แชร์

บทที่ 46

ผู้เขียน: RainyStarSea
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-08 09:08:44

ยามเช้าวันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส พระอาทิตย์ออกมาทักทายเร็วรี่ ฟ้าครามแทบไม่มีเมฆหรือหมอกใดๆ เป็นมงคลฤกษ์อันดีสำหรับงานมงคลที่จะจัดขึ้นในวันนี้

“ฮ้าววว ง่วงนอนชะมัด” หลินเข่อซิงอ้าปากหาวหวอดๆ พลางบิดขี้เกียจไปมา

“ว้ายย คุณหนู ทำไมอ้าปากกว้างอย่างนั้นล่ะเจ้าคะ ประเดี๋ยวที่ทาหน้าก็พังหมดหรอกเจ้าค่ะ” หลิงเฉินว่าพลางขยับตัวเข้าไปหาหลินเข่อซิง พร้อมทั้งพินิจดูใบหน้าของเจ้านายไปด้วย

“โธ่ หลิงเฉิน เจ้าปลุกข้าตื่นตั้งแต่ยังมีแต่เสียงจิ้งหรีดร้อง จนตอนนี้ไก่ขันจนหลับแล้ว คิดดูสิว่าข้าตื่นเช้าแค่ไหน แล้วนี่เจ้าทำทรงอะไรให้ข้าเนี่ย” หญิงสาวว่าพลางเอาเอามือคลำไปมาบนศีรษะตนเอง

“คุณหนู!” เพี๊ยะ หลิงเฉินตีมือคนซนเบาๆ

“กว่าข้าจะจัดแต่งให้คุณหนูเสร็จใช้เวลาไปมากโขนะเจ้าคะ ตรงนี้ข้าม้วนผมคุณหนูไว้ด้วยด้ายหลากสีเพื่อเพิ่มความสวยงามเจ้าค่ะ ส่วนปิ่นก็ต้องเป็นปิ่นทอง เพราะสีทองเป็นสีมงคลของงานแต่งเจ้าค่ะ”

“เอาเถอะ แล้วที่ห่อผ้าไว้นั่นล่ะ คืออะไรเหรอ?”

มือเรียวบางชี้ไปยังโต๊ะไม้ที่อยู่ไม่ไกลนักในห้องนอน

“สิ่งนั้นคือของที่เราจะเตรียมไปด้วยเจ้าค่ะ มีกรรไกรสองคู่ ไม้วัดสองคู่ แล้วก็แจกันอีกสองคู่เจ้าค่ะ”

“โห เอาไปทำไมเยอะแยะนักล่ะ”

“มันมีความหมายนะเจ้าคะ ไม่ได้หยิบส่งๆ ของทุกอย่างเอาไปเป็นคู่ หมายถึงให้อยู่เคียงคู่กันไปตลอด ส่วนสิ่งของเช่นกรรไกร คล้ายกับผีเสื้อให้โบยบินเคียงคู่กันไปน่ะเจ้าค่ะ”

“อ่ออ อย่างงี้นี่เอง จะว่าไปก็ยุ่งยากน่าดูเหมือนกันนะเนี่ย” หลินเข่อซิงว่าพลางถอนหายใจ

ก๊อกๆๆๆ

“ซิงเอ๋อร์ พร้อมรึยังลูก ประเดี๋ยวพวกเราต้องเดินทางไปบ้านเฟยหลงอีกนะ” หลินเจิ้นกั๋วเคาะประตูเรียกลูกสาว

“เสร็จแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อ! ป่ะ หลิงเฉิน เราออกไปกันเถอะ” ร่างบางว่าพลางลุกจากเก้าอี้ เดินไปทางประตูห้องนอน

หลินเจิ้นกั๋ว ชิงเหม่ย หลินเข่อซิง หลิงเฉิน และบรรดาบ่าวไพร่ในจวน พากันมาส่งหลินเข่อซิงขึ้นเกี้ยว

“ตามจริงแล้ว ต้องเป็นพี่ชายคนโตเป็นคนแบกเกี้ยวให้เจ้า แต่เพราะเจ้าเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อ ฉะนั้นพ่อจะเป็นคนแบกเอง”

“ท่านพ่อ! จะไหวหรือเจ้าคะ” หลินเข่อซิงปากอ้าตาค้าง เพราะน้ำหนักเกี้ยวที่มีเธอนั่งอยู่ ท่านพ่อที่อายุมากอาจบาดเจ็บได้

“มันจะขนาดไหนกันเชียว อีกอย่างข้าไม่ได้แบกเพียงลำพังเสียหน่อย มีเหล่าทหารช่วยด้วยอีกสามมุม” หลินเจิ้นกั๋วพูดจบพลางส่งยิ้มอันอบอุ่นมาให้หลินเข่อซิง

“ท่านพ่อ ฮึก!”

“โธ่เอ๋ย ลูกพ่อ พ่อมีเจ้าเป็นดั่งแก้วตาดวงใจ พ่อทำให้เจ้าได้ทุกอย่าง ขอเพียงเจ้าอย่าหลงลืมว่าจวนของพ่อต้อนรับเจ้าเสมอ”

“ใช่จ้ะ แม้จะมีประโยคที่ว่า ลูกสาวแต่งงานก็เหมือนน้ำที่สาดออกไป แต่ไม่ใช่กับตระกูลหลิน ไม่ใช่กับทั้งพ่อและแม่ของเจ้าแน่นอน”

ทั้งสามคนยืนโอบกอดกันและกัน หลินเข่อซิงถึงกับกลั้นสะอื้น นางรู้สึกอบอุ่นในหัวใจเหลือแสน ที่มี่พ่อและแม่ที่รักและเมตตานางถึงเพียงนี้

กว่าขบวนเกี้ยวเจ้าสาวจะไปถึง ก็กินเวลาไปโข

ตกค่ำขบวนแห่เจ้าสาวเคลื่อนตัวออกจากจวนตระกูลหลิน ขบวนเกี้ยวเจ้าสาวตกแต่งอย่างอลังการด้วยผ้าไหมสีแดงและทอง ขนาบข้างด้วยทหารและข้าราชบริพารจำนวนมาก เสียงกลองและเครื่องดนตรีจีนดังขึ้นเพื่อส่งสัญญาณถึงความยิ่งใหญ่ของงานนี้

เมื่อเกี้ยวเจ้าสาวมาถึงจวนตระกูลอวิ๋น บ้านเจ้าบ่าว บรรดาแขกเหรื่อที่ยศและบรรดาศักดิ์สูงมากมายที่มาจากทั่วสารทิศต่างพากันมาร่วมงาน มีทั้งขุนนางระดับสูง เจ้าเมือง และเหล่าขุนนางในราชสำนัก รวมถึงบรรดาเครือญาติของตระกูลอวิ๋นและตระกูลหลิน ทุกคนมาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีมงคลสมรสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี

