บรรยากาศในจวนอ๋องหลีเงียบสงบ เมื่อเจ้าของจวนอยู่ในอาการโศกเศร้า นั่งอยู่ในห้องด้วยท่าทีนิ่งเงียบ บนเตียงนอนยังคงเป็นว่าที่พระชายาของอ๋องหลี รอคอยการแก้พิษ "อ๋องหลีขอรับ ทหารที่ไปนำยามาถึงแล้วขอรับ"ทันทีที่ได้ยินเสียงทหารของตนรายงานว่าทหารที่ไปนำยามาถึงจวนเรียบร้อยแล้ว อ๋องหลีถึงกับลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความดีใจ"ไปตามท่านหมอเกอมา!" อ๋องหลีออกคำสั่งทันที ท่านหมอเกออยู่ดูแลอาเฟยตลอด 2 วันที่ผ่านมา เพิ่งจะกลับไปพักที่ห้องรับรองที่เขาจัดให้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ทันทีที่ท่านหมอเกอมาถึง จัดการผสมยาแล้วจับกรอกเข้าไปในปากของอาเฟยทันที"เป็นยังไงบ้างท่านหมอเกอ คนรักของข้าจะหายหรือไม่""ตอนนี้แล้วแต่บุญแต่กรรมแล้วท่านอ๋อง เราทำทุกอย่างเต็มความสามารถแล้ว มันก็อยู่ที่ว่าร่างกายของว่าที่พระชายาจะสามารถซึมซับเอาตัวยาเข้าไปรักษาพิษได้มากน้อยแค่ไหน"คำพูดของท่านหมอเกอทำให้อ๋องหลีถึงกับเซ ไม่มีคำยืนยันจากท่านหมอเกอว่าอาเฟยจะฟื้น อ๋องหลีรีบถลาไปที่เตียงนอนพร้อมกับจับมือคนรักขึ้นแนบแก้มทันที"กลับมานะอาเฟย กลับมาหาพี่ พี่รู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนในโลกของพี่ พี่รู้ว่าเจ้าสามารถกลับไปได้ทุกเมื่อ แต่ได้โปรดเถ
นักโบราณคดีผู้ที่ศึกษาการใช้ชีวิตในอดีตของมนุษย์ในทุกมิติ📃 ลักษณะงานศึกษา รักษา อนุรักษ์แหล่งโบราณคดี หรือโบราณสถานสำรวจ ขุดค้น แหล่งโบราณคดีเพื่อค้นหาโบราณวัตถุวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล เขียนเป็นเรื่องราวของมนุษย์ในอดีตอาจทำงานอาชีพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น เป็นคอลัมนิสต์เขียนบทความ หรือเป็นมัคคุเทศก์ เป็นต้น📊 ขั้นตอนการทำงานการทำงานของนักโบราณคดีที่ทำงานในสังกัดกรมศิลปากร แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนทำงานในออฟฟิศและในส่วนลงพื้นที่ขุดค้นสำรวจ ซึ่งนักโบราณดคีแต่ละคนอาจมีสัดส่วนการทำงานในออฟฟิศและพื้นที่ขุดค้นสำรวจแตกต่างกันไป โดยทั่วไปแล้วมีขั้นตอนการทำงานดังนี้รับมอบหมายงานที่ต้องทำ เช่น ได้โจทย์เป็นการศึกษาวัฒนธรรมบ้านเชียง เป็นต้นเตรียมข้อมูล ทบทวนวรรณกรรม สืบค้นข้อมูลในอดีตที่มีเตรียมการสำรวจ ว่าจะสำรวจอะไร เตรียมข้อมูล แผนที่ ดูพื้นที่ก่อนลงสำรวจขุดค้นจริง ๆ เพื่อสำรวจและวิเคราะห์จุดขุดค้นที่เหมาะสมลงทำงานในภาคสนามเพื่อขุดค้น และทำงานในส่วนเก็บข้อมูลชุมชน ด้วยการสัมภาษณ์ พูดคุย และคลุกคลีกับคนในชุมชนในการขุดค้นสำรวจตามวิธีต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูลหลักฐาน และชิ้นส่วนโ
