1
บุคคลสำคัญล้วนปรากฎตัว
“นั่นเป็นเรื่องของพวกคุณ ฉันให้โอกาสพวกคุณเท่านี้ แต่พวกคุณควรรู้ไว้ว่าผู้บัญชาการมณฑลซูเป่ยจางอวี้เจินนั้นโหดเหี้ยมมาก หากเขาตั้งใจไม่ปล่อยไม่ว่าอยู่ที่ไหนเขาก็จะตามหาคุณจนเจอ”
คนร้ายเมื่อได้ฟังก็ขนลุกชันขึ้นทั่วร่าง พวกโจร ขโมยไม่มีใครไม่รู้จักกิตติศัพท์ของผู้บัญชาการมณฑลจางอวี้เจิน เพราะพวกเขามาจากที่อื่นจึงไม่รู้ว่าที่นี่คือเขตพื้นที่ของจางอวี้เจินผู้นั้น
ปืนในมือที่ใช้ข่มขู่เธอก่อนหน้านี้เริ่มสั่นเทาเล็กน้อย ไม่คิดว่าเธอจะโกหกเพียงเพื่อเอาตัวรอดเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
“พวกเราควรทำอย่างไรต่อ”
“ถ้าเชื่อฉันก็แค่จอดรถ จอดรออยู่ตรงนี้รอให้ผู้บัญชาการมณฑลมาถึง”
“หากผู้บัญชาการมาถึงพวกเราจะรอดได้ยังไง”
“เมื่อตัดสินใจจะเชื่อฉัน พวกคุณก็ไม่ควรถามแล้วไม่ใช่หรือคะ”
รถที่ขับออกมาหยุดลงเมื่อเธอพูดจบ ถึงอย่างไรขับต่อก็ไม่รอดไม่สู้ยอมเสี่ยงอยู่ที่นี่กับเธอยังดีเสียกว่า ทั้งหมดจึงนั่งรออยู่ในรถ เกือบห้านาทีก็มีรถทหารสองคันวิ่งมาจอดฝั่งตรงข้ามของถนนนอกตัวเมือง ทหารผู้น้อยทุกคนลงจากรถแล้วจ่อปืนมายังรถที่คนร้ายขับ
เกาม่านอี้เปิดประตูลงจากรถยืนนิ่งอยู่ตรงประตู รอจนคนที่ตั้งใจมาพบลงจากรถตอนเห็นเธอ ชายหนุ่มรูปร่างสูงสมส่วนสมเป็นชายชาติทหาร ใบหน้าหล่อคม ดวงตาดุร้ายราวกับเหยี่ยวมองเหยื่อ เขาขมวดคิ้วเพ่งมองร่างอวบอีกฝั่งถนน
ทำไมเป็นเธอ เขาได้ยินว่ามีคนถูกจับป็นตัวประกันแต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเธอ แต่ที่คิดไม่ถึงมากที่สุดคงจะเป็นเธอไม่ร้องไห้เพราะความกลัว ทั้งยังยืนยิ้มอยู่ตรงนั้นตามลำพัง
จางอวี้เจินรีบเดินเข้าไปหาเธอด้วยความเป็นห่วง ไม่ระวังว่าจะถูกลอบทำร้ายเลยสักนิด พระรองของเธอคนนี้มั่นใจในฝีมือตนเองมากทำให้ไม่กลัวว่าจะถูกลอบทำร้าย พอเห็นคนที่รอกำลังเดินมาเกาม่านอี้ฉีกยิ้มกว้างตั้งใจวิ่งข้ามถนนไปหาชายหนุ่มอีกฝั่งหนึ่ง
“ม่านม่าน ทำไมอยู่ที่นี่”
“พี่อวี้เจิน ฉันถูกคนร้ายจับมาและกำลังรอพี่อยู่”
“รอพี่? ถูกคนร้ายจับแต่รอพี่แบบนี้มันยังไงกันม่านม่าน จะอย่างไรก็ช่างเถอะบาดเจ็บหรือเปล่า พวกมันไปไหนกันหมดพี่จะได้ส่งมันไปลงนรกเสีย”
ทีแรกก็อยากถามเรื่องที่เธอบอก พอนึกได้ว่าเธอถูกคนร้ายทั้งสี่จับตัวมาก็นึกโมโห หากเธอเป็นอะไรไปต่อให้ตามฆ่าพวกมันทั้งหมดก็ไม่คุ้มค่าเลย ผู้บัญชาการทหารรีบล้วงเอาปีนที่เหน็บอยู่ข้างเอวออกมา ดึงเธอให้หลบอยู่ด้านหลัง ก้าวไปข้างหน้าไม่มีท่าทางเกรงกลัวเลย เดินได้แค่ก้าวเดียวก็ถูกหญิงสาวฉุดข้อมือแข็งแกร่งไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวค่ะ พี่อวี้เจิน ฉันไม่ได้รับบาดเจ็บคนพวกนั้นแค่ได้ยินชื่อพี่ก็พากันกลัวจนตัวสั่นหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันจะยืนอยู่ตรงนี้ได้หรือคะ”
