กรรวีมองสบตากับมนต์สิงหาด้วยความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน...คนเป็นมารดาถึงกับหน้าถอดสี...ก่อนปรับสีหน้าให้ดูเป็นปกติทันทีเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ที่กำลังวิ่งก้าวขึ้นบันไดของลูกชายคนสุดท้อง... จากนั้นจึงช่วยกันพยุงร่างของลูกชายคนโตขึ้นรถ...แล้วรีบนำเขาส่งโรงพยาบาล ด้วยเกรงว่าจะไม่ทันการเพราะเวลานี้เจ้าตัวไม่มีแรงแม้จะทรงตัวยืนเองได้เลย
กรรวียืนมองท้ายรถที่กำลังแล่นออกไปอย่างรู้สึกเป็นกังวล...
เมื่อมองเห็นลมที่กำลังพัดผ่านบริเวณหน้าบ้านเริ่มกรรโชกหนัก...หลังจากนั้นสักพักก็พัดเอาเมฆฝนดำทะมึนลอยมาราวกับสั่งได้...และเธอค่อนข้างมั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับมนต์พยัคฆ์นั้น...มันไม่ธรรมดาเลยจริงๆ...
“พี่ลิงคะ..หมอบอกว่าอาการของคุณเสือเป็นอย่างไรบ้างคะ?”
กรรวีโทรถามอาการของมนต์พยัคฆ์เอากับหนุมาน...เมื่อเวลาผ่านไปนานถึงสองชั่วโมง แต่ยังไม่มีใครส่งข่าวสารมาให้เธอได้รู้บ้างเลย….
ความจริงแล้วกรรวีก็ใช่ว่าจะสนใจ แต่ที่ถามไปนั่นมันก็แค่ตามมารยาทเท่านั้น..เพราะทุกคนในครอบครัวของเขา ต่างก็มีบุญคุณกับหญิงสาวมากมาย...และเธอเองก็ไม่ต้องการทำให้ทุกคนต้องมาทนลำบากใจ
(“หมอเอ็กซ์เรย์ดูภายในแล้วบอกว่าไม่มีอะไรนะ...พี่ว่าพี่เสือคงกินเหล้าเคล้านารีเยอะไปมั้ง...ก็ทุกคืนแทบไม่เคยพัก ข้าวปลากินบ้างหรือเปล่าเราก็ไม่รู้...หมอคงให้ยารักษาตามอาการนั่นแหละ ตอนนี้พี่เสือยังหลับอยู่...น่าจะหมดฤทธิ์ละ เห็นแม่บอกว่า พี่เสือเห็นลูกกวางแล้วว้ากแตกเลยเหรอ...ฮ่าๆ”)
หนุมานเล่าอาการของพี่ชายให้เธอฟัง แล้วยังหัวเราะเสียงดังมาตามสายในตอนท้ายที่ถามคนเป็นน้อง...
หนุมานคือบุตรชายคนสุดท้องของมนต์สิงหา เขาเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์อีกทั้งยังอารมณ์ดี และเป็นพี่ชายที่สนิทกับกรรวีมากที่สุด
เขามีชื่อเล่นว่า วอก เพราะเกิดปีวอก แต่กรรวีมักจะเรียกพี่ชายของเธอคนนี้ว่าพี่ลิง...
ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มนั่นทำให้เขาได้เป็นนายแบบแถวหน้า และยังได้เป็นดารานักแสดงดาวรุ่งชื่อดังนั่นอีกต่างหาก...
ถึงแม้หนุมานจะไม่ชอบนั่งเก้าอี้บริหารเท่าไหร่นัก...แต่ทว่าสักวันเขาก็ต้องมาทำมันอยู่ดี
“เหมือนเดิมนั่นแหละค่ะ...พอเขาเจอหน้ากวางทีไร...เหมือนกวางเป็นสารกระตุ้นต่อมอารมณ์ของเขาทุกที ตลกดีเนอะ!”
เธอเอ่ยกับพี่ชายคนเล็กเสียงอ่อย...ก่อนปล่อยลมหายใจออกมา เมื่อนึกย้อนเวลากลับไปในอดีตที่ยาวนานจนเกือบจะเท่ากับอายุของตัวเอง
“พี่เสือ..”
“ฉันไม่มีน้องสาว!..แล้วก็ไม่อยากจะมีด้วย..ไม่ต้องมานับญาติกับฉันเลยนะ ยายเด็กขยะ!”
นั่นน่ะจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สรรพนามที่ใช้เรียกเขานำหน้า ถึงได้แตกต่างไปจากพี่ชายของเธอทั้งสองคน...
