แชร์

บทที่ 81 วันที่รอคอย

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-21 19:54:24

กลางเดือนมกราคมปี 1971 บรรดาตัวแทนแข่งวิชาการหมวดภาษาต่างประเทศ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ยื่นเอกสารให้รักษาการเซียวที่จะพาไปแข่งปักกิ่งในสัปดาห์หน้า จริง ๆ วันแข่งเลื่อนไปมาเพราะสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน แต่ตอนนี้ได้วันที่แน่ชัดแล้ว เป็นช่วงใกล้ ๆ สิ้นเดือน แต่ต้องเผื่อเวลาที่จะไปแข่งด้วย

การที่ต้องเดินทางไปมณฑลอื่นหรือการเดินทางไกลจำเป็นต้องมีจดหมายแนะนำตัว อย่างเวลาเข้าในมณฑลก็ต้องใช้จดหมายแนะนำตัว และเด็ก ๆ บ้านเฉินให้ผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านเฟิ่งหลินจัดการให้ตั้งแต่ที่รู้ว่าต้องใช้ จึงไม่มีอะไรล่าช้า

เฉินเฟิ่นอี้ฝึกซ้อมกับตัวแทนคนอื่นทุกวันอย่างหนัก ยิ่งช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนจะออกเดินทางต้องขออนุญาตหยุดเรียนเพื่อมาซ้อมแบบจริงจัง ซึ่งรักษาการเซียวเป็นคนอนุญาต ทุกคนจึงไม่ได้ห่วงว่าจะเรียนตามไม่ทัน แข่งเสร็จสามารถตามส่งงานได้อยู่

พี่สาวรองลาออกจากงานแล้ว ย้ายไปอยู่กับสามีที่กองทัพพร้อมลุงสามที่กลับไปจัดการภารกิจสุดท้ายที่ได้รับ คาดว่าเดือนหน้าก็จะย้ายมาทำงานในอำเภอได้แล้ว ส่วนพี่ใหญ่เฉินตอนนี้ย้ายไปที่ปักกิ่งและได้ยินว่าอยู่ใกล้กับโรงเรียนที่เฉินเฟิ่นอี้ต้องไป เธอจึงนัดคุยเรื่องสำคัญ จริง
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 82 คู่หมั้น

    จากที่โอวหยางจิงต้องไปส่งเฉินเฟิ่นอี้ที่บ้านเมื่อดูหนังจบ ตอนนี้ทั้งคู่กลับเดินไปยังบ้านตระกูลโอวหยาง โอวหยางจิงยอมรับที่ครอบครัวหาคู่หมั้นให้ ไหน ๆ ก็จะเรียนจบแล้ว และเขาก็ปฏิเสธมาตลอดหนึ่งเดือนทำให้การหมั้นหมายถูกเลื่อนออกไปเรื่อย ๆเฉินเฟิ่นอี้ไม่เข้าใจตนเองเช่นเดียวกัน อยู่ ๆ ก็ตามผู้ชายไปที่บ้านทันทีที่เขาเอ่ยชวน แต่ในเมื่อรับปากไปแล้วจะยกเลิกก็เป็นการหักหน้ากัน จึงตัดสินใจปล่อยให้เขาพาไปที่บ้าน ไม่ใช่ว่าไว้ใจเขาซะทีเดียว แต่กระดานใสบอกว่าผู้ชายคนนี้ไว้ใจได้ที่สำคัญบ้านโอวหยางยังอยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก เฉินเฟิ่นอี้จึงไม่กลัวว่ามันจะเสียเวลาอะไร ตอนนี้เพิ่งบ่ายโมง กว่าจะมืดยังพอไปที่อื่นได้ บนถนนไม่ค่อยมีคนเดินเท่าไรเนื่องจากเป็นวันหยุดของหลาย ๆ คน เฉินเฟิ่นอี้ชอบบรรยากาศแบบนี้เพราะพอเธอเดินกับโอวหยางจิงไม่มีสายตามองมาทั้งคู่เดินมาหยุดที่บ้านหลังใหญ่ที่สุดในละแวกนี้ เธอเชื่อแล้วว่าตระกูลโอวหยางรวยมาก บ้านที่เธอได้เดินเข้าไปเป็นบ้านที่ใหญ่กว่าบ้านเช่าและใหญ่กว่าบ้านตระกูลหมิงอีก ไม่พอยังมีรถยนต์จอดอยู่ ซึ่งตอนนี้ราคามันแพงมาก แต่ก็ไม่ได้ตกใจเท่าคนรู้จักของพี่เขยใหญ่ที่มีรถได้"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-21
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 83 กรุงปักกิ่ง