พิธีแต่งงานเริ่มต้นด้วยการเคลื่อนเกี้ยวเข้าสู่ลานพิธี ก่อนที่อวิ๋นเฟยหลงจะมาเคาะเกี้ยวเจ้าสาวด้วยคันธนูสีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ในการ "เปิดประตู" และเชิญเจ้าสาวออกจากเกี้ยว หลินเข่อซิงที่สวมชุดเจ้าสาวสีแดงปักลายแบบจีนโบราณ ปิดหน้าไว้ด้วยผ้าคลุมหน้าเดินออกมา นางดูงดงามสง่างามอย่างที่สุดในสายตาของผู้คน

ทั้งสองคนนั่งลงบนแท่นพิธี มีการจุดธูปบูชาฟ้าดิน ซึ่งเป็นพิธีการสำคัญเพื่อแสดงความเคารพต่อฟ้าและบรรพชน จากนั้นจึงเริ่มพิธีที่เรียกว่า "ซานสุ่ย" หรือ "พิธีคำนับสามครั้ง" ตามธรรมเนียมการแต่งงานของจีนโบราณ ทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต้องคำนับสามครั้ง

อวิ๋นเฟยหลงและหลินเข่อซิงยืนเคียงข้างกัน

หนึ่งคำนับฟ้าดิน

สองคำนับบิดามารดา

สามคำนับกันและกัน

เมื่อพิธีคำนับเสร็จสิ้น เจ้าบ่าวและเจ้าสาวถูกนำเข้าสู่ห้องหอ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นชีวิตคู่ หลินเข่อซิงและอวิ๋นเฟยหลงต่างนั่งเคียงกันบนเตียงคู่ที่ประดับด้วยดอกไม้สีแดงและทอง ซึ่งแสดงถึงความโชคดีและความเป็นมงคล ท่ามกลางเสียงหัวเราะและคำแซวจากเหล่าผู้ร่วมงาน

เมื่อทั้งสองนั่งเคียงกันบนเตียงคู่ที่ประดับด้วยผ้าแพรสีสด ดอกไม้สวยงาม และแสงจากโคมไฟอันอบอุ่น เสียงแซวจากเหล่าแขกเหรื่อก็ดังขึ้นรอบๆ

"ท่านแม่ทัพ! คืนนี้อย่าลืมดูแลคุณหนูหลินให้ดีล่ะ!" ชายคนหนึ่งร้องขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะลั่น

"ดูแลไม่ใช่แค่คืนนี้นะเจ้าคะ! แต่ดูแลตลอดไปเลยนะเจ้าคะ!" หญิงสูงวัยอีกคนพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวังดี

"โอ๊ย ท่านแม่ทัพคงจะดูแลเจ้าสาวแบบไม่ให้คลาดสายตาแน่ๆ ข้าขอเดิมพันไว้เลย!" เสียงของเพื่อนสนิทอวิ๋นเฟยหลงแซวออกมา เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคน

หลินเข่อซิงหน้าแดงก่ำ เมื่อได้ยินเสียงแซวจากทุกคน นางหลบสายตาพลางยิ้มเขินๆ มือเรียวของนางบิดผ้าแพรที่จับอยู่แน่นจนเกือบขาด ทว่ากลับต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออวิ๋นเฟยหลงกระซิบเบาๆ ข้างหูของนาง "ดูเหมือนคืนนี้เจ้าจะถูกแซวหนักเลยนะ"

หลินเข่อซิงย่นจมูกแล้วกระซิบตอบกลับด้วยน้ำเสียงขี้เล่น "ข้าโดนแซวก็เพราะท่านต่างหาก แม่ทัพหนุ่มหล่อแห่งยุค นี่แหละต้นเหตุ"

อวิ๋นเฟยหลงหันมายิ้มมุมปากพร้อมกระซิบตอบกลับเสียงนุ่ม "ถ้าเจ้าไม่อยากให้ข้าเป็นต้นเหตุ ข้าก็จะยอมลุกหนีไปตอนนี้เลยดีไหม?"

"ท่านอย่าคิดหนีเชียวนะ!" หลินเข่อซิงยกมือหยิกแขนเขาเบาๆ แต่ในใจกลับอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ

เสียงหัวเราะยังดังลั่นอยู่ข้างนอก ขณะที่คู่เจ้าบ่าวเจ้าสาวพยายามรับมือกับบรรยากาศรอบตัวที่เต็มไปด้วยความเฮฮา

"อวิ๋นเฟยหลง ข้าได้ยินมาว่าท่านแข็งแรงเป็นนักสู้ แต่คืนนี้ข้าว่าท่านต้องพิสูจน์ความแข็งแรงของท่านในอีกด้านแล้วล่ะ" หนึ่งในทหารของเฟยหลงเอ่ยขึ้นอย่างกลั้วหัวเราะ

อวิ๋นเฟยหลงกระตุกยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เพียงแต่เหลือบตามองหลินเข่อซิงที่ยิ่งหน้าแดงไปอีก นางพยายามจะยกน้ำชาขึ้นดื่มเพื่อซ่อนความเขิน แต่ก็ยังไม่วายได้ยินเสียงแซวที่ตามมาไม่ขาด

"คุณหนูหลิน! คืนนี้ขอให้ท่านมีความสุขมากๆ นะเจ้าคะ!" เสียงของสาวใช้ที่แอบมายืนแซวอยู่ห่างๆดังขึ้น หลินเข่อซิงหัวเราะเบาๆ

เมื่อเสียงแซวเริ่มเบาบางลง บรรยากาศในห้องหอก็กลับมาเงียบสงบขึ้นเล็กน้อย เหล่าแขกที่แซวทั้งคู่ค่อยๆ ถอยออกไป ทิ้งให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ใช้เวลาส่วนตัวด้วยกัน

"หืม...เจ้าเอาแต่หัวเราะเขินมาตลอด ไม่พูดอะไรหน่อยหรือ?" อวิ๋นเฟยหลงเอ่ยเบาๆ พร้อมส่งยิ้มอ่อนโยนให้หลินเข่อซิง

"ข้าไม่รู้จะพูดอะไรนี่นา ท่านดูสิ ข้าก็ไม่เคยแต่งงานมาก่อนนี่" หลินเข่อซิงยิ้มขำขัน พลางตอบด้วยน้ำเสียงขี้เล่น นางหยอกล้ออย่างเป็นธรรมชาติ แม้จะรู้สึกเขินแต่ก็อบอุ่นใจ

