แชร์

บทที่ 45

ผู้เขียน: RainyStarSea
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-07 09:24:03

ในที่สุด ฤดูใบไม้ร่วงก็มาถึง พร้อมกับลมเย็นๆ ที่พัดผ่าน และช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงเช่นกัน วันแต่งงานของอวิ๋นเฟยหลงและหลินเข่อซิง การแต่งงานของทั้งคู่ไม่เพียงแต่เป็นพิธีสมรสระหว่างคนสองคน แต่ยังเป็นการรวมสองตระกูลใหญ่เข้าด้วยกัน ทำให้วันนี้เป็นวันที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดในรอบหลายปี

หนึ่งวันก่อนงานแต่งงาน ฝั่งเจ้าบ่าวได้ส่งสินสอดจำนวนมหาศาลมาที่จวนตระกูลหลิน ขบวนสินสอดขนาดใหญ่ประกอบด้วยหีบสินสอดจำนวน 1,314 หีบ ซึ่งเป็นเลขที่สื่อความหมายถึง "รักกันตลอดไป" (คำว่า "1314" ในภาษาจีนพ้องเสียงกับคำว่า "ตลอดไป") ถูกแบกหามโดยเหล่าทหารหาญเกินครึ่งพัน

ขบวนสินสอดที่อวิ๋นเฟยหลงส่งมายังจวนตระกูลหลินในวันก่อนแต่งงาน เป็นขบวนที่ยิ่งใหญ่และตระการตาอย่างยิ่ง ชาวบ้านจากทั่วทุกสารทิศที่ได้ยินข่าวต่างพากันมาชมด้วยความตื่นตาตื่นใจ และพูดถึงงานมงคลที่กำลังจะเกิดขึ้น ขบวนสินสอดถูกจัดขึ้นอย่างประณีต ประกอบด้วยหีบไม้สลักลวดลายวิจิตรที่บรรจุของล้ำค่า สะท้อนถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของอวิ๋นเฟยหลงที่มีต่อหลินเข่อซิง

ขบวนสินสอดอันยิ่งใหญ่และตระการตาได้มาถึงจวนตระกูลหลินแล้ว บรรยากาศรอบๆ จวนเต็มไปด้วยความคึกคัก บ่าวไพร่ในจวนต่างรีบวิ่งวุ่นไปมาตามคำสั่งเพื่อเตรียมการรับขบวนสินสอดอย่างเรียบร้อย และสง่างามที่สุด หลินเจิ้นกั๋ว และ ชิงเหม่ย พ่อแม่ของหลินเข่อซิง เดินออกมาต้อนรับสินสอดพร้อมกับแขกเหรื่อที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน

หลี่กงกง ผู้เป็นขันทีคนสนิทของฮ่องเต้ ยืนอยู่ด้านหน้าสุดพร้อมกับขบวนสินสอดที่ต่อกันเป็นแถวยาว ท่ามกลางเสียงชื่นชมของชาวบ้านที่มายืนดูด้วยความทึ่งและตื่นเต้น หลี่กงกงมีสีหน้าภูมิใจ พลางกล่าวขึ้นด้วยเสียงสุภาพแต่ทรงพลัง

“กระหม่อมขอแสดงความยินดีแก่ท่านหลินเจิ้นกั๋วและฮูหยินชิงเหม่ย วันนี้เป็นวันมงคลยิ่ง ขบวนสินสอดนี้มิใช่เพียงสิ่งของจากตระกูลอวิ๋นเท่านั้น แต่ยังเป็นพระมหากรุณาธิคุณจากฝ่าบาท ที่ทรงพระราชทานสิ่งของเพิ่มมาในครั้งนี้”

หลินเจิ้นกั๋วและชิงเหม่ยต่างโค้งขอบคุณหลี่กงกงที่อุตส่าห์มาดูแลสินสอดด้วยตนเอง หลินเจิ้นกั๋วกล่าวด้วยความเคารพ “กระหม่อมขอขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงมีพระเมตตาให้กับครอบครัวของเรา ข้าและฮูหยินรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง”

“ท่านทั้งสองไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องพิธีการ ข้าจะช่วยดูแลอย่างดี” หลี่กงกงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

บ่าวไพร่ต่างเดินขวักไขว่ นำหีบสินสอดที่มากมายมหาศาลเข้าไปเก็บในจวน ทุกคนต่างจับจ้องไปที่หีบไม้สลักลายที่บรรจุสิ่งของมีค่า บ้างเป็นผ้าไหมสีทอง บ้างเป็นเครื่องประดับทองคำ และอัญมณีล้ำค่า หลินเข่อซิงยืนมองขบวนสินสอดมหาศาลด้วยความตกตะลึง หลินเข่อซิงไม่เคยเห็นขบวนสินสอดที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้มาก่อน

สินสอดในแต่ละหีบล้วนเต็มไปด้วยของมีค่าที่มีความหมายลึกซึ้งและประณีตบรรจง ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหมสีทองซึ่งเป็นผ้าไหมชั้นดีจากแคว้นใต้ที่ถูกทออย่างประณีตจนลายไหมดูนุ่มนวลและเปล่งประกายทอง ยิ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองและความสวยงามในชีวิตคู่ของทั้งสอง พรมลายสวยงามวิจิตร เป็นพรมที่ถูกทอจากเส้นใยธรรมชาติด้วยความประณีต ลายพรมบอกเล่าเรื่องราวของตำนานมังกรและหงส์ เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมงคลและความสมบูรณ์พูนสุข รวมถึงเครื่องประดับอัญมณีซึ่งประดับไปด้วยหยก น้ำงาม สีเขียวใสสะท้อนแสง เครื่องประดับทองคำที่มีลวดลายบรรจง สื่อถึงความมั่งคั่งและสง่างาม และที่ขาดไม่ได้ก็คือเงินตรามหาศาล เป็นเหรียญเงินกองเต็มหีบ บรรจุหีบหลายหีบ ทำให้เสียงเหรียญกระทบกันเมื่อขบวนเคลื่อนผ่านดังกังวานไปทั่ว ชาวบ้านที่มาเฝ้าดูต่างรู้สึกทึ่งและตื่นเต้น ยังไม่พอยังมีเครื่องประดับทองคำประดับลายละเอียดบรรจง ทั้งกำไล สร้อยคอ และเข็มขัดทองคำ ประดับด้วยอัญมณีสีสด แล้วยังมีพานดอกไม้สดที่บรรจุดอกโบตั๋นสีแดงและสีขาว สัญลักษณ์แห่งความรักและความบริสุทธิ์ ดอกไม้สดเหล่านี้ถูกเก็บมาเพื่องานแต่งงานครั้งนี้โดยเฉพาะ อีกอย่างก็คือพัดโบราณและภาพวาดพู่กันของขวัญที่สะท้อนถึงศิลปะและวัฒนธรรมโบราณ พัดแต่ละอันถูกเขียนด้วยบทกวีและภาพวาดที่แสดงถึงความรุ่งเรืองและความสุข