ราชวงศ์ฉิน (秦) มาจากชื่อแคว้นฉินของสกุลอิ๋ง (嬴) เดิมอยู่ในแถบเสฉวนทางตะวันตกของจีน แต่ได้ขยายอำนาจและย้ายศูนย์กลางการปกครองเข้ามายังภูมิภาคกวนจง (關中) หรือภาคกลางของจีนจนรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งสถาปนาจักรวรรดิแห่งแรกขึ้นได้สำเร็จ สงครามเพื่อรวมชาติของฉิน เป็นชุดสงครามที่เริ่มต้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาลโดย รัฐฉิน ต่อต้าน อีกหก มหาอำนาจที่เหลืออยู่ในจีน ได้แก่ ฮั่น จ้าว ห ยาน เว่ย ฉู่ และ ฉี ระหว่างปี 247 ถึง 221 ก่อนคริสตกาล ฉินได้พัฒนาจนกลายเป็นหนึ่งใน เจ็ดรัฐสงคราม ที่ทรงอำนาจที่สุดของจีนที่รวมตัวกันหลังจากการเสื่อมถอยของ ราชวงศ์โจว"ห้ามเข้า!" ทหารรักษาที่พักชั่วคราวของท่านอ๋องหลียกดาบขึ้นเพื่อกันไม่ให้ทหารนายหนึ่งเข้าไปด้านใน"อย่าขวางข้า ถ้ามีเรื่องสำคัญที่จะต้องทูลให้อ๋องหลีได้รับทราบ" ทหารนายนั้นกล่าวขึ้นเสียงแข็ง ทำให้ทหารอีกสองคนที่ใช้ดาบขวางทางต้องเปิดดาบออกทันทีภายในกระโจมชั่วคราวสำหรับท่านอ๋อง ด้านในกว้างขวาง ท่านอ๋องหลีเป็นผู้บัญชาการทหารหนึ่งในใต้หล้า ออกรบมาเป็นร้อยเป็นพันสนาม เขาชนะทุกศึก ไม่ว่าจะศึกน้อยหรือศึกใหญ่ ศึกนี้ก็เช่นกัน หลังจากที่กองทัพของดินแดนฮั่นไม่
อาเฟยรู้สึกถึงอันตรายที่อยู่ใกล้ตัวทันที เขามองไปรอบๆเหมือนที่แห่งนี้จะเป็นกองโจรอะไรสักอย่าง มันไม่น่าปลอดภัยกับเขา เขาน่าจะถูกโจรจับมาแล้วล่ะ ถ้าจำไม่ผิดก่อนที่จะหมดสติไปเขาอยู่ในห้องวิจัย แสดงว่าพวกโจรกลุ่มนี้จะต้องลักพาตัวเขามาจากในห้องวิจัยแน่นอน อาเฟยพยายามขยับตัว ปรากฏว่าเขาถูกมัด แต่เขาฝึกการต่อสู้มาอย่างช่ำชอง ไม่มีทางที่โจรพวกนี้จะสามารถพันธนาการเขาได้ อาเฟยใช้เวลาไม่นานเชือดก็หลุดออกจากร่างกาย เขาเดินไปใกล้ทหารสองคนที่ยืน ปรากฏว่าหลับอย่างที่เขาคิดจริงๆด้วย เขาจึงรีบเดินหลบเข้าไปดูด้านในด้วยความอยากรู้ เขาเห็นว่าทหารสองคนที่ยืนนั้นแต่งตัวแปลกมาก ใส่ชุดเหมือนทหารโบราณ ไม่เหมือนกองโจรอย่างที่คิดไว้ตอนแรก ความอยากรู้อยากเห็นของนักโบราณคดีกระตุ้นให้อาเฟยเข้าไปในชุมโจรแห่งนั้น"โอ้โห..?มีทั้งดาบมีทั้งหอกแถมยังมีทหารมากมายก่ายกองแต่งตัวเหมือนชุดคอสเพลย์ ต้องลงทุนเท่าไหร่กันเนี่ย"อาเฟยค่อยๆพาตัวเอง หลบตามมุมต่างๆไม่ให้ใครเห็น ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ดึกพอสมควรทำให้คนที่แต่งชุดทหารพวกนี้ส่วนมากนอนหลับ อาเฟยมองเห็นกระโจมที่ใหญ่ที่สุด เขาคิดว่าในนั้นจะต้องมีสิ่งที่เขาอยากรู้แน่ๆ คนกล
