บทที่ 15 เสนอตัวเสี่ยวอิงจ้องมองแผ่นหลังอันกว้างของเสวียนเฉินซาบซึ้งน้ำใจที่เขาปกป้องเธอจากแม่สามีเก่าไม่กลัวว่าตัวเองจะถูกกล่าวหายังไง ใจของเธอสั่นไหวมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของเหม่ยฉีเดินออกไปไกลเธอได้พูดขอบคุณเขาทันที“ขอบคุณนะที่ช่วยฉันเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเรื่องคงไม่จบแค่ตรงนี้ฉันอาจจะลงไม้ลงมือจัดการแม่สามีเก่าจนเจ็บกันไปข้างหนึ่งเลย” เขาหันกลับมาพลางถอนหายใจ“เฮ้อ! อย่าบอกนะว่าเมื่อก่อนเธอยอมให้คนพวกนั้นโขกสับใช้งานเยี่ยงทาสมาโดยตลอด ทำไมไม่รักตัวเองบ้างหรือคิดว่าไม่มีคนรักเธอเท่าคนตระกูลนั้นหรือไง ต่อไปนี้หากผู้หญิงคนนั้นหรือว่าจะเป็นใครก็ตามในตระกูลโจวรีบบอกฉันทันทีฉันจะปกป้องเธอเอง”“เกิดอะไรขึ้นเมื่อครู่แม่ได้ยินเสียงดังโวยวาย” ป้าเสวียนหนี่เดินมาจากบ้านได้ยินเสียงเอะอะโวยวายคิดว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นรีบคว้าหาท่อนไม้วิ่งมาหาเสี่ยวอิงด้วยความเป็นห่วงแต่เมื่อมาเห็นกลับมีแต่ลูกชายของเธอที่ยืนจ้องมองใบหน้าของเสี่ยวอิงด้วยความเป็นห่วงเช่นเดียวกัน“เมื่อครู่คนตระกูลโจวมาหาเรื่องเสี่ยวอิงครับ ผมคิดว่าคนพวกนั้นต้องกลับมาอีกแน่ ๆ ในช่วงที่ผมไปทำงานรบกวนคุณแม่ช่วยมาเป็นหูเป็นต
บทที่ 16 ฉันจะไปหาเสี่ยวอิงเสี่ยวอิงเดินตามหลังเขามาติด ๆ ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะหยุดกระทันหันทำให้หัวของเธอชนเข้ากับแผ่นหลังของเขาอย่างจังแทบถลาล้ม โชคดีที่เสวียนเฉินหันกลับมารับเอาไว้ได้ทันพอดี“เธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”“ถ้านายไม่หันกลับมาช่วยไม่ทันคงล้มไปแล้ว คิดอะไรอยู่ถึงได้หยุดเดินกระทันหันแบบนั้นกัน”“เรื่องที่ฉันพูดเมื่อครู่ ฉันพูดจริงนะแค่อยากให้เธอเก็บเอาไปคิด” เสี่ยวอิงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งพลางนึกคิดคำพูดของเขา แม้มันจะดีต่อตัวเธอแต่ทว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะทำกันง่าย ๆ สักหน่อย แต่ก็ไม่อยากทำร้ายน้ำใจของเสวียนเฉินเพราะดูเหมือนว่าเขานั้นจริงใจต่อเสี่ยวอิงจริง ๆ“เรื่องนั้นฉันจะคิดอีกที ตอนนี้ปล่อยฉันได้แล้วฉันไม่ล้มสักหน่อยอีกอย่างตอนนี้ถึงหน้าบ้านแล้วนายกลับไปเถอะ”“แล้วเรื่องคนตระกูลโจวเธอจะไม่ทำอะไรเลยหรือไง จะปล่อยให้คนพวกนั้นทำเธอฝ่ายเดียวได้ยังไงกัน”“เรื่องนั้นฉันคิดเอาไว้บ้างแต่ก็คิดว่าทำร้ายกันไปทำร้ายกันมามันไม่จบสิ้นนะสิ หากว่าทางนั้นไม่มายุ่งกับฉันอีกฉันก็จะปล่อยผ่านแต่ถ้าฝ่ายนั้นมาวุ่นวายฉันเองจะคิดอีกทีว่าจะทำยังไงกับครอบครัวที่เลวทรามแบบนั้น”เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพ
บทที่ 17 กลับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมนะรุ่งเช้าวันต่อมาหยางเจี้ยนตื่นแต่เช้าตรู่แต่งตัวไปเกี่ยวข้าวแต่ที่จริงเขาสวมใส่เสื้อผ้าไปแบบนั้นและเตรียมชุดไปเปลี่ยนเพื่อไปหาเสี่ยวอิงโดยที่ไม่ให้มีมี่รู้ มีมี่เองก็เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างที่เธอบอกเหมือนกัน เธอลุกขึ้นมาทำกับข้าวแต่เช้าและส่งมอบห่อข้าวให้หยางเจี้ยนไปทำงาน“พี่ไปก่อนนะ มีมี่ของพี่เปลี่ยนไปแบบนี้ก็ดีเหมือนกันพี่จะได้สบายใจและมีแรงทำงานหาเงินเข้าบ้าน ”“ฉันเองน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วเหมือนกัน อย่าหักโหมมากนะคะ หากแดดร้อนก็เข้าร่มพักผ่อนแดดอ่อนค่อยออกทำไปใหม่ วันนี้ฉันจะทำต้มซุปไว้รอ” มีมี่จูบที่แก้มของหยางเจี้ยนก่อนจะโบกมือให้เขาออกไปทำงาน“ว๊าว นี่มันเรื่องอะไรกัน มีมี่เธอไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า” เหมยหลงเดินลงมาจากด้านบนเห็นเพื่อนสาวเปลี่ยนไปอดไม่ได้ที่จะเอ่ยทัก“ฉันสบายดีและต่อจากนี้งานบ้านฉันจะทำช่วยแม่สามีเอง แต่ว่าเสื้อผ้าของเธอ เธอใส่เองต้องซักเองนะฉันไม่รับทำ” มีมี่พูดจบก็เดินเข้าบ้าน“ทำเป็นหยิ่งผยองไปเถอะเพราะอีกไม่นาน เมื่อไหร่ที่พี่หยางเจี้ยนทำให้พี่เสี่ยวอิงใจอ่อนและกลับมารักกันเหมือนเดิม ต่อจากนี้ฉันจะได้สุขสบายและจะเป็นคน
บทที่ 18 เสี่ยวอิงต้องเป็นของฉัน“เฮ้อ! ในที่สุดก็ยอมไปเสียที” เสี่ยวอิงมองแผ่นหลังของหยางเจี้ยนพลางถอนหายใจจนลืมไปว่าตอนนี้มือของเธออีกข้างกำลังถูกชายร่างใหญ่จับเอาไว้แน่น เด็ก ๆ พากันจ้องมองและแอบยิ้มเล็กยิ้มน้อย“เห็นมั้ยฉันบอกแล้ว ยังไม่ถึงวันเลยด้วยซ้ำสามีเก่าของเธอก็มาหาถึงที่ จะให้ฉันทำยังไงกับเธอดีหรือจะข่มขืนและให้คุณแม่มาสู่ขอเลยนะจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงขนาดนี้” เขาขยับตัวมาพูดใกล้ ๆ หูของเสี่ยวอิงเพื่อไม่ให้น้อง ๆ ได้ยิน แต่เมื่อเสี่ยวอิงได้ยินใบหน้าของเธอแดงซ่าน ร้อนวูบวาบและรู้สึกตัวว่าตอนนี้มือของเธอข้างไม่ถือมีดถูกเขาจับอยู่“ตาบ้าพูดอะไรไม่รู้ ปล่อยมือฉันได้แล้วหยางเจี้ยนเดินไปตั้งไกลแล้ว อีกอย่างพูดอะไรระวังคำพูดด้วยสิ”“ฮึ! ก็ฉันเป็นห่วงนี่น่า จิ่งเหยา จ้าวเหวินวันนี้เตรียมตัวเสร็จแล้วใช่มั้ย ช่วยไปตามป้าเสวียนหนี่มาอยู่เป็นเพื่อนพี่เสี่ยวอิงให้ที พี่ไม่วางใจกลัวชายคนนั้นจะกลับมาอีก”“ไม่ต้องหรอกฉันไม่อยากรบกวนเวลาของป้าเสวียนหนี่ นายเองก็รีบพาน้อง ๆ ไปเรียนเถอะนี่ก็สายแล้ว ส่วนเรื่องสามีเก่าหากเขากลับมาฉันจะจัดการเองเมื่อครู่ก็เห็นแล้วใช่มั้ยว่าฉันนะไม่ยอมให้เขาเข้าใกล