“ถึงม่านม่านจะไม่บาดเจ็บแต่พวกนั้นจับเธอมา อีกทั้งยังขโมยของย่อมต้องถูกลงโทษ ในฐานะผู้บัญชาการอย่างไรพี่ก็ปล่อยไปไม่ได้”
“แต่ฉันสัญญากับพวกเขาไว้ว่าถ้าหากยอมปล่อยฉัน ฉันจะให้พี่ไว้ชีวิตพวกเขา หากพี่อวี้เจินเอาเรื่องพวกเขาฉันก็กลายเป็นคนเสียสัจจะไม่ใช่หรือคะ”
จางอวี้เจินมองหน้าลูกสาวเพื่อนสนิทของพ่อที่โตมาด้วยกัน สงสัยท่าทีของเธอไม่น้อย เขาย่อมต้องสงสัยในเมื่อก่อนหน้านี้ม่านม่านของเขาเป็นคนยอมคน มีเขาคอยปกป้องเสมอ ปฏิเสธหรือดื้อรั้นก็ไม่เป็น เขาถึงได้อยากอยู่ข้าง ๆ คอยดูแลเธอไปตลอด แต่ตอนนี้กลับแย้งคำพูดของเขาเพื่อขอชีวิตคนร้าย
“นะคะพี่อวี้เจิน”
“พี่เห็นแก่ม่านม่าน จะปล่อยไปสักครั้งแต่เรื่องที่ขโมยก็ยังต้องลงโทษอยู่ดี”
“คนพวกนั้นแค่มาขโมยของตัวเองกลับไปเพราะถูกขโมยก่อน ไม่ใช่พวกหัวขโมยมืออาชีพ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่กล้าเข้ามาในเขตซูเป่ยที่มีผู้บัญชาการมณฑลจางอวี้เจินดูแลอยู่หรอกค่ะ และถ้าพวกเขาเป็นคนไม่ดีฉันจะยอมขอร้องพี่เพื่อพวกเขาหรือคะ”
จางอวี้เจินยืนฟังนิ่ง ๆ คิดตามก็เห็นด้วยกับเธอทุกสิ่ง แม้เธอจะโกหกเขาก็เลือกจะเชื่ออยู่ดี ขอเพียงเธอร้องขอต่อให้ต้องช่วยคนชั่วแค่ไหนเขาก็ทำได้ เขายิ้มออกมาทันทีเมื่อเกาม่านอี้เกาะแขนเงยหน้าส่งสายตาออดอ้อนราวเด็กน้อยมาให้เขา
ทหารชั้นผู้น้อยเหล่านั้นรู้สึกขนลุกไปทั่วทั้งตัว เพราะตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ไม่เคยเห็นผู้บัญชาโหดเหี้ยมยิ้มแบบนี้แม้แต่ครั้งเดียว
“พี่อวี้เจินไม่เชื่อฉันหรือคะ”
“พี่ต้องเชื่อม่านม่านอยู่แล้ว ถ้าไม่เป็นอะไรก็กลับกันเถอะพี่จะไปส่ง”
เพราะเขาเป็นคนแสนดีสำหรับเกาม่านอี้เสมอไม่ว่าเมื่อไร เขาจึงกลายเป็นตัวละครในนิยายที่เธอรักที่สุด ไม่รู้เพราะรักที่สุดหรือเปล่าเธอจึงไม่ยอมให้เขามีความรักจนจบเรื่อง คราวนี้ได้ย้อนกลับมาแก้ไขเธอถึงอยากให้เขาเป็นพระเอก หากได้ย้อนกลับมาก่อนตกลงแต่งงานเธอจะไม่แต่งกับเย่หมิงเสวียนอย่างแน่นอน
เกาม่านอี้ในนิยายไม่เคยรู้ตัวเลยว่าจางอวี้เจินหลงรักเธอมาตลอด เขาก็ไม่ได้บอกเพราะอยากรอให้ถึงวันที่ตนเองมีหน้าที่มั่นคง เมื่อสองปีก่อนเขาได้รับภารกิจให้ไปทำจึงไม่ได้พบเธอเป็นเวลาเกือบสองปี พอกลับมาก็ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชามณฑลแห่งซูเป่ย และรู้ว่าเกาม่านอี้มีคนรักเสียแล้ว ทั้งยังจะแต่งงานกันอีกไม่กี่เดือนจึงเก็บทุกอย่างไว้ในใจตนเองเงียบ ๆ