ใช่สิ…เธอมันเด็กขยะที่ทั้งสกปรกและยังน่ารังเกียจ จนไม่อยากให้เธอแม้แต่จะเฉียดเข้าใกล้
ขนาดไม่เห็นหน้าเธอมาหลายปี ความเกลียดชังที่เขามีให้ไม่ได้เจือจางลงไปเลยสักนิด
(“อย่าคิดมากน่า..แล้วก็อย่ามาทำเสียงเศร้าแบบนั้นสิ..วันนี้พี่มีถ่ายละครแล้วต้องเข้าฉากกับไอ้ลีโอ...เราเป็นติ่งมันอยู่ไม่ใช่เหรอ..อยากได้ลายเซ็นต์ไหมละ”)
หนุมานเอ่ยปลอบใจน้อง ด้วยการชวนคุยเรื่องของคนอื่น เพราะไม่อยากเห็นคนเป็นน้องสาวต้องเศร้าใจมากไปกว่านี้ เหมือนตอนที่เจ้าตัวยังเป็นเด็กแล้วชอบแอบไปนั่งร้องไห้เพียงคนเดียวตามลำพัง
หนุมานเห็นกรรวีมาตั้งแต่เธอมีอายุได้แค่เพียงสามเดือน...เด็กหญิงหน้าตาน่ารักรูปร่างอ้วนจ้ำหม่ำ ผิวพรรณขาวผ่องมีออร่าพุ่งเข้าตา ที่ดูไม่เหมือนลูกของชาวบ้านธรรมดา...
กรรวีมีดวงตากลมโตสีน้ำตาลเป็นประกายระยิบระยับ..เหมือนกับตากวาง....ลูกกวาง...ชื่อนี้เขาจึงเป็นคนตั้งให้เพราะฟังดูแล้วน่ารักและสมตัวดี
“ว้าว!.เหรอคะ!..ไม่เอาลายเซนต์ค่ะ..แต่ลูกกวางอยากไปกับพี่ลิงด้วยจังเลย”
(“ว่างหรือไงเราน่ะ...”)
“ไม่ว่างค่ะ..ลูกกวางก็พูดไปงั้น ลูกกวางว่าจะกลับไปอยู่บ้านยายกันย์ที่เพชรบุรี..แล้วเลยไปหาแม่ชีกับหลวงตาที่วัดป่าค่ะ.. ไม่อยากอยู่ให้คุณเสือเห็นหน้า เพราะกลัวว่าความดันของคุณเสือจะขึ้นเอานะสิคะ...ฮ่าๆ”
หญิงสาวหัวเราะขำ เพราะชอบแอบนินทามนต์พยัคฆ์ลับหลังกับพี่ชายคนนี้เป็นประจำ...จนทำให้กลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว
มีบ้านก็แทบไม่ได้อาศัย เพราะต้องระเห็จไปทางนั้นทีทางนี้ทีเพื่อหลบมนต์พยัคฆ์...จะกลับบ้านแต่ละครั้งก็ต้องคอยโทรถามหนุมานว่าอีกคนยังอยู่ไหม...
ช่วงสองสามปีหลังมานี่ดีหน่อยที่มนต์พยัคฆ์...พักอยู่แต่คอนโดมิเนียมนาน ๆ ทีจะกลับมาบ้านใหญ่ให้เห็นหน้ากัน หรือไม่ก็ถูกเรียกตัวจากคนเป็นมารดานั่นละเขาถึงจะรีบกลับมาหาท่านได้...
นั่นจึงทำให้กรรรวีมีโอกาสกลับมาอยู่กับมนต์สิงหาได้ทีละนานๆ
(“ปิดเทอมแล้วนี่..พี่ยังไม่ทันได้คุยอะไรกับเราเลยนะ จะกลับเพชรบุรีอีกแล้วเหรอ...ไม่ต้องไปใส่ใจกับพี่เสือมากนักหรอก..ขานั้นพี่บอกได้เลยว่าเดี๋ยวก็กลับคอนโด พี่เสือทนอยู่บ้านได้ไม่เกินสามวันหรอก...ร้อน!...”)
“กวางขอคิดดูก่อนนะคะ...ถ้าคุณเสืออยู่..กวางไม่อยากหลบ ๆ ซ่อน ๆ เกรงใจแม่สิงห์ด้วย..รอแม่สิงห์กลับมาก่อน..แล้วกวางค่อยบอกท่านอีกทีค่ะ”
(“เค..งั้นเดี๋ยวเราเจอกันนะ แม่กวักมือเรียกพี่ละ...พี่เสือน่าจะตื่นแล้วมั้ง”)
แต่ทว่าหนุมานยังไม่ทันได้วางสาย กรรวีก็ได้ยินเสียงของมารดาตะโกนผ่านเข้ามาในโทรศัพท์..พร้อมกับพูดให้เธอได้ยินด้วยว่า
“วอกบอกน้องให้ตามมาที่โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย”
“ครับแม่..”
(“ลูกกวางได้ยินแล้วใช่ไหม?”)