และสุดท้ายยังมีที่ดินทางตอนใต้อันกว้างใหญ่

หลี่กงกงยืนตรงกลางลานและเตรียมอ่านรายชื่อของสินสอดที่มอบให้ พร้อมด้วยเสียงดังกังวานตามประเพณี

"ผ้าไหมสีทอง สีแดง และสีอื่นๆ สารพัดสี ห้าสิบพับ! พรมลายมังกรหงส์ สามสิบผืน! เครื่องประดับทองคำ เก้าสิบชุด! อัญมณีหยกน้ำงามประดับทอง ร้อยหีบ! เงินตรามหาศาลหนึ่งร้อยห้าสิบหีบ!"

เสียงของหลี่กงกงดังไปทั่วบริเวณ จนชาวบ้านที่มายืนมุงดูพากันตื่นเต้นและทึ่งในความมั่งคั่งของสินสอด ชาวบ้านซุบซิบกันด้วยความอิจฉาและทึ่งในความยิ่งใหญ่ของการแต่งงานครั้งนี้

"ช่างยิ่งใหญ่จริงๆนะ...หลินเข่อซิงช่างโชคดีที่ได้แต่งงานกับแม่ทัพอวิ๋น" เสียงของชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ย

"ขนาดฝ่าบาทยังพระราชทานสินสอดเพิ่มอีก นี่ต้องเป็นงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีเลยทีเดียว" อีกคนกล่าวเสริม

หลังจากที่หลี่กงกงอ่านรายชื่อสินสอดจบแล้ว เขายิ้มพลางหันไปทางตระกูลหลินและกล่าวอย่างสุภาพ "ด้วยพระมหากรุณาธิคุณจากฝ่าบาท สมรสพระราชทานในครั้งนี้จะต้องสมบูรณ์และงดงามที่สุด ข้าขออวยพรให้คุณหนูหลินและแม่ทัพอวิ๋นมีความสุขชั่วนิรันดร์"

เสียงเชียร์จากฝูงชนดังขึ้น ชาวบ้านที่มาเฝ้าดูต่างพากันตะโกนแสดงความยินดี บรรยากาศเต็มไปด้วยความยินดีและตื่นเต้น ขบวนสินสอดขนาดใหญ่ถูกนำเข้าสู่จวนตระกูลหลินด้วยความภาคภูมิใจ

 ขบวนสินสอดนี้ทำให้หลินเข่อซิงกลายเป็นที่กล่าวขานและอิจฉาจากบรรดาสตรีทั่วทั้งเมืองไปอีกนานหลายปี

“ท่านแม่ ข้าว่าข้าคงนับสินสอดนี้ไม่ไหวเพียงลำพังแน่ๆเจ้าค่ะ” หลินเข่อซิงหันไปพูดกับชิงเหม่ยด้วยสีหน้าเจื่อนๆ

ชิงเหม่ยหัวเราะเล็กน้อย “ฮูหยินใหญ่ตระกูลอวิ๋นไม่ควรจะมาหัวหมุนกับการนับของเองนะลูก แต่ถ้าเจ้าอยากทำ แม่ก็จะช่วยเอง”

ดังนั้นทั้งสองแม่ลูกจึงร่วมกันนับและตรวจสอบของในแต่ละหีบ บ่าวไพร่ที่ยืนข้างๆ ต่างรีบช่วยจดบันทึกตามคำสั่งของหลินเข่อซิงและชิงเหม่ย เสียงหัวเราะและการพูดคุยเป็นไปอย่างสนุกสนาน แต่เต็มไปด้วยความรอบคอบในการตรวจสอบสินสอดมหาศาลนี้

“ผ้าไหมสีทอง ห้าสิบพับ... อัญมณีหยกอีกร้อยหีบ...” หลินเข่อซิงพูดพร้อมกับจดบันทึกลงบนกระดาษ นางเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าจากการนับและตรวจสอบที่กินเวลาไปนานหลายชั่วโมง

“แม่! นี่มันมากมายกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก! ข้าไม่เคยคิดเลยว่าการเป็นเจ้าสาวจะมีสินสอดเยอะขนาดนี้” หลินเข่อซิงบ่นพร้อมหัวเราะเบาๆ

ชิงเหม่ยพยักหน้า “ก็เพราะว่าเจ้ากำลังจะเป็นสะใภ้ตระกูลอวิ๋น แถมเป็นสมรสพระราชทานจากฝ่าบาทอีก ไม่มีทางที่สินสอดจะธรรมดาได้หรอก”

จากเช้าจรดบ่ายแก่ๆ งานนับและตรวจสอบสินสอดทั้งหมดจึงเสร็จสิ้นลง หลินเข่อซิงถอนหายใจยาว “ในที่สุดก็...เสร็จสิ้นเสียที!” นางหันไปมองหีบมากมายที่เรียงรายกันอยู่ในห้อง นางรู้สึกทั้งดีใจและโล่งใจที่งานหนักนี้เสร็จลงแล้ว