อาเฟยยังคิดว่านี่คือกลุ่มของนักวิจัยที่จับเขามา แต่ที่เขาไม่เข้าใจก็คือทำไมต้องแต่งคอสเพลย์เป็นคนโบราณกันด้วย คิดว่าเขาจะกลัวกับคนแบบนี้หรือไง "แต่งเหมือนซะด้วยนะ ดูซิเนี่ยขนาดผมก็ยังใส่วิกยาว"'พลึ่บ' อาเฟยเดินไปข้างหลังผู้ชายร่างสูงก่อนที่กะจะดึงวิกออกแต่ปรากฏว่าร่างทั้งร่างของชายคนนั้นถอยกลับหลังเพราะแรงดึงของเขา"บังอาจนัก! กล้าดีอย่างไรถึงได้มาดึงผมข้าแบบนี้ เจ้าไม่ห่วงชีวิตของตัวเองแล้วสินะ!!" อ๋องหลีโมโหอย่างรุนแรงที่มีคนบังอาจมาจับเส้นผมของเขา ทั่วทั้งปฐพีไม่มีใครแม้แต่จะใช้มือลูบผมของเขาด้วยซ้ำ นอกจากคนรับใช้ที่คอยดูแลเส้นผมของเขาเท่านั้น[อะไรเนี่ย! ผมจริงเหรอ ลงทุนเหมือนกันแฮะ]อาเฟยไม่ได้สนใจกับคำตวาดของชายตรงหน้าเขายังคงคิดว่ามันเป็นเรื่องตลก การแสดงระดับออสก้าแน่ๆอ๋องหลีเองก็กำลังงงกับการกระทำของโจรตัวเล็ก นอกจากจะไม่ยำเกรงเขาแล้ว ดูเหมือนว่าคนคนนี้จะไม่ห่วงชีวิตเลยด้วยซ้ำ"เลิกเล่นละครได้ละ ฉันรำคาญแล้วเนี่ย สรุปว่านายเป็นคนของกลุ่มไหนจ้างมาให้แสดงละครแบบนี้ มันน่าตลกจริงๆเลยแต่งตัวบ้าบออะไรเนี่ย" อาเฟยเท้าสะเอวใส่ชายแปลกหน้า เขารู้สึกว่าการแสดงพวกนี้มันเริ่มน่าเบื่อแ
อาเฟยตวัดทั้งตัวหันกลับไปเพื่อจ้องหน้ากับคนตัวโตที่เขาไม่รู้จัก เขาต้องการจะออกจากกระโจมนี้แต่ดูเหมือนคนทั้งหมดจะไม่ยอมหยุดเล่นละครสักที รู้จักอาเฟยศิษย์บัญชาบูรพา ค่ายมวยที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยน้อยไปซะแล้ว"ตกลงว่าจะไม่ปล่อยฉันไปใช่ไหม!" อาเฟยถามเป็นครั้งสุดท้ายในขณะที่อ๋องหลียืนมองชายร่างเล็ก ที่ทำท่าทางเหมือนจะเป็นแม่เสือจ้องเหยื่อ มันช่างน่าตลกมากกว่าน่ากลัว"ดูสิหมอเกอ คนเช่นนี้หรือที่ท่านบอกว่ามีความพิเศษแผ่ออกมาจากตัว ข้าเห็นแต่คนบ้าที่กำลังเดินหาความตาย!" อ๋องหลีพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะในลำคอ"หยุดก่อนเถอะ อย่าทำเรื่องง่ายให้มันเป็นเรื่องยากเลยนะคุณชายน้อย เดี๋ยวท่านอ๋องจะโกรธหนักไหมมากกว่านี้มันจะไม่มีทางหนีรอดความตายได้" ท่านหมอเกอ เห็นบางอย่างอยู่ในตัวของเด็กหนุ่มคนนี้จริงๆ เขาเป็นทั้งหมอและเป็นทั้งซินแสไปในตัว เขาแน่ใจกับความคิดของเขาแน่นอน"พวกคุณเป็นใครผมยังไม่รู้จักเลย แล้วทำไมผมต้องเชื่อพวกคุณด้วย เลิกเล่นละครกันได้แล้วผมต้องการกลับศูนย์วิจัย ถ้าคุณไม่พาผมกลับศูนย์วิจัยรับรองว่าผมจะพังประตูนี้ให้ไม่เหลือซากเลย!" อาเฟยตะโกนด้วยความไม่พอใจ ละครแสนห่วยนี่ทำไมไม่เลิกเล่น
การคุยกับท่านหมอเกอไม่เป็นผล ท่านหมอจึงสั่งให้อาเฟยหลับพักผ่อนพรุ่งนี้ค่อยมาคิดกันว่าจะเอาอย่างไรต่อไป ซึ่งอาเฟยก็เห็นด้วยเพราะตอนนี้มันเป็นเวลาที่ดึกมากแล้ว เขาได้นอนอยู่ข้างๆเตียงนอนของท่านหมอเกอ มีผ้าห่มบางๆห่มร่าง แต่หน้าแปลกที่ไม่หนาวเลย ทั้งๆที่ภายนอกหิมะกำลังตกและมีอาการที่หนาวเย็นมาก แต่ภายในเต็นท์นอนขนาดใหญ่นี้กลับอบอุ่น วันรุ่งอรุณ อาเฟยตื่นเช้าขึ้นด้วยความเมื่อยล้า ถึงแม้ว่าอากาศจะไม่หนาวแต่พื้นแข็งมาก เล่นเอาเขาปวดหลังจนกระดูกลั่นก๊อบแก๊บไปหมด