หนุมานตอบรับมารดา แล้วกรอกเสียงของตัวเองเข้ามาถามน้องสาวที่ยังถือโทรศัพท์ค้างไว้
“ค่ะ...กวางจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย”
เมื่อกรรวีไปถึงโรงพยาบาล ก็ได้พบกับวาสุกรีพี่ชายคนกลาง ที่กำลังยืนอยู่หน้าห้องของคนไข้วาสุกรีเพิ่งมาถึง...เขาจึงพยักหน้ารับเมื่อเห็นกรรวียกมือขึ้นไหว้ขณะที่เดินเข้ามาหา...พี่ชายคนกลางอ้าแขนออกกว้าง..พลางโอบกอดร่างบางอย่างถือวิสาสะ...และฉวยจังหวะนั้นกดจูบหน้าผากของน้องสาวด้วยความเร็วปานแสงจุ๊บ!“งื้อออ.พี่งูแกล้ง!นี่มันโรงพยาบาลนะคะ...แล้วลูกกวางก็โตเป็นสาวแล้วด้วย” กรรวีเงยหน้าขึ้นโวยวายใส่วาสุกรี ก่อนขืนตัวเอาไว้เมื่อเห็นพี่ชายก้มหน้าลงมาแล้วทำท่าจะจูบซ้ำ“พี่ทำกับน้องแบบนี้มันผิดด้วยเหรอวะ..แล้วอันไหนที่เรียกว่าโต...หัวเนี่ยเหรอ” เขาว่ายิ้มๆ...ก่อนจะคลายวงแขนออกให้ แล้วเปลี่ยนเป็นเลื่อนมือขึ้นไปวางไว้บนหัวของน้องสาว จากนั้นจึงจับโยกไปมาเบาๆ ราวกับว่ามันคือของเล่น..“พี่งูแกล้ง...ลูกกวางจะไม่มาให้เห็นหน้าอีกแล้ว”ริมฝีปากบนของหญิงสาวเชิดขึ้นเกือบถึงปลายจมูกโด่งเล็กตอนว่าออกไป ก่อนค้อนใส่พี่ชายคนกลางอย่างมีแง่งอนตอนหมุนตัวเดินหนี แต่ถูกวาสุกรีคว้าข้อมือเอาไว้ได้หมับ!“มานี่เลย..จะไปไหน...เดี๋ยวนี้พี่กอดนิดหอมหน่อยไม่ได้หรือไง..งอนพี่จริงเหรอ”“จริง!”“แล้วทำยังไงจะหายงอนพี่ละหื้ม”
มนต์สิงหาเอ่ยออกมาเสียงเรียบ เป็นเหตุให้ทุกคนในที่นี่พร้อมใจกันเงียบเสียงของตัวเองลงไป ก่อนมีสีหน้าตื่นตกใจขึ้นมาแทนที่รวมไปถึงคนแกล้งนอนหลับอยู่บนเตียงคนป่วยนี้ด้วยอีกคน….มนต์พยัคฆ์คิดคนเดียวในใจว่า...เขาโดนของอย่างงั้นเหรอ ของที่ว่านี่สมัยนี้มันยังมีอยู่จริงใช่ไหม..แล้วใครมันช่างกล้าทำใส่เขาวะ..ห่าเอ้ย!อย่าให้กูรู้นะว่าใคร...จะเหยียบให้ตายคาตีนแม่งเลย...สัด!กรรวียืนฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉย...ไม่ได้บ่งบอกความรู้สึกอะไรออกมาเลยสักนิด เธอคิดไว้แล้วว่าต้องใช่ ตอนอยู่ที่วัดใครต่อใครต่างก็มาขอให้หลวงตาของเธอแก้ให้...ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน จนถึงตอนนี้ก็ยังมีคนเล่นของแบบนี้อยู่ทั่วไป แต่แค่ไม่มีใครรู้เท่านั้นเองการทำคุณไสย์ใส่กันมันเป็นการฆ่าคนโดยใช้วิธีสกปรก ถึงแม้ไม่ผิดกฎหมายแต่ก็ผิดกฎแห่งกรรมอย่างรุนแรงสายมูตัวแม่อย่างมนต์สิงหา ย่อมรู้อยู่แก่ใจแต่ไม่เคยคิดว่า เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของเธอได้ ในเมื่อมันได้เกิดขึ้นกับคนเป็นลูกชาย คนเป็นแม่ก็ต้องหาทางแก้ไขให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปให้ได้...ส่วนคนเป็นพ่อของเจ้าพวกนี้ก็ไม่อยู่ช่วยเสียด้วยสิ ธรากรต้องไปดูงานของสาขาที่อยู่ในต