ชิงเหม่ยหันไปยิ้มให้ลูกสาวและลูบหลังเบาๆ “เจ้าเก่งมากลูกแม่ เจ้าจัดการได้ดีจริงๆ”

หลินเข่อซิงยิ้มตอบ “ข้าก็มีท่านแม่ช่วยนี่เจ้าคะ ถึงได้ราบรื่นขนาดนี้ ขอบพระคุณท่านแม่มากเจ้าค่ะ”

หลังจากเสร็จสิ้นการตรวจสอบสินสอด หลินเข่อซิงและชิงเหม่ยต่างก็รู้สึกเหนื่อยล้า แต่เต็มไปด้วยความสุขจากความรักและความเอาใจใส่ที่แสดงออกมาผ่านขบวนสินสอดนี้

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 46

    ยามเช้าวันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส พระอาทิตย์ออกมาทักทายเร็วรี่ ฟ้าครามแทบไม่มีเมฆหรือหมอกใดๆ เป็นมงคลฤกษ์อันดีสำหรับงานมงคลที่จะจัดขึ้นในวันนี้“ฮ้าววว ง่วงนอนชะมัด” หลินเข่อซิงอ้าปากหาวหวอดๆ พลางบิดขี้เกียจไปมา“ว้ายย คุณหนู ทำไมอ้าปากกว้างอย่างนั้นล่ะเจ้าคะ ประเดี๋ยวที่ทาหน้าก็พังหมดหรอกเจ้าค่ะ” หลิงเฉินว่าพลางขยับตัวเข้าไปหาหลินเข่อซิง พร้อมทั้งพินิจดูใบหน้าของเจ้านายไปด้วย“โธ่ หลิงเฉิน เจ้าปลุกข้าตื่นตั้งแต่ยังมีแต่เสียงจิ้งหรีดร้อง จนตอนนี้ไก่ขันจนหลับแล้ว คิดดูสิว่าข้าตื่นเช้าแค่ไหน แล้วนี่เจ้าทำทรงอะไรให้ข้าเนี่ย” หญิงสาวว่าพลางเอาเอามือคลำไปมาบนศีรษะตนเอง“คุณหนู!” เพี๊ยะ หลิงเฉินตีมือคนซนเบาๆ “กว่าข้าจะจัดแต่งให้คุณหนูเสร็จใช้เวลาไปมากโขนะเจ้าคะ ตรงนี้ข้าม้วนผมคุณหนูไว้ด้วยด้ายหลากสีเพื่อเพิ่มความสวยงามเจ้าค่ะ ส่วนปิ่นก็ต้องเป็นปิ่นทอง เพราะสีทองเป็นสีมงคลของงานแต่งเจ้าค่ะ”“เอาเถอะ แล้วที่ห่อผ้าไว้นั่นล่ะ คืออะไรเหรอ?” มือเรียวบางชี้ไปยังโต๊ะไม้ที่อยู่ไม่ไกลนักในห้องนอน“สิ่งนั้นคือของที่เราจะเตรียมไปด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 47 NC18+

    ภายในห้องหอที่ประดับประดาด้วยผ้าม่านสีแดงสด ผืนผ้าไหมที่ประดับลวดลายทองดูสวยงามหรูหรา บนโต๊ะไม้แกะสลักมีอาหารคาวหวานเรียงราย กลิ่นหอมของสุราลอยอบอวลในอากาศ หลินเข่อซิงนั่งพิงเบาะนุ่มข้างอวิ๋นเฟยหลง ดวงตากลมโตเป็นประกายอย่างซุกซน “ท่านแม่ทัพ ข้าขอท้าท่านดื่มสุราเป็นเพื่อนกันหน่อยเป็นไร? คืนนี้น่าจะสนุกไม่น้อยถ้าท่านไม่กลัวเมาน่ะนะ” หลินเข่อซิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ หยิบกาสุราขึ้นมาเทลงในจอก ส่งให้เฟยหลงอย่างท้าทาย อวิ๋นเฟยหลงหรี่ตามองหญิงสาวข้างกายพลางยิ้มมุมปาก "เจ้าแน่ใจหรือว่าจะชนะข้าในเรื่องนี้? ข้าเกรงว่าเจ้าจะเป็นฝ่ายหน้าแดงเสียก่อน" “โธ่ ท่านอวิ๋น! ข้าไม่ได้กลัวสุรา ท่านต่างหาก อย่ามัวแต่เป็นแบบนี้เลย!” หลินเข่อซิงหัวเราะคิกคัก ยกจอกสุราขึ้นทำท่าจะดื่ม แต่ก่อนที่นางจะได้ยกจอกขึ้นดื่ม อวิ๋นเฟยหลงก็ยื่นมือมาจับข้อมือของนางเบาๆ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงแฝงความขี้เล่นที่นางไม่ค่อยได้ยินบ่อยนัก “หากจะดื่มก็ควรดื่มให้ถูกต้อง” หลินเข่อซิงขมวดคิ้วเล็กน้อย "ถูกต้องอย่างไร?" นางถามอย่างสงสัย แต่ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเฟยหลงยื่นจอกสุรามาใกล้ และเขาก็คล้องแขนนางเข้ากับแขนของตน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-09
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 48

    หลังจากตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ หลินเข่อซิงก็ปวดแปลบช่วงกลางลำตัวอย่างมาก นางมองไปไม่เห็นแม้เงาของอวิ๋นเฟยหลงแล้ว “เช้าขนาดนี้เขาไปไหนของเขานะ แต่ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่กระอักกระอ่วน” หลินเจ๋อซิงขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงมายืนบิดขี้เกียจ หญิงสาวหันกลับไปมองที่เตียง บนผ้าปูที่นอนสีแดงสด มีจุดสีเข้มเปื้อนอยู่ ขณะที่เธอกำลังดึงผ้าปูที่นอนอยู่นั้น หลิงเฉินก็ก้าวเข้ามาพอดี“คุณหนู ตื่นหรือยังเจ้าคะ เอ้ย…ต้องเรียกฮูหยินสินะ ท่านแม่ทัพรอรับประทานอาหารกับท่านอยู่นะเจ้าคะ…เอ่อ…ฮูหยินท่านทำอันใดอยู่หรือเจ้าคะ?” หลิงเฉินยืนนิ่งมองเจ้านายที่กำลังกำผ้าปูที่นอนแน่น“เปล่า ไม่ได้ทำอะไรนี่ ข้าแค่…เอ่อ…จะทำหน้าที่ภรรยาที่ดีไง ซักผ้าให้สามี เริ่มต้นจากผ้าปูที่นอนเป็นอันดับแรก ….อ่า ใช่แล้วๆ” ว่าพลางจะเดินหนีออกไปข้างนอก“โธ่ ฮูหยิน ท่านยังจะอายสิ่งใดอีก ส่งมาให้ข้าเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าทำให้เอง” หลินเข่อซิงหน้าร้อนผ่าว จำต้องยื่นผ้าปูที่นอนส่งให้หลิงเฉินไปท่านพ่อกับท่านแม่ของนางส่งหลิงเฉินมาคอยรับใช้นางที่จวนแม่ทัพ ด้วยว่าหลิงเฉินเป็นคนฉลา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-10
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 49

    เช้าวันต่อมา หลินเข่อซิงเริ่มแผนใหม่ นางตั้งใจจะทำให้อวิ๋นเฟยหลงรู้สึกถึงความผิดปกติที่นางเคยเอาใจจนชิน นางเริ่มต้นด้วยการไม่เข้าไปทักทายเขาตอนเช้าอย่างเคย ทั้งที่ปกตินางจะเดินมาในห้องทำงานพร้อมของว่างและชวนเขาพูดคุย อวิ๋นเฟยหลงมองออกไปที่หน้าต่าง เขารู้สึกแปลกๆ เพราะวันนี้เงียบกว่าปกติ ไม่มีเสียงเจื้อยแจ้วของหลินเข่อซิงที่นางมักจะทำตัวราวกับเด็กไม่ยอมโต คอยมานั่งพูดคุยกับเขา หยอกล้อ และมักนำเรื่องนู้นเรื่องนี้มาเล่าให้เขาฟัง ทว่าเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแต่ในใจรู้สึกแปลกๆ และ...คิดถึงช่วงเวลาที่นางอยู่ใกล้ๆ ตกบ่าย หลินเข่อซิงก็เริ่มแผนสอง นางตั้งใจทำตัวไม่สนใจอวิ๋นเฟยหลงบ้าง ท่านแม่ทัพกำลังซ้อมดาบอยู่ นางก็เดินไปยืนห่างๆ ไม่เข้าไปกวนเหมือนทุกที ทำเพียงมองเงียบๆ แล้วเดินหนีไปทางอื่นทันที อวิ๋นเฟยหลงหันไปมองนางที่เดินหายไป พลันเกิดความรู้สึกหงุดหงิดขึ้นในใจ โดยไม่รู้ตัวว่าเขาคาดหวังให้นางเข้ามาพูดคุยหรือแหย่เล่นเหมือนทุกครั้ง หลังซ้อมเสร็จหลินเข่อซิงตั้งใจเอาของว่างที่อร่อยที่สุดที่นางเคยทำนำไปวางไว้บนโต๊ะของเขา แต่แทนที่จะเอาไปให้ด้วยรอยยิ้มเหมือนเคย นางกลับแค่เอาวางเฉยๆ แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 50

    อวิ๋นเฟยหลงขยับตัวเล็กน้อยแต่ยังไม่ตื่น นางจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ หูเขา “เฟยหลง ตื่นได้แล้วเจ้าค่ะ อาหารเช้าเสร็จแล้ว!”ในที่สุดเขาก็ลืมตาขึ้นช้าๆ มองเห็นรอยยิ้มกว้างของหลินเข่อซิงอยู่ใกล้ๆ ชายหนุ่มหน้าร้อนผ่าว รีบผุดลุกขึ้นทันใด “เจ้าทำอะไรแต่เช้าหรือ”“ข้าทำอาหารเช้าให้ท่านไงเจ้าคะ!” นางยิ้มอย่างภูมิใจ “วันนี้ข้าจะดูแลท่านเต็มที่!”เขามองหน้านางและลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะเลิกคิ้ว “วันนี้เจ้าดูขยันผิดปกตินะ”“ฮึ่ม! ขยันก็ดีแล้วไงเจ้าคะ ท่านแม่ทัพต้องการการดูแลจากภรรยาที่แสนดีอย่างข้า” นางพูดพลางดึงมือเขาเบาๆ ให้เดินตามนางไปที่โต๊ะที่นั่นมีนายท่านอวิ๋นและอวิ๋นฮูหยินนั่งอยู่ก่อนแล้วอวิ๋นเฟยหลงมองอาหารบนโต๊ะอย่างประหลาดใจ “เจ้าทำทั้งหมดนี้เองหรือ”“แน่นอนเจ้าค่ะ! ข้าอุตส่าห์ตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมให้ท่าน” นางยืดอกอย่างภาคภูมิใจเขามองนางด้วยสายตาอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย “ขอบใจเจ้ามาก ข้าไม่เคยรู้ว่าเจ้าทำอาหารเก่งขนาดนี้”“ไม่ต้องขอบคุณ ข้าทำเพราะข้าอยากดูแลท่าน ข้าจะทำให้ท่านมีแรงเต็มที่ในการฝึกทห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-16
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 51 NC18+