ทั้งคู่มองตากันด้วยความรู้สึกอบอุ่นท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรัก ในที่สุดเสียงหัวเราะและแซวก็เงียบลง ทิ้งให้บรรยากาศในห้องหอเต็มไปด้วยความสุขและความรู้สึกที่ดีต่อกัน

บรรดาแขกเหรื่อที่มาร่วมงานก็ถูกนำเข้าสู่เรือนอาหารของตระกูลอวิ๋น ซึ่งจัดเตรียมอาหารเลิศรสตามประเพณีมาอย่างครบครัน ทั้งเป็ดปักกิ่ง หมูหัน อาหารทะเลสดๆ และเหล้าหอมหวานที่ตระกูลอวิ๋นเตรียมมาเพื่อเลี้ยงต้อนรับผู้ร่วมงานทุกคน

บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความชื่นมื่น เสียงดนตรีจีนโบราณบรรเลงขับกล่อมแขกเหรื่อ ขณะที่บรรดาขุนนางและเครือญาติของทั้งสองตระกูลต่างพากันสนทนาอย่างอบอุ่น พิธีแต่งงานครั้งนี้ถือเป็นการรวมสองตระกูลใหญ่เข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ และเป็นที่กล่าวขานไปทั่วเมืองถึงความยิ่งใหญ่ของงานนี้

หลินเจิ้นกั๋ว พ่อของหลินเข่อซิง ยืนอยู่ใกล้กับอวิ๋นเหอ พ่อของอวิ๋นเฟยหลง ทั้งสองคนจับมือกันแน่นด้วยรอยยิ้มแห่งมิตรภาพ

“ข้าต้องขอบคุณท่านมากจริงๆ ที่ยกลูกชายของท่านให้กับลูกสาวข้า” หลินเจิ้นกั๋วเอ่ยด้วยเสียงอบอุ่น พลางหันไปมองลูกสาวที่นั่งเคียงข้างอวิ๋นเฟยหลง “ข้าหวังว่าทั้งสองจะดูแลกันอย่างดี”

อวิ๋นเหอหัวเราะเบาๆ “ท่านพูดอย่างนั้นก็เกินไป ลูกชายข้าต่างหากที่โชคดีที่ได้แต่งกับลูกสาวท่าน หลินเข่อซิงเป็นหญิงสาวที่ทั้งเฉลียวฉลาดและเข้มแข็ง นางจะเป็นคู่ชีวิตที่ดีของเฟยหลงแน่นอน”

หลินเจิ้นกั๋วพยักหน้า “ข้าก็คิดเช่นนั้น นางมีความเด็ดเดี่ยวอยู่ในตัว และข้าก็เชื่อว่านางจะเป็นภรรยาที่คู่ควรกับแม่ทัพใหญ่อย่างอวิ๋นเฟยหลง”

ในขณะที่บรรดาญาติผู้ใหญ่สนทนาอย่างเป็นกันเอง เถ้าแก่หญิงผู้เป็นญาติห่างๆ ของตระกูลหลินก็หันไปถามชิงเหม่ย ภรรยาของหลินเจิ้นกั๋ว “น้องหญิง ข้าฟังมาว่างานนี้สินสอดยิ่งใหญ่มากทีเดียว จริงหรือไม่?”

ชิงเหม่ยยิ้มก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “จริงเจ้าค่ะ พี่หญิง สินสอดนั้นมากมายเหลือเกิน ข้าคิดว่านับเป็นหนึ่งในงานแต่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ก็ว่าได้”

“ข้าก็ว่าอย่างนั้น!” ญาติผู้ใหญ่คนอื่นๆ พยักหน้าเห็นด้วย “ขบวนสินสอดยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ท่านแม่ทัพย่อมต้องรักและให้ความสำคัญกับคุณหนูหลินมากจริงๆ”

ชิงเหม่ยหัวเราะเบาๆ “เฟยหลงเป็นคนเงียบๆ อาจจะไม่ได้แสดงออกมากนัก แต่ข้าก็เชื่อว่าลูกสาวข้าจะทำให้เขามีความสุขได้แน่นอน”

อวิ๋นเหอที่ยืนฟังอยู่ใกล้ๆ ก็หันไปยิ้มให้พ่อแม่ของหลินเข่อซิง “ข้าเชื่อว่าเมื่อทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน พวกเขาจะเติบโตและสร้างครอบครัวที่เข้มแข็งไม่แพ้ตระกูลของเรา”

หลินเจิ้นกั๋วพยักหน้าเห็นด้วย ขณะที่ญาติผู้ใหญ่คนอื่นๆ ต่างสนทนาอย่างออกรสถึงความยิ่งใหญ่ของงานแต่งงาน และความโชคดีที่ทั้งสองตระกูลได้เกี่ยวดองกัน

“ข้าขอให้ทั้งสองมีความสุขยืนยาว นี่เป็นการรวมตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดของแคว้นเรา” ญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งเอ่ยเสริม

“ข้าก็คิดเช่นนั้น” อวิ๋นเหอกล่าวพลางหันไปมองทางห้องหอ

บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นและมิตรภาพ ท่ามกลางเสียงหัวเราะและความยินดีของบรรดาแขกเหรื่อ ทุกคนต่างยินดีกับความรักและความสัมพันธ์อันยิ่งใหญ่ของทั้งสองตระกูล

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 47 NC18+

    ภายในห้องหอที่ประดับประดาด้วยผ้าม่านสีแดงสด ผืนผ้าไหมที่ประดับลวดลายทองดูสวยงามหรูหรา บนโต๊ะไม้แกะสลักมีอาหารคาวหวานเรียงราย กลิ่นหอมของสุราลอยอบอวลในอากาศ หลินเข่อซิงนั่งพิงเบาะนุ่มข้างอวิ๋นเฟยหลง ดวงตากลมโตเป็นประกายอย่างซุกซน “ท่านแม่ทัพ ข้าขอท้าท่านดื่มสุราเป็นเพื่อนกันหน่อยเป็นไร? คืนนี้น่าจะสนุกไม่น้อยถ้าท่านไม่กลัวเมาน่ะนะ” หลินเข่อซิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ หยิบกาสุราขึ้นมาเทลงในจอก ส่งให้เฟยหลงอย่างท้าทาย อวิ๋นเฟยหลงหรี่ตามองหญิงสาวข้างกายพลางยิ้มมุมปาก "เจ้าแน่ใจหรือว่าจะชนะข้าในเรื่องนี้? ข้าเกรงว่าเจ้าจะเป็นฝ่ายหน้าแดงเสียก่อน" “โธ่ ท่านอวิ๋น! ข้าไม่ได้กลัวสุรา ท่านต่างหาก อย่ามัวแต่เป็นแบบนี้เลย!” หลินเข่อซิงหัวเราะคิกคัก ยกจอกสุราขึ้นทำท่าจะดื่ม แต่ก่อนที่นางจะได้ยกจอกขึ้นดื่ม อวิ๋นเฟยหลงก็ยื่นมือมาจับข้อมือของนางเบาๆ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงแฝงความขี้เล่นที่นางไม่ค่อยได้ยินบ่อยนัก “หากจะดื่มก็ควรดื่มให้ถูกต้อง” หลินเข่อซิงขมวดคิ้วเล็กน้อย "ถูกต้องอย่างไร?" นางถามอย่างสงสัย แต่ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเฟยหลงยื่นจอกสุรามาใกล้ และเขาก็คล้องแขนนางเข้ากับแขนของตน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-09
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 48

    หลังจากตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ หลินเข่อซิงก็ปวดแปลบช่วงกลางลำตัวอย่างมาก นางมองไปไม่เห็นแม้เงาของอวิ๋นเฟยหลงแล้ว “เช้าขนาดนี้เขาไปไหนของเขานะ แต่ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่กระอักกระอ่วน” หลินเจ๋อซิงขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงมายืนบิดขี้เกียจ หญิงสาวหันกลับไปมองที่เตียง บนผ้าปูที่นอนสีแดงสด มีจุดสีเข้มเปื้อนอยู่ ขณะที่เธอกำลังดึงผ้าปูที่นอนอยู่นั้น หลิงเฉินก็ก้าวเข้ามาพอดี“คุณหนู ตื่นหรือยังเจ้าคะ เอ้ย…ต้องเรียกฮูหยินสินะ ท่านแม่ทัพรอรับประทานอาหารกับท่านอยู่นะเจ้าคะ…เอ่อ…ฮูหยินท่านทำอันใดอยู่หรือเจ้าคะ?” หลิงเฉินยืนนิ่งมองเจ้านายที่กำลังกำผ้าปูที่นอนแน่น“เปล่า ไม่ได้ทำอะไรนี่ ข้าแค่…เอ่อ…จะทำหน้าที่ภรรยาที่ดีไง ซักผ้าให้สามี เริ่มต้นจากผ้าปูที่นอนเป็นอันดับแรก ….อ่า ใช่แล้วๆ” ว่าพลางจะเดินหนีออกไปข้างนอก“โธ่ ฮูหยิน ท่านยังจะอายสิ่งใดอีก ส่งมาให้ข้าเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าทำให้เอง” หลินเข่อซิงหน้าร้อนผ่าว จำต้องยื่นผ้าปูที่นอนส่งให้หลิงเฉินไปท่านพ่อกับท่านแม่ของนางส่งหลิงเฉินมาคอยรับใช้นางที่จวนแม่ทัพ ด้วยว่าหลิงเฉินเป็นคนฉลา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-10
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 49

    เช้าวันต่อมา หลินเข่อซิงเริ่มแผนใหม่ นางตั้งใจจะทำให้อวิ๋นเฟยหลงรู้สึกถึงความผิดปกติที่นางเคยเอาใจจนชิน นางเริ่มต้นด้วยการไม่เข้าไปทักทายเขาตอนเช้าอย่างเคย ทั้งที่ปกตินางจะเดินมาในห้องทำงานพร้อมของว่างและชวนเขาพูดคุย อวิ๋นเฟยหลงมองออกไปที่หน้าต่าง เขารู้สึกแปลกๆ เพราะวันนี้เงียบกว่าปกติ ไม่มีเสียงเจื้อยแจ้วของหลินเข่อซิงที่นางมักจะทำตัวราวกับเด็กไม่ยอมโต คอยมานั่งพูดคุยกับเขา หยอกล้อ และมักนำเรื่องนู้นเรื่องนี้มาเล่าให้เขาฟัง ทว่าเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแต่ในใจรู้สึกแปลกๆ และ...คิดถึงช่วงเวลาที่นางอยู่ใกล้ๆ ตกบ่าย หลินเข่อซิงก็เริ่มแผนสอง นางตั้งใจทำตัวไม่สนใจอวิ๋นเฟยหลงบ้าง ท่านแม่ทัพกำลังซ้อมดาบอยู่ นางก็เดินไปยืนห่างๆ ไม่เข้าไปกวนเหมือนทุกที ทำเพียงมองเงียบๆ แล้วเดินหนีไปทางอื่นทันที อวิ๋นเฟยหลงหันไปมองนางที่เดินหายไป พลันเกิดความรู้สึกหงุดหงิดขึ้นในใจ โดยไม่รู้ตัวว่าเขาคาดหวังให้นางเข้ามาพูดคุยหรือแหย่เล่นเหมือนทุกครั้ง หลังซ้อมเสร็จหลินเข่อซิงตั้งใจเอาของว่างที่อร่อยที่สุดที่นางเคยทำนำไปวางไว้บนโต๊ะของเขา แต่แทนที่จะเอาไปให้ด้วยรอยยิ้มเหมือนเคย นางกลับแค่เอาวางเฉยๆ แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 50

    อวิ๋นเฟยหลงขยับตัวเล็กน้อยแต่ยังไม่ตื่น นางจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ หูเขา “เฟยหลง ตื่นได้แล้วเจ้าค่ะ อาหารเช้าเสร็จแล้ว!”ในที่สุดเขาก็ลืมตาขึ้นช้าๆ มองเห็นรอยยิ้มกว้างของหลินเข่อซิงอยู่ใกล้ๆ ชายหนุ่มหน้าร้อนผ่าว รีบผุดลุกขึ้นทันใด “เจ้าทำอะไรแต่เช้าหรือ”“ข้าทำอาหารเช้าให้ท่านไงเจ้าคะ!” นางยิ้มอย่างภูมิใจ “วันนี้ข้าจะดูแลท่านเต็มที่!”เขามองหน้านางและลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะเลิกคิ้ว “วันนี้เจ้าดูขยันผิดปกตินะ”“ฮึ่ม! ขยันก็ดีแล้วไงเจ้าคะ ท่านแม่ทัพต้องการการดูแลจากภรรยาที่แสนดีอย่างข้า” นางพูดพลางดึงมือเขาเบาๆ ให้เดินตามนางไปที่โต๊ะที่นั่นมีนายท่านอวิ๋นและอวิ๋นฮูหยินนั่งอยู่ก่อนแล้วอวิ๋นเฟยหลงมองอาหารบนโต๊ะอย่างประหลาดใจ “เจ้าทำทั้งหมดนี้เองหรือ”“แน่นอนเจ้าค่ะ! ข้าอุตส่าห์ตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมให้ท่าน” นางยืดอกอย่างภาคภูมิใจเขามองนางด้วยสายตาอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย “ขอบใจเจ้ามาก ข้าไม่เคยรู้ว่าเจ้าทำอาหารเก่งขนาดนี้”“ไม่ต้องขอบคุณ ข้าทำเพราะข้าอยากดูแลท่าน ข้าจะทำให้ท่านมีแรงเต็มที่ในการฝึกทห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-16
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 51 NC18+