1บุคคลสำคัญล้วนปรากฎตัวงานสมรสก็ไม่ได้ไปอ้างว่าติดภารกิจแท้จริงไม่สามารถทนมองหน้าเจ้าบ่าวได้ กระทั่งได้เจอเธอในวันนี้และเธอจำเขาได้ในทันที“ขอบคุณค่ะ แต่รบกวนพี่รอฉันสักครู่นะคะ”กล่าวขอบคุณเสร็จกำลังจะตามเขากลับไปก็นึกขึ้นมาได้จึงรีบวิ่งกลับไปที่รถด้านหลัง รถนั่นเธอควรนำมันกลับไปด้วย ตระกูลเย่มีรถเพียงสองคันหายไปหนึ่งก็คงลำบากเธอเอง“พวกคุณไปได้แล้ว”“เธอพูดจริง ๆ หรือ”หนึ่งในคนที่จับเธอมาร้องถามด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าแค่เธอเดินออกไปพูดไม่กี่คำ ผู้บัญชาการจอมโหดนั่นจะยอมปล่อยโจรอย่างพวกเขาไปง่ายแบบนี้“ฉันบอกแล้วไง ถ้าพวกคุณเชื่อฉันพวกคุณจะรอด”“เธอเป็นใครกันแน่ ทำไมผู้บัญชาการถึงยอมปล่อยพวกเราไป”“น้องสาว ถ้าอยากรู้อะไรก็ถามต่อได้เลยฉันจะตอบหมดทุกอย่างแต่ถ้านานไปผู้บัญชาการรอนานพวกคุณอาจจะไม่รอดแล้ว”พอเธอพูดจบพวกเขาก็รีบวิ่งลงจากรถไปทันที โอกาสรอดชีวิตแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ ต่อให้มีหลายชีวิตก็คงไม่พอใช้หากทำให้จางอวี้เจินไม่พอใจร่างอวบอิ่มเดินกลับไปหาคนที่มีศักดิ์เป็นพี่ชาย ก่อนจะยิ้มกว้างให้เขา เธอมีเรื่องต้องขอให้เขาช่วยอีกแล้ว“พี่อวี้เจินให้คนของพี่ขับรถนั่นกลับไปที่สำนักงานตร
2ต้องตาต้องใจ“เธอยังไม่กลับมาเลยค่ะ ไม่รู้ป่านนี้เป็นอย่างไรบ้าง เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวถูกจับไปพร้อมกลุ่มโจรสามสี่คน ช่างน่าเป็นห่วงจริง ๆ”คำพูดดูเหมือนหวังดีแต่กลับกลายเป็นบอกให้เขาคิดไกลมากกว่าเดิม เธอไม่รู้ว่าที่เย่หมิงเสวียนสนใจไม่ใช่เกาม่านอี้แต่เป็นหนังสืออนุญาตในมือเธอ ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนหากเธอเป็นอะไรไปเขาก็จะไม่มีทางได้หนังสือนั่นมาอี้จินเฉิงเป็นนางพยาบาลที่ฐานะทางบ้านไม่ดีเท่าไร เธอจึงหมายจะใช้ความสวยของตนเองทำให้เขาหลงใหล เพื่อเลื่อนฐานะตนเอง วันนี้เธอก็ได้ยินจากพยาบาลสาว ๆ ในสถานพยาบาลว่าคุณชายตระกูลเย่มาที่สำนักงานเธอจึงถือโอกาสออกมา แสร้งทำบังเอิญพบกันไม่คาดคิดว่าจะมีโอกาสได้อยู่ลำพังกับเขาแบบนี้“ผมขอตัวก่อนนะครับ”“เดี๋ยวค่ะ คุณเย่ยังบาดเจ็บอยู่รักษาตัวก่อนดีกว่านะคะ คุณเกาเธอมีทหารคอยตามไปช่ว
2ต้องตาต้องใจน้ำเสียงอ่อนโยนบอกคนเป็นสามี ประคองมือเขามากุมเอาไว้ แม้จะรู้ว่าเขาแสร้งเป็นห่วงเป็นใยแต่แล้วอย่างไรเพราะตอนนี้เธอเองก็สวมบทนางงิ้วเช่นกัน เขาห่วงเธอก็เพราะต้องการของบางอย่างเท่านั้น“อาอี้กลับมาก็ดีแล้ว อย่างนั้นเรากลับกันเถอะ พี่ยังต้องไปช่วยคุณพ่อจัดการงานในสำนักงานอีกมากเลย”“คุณเย่คะ แต่คุณยังเจ็บอยู่นะคะ”“นั่นสิคะพี่หมิงเสวียน คุณพยาบาลเธอพูดถูกนะคะพี่ยังเจ็บอยู่เลย พักรักษาตัวก่อนเถอะค่ะ”“แต่ที่สำนักงานกำลังมีปัญหาตอนนี้พี่ไม่ช่วยไม่ได้หรอกอาอี้ อาอี้กลับไปพักผ่อนที่บ้านพี่เสร็จงานจะรีบตามกลับไป”“พี่หมิงเสวียนเอาแบบนี้ดีหรือเปล่าคะ ฉันจะให้ยืมหนังสืออนุญาตระหว่างที่พวกพี่ยังหาทางออกไม่ได้ พี่จะได้พักผ่อนอยู่ที่นี่ หากพี่หักโหมมากไปจะเป็นอันตรายนะคะ”เป็นไปตามที่คาดไม่ว่าอย่างไรผู้หญิงใจอ่อนอย่างเกาม่