บทที่ 19 สืบหาความจริงร้านเถ้าแก่ซ่ง“วันนี้เป็นวันที่ดีแก่ร้านค้าของฉันมากสินะที่ท่านนายอำเภอมาเยือนถึงที่ เชิญเข้ามาด้านในนั่งดื่มน้ำเย็น ๆ ก่อนสิ” เถ้าแก่ซ่งรีบออกมาต้อนรับเสวียนเฉินทันทีที่ลูกน้องไปแจ้งเขาว่านายอำเภอมาที่นี่“ขอบคุณเถ้าแก่ที่ต้อนรับฉันเป็นอย่างดี วันนี้ฉันไม่ได้มาด้วยเรื่องราชการหรืออะไรหรอก แต่มาด้วยเรื่องส่วนตัวมีเรื่องต้องให้เถ้าแก่ช่วยเล็กน้อยนะครับ”“แหมๆ อย่าพูดอะไรแบบนั้นเลยครับผมนะเหรอจะไปช่วยอะไรนายอำเภอได้เข้ามาด้านในแล้วค่อยคุยกันดีกว่าครับ ” เถ้าแก่ซ่งเชิญชวนเสวียนเฉินกับตู่หวางเข้าไปห้องโถงรับแขกเพราะตอนนี้พวกเขาพากันยืนอยู่หน้าร้านขายของ เสวียนเฉินจึงเดินตามเขาเข้าไปด้านใน“เรื่องอะไรที่นายอำเภออยากให้ฉันช่วยเหลืออย่างนั้นหรือ? แต่ดูแล้วคงไม่ใช่เรื่องเงินหรอกใช่มั้ย’ ’“ไม่ใช่เรื่องเงินหรอกแต่เป็นเรื่องคน เถ้าแก่ฉันรู้มาว่าโจวเหม่ยฉีเป็นลูกหนี้ของคุณใช่มั้ย? ”“นายอำเภอถามถึงเธอทำไมกัน หรือว่าเธอไปยืมเงินท่านเช่นเดียวกัน”“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก พอดีคนที่ฉันรู้จักเป็นลูกสะใภ้เก่าของโจวเหม่ยฉี ฉันอยากรู้ว่าใครกันที่มายืมเงินและเป็นหนี้ตัวจริงต่างหากไม่ก
บทที่ 20 ฉันไม่มีสิทธิ์เหมยหลงตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าจะได้ใกล้ชิดกับนายอำเภอแบบนี้ เขาค่อย ๆ ประคองเธอมานั่งที่เก้าอี้หน้าร้านมองที่ขาของเธอก็ดูเหมือนไม่มีอะไรหรือรอยแดงแม้แต่น้อย เขาเงยหน้ามองเธอเห็นสายตาของเหมยหลงจับจ้องเขาอยู่ทำให้เขารู้ว่านี่น่าจะเป็นการเสแสร้งที่เธออยากใกล้ชิดเขาเท่านั้น เขาจึงลุกขึ้นและบอกให้เธอนั่งรออยู่ที่นี่“นั่งรออยู่ที่นี่ก่อนนะครับ ผมจะไปตามคุณแม่มาดูอาการให้ คุณแม่นะเป็นหมอจับเส้นแค่เส้นพลิกนิดหน่อยก็สามารถหายได้เป็นปกติเลย” พูดจบเสวียนเฉินได้เดินไปที่บ้านทันที เหมยหลงเคลิบเคลิ้มเขินอายไม่ทันได้ตอบอะไรเขาสักอย่างเธอคิดว่ายังไงเขาต้องกลับมาแน่ ๆ“คนอะไรทั้งหล่อทั้งดูดีแถมยังใจดีอีกด้วย เมื่อกี้ฉันน่าจะกอดเขาแน่น ๆ ฮิ ฮิ แต่เอาเถอะยังมีเวลาอีกนานหญิงชายใกล้ชิดยังไงเขาต้องมีใจให้ฉันแน่ ๆ ฉันทั้งสาวทั้งสวยกว่าเสี่ยวอิงเป็นไหน ๆ คุณหญิงภรรยานายอำเภออยู่ตรงหน้าแล้ว” เหมยหลงวาดฝันอยูพักหนึ่งเธอเห็นหญิงชราเดินออกมาพร้อมกล่องยาแต่ไม่เห็นเสวียนเฉินตามออกมารอยยิ้มได้หุบลงทันที“นี่หล่อนลูกชายของฉันบอกว่าหล่อนข้อเท้าพลิกหรือ? ไหนขอดูหน่อย วุ่นวายจริง ๆ นี่มันใช่เวลาที