อาเฟยมองดูเตียงนอนของท่านหมอเกอ ปรากฏว่าท่านหมอเกอตื่นไปแล้ว เขาจึงทำการเก็บที่หลับที่นอนของตัวเอง แล้วเดินออกจากสิ่งที่เขาเรียกว่ากระโจม เป็นที่พักชั่วคราวที่เขาเคยเห็นผ่านๆตาประมาณในหนังจีนโบราณ ทันทีที่เขาเดินออกมาภายนอกทำให้อาเฟยถึงกับตาค้าง [อะไรกันเนี่ย] อาเฟยถึงกับอุทานในใจ ด้านนอกเขาเห็นคนใส่ชุดทหารนับร้อยนับพันคนวิ่งสวนกันไปมา ทุกคนถืออาวุธครบมือ ที่นี่เป็นกองทัพจริงๆด้วย ไม่ใช่ศูนย์วิจัยอย่างที่เขาเข้าใจ แล้วยุคนี้มันจะมีได้อย่างไรกองทัพแบบนี้ อาเฟยพยายามรวบรวมสติและสิ่งที่เขาเจอมาทั้งหมด สิ่งที่เขาคิดว่ามันเป็นการแกล้
อาเฟยมองคนที่ทุกคนเรียกว่าอ๋องหลี เมื่อคืนปล่อยผมแถมยังใส่เสื้อบางเบา วันนี้ใส่ซะเต็มยศ ไม่ร้อนหรือยังไง"หาก็หาสิ ทำไมจะต้องมาขึ้นมงขึ้นมันด้วย"อาเฟยพูดขึ้นก่อนที่จะถูกท่านหมอเกอดุอีกครั้ง"เจ้าควรพูดให้มีสัมมาคารวะบ้างนะเจ้าหนุ่ม ให้รู้ไว้ว่านี่คือท่านอ๋องหลี ท่านไม่ใช่คนที่เราจะสามารถใช้คำหยาบคายได้"คำพูดของท่านหมอเกอทำให้อาเฟยต้องเงียบปากลง เพราะยังไงซะท่านหมอเกอก็อุตส่าห์ออกหน้าช่วยรักษาชีวิตเขาไว้"ท่านหมอเกอจะทำอะไรก็ออกไปทำเถอะ ปล่อยมันไว้ที่นี่แหละ วันนี้ข้าไม่ออกจากกระโจมอยู่แล้ว อยากจะพักผ่อนสักหน่อย" อ๋องหลีพูดขึ้นทำให้ท่านหมอต้องโค้งคำนับแล้วรีบออกจากกระโจมตามคำสั่งทันทีโดยทิ้งอาเฟยเอาไว้"เจ้าชื่ออะไร" "ชื่ออาเฟย" อาเฟยตอบในขณะที่ยืนนิ่งอยู่กลางกระโจมใหญ่"แล้วทำไมยังไม่รีบหาอีก หรือจะต้องโดนหวายลงหลังสักทีสองทีถึงจะหาได้" คำสั่งของอ๋องหลีทำให้อาเฟยทำปากขมุกขมิบด่าอยู่ในใจ[ไอ้คนเผด็จการ]อาเฟยก้มหาตามโต๊ะทำงานของอ๋องหลี เป็นหยกสีเขียวมรกตมีรูปร่างกลมๆขนาดไม่ใหญ่นัก เขาจำได้ว่าเมื่อคืนเขายืนที่จุดนี้พร้อมกับกำลังดูหยกอยู่แต่แล้วก็ตกใจเสียงคนบ้านั่นทำให้หยกหลุดออกจากมื
บรรยากาศในจวนอ๋องหลีเงียบสงบ เมื่อเจ้าของจวนอยู่ในอาการโศกเศร้า นั่งอยู่ในห้องด้วยท่าทีนิ่งเงียบ บนเตียงนอนยังคงเป็นว่าที่พระชายาของอ๋องหลี รอคอยการแก้พิษ "อ๋องหลีขอรับ ทหารที่ไปนำยามาถึงแล้วขอรับ"ทันทีที่ได้ยินเสียงทหารของตนรายงานว่าทหารที่ไปนำยามาถึงจวนเรียบร้อยแล้ว อ๋องหลีถึงกับลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความดีใจ"ไปตามท่านหมอเกอมา!" อ๋องหลีออกคำสั่งทันที ท่านหมอเกออยู่ดูแลอาเฟยตลอด 2 วันที่ผ่านมา เพิ่งจะกลับไปพักที่ห้องรับรองที่เขาจัดให้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ทันทีที่ท่านหมอเกอมาถึง จัดการผสมยาแล้วจับกรอกเข้าไปในปากของอาเฟยทันที"เป็นยังไงบ้างท่านหมอเกอ คนรักของข้าจะหายหรือไม่""ตอนนี้แล้วแต่บุญแต่กรรมแล้วท่านอ๋อง เราทำทุกอย่างเต็มความสามารถแล้ว