2ต้องตาต้องใจสัญญาเช่าซื้อสัมปทานหนังสืออนุญาตผ่านทางฉบับนี้ มีขึ้นเพื่อรับรองว่าตระกูลเย่ได้เช่าสัมปทานเส้นทางการขนส่งสินค้าของตระกูลเกา โดยมีระยะเวลาสามปี และจะมีส่วนแบ่งแก่ตระกูลเกาเป็นสองในสิบส่วนของกำไรจากการค้าขายทุกครั้ง หากตระกูลเย่ผิดสัญญานี้จะถูกยกเลิกสัญญาเช่าสัมปทานโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า และอาจถูกบังคับให้จ่ายค่าผิดสัญญาเย่ป๋อหรานอ่านเนื้อหาสัญญาที่ถูกเกาม่านอี้ร่างไว้ตั้งแต่ตอนอยู่ในภัตตาคาร เธอแสร้งบอกว่ามันคือหนังสือสัญญาที่คุณพ่อได้เคยขอรับรองกับจอมพลเอาไว้ แค่เพียงเติมแซ่ของผู้ที่ต้องการเช่าสัมปทานก็เป็นอันสมบรูณ์“คุณพ่อมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะ หากไม่คุณพ่อไม่สบายใจไม่ต้องทำก็ได้นะคะ ส่วนของสัญญาแนบท้ายนี้ดิฉันก็คิดว่ามันออกจะโหดไปเสียหน่อย แต่จะทำอย่างไรได้นี่เป็นเรื่องที่คุณพ่อตัดสินใจกับท่านจอมพล เพราะทางนี้เองก็ต้องแบ่งกำไรให้ท่านจอมพลเช่นกันน่ะค่ะ ดิฉันเลยทำอะไรไม่ได้”“มีส
3เรื่องที่ต้องการรู้ด้วยอำนาจผู้บัญชาการมณฑลแห่งซูเป่ยใช้เวลาเพียงสามวันเขาก็หาเจ้าของปิ่นที่เกาม่านอี้ให้หาจนเจอ เมื่อได้ข้อมูลแล้วจึงให้คนไปส่งข่าวกับเกาม่านอี้ที่ตระกูลเย่ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขายังไปหาเธอได้แต่ตอนนี้เธอแต่งงานแล้วจะคบค้ากับผู้ชายคนอื่นคงต้องระวังการถูกนินทาว่าร้ายวันนี้เขามาที่โรงพยาบาลเพื่อสอบถามบางอย่างจากอี้จินเฉิง แต่เธอคนนั้นไม่ได้อยู่ในห้องพักผู้ป่วยของเย่หมิงเสวียน เขาจึงยืนรออยู่หน้าห้องคิดว่าอีกไม่นานเธอคงมา“ผู้บัญชาการมาทำอะไรที่นี่หรือคะ”“มารอเธอ ว่างคุยกันหรือเปล่า”“ดิฉันยังมีงานอีกนิดหน่อย ผู้บัญชาการรอสักครู่ได้ไหมคะ”“ได้”พอเขาพูดจบเธอก็เดินเข้าไปในห้องพัก แต่ระหว่างที่เขากำลังยืนคุยกับเธออยู่หน้าห้อง ก็มีดวงตาคู่หนึ่งมองมาอย่างสงสัย ตามบทแล้วเขาไม่ควรจะยิ้มให้ผู้หญิงคนอื่นไม่ว่าเพราะเหตุผลอะไรก็ตาม อีกอย่างเขารักเธอมั่นคงมากจะมีใจไปคิดถึงผู้หญิงคนอ
3เรื่องที่ต้องการรู้“พี่เป็นทหาร จะให้พี่ทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง”“แต่พี่ทำได้”“ฉันรู้ค่ะ แต่ฉันก็มีแผนของตนเองเพียงแต่ต้องขอความช่วยเหลือจากพี่ ช่วยตามหาเจ้าของปิ่นนั่นให้เจอ”“นี่คือเรื่องที่พี่อยากจะบอก พี่เจอคน ๆ นั้นแล้ว”“ดีจังเลยค่ะ พี่อวี้เจินเก่งที่สุดเลย”เจ้าของเรือนร่างอวบอิ่มรีบโผเข้ากอดคอชายหนุ่มตรงหน้าทันที ไม่คิดว่าเขาจะใช้เวลาเพียงสามวันในการหาคน อำนาจผู้บัญชาการนี้น่าเกรงขามจริง ๆ เธอกอดเขาจนแน่นคนถูกกอดกลับนั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน ใบหน้าขาวแดงขึ้นราวกับผลมะเขือเทศ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะถูกเกาม่านอี้กอดแบบนี้“ม่านม่าน”พอได้สติเลยเรียกชื่อเธอเสียงแผ่วเบา เกรงว่าจะมีผู้มาเห็นเหตุการณ์นี้นอกจากรองเจียง หรือรองผู้บัญชาการทหารคนสนิทของเขาที่ยืนรออยู่นอกรถ“ขอโทษค่ะ ฉันดีใจไป