    เมื่อถึงตอนเย็น หลินเข่อซิงเดินกลับเข้าจวนชั้นในพร้อมอวิ๋นเฟยหลง "ท่านพี่เหนื่อยไหมเจ้าคะ ข้าจะเตรียมน้ำให้ท่านอาบนะเจ้าคะ""ข้าสบายดี ไม่ต้องห่วง" เขาตอบอย่างเรียบง่าย"งั้นข้าจะนวดให้ท่านดีไหมเจ้าคะ" นางถามพร้อมทำท่าทางจริงจังเขาหลุดขำออกมาอีกครั้ง "เจ้าดูกระตือรือร้นเกินไปสำหรับการดูแลข้า" อวิ๋นเฟยหลงพูดพลางยิ้มอ่อน"แน่นอน ข้าต้องเต็มที่เพื่อท่าน!" หลินเข่อซิงยิ้มตอบ แต่ทันใดนั้นนางก็ยิ้มกว้างกว่าเดิม พลางทำหน้าเจ้าเล่ห์ "ว่าแต่... ท่านแม่ทัพอยากนวดจริงๆ หรือไม่ ข้าเพิ่งเรียนวิธีนวดแบบพิเศษมา ท่านคงจะรู้สึกสบายแน่ๆ!"เขาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย "แบบพิเศษหรือ?""ใช่! นี่เป็นสูตรลับเฉพาะของข้าเอง" หลินเข่อซิงพูดอย่างมั่นใจ พลางโบกมือให้อวิ๋นเฟยหลงนั่งลงที่เก้าอี้ "เชิญนั่งลงสบายๆ นะเจ้าคะ ข้าจะทำให้ท่านผ่อนคลายที่สุด"อวิ๋นเฟยหลงนั่งลงตามคำบอกอย่างว่าง่าย หลินเข่อซิงเริ่มลงมือนวดที่บ่าเขาเบาๆ แต่ทว่าด้วยท่าทางที่ไม่เคยชำนาญ นางกลับเผลอกดแรงเกินไปจนเขาอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้"อืม... เบากว่านี้หน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 52

    สามวันหลังจากพิธีแต่งงานอันยิ่งใหญ่ หลินเข่อซิงและอวิ๋นเฟยหลงต่างเตรียมตัวสำหรับวันสำคัญอีกวันหนึ่ง นั่นก็คือการกลับไปเยี่ยมบ้านเจ้าสาวตามธรรมเนียมที่ยึดถือปฎิบัติกันมา ซึ่งถือเป็นโอกาสที่เจ้าสาวจะกลับไปเยี่ยมครอบครัวของตนเองเป็นครั้งแรกหลังแต่งงานเช้านี้ อวิ๋นเฟยหลงแต่งกายในชุดทางการ เรียบง่ายแต่สง่างาม ขณะที่หลินเข่อซิงเลือกสวมชุดผ้าไหมสีอ่อนที่พ่อแม่ของนางมอบให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน นางดูสดใสร่าเริงเหมือนเดิม แต่ในใจกลับตื่นเต้นเป็นอันมากที่จะได้กลับไปเยี่ยมพ่อแม่หลังจากการแต่งงาน"เจ้าพร้อมหรือยัง?" อวิ๋นเฟยหลงเอ่ยถามขณะที่เขาเดินเข้ามาหยุดยืนข้างนาง"พร้อมสิ! ข้าอยากเจอพ่อกับแม่เร็วๆ แล้ว" หลินเข่อซิงยิ้มอย่างตื่นเต้น นางหันไปมองสามีของตนที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยใบหน้าอ่อนโยน "ท่านพี่ ท่านคงไม่กังวลอะไรใช่ไหม?"อวิ๋นเฟยหลงส่ายหน้าเล็กน้อยพร้อมกับยิ้มบางๆ "ข้าไม่กังวลอะไร แต่ดูท่าทางเขาดูกังวลเสียมากกว่านะ""ข้าแค่ดีใจที่ได้กลับไปหาพ่อแม่เท่านั้นเอง" นางหัวเราะเบาๆ "และอีกอย่าง ข้าก็อยากให้ท่านได้รู้จักกับครอบครัวข้ามากขึ้นด้วย"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-18
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 53

    เมื่อรถม้าเดินทางมาถึงจวนโหว อวิ๋นเฟยหลงลงไปก่อน เพื่อรอรับและช่วยประคองหลินเข่อซิงลงมา เมื่อทั้งคู่เดินจับมือกันผ่านประตูหน้าจวน ก็พบว่ามีทหารคนสนิทเข้ามารายงานด้วยความรีบร้อน “ท่านแม่ทัพขอรับ มีพระราชโองการจากฮ่องเต้ เรียกตัวท่านให้เข้าเฝ้าที่ท้องพระโรงตอนนี้เลยขอรับ” “ได้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้” อวิ๋นเฟยหลงตอบรับ ก่อนหันไปหาหญิงคนรัก “ซิงเอ๋อร์ เจ้าอยู่ที่นี่นะ เข้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ เจ้าคงเห็นแล้ว ตอนนี้ข้าต้องรีบเข้าวังโดยด่วน” “เจ้าค่ะ น้องจะรอท่านพี่อยู่ที่นี่ หากเกิดเหตุอันใดขึ้น ต้องรีบแจ้งข่าวให้น้องทราบนะเจ้าคะ” หลินเข่อซิงเงยหน้ามองชายคนรักด้วยความห่วงใย ก่อนจะมองส่งเขาขึ้นม้าไปกับทหารคนสนิทอีกสองคน ข้าหวังว่าคงไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ หลินเข่อซิงคิดในใจ ภายในท้องพระโรงอันโอ่อ่า ฮ่องเต้ประทับบนบัลลังก์มังกรอย่างสง่างาม สายพระเนตรคมกริบจับจ้องมายังอวิ๋นเฟยหลงที่ยืนอยู่เบื้องหน้า เสียงรายงานสถานการณ์จากชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือดังก้องไปทั่วท้องพระโรง บรรยากาศรอบตัวเต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 87