บทที่ 21 ฉันมีค่ามากกว่าสร้อยราคาถูก ๆ นั่น2 วันต่อมาหลังจากที่เหมยหลับมาจากบ้านเสี่ยวอิงเธอได้มาเล่าให้แม่และพี่ชายของเธอฟังว่าเธอต้องถูกเสี่ยวอิงปฏิบัติอย่างไรบ้าง หยางเจี้ยนจึงไม่ไปหาเสี่ยวอิงอีกเพื่อให้เธอสงบสติอารมณ์หากไปหาเธอทุกวันหลังจากที่เธอขับไล่ทุกคนเธอคงได้แจ้งตำรวจว่าเขาไประรานแน่ ๆ เขาเริ่มคิดวางแผนเข้าหาเธอใหม่ คิดถึงเรื่องเก่า ๆ มีอะไรบ้างที่เธอต้องการและเขาไม่เคยทำให้เธอเลย“หยางเจี้ยนวันนี้แม่กับน้องจะออกไปงานเทศกาล วันนี้หยุดงานใช่มั้ยจะไปด้วยกันหรือเปล่า มีมี่เธอล่ะอยากไปเที่ยวไปไหว้พระมั้ย”“อื้ม ..ฉันเอาแต่ทำงานออกไปเที่ยวเล่นบ้างก็ดีค่ะ พี่หยางเจี้ยนฉันจะไปไหว้ขอพรให้เรามีลูกกันเร็ว ๆ นะคะช่วงนี้ฉันเห็นพี่บ่นเหนื่อยก็พักผ่อนอยู่ที่บ้านนะ” มีมี่ลุกขึ้นเดินตามหลังเหม่ยฉีกับเหมยหลงออกไปตอนนั้นเองหยางเจี้ยนก็คิดอะไรดี ๆ ออก ปีที่แล้วงานเทศกาลเขาพาเสี่ยวอิงออกไปเดินเล่นงานเทศกาล สายตาเธอจ้องมองไปยังสร้อยข้อมือน่ารักอันหนึ่งเหมือนอยากได้มาครอบครองแต่เมื่อเขาถามเธอกลับบอกว่าเธอเพียงแค่มองเท่านั้น“ฉันคิดออกแล้ว ฮ่า ฮ่า ฉันนี่ฉลาดสุด ๆ เมื่อครู่นี้ไม่เห็นมีมี่สวมสร้อย
บทที่ 22 ถูกจับฝั่งด้านเสวียนเฉินเขามาเปิดงานเทศกาลเดินเล่นงานครู่หนึ่งก่อนที่จะเห็นจิ่งเหยากับจ้าวเหวินที่งาน ได้เข้าไปทักทายและได้รู้ว่าตอนนี้เสี่ยวอิงอยู่บ้านคนเดียว เขาเริ่มเป็นห่วงเธอขึ้นมาเลยให้เด็ก ๆ เที่ยวเล่นกับแม่ของเขา เสวียนเฉินไม่ได้โกรธหรือโมโหเรื่องที่เธอไม่ยอมตกลงแต่งงานกับเขา แต่ที่เขาทำอย่างนั้นเพราะโมโหตัวเองต่างหากที่บีบคั้นเร่งรัดเธอทั้ง ๆ ที่เคยบอกจะไม่เร่งรัดและรอเธอได้ แต่เมื่อเห็นเธอถูกคนพวกนั้นมารบกวนเขาเองแทบอยากจะปกป้องเธอเต็มที่ ยิ่งเห็นใบหน้าของเธอที่ลำบากใจในคำเร่งรัดของเขาทำให้เขารู้สึกผิดมากกว่าเดิมที่ไม่เคยคิดถึงใจเธอเลย สองเท้าเร่งรีบเดินกลับมาถึงร้านซาลาเปามองจากไกล ๆ เห็นเธอปิดร้านไปแล้วคิดว่าเธอน่าจะอยู่ในร้าน แต่เมื่อเดินได้ไม่ถึงก้าวเสียงปืนดังสนั่น ใจของเสวียนเฉินร้อนเป็นไฟรีบวิ่งเข้าไปหาเสี่ยวอิงในบ้านด้วยใจที่ร้อนรุ่มภาวนาไม่ให้เรื่องร้าย ๆ เกิดกับเธอเมื่อเดินเข้ามาเห็นว่าตอนนี้เสี่ยวอิงถือปืนสั้นหันปลายปืนไปยังชายที่ขึ้นชื่อว่าสามีเก่านั่งตัวสั่นทรุดตัวลงที่พื้นระหว่างขาเปียกชุ่มไปด้วยความเหลว ตอนแรกเขาคิดว่าเสี่ยวอิงยิงชายคนนี้จริง ๆ แต่เ
บทที่ 32 ภารกิจสำเร็จเหตุการณ์ที่ตำรวจไปจับตัวหยางเจี้ยนเพราะเสวียนเฉินให้ตำรวจไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งและมีวัยรุ่นสองคนมาให้ปากคำเพิ่มเติมว่าเห็นชายรูปร่างเหมือนหยางเจี้ยนมาคอยเฝ้าอยู่ตรงนั้นตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่มืด ตอนที่เขาทำร้ายตีหัวของนายอำเภอทั้งสองเห็นเต็มตาแต่ทำได้เพียงปิดปากไม่กล้าพูดออกมากลัวจะโดนทำร้ายอีกคน ตอนนี้หยางเจี้ยนจนมุมเพราะหลักฐานมัดตัวถูกจับโดยที่ไม่สามารถประกันตัวได้อีกเลย และโทษครั้งนี้ที่เขาได้รับคือติดคุกตลอดชีวิต เสวียนเฉินรับรู้เรื่องก็พอใจในสิ่งที่หยางเจี้ยนได้รับโทษ ต่อจากนี้ก็จะไม่มีใครมารบกวนชีวิตของเสี่ยวอิงได้อีกเลย3 วันต่อมางานแต่งงานของทั้งสองได้เริ่มขึ้นทุกคนต่างมีความสุขเสียงหัวเราะคิกคักของน้อง ๆ ที่เห็นพี่สาวยิ้มแย้มรอยยิ้มวันนี้ของเธอสดใสเท่าที่เคยเห็นมาเลย แขกต่างพากันมาร่วมยินดีชีวิตของเสี่ยวอิงต่างทำให้ทุกคนต้องอิจฉา“วันนี้เป็นวันที่เธอสวยที่สุดเลย จนฉันไม่อยากให้ใครมาเห็นเธอตอนแต่งหน้าแบบนี้เลย”“คนอื่นไม่ได้มองฉันแบบนายนี่น่า ดูสิคนอื่นสนใจอาหารที่อยู่ต่อหน้ามากกว่าจ้องมองฉันอีก”“ช่างคนอื่นสิ ฉันนะไม่สนใจอาหารต่อหน้าเลยสักนิดสนใจแต
บทที่ 31 หยางเจี้ยนถูกจับเสวียนเฉินกลับมาบ้านยังคงเอะใจเลยไปหาเสี่ยวอิงที่บ้านเพื่อแจ้งข่าวการตายของเหม่ยฉีให้เธอได้รับรู้“วันนี้ไปเลือกชุดแต่งงานกับคุณแม่ถูกใจมั้ย”“ดูดีเลยล่ะ วันนี้ทำไมกลับมาถึงบ้านไม่ตรงเวลาล่ะมีงานเยอะเหรอ ? ฉันกับคุณแม่เตรียมกับข้าวไว้ตั้งมากมาย แต่เด็ก ๆ รอไม่ไหวเลยให้กินกับคุณแม่ไปก่อนหน้านี่แล้ว”“เอ่อไม่ใช่งานเยอะหรอก เธอจำสิ่งที่เธอพูดได้มั้ยเรื่องหยางเจี้ยนฉันตรวจสอบแล้ววันนั้นเขาถูกปล่อยตัวจริง ๆ ไม่แน่อาจจะเป็นเขาที่มาทำร้ายฉันแต่ว่าวันนี้ที่ฉันมาช้านะฉันไปบ้านตระกูลโจวมา เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นนะ”“เรื่องน่าเศร้าอะไรกัน”“พลัดตกบันได้คอหักตาย”“ห่ะ! เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นได้ยังไงคนอย่างเหม่ยฉีนะหรือ ร่างกายของเธอยังแข็งแรงนี่ตอนนั้นคุณก็เห็นใช่มั้ยตอนที่เธอมายืนด่าอยู่หน้าบ้านฉัน”“ใช่แต่ว่าเย็นวันก่อนเธอถูกหามเข้าโรงพยาบาลและพบว่าเธอเป็นเส้นเลือดตีบทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ สมองไม่สั่งการทำให้เป็นคนพิการที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อีกอย่างตอนที่เธอตกบันไดคงเป็นเพราะเธอมีเพิ่งจะมีกำลังขึ้นมาอยากขึ้นไปชั้นบนด้วยตัวเอง”“ตอนนั้นไม่มีใครอยู่ที่บ้านเลยหรือไง
บทที่ 30 เหม่ยฉีตกบันไดบ้านตระกูลหวังเสี่ยวอิงใบหน้าเบิกบานเพราะความรักของเธอกับเสวียนเฉินก่อตัวอย่างรวดเร็ว ตอนนี้หัวใจของเธอชุ่มช่ำราวกับรักแรกแย้ม เธอปิดร้านตั้งแต่เที่ยงของที่ลงขายวันนี้มีไม่มากนัก เพราะเธอกับเสวียนหนี่นัดกับเอาไว้ไปเลือกชุดแต่งงานกัน ในใจของเธออยากจะเลือกชุดที่อยู่ในยุคปันจุบันโดยใช้มิติแต่ก็กลัวจะถูกจับไปและอยากให้เสวียนหนี่แม่สามีคนใหม่เป็นคนเลือกด้วยตัวเองเป็นความสุขของคนแก่เสี่ยวอิงจึงยอมตามใจ“หนูเสี่ยวอิงเสร็จหรือยังจ๊ะ"“เสร็จแล้วค่ะคุณแม่หนูปิดร้านสักครู่นะคะ” เสี่ยวอิงปิดประตูบ้านทั้งสองพากันเดินไปที่ตลาด ร้านชุดแต่งงานมีไม่มากนักในมณฑลที่เธออยู่เสวียนหนี่ขอเลือกจัดงานแบบสมัยก่อน เจ้าสาวจะสวมชุดกี่เพ้า ส่วนเจ้าบ่าวจะสวมสูทซุนยัดเซ็น ที่เป็นสูทแบบจีนสมัยใหม่ พิธีแต่งงานและสถานที่จัดงานเสวียนเฉินให้จัดที่โรงแรมมีโรงแรมที่รับจัดงานแต่งมีของทุกอย่างครบครันจะมีราคาให้เลือก ขั้นต่ำ 2000 หยวน และแพงสุด 5000 หยวนจะมีอาหารการกินแตกต่างกันไป ส่วนเสวียนเฉินเลือกเป็น 3000 หยวน แขกจะมีเพียงแค่คนใหญ่คนโตในมณฑลและญาติพี่น้องไม่มากนักแต่เขาอยากจัดงานให้สมเกียรติเมื่อ