3เรื่องที่ต้องการรู้เย่หมิงเสวียนไม่พูดขัดอะไร เพราะยังงุนงงกับคำพูดของเธอไม่น้อย จะมีผู้หญิงฉลาด ๆ คนไหนยอมให้มีผู้หญิงคนอื่นมาดูแลสามีตนเองอยู่ใกล้ตัวแบบนี้ นอกจากนี้ผู้หญิงคนนั้นยังงดงามและดูดีกว่าอีกคำพูดของเกาม่านอี้ทำอี้จินเฉิงเกือบหลุดยิ้มออกมา แต่พอรวบรวมสติได้จึงทำหน้านิ่งสงบเหมือนเมื่อครู่ แต่ในใจกลับรู้สึกดีและรู้สึกสมเพชไปในตัว ต้องเป็นผู้หญิงที่โง่แค่ไหนจึงยอมพาผู้หญิงคนอื่นเข้าไปปรนนิบัติสามีตนเองแบบนี้“หากคุณเกาเชื่อว่าดิฉันทำได้ คุณเย่ไม่รังเกียจดิฉันก็ยินดีค่ะ ตอบแทนที่คุณเกาช่วยไม่ให้ดิฉันถูกจับวันนั้นถือว่าน้อยนัก”“พี่หมิงเสวียนเห็นเป็นอย่างไรคะ”การมีของสวยงามมาเดินอยู่ในบ้าน ย่อมต้องดีแน่นอนอยู่แล้ว เย่หมิงเสวียนคิดเช่นนี้แต่ไม่ได้พูดออกไป เขาเดินเข้ามาโอบไหล่ของภรรยาเอาไว้แผ่วเบา ทะนุถนอมเธอราวกับเป็นสิ่งของสูงค่าการแสดงของเย่หมิงเสวียนเองก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้เธอ เกาม่านอี้คิดใ
4แผนการของสาวงาม“คุณชายน้อย กลับมาแล้วค่ะคุณนาย”“ไป ไปดูสิ”ฉินรั่วหนานสั่งสาวใช้แล้วรีบเดินไปดูลูกชายหน้าประตู เธอมองหญิงสาวทั้งสองตรงหน้าด้วยแววตาไม่พอใจ จะกล่าวว่าไม่พอใจทั้งสองก็ออกจะผิดไปหน่อย เพราะฉินรั่วหนานไม่พอใจเพียงสะใภ้ตนเองเท่านั้น ไม่ใช่พยาบาลสาวข้าง ๆ ลูกชาย“อาเสวียนลูกเป็นอย่างไรบ้าง”“ผมไม่เป็นไรแล้วครับแม่ อาอี้ให้คนดูแลผมเป็นอย่างดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วง”“ใช่ค่ะ อย่างที่พี่หมิงเสวียนบอก นี่คุณพยาบาลอี้จินเฉิง ฉันให้เธอมาดูแลพี่หมิงเสวียนโดยเฉพาะ เกรงว่าคนที่บ้านไม่รู้เรื่องพาลจะทำให้พี่หมิงเสวียนอาการแย่ลง หวังว่าทุกคนจะให้เกียรติเธอด้วยนะคะ”แม้จะไม่ชอบสะใภ้คนนี้แต่เมื่อเป็นเรื่องของลูกชาย ฉินรั่วหนานก็เห็นด้วยว่าควรให้คนมีความรู้คอยดูแลลูกชายมากกว่า เธอจึงให้คนไปจัดห้องให้อี้จินเฉิงซึ่งอยู่ข้าง ๆ ห้องเย่หมิงเสวียน
16บทส่งท้ายระหว่างที่คนสองคนกำลังยืนกอดกันอยู่ ทหารคนสนิทก็พุ่งเข้ามาโดยไม่ทันได้ดูสถานการณ์ก่อน ทำเอาผู้บัญชาการคิ้วกระตุก เจียงจื่อหยวนนึกอยากจะเอาหัวโขกพนังให้รู้แล้วรู้รอดไป เขายังไม่ชินกับการมีนายหญิงในบ้านจึงค่อนข้างลืมตัวแต่เรื่องนี้จะโทษเขาก็ไม่ได้เพราะเรื่องที่เขานำมารายงานเร่งด่วน“นายอยากถูกลงโทษสักครั้งสินะจื่อหยวน”“พี่อวี้เจินอย่าดุนักสิคะ รองเจียงเข้ามาแบบนี้ต้องมีธุระแน่ ๆ”“ว่ามา”“เจอตัวอี้จินเฉิงแล้วครับ”“ที่ไหน”“ในเขตอาคารสำนักงานเก่าตระกูลเย่ครับ”“ม่านม่านเธออยู่ที่นี่ พี่ไปดูเอง”“ค่ะ”จางอวี้เจินพูดจบก็เดินนำออกไป คิดว่าคงไปจัดการอี้จินเฉิงแน่ ๆ หลังตระกูลเย่ถูกจับ อี้จินเฉิงที่ไม่ได้รู้เรื่องราวการค้าของเถื่อนเหล่านั้นถูกปล่อยตัวไป แต่เพราะข่าวลือมากมายภายนอกทำให้เธอไม่มีที่ไปอีก จะกลับไปโรงพยาบาลก็ไม่ได้ เป้าหมา