มันก็อยู่ที่ว่าร่างกายของว่าที่พระชายาจะสามารถซึมซับเอาตัวยาเข้าไปรักษาพิษได้มากน้อยแค่ไหน"คำพูดของท่านหมอเกอทำให้อ๋องหลีถึงกับเซ ไม่มีคำยืนยันจากท่านหมอเกอว่าอาเฟยจะฟื้น อ๋องหลีรีบถลาไปที่เตียงนอนพร้อมกับจับมือคนรักขึ้นแนบแก้มทันที"กลับมานะอาเฟย กลับมาหาพี่ พี่รู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนในโลกของพี่ พี่รู้ว่าเจ้าสามารถกลับไปได้ทุกเมื่อ แต่ได้โปรดเถ
"อาเฟยลูก"เสียงนี้อีกแล้ว เสียงที่เหมือนแม่เรียกคำพูดเดิมที่เคยได้ยิน แต่เขาไม่รู้เลยว่าเสียงนี้มันคือเสียงใครกันแน่ คราวที่แล้วเสียงนี้เรียกเขาให้เดินตามไปจนในที่สุดเขาก็หลงเข้าไปในยุคโบราณ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็เกือบปีแล้ว เขายังคงได้ยินเสียงนี้อยู่อีก"อาเฟยลูก"อาเฟยลืมตาขึ้น ก่อนที่จะมองไปรอบๆ "อาเฟย" เสียงเรียกย้ำทำให้อาเฟยหันกลับไปมอง"แม่!" สิ่งที่เขาเห็นนั่นคือแม่ของเขาที่เสียชีวิตไปตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก แม่คนเดิมที่ใจดีของเขา"คนดีของแม่ เหนื่อยไหมลูก""ไม่เหนื่อยเลยครับแม่ ผมมีความสุขมากๆเลยที่ได้อยู่กับท่านพี่ แต่ทำไมตอนนี้บรรยากาศมันดูแปลกๆนะครับ มันเกิดอะไรขึ้น""มันไม่ได้เกิดอะไรขึ้นหรอก แม่แค่อยากถามลูก ว่าระหว่างชีวิตในยุคปัจจุบันของลูกกับชีวิตที่กำลังเป็นพระชายาของอ๋องหลี ลูกชอบชีวิตแบบไหน"อาเฟยคิ้วขมวดทันที นั่นสินะ เขาใช้ชีวิตกับอ๋องหลีมาเกือบ 1 ปี จนลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นคนในยุคปัจจุบันไม่ใช่ยุคอดีต ลืมตัวตนการเป็นอาเฟย ศักดินามนตรี ไปซะสนิทเลย "ทำไมแม่ถามผมแบบนี้ล่ะครับ หรือว่าถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับยุคปัจจุบันแล้วเหรอ" น้ำเสียงที่เศร้าใจของลูกชายทำให้ผู้
ข่าวการแต่งตั้งพระชายาเป็นบุรุษเพศแพร่กระจายไปทั่วอาณาจักรฉิน ข่าวนี้ทำให้ชิงชิงไม่พอใจ นางคิดว่าท่านลุงของนางที่เป็นเสนาบดีจะสามารถช่วยบังคับให้ฮ่องเต้แต่งตั้งนางเป็นพระชายาของอ๋องหลีได้ แต่ปรากฏว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่นางต้องการ กลับกลายเป็นตอนนี้มีพระราชโองการแต่งตั้งอาเฟยเป็นพระชายาอย่างถูกกฎหมาย ไม่มีใครสามารถคัดค้านได้"พอเถอะนะชิงชิง ลุงพยายามแล้ว แต่ไม่สามารถขัดพระราชโองการของฝ่าบาทได้ ถ้าเรายังคัดค้านอยู่แบบนี้ตระกูลของเราคงไม่พ้นถูกประหารตามพระราชอาญาแน่นอน""แต่ท่านลุงเจ้าคะ ชิงชิงเสียศักดิ์ศรีในจวนอ๋องไปตั้งหลายปี ไม่มีใครอยากร่วมหอลงๆกับชิงชิง ใครจะรับผิดชอบเรื่องนี้ล่ะเจ้าคะ"ชิงชิงร้องไห้ด้วยความเสียใจ ใครๆก็รู้ว่าเขาเป็นคู่หมั้นของอ๋องหลี ใช้ชีวิตอยู่ในจวนอ๋องหลีมานานหลายปี คอยปรนนิบัติพัดวีหลีฮูหยินไม่เคยขาดตกบกพร่อง แต่นี่คือสิ่งที่นางได้รับ ความอยุติธรรมที่อ๋องหลีไม่เคยสนใจใยดีกับความดีของนาง"แล้วเจ้าจะให้ลุงทำอย่างไร พระราชโองการแต่งตั้งอาเฟยก็ออกมาแล้ว ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ถ้าเราทำก็เท่ากับขัดพระราชโองการเชียวนะ""ก็แล้วถ้าอาเฟยไม่ได้อยู่รับราชองค์การล