    ไม่ต่างจากที่เฉินเฟิ่นอี้คิด วันต่อมาเธอถูกพวกจี้หลันแซวที่ไปบ้านของรุ่นพี่คนสำคัญ มันทำให้เฉินเฟิ่นอี้ได้ถามเรื่องของเจียวซีและทำให้เธอรู้ว่าเจียวซีได้ไปเจอหน้าครอบครัวของเว่ยฟ่งแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงแค่เจียวซีต้องพาเว่ยฟ่งไปที่บ้าน ทำให้เฉินเฟิ่นอี้ตกใจที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาไปไกลถึงขนาดนั้นเรื่องที่เฉินเฟิ่นอี้ไปบ้านของโอวหยางจิงถูกปิดเป็นความลับ และรู้เพียงกลุ่มเรียนพิเศษเท่านั้น หากมีคนรู้อีกเกรงว่าชื่อเสียงของเฉินเฟิ่นอี้จะเสียหาย ถึงมันจะเสียหายอยู่แล้วก็ตามเถอะ ในแต่ละวันทุกคนใช้ชีวิตตามปกติจนกระทั่งถึงวันที่มาถึงปักกิ่งมณฑลของพวกเธอกับปักกิ่งอยู่ไกลมากจึงใช้เวลาในการเดินทางนานถึงหกวันและในที่สุดก็มาถึง เฉินเฟิ่นอี้เดินลงจากรถไฟด้วยอาการอ่อนล้าแต่สภาพยังดีกว่าคนอื่น ๆ ที่เห็นได้ว่ามอมแมมเป็นอย่างมาก การเดินทางวันนี้มีเพียงรักษาการเซียว ผู้ช่วยของรักษาการเซียว กับครูที่ปรึกษาจูไห่หลิวเท่านั้นที่ตามดูแลเด็ก ๆ ทั้งสิบสองคน และมีเพียงครูที่ปรึกษาจูไห่หลิวที่ได้รับอนุญาตให้ตามมาดูแลเด็ก ๆ คนเดียวเฉินเฟิ่นอี้ยืนรอคนอื่นที่หน้าประตูรถไฟ หลายคนทยอยเดินลงมา เนื่องจากมันเป็นรถไฟที่มี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-21
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 84 คนตระกูลนั้น

    รักษาการเซียว ผู้ช่วย และครูที่ปรึกษาจูไห่หลิวต้องนำเอกสารและจดหมายแนะนำตัวไปยืนยันกับทางโรงเรียนที่จะเข้าไปมอบตัวพรุ่งนี้ ปล่อยให้ตัวแทนที่เหลือรออยู่ที่ห้อง แต่ถ้าจะออกไปข้างนอกก็ไปได้และอย่าไปไกลมาก ถ้าจะไปให้แจ้งใครไว้ก็ได้เฉินเฟิ่นอี้แต่งตัวตั้งแต่เช้า ก่อนจะมาที่นี่เธอนัดแนะกับพี่ใหญ่เฉินให้มารอที่โรงเรียนเพราะมีเรื่องสำคัญต้องจัดการ คนที่ไปกับเธอมีเพียงเฉินตงที่ไม่เคยห้ามอะไร อีกอย่างภารกิจพิเศษที่รับไว้นานแล้วมาถึงปักกิ่งทั้งทีก็ต้องทำให้เสร็จ บางทีเธออาจได้เงินเยอะกว่าเดิมก็เป็นได้เด็กบ้านเฉินอีกสามคนรู้ว่าเฉินเฟิ่นอี้จะไปหาพี่ชายใหญ่ของบ้านก็ไม่ได้ว่า ทั้งยังบอกให้ระวังตัวเพราะที่นี่ไม่ใช่อำเภอจวี่ ส่วนคนที่ห้องพักปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเฉินไห่หลิวที่ต้องดูแลน้องสาวกับน้องชายของเขา และเรื่องนี้ก็แจ้งกับคุณผู้ช่วยไปแล้วเฉินเฟิ่นอี้คว้ากระเป๋าพร้อมยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้น้องสาวหากจะไปเดินซื้อของด้านนอก ทุกคนมีเงินก็จริงแต่เฉินเฟิ่นอี้ก็จะให้อยู่ดี พร้อมกับการกำชับไม่ให้ใครเข้าไปในห้อง ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะเห็นฟูกที่เฉินเฟิ่นอี้นำออกมาจากระบบ"จะไปแล้วเหรอครับ" เฉินจางถาม"อืม เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-21
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 85 มหาศาล

    เส้นทางที่จะไปสถานที่นั้นซับซ้อนเป็นอย่างมากและต้องเดินไกลจนเกือบจะออกนอกละแวกตลาดเลยก็ว่าได้ เฉินเฟิ่นอี้กำผ้าคลุมหัวแน่นมองทางที่พี่ใหญ่เฉินพาไป ตั้งแต่เดินเข้ามาที่นี่เธอไม่เห็นคนเดินผ่านแม้แต่คนเดียวจนคิดว่ามาผิดทาง แต่พอเดินมาถึงจุดหมายเฉินเฟิ่นอี้ถึงกับตาวาวถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยทางแยกที่เดินไปมาหาสู่กันได้ ทั้งมีคนเดินอยู่ประปรายต่างจากทางที่เดินเข้ามา แต่ละคนมีตะกร้ากับถุงผ้าไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่มีรูปร่างเป็นผู้ชายที่ใส่หมวกอยู่ ไม่มีใครเดินอย่างไม่ใช้อะไรปกปิดใบหน้ายิ่งชายฉกรรจ์ที่ยืนคุมอยู่ตลอดสายเฉินเฟิ่นอี้ก็เห็นว่าพวกเขามีหน้ากากปกปิดเฉินเฟิ่นอี้ต้องการจะนำอะไรมาขายพี่ใหญ่เฉินรับรู้แล้ว และเขาได้หาลู่ทางเอาไว้ตั้งแต่แรก รวมถึงคนที่ต้องการซื้อด้วย พี่ใหญ่เฉินมาจากอำเภอกี่วันและน้องสาวจะมาถึงเมื่อไรเขาคำนวณไว้หมดแล้ว เพราะฉะนั้นการที่จะให้คนที่อยากได้นาฬิกาเตรียมเงินไว้จะได้ไม่เสียเวลาอีกอย่างพี่ใหญ่เฉินยังได้รับนาฬิกาจากเฉินเฟิ่นอี้ เขาจึงนำมาเป็นตัวอย่างหาลูกค้าให้น้องสาว และหากน้องสาวมาไม่ทันวันที่ได้ตกลงกันเอาไว้พี่ใหญ่เฉินก็จะนำนาฬิกาของเขาขายให้ก่อน คนที่ซื้อนาฬิกาไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-21
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 86 รายงานตัว