16บทส่งท้ายเกาม่านอี้นั่งอยู่ที่เก้าอี้บ้านพักผู้บัญชาการ ช่วงนี้มีบางอย่างให้เธอคิดอย่างหนัก ไม่เข้าใจว่าทำไมมาถึงขนาดนี้แล้วยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ใจหนึ่งเธอก็อยากหลุดไปจากนิยาย แต่อีกใจกลับคิดว่าถ้าไม่ได้เจอผู้บัญชาการสุดโหดของเธออีกจะทำอย่างไรตอนนี้เธอเลยไม่กล้าอยู่ตามลำพังกับเขา เพราะในนิยายจบลงที่พระเอกบอกรักเธอ และเธอก็บอกรักเขากลับ กลัวว่าถ้าอยู่ด้วยกันแล้วเขาบังเอิญพูดมันออกมาเธอจะต้องจากไปทั้งที่ไม่ได้บอกความรู้สึกจริง ๆ“ม่านม่าน เธอมาทำอะไรตรงนี้”“เอ่อ พี่อวี้เจิน พี่ทำงานเสร็จแล้วหรอคะ”“ไม่รู้ว่าพี่คิดไปเองหรือเปล่า แต่พี่คิดว่าช่วงนี้เธอกำลังหลบหน้าพี่”“ฉันเปล่านะคะ ก็แค่มีเรื่องให้คิดมากก็เท่านั้น”“ถ้าเธอคิดมากเรื่องความรู้สึกของพี่ก็ไม่เป็นไร เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่ พี่ก็จะไม่บังคับให้เธอต้องลำบากใจ”พูดแค่ประโยคเดียวคนโหดก็ทำท่าจะเดินจาก เขาไม่เป็นไรแ
15งานเลี้ยง“เย่หมิงเสวียนปล่อยเธอเดี๋ยวนี้”“แกคิดว่าฉันโง่หรือไงจางอวี้เจิน พวกแกหลอกฉันกับพ่อมาที่นี่ก็เพื่อจัดการตระกูลเย่”“ใครจะจัดการแกได้ ถ้าแกไม่ทำชั่วก่อน คิดว่าอาละวาดที่นี่แล้วจะหนีไปได้หรือไง”จางอวี้เจินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง พยายามบังคับตนเองไม่ให้ตื่นตระหนกหรือลนลานจนเย่หมิงเสวียนรู้ว่าเขากลัวมากแค่ไหนในตอนนี้ ไม่ว่าจะต้องออกรบหรือทำภารกิจแบบไหนเขาไม่เคยนึกกลัว มีแค่ตอนนี้ตอนเห็นปากกระบอกปืนจ่ออยู่ตรงลำคอระหงของเกาม่านอี้เรือนร่างบอบบางพยายามคิดหาทางหนีให้กับตนเองขณะถูกจับตัวอยู่ พลางคิดถึงเส้นเรื่องหลักของนิยาย อย่างที่คิดเรื่องไหนต้องเกิดก็ต้องเกิด ตอนใกล้จบของนิยายมีการปะทะกันระหว่างพระเอกและพระรอง ซึ่งตอนนั้นพระรองถูกยิงตาวย เธอจะไม่ยอมให้จางอวี้เจินต้องบาดเจ็บหรือเป็นอะไรไปเพราะคนสารเลวอย่างเย่หมิงเสวียนแน่นอน“พ่อถอย”จางอวี้เจินหันไปบอกจอมพลจางซีหลิงให้สั่งทหารรอ