บทที่ 29 งูพิษรุ่งเช้าวันต่อมามีมี่ตื่นมาเตรียมของให้หยางเจี้ยนไปทำงานเหมือนทุกวัน หลังจากที่ส่งสามีไปทำงานเธอก็มาดูเหม่ยฉีที่นอนจมกองฉี่ตัวเองอยู่บนเตียงสภาพน่าอนาจเหลือเกิน ตอนนั้นนั่นเองที่เหมยหลงเดินลงมาข้างล่าง“เหมยหลงเธอตื่นมาก็ดีแล้ว ตอนนี้คุณแม่ฉี่เปื้อนที่นอนเต็มไปหมดมาช่วยกันยกคุณแม่หน่อยได้มั้ย ? และมาช่วยกันซักผ้าเปลี่ยนให้คุณแม่จะได้ไม่นอนจมกองฉี่ตัวเองอยู่แบบนี้”“อุ้ย! ไม่เอาหรอกแม่นะหนักจะตายไปอีกอย่างตอนนี้ฉันอาบน้ำแต่งตัวแล้วถ้าให้ไปจับตัวคุณแม่กลิ่นฉี่ฉุนติดเสื้อผ้าจะทำยังไง เธอเป็นลูกสะใภ้ก็ทำไปสิฉันนัดลูกชายเจ้าของตลาดเอาไว้ ในเมื่อไม่ได้นายอำเภอเอากับลูกชายเจ้าของตลาดก็คงไม่น้อยหน้าไปก่อนนะที่เหลือเธอก็จัดการด้วยถ้าฉันหลอกให้มันหลงรักหัวปักหัวปำฉันจะเอาเงินมันมาให้เธอเป็นค่าจ้างก็แล้วกัน” เหมยหลงสะบัดผมเดินออกจากบ้านโดยไม่สนใจว่าคนที่นอนอยู่คือแม่ของตัวเองตอนนี้ใจของเหม่ยฉีแตกสลายไม่คิดว่าลูกสาวที่เธอรักมากจะทำแบบนี้กับเธอได้ลงคอ มีมี่หันมามองเหม่ยฉีด้วยความสมเพชก่อนจะหัวเราะออกมา“ฮึ ฮึ ลูกแต่ละคนไม่เคยมีใครสนใจใยดีเลย ดูสิลูกสาวที่คุณแม่รักนักรักหนาทิ้งแม่ที
บทที่ 28 ยาออกฤทธิ์บ้านตระกูลโจวหลายวันมานี้หยางเจี้ยนอารมณ์ดีเป็นพิเศษเขาออกไปทำงานทุกเช้าและกลับมาพร้อมอาหารเต็มมือ จนทำให้มีมี่แปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร มีเพียงแต่แม่สามีที่ชมลูกชายไม่หยุดปาก“ตั้งแต่ที่ฉันเสียเงินไปมากหยางเจี้ยนดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย ดีจริง ๆ อีกอย่างตอนนี้หนี้เถ้าแก่ซ่งก็เหลืออีกก้อนเดียวเราก็จะหมดหนี้แล้ว ตอนนี้ชีวิตช่างดีจริง ๆ ถึงแม้จะอยากได้บ้านของนังเสี่ยวอิงมาเป็นของเราก็เถอะ ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้มากสินะหรือจะให้หยางเจี้ยนไปขอโทษด้วยความจริงใจแต่เจ้าหน้าที่ก็ข่มขู่ไม่ให้เสนอหน้าไปอีกไม่อย่างนั้นครั้งนี้จะจับไม่ปล่อย เฮ้อ!”“คุณแม่คะ คุณแม่เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”“อะไรกันกลับมาจากข้างนอกทำไมต้องโวยวายด้วย”“จะไม่ให้โวยวายได้ยังไงกันคะ ในเมื่อตอนนี้ความฝันของฉันพังทลายมาหมด นายอำเภอเฉินนะสิคะกำลังจะแต่งงานฉันไปเดินเล่นที่ตลาดได้ยินชาวบ้านพูดคุยกัน ไม่ยอมนะฉันต้องเป็นภรรยาเขาสิทำไมต้องเป็นคนอื่นด้วย”“แล้วเธอเหมาะสมกับเขาตรงไหนกันว่าแต่ใครกันที่ได้เป็นเจ้าสาวของนายอำเภอเฉิน” มีมี่เดินเอาน้ำมาให้ทั้งสามคนที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ แอบสะใจจริงที่เหมยหลงไม่ได้ดีและถูกผู