เมื่อกรรวีถูกมนต์พยัคฆ์ออกปากไล่ เธอจึงตัดสินใจเดินออกไปจากห้อง แต่กลับถูกมนต์สิงหารั้งมือของเธอไว้“ช่วยพี่เสือด้วยนะลูกกวาง..แม่ขอร้องละ”“ไม่นะแม่ผมไม่อยากให้ยายเด็กนี่ช่วยผม..โอ๊ย!แม่...ผมปวดท้อง!”มนต์พยัคฆ์เอ่ยแทรกและร้องลั่น นั่นจึงเป็นเหตุให้วาสุกรีทนไม่ไหว..เขาจึงตวาดใส่พี่ชายออกไปเสียงดัง...“หุบปาก! แกไปเลยนะไอ้เเสือ..แกไม่นึกถึงตัวเองก็ให้นึกถึงแม่บ้าง..จะตายห่าอยู่รอมร่อแล้วยังมาแอ็คอยู่ได้...”ซึ่งไม่เคยมีใครเห็นอารมณ์นี้ของวาสุกรีบ่อยนัก เพราะเขาเป็นคนที่ค่อนข้างอารมณ์เย็น...แต่คนอารมณ์เย็นแบบนี้เวลาร้ายขึ้นมาอาจจะน่ากลัวไม่น้อยไปกว่า คนที่อารมณ์ร้อนแบบคนเป็นพี่ชายก็ว่าได้แต่เป็นเพราะวาสุกรีเห็นสีหน้าของมารดา และดูก็รู้ว่าท่านเครียดมากแค่ไหน...เขาจึงทนอยู่เฉยๆ ไม่ได้“ก็ดีเหมือนกันนะพี่จงอาง...หากพี่เสือตายซะได้..เราก็จะเหลือตัวหารมรดกน้อยหน่อยไง....”หนุ่มอารมณ์ดีประจำบ้านอย่างหนุมาน ก็เอ่ยเข้าข้างพี่ชายคนกลางตามมาด้วยอีกคน...ไม่ว่าจะเรื่องคอขาดบาดตายแค่ไหน คนอย่างหนุมานก็สามารถทำให้ตลกไปได้เช่นเดียวกัน“นั่นสิ...ตายศพไม่สวยด้วยนะ ผับก็ไม่ได้เที่ยว...หญิงก็ไม่ได้เอา.
ของที่กรรวียัดเข้าปากของมนต์พยัคฆ์มันมีลักษณะคล้ายกับลูกกวาด...ซึ่งมีรสชาติเฝื่อนๆ ฝาด ๆ ติดจะเปรี้ยวนิดหน่อย ต่อเมื่อค่อยๆ กลืนมันลงไปในร่างกาย อาการที่กำลังปวดเหมือนมีใครมาบิดไส้ ก็ค่อยๆ หายไปในที่สุดราวกับปาฏิหาริย์...ไม่ใช่ฝัน!...รึเปล่าวะ?...บนโลกใบนี้ยังมีสิ่งที่ทำให้คนเราพิศวงได้อีกไหม...ถ้าไม่พิสูจน์ทุกอย่างได้ด้วยตัวเองแบบเขาเนี่ย..“มันก็แค่ชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นค่ะ...ไม่ใช่ตลอดไป”เธอเอ่ยกับชายหนุ่มเมื่อเห็นสีหน้าของเขาดูดีขึ้น..ซึ่งอีกฝ่ายก็เงียบเสียงของตัวเองลงไป เหมือนรอให้เธอพูดกับเขาต่อจากนั้น“หลับตาพักก่อนนะคะ...หากมองหน้ากวางมาก ๆ อาจทำให้คุณเสืออาการแย่ลง”มนต์พยัคฆ์สะอึก...ก่อนสะบัดหน้าหันไปอีกทางเมื่อถูกหญิงสาวจับได้ว่า เขาเอาแต่มองหน้าเธอไม่วางตา...ก็คนมันอึ้งนี่หว่า..ไม่ได้พิศวาสอะไรนักหนาหรอก...เฮอะ!“แม่คะ เราพาคุณเสือกลับบ้านกันเถอะค่ะ...ผลไม้เสกของหลวงตา คงระงับได้เพียงแค่ชั่วคราว เราต้องรีบกันแล้ว”“เดี๋ยวนะ.. ลูกกวาง...พี่สงสัยว่ะ....พี่ขอถามเราสักสามข้อได้ไหม ”หนุมานเอ่ยถามกรรวีขึ้นมา เมื่อเห็นมารดาออกจากห้องไปทำเรื่องของมนต์พยัคฆ์ เพื่อให้เจ้าต
และใช้เวลาเพียงแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น...แล้วมันก็ค่อย ๆ เปลี่ยนรูปร่าง เหมือนที่พี่ชายของเธอต้องการจะให้มันเป็น...“เฮ้ย!!”สองพี่น้องอุทานออกมาพร้อมกันเสียงหลง มองหน้ากันแบบงงๆ...วันนี้พวกเขา เฮ้ย! ไปกี่ทีแล้ววะเนี่ยวาสุกรียืนทื่อ..ก่อนยกมือขึ้นตบข้างแก้มตัวเองเพื่อให้รู้ว่าเขาไม่ได้ฝัน..เพราะว่าไอ้ที่อยู่ในอุ้งมือของน้องชายนั่นมันคือหลักฐานให้เห็นกันชัดๆ ด้วยตาเนื้อรึเปล่า!...มันใช่นะ!..ใช่ไหมวะ...เออ...สมองของเขากำลัง ERROR รวนไปแล้ว...ต้องรีเซตระบบใหม่ทั้งหมดก็คราวนี้แหละมั้ง...หนุมานอยากให้พี่ชายตบกบาลเขาบ้างแต่ไม่กล้า เพราะกลัวว่า ฝ่ามือของพี่ชายอาจทำให้สมองของเขาเตลิดออกไปแล้วหาทางกลับไม่เจอนี่นะสิ..มันจะยุ่งกันใหญ่“วันนี้ผมไม่ไปกองถ่ายแล้วนะพี่งู ผมจะอยู่กับลูกกวางให้น้องมันสอนวิชาให้ดีกว่า ผมว่านะ...อยู่กับหลวงตาน้องต้องมีอะไรดีมากกว่านี้แน่เลย พี่ว่าไหม”“จะว่าห่าอะไรละ...คิดเหมือนแกแหละ วันนี้พี่ไม่เข้าบริษัทแล้วว่ะ... ช่างแม่ง! ป่ะ เราตามลูกกวางไปดีกว่า...เดินออกจากห้องไปแล้วนั่น เดี๋ยวไม่ทัน...”สองพี่น้องเดินตามกรรวีออกไปโดยไม่สนใจอีกคน ที่ทำหน้าเหรอหราอยู่บนเตีย
“โอ๊ย!!..""เสือ!เป็นยังไงบ้างลูก!""ผมปวดท้อง...แม่!...ช่วยผมด้วยครับ”เสียงร้องโอดโอยโวยวายของผู้ชาย ที่กรรวีได้ยินมาจากด้านนอก บอกเลยว่ามันดังมากจนทะลุกำแพงห้องของเธอเข้ามาถึงด้านใน…เสียงของผู้ชายร้ายกาจคนนั้น...ซึ่งเธอก็ไม่อยากจะได้ยินมันสักเท่าไหร่เธอกำลังฝันร้ายอยู่ใช่ไหม...ลูกกวาง?“เสือ”นั่นคือชื่อของเขา...จะเป็นจะตายยังไง...เธอก็ไม่อยากจะสนใจ...ถึงแม้ไม่เห็นหน้าแต่แค่ได้ยินเสียงของเขา ก็ทำเอากรรวีรู้สึกขนลุกขนพอง......เป็นอะไรนักหนาถึงได้ร้องโวยวายลั่นบ้านขนาดนั้นกันล่ะ..ก็นะ...ปกติไม่มีอะไรก็ชอบทำเสียงใหญ่อยู่แล้วเหอะ!ผ่านมาหลายปี...ความรู้สึกเกลียดที่มีต่อเธอจะเจือจางลงบ้างหรือเปล่า...กรรวีไม่อยากประจันหน้ากับเขาเลยให้ตาย!..“วอก...บอกให้ลุงหมึกเอารถออก...รีบพาพี่เสือไปส่งโรงพยาบาลก่อนเถอะลูก”เสียงของมนต์สิงหาผู้เป็นมารดาเอ่ยกับลูกชายคนสุดท้อง ขณะกำลังประคองลูกชายคนโตออกมาจากห้อง และกำลังจะพาเขาลงบันไดไปที่ชั้นล่าง แต่ลูกชายคนโตกลับทรุดตัวลงนั่งอาเจียนอยู่ตรงนั้นซึ่งดูจากอาการที่กำลังเป็น...มันน่าจะรุนแรงจนยาสามัญประจำบ้านเอาไม่อยู่แล้วนั่นแหละ“ผมพาไปเองดีกว่าคร
และใช้เวลาเพียงแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น...แล้วมันก็ค่อย ๆ เปลี่ยนรูปร่าง เหมือนที่พี่ชายของเธอต้องการจะให้มันเป็น...“เฮ้ย!!”สองพี่น้องอุทานออกมาพร้อมกันเสียงหลง มองหน้ากันแบบงงๆ...วันนี้พวกเขา เฮ้ย! ไปกี่ทีแล้ววะเนี่ยวาสุกรียืนทื่อ..ก่อนยกมือขึ้นตบข้างแก้มตัวเองเพื่อให้รู้ว่าเขาไม่ได้ฝัน..เพราะว่าไอ้ที่อยู่ในอุ้งมือของน้องชายนั่นมันคือหลักฐานให้เห็นกันชัดๆ ด้วยตาเนื้อรึเปล่า!...มันใช่นะ!..ใช่ไหมวะ...เออ...สมองของเขากำลัง ERROR รวนไปแล้ว...ต้องรีเซตระบบใหม่ทั้งหมดก็คราวนี้แหละมั้ง...หนุมานอยากให้พี่ชายตบกบาลเขาบ้างแต่ไม่กล้า เพราะกลัวว่า ฝ่ามือของพี่ชายอาจทำให้สมองของเขาเตลิดออกไปแล้วหาทางกลับไม่เจอนี่นะสิ..มันจะยุ่งกันใหญ่“วันนี้ผมไม่ไปกองถ่ายแล้วนะพี่งู ผมจะอยู่กับลูกกวางให้น้องมันสอนวิชาให้ดีกว่า ผมว่านะ...อยู่กับหลวงตาน้องต้องมีอะไรดีมากกว่านี้แน่เลย พี่ว่าไหม”“จะว่าห่าอะไรละ...คิดเหมือนแกแหละ วันนี้พี่ไม่เข้าบริษัทแล้วว่ะ... ช่างแม่ง! ป่ะ เราตามลูกกวางไปดีกว่า...เดินออกจากห้องไปแล้วนั่น เดี๋ยวไม่ทัน...”สองพี่น้องเดินตามกรรวีออกไปโดยไม่สนใจอีกคน ที่ทำหน้าเหรอหราอยู่บนเตีย