    ทุกคนแต่งตัวตั้งแต่เช้าเพื่อไปรายงานตัวก่อนที่จะแข่งขันพรุ่งนี้ เฉินเฟิ่นอี้เก็บของทุกอย่างในห้องใส่คลังเก็บของไม่เว้นแม้แต่กระเป๋าที่ใช้เวลาเดินทางไปไหนมาไหน เพราะไม่รู้ว่าสามารถนำกระเป๋าเข้าไปได้ไหม เธอไม่ต้องการทิ้งไว้ที่ห้องจึงต้องนำเข้าไปเก็บในระบบทั้งหมดเสียงเคาะประตูดังขึ้นเพื่อบ่งบอกว่าถึงเวลาต้องไปแล้ว มือที่กำลังทาครีมชะงักก่อนพยักหน้าให้น้องสาวออกไปก่อน ถึงจะเพิ่งพ้นฤดูหนาวไปแต่แดดกลับร้อนเร็วกว่าหลายปีก่อน ทำให้เฉินเฟิ่นอี้ต้องบำรุงผิวเวลาจะไปไหนมาไหน ยิ่งช่วงนี้ต้องออกจากบ้านทุกวันเฉินเฟิ่นอี้ตรวจสอบของในห้องว่าไม่มีสิ่งที่ทิ้งเอาไว้จึงเดินออกจากห้องและเจอเข้ากับกลุ่มคนในชุดแบบเดียวกัน ด้านหลังมีชื่อโรงเรียน ส่วนบนหน้าอกของทุกคนจะมีเข็มกลัดชื่อแต่ละคนติดเอาไว้ เฉินเฟิ่นอี้ปิดห้องพร้อมกับล็อกกุญแจ จากนั้นจึงทำทีเก็บใส่กระเป๋ากางเกง"เสร็จกันแล้วหรือ" ทั้ง ๆ ที่ไปอาบน้ำและกลับมาแต่งตัวพร้อมกันแต่ทุกคนกลับเสร็จก่อนเธอ ไม่เว้นแม้กระทั่งเฉินเหม่ยเย่ที่แต่งตัวทีหลังยังเสร็จก่อน"ใช่" เฉินไห่หลิวพยักหน้าครูที่ปรึกษาจูไห่หลิวล่วงหน้าไปที่โรงเรียนพร้อมรักษาการเซียว ปล่อยให้ตัวแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-21
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 87 วันที่หนึ่ง

    หน้าหอประชุมเต็มไปด้วยตัวแทนที่จะแข่งขัน แต่ละคนแยกกันไปห้องที่ต้องแข่ง เฉินเฟิ่นอี้ให้โอวหยางจิงเดินนำเข้าหอประชุมเพื่อจะเข้าไปแข่งขัน คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องรอข้างนอก มีเพียงครูที่ปรึกษาคนเดียวที่จะเข้าไปด้วยได้ ยังดีที่เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่จึงรองรับตัวแทนได้ทั้งหมดเฉินเฟิ่นอี้ส่งจดหมายแนะนำตัวให้กับกรรมการที่ยืนหน้าห้องพร้อมกับคนอื่น แต่ละคนต้องมีจดหมายแนะนำตัวว่าเป็นใครพร้อมป้ายชื่อ พอทำเสร็จก็เดินไปประจำที่ มีชื่อของโรงเรียนและมีครูที่ปรึกษาจูไห่หลิวที่ยืนรออยู่ก่อน"รายการแรกเป็นการแข่งขันประเภทคู่หญิง" ครูที่ปรึกษาจูไห่หลิวชี้ไปที่ตารางการแข่ง มีเวลากำกับอย่างชัดเจนและคะแนนที่นี่จะเป็นการสะสมคะแนนเริ่มจากศูนย์ เมื่อการแข่งขันจบลงโรงเรียนไหนที่มีคะแนนเยอะจะเข้ารอบไปก่อน นั่นหมายความว่าวันนี้จะมีการคัดออกทั้งหมดสามสิบโรงเรียน และไม่มีโอกาสที่จะแข่งต่อได้อีก ยกเว้นว่าโรงเรียนลำดับสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบจะมีคะแนนเท่ากับโรงเรียนที่ตกรอบถึงจะมีการจัดแข่งอีกครั้ง"ถ้าอย่างนั้นรุ่นพี่ลู่เสียนกับรุ่นน้องมี่หยางเตรียมตัวเลย" เฉินเฟิ่นอี้บอกการแข่งขันหมวดภาษาต่างประเทศจะนับคะแนนไม่เห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-21
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 88 วันที่สอง