อ๋องหลีและอาเฟยยังคงใช้ชีวิตเยี่ยงคนรักในจวนอ๋อง ถึงแม้ข่าวนี้จะกระจายแพร่ไปทั่วแต่มันก็ไม่ได้มีผลเสียอะไร การรักกับบุรุษเพศด้วยกันมันไม่ได้ถือเป็นการผิดธรรมเนียมประเพณี เพียงแต่มันจะมีกลุ่มคนบางส่วนที่ต่อต้าน ซึ่งเอาเรื่องนี้ขึ้นทูลต่อฮ่องเต้ เพื่อให้ปลดตำแหน่งอ๋องหลีออกจากการเป็นอ๋อง "แล้วท่านพี่จะทำอย่างไรต่อไป" อาเฟยเอ่ยถามคนรัก เขาคิดว่าเรื่องนี้มันน่าจะหลุดไปกับชิงชิงแน่ๆ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะกลัว แถมตอนนี้ใบหน้าของอ๋องหลีก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจต่อราชโองการที่มาถึง"เจ้าไม่ต้องคิดมากหรอก เรื่องแค่นี้พี่จัดการได้ ตำแหน่งอ๋องหลีของพี่ไม่ได้มาเพราะฝีปาก พี่ได้มาเพราะความสามารถ เพราะการนำทัพที่ตรากตรำสู้เพื่อราชวงศ์ฉินมาหลายปี พี่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าพี่ถูกปลดออกจากการเป็นแม่ทัพและตำแหน่งอ๋องหลี ใครจะเป็นคนนำทัพถ้ามีศึกสงครามเข้ามา""ผมมีแผนแล้วครับ ใช้แผนของผมรับรองว่าไม่มีใครกล้าปลดท่านพี่แน่นอน"อ๋องหลีมองหน้าคนรักก่อนจะยิ้มออกมา เจ้าแสนซนของเขาคงจะคิดเรื่องดีๆออกอีกแล้ว ตั้งแต่ที่อาเฟยมาอยู่กับเขา เขารู้สึกว่ามีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นในชีวิต เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวต่ออุปส
ถึงแม้โทษของหลีฮูหยินจะมีแค่การนั่งบำเพ็ญเพียรอยู่ในห้องพระเท่านั้น แต่โทษนั้นมันไม่ได้ครอบคลุมไปสำหรับชิงชิง เมื่อสาวใช้มารายงานว่าท่านอ๋องยกการลงโทษนี้ให้กับอาเฟยทำให้ชิงชิงรู้สึกกลัว"ข้าจะทำเช่นไรดี ถ้าปล่อยให้มันเป็นผู้ลงโทษมันต้องลงโทษข้าจนตายหรือไม่ก็เสียโฉมแน่ๆ ข้าไม่อยากเจอสภาพแบบนั้น""เราต้องหนีเจ้าค่ะคุณหนู ไม่สามารถอยู่จวนอ๋องได้อีกแล้ว ถ้าคุณหนูยังอยู่ที่นี่จะต้องถูกลงโทษจนตายแน่ๆเลยเจ้าค่ะ"สาวใช้เสนอวิธีรอดแก่ชิงชิง"จะให้ข้าหนีไปที่ไหนเล่า บ้านข้าแตกสาแหลกขาดมาหลายสิบปีแล้ว ข้าถูกท่านย่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย มีความหวังที่จะขึ้นเป็นพระชายาของอ๋องหลี ถ้าข้าออกจากจวนข้าก็ไม่มีที่ไปเลย"ชิงชิงคิดหนักทันที การออกจากจวนอ๋องหลีก็เหมือนการให้นางไปตายอยู่ดี สตรีที่ไม่มีวิทยายุทธ ไม่มีผู้ชายคุ้มกะลาหัวจะอยู่ด้านนอกได้อย่างไร มันเป็นไปไม่ได้เลยเช้าวันรุ่งขึ้น อาเฟยมาที่จวนหลังซึ่งเป็นที่พักของหลีฮูหยินและชิงชิง "ข้าแปลกใจนะเนี่ย ข้านึกว่าเจ้าจะหนี แต่ไม่ยักหนีแฮะ แสดงว่ารู้ตัวใช่ไหมว่าวันนี้ข้ามาที่นี่ด้วยเหตุอะไร เจ้ายอมรับโทษของเจ้าแล้วหรือยัง"อาเฟยดัดแปลงประโยคให้ชิ