    เมื่อถึงตอนเย็น หลินเข่อซิงเดินกลับเข้าจวนชั้นในพร้อมอวิ๋นเฟยหลง "ท่านพี่เหนื่อยไหมเจ้าคะ ข้าจะเตรียมน้ำให้ท่านอาบนะเจ้าคะ""ข้าสบายดี ไม่ต้องห่วง" เขาตอบอย่างเรียบง่าย"งั้นข้าจะนวดให้ท่านดีไหมเจ้าคะ" นางถามพร้อมทำท่าทางจริงจังเขาหลุดขำออกมาอีกครั้ง "เจ้าดูกระตือรือร้นเกินไปสำหรับการดูแลข้า" อวิ๋นเฟยหลงพูดพลางยิ้มอ่อน"แน่นอน ข้าต้องเต็มที่เพื่อท่าน!" หลินเข่อซิงยิ้มตอบ แต่ทันใดนั้นนางก็ยิ้มกว้างกว่าเดิม พลางทำหน้าเจ้าเล่ห์ "ว่าแต่... ท่านแม่ทัพอยากนวดจริงๆ หรือไม่ ข้าเพิ่งเรียนวิธีนวดแบบพิเศษมา ท่านคงจะรู้สึกสบายแน่ๆ!"เขาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย "แบบพิเศษหรือ?""ใช่! นี่เป็นสูตรลับเฉพาะของข้าเอง" หลินเข่อซิงพูดอย่างมั่นใจ พลางโบกมือให้อวิ๋นเฟยหลงนั่งลงที่เก้าอี้ "เชิญนั่งลงสบายๆ นะเจ้าคะ ข้าจะทำให้ท่านผ่อนคลายที่สุด"อวิ๋นเฟยหลงนั่งลงตามคำบอกอย่างว่าง่าย หลินเข่อซิงเริ่มลงมือนวดที่บ่าเขาเบาๆ แต่ทว่าด้วยท่าทางที่ไม่เคยชำนาญ นางกลับเผลอกดแรงเกินไปจนเขาอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้"อืม... เบากว่านี้หน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 52

    สามวันหลังจากพิธีแต่งงานอันยิ่งใหญ่ หลินเข่อซิงและอวิ๋นเฟยหลงต่างเตรียมตัวสำหรับวันสำคัญอีกวันหนึ่ง นั่นก็คือการกลับไปเยี่ยมบ้านเจ้าสาวตามธรรมเนียมที่ยึดถือปฎิบัติกันมา ซึ่งถือเป็นโอกาสที่เจ้าสาวจะกลับไปเยี่ยมครอบครัวของตนเองเป็นครั้งแรกหลังแต่งงานเช้านี้ อวิ๋นเฟยหลงแต่งกายในชุดทางการ เรียบง่ายแต่สง่างาม ขณะที่หลินเข่อซิงเลือกสวมชุดผ้าไหมสีอ่อนที่พ่อแม่ของนางมอบให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน นางดูสดใสร่าเริงเหมือนเดิม แต่ในใจกลับตื่นเต้นเป็นอันมากที่จะได้กลับไปเยี่ยมพ่อแม่หลังจากการแต่งงาน"เจ้าพร้อมหรือยัง?" อวิ๋นเฟยหลงเอ่ยถามขณะที่เขาเดินเข้ามาหยุดยืนข้างนาง"พร้อมสิ! ข้าอยากเจอพ่อกับแม่เร็วๆ แล้ว" หลินเข่อซิงยิ้มอย่างตื่นเต้น นางหันไปมองสามีของตนที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยใบหน้าอ่อนโยน "ท่านพี่ ท่านคงไม่กังวลอะไรใช่ไหม?"อวิ๋นเฟยหลงส่ายหน้าเล็กน้อยพร้อมกับยิ้มบางๆ "ข้าไม่กังวลอะไร แต่ดูท่าทางเขาดูกังวลเสียมากกว่านะ""ข้าแค่ดีใจที่ได้กลับไปหาพ่อแม่เท่านั้นเอง" นางหัวเราะเบาๆ "และอีกอย่าง ข้าก็อยากให้ท่านได้รู้จักกับครอบครัวข้ามากขึ้นด้วย"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-18
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 53

    เมื่อรถม้าเดินทางมาถึงจวนโหว อวิ๋นเฟยหลงลงไปก่อน เพื่อรอรับและช่วยประคองหลินเข่อซิงลงมา เมื่อทั้งคู่เดินจับมือกันผ่านประตูหน้าจวน ก็พบว่ามีทหารคนสนิทเข้ามารายงานด้วยความรีบร้อน “ท่านแม่ทัพขอรับ มีพระราชโองการจากฮ่องเต้ เรียกตัวท่านให้เข้าเฝ้าที่ท้องพระโรงตอนนี้เลยขอรับ” “ได้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้” อวิ๋นเฟยหลงตอบรับ ก่อนหันไปหาหญิงคนรัก “ซิงเอ๋อร์ เจ้าอยู่ที่นี่นะ เข้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ เจ้าคงเห็นแล้ว ตอนนี้ข้าต้องรีบเข้าวังโดยด่วน” “เจ้าค่ะ น้องจะรอท่านพี่อยู่ที่นี่ หากเกิดเหตุอันใดขึ้น ต้องรีบแจ้งข่าวให้น้องทราบนะเจ้าคะ” หลินเข่อซิงเงยหน้ามองชายคนรักด้วยความห่วงใย ก่อนจะมองส่งเขาขึ้นม้าไปกับทหารคนสนิทอีกสองคน ข้าหวังว่าคงไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ หลินเข่อซิงคิดในใจ ภายในท้องพระโรงอันโอ่อ่า ฮ่องเต้ประทับบนบัลลังก์มังกรอย่างสง่างาม สายพระเนตรคมกริบจับจ้องมายังอวิ๋นเฟยหลงที่ยืนอยู่เบื้องหน้า เสียงรายงานสถานการณ์จากชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือดังก้องไปทั่วท้องพระโรง บรรยากาศรอบตัวเต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 54