บทที่ 27 ฉันชอบนาย"อย่ามาทำแบบนี้นะ ทำไมอย่างอื่นนายจำได้หมดยกเว้นฉันคนเดียวเรื่องนี้ฉันไม่ยอมหรอกนะ นายทั้งอ่อยทั้งหยอดคำหวานชอบทำให้คนอื่นหวั่นไหว นายขอฉันแต่งงานไม่ใช่หรือไงทำไมมาพูดจาแบบนี้ ฉันไม่ยอมหรอกนะตาบ้า ฉันรอนายด้วยใจที่ตื่นเต้นทั้งวันทั้งคืนเพื่อรวบรวมความกล้าบอกความรู้สึกกับนาย แต่นายมาบอกว่าไม่รู้จักฉันจำฉันไม่ได้แบบนี้มันจะเกินไปแล้ว”“เสียงดังโวยวายจริง ๆ ฉันเนี้ยะนะขอเธอแต่งงานไม่มีทาง ขนาดชื่อยังจำไม่ได้แท้ ๆ อีกอย่างใครบอกให้เธอรอฉันกันล่ะ ไม่ได้บอกเสียหน่อยหรือต่อให้ฉันกลับมาฟังคำตอบของเธอทุกอย่างจะเปลี่ยนไปอย่างนั้นหรือ?”“เปลี่ยนสิ ทำไมจะไม่เปลี่ยนในเมื่อตอนนี้ใจของฉันมันหวั่นไหวไปกับนายแล้วตอนที่รู้ว่านายถูกทำร้ายรู้มั้ยว่าฉันกลัวมากแค่ไหนที่จะเสียนายไป เอาแต่โทษตัวเองที่ไม่ยอมตอบรับความรู้สึกของนาย เอาแต่โทษสมองกลวง ๆ ที่เอาแต่กลัวว่านายจะจริงจังหรือเปล่า จนฉันคิดได้ว่าฉันนะชอบนายเหมือนกัน และคำตอบที่นายต้องการคือฉันชอบนายและยอมเปิดใจให้นายเข้ามาโลดแล่นอยู่ที่อกข้างซ้ายของฉัน แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้เป็นแบบนี้แล้วฉันจะต้องทำยังไง” เสี่ยวอิงพูดจาฉะฉานแต่ก็เคลือบไ
บทที่ 26 เธอเป็นใครมาถึงโรงพยาบาลเสี่ยวอิงพาเสวียนหนี่ไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตอนนี้ตัวเสวียนเฉินนอนอยู่ในห้องฉุกเฉิน เสี่ยวอิงจึงพาคุณป้าไปนั่งรอที่หน้าห้องฉุกเฉินก่อนจะกลับมาหาเถ้าแก่ซ่งเพื่อจ่ายค่ารถ“เถ้าแก่ซ่งขอบคุณนะคะที่ช่วยเหลือพวกเรา ค่ารถมาที่นี่คุณต้องการเท่าไหร่คะ”“ฉันนะถึงแม้จะชอบกลิ่นเงินแต่เรื่องแบบนี้ฉันก็มีน้ำใจพอ เก็บเงินของเธอเอาไว้เถอะนะถือว่าฉันช่วยเหลือนายอำเภอแล้วใครกันนะกล้าลงมือทำร้ายนายอำเภอเฉิน”“นั่นสิคะ เรื่องนี้ฉันยังไม่ได้ถามตำรวจที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเลย ทำแบบนี้เหมือนพยายามฆ่าได้เลยยังไงถ้าจับตัวคนร้ายได้ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ขอบคุณเถ้าแก่มากนะคะบุญคุณครั้งนี้ฉันไม่ขอลืมจะสำนึกในใจเสมอวันหนึ่งฉันจะตอบแทนนะคะ”หลังจากพูดคุยกับเถ้าแก่ซ่งพักใหญ่ก่อนจะเดินไปหาเสวียนหนี่ที่นั่งรอร้องไหว้อ้อนวอนพระเจ้าอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน“ป้าเสวียนหนี่คะอย่าร้องเลยนะคะยังไงเสวียนเฉินต้องไม่เป็นอะไรเขาต้องกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม”“ป้ากลัวเหลือเกิน ทำไมต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับลูกชายฉันด้วย ถ้าเสวียนเฉินไม่ฟื้นขึ้นมาจะทำยังไงป้าจะอยู่ยังไง” เสียงสะอึกสะอื้นไห้ของผู้เป็นแ