    แสงแดดยามสายสาดส่องลงมาบนเส้นทางที่ทอดยาวผ่านป่าเขาและทุ่งหญ้า อวิ๋นเฟยหลงและเจิ้งจู่องครักษ์เงาคู่ใจอยู่บนหลังม้า ทั้งสองเดินทางร่วมกันมานานนับเดือน นับตั้งแต่จากบ้านสกุลซุย เส้นทางที่ผ่านไม่ได้ราบเรียบ มีทั้งความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ความร้อนระอุในบางวัน และความหนาวเหน็บในยามค่ำคืนม้าสีดำตัวใหญ่ของอวิ๋นเฟยหลงย่ำเท้าลงบนพื้นอย่างมั่นคง ชายหนุ่มนั่งตัวตรง ดวงตาคมกริบจ้องมองไปยังเส้นทางข้างหน้า ส่วนเจิ้งจู่ที่อยู่เคียงข้างไม่ห่าง ใช้มือปัดเหงื่อบนหน้าผากพร้อมกับพูดกลั้วหัวเราะ “องค์ชายพ่ะย่ะค่ะดูเหมือนว่าแม้แต่แดดแรงขนาดนี้ยังไม่อาจทำอะไรท่านได้เลย ข้าสิแทบจะละลายอยู่ตรงนี้แล้ว”อวิ๋นเฟยหลงหันมามองเจิ้งจู่ด้วยแววตาขำขัน “เจ้าคิดว่าการบ่นจะช่วยให้เย็นลงหรือ? อีกอย่างเลิกเรียกข้าว่าองค์ชายเสียที เรียกคุณชายจะดีกว่า ยิ่งเข้าใกล้แคว้นฉางจีเท่าไหร่เรายิ่งต้องปกปิดตัวตนมิให้ผู้ใดล่วงรู้”“เข้าใจแล้วขอรับ คุณชาย” เจิ้งจู่ยิ้มแหยๆ ก่อนจะเอ่ยต่อ “แต่บางทีข้าก็อดสงสัยไม่ได้ ว่าทำไมท่านถึงเลือกเส้นทางนี้ ทั้งที่ทางหลักก็น่าจะปลอดภัยกว่า”อวิ๋นเฟย

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 86

    “กระหม่อมบกพร่องในหน้าที่ และละอายใจยิ่ง หากองค์ชายเจ็บแค้นและอยากสังหาร กระหม่อมก็พร้อมยินดีมอบชีวิตให้พระองค์พ่ะย่ะค่ะ” เจิ้งจู่ว่าพลางยื่นกระบี่ในมือให้กับอวิ๋นเฟยหลงชายร่างผอมบางในชุดคลุมสีดำสนิท นั่งนิ่งหลับตาแน่น รอรับโทษทัณฑ์ฟิ้ววว เสียงโลหะแหวกอากาศจนเกือบฟันคอของเจิ้งจู่ขาด เจิ้งจู่รู้สึกถึงความเย็นของดาบที่แตะเบาๆที่คอ แต่เพียงแค่นี้ก็ทำเอาเลือดสดไหลซึมออกมาเล็กน้อยเคร้ง!ดาบถูกโยนทิ้งลงพื้น“ข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร หากเจ้ารู้สึกเช่นนั้นก็จงร่วมเดินทางไปกับข้าเถอะ”“องค์ชาย กระหม่อมขอขอบพระทัยในความเมตตาของพระองค์พ่ะย่ะค่ะ” เจิ้งจู่ลุกขึ้นมาคำนับอวิ๋นเฟยหลง“แต่ก่อนอื่นข้ามีเรื่องที่ต้องทำก่อนไป” อวิ๋นเฟยหลงว่าพลางขมวดคิ้วแน่น........แสงอาทิตย์แผดแสงเจิดจ้าส่องเข้ามายังลานบ้านสกุลซุย อวิ๋นเฟยหลงยืนอยู่ในห้องพักอย่างเงียบสงบ แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกสับสน แต่มั่นคง เขารู้ดีว่าวันนี้เขาต้องบอกลาผู้คนที่นี่ คนที่ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน คนที่คอยช่วยเหลือเขาในช่วงเวลาที่เขาความทรงจำขาดห

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 85

    นับจากวันที่เขาประสบเหตุในวันที่ไปเก็บเห็ดกับนายท่านซุย จิ่นสือมักมีภาพเหตุการณ์โผล่ขึ้นมาให้เขาได้เห็น บางคราก็สั้นๆ บางคราก็เป็นเรื่องเป็นราวผุ้เฒ่าสกุลซุยทั้งสองลงความเห็นกันว่าควรให้เขาได้พักผ่อนให้มากหน่อยเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บและพักฟื้นร่างกายให้ดี รวมถึงกันซุยลี่อินไม่ให้มารบกวนจิ่นสืออีกด้วย นับว่าช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่เขารุ้สึกสงบสุขมากที่สุดนับแต่ได้มาอยุ่ที่บ้านสกุลซุยก็ว่าได้สายลมวสันต์ฤดูพัดผ่านหน้าต่างเข้ามา ทำเอาจิ่นสือต้องยกมือขึ้นมาป้องปากและจมูกที่เย็นจนชาแทบไร้ความรู้สึกวันนี้ยังคงเป็นไปตามปกติเพียงแต่เขาไม่ต้องไปคอยตัดฟืนแบกหามอย่างเช่นทุกที ตามร่างกายยังคงเจ็บระบม ชายหนุ่มร่างกำยำที่เริ่มเบื่อหน่ายจึงไปนั่งขัดสมาธิบนฟูกนอน ก่อนจะหลับตาลงเข้าสู่สมาธิเวลาล่วงเลยผ่านไปเท่าใดไม่อาจทราบได้ ร่างหนาลืมตาขึ้นมาก็พบว่าแสงสุริยันลับขอบฟ้าไปแล้ว บนโต๊ะในห้องนอนมีสำรับกับข้าววางไว้ให้ เขาค่อยๆลุกขึ้นมานั่งก่อนจะบิดเอวซ้ายทีขวาที ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะกินข้าวเล็กๆมีอาหารเพียงสองอย่าง ผัดไข่ใส่ใบเซียงชุนและซุปเนื้อหอมกรุ่นที่ตอนน