    หลินเข่อซิงนิ่งเงียบ นางกลั้นความรู้สึกทุกอย่างไว้ในอก สายตาของนางสั่นไหวเล็กน้อยแต่ไม่อยากให้เขาเห็น นางรู้ดีว่าอวิ๋นเฟยหลงเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับหน้าที่และความรับผิดชอบ แต่ในใจของนางเต็มไปด้วยความห่วงหาและกลัวการจากลาที่ไม่รู้ว่าจะยาวนานแค่ไหน“ข้าเข้าใจท่าน” นางเอ่ยเบาๆ พลางยิ้มอ่อนๆ แต่ความเศร้ากลับแฝงอยู่ในแววตา “ข้าจะรอท่านกลับมาอย่างปลอดภัย”อวิ๋นเฟยหลงมองนางด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึก เขารู้ดีว่าการเดินทางครั้งนี้เสี่ยงอันตราย และเขาเองก็ไม่อยากทิ้งนางไว้ลำพัง เขาเดินเข้าไปจับมือนางอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเอ่ยเสียงทุ้ม“ข้าสัญญา...ว่าข้าจะกลับมา” น้ำเสียงของเขาหนักแน่น แต่ในใจกลับรู้สึกไม่สบายใจ เขารู้ว่าสงครามไม่มีคำว่าง่าย และทุกครั้งที่ออกไปรบเขาก็ต้องเตรียมตัวรับมือกับทุกสิ่งที่อาจเกิดขึ้นหลินเข่อซิงจ้องตาเขา ใจหนึ่งอยากร้องไห้แต่อีกใจก็อยากเข้มแข็ง นางปล่อยมือเขาออกช้าๆ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงความหวัง “ข้าจะรอท่านที่นี่...ข้ารู้ว่าท่านจะทำทุกอย่างให้สำเร็จได้แน่นอน”อวิ๋นเฟยหลงโอบกอดนางเบาๆ ราวกับไม่อยากปล่อยมือจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 87

    แสงแดดยามสายสาดส่องลงมาบนเส้นทางที่ทอดยาวผ่านป่าเขาและทุ่งหญ้า อวิ๋นเฟยหลงและเจิ้งจู่องครักษ์เงาคู่ใจอยู่บนหลังม้า ทั้งสองเดินทางร่วมกันมานานนับเดือน นับตั้งแต่จากบ้านสกุลซุย เส้นทางที่ผ่านไม่ได้ราบเรียบ มีทั้งความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ความร้อนระอุในบางวัน และความหนาวเหน็บในยามค่ำคืนม้าสีดำตัวใหญ่ของอวิ๋นเฟยหลงย่ำเท้าลงบนพื้นอย่างมั่นคง ชายหนุ่มนั่งตัวตรง ดวงตาคมกริบจ้องมองไปยังเส้นทางข้างหน้า ส่วนเจิ้งจู่ที่อยู่เคียงข้างไม่ห่าง ใช้มือปัดเหงื่อบนหน้าผากพร้อมกับพูดกลั้วหัวเราะ “องค์ชายพ่ะย่ะค่ะดูเหมือนว่าแม้แต่แดดแรงขนาดนี้ยังไม่อาจทำอะไรท่านได้เลย ข้าสิแทบจะละลายอยู่ตรงนี้แล้ว”อวิ๋นเฟยหลงหันมามองเจิ้งจู่ด้วยแววตาขำขัน “เจ้าคิดว่าการบ่นจะช่วยให้เย็นลงหรือ? อีกอย่างเลิกเรียกข้าว่าองค์ชายเสียที เรียกคุณชายจะดีกว่า ยิ่งเข้าใกล้แคว้นฉางจีเท่าไหร่เรายิ่งต้องปกปิดตัวตนมิให้ผู้ใดล่วงรู้”“เข้าใจแล้วขอรับ คุณชาย” เจิ้งจู่ยิ้มแหยๆ ก่อนจะเอ่ยต่อ “แต่บางทีข้าก็อดสงสัยไม่ได้ ว่าทำไมท่านถึงเลือกเส้นทางนี้ ทั้งที่ทางหลักก็น่าจะปลอดภัยกว่า”อวิ๋นเฟย

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 86

    “กระหม่อมบกพร่องในหน้าที่ และละอายใจยิ่ง หากองค์ชายเจ็บแค้นและอยากสังหาร กระหม่อมก็พร้อมยินดีมอบชีวิตให้พระองค์พ่ะย่ะค่ะ” เจิ้งจู่ว่าพลางยื่นกระบี่ในมือให้กับอวิ๋นเฟยหลงชายร่างผอมบางในชุดคลุมสีดำสนิท นั่งนิ่งหลับตาแน่น รอรับโทษทัณฑ์ฟิ้ววว เสียงโลหะแหวกอากาศจนเกือบฟันคอของเจิ้งจู่ขาด เจิ้งจู่รู้สึกถึงความเย็นของดาบที่แตะเบาๆที่คอ แต่เพียงแค่นี้ก็ทำเอาเลือดสดไหลซึมออกมาเล็กน้อยเคร้ง!ดาบถูกโยนทิ้งลงพื้น“ข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร หากเจ้ารู้สึกเช่นนั้นก็จงร่วมเดินทางไปกับข้าเถอะ”“องค์ชาย กระหม่อมขอขอบพระทัยในความเมตตาของพระองค์พ่ะย่ะค่ะ” เจิ้งจู่ลุกขึ้นมาคำนับอวิ๋นเฟยหลง“แต่ก่อนอื่นข้ามีเรื่องที่ต้องทำก่อนไป” อวิ๋นเฟยหลงว่าพลางขมวดคิ้วแน่น........แสงอาทิตย์แผดแสงเจิดจ้าส่องเข้ามายังลานบ้านสกุลซุย อวิ๋นเฟยหลงยืนอยู่ในห้องพักอย่างเงียบสงบ แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกสับสน แต่มั่นคง เขารู้ดีว่าวันนี้เขาต้องบอกลาผู้คนที่นี่ คนที่ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน คนที่คอยช่วยเหลือเขาในช่วงเวลาที่เขาความทรงจำขาดห

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 85

    นับจากวันที่เขาประสบเหตุในวันที่ไปเก็บเห็ดกับนายท่านซุย จิ่นสือมักมีภาพเหตุการณ์โผล่ขึ้นมาให้เขาได้เห็น บางคราก็สั้นๆ บางคราก็เป็นเรื่องเป็นราวผุ้เฒ่าสกุลซุยทั้งสองลงความเห็นกันว่าควรให้เขาได้พักผ่อนให้มากหน่อยเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บและพักฟื้นร่างกายให้ดี รวมถึงกันซุยลี่อินไม่ให้มารบกวนจิ่นสืออีกด้วย นับว่าช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่เขารุ้สึกสงบสุขมากที่สุดนับแต่ได้มาอยุ่ที่บ้านสกุลซุยก็ว่าได้สายลมวสันต์ฤดูพัดผ่านหน้าต่างเข้ามา ทำเอาจิ่นสือต้องยกมือขึ้นมาป้องปากและจมูกที่เย็นจนชาแทบไร้ความรู้สึกวันนี้ยังคงเป็นไปตามปกติเพียงแต่เขาไม่ต้องไปคอยตัดฟืนแบกหามอย่างเช่นทุกที ตามร่างกายยังคงเจ็บระบม ชายหนุ่มร่างกำยำที่เริ่มเบื่อหน่ายจึงไปนั่งขัดสมาธิบนฟูกนอน ก่อนจะหลับตาลงเข้าสู่สมาธิเวลาล่วงเลยผ่านไปเท่าใดไม่อาจทราบได้ ร่างหนาลืมตาขึ้นมาก็พบว่าแสงสุริยันลับขอบฟ้าไปแล้ว บนโต๊ะในห้องนอนมีสำรับกับข้าววางไว้ให้ เขาค่อยๆลุกขึ้นมานั่งก่อนจะบิดเอวซ้ายทีขวาที ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะกินข้าวเล็กๆมีอาหารเพียงสองอย่าง ผัดไข่ใส่ใบเซียงชุนและซุปเนื้อหอมกรุ่นที่ตอนน