ของที่กรรวียัดเข้าปากของมนต์พยัคฆ์มันมีลักษณะคล้ายกับลูกกวาด...ซึ่งมีรสชาติเฝื่อนๆ ฝาด ๆ ติดจะเปรี้ยวนิดหน่อย ต่อเมื่อค่อยๆ กลืนมันลงไปในร่างกาย อาการที่กำลังปวดเหมือนมีใครมาบิดไส้ ก็ค่อยๆ หายไปในที่สุดราวกับปาฏิหาริย์...ไม่ใช่ฝัน!...รึเปล่าวะ?...บนโลกใบนี้ยังมีสิ่งที่ทำให้คนเราพิศวงได้อีกไหม...ถ้าไม่พิสูจน์ทุกอย่างได้ด้วยตัวเองแบบเขาเนี่ย..“มันก็แค่ชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นค่ะ...ไม่ใช่ตลอดไป”เธอเอ่ยกับชายหนุ่มเมื่อเห็นสีหน้าของเขาดูดีขึ้น..ซึ่งอีกฝ่ายก็เงียบเสียงของตัวเองลงไป เหมือนรอให้เธอพูดกับเขาต่อจากนั้น“หลับตาพักก่อนนะคะ...หากมองหน้ากวางมาก ๆ อาจทำให้คุณเสืออาการแย่ลง”มนต์พยัคฆ์สะอึก...ก่อนสะบัดหน้าหันไปอีกทางเมื่อถูกหญิงสาวจับได้ว่า เขาเอาแต่มองหน้าเธอไม่วางตา...ก็คนมันอึ้งนี่หว่า..ไม่ได้พิศวาสอะไรนักหนาหรอก...เฮอะ!“แม่คะ เราพาคุณเสือกลับบ้านกันเถอะค่ะ...ผลไม้เสกของหลวงตา คงระงับได้เพียงแค่ชั่วคราว เราต้องรีบกันแล้ว”“เดี๋ยวนะ.. ลูกกวาง...พี่สงสัยว่ะ....พี่ขอถามเราสักสามข้อได้ไหม ”หนุมานเอ่ยถามกรรวีขึ้นมา เมื่อเห็นมารดาออกจากห้องไปทำเรื่องของมนต์พยัคฆ์ เพื่อให้เจ้าต
เมื่อกรรวีถูกมนต์พยัคฆ์ออกปากไล่ เธอจึงตัดสินใจเดินออกไปจากห้อง แต่กลับถูกมนต์สิงหารั้งมือของเธอไว้“ช่วยพี่เสือด้วยนะลูกกวาง..แม่ขอร้องละ”“ไม่นะแม่ผมไม่อยากให้ยายเด็กนี่ช่วยผม..โอ๊ย!แม่...ผมปวดท้อง!”มนต์พยัคฆ์เอ่ยแทรกและร้องลั่น นั่นจึงเป็นเหตุให้วาสุกรีทนไม่ไหว..เขาจึงตวาดใส่พี่ชายออกไปเสียงดัง...“หุบปาก! แกไปเลยนะไอ้เเสือ..แกไม่นึกถึงตัวเองก็ให้นึกถึงแม่บ้าง..จะตายห่าอยู่รอมร่อแล้วยังมาแอ็คอยู่ได้...”ซึ่งไม่เคยมีใครเห็นอารมณ์นี้ของวาสุกรีบ่อยนัก เพราะเขาเป็นคนที่ค่อนข้างอารมณ์เย็น...แต่คนอารมณ์เย็นแบบนี้เวลาร้ายขึ้นมาอาจจะน่ากลัวไม่น้อยไปกว่า คนที่อารมณ์ร้อนแบบคนเป็นพี่ชายก็ว่าได้แต่เป็นเพราะวาสุกรีเห็นสีหน้าของมารดา และดูก็รู้ว่าท่านเครียดมากแค่ไหน...เขาจึงทนอยู่เฉยๆ ไม่ได้“ก็ดีเหมือนกันนะพี่จงอาง...หากพี่เสือตายซะได้..เราก็จะเหลือตัวหารมรดกน้อยหน่อยไง....”หนุ่มอารมณ์ดีประจำบ้านอย่างหนุมาน ก็เอ่ยเข้าข้างพี่ชายคนกลางตามมาด้วยอีกคน...ไม่ว่าจะเรื่องคอขาดบาดตายแค่ไหน คนอย่างหนุมานก็สามารถทำให้ตลกไปได้เช่นเดียวกัน“นั่นสิ...ตายศพไม่สวยด้วยนะ ผับก็ไม่ได้เที่ยว...หญิงก็ไม่ได้เอา.