    การแข่งขันวันที่สองพวกเฉินเฟิ่นอี้ไม่จำเป็นต้องไปตั้งแต่เช้าเพราะเหลือคนแข่งไม่เยอะ เวลาจึงถูกเลื่อนไปแข่งช่วงบ่าย แต่หมวดคณิตศาสตร์กับวิทยาศาสตร์เหลือสามสิบโรงเรียนจึงต้องแข่งขันให้เหลือน้อยที่สุด พรุ่งนี้จะแข่งขันตัดออกวันสุดท้ายก่อนจะไปรวมกลุ่มแข่งขันทั้งหมด เพราะจำนวนโรงเรียนที่ผ่านเข้ารอบน้อยกว่าที่คิด บางโรงเรียนตกรอบทั้งหมดตั้งแต่เมื่อวานเลยก็มีถึงจะแข่งกันช่วงบ่ายแต่พวกเฉินเฟิ่นอี้ยังต้องพาอีกสองหมวดมาแข่งขันรวมถึงให้กำลังใจ ยังดีที่เวลาการแข่งขันออกมาอย่างแน่ชัดแล้ว พวกเธอจึงไม่ต้องมาโรงเรียนตั้งแต่เช้า เฉินเฟิ่นอี้แต่งตัวด้วยชุดที่พร้อมแข่งจะได้ไม่ต้องกลับไปเปลี่ยนชุดอีกเพราะเมื่อวานตัวแทนของโรงเรียนอำเภอจวี่หมวดวิทยาศาสตร์ไม่มีครูที่ปรึกษาเข้าห้องด้วยจึงได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษสามารถให้เพื่อนเข้าไปอยู่ในห้องด้วยหนึ่งคน เฉินเฟิ่นอี้จึงถูกสองพี่น้องบ้านเฉินบังคับให้เข้าไปเป็นที่ปรึกษา ส่วนคนอื่นไปดูเฉินไห่หลิวกับซ่งเวยหลานเฉินเฟิ่นอี้มองการแข่งขันแรกที่ดุเดือดมากกว่าเมื่อวานพร้อมสังเกตถึงจุดที่ควรปรับเปลี่ยน วันนี้ยังไงเฉินตงกับเฉินจางต้องผ่านเข้ารอบไปอย่างแน่นอน แต่พรุ่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-21
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 89 วันที่สาม

    ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นตามที่เฉินเฟิ่นอี้คาดการณ์เอาไว้ และเมื่อวานพวกเธอก็ยังผ่านเข้ารอบคะแนนนำลิ่ว สูงจนหลายโรงเรียนเทียบไม่ติด และสิบสามโรงเรียนที่แข่งขันไปเมื่อวานวันนี้เหลือเพียงห้าโรงเรียนเท่านั้น จำนวนน้อยกว่าปีที่แล้วจนน่าตกใจทำให้วันนี้เฉินเฟิ่นอี้ไม่มีแข่งและปล่อยให้อีกสี่โรงเรียนที่เหลือหาคนผ่านเข้ารอบอีกสองโรงเรียนเท่านั้น ส่วนอีกสองหมวดที่แข่งยังต้องแข่งขันกันต่อ แต่คะแนนยังนำลิ่วเหมือนเดิม กล่าวได้ว่าพวกเฉินเฟิ่นอี้ถูกจับตาจากทั้งกรรมการและตัวแทนทั้งหลายเฉินเฟิ่นอี้ปล่อยให้น้องของเธอแข่งโดยมีครูที่ปรึกษาจูไห่หลิวกับผู้ช่วยของรักษาการเซียวเข้าไปเป็นที่ปรึกษาของน้องชาย ส่วนคนที่เหลือเดินซื้อของกินเล่นผ่อนคลายในวันที่ไม่มีแข่ง ในขณะที่คนอื่น ๆ ยังต้องแข่ง คงมีเพียงพวกเธอที่ผ่านเข้ารอบไปได้เลย และจากที่ได้ยินหลายโรงเรียนสนทนากัน วันนี้แต่ละหมวดจะคัดเหลือเจ็ดไม่ก็แปดโรงเรียน แต่กลุ่มพวกเธอตอนนี้เหลือเพียงห้าโรงเรียน แต่ยังต้องแข่งกันต่อ โรงเรียนที่มีคะแนนนำจึงผ่านเข้ารอบไปแข่งได้เลยหน้าโรงเรียนเต็มไปด้วยแผงของกินที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้ามาเช่าสถานที่ขายให้กับแขกที่มาแข่งขัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-21