ทันทีที่ทหารทั้งสองคนตายด้วยความผิดที่ลักพาตัวคนรักของอ๋องหลี ทำให้อาเฟยถึงกับตกใจ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนเข้มแข็ง แต่เขาก็ไม่เคยเห็นใครตายต่อหน้าต่อตาสยดสยองขนาดนี้ ทำให้อ๋องหลีต้องหมุนเอาตัวอาเฟยเข้ามาซบอกเพื่อไม่ให้เห็นภาพตรงหน้า"กลัวก็ไม่ต้องดู พี่ขอโทษนะที่มาช้าจนเกินไป เกือบทำให้เจ้าเป็นอันตราย" "ไม่เป็นไรเลย ผมไม่ได้เป็นอันตรายอะไร แต่ผมไม่เข้าใจเลยทำไมพวกเขาจึงต้องจงเกลียดจงชังผมนัก ผมไม่เคยไปทำอะไรให้พวกเขาเลย" "ต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้ว พี่อธิบายทุกอย่างให้กับท่านย่าฟังหมดแล้ว หลังจากกลับไปพี่จะแต่งตั้งให้เจ้าเป็นพระชายา มันจะได้สิ้นเรื่องสิ่งราวไปเสียที""ได้ยังไงล่ะ พระชายาแต่งตั้งผู้หญิงไม่ใช่เหรอ ผมเป็นผู้ชายจะเป็นพระชายาได้อย่างไร ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีการตัดชายเสื้อ แต่ผมก็คิดว่ามันไม่สมควร""ตัดชายเสื้อหรือ?"อ๋องหลีงงกับคำพูดของอาเฟยจึงเอ่ยถามขึ้น"ที่บ้านผม ถ้ามีบุรุษกับบุรุษรักกัน ชาวจีนจะเรียกกันว่าตัดชายเสื้อ"ถึงแม้จะไม่เข้าใจกับคำพูดของอาเฟยได้สักเท่าไหร่ แต่อ๋องหลีก็เลือกที่จะดึงเอาโจรแคระของเขาเข้าสู่อกกว้างเพื่อปลอบขวัญ"ถึงแม้เจ้าจะได้เป็นพระชายาหรือไม่ก็ตาม แต่เจ
อาเฟยลืมตาขึ้น เขารู้สึกมึนหัวไปหมด ความจำสุดท้ายคือเขากำลังนั่งเล่นอยู่ในสวนภายในจวนของอ๋องหลี ก่อนจะหมดสติไปโดยไม่รู้สาเหตุ ตื่นขึ้นมาอีกทีปรากฏว่าตัวเองอยู่ในถุงกระสอบ เหมือนกำลังจะถูกใครสักคนแบกอยู่ "ข้าว่าไกลพอแล้วแหละ จัดการฆ่ามันเสียแล้วหมกป่าไป ถ้าเราหายนานกว่านี้ข้ากลัวว่าท่านอ๋องจะจับพิรุธได้!"อาเฟยได้ยินการสนทนา แต่เขาเลือกที่จะไม่ดิ้นรนและปล่อยให้ถูกแบกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาถูกวางลงแล้วถูกแก้มัดออกจากถุงกระสอบ ทันทีที่ทหารดึงถุงกระสอบออกจากตัวของอาเฟย ก็เห็นว่าคนที่ถูกจับมานั้นลืมตาพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก"กำลังคันไม้คันมืออยากกระทืบคนอยู่พอดี ขอบใจนะที่มาเล่นด้วย" อาเฟยพูดขึ้นพร้อมกับตวัดขาเตะพลทหารทั้งสองคนคงล้มกลิ้งลง พร้อมกับลุกขึ้นยืนตั้งหลักทันที"เข้ามาสิ!" อาเฟยท้าทายทหารทั้งสอง เขาจำได้ว่าคนทั้งสองคนเป็นทหารของอ๋องหลี น่าจะได้รับสินบนจากใครสักคนหนึ่งเพื่อมากำจัดเขาแน่นอน เขาจะไม่ยอมเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่หรอก ทหารทั้งสองคนกระโจรเข้าหาอาเฟย เพราะถ้าปล่อยอาเฟยกลับไปที่จวนของท่านอ๋องได้ นั่นหมายความว่าชีวิตของเขาก็คงจะหาไม่ การต่อสู้ 2 ต่อ 1 จึงเกิดขึ้นทันที ทหารทั้งส