14คนของฉันเกาม่านอี้ตอบพลางยื่นหนังสือสัญญานั้นให้เขาอีกครั้ง แต่แรกเขาไม่ได้สนใจหนังสือนี่เพราะมัวแต่ห่วงแผลตามร่างกายเธอ พอเธอยื่นให้อีกครั้งจึงหยิบมาดู หนังสือลงนามสัญญาค้าขายของตระกูลเย่กับพวกญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้ไม่มีหลักฐานชัดเจนจึงเอาผิดพวกนั้นไม่ได้ เขาไม่อยากได้ชื่อว่าโหดเหี้ยม รังแกคนไม่มีอำนาจเลยตั้งใจหาหลักฐานมาตลอด“อย่างนั้นม่านม่านพักผ่อนเถอะ พี่จะออกไปสั่งงานจื่อหยวนสักหน่อย”“ได้ค่ะ ขอบคุณพี่อวี้เจินที่ยอมร่วมมือกับฉัน”“พูดอะไรอย่างนั้น ม่านม่านขอพี่ต้องยินดีอยู่แล้ว”คุยกันเสร็จชายหนุ่มก็ออกมาจากห้องของเธอ รีบถือหนังสือสัญญาไปยังห้องทำงาน ก่อนหน้านี้เขาใจร้อนเพราะรู้สึกโกรธที่เธอถูกคนอื่นรังแกจึงวู่วามเกือบฆ่าเย่หมิงเสวียน โชคดีได้เกาม่านอี้เตือนสติไว้ แต่ตอนนี้เขามีเหตุผลเพียงพอจะจัดการคนสารเลวคนนั้น“จื่อหยวน”“ผู้บัญชาการ มีเรื่องรายงานครับ”
15งานเลี้ยงโถงโรงแรมกลางเมืองถูกจัดแต่งไว้อย่างสวยงามใหญ่โต เหมาะกับตำแหน่งจอมพลของเจ้าของงานอย่างยิ่ง วันนี้เป็นวันเกิดของจอมพล แขกมากมายถูกเชิญมาร่วมงานและทุกคนที่ได้รับเชิญก็ไม่มีใครไม่กล้ามาร่วมงาน“สวัสดีครับท่านจอมพล”เย่ป๋อหรานเอ่ยทักจอมพลกลางงานเลี้ยงฉลองวันเกิด จอมพลหันมายิ้มพูดคุยกับเขาสักครู่ เพื่อไม่ให้ดูเสียมารยาทและหักหน้าเขาในตอนนี้“สวัสดีคุณเย่ วันนี้มากับลูกชายหรือครับ”“นี่เย่หมิงเสวียนลูกชายคนเดียวของผม”“สวัสดีครับ ท่านจอมพลนี่เป็นของขวัญให้ท่านครับ”“ขอบคุณมาก เชิญตามสบายนะ ผมขอตัวไปดูแขกคนอื่นสักหน่อย”เจ้าของงานรับของขวัญมาแล้วยื่นให้ทหารคนสนิทข้างกาย ไม่ได้เปิดดูในทันที จากนั้นจึงขอตัวออกไปดูแขกคนอื่นที่เริ่มทยอยเข้ามาในงานบ้างแล้วปกติจอมพลจะไม่จัดงานเลี้ยงรับรองหรืองานฉลองอะไร แต่ครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญที่ถูกขอให้จัด ผู้คนจึงมาร่วมงานกันม
14คนของฉันเช้ามืดของวันต่อมาเกาม่านอี้และหลู่ปินปินเตรียมกระเป๋ามาวางไว้ใกล้ประตูเผื่อหยิบได้สะดวก พอเตรียมของเสร็จก็นั่งรอให้ฟ้าสว่างช่วงสายของวันคนบ้านนั้นต้องรีบมาเอาเรื่องเธออีกแน่“เกาม่านอี้ ออกมาเดี๋ยวนี้!”นั่นอย่างไร! เสียงโหวกเหวกด้านนอกที่เธอรอมาเสียตั้งนาน หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะเปิดประตูเรือนเดินออกมา ท่าทางนิ่งสงบต่างจากเมื่อวานทำให้อี้จินเฉิงนึกโมโห แต่พอมองดูเธอดี ๆ ก็รู้สึกดีขึ้นมากส่วนที่โผล่พ้นร่างกายของเกาม่านอี้มีแต่รอยฟกช้ำ แม้แต่ใบหน้าสวยยังบวมขึ้นเพราะถูกตีด้วยแรงของผู้ชาย หากจางอวี้เจินมาเห็นเธอในสภาพนี้ตระกูลเย่คงถูกฆ่าล้างตระกูลแน่ ๆ“เธอกล้ามากนะเกาม่านอี้ที่ทำร้ายฉัน”เย่หมิงเสวียนพูดเสียงเข้ม ก่อนจะก้าวมายืนตรงหน้าเธอ ผู้ชายคนนี้ช่างกล้าพูดเหลือเกินตัวเองถูกตีนิดหน่อยดันทำเป็นเรื่องใหญ่ แต่เรื่องที่ตีคนอื่นกลับไม่พูดถึงแม้แต่ครึ่งคำ“แล้วคุณไม่ทำร้าย