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทส่งท้าย

    วันที่ 5 เดือน 3 ปี 1984 งานมงคลสมรสของเฉินเฟิ่นอี้และโอวหยางจิงจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แขกที่ได้รับเชิญต่างพากันเข้าร่วมงานอย่างหนาแน่น เฉินเฟิ่นอี้ต้องลุกมาแต่งตัวตั้งแต่เช้ามืด ทั้งต้องคอยถามถึงหน้างานเพื่อไม่ให้มีอะไรผิดพลาดในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง สิ่งที่รอคอยนั่นคือการแต่งงานสักครั้งในชีวิต ในตอนที่เป็นแป้งร่ำ เธอพลาดโอกาสนั้นแล้ว ครั้งนี้เฉินเฟิ่นอี้ย่อมไม่พลาด"พี่สาวสามสวยมาก" เฉินเหม่ยเย่เอ่ยชมพี่สาวด้วยความตื่นเต้น ทั้งที่ไม่ใช่งานของตนเองนาน ๆ ที เฉินเฟิ่นอี้จะได้แต่งหน้าและแต่งตัว หากไม่ใช่วันสำคัญ แต่ก็ไม่ได้จัดเต็มเหมือนวันนี้ ภายใต้ชุดสีแดงมงคล เฉินเฟิ่นอี้เป็นผู้หญิงที่สวยมากในสายตาของน้องสาว"พี่สาวสามของเธอเป็นคนสวยมาตั้งนานแล้ว หล่อนแค่ไม่แต่งตัวเหมือนกับเธอที่ต้องทำงาน" พี่สาวใหญ่เดินเข้ามานั่งใกล้น้องสาวภายในห้องเจ้าสาวตอนนี้ มีพี่สาวใหญ่ พี่สาวรอง เฉินเหม่ยเย่ และเฉินเฟิ่นอี้ที่เป็นเจ้าสาว ทั้งสี่คนเป็นหลานสาวสายหลักของลุงสามที่เป็นผู้นำตระกูล ต่อให้แต่งงานแล้วแต่ยังเป็นคนสำคัญเฉินเฟิ่นอี้แต่งงานแล้วเธอจะเป็นคนของตระกูลโอวหยาง แต่ว่ายังสามารถมีปากเสียงในตระกูลเ

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 156 เติบโต

    ต่อให้เร่งมากแค่ไหน การสร้างบ้านยังต้องใช้เวลาสองเดือน เฉินเฟิ่นอี้จึงใช้เวลาที่ว่างในการช่วยเฉียนลี่เซียนเปิดร้านตัดเย็บ มันเป็นเพียงการตัดเย็บที่ลูกค้าสั่งตัดไม่เกินห้าตัว ปะซ่อมบริเวณที่ขาดกว่าบ้านจะเสร็จ ร้านตัดเย็บเฉียนก็เริ่มเข้าที่แล้ว เฉินเฟิ่นอี้ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว เธอปล่อยให้หล่อนจัดการร้านเอาเอง เพราะมีเฉียนเฟยเข้ามาช่วยจึงไม่ค่อยห่วงนักบ้านที่สร้างใหม่เป็นบ้านปูนห้าห้องนอน ล้อมรั้วแข็งแรงไม่ให้คนนอกเข้าไป แต่เฉินเฟิ่นอี้ฝากกุญแจให้ผู้ใหญ่บ้านจ้างคนไปทำความสะอาดข้างนอกบ้านให้ รวมถึงถางหญ้าในที่ดิน ค่าดูแลเดือนละยี่สิบหยวน แน่นอนว่าเฉินเฟิ่นอี้ยอมจ่ายทันทีที่บ้านเสร็จ กลุ่มของเฉินเฟิ่นอี้ก็เดินทางกลับปักกิ่งเพื่อเริ่มงาน พวกผู้หญิงมีงานถ่ายแบบเข้ามาบ้าง เฉินเฟิ่นอี้อนุญาตให้ทำและลดเงินเดือนบางส่วนของพวกหล่อนลงร้านผ้าถุงเซี่ยเซี่ยอีกสองสาขาอยู่ห่างจากสาขาใหญ่พอสมควร แต่เป็นบริเวณที่มีคนเดินผ่าน แน่นอนว่าร้านของเธอพี่ใหญ่เฉินเป็นคนหาให้ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าสาขาที่สองเป็นสาขาที่เฉินเฟิ่นอี้สร้างร่วมกับน้องชายน้องสาว ส่วนสาขาใหญ่ตอนนี้มันเป็นเพียงชื่อของเธอ ซึ่งแน่นอนว่าการ