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 84

    ในห้วงอันเงียบสงบของค่ำคืน หยางเฟยฮุ่ยนั่งลงท่ามกลางแสงเทียนในห้องบรรทม นางประมวลผลทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งความไม่ไว้วางใจระหว่างตนกับหานเจี๋ย และสถานการณ์ในวังที่ตึงเครียด นางยิ้มมุมปาก ก่อนจะตัดสินใจวางแผนสร้างเครือข่ายพันธมิตรของตนเองขึ้นมา“ข้าจะไม่อยุ่รอวันตาย ไม่ฝากชีวิตไว้กับเสือที่ไม่รุ้ว่าจะแว้งกัดข้าตอนไหน” หยางเฟยฮุ่ยกล่าวกับตนเองพลางยิ้มเย็นหยางเฟยฮุ่ยหันไปเริ่มต้นแผนด้วยการพบปะกับเหล่าสนมนางในบุตรีตระกูลผู้ทรงอิทธิพลในราชสำนัก เพื่อเสริมฐานพันธมิตรให้กว้างขวางมากขึ้น“ข้าอยากให้พวกท่านมาร่วมงานในตำหนักของข้า พวกเราสามารถแบ่งปันความคิดเห็นและสนับสนุนกันและกันได้... จะว่าไปก็นับว่าข้ามีโชคยิ่งนัก ที่ได้พบสตรีชั้นสูงที่มีความสามารถและรู้จักวางตัวอย่างท่านทั้งหลาย”“ฮองเฮาทรงมีน้ำพระทัยกว้างขวางถึงเพียงนี้ พวกข้าก็ยินดีที่จะมาพบปะกับท่านบ่อย ๆ เพคะ” ฮุ่ยเฟยเอ่ยขึ้น นางเป็นบุตรีของเสนาบดีเจ้ากรมโยธา น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเรียบเรื่อยราวสายธารยามสงบนิ่ง“ข้าก็ยินดีเช่นกัน สตรีอย่างพวกเราย่อมต้องพึ่งพากันบ้าง พ

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 83

    จิ่นสือพยักหน้ารับ ขณะที่ลูบใบเทียนเฉ่าเบาๆ กลิ่นหอมฉุนของมันลอยออกมาแตะจมูก สมุนไพรชนิดนี้มีสรรพคุณล้ำค่า และเป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงการแพทย์แผนโบราณถัดมาไม่นาน พวกเขาก็เจอพุ่มไม้ที่ออกดอกเป็นช่อสีขาวเล็กๆ กลีบดอกดูเปราะบางและชุ่มชื่น“นี่คือไป่ฮวา หรือหญ้าพันงู ขึ้นชื่อในสรรพคุณสมานแผลและหยุดเลือดทันทีเมื่อมีแผลสด ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในยาสำหรับทหารหรือผู้ที่ทำงานเสี่ยงอันตราย”จิ่นสือสังเกตพุ่มไม้ไป่ฮวาด้วยความสนใจ“น่าสนใจนัก ยามศึกสงคราม สมุนไพรนี้คงช่วยได้มากจริงๆ”พวกเขาเดินต่อจนถึงลำธารเล็กๆ ที่ไหลเย็นสบาย สองข้างของลำธารมีต้นไม้เล็กๆ ออกผลเล็กๆ สีแดงจัดเต็มพุ่ม“ต้นนี้เรียกว่าซานจาหรือพุทราจีน ผลสีแดงของมันนี้กินได้ มีรสหวานอมเปรี้ยว ช่วยย่อยอาหารและบำรุงหัวใจเป็นเลิศ” นายท่านซุยหยิบผลซานจามาส่งให้จิ่นสือ“ลองชิมดูสิ หวานอมเปรี้ยวนี่ล่ะช่วยให้รู้สึกสดชื่นยิ่ง”จิ่นสือรับผลซานจามา ลองกัดเบาๆ รสชาติสดชื่นทำให้เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าทันที สมุนไพรนี้ไม่เพียงแต่เป็นยาบำรุงแต่ยังเสริมพลังได้เป็นอย่างดี

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 82

    ซุยลี่อินใจเต้นรัว ใบหน้าเล็กร้อนผ่าว มือน้อยๆ ยกขึ้นไปจับตรงตำแหน่งที่มือใหญ่ได้วางไว้ก่อนหน้าเบาๆ ริมฝีปากจิ้มลิ้มแย้มยิ้มออกมาเสียจนแทบฉีกถึงใบหุ “ข้าจะรอท่านพี่กลับมานะเจ้าคะ” สาวน้อยตะโกนไล่หลังร่างสุงใหญ่ที่เดินทิ้งห่างไปไกล ซุยลี่อินยืนส่งชายในดวงใจจนร่างเขาหายลับไปจากสายตา จึงเดินกลับเข้าไปในบ้าน จิ่นสือได้ยินเสียงใสแว่วๆ แต่เขาไม่ได้หันกลับไป ทำเพียงเร่งฝีเท้าให้ทันนายท่านซุยเพียงเท่านั้น แสงแดดยามสายสาดส่องผ่านยอดไม้หนาทึบลงมาเป็นลำ จิ่นสือก้าวเดินตามผู้เฒ่าอย่างตั้งใจ แม้พื้นดินจะชื้นแฉะ แต่ในความชื้นนั้นกลับทำให้ป่าแห่งนี้อุดมไปด้วยพืชสมุนไพรอันหลากหลาย จิ่นสือมองสำรวจอย่างตั้งอกตั้งใจ "ดูเหมือนป่านี้จะซ่อนสมุนไพรล้ำค่าไว้มิใช่น้อย...ข้าสงสัยว่าเหตุใดต้นไม้เหล่านี้จึงเติบโตได้งดงามนัก" นายท่านซุยยิ้มอย่างยินดีที่ชายหนุ่มถามในเรื่องที่เขามีความรู้เป็นอย่างดี และยินดีแบ่งปันอย่างยิ่ง “ต้นไม้ในป่านี้ได้รับการดูแลจากธรรมชาติ และคนในหมู่บ้านของเราได้ช่วยกันร