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 84

    ในห้วงอันเงียบสงบของค่ำคืน หยางเฟยฮุ่ยนั่งลงท่ามกลางแสงเทียนในห้องบรรทม นางประมวลผลทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งความไม่ไว้วางใจระหว่างตนกับหานเจี๋ย และสถานการณ์ในวังที่ตึงเครียด นางยิ้มมุมปาก ก่อนจะตัดสินใจวางแผนสร้างเครือข่ายพันธมิตรของตนเองขึ้นมา“ข้าจะไม่อยุ่รอวันตาย ไม่ฝากชีวิตไว้กับเสือที่ไม่รุ้ว่าจะแว้งกัดข้าตอนไหน” หยางเฟยฮุ่ยกล่าวกับตนเองพลางยิ้มเย็นหยางเฟยฮุ่ยหันไปเริ่มต้นแผนด้วยการพบปะกับเหล่าสนมนางในบุตรีตระกูลผู้ทรงอิทธิพลในราชสำนัก เพื่อเสริมฐานพันธมิตรให้กว้างขวางมากขึ้น“ข้าอยากให้พวกท่านมาร่วมงานในตำหนักของข้า พวกเราสามารถแบ่งปันความคิดเห็นและสนับสนุนกันและกันได้... จะว่าไปก็นับว่าข้ามีโชคยิ่งนัก ที่ได้พบสตรีชั้นสูงที่มีความสามารถและรู้จักวางตัวอย่างท่านทั้งหลาย”“ฮองเฮาทรงมีน้ำพระทัยกว้างขวางถึงเพียงนี้ พวกข้าก็ยินดีที่จะมาพบปะกับท่านบ่อย ๆ เพคะ” ฮุ่ยเฟยเอ่ยขึ้น นางเป็นบุตรีของเสนาบดีเจ้ากรมโยธา น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเรียบเรื่อยราวสายธารยามสงบนิ่ง“ข้าก็ยินดีเช่นกัน สตรีอย่างพวกเราย่อมต้องพึ่งพากันบ้าง พ

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 83

    จิ่นสือพยักหน้ารับ ขณะที่ลูบใบเทียนเฉ่าเบาๆ กลิ่นหอมฉุนของมันลอยออกมาแตะจมูก สมุนไพรชนิดนี้มีสรรพคุณล้ำค่า และเป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงการแพทย์แผนโบราณถัดมาไม่นาน พวกเขาก็เจอพุ่มไม้ที่ออกดอกเป็นช่อสีขาวเล็กๆ กลีบดอกดูเปราะบางและชุ่มชื่น“นี่คือไป่ฮวา หรือหญ้าพันงู ขึ้นชื่อในสรรพคุณสมานแผลและหยุดเลือดทันทีเมื่อมีแผลสด ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในยาสำหรับทหารหรือผู้ที่ทำงานเสี่ยงอันตราย”จิ่นสือสังเกตพุ่มไม้ไป่ฮวาด้วยความสนใจ“น่าสนใจนัก ยามศึกสงคราม สมุนไพรนี้คงช่วยได้มากจริงๆ”พวกเขาเดินต่อจนถึงลำธารเล็กๆ ที่ไหลเย็นสบาย สองข้างของลำธารมีต้นไม้เล็กๆ ออกผลเล็กๆ สีแดงจัดเต็มพุ่ม“ต้นนี้เรียกว่าซานจาหรือพุทราจีน ผลสีแดงของมันนี้กินได้ มีรสหวานอมเปรี้ยว ช่วยย่อยอาหารและบำรุงหัวใจเป็นเลิศ” นายท่านซุยหยิบผลซานจามาส่งให้จิ่นสือ“ลองชิมดูสิ หวานอมเปรี้ยวนี่ล่ะช่วยให้รู้สึกสดชื่นยิ่ง”จิ่นสือรับผลซานจามา ลองกัดเบาๆ รสชาติสดชื่นทำให้เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าทันที สมุนไพรนี้ไม่เพียงแต่เป็นยาบำรุงแต่ยังเสริมพลังได้เป็นอย่างดี

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 82

    ซุยลี่อินใจเต้นรัว ใบหน้าเล็กร้อนผ่าว มือน้อยๆ ยกขึ้นไปจับตรงตำแหน่งที่มือใหญ่ได้วางไว้ก่อนหน้าเบาๆ ริมฝีปากจิ้มลิ้มแย้มยิ้มออกมาเสียจนแทบฉีกถึงใบหุ “ข้าจะรอท่านพี่กลับมานะเจ้าคะ” สาวน้อยตะโกนไล่หลังร่างสุงใหญ่ที่เดินทิ้งห่างไปไกล ซุยลี่อินยืนส่งชายในดวงใจจนร่างเขาหายลับไปจากสายตา จึงเดินกลับเข้าไปในบ้าน จิ่นสือได้ยินเสียงใสแว่วๆ แต่เขาไม่ได้หันกลับไป ทำเพียงเร่งฝีเท้าให้ทันนายท่านซุยเพียงเท่านั้น แสงแดดยามสายสาดส่องผ่านยอดไม้หนาทึบลงมาเป็นลำ จิ่นสือก้าวเดินตามผู้เฒ่าอย่างตั้งใจ แม้พื้นดินจะชื้นแฉะ แต่ในความชื้นนั้นกลับทำให้ป่าแห่งนี้อุดมไปด้วยพืชสมุนไพรอันหลากหลาย จิ่นสือมองสำรวจอย่างตั้งอกตั้งใจ "ดูเหมือนป่านี้จะซ่อนสมุนไพรล้ำค่าไว้มิใช่น้อย...ข้าสงสัยว่าเหตุใดต้นไม้เหล่านี้จึงเติบโตได้งดงามนัก" นายท่านซุยยิ้มอย่างยินดีที่ชายหนุ่มถามในเรื่องที่เขามีความรู้เป็นอย่างดี และยินดีแบ่งปันอย่างยิ่ง “ต้นไม้ในป่านี้ได้รับการดูแลจากธรรมชาติ และคนในหมู่บ้านของเราได้ช่วยกันร