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 155 ยุติการขาย

    งานมงคลผ่านไปแล้ว มีแต่คนอิจฉาเจ้าสาวเพราะได้รับสินสอดจำนวนมาก หลังงานมงคลเฉินเฟิ่นอี้เรียกผู้รับเหมาเข้าไปดูบ้านพร้อมกับสร้างบ้านใหม่ด้วยเวลาอันน้อยนิด เฉินเฟิ่นอี้จ่ายไม่อั้นเพื่อให้บ้านเสร็จก่อนกลับปักกิ่ง แต่ถึงจะเสร็จไม่ทันเธอก็จะรอให้มันเสร็จก่อนอยู่ดี ต่อให้มีคนนินทาและด่าว่าโง่ที่เอาเงินมาทิ้งกับบ้านที่ไม่ได้อยู่ เฉินเฟิ่นอี้ก็ไม่ได้สนใจ"พี่จัดการเรื่องผ้าถุงเสร็จแล้ว พวกเรากลับไปที่ร้านกันก่อนเถอะครับ" โอวหยางจิงบอกคนรักที่นั่งรออยู่ในโรงงานวันนี้เฉินเฟิ่นอี้เข้ามาจัดการเรื่องที่จะให้โรงงานส่งผ้าถุงเข้าไปในปักกิ่ง ค่าใช้จ่ายในการขนส่งแน่นอนว่าเฉินเฟิ่นอี้ยินดีจ่าย ขอแค่ให้ของไปถึงมือส่วนร้านเซี่ยเซี่ยร้านแรกของเธอจะยุติการขาย เรื่องนี้ได้คุยกับลุงเหว่ยเทาไปแล้วตอนที่กลับมาถึงวันแรก แต่ต้องเข้าไปคุยอีกทีเพื่อยกเลิกสัญญาพอมีการประกาศออกไปดูเหมือนว่าทุกคนจะตกใจและรีบมาซื้อเก็บเอาไว้ สินค้าจะมีเหลือให้ขายเพียงห้าพันผืนสุดท้าย หากขายหมดก่อนร้านจะปิดลงทันที"ค่ะ"หากเป็นเมื่อก่อนเฉินเฟิ่นอี้กับโอหยางจิงคงปั่นจักรยานกัน แต่ตอนนี้คุณลุงโอวหยางให้คนรักของเธอนำรถมาใช้งานระหว่างอยู

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 154 บ้านหลังแรก

    วันที่เจ็ดเดือนสามปี 1982 กลุ่มของเฉินเฟิ่นอี้เดินทางมาถึงบ้านพักในอำเภอจวี่ที่เป็นบ้านหลังเดิม และเพื่อนของลุงสามเป็นคนจัดพื้นที่เอาไว้ให้แล้วการเดินทางในครั้งนี้ไม่ได้มีผู้ใหญ่บ้านเฉินเดินทางมาด้วย มีเพียงผู้ปกครองที่เดินทางกลับบ้าน เฉินเฟิ่นอี้พร้อมกับน้อง ๆ ต้องการมาเข้าร่วมงานมงคลของเว่ยฟ่งกับเจียวซีถึงได้ตามกันมา ยกเว้นเฉินชิงชิงน้องชายคนเล็กของบ้านที่ปีนี้อายุสิบเอ็ดปีแล้วเฉินเฟิ่นอี้รับกุญแจจากลุงเหว่ยเทาทันทีที่มาถึง บ้านพักหลังนี้ถือว่าเป็นความทรงจำของเธอก็ว่าได้ อยู่มาตั้งหลายปี ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม"คุณลุงเหว่ยไม่ได้ปล่อยบ้านให้คนอื่นเช่าเหรอคะ" เฉินเฟิ่นอี้หันไปถามเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่ในห้องโถง และสอบถามเรื่องราวระหว่างที่ไปอยู่ในปักกิ่ง"บ้านหลังนี้หลานบอกว่ามันเป็นความทรงจำไม่ใช่หรือ ถึงลุงไม่ได้ขายให้แต่ก็เก็บเอาไว้รอพวกหลานกลับมา" เหว่ยเทายิ้มเล็กน้อยเขาไม่ได้แต่งงานมีภรรยา สมบัติที่มีอยู่จึงเป็นของเขาและมีรายได้จากการปล่อยเช่าห้องพัก ไม่จำเป็นต้องปล่อยเช่าบ้านหลังนี้ให้คนอื่น และเด็กบ้านเฉินก็เหมือนลูกเหมือนหลานของเขา"ขอบคุณค่ะ""ลุงสามฝากบอกว่าถ้ามีเวลาให้ขึ

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 153 เวลาไม่รอคอย

    หลังงานเลี้ยงจบลง ข่าวที่หลายคนจับตามองมากที่สุดไม่พ้นหลานชายหลานสาวของตระกูลเฉินมีคนรักแล้ว หลายคนยังคงต้องการขยับความสัมพันธ์ เผื่อว่าวันหน้าจะมีโอกาส จึงจ้างกลุ่มของเฉินเฟิ่นอี้ไปร่วมงานอยู่บ่อย ๆช่วงปิดภาคเรียนเป็นช่วงที่ต้องทำหลายอย่าง กว่าจะลงตัวก็เปิดภาคเรียนแล้ว ภาคเรียนที่สองเป็นภาคเรียนที่เหนื่อยมาก บ่อยครั้งที่เฉินเฟิ่นอี้ต้องนอนในหอพักของมหาวิทยาลัยความสัมพันธ์ของกลุ่มเพื่อนยังคงหนาแน่น ยิ่งที่บ้านย้ายเข้าไปอยู่ในเขตตระกูลเฉิน ทุกคนย้ายเข้าไปอยู่บ้านพักทำให้ได้พบเจอหน้ากันทุกวันยิ่งได้อยู่ด้วยกันกับเฉินเฟิ่นอี้ ทุกคนต่างลงความเห็นที่จะทำงานกับเพื่อนสาว เว่ยฟ่งถึงขั้นต่อสายมาหาพ่อกับแม่เรื่องที่เขาเรียนจบแล้วจะกลับไปแต่งงานกับเจียวซีแล้วจะกลับมาอยู่ในปักกิ่งคนอื่น ๆ ก็มีท่าทีไม่ต่างกัน ผู้ชายเข้าไปช่วยรุ่นพี่โอวหยางจิงทำงาน ผู้หญิงช่วยเฉินเฟิ่นอี้ในร้านผ้าถุงเซี่ยเซี่ย ตอนนี้ได้ค่าตอบแทนน้อย แต่ถือว่าคุ้มเพราะช่วยอยู่เบื้องหลังแค่มาเรียนปีแรกก็ทำเอาผู้ปกครองปวดหัวแล้ว ปีที่ีสองยิ่งปวดหัวมากกว่าเดิม ไม่มีใครกลับบ้านในช่วงปิดภาคเรียน ถ้าอยากเจอก็ให้เดินทางมาหาความสัมพัน

