีเงินเก็บรวมๆ กันร่วม 4,000 หยวน อนาคตในภายหน้าย่อมไม่กลัวความลำบากอีกต่อไปแต่ถึงจะมีเงินแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ต้องหาเงินเพิ่ม เพียงแต่บนฝ่ามือยังมีแผลทำให้เฉินซิ่วลี่ไม่สามารถทำซาลาเปาไปขายให้ถังซานได้เช่นเดิม ดังนั้นจึงเอาเวลาทั้งวันอยู่กับกองเศษผ้าเริ่มจัดการเย็บโบว์ติดผมอย่างขะมักเขม้น ผ่านไปสามวันโบว์ติดผมร่วมสามร้อยชิ้นก็เสร็จสิ้นเฉินซิ่วลี่คำนวณราคาคร่าวๆ เธอตกลงราคาซื้อขายโบว์ติดผมกับแม่ค้าขายผ้าไว้ที่ 2 ชิ้น 1 เหมา ตอนนี้เธอมีโบว์ติดผม 300 ชิ้น ย่อมเปลี่ยนเป็นเงินได้ประมาณ 15 หยวน หักค่าอุปกรณ์ต่างๆ แล้วก็ยังคงเหลือที่ 12 หยวน นับว่าทำเงินได้ดีเลยทีเดียวและถึงแม้ร้านผ้าที่ตกลงซื้อขายไว้จะรับซื้อโบว์ติดผมของเธอเพียง 50 ชิ้น อีก 250 ชิ้นก็สามารถนำไปขายที่ร้านอื่นได้ อย่างไรเสียที่นั่นก็คือตัวเมือง ย่อมต้องมีร้านค้าที่ยินดีรับซื้อโบว์ของเธอแน่นอนเมื่อมองเห็นตัวเงินแม้จะเป็นเพียงในความคิด แต่ก็ทำให้เฉินซิ่

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทที่ 11.2 บางอย่างที่เปลี่ยนไป

    บทที่ 11.2บางอย่างที่เปลี่ยนไป“แม่ครับ แม่จะแต่งงานใหม่ไหมครับ”เมื่อกลับถึงบ้าน หลี่หมิงก็เอ่ยถามคนเป็นแม่ด้วยน้ำเสียงไม่มั่นคงนัก ขณะที่หลี่ชุน เม้มริมฝีปาก ก้มหน้าซ่อนดวงตาที่แดงก่ำของตนเอาไว้ หากแม่แต่งงานใหม่ย่อมต้องมีลูกใหม่ แล้วพวกเขาสองคนพี่น้องเล่า แม่จะยังต้องการอยู่หรือไม่ความคิดที่ว่ามารดาอาจจะขายพวกเขาออกไปเพื่อลดภาระย้อนกลับเข้ามาในใจของเด็กชายทั้งสองอีกครั้ง“ทำไมลูกถึงถามแม่แบบนี้ล่ะ”เฉินซิ่วลี่มองใบหน้าที่แฝงความเศร้าของเด็กๆ แล้วในใจเกิดความปวดหนึบขึ้นมา เธอย่อมไม่คิดแต่งงานใหม่ ชีวิตในยุคที่เธอไม่คุ้นเคยนี้เพียงคิดหาหนทางให้มีชีวิตรอดจากเงื้อมมือหลี่อันเฉิงก็ยากลำบากมากพอแล้ว เธอย่อมไม่คิดหาเรื่องวุ่นวายอย่างการแต่งงานใหม่มาใส่ตัว“หรือว่าลูกๆ อยากให้แม่หาพ่อให้”เด็กๆ อายุยังน้อย บางทีพวกเขาอาจต้องการใครสักคนมาคอยดูแลปกป้องในฐานะพ่อ ทว่าเฉินซิ่วลี่ยังไม่ทันอธิบายว่าภายหน้าพ่อตัวจริงของพวกเขาก็จะกลับมาปกป้องพวกเขาศีรษะเล็กของทั้งสองคนก็ส่ายไปมาในทันที“ไม่ครับ พวกเราไม่อยากได้พ่อ”หลี่หมิงเอ่ยบอกเสียงหนักแน่น หลี่ชุนที่ยืนข้างๆ ก็พยักหน้ารับอย่างเห็นพ้องก่อนจะพู

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทที่ 11.1 บางอย่างที่เปลี่ยนไป