มนต์สิงหาเอ่ยออกมาเสียงเรียบ เป็นเหตุให้ทุกคนในที่นี่พร้อมใจกันเงียบเสียงของตัวเองลงไป ก่อนมีสีหน้าตื่นตกใจขึ้นมาแทนที่รวมไปถึงคนแกล้งนอนหลับอยู่บนเตียงคนป่วยนี้ด้วยอีกคน….มนต์พยัคฆ์คิดคนเดียวในใจว่า...เขาโดนของอย่างงั้นเหรอ ของที่ว่านี่สมัยนี้มันยังมีอยู่จริงใช่ไหม..แล้วใครมันช่างกล้าทำใส่เขาวะ..ห่าเอ้ย!อย่าให้กูรู้นะว่าใคร...จะเหยียบให้ตายคาตีนแม่งเลย...สัด!กรรวียืนฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉย...ไม่ได้บ่งบอกความรู้สึกอะไรออกมาเลยสักนิด เธอคิดไว้แล้วว่าต้องใช่ ตอนอยู่ที่วัดใครต่อใครต่างก็มาขอให้หลวงตาของเธอแก้ให้...ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน จนถึงตอนนี้ก็ยังมีคนเล่นของแบบนี้อยู่ทั่วไป แต่แค่ไม่มีใครรู้เท่านั้นเองการทำคุณไสย์ใส่กันมันเป็นการฆ่าคนโดยใช้วิธีสกปรก ถึงแม้ไม่ผิดกฎหมายแต่ก็ผิดกฎแห่งกรรมอย่างรุนแรงสายมูตัวแม่อย่างมนต์สิงหา ย่อมรู้อยู่แก่ใจแต่ไม่เคยคิดว่า เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของเธอได้ ในเมื่อมันได้เกิดขึ้นกับคนเป็นลูกชาย คนเป็นแม่ก็ต้องหาทางแก้ไขให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปให้ได้...ส่วนคนเป็นพ่อของเจ้าพวกนี้ก็ไม่อยู่ช่วยเสียด้วยสิ ธรากรต้องไปดูงานของสาขาที่อยู่ในต
เมื่อกรรวีไปถึงโรงพยาบาล ก็ได้พบกับวาสุกรีพี่ชายคนกลาง ที่กำลังยืนอยู่หน้าห้องของคนไข้วาสุกรีเพิ่งมาถึง...เขาจึงพยักหน้ารับเมื่อเห็นกรรวียกมือขึ้นไหว้ขณะที่เดินเข้ามาหา...พี่ชายคนกลางอ้าแขนออกกว้าง..พลางโอบกอดร่างบางอย่างถือวิสาสะ...และฉวยจังหวะนั้นกดจูบหน้าผากของน้องสาวด้วยความเร็วปานแสงจุ๊บ!“งื้อออ.พี่งูแกล้ง!นี่มันโรงพยาบาลนะคะ...แล้วลูกกวางก็โตเป็นสาวแล้วด้วย” กรรวีเงยหน้าขึ้นโวยวายใส่วาสุกรี ก่อนขืนตัวเอาไว้เมื่อเห็นพี่ชายก้มหน้าลงมาแล้วทำท่าจะจูบซ้ำ“พี่ทำกับน้องแบบนี้มันผิดด้วยเหรอวะ..แล้วอันไหนที่เรียกว่าโต...หัวเนี่ยเหรอ” เขาว่ายิ้มๆ...ก่อนจะคลายวงแขนออกให้ แล้วเปลี่ยนเป็นเลื่อนมือขึ้นไปวางไว้บนหัวของน้องสาว จากนั้นจึงจับโยกไปมาเบาๆ ราวกับว่ามันคือของเล่น..“พี่งูแกล้ง...ลูกกวางจะไม่มาให้เห็นหน้าอีกแล้ว”ริมฝีปากบนของหญิงสาวเชิดขึ้นเกือบถึงปลายจมูกโด่งเล็กตอนว่าออกไป ก่อนค้อนใส่พี่ชายคนกลางอย่างมีแง่งอนตอนหมุนตัวเดินหนี แต่ถูกวาสุกรีคว้าข้อมือเอาไว้ได้หมับ!“มานี่เลย..จะไปไหน...เดี๋ยวนี้พี่กอดนิดหอมหน่อยไม่ได้หรือไง..งอนพี่จริงเหรอ”“จริง!”“แล้วทำยังไงจะหายงอนพี่ละหื้ม”