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 81

    จิ่นสือมาอยุ่กับครอบครัวสกุลซุยมาได้พักใหญ่แล้ว เขามักจะไปตักน้ำตัดฟืนมาไว้ในบ้านเสมอ รวมถึงการออกไปจับจ่ายซื้อของแทนผุ้เฒ่าซุยอยุ่บ่อยครั้งและแน่นอนว่าเขามักจะมีดรุณีน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มตามติดไปด้วยอยุ่เสมอ จนผุ้ที่ได้พบเห็นต่างนึกเอ็นดุและชื่นชมในรุปลักษณ์ที่ดีงามของทั้งสองคนจิ่นสือมักมีอาการปวดศีรษะบ่อยครั้ง แต่ละครั้งมักมีอาการไม่นานมาก เพียงชั่วใบไม้ร่วงหล่นลงสุ่พื้น แต่ก็ทำให้เขาเจ็บร้าวในหัวจนแทบทรงตัวไม่อยุ่ในทุกค่ำคืนเขามักจะฝันถึงหญิงสาวที่ไม่มีใบหน้า เฝ้าเรียกหาเขาด้วยน้ำเสียงอาทรและห่วงหาคืนนี้ก็เช่นกัน…“ท่านพี่…ท่านพี่…”“…”“เจ้าเป็นใคร ต้องการอะไรกันแน่” เขาถามออกไปแต่ร่างบอบบางในชุดสีฟ้าอ่อน ผมยาวตรงสยายพลิ้วไหวตามแรงลมที่ไม่ทราบมาจากที่ใด เขาเพ่งมองไปยังใบหน้านั้น แต่แสงสีขาวสว่างจ้าเกินไปจนเขาตาพร่าไม่สามารถมองเห็นใบหน้านั้นได้ชายหนุ่มตัดสินใจเดินเข้าไปหาร่างนั้น แต่ยิ่งเดินยิ่งห่างไกล ราวกับร่างนั้นเคลื่อนถอยหลังหนีเขาอยุ่ร่ำไป“ได้โปรดเถิด ให้ข้าได้เห็นหน้าเจ้าสักนิด”จื

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 80

    บนพื้นที่ห่างไกลออกไปทางเหนือใกล้กับชายแดนแคว้นเกาเยว่ เสียงตัดไม้ดังก้องไปทั่วป่า เมื่อมองลึกเข้าไปจะพบกับชายร่างสูงใหญ่ล่ำสัน เครื่องแต่งกายมีเพียงเสื้อตัวบางทับด้วยเสื้อกั๊กเผยให้เห็นมัดกล้ามสองแขนแกร่ง กำลังตัดไม้อย่างขมักเขม้น หยาดเหงื่อไหลรินผ่านขมับ ชายหนุ่มขบกรามแน่นยามออกแรงยกขวาน ใบหน้าหล่อเหลาเกลี้ยงเกลา หนวดเครารกครึ้ม ส่งให้ใบหน้าคมเข้มไม่ไกลกันนัก มีสาวน้อยวัยกำดัดนั่งเท้าคางมองชายหนุ่มที่กำลังตัดไม้ด้วยแววตาหลงใหล สาวน้อยร่างบางสวมชุดกระโปรงยาวสีชมพูอ่อน ดูน่ารักน่าทะนุถนอมยิ่งนัก ข้างๆมีตระกร้าใส่อาหารและผลไม้ ดูไปก็คล้ายคู่รักที่ดูรักกันดียิ่ง แต่ความเป็นจริงนั้น…“จิ่นสือ วันนี้อากาศดีมาก ข้าว่าพอแค่นี้ดีไหม แล้วเราไปเดินเล่นในเมืองด้วยกัน” สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มเอ่ยชวนแต่ชายร่างกำยำกลับทำราวกับไม่ได้ยินเสียงนาง ยังคงตัดไม้ต่อไปอย่างไม่ลดละ“นี่ เมื่อไหร่ท่านจะยอมคุยกับข้าสักที นี่ก็ผ่านมาจะครึ่งปีอยู่แล้วนะ นับจากวันที่ท่านพ่อกับท่านแม่พาท่านมาอยู่ด้วยกัน”“…”“สมแล้วที่ท่านพ่อตั้งชื่อให้ท่านว่าจิ่

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 79

    หลังผ่านค่ำคืนอันแสนร้อนเร่ากับเจ้าผู้ครองแคว้น หยางเฟยฮุ่ยกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างผู้ชนะ กว่านางจะฝ่าด่านคัดเลือกสตรีนับพัน ฝ่าฟันต่อสู้กับเหล่าคุณหนูในห้องหอที่ต่างก็เพียบพร้อมไปด้วยความงามและความสามารถ แต่ที่ยากลำบากยิ่งกว่าคือการต้องวางแผนสกปรกทำให้น้องรองต้องเสียโฉมตัดโอกาสที่จะมาแย่งชิงกับนาง เพื่อที่นางจะได้เป็นตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวของตระกูล หยางลี่เฟย จะโทษก็โทษที่ชาติกำเนิดตัวเองเถอะ เจ้ามันก็แค่ลุกอนุ แต่อยากจะมาเทียบเคียงข้า อย่าได้โทษข้าเลย ที่ข้าไม่ยั้งมือ หยางเฟยฮุ่ยคิดในใจหยางเฟยฮุ่ยนั่งมองใบหน้าของตนเองในกระจก ดวงหน้างามพิลาส ดวงตาราวรีรุปหงส์ให้ความรุ้สึกหยิ่งผยองยามปรายหางตามอง จมุกเล็กเชิดรั้น ริมฝีปากยามแย้มยิ้มก็เย้ายวนมีเสน่ห์อย่างยิ่ง ใบหน้านี้ไม่ว่าใครได้มองย่อมตกหลุมนางทั้งนั้น มีแต่เจ้าคนน่าตายอวิ๋นเฟยหลงนั่นคนเดียว ตั้งแต่หลินเข่อซิงโผล่มาก็ไม่มองนางอีกเลย ทั้งที่แต่เล็กทั้งสองตระกุลต่างหมายหมั้นให้พวกนางได้ร่วมหอลงโลง หึ อวิ๋นเฟยหลง ตอนนี้ท่านก็คงจะได้แต่นึกเสียใจเป็นแน่ มาบัดนี้ข้ากลับดีใจที่ไม่ได้แต่งให้ท่าน ไม่เช่นนั้นค

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status