    บทที่ 11.1บางอย่างที่เปลี่ยนไปเฉินซิ่วลี่มองแปลงผักที่ลุงอวี้ขึ้นให้ด้วยความปลาบปลื้ม ก่อนจะหันไปขอบคุณอีกฝ่ายและมอบซาลาเปาหนึ่งถุงให้เขาเป็นการตอบแทน“หมอกู้ หมอกู้ อยู่หรือไม่”เสียงคุ้นหูดังขึ้นเฉินซิ่วลี่ขมวดคิ้วเรียวในทันที เธอจำได้แม่นว่านี่เป็นเสียงของหม่าอิงหง ทว่าอีกฝ่ายมาที่นี่ทำไม หรือว่าคนพวกนี้จะไม่ยอมรามือจึงตามมาหาเรื่องเธอถึงที่นี่ ในใจของเฉินซิ่วลี่รู้สึกเป็นห่วงเด็กๆ ขึ้นมาในทันที รีบวางถุงเมล็ดผักกาดในมือแล้วออกไปที่หน้าบ้าน แต่เมื่อเห็นว่าหม่าอิงหงประคองหลี่อันอันเดินเข้าไปในสถานพยาบาลหมู่บ้านก็ผ่อนลมหายใจยาวอย่างโล่งใจ“คุณนายหลี่ คุณหนูหลี่ มีอะไรหรือครับ”“หมอกู้ช่วยตรวจอาการของอันอันให้หน่อย เธอถูกนางเฉิน...”หลี่อันอันเห็นว่าแม่กำลังจะพาดพิงถึงเฉินซิ่วลี่ก็รีบสะกิดห้าม นั่นเพราะยังจดจำท่าทีปกป้องเฉินซิ่วลี่ของกู้เหยียนในวันแยกบ้านได้ไม่ลืม หากคิดจะเข้าไปนั่งในใจของชายหนุ่มเธอจะต้องวางตัวให้น่าสงสารกว่าเฉินซิ่วลี่“เอ่อ... หญิงชั่วน่ะ เป็นหญิงชั่วหน้าหนาคนหนึ่งทำร้ายอันอัน หมอกู้คุณช่วยดูอันอันของพวกเราที”กู้เหยียนยกมุมปากเล็กน้อย มือหนาขยับแว่นสายตาให้เข้าท

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทที่ 10.4 คิดบัญชี

    บทที่ 10.4คิดบัญชีเฉินซิ่วลี่กลับถึงบ้านก็อาบน้ำล้างตัว ก่อนจะสอนเด็กๆ คัดตัวอักษร รอจนตอนบ่ายพวกเขาเข้านอนกลางวันเธอจึงไปหากู้เหยียนที่สถานพยาบาลหมู่บ้าน“คุณเฉิน... มาหาผมไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับ”เมื่อเช้าหลี่อันอันมาหาเรื่องเฉินซิ่วลี่ บางทีอาจทำร้ายจนเธอบาดเจ็บ ดังนั้นเมื่อเห็นเฉินซิ่วลี่มาหาเขาถึงตัวอาคารสถานพยาบาลหมู่บ้าน กู้เหยียนจึงรีบลุกขึ้นเดินมาหาเธอด้วยความห่วงใยในทันที“ฉันสบายดีค่ะ มีแค่แผลถลอกนิดหน่อย”เฉินซิ่วลี่ยกฝ่ามือของตนเองให้คุณหมอหนุ่มดู คิ้วเข้มก็ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย หมุนตัวไปหยิบชุดทำแผลออกมาจากในตู้เก็บอุปกรณ์ทางการแพทย์“จะมากจะน้อยก็เป็นแผลครับ นั่งลงเดี๋ยวผมล้างให้นะครับ”น้ำเสียงที่เข้มขึ้นเล็กน้อยทำให้เฉินซิ่วลี่ยิ้มแห้ง ทิ้งตัวนั่งลงตรงหน้าเขาอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะยื่นมือไปเบื้องหน้ากู้เหยียนมองท่าทางว่าง่ายนร้แล้วยกยิ้ม ช่างเป็นหญิงสาวที่ชวนให้มองได้ทุกกิริยาจริงๆ มือหนาเทน้ำยาล้างแผลลงในถ้วยยา ก่อนจะขยับตัวทำแผลให้เฉินซิ่วลี่อย่างเบามือ"โอ๊ะ!"เสียงเล็กร้องทันทีที่ก้านสำลีจรดลงบนกลางฝ่ามือ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน เม้มริมฝีปากกลั้นเสียงร้องไว้ในลำ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status