กรรวีมองสบตากับมนต์สิงหาด้วยความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน...คนเป็นมารดาถึงกับหน้าถอดสี...ก่อนปรับสีหน้าให้ดูเป็นปกติทันทีเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ที่กำลังวิ่งก้าวขึ้นบันไดของลูกชายคนสุดท้อง... จากนั้นจึงช่วยกันพยุงร่างของลูกชายคนโตขึ้นรถ...แล้วรีบนำเขาส่งโรงพยาบาล ด้วยเกรงว่าจะไม่ทันการเพราะเวลานี้เจ้าตัวไม่มีแรงแม้จะทรงตัวยืนเองได้เลยกรรวียืนมองท้ายรถที่กำลังแล่นออกไปอย่างรู้สึกเป็นกังวล...เมื่อมองเห็นลมที่กำลังพัดผ่านบริเวณหน้าบ้านเริ่มกรรโชกหนัก...หลังจากนั้นสักพักก็พัดเอาเมฆฝนดำทะมึนลอยมาราวกับสั่งได้...และเธอค่อนข้างมั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับมนต์พยัคฆ์นั้น...มันไม่ธรรมดาเลยจริงๆ...“พี่ลิงคะ..หมอบอกว่าอาการของคุณเสือเป็นอย่างไรบ้างคะ?”กรรวีโทรถามอาการของมนต์พยัคฆ์เอากับหนุมาน...เมื่อเวลาผ่านไปนานถึงสองชั่วโมง แต่ยังไม่มีใครส่งข่าวสารมาให้เธอได้รู้บ้างเลย….ความจริงแล้วกรรวีก็ใช่ว่าจะสนใจ แต่ที่ถามไปนั่นมันก็แค่ตามมารยาทเท่านั้น..เพราะทุกคนในครอบครัวของเขา ต่างก็มีบุญคุณกับหญิงสาวมากมาย...และเธอเองก็ไม่ต้องการทำให้ทุกคนต้องมาทนลำบากใจ(“หมอเอ็กซ์เรย์ดูภายในแล้วบอกว่าไม่มีอ
“โอ๊ย!!..""เสือ!เป็นยังไงบ้างลูก!""ผมปวดท้อง...แม่!...ช่วยผมด้วยครับ”เสียงร้องโอดโอยโวยวายของผู้ชาย ที่กรรวีได้ยินมาจากด้านนอก บอกเลยว่ามันดังมากจนทะลุกำแพงห้องของเธอเข้ามาถึงด้านใน…เสียงของผู้ชายร้ายกาจคนนั้น...ซึ่งเธอก็ไม่อยากจะได้ยินมันสักเท่าไหร่เธอกำลังฝันร้ายอยู่ใช่ไหม...ลูกกวาง?“เสือ”นั่นคือชื่อของเขา...จะเป็นจะตายยังไง...เธอก็ไม่อยากจะสนใจ...ถึงแม้ไม่เห็นหน้าแต่แค่ได้ยินเสียงของเขา ก็ทำเอากรรวีรู้สึกขนลุกขนพอง......เป็นอะไรนักหนาถึงได้ร้องโวยวายลั่นบ้านขนาดนั้นกันล่ะ..ก็นะ...ปกติไม่มีอะไรก็ชอบทำเสียงใหญ่อยู่แล้วเหอะ!ผ่านมาหลายปี...ความรู้สึกเกลียดที่มีต่อเธอจะเจือจางลงบ้างหรือเปล่า...กรรวีไม่อยากประจันหน้ากับเขาเลยให้ตาย!..“วอก...บอกให้ลุงหมึกเอารถออก...รีบพาพี่เสือไปส่งโรงพยาบาลก่อนเถอะลูก”เสียงของมนต์สิงหาผู้เป็นมารดาเอ่ยกับลูกชายคนสุดท้อง ขณะกำลังประคองลูกชายคนโตออกมาจากห้อง และกำลังจะพาเขาลงบันไดไปที่ชั้นล่าง แต่ลูกชายคนโตกลับทรุดตัวลงนั่งอาเจียนอยู่ตรงนั้นซึ่งดูจากอาการที่กำลังเป็น...มันน่าจะรุนแรงจนยาสามัญประจำบ้านเอาไม่อยู่แล้วนั่นแหละ“ผมพาไปเองดีกว่าคร