อ๋องหลีมาที่จวนของหลีฮูหยิน เขาเดินเข้าไปด้วยสีหน้าบึ้งตึงแสดงอาการไม่พอใจอย่างเด่นชัด ทำให้หลีฮูหยินที่นั่งอยู่ รู้ทันทีว่าหลานชายมาด้วยเหตุอันใด"เอาคนของหลานคืนมา ถ้าไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าหลานไม่เตือนนะขอรับท่านย่า""นี่เจ้ากำลังขู่ข้ารึเทียนหยู!""หลานไม่อยากใช้อำนาจที่หลานมี บีบบังคับท่านย่าหรอกนะขอรับ แต่ท่านย่าก็คงจะรู้ดีว่าหลานมีตำแหน่งเป็นอ๋องหลีของอาณาจักรฉิน ศักดินาคงหลานสูงกว่าท่านย่ามาก หลานมีอำนาจจะสั่งเฆี่ยนหรือสั่งประหารท่านย่าด้วยซ้ำ อย่าบังคับหลานเลยนะขอรับ ส่งตัวคนของหลานคืนมา หลานจะถือว่าเรื่องนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน"คำขู่ของหลานชายทำให้หลีฮูหยินไม่พอใจ สิ่งที่นางทำก็เพื่อหลานชายของนางทั้งนั้น นางต้องการแยกบุรุษผิดเพศคนนั้นออกจากหลานชายของนาง เพื่อให้หลานชายของนางยังดำรงอยู่ในฐานะอ๋องหลีต่อไป"เจ้ารู้หรือไม่เทียนหยู ว่าการที่เจ้ารักชอบกับบุรุษเพศมันมีผลตามมาเป็นเช่นใดบ้าง หากฮ่องเต้ทรงทราบเรื่องนี้ เจ้าจะต้องถูกลงโทษ ย่าทำทุกอย่างก็เพื่อเจ้านะ""ถ้าหลานสนใจเรื่องนี้ หลานคงไม่เลือกอาเฟยตั้งแต่แรก หลานบอกแล้วไงขอรับ ว่าหลานจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ท่านย่าไม่จำเป
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นอ๋องหลีและอาเฟยก็มีความสัมพันธ์ที่ดีเกิดขึ้น อาเฟยยอมอยู่ในจวนอ๋องหลีด้วยความเต็มใจ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องไม่มีใครมาทำให้ลำบากใจอีก ไม่อย่างนั้นจะไม่ยอมอยู่ ซึ่งอ๋องหลีสั่งให้ทหารคุมบริเวณรอบจวนอย่างเข้มงวดไม่ให้ผู้ใดก้าวล้ำเข้ามาในบริเวณจวนได้โดยเด็ดขาด"ท่านพี่ พวกบ่าวไพร่คุยกันว่าข้างนอกมีงานเหรอครับ พาผมไปดูหน่อยได้ไหม ผมอยากเห็นงานที่ว่านั่น อยากรู้ว่ามันเหมือนกับงานวิจัยของผมหรือเปล่า ผมอยากเห็นด้วยตาตัวเอง ได้ไหม"อาเฟยพูดขึ้นหลังทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว เมื่อเช้านี้เขาได้ยินพวกบ่าวไพร่พูดกันว่าคืนนี้จะมีงานที่ตลาด เขาอยากเห็นว่างานที่ว่านั่นเป็นงานอะไรแล้วจัดแบบไหน เหมือนกับที่เขาเล่าเรียนมาหรือเปล่า"เจ้าหมายถึงเทศกาลง่วนเซียวน่ะเหรอ"วันขึ้น 15 ค่ำเดือนอ้ายตามปฏิทินจันทรคติของจีนเป็นเทศกาลง่วนเซียว เป็นเทศกาลสำคัญหลังจากวันตรุษจีน ซึ่งมีเอกลักษณ์เด่นที่สุดคือ ชมโคมไฟโบราณ ชาวบ้านจะทำโคมไฟแบบโบราณชนิดต่างๆ เมื่ออาทิตย์ตกดิน เด็กๆ ในหมู่บ้านพากันจุดเทียนในโคมไฟ แล้วออกจากบ้านไปชุมนุมกันเป็นขบวน สร้างบรรยากาศคึกคักและอบอุ่น"เทศกาลง่วนเซียว....ที่มีโคมแ