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 152 งานเลี้ยงต้อนรับ

    หลานชาย หลานสาว รวมถึงกลุ่มเพื่อนสนิทถูกจับแต่งตัวให้เหมาะสมกับงานสำคัญ อันที่จริงกลุ่มเพื่อนของเฉินเฟิ่นอี้ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมก็ได้ แต่ทุกคนลงความคิดเห็นว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ภายใต้การดูแลของบ้านเฉินแล้วแขกภายในงานมีหลายคนที่เคยสนิทกับคนในตระกูลเฉิน เพราะฉะนั้นเฉินเฟิ่นอี้จึงพยายามบอกคนอื่นให้หลีกเลี่ยงเท่าที่จะทำได้เฉินเฟิ่นอี้มองชุดที่ออกแบบด้วยฝีมือของพี่เยี่ยฉิงจากร้านเยว่ซิน ทันทีที่จะมีการจัดเตรียมงานเธอได้ทำการติดต่อขอตัดเย็บเสื้อผ้าให้ และตระกูลเยี่ยคือหนึ่งในพันธมิตรของปู่เธอ"เสียดายจริง ๆ ที่เธอไม่คิดจะทำงานในวงการบ้างหรือ" เยี่ยฉิงมองชุดบนตัวของเฉินเฟิ่นอี้"ไม่ละค่ะ ฉันชอบทำงานเบื้องหลังมากกว่า" เธอรีบส่ายหน้าปฏิเสธไป ให้ช่วยแต่งหน้าหรือทำอย่างอื่นได้ แต่จะให้ถ่ายแบบเธอทำไม่ได้จริง ๆ"อื้อ ๆ ฉันก็ว่าแบบนั้นดูเป็นเธอมากกว่า" หล่อนหัวเราะเฉินเฟิ่นอี้เป็นเจ้าของร้านผ้าถุงที่ออกแบบลวดลายเอง เยี่ยฉิงเป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้าที่ไม่ถ่ายแบบงานตัวเอง จึงเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายเยี่ยฉิงที่ช่วยเฉินเฟิ่นอี้แต่งตัวแล้วเดินไปช่วยคนอื่นต่อ ทั้งที่ตัวเองยังไม่ได้แต่งตัว แน่นอนว่างานส

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 151 ผู้นำตระกูลที่แท้จริง

    ข่าวหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งของหลายวันมานี้จะเป็นข่าวอะไรไปไม่ได้นอกจากข่าวผลัดเปลี่ยนผู้นำตระกูลเฉิน เป็นผู้นำที่หลาย ๆ คนคิดว่าเหมาะสมที่สุด นั่นก็คือ เฉินจงอี้ หรือปู่เฉินของเด็ก ๆ บ้านเฉิน ที่รับช่วงต่อระหว่างรอลูกชายทั้งสี่เรียนรู้งานเฉินเฟิ่นอี้ให้พี่ใหญ่เฉินส่งคนคอยตามคนตระกูลเฉินไปอย่างลับ ๆ เธอไม่ไว้ใจพวกเขา อย่าลืมว่าเฉินหานกับ เฉินหว่านทั้งสองต่างมีชื่อเสียง เป็นไปไม่ได้ที่จะยอมแพ้ง่าย ๆ และปู่รอง ปู่สามของตระกูลจะไม่มีน้ำยาทำอะไรจริง ๆ น่ะหรือ"ปู่คะ ฉันว่าพวกเราอยู่ที่บ้านนี้สักพักก่อนดีกว่าค่ะ ส่วนบ้านหลังนั้นก็ให้คนเข้าไปเก็บกวาดซ่อมแซมใหม่ก่อน" เฉินเฟิ่นอี้เสนอเมื่อปู่เฉินจะพาทุกคนย้ายเข้าไปอยู่บ้านตระกูลเฉินบ้านมันเก่ามากแล้วควรทำความสะอาดครั้งใหญ่ อีกอย่างเธอก็ไม่รู้ว่าข้างในจะมีอะไรที่เป็นอันตรายหรือไม่ และเธอสะดวกใจที่จะอยู่บ้านพักหลังนี้มากกว่า แต่ว่าถ้าปู่เฉินต้องการที่จะย้ายไปเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร ขอเพียงให้มั่นใจก่อนว่ามันจะปลอดภัยจริง ๆช่วงนี้เธอไม่สามารถติดต่อกับระบบได้และมันก็หายไปหลายวันแล้ว ทำให้เฉินเฟิ่นอี้เป็นกังวลและคิดว่าควรรอมากกว่า"ทำไมล่ะ ที่จริงพวกเร