บทที่ 25 สั่งสอนเช้าวันต่อมาบ้านตระกูลโจวมีมี่ตื่นแต่เช้าตรู่ลุกขึ้นมาทำกับข้าวให้ทุกคนได้กินเพราะความเจ็บใจเมื่อวานนี้ทำให้เธอมีแรงบันดาลใจที่จะลงมือให้เร็วขึ้นมากกว่าเดิม เธอใส่ยาลงไปในชามข้าวของทุกคน ส่วนของเธอนั้นจะตักทีหลังคนอื่นเสมอ“มีมี่ตื่นแต่เช้าแบบนี้คงปรับความเข้าใจกับหยางเจี้ยนแล้วใช่มั้ย ผู้ชายก็เป็นแบบนี้แหละอะไรทนได้ก็ทนหน่อย”“ค่ะคุณแม่”“จริงสิวันนี้เธอช่วยซักผ้าของเหมยหลงให้หน่อยนะ เห็นว่าปวดหัวจนแทบลุกจากที่นอนไม่ได้เลย ฉันเองก็เช่นกันไม่รู้ช่วงนี้เป็นอะไรร่างกายเหนื่อยแปลก ๆ อีกสองวันฉันจะต้องไปเจอเถ้าแก่ซ่งแล้วจะหาเงินที่ไหนไปคืนนะหรือว่าจะออกไปหาผักไปขายดี หยางเจี้ยนก็เจ็บแผลอยู่จะไปเกี่ยวข้าวไหวหรือเปล่านะ ช่วงนี้ข้าวก็เริ่มจะหมดแปลงแล้วด้วย มีมี่หากฉันจะขอยืมสร้อยของเธอไปขายก่อนจะได้มั้ย เอาไว้ฉันใช้หนี้หมดเมื่อไหร่ฉันจะซื้อมาคืนเธอก็รู้นี่น่าเงินที่ฉันเตรียมไว้ใช้หนี้ต้องไปจ่ายค่าปรับให้หยางเจี้ยน”‘นังแก่นี่ขี้งกจริง ๆ เห็นว่าตัวเองเสียเงินไปมากกับลูกชายก็รีบมาขอของจากฉันคืนแถมยังอ้างเรื่องหนี้อีก ที่จริงเป็นพวกแกไม่ใช่หรือไงที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น คิดว
บทที่ 24 รอคำตอบหยางเจี้ยนอารมณ์เสียแต่ใจของเขาก็มีความอาลัยอาวรณ์ในตัวมีมี่ที่รีบวิ่งตามขึ้นไปขอโทษเธอทันที“มีมี่ฟังพี่ก่อนนะ พี่ทุกอย่างเพื่อเราทั้งนั้นตอนนี้คุณแม่ติดหนี้เถ้าแก่ซ่งจำเป็นต้องใช้เงินในเร็ววันพี่ก็จนหนทางเลยไปหาเสี่ยวอิงหวังให้เธอเห็นใจ ไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้”“หยุดพูดเถอะคำพูดของพี่มีคำไหนที่ฉันสามารถเชื่อได้อีกบ้าง”“มีมี่จะต้องทำยังไงเธอถึงจะเชื่อพี่ต่อจากนี้เธอตามติดตัวพี่เลยก็ได้ หากทำอย่างนั้นแล้วเธอจะเชื่อว่าพี่จะไม่ไปหาเสี่ยวอิงอีก” เขาเข้ามาโอบกอดเธอแน่นซุกหน้าลงซอกคอ‘ต้องพูดถึงขนาดนี้เพื่อให้ฉันเชื่อคำพูดเหรอ ถ้าฉันไม่เห็นของที่มี ฉันคงเชื่อหรอกแต่ตอนนี้ฉันรู้และเห็นหมดทุกอย่าง ครอบครัวของพี่ไม่ได้จนตรอกจนต้องไปหาเสี่ยวอิง แต่เป็นเพราะความมักมากของพี่มากกว่า ได้ในเมื่อต้องการแบบนี้ฉันเองก็จะยอมทน ต่อจากนี้ไม่มีอีกแล้วความรักที่แสนดีจากฉันจะมีเพียงความต้องการและชำระแค้นของฉันเท่านั้น’“ครั้งนี้ฉันจะยอมให้อภัยพี่และเชื่อคำพูดของพี่ ถ้ามีอีกครั้งฉันพร้อมจะหย่าทันที”“ในที่สุดเธอก็เข้าใจพี่ มีมี่มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่พี่อยากจะอยู่ด้วยต่อจากนี้พี่จะ