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 81

    จิ่นสือมาอยุ่กับครอบครัวสกุลซุยมาได้พักใหญ่แล้ว เขามักจะไปตักน้ำตัดฟืนมาไว้ในบ้านเสมอ รวมถึงการออกไปจับจ่ายซื้อของแทนผุ้เฒ่าซุยอยุ่บ่อยครั้งและแน่นอนว่าเขามักจะมีดรุณีน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มตามติดไปด้วยอยุ่เสมอ จนผุ้ที่ได้พบเห็นต่างนึกเอ็นดุและชื่นชมในรุปลักษณ์ที่ดีงามของทั้งสองคนจิ่นสือมักมีอาการปวดศีรษะบ่อยครั้ง แต่ละครั้งมักมีอาการไม่นานมาก เพียงชั่วใบไม้ร่วงหล่นลงสุ่พื้น แต่ก็ทำให้เขาเจ็บร้าวในหัวจนแทบทรงตัวไม่อยุ่ในทุกค่ำคืนเขามักจะฝันถึงหญิงสาวที่ไม่มีใบหน้า เฝ้าเรียกหาเขาด้วยน้ำเสียงอาทรและห่วงหาคืนนี้ก็เช่นกัน…“ท่านพี่…ท่านพี่…”“…”“เจ้าเป็นใคร ต้องการอะไรกันแน่” เขาถามออกไปแต่ร่างบอบบางในชุดสีฟ้าอ่อน ผมยาวตรงสยายพลิ้วไหวตามแรงลมที่ไม่ทราบมาจากที่ใด เขาเพ่งมองไปยังใบหน้านั้น แต่แสงสีขาวสว่างจ้าเกินไปจนเขาตาพร่าไม่สามารถมองเห็นใบหน้านั้นได้ชายหนุ่มตัดสินใจเดินเข้าไปหาร่างนั้น แต่ยิ่งเดินยิ่งห่างไกล ราวกับร่างนั้นเคลื่อนถอยหลังหนีเขาอยุ่ร่ำไป“ได้โปรดเถิด ให้ข้าได้เห็นหน้าเจ้าสักนิด”จื

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 80

    บนพื้นที่ห่างไกลออกไปทางเหนือใกล้กับชายแดนแคว้นเกาเยว่ เสียงตัดไม้ดังก้องไปทั่วป่า เมื่อมองลึกเข้าไปจะพบกับชายร่างสูงใหญ่ล่ำสัน เครื่องแต่งกายมีเพียงเสื้อตัวบางทับด้วยเสื้อกั๊กเผยให้เห็นมัดกล้ามสองแขนแกร่ง กำลังตัดไม้อย่างขมักเขม้น หยาดเหงื่อไหลรินผ่านขมับ ชายหนุ่มขบกรามแน่นยามออกแรงยกขวาน ใบหน้าหล่อเหลาเกลี้ยงเกลา หนวดเครารกครึ้ม ส่งให้ใบหน้าคมเข้มไม่ไกลกันนัก มีสาวน้อยวัยกำดัดนั่งเท้าคางมองชายหนุ่มที่กำลังตัดไม้ด้วยแววตาหลงใหล สาวน้อยร่างบางสวมชุดกระโปรงยาวสีชมพูอ่อน ดูน่ารักน่าทะนุถนอมยิ่งนัก ข้างๆมีตระกร้าใส่อาหารและผลไม้ ดูไปก็คล้ายคู่รักที่ดูรักกันดียิ่ง แต่ความเป็นจริงนั้น…“จิ่นสือ วันนี้อากาศดีมาก ข้าว่าพอแค่นี้ดีไหม แล้วเราไปเดินเล่นในเมืองด้วยกัน” สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มเอ่ยชวนแต่ชายร่างกำยำกลับทำราวกับไม่ได้ยินเสียงนาง ยังคงตัดไม้ต่อไปอย่างไม่ลดละ“นี่ เมื่อไหร่ท่านจะยอมคุยกับข้าสักที นี่ก็ผ่านมาจะครึ่งปีอยู่แล้วนะ นับจากวันที่ท่านพ่อกับท่านแม่พาท่านมาอยู่ด้วยกัน”“…”“สมแล้วที่ท่านพ่อตั้งชื่อให้ท่านว่าจิ่

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 79

    หลังผ่านค่ำคืนอันแสนร้อนเร่ากับเจ้าผู้ครองแคว้น หยางเฟยฮุ่ยกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างผู้ชนะ กว่านางจะฝ่าด่านคัดเลือกสตรีนับพัน ฝ่าฟันต่อสู้กับเหล่าคุณหนูในห้องหอที่ต่างก็เพียบพร้อมไปด้วยความงามและความสามารถ แต่ที่ยากลำบากยิ่งกว่าคือการต้องวางแผนสกปรกทำให้น้องรองต้องเสียโฉมตัดโอกาสที่จะมาแย่งชิงกับนาง เพื่อที่นางจะได้เป็นตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวของตระกูล หยางลี่เฟย จะโทษก็โทษที่ชาติกำเนิดตัวเองเถอะ เจ้ามันก็แค่ลุกอนุ แต่อยากจะมาเทียบเคียงข้า อย่าได้โทษข้าเลย ที่ข้าไม่ยั้งมือ หยางเฟยฮุ่ยคิดในใจหยางเฟยฮุ่ยนั่งมองใบหน้าของตนเองในกระจก ดวงหน้างามพิลาส ดวงตาราวรีรุปหงส์ให้ความรุ้สึกหยิ่งผยองยามปรายหางตามอง จมุกเล็กเชิดรั้น ริมฝีปากยามแย้มยิ้มก็เย้ายวนมีเสน่ห์อย่างยิ่ง ใบหน้านี้ไม่ว่าใครได้มองย่อมตกหลุมนางทั้งนั้น มีแต่เจ้าคนน่าตายอวิ๋นเฟยหลงนั่นคนเดียว ตั้งแต่หลินเข่อซิงโผล่มาก็ไม่มองนางอีกเลย ทั้งที่แต่เล็กทั้งสองตระกุลต่างหมายหมั้นให้พวกนางได้ร่วมหอลงโลง หึ อวิ๋นเฟยหลง ตอนนี้ท่านก็คงจะได้แต่นึกเสียใจเป็นแน่ มาบัดนี้ข้ากลับดีใจที่ไม่ได้แต่งให้ท่าน ไม่เช่นนั้นค

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status