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 150 ตระกูลบรรพบุรุษ

    ปู่เฉิน ย่าเฉิน ลุงใหญ่ ลุงรอง ลุงสาม พ่อของเธอ พี่ใหญ่เฉิน และเฉินเฟิ่นอี้อยู่บนรถยนต์เพื่อเดินทางไปยังตระกูลเฉินตามที่เคยบอกเฉินหว่านเอาไว้ เฉินเฟิ่นอี้ไม่ได้พูดเล่น ตอนนี้ตระกูลเฉินมีหนี้และอีกไม่นานกิจการค้าขายที่เคยเป็นของปู่เฉินก็จะถูกยึด พี่ใหญ่เฉินกล่าวว่ามีคนจากตระกูลเฉินขอกู้เงินจำนวนหนึ่งล้านหยวนแลกกับกิจการเฉินเฟิ่นอี้นั่งข้างคนขับซึงก็คือพี่ใหญ่เฉิน นอกจากพวกเธอแล้วยังมีนายทหารอีกสองคันที่พี่ใหญ่เฉินพามาด้วย ดูเหมือนว่าตระกูลเฉินจะไม่มีเงินจ้างคนทำความสะอาดทางเข้า เขตบ้านตระกูลเฉินรกมากรถยนต์ดับลงหน้าบ้าน สมาชิกบ้านเฉินลงจากรถ เฉินเฟิ่นอี้เดินไปหาย่าเฉินที่อยู่ในวงล้อมของลูก ๆ เฉินเฟิ่นไม่ได้กลัวแต่ถ้าเกิดมีการลงไม้ลงมือกัน อย่างน้อยอยู่ใกล้ย่าเฉินจะปลอดภัยที่สุด“ที่นี่คือตระกูลเฉินเหรอคะ?”เฉินเฟิ่นอี้มองไปยังบ้านหลายหลังที่อยู่ติดกัน ด้านหน้าทางเข้าพบว่าเป็นบ้านสมัยใหม่ที่ดูดี แต่พอเข้ามาด้านหลังต้องบอกว่ามันทรุดโทรมมาก โดยเฉพาะหลังที่เป็นเหมือนบ้านรวม ตัวหลังคาหน้าบ้านมันแตกแล้ว“เปลี่ยนไปมากจริง ๆ” ปู่เฉินว่าด้วยความเสียดาย ที่ผ่านมาเขาคิดว่าจะมีคนดูแลที่นี่เหมือนก

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 149 ตามหาจนพบ

    เป็นไปไม่ได้ที่จะปิดร้านนานหลายวัน เฉินเฟิ่นอี้กลับมาเปิดร้านอีกครั้งและจ้างคนมาเฝ้าหน้าร้านถึงสามคนเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย หนังสือพิมพ์ลงข่าวทายาทของเจ้าของกิจการที่ยกให้น้องชายก่อนที่เขาจะหายตัวไปพร้อมครอบครัว ทำให้ร้านผ้าถุงมีลูกค้าเข้ามาซื้อของมากขึ้น และมีหลายร้านที่มาจ้างให้เฉินเหม่ยเย่ไปถ่ายงาน นอกจากนี้กลุ่มเพื่อนผู้หญิงก็ยังมีงานตามมาอีกไม่ต่างกันเฉินเฟิ่นอี้นั่งลงบนเก้าอี้เพื่อตรวจสอบบัญชีของเมื่อวานที่ยังไม่ได้จัดการ ข้าง ๆ กันมีโอวหยางจิงที่ตามมาด้วย เห็นบอกว่างานในโรงงานไม่ได้มีอะไรให้ทำและไม่ได้รับลูกค้าเพิ่ม เพียงตัดเย็บให้ร้านของเธอกับตัดเย็บเสื้อผ้าให้ร้านเยว่ซินก็ทำแทบไม่ทันแล้ว"เมื่อวานโจวซิงฉือบอกว่าที่บ้านติดต่อมา มีคนเข้าไปหาพวกเขาสอบถามถึงเรื่องของเธอ แต่ครอบครัวของเขาบอกไปว่าไม่รู้จักเธอ" โอวหยางจิงเอ่ยขึ้นระหว่างที่นั่งมองคนรักทำงานทุกคนติดต่อไปยังครอบครัวเพื่อให้บอกว่าไม่รู้จักบ้านเฉินหรือหากพวกเขามีพยานให้ตอบว่าเป็นเพื่อนของลูกเท่านั้นไม่ได้รู้จักสนิทสนม และเป็นคำสั่งของเฉินเฟิ่นอี้เองเพื่อความปลอดภัยของทุกคน และไม่มีใครถามเนื่องจากเชื่อในตัวของเพื่อน

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status