13เรื่องดีและเรื่องร้าย“เกาม่านอี้!”เสียงตะโกนโหวกเหวกด้านนอกของคนเมา ทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าเขามาแล้ว และทุกอย่างเป็นไปตามที่เธอวางแผน เหลือเพียงหนึ่งตัวประกอบที่ยังมาไม่ถึงเกาม่านอี้เดินออกไปหาเขาด้วยท่าทางปกติ ไม่หวาดกลัวความกรุ่นโกรธในดวงตาเขาเลยแม้แต่น้อย เย่หมิงเสวียนตรงเข้ามากระชากข้อมือเธออย่างแรง กำแน่นจนเธอเจ็บขึ้นมาเล็กน้อย เนื้อขาวเปลี่ยนเป็นแดงในทันที แต่ใบหน้าเธอยังคงเชิดรั้นไม่หวาดกลัวต่อท่าทีคุกคาม นั่นทำให้เย่หมิงเสวียนยิ่งรู้สึกโมโห“เธอทำแบบนั้นกับอาเฉิงได้ยังไง ไม่รู้หรือว่าอาเฉิงกำลังท้อง ฉันไม่คิดเลยว่าผู้หญิงใจดีคนนั้นจะกล้าทำร้ายแม้แต่เด็กที่ยังไม่เกิด”“ทำไมไม่ถามผู้หญิงคนนั้นดูล่ะว่าเธอมาที่นี่ทำไม และเธอทำอะไรกับคนของฉัน คุณไม่ได้ถามเธอละสิ อีกอย่างฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจดีไม่เคยยินดีแบ่งสามีให้ใคร ฉันก็แค่แกล้งโง่เท่านั้น”“ไม่ว่าอาเฉิงจะทำอะไรเธอก็ไม่คว
13เรื่องดีและเรื่องร้ายช่วงบ่ายวันนี้อากาศไม่ร้อนมาก เธออาศัยตอนทุกคนมีธุระจัดการ มายังเรือนเล็กเพื่อดำเนินแผนการของตนเอง เธอมีโอกาสแค่วันนี้เท่านั้น ยังไม่ถึงเรือนเล็กดีก็เจอหลู่ปินปินถอนหญ้าในแปลงดอกไม้ของเกาม่านอี้อยู่“นี่ เกาม่านอี้อยู่ที่ไหน”เด็กสาวหันไปมองคนถาม ไม่พอใจที่ผู้หญิงคนนี้เรียกชื่อพี่ม่านอี้ของเธอด้วยความไม่เคารพ ทั้งที่ตัวเองเป็นแค่ภรรยารองเท่านั้น หันไปมองแต่ไม่ได้ตอบอะไร จากนั้นมือเล็กก็ถอนหญ้าอย่างไม่ใส่ใจเพราะไม่อยากพูดคุยกับคนที่เจ้านายเกลียดอี้จินเฉิงนึกโมโหขึ้นมาเมื่อถูกสาวใช้เมิน จึงต่อว่าเธออีกไม่น้อย เกาม่านอี้ที่นั่งเก็บของอยู่ในบ้านได้ยินเสียงโวยวายก็รีบออกมาดู น้องสาวบุญธรรมของเธอนั่งคลุกฝุ่นอยู่บนพื้นดิน เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยดินที่อี้จินเฉิงเป็นคนเทใส่“เธอมาหาเรื่องฉันไม่ใช่หรือไง ทำไมต้องไปลงที่คนอื่น”“คนของเธอมันไม่เคยมีใครสั่งสอนยังไงล่
13เรื่องดีและเรื่องร้ายอี้จินเฉิงใช้เวลากว่าเดือนครึ่งคิดหาวิธีกำจัดเกาม่านอี้ เพราะหลังจากกลับมายังเรือนใหญ่วันนั้น เย่หมิงเสวียนก็เอาแต่แวะเวียนไปหาเกาม่านอี้บ่อยครั้ง คิดว่าอีกไม่นานเขาต้องลืมเลือนเธอแล้วไปพาเกาม่านอี้กลับมาแน่นอน จนในที่สุดก็คิดได้ว่าตระกูลเย่ต้องการมากก็คือทายาท เธอจึงตั้งใจจะหลอกพวกเขาว่าเธอตั้งครรภ์ เรื่องนี้จะมีใครรู้ดีกว่าเธอที่เป็นพยาบาลอีกเล่าหากเธอตั้งครรภ์ทุกคนต้องดีใจมาก และคงต้องโกรธมากเมื่อรู้ว่าทายาทถูกคนอื่นทำร้ายจนถึงแก่ความตาย ริมฝีปากยกสูงเหยียดยิ้มให้กับแผนการอันแยบยลของตัวเองเช้าวันต่อมาอี้จินเฉิงลงมาทานอาหารเช้าพร้อมกับคนในตระกูลเย่ทั้งหมด เธอเลือกวันนี้เพราะทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา หลังจากสาวใช้วางอาหารจนครบเธอไอเบา ๆ ครั้งหนึ่งก่อนจะเริ่มพูดเรื่องที่คิดเอาไว้“ขอโทษนะคะที่เสียมารยาทพูดกลางโต๊ะอาหารอย่างนี้”“มีอะไรทำไมไม่รอให้ทานอาหารกันเสร็จก่อน”เย่หมิ